คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Theres nothing more dangerous than a boy with charm .
There’s nothing more dangerous
than a boy with charm
3:30 PM _______________
กริ๊งงงงงงงงงงงงง ~
เสียงกริ่งดังขึ้นตามเวลาเลิกเรียน หนังจากนั่งเรียนแบบหลับๆตื่นๆมาตลอดทั้งวัน นักเรียนซกโพทั้งหลายพากันลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย หลายคนเก็บข้าวของกลับบ้าน ส่วนพวกที่ต้องอยู่ทำเวรก็ทำหน้าหน่ายๆขณะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำความสะอาดจาดตู้เก็บของหลังห้อง
“เลิกนั่งเก๊กได้แล้วนายแอลช่วยย้ายก้นของนายขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเอานี่ไป” มยองซูรับไม้กวาดจากคนตัวขาวมาอย่างงงๆ
“ให้ผมทำอะไรเนี่ย”
“โอ้ คุณชาย ที่ยองกวังนายไม่รู้จักการทำเวรประจำวันรึไง”
“ปกติที่ยองกวังจะมีภารโรงมาทำความสะอาดให้ทุกวันนะ”
“งั้นไปเช็ดกระดานก็ได้ เอ๊า” ซองยอลเบ้ปากกับความน่าหมั่นไส้ของอีกฝ่าย ก่อนจะดึงไม้กวาดมาถือไว้ซะเองแล้วยื่นถังน้ำกับผ้าขี้ริ้วไปให้ แต่ดูเหมือนคนรับจะไม่ได้รู้เรื่องอยู่ดีนั้นแหละว่าสิ่งของในมือตัวเองมันใช้ทำอะไร
“เอ่อ...กระดานที่นี่ไม่ได้กดปุ่มแล้วลบเองอัตโนมัติแบบยองกวังหรอ”
“ว้อยยยยยย โรงเรียนนายนี่สบายฉิบเป๋งเลยโน๊ะ สอนให้นักเรียนเป็นราชารึไง”
ไม่เข้าใจว่าโรงเรียนชายล้วนยองกวังมันใช้หลักสูตรในราชสำนักไหนสั่งสอนนักเรียนของตัวเอง ทำไมมันถึงออกมาได้เหลาะแหละมากขนาดนี้ ....มีดีแต่หน้าตา ฐานะ ระดับสติปัญญา เสน่ห์รายกาจ และคารมชวนเคลิ้มที่ไม่ว่าจะพูดอะไรชาวบ้านชาวช่องก็คล้อยตามได้หมด
โอเค๊ เด็กยองกวังนี่มันหาข้อเสียยากจริงๆ ทำไมพ่อแม่ไม่ส่งลูกชายสุดที่รักของตัวเองให้ไปเรียนโรงเรียนแบบนั้นบ้างนะ ...แต่จะมั่วน้อยใจในชะตาชีวิตตัวเองมันก็ใช่เรื่อง เวลานี้ลีซองยอลมีภารกิจใหญ่ระดับชาติรออยู่ตรงหน้า ...การสอนเจ้าชายกรุงโซลให้รู้จักการทำเวรประจำวันอย่างนักเรียนมัธยมธรรมดาๆนี่ไง พับผ่าาาาาา -________-;
“นายก็เช็ดๆมันไปเถอะ เนี่ย เอาผ้าชุบน้ำ ถูๆบนกระดาน ส่ายก้นไปมา แป๊ปเดียวก็เสร็จ”
ว่าแล้วคนชอบคำสั่งก็จับมือมยองซูขึ้นมายัดผ้าขี้ริ้วใส่ ก่อนจะเอาผ้าสีช้ำเลือดช้ำหนองวางลงบนกระดาษดำ แล้วจับมือนั้นเลื่อนไปมา ...มันเป็นขั้นตอนการทำความสะอาดห้องเรียนที่ง่ายที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่ามันยากเกินกว่าที่สมองของเด็กยองกวังรับได้รึยังไง ?
...แล้วทำไมไอ้เด็กนี่ต้องหันมาจ้องหน้าด้วยสายตาแบบนั้นด้วย....
