ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alpha Romeo ★ ( infinite )

    ลำดับตอนที่ #6 : Hey! I just met you, and this is crazy .

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 56





    Hey! I just met you, and this is crazy...

                 



                “แล้วครูใหญ่เรียกผมมา มีอะไรรึเปล่าครับ

                อ่อ พอดีมยองซูเค้าบอกมา ว่าได้ให้เธอช่วยดูแลเค้าตลอดปีการศึกษานี้น่ะ

                ห้ะ ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าหวานหันขวับไปมองคนต้นเรื่องโดยอัตโนมัติ ตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจริงๆว่าไอ้เด็กนั่นมันจะรีเควสให้เขามาดูแลมันน่ะ ...ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลยเนี่ยนะ แล้วมันไปเอาชื่อเขามาจากไหนเนี่ย

     

                ตลกล่ะ

                หืม?”

                คือ...ผมว่าผมทำไม่ได้หรอกครับ ชีวิตผมยังเอาตัวเองแทบไม่รอดเลยเนี่ย ครูใหญ่ก็รู้

                “ว่าไงละมยองซู ครูก็ไม่ไว้ใจซองยอลเท่าไหร่เหมือนกัน แถมโรงเรียนเราก็มีนักเรียนดีๆอีกตั้งเยอะนะ

                ได้ยินแบบนั้นครูใหญ่ก็อดหนักใจขึ้นมาไม่ได้ จริงอย่างที่เจ้าตัวว่านั่นแหละไอ้เรื่องที่เอาชีวิตตัวเองแทบไม่รอด ใครๆก็รู้ว่าในโรงเรียนเอกชนซกโพ ลียองซอลไม่ใช่เด็กธรรมดาๆมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยพฤติกรรมสุดห้าวหาญขัดกับใบหน้าหวานนั่นซะเหลือเกิน

     

                จริงๆแล้วผมว่าการที่จะหาใครสักคนมาดูแลผม ควรเลือกคนที่ไม่ได้โดดเด่นแบบนี้แหละครับดีแล้ว เพราะถ้าเลือกคนเด่นๆมา ภาพลักษณ์ของเราสองคนอาจจะพลอยเสียไปด้วย ส่วนถ้าเลือกพวกเนิร์ดๆมา นักเรียนหญิงซกโพต้องรุมทึ้งหมอนั่นตายแน่ๆ...

     

                เห้ย มันคิดได้ไงเนี่ย =[]=!

                คนตัวขาวส่งเสียงร้องในใจพลางอ้าปากค้างกับเหตุผลของเจ้าชายกรุงโซลคนนั้น ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยได้ยินอะไรที่ฟังดูตอแหลและกะล่อน แต่มีเหตุผลในเวลาเดียวกันมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย โรงเรียนยองกวังเทรนเด็กมาดีจริงๆพับผ่า !

     

                ผมคิดว่าเป็นการดีกว่านะครับ ถ้าเราจะเลือกคนหน้าบ้านๆที่มีนิสัยถึกๆแบบลีซองยอลมาดูแลผม

     

                “โอ้ววววว เยี่ยมยอดที่สุด ครูไม่เคยได้ยินอะไรที่มีเหตุผลลึกซึ้งขนาดนี้มาก่อน สมแล้วที่เธอคือเด็กที่ยองกวังส่งมาให้กับเรา !!” ครูใหญ่ลุกพรวดขึ้นมาปรบมือแปะๆทันทีที่ได้ฟังจนจบ ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วร้อยยิ้มแย้มอย่างยินดีประหนึ่งได้รับฟังการกล่าวสุนทรพจน์จากนักเรียนดีเด่น แถมยังส่งสายตามาให้ซองยอลยกมือขึ้นปรบมือตามไปด้วยอีกต่างหาก

                เออ เยี่ยมยอดเลยคิมมยองซู ประเสริฐที่สุดในปฐพี !  =_=;

               

