คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : You are the girl that Ive been dreaming of .
You are the girl (?)
that I’ve been dreaming of.
“ไอ้เด็กมยองแอลอะไรนั่นมันก็หน้าตาหล่อดีเนอะ” โฮวอนพูดขึ้นขณะที่พวกเขากำลังเดินกลับมาที่ห้องเรียน
“ชอบก็จีบเลยสิ”
“ไม่เอา ไม่โดนวะ”
“แล้วต้องแบบไหนถึงจะโดนพี่โฮย่าล่ะจ้ะ แบบน้องยอลได้ป้ะ”
“โดนตีนกูเนี่ย =_=;”
หลังจากบอกเลิกแถว นักเรียนทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับห้องเรียน ขณะที่นักเรียนแลกเปลี่ยนถูกพาไปยังหน้าครูใหญ่เพื่อพูดถึงกฎระเบียบต่างๆและรายละเอียดของโรงเรียน ส่วนอูฮยอนก็โดนจับโยนขึ้นรถสีแดงที่มยองซูนั่งมา และเดินทางออกจากซกโพไปเรียบร้อย โดยที่ซองยอลไม่มีโอกาสให้บอกลาเลยสักคำ
“ฉันจะคิดถึงแกนะนัมอูฮยอน TOT”
ร่างบางโอดครวญอยู่กับโต๊ะข้างๆที่ตอนนี้กลายเป็นที่ว่างเปล่า
ถึงเขากับอูฮยอนจะพูดดีๆกันแทบนับครั้งได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ได้รักอูฮยอนหรอกนะ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนั้น ชีวิตรันทดของลีซองยอลอาจไม่รอดมาถึงทุกวันนี้ก็ได้
“เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที กูเห็นแล้วรำคาญ เอานี่หน่อยมั๊ย” โฮวอนคะตอกเบาๆ ก่อนจะยื่นแปแปโรรสอัลมอนให้เพื่อนเป็นการปลอบใจ ในเวลาที่เศร้า มันไม่มีอะไรดีไปกว่าการกินอีกแล้วแหละ
“ขอบคุณนะโฮย่า TT^TT นี่มันแปแปโรรสโปรดของอูฮยอนเลยนี่ โฮฮฮ ฉันจะกินมันเพื่อแกนะว้อยย TOT”
“=____=; กูบอกให้มึงเลิกทำหน้าแบบนั้นไง”
ตาโตจดจ้องอยู่กับแปแปโรในมือราวกับเห็นมันเป็นหน้าเพื่อนตัวเอง มือขาวกำลังจะส่งมันเข้าปาก แต่แล้วจู่ๆประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดออก พร้อมกับเสียงเรียกดังลั่นจากครูที่ปรึกษา
“ลีซองยอล !”
“ครับ!! อึก...”
แปแปโรทั้งแท่งถูกยัดเข้าปากอย่างรวดเร็วจนฝ่ายที่ยื่นให้ยังต้องประหลาดใจ ด้านคนกินยกมือขึ้นทุบอกป้าบๆ ทำหน้าเหมือนจะขาดให้ได้เมื่อขนมทั้งแท่งผลุบหายเข้าไปในปากรวดเดียวหมดแบบนั้น
“ไปพบครูใหญ่ด้วย”
“ห้ะ ผมหรอ !” ว่าพร้อมยกมือชี้หน้าตัวเอง ปากอิ่มค่อยๆแบะลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถ้าไปที่ครูใหญ่แล้วอาจจะโดนข้อหาอะไรเข้า
“ครูคร๊าบบบบบ ผมยอมรับก็ได้ว่าวันก่อนผมเป็นคนทำแปลงลบกระดาษหล่นใส่หัวครูเอง แถมเมื่อเช้าผมเองแหละที่เผลอทำแจกันบนโต๊ะครุแตกกระจายแล้วทิ้งซากไปเกลื่อน แต่ได้โปรดดดดด อย่าส่งผมไปให้ครูใหญ่เลยนะ”
“ห้ะ เป็นเธอเองหรอลีซองยอล... เรื่องนี้ไว้คุยกับวันหลัง แต่ช่วยไปพบครูใหญ่ด้วย เดี๋ยวนี้เลย”
ท่าทางอารมณ์ไม่ดีแบบสุดๆที่ได้รู้ความจริง เป็นลางบอกว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเขายังจะยืนเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ต่อไป ขายาวรีบวิ่งไปยังห้องครูใหญ่ที่ตั้งอยู่อีกฝากหนึ่งของอาคารทันที
ก๊อกๆ...
“ขออนุญาตครับ”
หัวกลมค่อยๆโผล่เข้าไปในห้องพักครูใหญ่ทีละน้อย มันเป็นห้องที่นักเรียนทั่วไปไม่มีทางให้เห็น ...ข้อสงสัยเรื่องค่าเทอมที่ขึ้นเอาๆแต่โรงเรียนไม่ได้พัฒนาขึ้นตามไปด้วยเลยเป็นที่ประจักษ์แน่ชัด เมื่อได้มาเยี่ยมชมห้องพักครูใหญ่ที่ออกจะหรูหราผิดปกติ
“เข้ามาสิซองยอล”
ร่างบางโน้มกายลงเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง ...เด็กโครงการแลกเปลี่ยนพิเศษจากยองกวังนั่งอยู่ในนี่ก่อนแล้ว สายตาคู่นั้นมองตามเขาตั้งแต่ก้าวเข้ามา จนตอนนี้เขาเดินไปหยุดหน้าครูใหญ่ ดวงตาเรียวๆคู่นั้นก็ยังจ้องเขม็งอย่างไม่วางตา ก่อนเรียวปากจะค่อยๆพูดชื่อของเขาออกมาเบาๆ
“ลี ซอง ยอล...”