เพียงแค่ใช้ดวงตาสีดำขลับ จ้องขึ้นมายังใบหน้าของคนที่กำลังจับมือตนอยู่ พร้อมยกยิ้มเล็กน้อย ...ลีซองยอลก็โดนท่าบริหารเสน่ห์ที่อันตรายที่สุดของคิมมยองซูจัดการซะอยู่หมัดแล้ว
ขนาดดูไกลๆยังว่าหล่อ ยิ่งมาเจอในระยะนี้ ใบหน้านั้นมันเรียกว่าไร้ที่ติเลยจะดีกว่า ดวงตาคู่นั้นยิ่งจ้องยิ่งทำให้ใจเต้นตุ้บตับ ขนาดเป็นผู้ชายผู้ชายทั้งแท่ง ยังมีแว๊บนึงที่คิดอยากจะเป็นยอมตกเป็นทาสรักของมันขึ้นมาเลย
ยอลลี่เอ๋ย ทำใจดีๆเข้าไว้ ทาสร้งทางรักอะไร๊
ให้ตายสิ่ ! พระเจ้าคงจะอารมณ์ดีมากสินะตอนสรรค์สร้างหมอนี่ขึ้นมา อะไรๆมันก็ต้องดูดีเกินมนุษย์มนาไปหมดเลยรึไง !?
“อร๊ายยยยย ไอ้เหงือกยอล ทำไมนายทำแบบนั้นย๊ะ”
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเรียกคนตัวสูงให้หยุดจากภวังค์ พอมองกลับไปด้านหลัง ยัยพวกชะนีที่ถือกล้องค้างอยู่กำลังทำหน้าเหมือนจะบุกมาเชือดคอเขาให้ได้ ส่วนพวกเพื่อนนักเรียนชายก็ยืนหัวเราะกันสนุกสนานแถมส่งเสียงแซวมาไม่หยุด
“โว้ยยยย ซองยอล โดนจ้องนิดจ้องหน่อย ถ้าแดงเป็นตูดลิงบาบูนเลยน้า”
“ฮิ้วววว ยอลลี่จะโดนแอลคิมเขมือบแล้วจ้า ~”
โว๊ะ ไอ้เพื่อนปากเปราะ ผีเจาะปากมาเกิดจริงๆนะพวกแกอ่ะ ถ้าตอนนี้นัมอูมันยังอยู่ มันคงยังพอมีคนใจกล้าพอไปเดินตบหัวพวกมันเรียงตัว แต่หัวเดียวกระเทียมลีบแบบนี้ซองยอลไม่กล้าอ่ะบอกตรงๆ TT__TT โฮฮฮฮฮฮ ใครก็ได้เอานัมอูพระเอกในดวงใจของยอลลี่มาทีเถ๊อะ
“ปล่อยเดะ”
“พี่จับมือผมไว้เองอ่ะ” มยองซูตอบกลับก่อนหลิวตาไปยังมือของตัวเองที่โดดคนตัวสูงจับอยู่ เห็นแบบนั้นมือขาวก็รีบผละออกอยากรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อต แต่ยังไม่วาย ไอ้ฝูงเพื่อนปากดีนี่แซวอยู่นั่นแหละ
“น่านไง เด็กประถมเราไม่ธรรมดานะเว้ย เดี๋ยวนี้มีองมีอ่อยน้า”
“โว้ยยยยย กูอยากตายยยยยยยยยยยยย TT[]TT !!!!!!!!!!” คนถูกแซวยกมือขึ้นขยุ้มผมตัวเองก่อนจะเหวี่ยงหัวไปมาอย่างบ้าคลั่ง ขนาดโฮวอนที่ยืนกวาดพื้นอยู่เงียบๆมานานยังต้องหันหน้ามามองทางท่าทางราวคนเสียสติของเพื่อนร่วมห้อง