                เอ้า ยืนหน้านิ่งอยู่ทำไมลีซองยอล ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว พามยองซูไปด้วยนะ ฝากดูแลเขาด้วยล่ะ

                แต่ครูใหญ่ครับ ผมบอกไปแล้วไงว่าผมดูแลเค้าไม่ได้หรอก

                งั้นเอางี้ ค่าเสียหายอุปกรณ์การเรียนนานาชนิดที่เธอชอบไปทำลาย ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือเฟอะฟะของเธอ โรงเรียนจะยอมยกหนี้ให้ทั้งหมดโดยที่เรื่องจะไม่ถึงหูผู้ปกครองเลย

               

                ข้อเสนอนั่นทำดวงตาใสแจ๋วลุกวาว ...ค่าหลอดทดลองที่ทำแตกเทอมละครึ่งโหล ค่าหน้าต่างแตกกระจายเวลาโดนลูกบอลอัด ค่าทำขวัญครูประจำชั้นที่เขาชอบทำแปลงลบกระดานหล่นใส่หัวบ่อยๆ ... ว้าวววววว ถ้าไม่ต้องจ่ายหมดนั้นก็สบายล่ะสิ แถมไม่ต้องฟังที่บ้านบ่นหูชาเหมือนปีก่อนๆด้วย *0*

     

                “โอเคครับครูใหญ่ ผมจะดูแลและคอยให้ความช่วยเหลือคิมมยองซูดีสุดชีวิตเลย !”

     

     

                 .

     

                .

     

     

                ซองยอลเดินนำหน้านักเรียนแลกเปลี่ยนจากยองกวังออกมาจากห้องครูใหญ่ ขณะที่ใบหน้าของมยองซูก็ยังคงขมวดคิ้วเหมือนเดิม เข้าแค่ยังนึกไม่ออกว่าจะรับมือกับสถานการณ์ประหลาดแบบนี้ยังไง ที่อยู่ๆรักแรกของเขากลายเป็นผู้ชายขึ้นมา

     

                “เธอคือซองยอลเมื่อสิบปีที่แล้วนั่นจริงๆน่ะหรอ

     

                ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองเบาๆ แต่นั่นก็ดังไปเข้าหูคนตัวสูงที่เดินอยู่ข้างๆพอดี

               

                ขอโทษนะนายแอล ฉันเป็นผู้ชายอย่ามาเรียกฉันว่าเธอได้มั๊ย มันจั๊กกะเดียมยังไงรู้ ไหน เอาใบประวัตินายมาดิ๊ จะได้ไปส่งให้ถูกห้องเรียน

                “เรียกผมมยองซูร่างหนาชักมือกลับไปเสียตื้อๆ ดูท่าทางจะไม่ยอมให้กระดาษแผ่นนั้นแก่อีกฝ่ายง่ายๆ

                อะไรของนายกันแน่วะ ตอนแนะนำตัวก็บอกให้เรียกแอล ตอนนี้ให้เรียกมยองซู

                ผมชอบให้คนที่ผมชอบ เรียกชื่อจริงผมมากกว่า

                โว๊ะะะะ หน้าฉันไปเหมือนแฟนเก่านายรึไงห้ะมยองแอล เอามานี่เลยมะ

     

                ว่าแล้วมือขาวก็ดึงกระดาษประทับตราโรงเรียนมาจากมือของคนที่เดินอยู่ข้างๆ

                ที่ยองกวังนายเรียนปีหนึ่ง แต่มาอยู่ที่ซกโพนายได้เรียนปีสองเนี่ยนะ ได้ไงอ่ะ

                ผมฉลาดพอจะเรียนเนื้อหาแบบเดียวกับพี่แล้วกันน่ะ

                “=___=;” คำตอบที่สวนกลับมาทำเอาเด็กซกโพโดยกำเนิดถึงกับพูดไม่ออก

     

                “พี่แน่ใจนะว่าตอนเด็กๆไม่ได้เป็นผู้หญิงมาก่อนขณะที่เดินๆอยู่ มยองซูเอ่ยขึ้นจนคนฟังแทบสะดุดขาตัวเอง คำถามนั้นทำเอาตาโตเหลือกกว้าง ขาเรียวหยุดชะงักก่อนจะหันมาจ้องหน้าหล่อเหลาอย่างจริงจัง

     

                นายจะบ้าเรอะ ฉันไม่ใช่ไส้เดือนนะจะได้มีสองเพศในร่างเดียว

                งั้นพี่แปลงเพศหรอ!”

                ไอ้ทุเรศศศศ ฉันมีไอ้นั่นติดตัวมาแต่เกิดแล้วเว้ย นี่นายฉลาดจริงๆรึเปล่าเนี่ย เด็กห้าขวบมันยังรู้จัดแยกเพศตัวเองเลย

               

                พี่คิดว่าผมอยากมาที่ซกโพนี่นักรึไงถ้าไม่มีเหตุจริงๆนะ ผมกลับมาตามสัญญาที่ให้ไว้กับเด็กคนหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน ...เด็กตัวขาวๆ ตาโตๆ ตัวสูงๆ เป็นลูกเจ้าของฟาร์ม ชื่อซองยอลแบบพี่เปี๊ยบเลย แต่ผมจะได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงน่ะสิ่

     

                สิ่งที่พรั่งพรูออกมาจากเรียวปากได้รูป เรียกสีหน้าแปลกใจให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานเหมือนผู้หญิงได้ทันที ซองยอลถลึงตามองผู้ชายตรงหน้า ภาพในอดีตเริ่มไหลเวียนเข้ามาในหัวอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ เขาก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยกับคนๆนี้จริงๆนะ...

     

                นายแน่ใจหรอว่าไม่ได้จำผิดคน ซองยอลที่ซกโพมีตั้งหลายคนนะ

                พี่คิดว่ามีสักกี่คนล่ะพี่จะให้ตุ๊กตาหมีสีขาวชื่อยอลลี่กับผมไว้น่ะ มือหนาหยิบตุ๊กตาหมีที่ห้อยอยู่กับกระเป๋าขึ้นมา ทำเอาซองยอลยิ่งตื่นตะลึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

     

                เดี๋ยวนะๆ นายกำลังจะบอกว่า ฉันคือเด็กผู้หญิงเมื่อสิบปีก่อนที่นายพูดถึงงั้นหรอ....

                “พี่ฟังมาตั้งนาน ยังไม่รู้อีกหรอเนี่ยว่าผมพูดเรื่องอะไรอยู่

                โอ้ยย ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะเชื่อฉัน ว่าฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงคนนั้นแน่นอน

     

                เธอคนนั้นไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิง ลีซองยอลเมื่อสิบปีก่อนนั่นคือรักแรกของผม

               

                เคยได้ฟังชื่อตัวเองต่อว่าด้วยคำว่ารัก จังหวะของตัวใจเริ่มเต้นรัว จะบอกว่าเป็นเพราะคนหน้าหล่อเหมือนเจ้าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้างั้นหรอ ...ไม่ใช่หรอกมั๊ง ที่หมอนี่พูดถึง คือเด็กสาวชื่อซองยอลอะไรของมันเมื่อสิบปีก่อนต่างหาก มันจะใช่ลีซองยอล นักเรียนม.ปลายตัวสูงกว่ามันที่ยืนหน้าจืดอยู่ตรงนี้ได้ยังไงล่ะ



                เสียใจด้วยที่ทำลายความฝันนาย

                ....

                นี่มันสิบปีมาแล้ว ฉันในอดีตคงจะเหมือนผู้หญิงในสายตานายมากไปหน่อย แต่ตอนนี้ดูฉันสิ...มันมีอะไรที่นายคิดว่าผู้ชายแสนเพอร์เฟ็คอย่างนายจะชอบได้บ้างล่ะห้ะ ไม่มีเลย !!”