“แล้ววันนี้มันยังไง ทำไมพวกเธอมายืนยั้วเยี้ยกันเต็มห้องเลยห้ะ เกะกะกันจริงๆ” ซองยอลหันไปขึ้นเสียงกับกลุ่มสาวๆที่ปกติเห็นปกติออกไปจากห้องทันทีที่สิ้นเสียงออด ทีมีเด็กใหม่ทั้งหล่อทั้งรวย พวกหล่อนกลับมายืนเสนอหน้ากันซะครบองค์ประชุม
“แหมมม วันนี้ก็เวรพวกเราไง”
“หร๋าาาาาา” เจ้าตัวพูดด้วยเสียงยียวน และหน้าตากวนประสาท ที่ได้เห็นได้ฟังแล้วรู้สึกอยากหยิบรองเท้าขึ้นมาตบปากอิ่มเอิบนั้นสักทีสองที
“แล้วเธอล่ะ ยัยพิลซุก เมื่อไหร่เธอจะเอาแปลงลบกระดานไปตบหะ อยากให้ฉันเอามันตบหน้าเธอก่อนรึไง”
หลังจากหาเรื่องสาวไปหมาดๆ ซองยอลก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยังสาวร่างท่วมที่กำลังเพลิดเพลินกับการทำความสะอาดรางชอร์ค ที่ไม่รู้ว่าตั้งใจขัดให้ขึ้นเลขเลยรึไง ...ชิ หล่อนทำงานนั้นเพราะได้อยู่ใกล้ไอ้หน้านิ่งนั่นล่ะเซ่ !! ไอ้หมอนั่นก็อีกคน กระดานดำสูงเมตรนิดๆ กว้างสองเมตรหน่อยๆ มันจะเช็ดนานไปถึงไหน ไม่ใช่สนามบอลนะพ่อคุณ
“ขอโทษนะ แต่ฉันไม่ได้ชื่อพิลซุก ตั้งแต่นี้ไป โปรดเรียกฉันว่า สโนว์ไวท์” พิลซุกตอบเสียงแหลมก่อนหันกลับไปทำตาหยาดเยิ้มใส่มยองซูอย่างเดิม
“นี่ อากาศมันร้อนขนาดทำสมองเธอวิกลจริตไปแล้วรึไงหา”
“นายยังไม่รู้อะไรซองยอล ผู้หญิงที่ซกโพเค้ามีชื่อเป็นเจ้าหญิงกันหมดแล้วนะย้ะ”
“เพื่ออะไรวะ”
“ก็แอลคือเจ้าชาย พวกเราก็ต้องเป็นเจ้าหญิงไง ว๊ายย >[]<”
เสียงแหลมปี๊ดของใครสักคนตอบกลับมา ก่อนตบท้ายด้วยเสียงกรี๊ดเกรียวกราว คำตอบนั้นทำเอามือไม้ของนักเรียนชายอ่อนยวบยาบ พากันโยนอุปกรณ์ทำความสะอาดลงพื้นกันเป็นแถว พวกเขาพอจะรู้อยู่หรอกว่าผู้หญิงซกโพที่ไม่เคยเจอผู้ชายดีๆเลยมันน่ากลัวขนาดไหน แต่นี่มันมากกว่าที่ทุกคนคิดไว้อีกนะเนี่ย
อ๊ากกกกกกกกกกก !!!! ลีซองยอลอยากจะร้องกรี๊ดเป็นภาษาฮิบรู ไอ้มยองซูอะไรนั่นมันเป็นใครมาจากไหนกันห้ะ พ่อมด หมอผี ปีศาจ ซาตาน หรือเหี้ยอะไรวะ ทำไมสาวๆติดงอมแงมเหมือนยาเสพติดขนาดนั้น หรือมันโรยผงกัญชามาโรงเรียนทุกเช้ารึไง ใครสูดเข้าไปก็ติดเลย ?
“แอล พวกเราอยากรู้จังว่าเธอชอบเทพนิยายเรื่องอะไรมากที่สุด” ยัยสองแกละส่งเสียงถาม มยองซูที่เช็ดกระดานเสร็จแล้วว่างผ้าลงในถังน้ำอย่างเดิม ก่อนเดินมานั่งบนโต๊ะนักเรียนของใครสักคน พร้อมทำหน้าครุ่นคิด
“เอ่อ....”
“ผมชอบโรมิโอกับจูเลียตนะ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
“ว้าว โรแมนติกจังเลยเนอะ”
“ใครๆก็รู้ว่าโรมิโอกับจูเลียจไม่ใช่เทพนิยาย เสร่อตอบไปได้ โง่จริง” ซองยอลเอ่ยปากกับตัวเองเบาๆ ขณะก้มหน้าก้มตาขัดพื้นห้องเรียน โดยไม่ได้รู้หรอกว่าสายตาของเจ้าของประโยคเมื่อคู่หันมาจ้องเขม็ง
“เออใช่... ที่แอลพูดเมื่อเช้าว่ารักแรกของแอลอยูที่นี่ มันหมายความว่ายังไงหรอ เป็นใครกันอ่ะ พอจะบอกได้มั้ย พวกเราเครียดกันมากเลยนะ ก็แค่รักแรกใช่มั้ย ตอนนี้แอลยังไม่มีใครใช่มั้ย สาวๆในซกโพยังมีสิทธิใช่มั๊ยจ้ะ *0*” ยัยสองแกละคนเดิมถามขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนไปจากปกติที่มักจะทำตัวเงียบๆหงิมๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา ที่เจอเจ้าชายหน้าหล่อระเบิดทุ่งนี้หน่อยละพูดไม่หยุดยังกะท่อประปาแตก ...ที่ว่าความหลงมันเปลี่ยนคนได้คงเป็นแบบนี้นี่เอง
หลังจากโดนรัวคำถามเข้าสุดใหญ่ แถมด้วยสายตาเกือบยี่สิบคู่ที่จ้องมาทางเขาคนเดียวพร้อมกับหมด ทำเอามยองซูต้องถอยตัวหนีจนแทบจะตกโต๊ะ
“จะอยากรู้ไปทำไม เรื่องของคนอื่นเนี่ย”
“หุบเหงือกบานๆของนายไปเลยนะจ๊ะยอลลี่ ...เดี๋ยวแม่ตีเข่าให้!”
“โฮย่าาาาาา ยัยพวกดอกไม้พาสติกมันด่าเค้าอีกแล้วอ่า TOT” ซองยอลหันไปตีหน้าบ้องแบ้วใส่เพื่อนหน้าเข้มที่กำลังเก็บข้าวของอยู่ พร้อมกับยกแขนยาวๆไปกอดรัดร่างบึกบึน ...ไอ้ตัวคนกอดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่คนถูกกอดทำไมถึงรู้สึกเหมือนโดนสายตาจากไหนไม่รู้จ้องมาจนขนลุกซู่เลยล่ะ
พอไล่สายตาพ้นหัวเด็กประถมไปก็เจอดวงตาเรียวจากมยองซูจ้องเขม็งมา ไม่เหมือนดวงตาสีดำดูไร้เดียงสายามปกติ แต่เป็นดวงตาแข็งกร้าวที่ดูน่ากลัวแม้อยู่ไกลขนาดนี้ยังรู้สึกได้ ...โอ้ เด็กนั่นมันอาฆาตพยาบาทโฮย่ามาตั้งแต่ชาติปางไหนวะห้ะ =[]=!
ถ้าสายตาของมยองซูมันมีคำพูดออกมาได้ คงพูดว่า ‘ซองยอลของผม...อย่าสะเออะ’ ประมาณนี้แหงๆ จริงนะๆ! นัยน์ตาดำขลับของมยองซูมองมาทางเขาแบบนั้นจริงๆ !! ถึงจะไม่รู้ว่าสถานะของมยองซูกับซองยอลมันเป็นยังไงมายังไง แต่ที่แน่ๆ เรื่องแบบนี้โฮวอนขอไม่เข้าไปเอี่ยวด้วยหรอก
“ปล่อยสิโว้ยย” ร่างหนาแงะมือขาวออกจากตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบข้าวของแล้วก้าวเท้าออกจากห้องเรียน แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นธรณีประตู มือคู่เดิมก็กระชากเขาไว้อีกครั้ง
“จะไปไหนอ่ะ”
“ซ้อมบอล”
“ไปด้วยดิ่ *0*”
“เอ่อะ...”
ยังไม่ทันมีเสียงใดออกจากปาก โฮวอนรู้สึกได้อีกครั้งว่าสายตาคู่เดิมส่งข้อความมาหา
‘ลองตอบตกลงดูสิ...’