     

                มือบางจับใบหน้าหล่อเหลาให้หันมามองตัวเองชัดๆ หวังว่าจะให้มยองซูได้เข้าใจสักที และจะได้เลิกคิดมากอีก แต่ทว่า...คิมมยองซูไม่ใช่พวกหัวอ่อนที่จะยอมเข้าใจอะไรง่ายๆนี่สิ

     

                ผมไม่เลิกรักคนที่ผมรอมาสิบปีจนไปรักคนอื่นไม่ได้ เพราะเหตุผลแค่นี้หรอก ...ผมใสซื่อบริสุทธิ์แค่ไหนที่รอเจอคนที่ตัวเองรักมาเป็นสิบปีทั้งๆที่หน้าตาดีขนาดนี้ ถ้าผมไม่หลงรักพี่ตั้งแต่แรกเจอ ป่านนี้ผู้หญิงค่อนเกาหลีคงเป็นแฟนผมไปแล้ว

                เออ ถ้าหน้าอย่างนายมันหาแฟนง่ายนัก นายก็ไปหาแฟนผู้หญิงเซ่!”

                บอกแล้วไงว่าผมทำไม่ได้ ก็พี่ ...โอ้ยย ไม่อยากจะเชื่อ

                “โว้ยยย ฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันแหละว่าอยู่ๆจะมีผู้ชายมาชอบอ่ะ คิดว่าฉันทำใจได้รึไง

                ผมต่างหากที่ควรพูดคำนั้นน่ะ !! เป็นพี่จะทำยังไงห้ะถ้าอยู่ๆดันมีแฟนเป็นกระเทย ! แต่ช่างเหอะ ผมเชื่อว่านี่คือเรื่องของพรหมลิขิต ถึงมันจะดูพิลึกไปหน่อย แต่มันก็คือพรหมลิขิต

                “พระเจ้าที่ไหนจะขีดเส้นพรหมลิขิตให้เราสองคนมาเจอกันวะห้ะ  เห้ย ใครเป็นกระเทยไม่ทราบ บอกแล้วไงว่าฉันเป็นผู้ชาย !!! ...แล้วขอโทษ นายบอกว่าใครเป็นแฟนนายนะ !”

     

                เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วโถงทางเดิน โชคยังเข้าข้างคนทั้งสองที่บริเวณนี้ไม่มีใครอยู่เลย ไม่เช่นนั้นเรื่องของมยองซูกับซองยอล ป่านนี้คงดังไปถึงอำเภอข้างๆแล้ว

     

                ”พี่คงจะลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับผมแล้วล่ะสิ

                “ห้ะ สัญญาอะไร

                “พี่บอกเองว่าถ้ากลับมา จะยอมเป็นแฟนผม เราจะแต่งงานกัน

                ตลก! ตอนแปดขวบฉันจะไปพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไงวะ อย่ามาเพ้อเจ้อ! นั่นมันคำสัญญาที่นายเคยบอกกับใครไว้เมื่อชาติภพที่แล้วรึเปล่า บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่รักแรกของนาย ให้ฉันแก้ผ้าให้ดูเลยมั๊ยล่ะ ฉันก็มีอะไรเหมือนที่นายมีนั่นแหละ !!”

     

                “เอาเลย ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเห็นเรือนร่างพี่แล้วมันจะยังรู้สึกอะไรอยู่รึเปล่า !”