ใครมันจะบ้าไปอยากลองกับมันวะ เด็กยองกวังเห็นหน้าตาผู้ดี๊ผู้ดี ดูบอบบางกันเหลือเกิน แต่เอาเข้าจริง หมัดหนักยังกะหมีควาย ...ทำไมถึงรู้น่ะหรอ ก็มีใครบางคนที่เขาไม่ชอบหน้านักหนาเป็นเด็กยองกวังมาก่อนเหมือนกันไง
“อย่าเลย อยู่นี่แหละ ต้องดูแลมยองซูไม่ใช่หรอ ไปล่ะนะ เดี๋ยวโค้ชรอนาน ลาก่อน” โฮวอนพูดรัวเร็ว ก่อนจะโบกมือลาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เอาจริง ตอนนี้แทบไม่เหลือใครในห้องแล้ว นอกจากตัวซองยอล มยองซูพร้อมกลุ่มสาวๆที่ยืนล้อม กับเพื่อนอีกคนสองคนเท่านั้น ไม่รู้ว่าคนที่เหลืออยู่ๆก็หายไปไหนกันหมด
“แอล! แอล... เธอจ้องอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วเนี่ย”
ยัยผมแกละเขย่าแขนเรียกให้มยองซูหันกลับมามองพวกเธออีกครั้ง เวลานี้สาวๆทั้งหลายเริ่มสังเกตแล้วว่าดวงตาคู่นั้นเหมือนมีประกายที่แปลกออกไป ....แต่ใครสนล่ะ ? ไม่ว่าจะแบบไหนมยองซูก็หล่อชนะทุกความรู้สึกอยู่ดี
“รักแรกของผม เขาเป็นคนที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็ก แต่น่าเสียดายที่ผมปล่อยให้เค้าหลุดลอยไปตั้งสิบกว่าปี ...ตอนนี้ผมก็กลับหาเขา เพื่อทำให้เขาเป็นของผม ไม่ว่าใครจะรักเขาหรือเขาจะรักใคร ผมไม่สนใจหรอก”
“.....”
คำตอบนั้นทำเอาบรรยากาศในห้องเงียบกริบ เจ้าของคำตอบเหลือบสายตาไปมองคนที่กล่าวถึงอยู่กรายๆอย่างซองยอลที่ทำเป็นยืนคุยกับเพื่อนที่เหลืออยู่ ...แค่นั้น ก็เล่นเอาคนถูกจ้องหันขวับ มาเจอกับดวงตาสีดำที่กำลังส่งกระแสอะไรบางอย่างมาให้ เป็นกระแสความรู้สึกที่อยู่ดีๆก็ทำเอาใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ แถมด้วยเหงื่อที่ไม่รู้ผุดพรายขึ้นจากไหนนักหนา
ดูเหมือนจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ มยองซูจึงหันกลับไปตีหน้าซื่อคุยกับสาวอีกครั้ง
“ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมพูดอะไรแปลกๆออกไปรึเปล่า”
“มัน... มันเป็นคำพูดที่เร่าร้อนมาก โอ้วพระเจ้า แค่ฟังพวกเราก็รู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของแอลเลย ว้ายยยยยย”
สาวๆทั้งหลายพอกันส่งเสียงวี๊ดว้ายอีกครั้ง พวกเธอดูจะติดใจคิมมยองซูคนนี้เข้าจนถอนตัวไม่ขึ้นซะแล้ว ไม่ว่าจะอินโนเซ้นท์แอล หรือจะแบบแอลเช้นจ์เดอะเวิลด์แบบเมื่อครู่ ที่มีอิมเมจเหมือนกับพระเอกโหดๆในนิยายรักมาเฟียที่พวกเธอชอบแอบอ่านในชั่วโมงเรียน
“หูยยยย ไอ้เจ้าชายนั่นทำกูขนลุกเกรียวกราวเลยว่ะ” เพื่อนผู้ชายที่เหลืออยู่สองคนในห้องหันไปคุยกับพลางยกมือขึ้นลูกแขนตัวเองขึ้นๆลงๆ
...ยังดีโน๊ะ พวกนายก็แค่ขึ้นลุกซู่ซ่า แต่ยอลลี่นี่รู้สึกได้เลยว่าไม่ช้านี้ ถ้าไม่ใช่ต้องเสียตัวให้มัน ก็มันนี่แหละจะเข้ามาปล้ำ แค่มองมายังรู้สึกเหมือนโดนกระทำชำเรา(?)ขนาดนี้เลย …นายมันเป็นเจ้าชาย ไม่ใช่ นายมันปีศาจ !! ...เป็นปีศาจชั่วร้ายที่มีความสามารถในการใช้สายตาข่มขวัญคนอื่นน่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกเลย TTOTT !
อัพตอนใหม่ตอนรับวันเกิดสุดหล่อคอเหี่ยว อิอิ (ได้ข่าวว่าพรุ่งนี้)
นับวันพ่อโรมิโอเรานี่ชักจะมืดมนขึ้นไปทุกที =___=;;;
ความคิดเห็น