     

                มยองซูเชิดหน้าขึ้นตะคอกด้วยเสียงที่ดังกว่าซะอีก ...ยิ่งซองยอลโวยวาย เหมือนยิ่งจะสร้างความลำบากให้ตัวเองมากขึ้น ยิ่งดิ้นรนก็เหมือนยิ่งเข้าทางอีกฝ่าย เอาเป็นว่ายอมๆไปเจอกันครึ่งทางน่าจะดีกว่า

     

                งั้นฉันให้นายเป็นแฟนคลับฉันก็ได้

                ไม่เอา...จนกว่าพี่จะแก้ผ้าให้ผมดู

                ไม่อยากจะเชื่อว่านั้นคือคำพูดคำจาของนักเรียนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนจาก อภิมหาโรงเรียนชายล้วนยองกวัง ...หยาบคายสิ้นดี เด็กลูกทุ่งอย่างซองยอลที่ว่าทะลึงตึงตังแล้วยังรู้สึกรับไม่ได้อย่างแรง !

     

                ในช่วงเวลาที่ซองยอลกำลังใช้ความคิด สายตาคมกริบประดุจเหยี่ยวหิวกระหายก็สแกนไปทั่วร่างสูงโปร่งที่ยืนห่างออกไปไม่เท่าไหร่

     

                ...ไม่ว่าจะมองยังไง ซองยอลเมื่อสิบปีที่แล้วกับซองยอลในตอนนี้ ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ผิวขาวก็ยังขาวเหมือนเดิม แถมดูดีกว่าเมื่อก่อนอีก ดวงตาคู่นั้นก็ยังดูสดใสเหมือนเดิม จะว่าไปใบหน้านี้ดูน่ารักขึ้นกว่าเดิมเยอะด้วยซ้ำ ริมฝีปากสีแดงที่มักจะพูดแต่ประโยคห้าวๆออกมาเสมอ มันน่าจะจับจูบแรงๆสักรอบเหมือนกันนะ ไม่สิ น่าฟัดไปทั้งตัวเลยมากกว่า

     

              คนอะไรน่าแกล้งชะมัด...

     

                รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าหล่อจนน่าอิจฉา ยิ่งมองนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดูเจ้าเล่ห์เหมือนหมาจิ้งจอกมากขึ้นไปทุกขณะ ทั้งที่ซองยอลสูงกว่าและอายุมากกว่า กับอีแค่เด็กคนนี้ทำไมเขาถึงเอาตัวรอดออกมาไม่ได้ก็ไม่รู้ ซองยอลที่ลื่นยิ่งกว่าปลาไหล กำลังจะโดนขย้ำด้วยน้ำมือเจ้าชายหน้ามนนี่แล้วรึไง !

     

                “ขอบคุณในความหวังดี แต่ฉันยังไม่พร้อมอ่ะ

               

                ซองยอลว่า ก่อนจะผละออกจากชายคนนั้นแล้วเดินกระแทกเข้านำไปยังห้องเรียน ...ไม่รู้จะชื่นชมในความตั้งใจแน่วแน่ที่มีต่อหัวใจอันบริสุทธิ์เฝ้ารอคนเพียงคนเดียวของมันมาตลอดสิบปี หรือว่าจะกรีดร้องกับวิบากกรรมของตัวเองที่ไม่รู้ไปก่อมาตั้งแต่ชาติไหน ทำไมถึงได้เกาะแน่นอย่างกับเงาตามตัวขนาดนั้น

     

                บอกตรงๆว่าทำใจไม่ได้ อยู่ดีๆมีเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโรงเรียนไฮโซ มาบอกว่าเขาคือคนที่เฝ้ารอมาสิบปี ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็จะเอา ! นี่มันจะไม่ฟังดูบ้าบอคอแตกไปหน่อยรึไงคิมมยองซู TT[]TT


     


     

    l3.png



     

    อัพร้อยเปอร์แล้วนะคะ ขอบคุณที่ยังคิดตามกันนะคะ
    รู้สึกตอนนี้มิงดูขี้โวยวายผิดอิมเมจมากข่าาาาา 555555555
    ก็เวลาอยุ่กับยอล เค้าเป็นมยองซูไม่ใช่แอลนี่เนอะ =_=;
    สำหรับแม่ยกหลีดนัม ตอนหน้าเจอกัน ,ส่วนย่าดง รอต่อไปที่รัก ♥









     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×