หืม ( -____- ? )
อะไร นายเจ้าชายกรุงโซลรู้จักชื่อลีซองยอลคนนี้ได้ยังไงน่ะ ???
.
.
“เป็นเกียรติจริงๆที่โรงเรียนเราให้มีโอกาสได้ตอนรับนักเรียนจากยองกวัง ขอให้เธอทำตัวตามสบายเลยนะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ”
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เมื่อถูกเชิญให้นั่งลงบนโซฟารับแขกในห้องทำงานของครูใหญ่ บนโต๊ะตรงหน้าเขามาแฟ้มหลายแฟ้มวางเรียงรายอยู่ ครูคนนั้นดันพวกมันมาก่อนจะเอ่ยปากต่อ
“นี่คือรายชื่อนักเรียนดีเด่นของเรา ที่พร้อมจะให้คำแนะนำ และดูแลเธอตลอดปีการศึกษา อยากให้คนไหนมาดูแลเธอเป็นพิเศษมั๊ย”
ดวงตาเรียวกวาดมองรายชื่อที่ถูกเสนอมาให้ ไม่ว่าจะเปิดไปที่เอกสารหน้าไหนก็มีแต่พวกเนิร์ดแว่นหนา หน้าตาธรรมดาๆ ไม่เห็นมีใครสะดุดตาเขาเลยสักคน ขนาดผู้หญิงยังหน้าบ้านๆ ไม่เห็นมีใครเหมือนในโซลเลย ประเภทที่เดินหลับหูหลับตาชนใครก็จับมาทำแฟนได้ทั้งนั้น
ซกโพมันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากสิบปีก่อนเลยรึไง
กันดาลยังไงก็กันดาลอย่างงั้นเลยเรอะ ?
“คือ...ท่านไม่น่าลำบากคัดเลือกคนพวกนี้มาให้ผมเลยนะครับ ผมดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว ตอนเด็กๆผมเคยมาอยู่ที่ซกโพอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกันครับ” มยองซูปฎิเสธอย่างนุ่มนวล เขาดันเอกสารทั้งหมดคืน แต่มือหยาบกลับเลื่อนมาจับมือเขาไว้แน่ พร้อมดวงตาที่ดูผ่านอะไรบนโลกมาเยอะ จ้องมาอย่างแนวแน่
“ไม่ได้ ยังไงเธอก็ต้องมีคนดูแล ตามที่ทางยองกวังกำชับไว้ ว่านักเรียนของเขาต้องได้รับความสะดวกสบายที่สุด ไม่ว่าจะกิน เดิน นั่ง นอน เรียน จะให้ขาดตกบกพร่องไม่ได้เด็ดขาด”
“เอ่อ งั้นผมขอเลือกคนดูแลผมเองได้มั้ยครับ”
เด็กหนุ่มยื่นข้อเสนอด้วยร้อยยิ้มจริงใจ มือของเขาเลื่อนไปจับตุ๊กตาหมีหิมะที่ห้อยโตงเตงอยู่ที่กระเป๋านักเรียนอย่างมีความหมาย
“ได้ ได้สิ เธอต้องการอะไร เราทำให้ได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
“โรงเรียนซกโพ มีคนชื่อซองยอลบ้างมั๊ยครับ”
“ซองยอล...เรามีหลายซองยอลนะ เธอหมายถึงคนไหนรึ?” ชายวันกลางคนย้อนถามพร้อมกับพยายามนึกใบหน้านักเรียนในปกครองทีมีชื่อว่าซองยอลทั้งหลายแหล่
“ลีซองยอล ที่เป็นผู้หญิงตัวขาวๆ หน้าตาน่ารักๆ เสียงแมนๆหน่อยน่ะครับ” มยองซูพูดลักษณะนั้นออกมาเท่าที่เขาจำได้ในความทรงจำเมื่อสิบปีก่อน ผู้หญิงคนที่ให้เขาใจเต้นรัวจนไม่อาจรักใครคนอื่นได้เลย
“ลีซองยอล ตัวขาวๆ หืม?... นักเรียนหญิงหรอ แน่ใจนะว่าเธอจำคนไม่ผิด” คิ้วยุ่งขมวดเป็นปมก่อนจะเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้แน่ชัดอีกครั้ง
“ครับ ลีซองยอลที่ครอบครัวเป็นเจ้าของฟาร์มน่ะครับ แล้วมีบ้านหนังเล็กๆสีขาวๆอยู่กลางทุ่งหญ้า…”
“เอาล่ะๆนึกออกแล้วว่าใคร แต่ไม่รู้จะใช่คนเดียวกับที่เธอต้องการมั๊ยนะ…” ครูใหญ่รีบส่งเสียงขัดเมื่อคำบรรยายจากนักเรียนคนนั้นชักจะออกทะเลมากขึ้นทุกที มืออันเต็มไปด้วยริ้วรอยกดลงบนแป้นโทรศัพท์เพื่อติดต่อกับครูประจำชั้น
“ครูฮโยซองใช่มั๊ย ช่วยเรียกลีซองยอลมาที่ห้องครูใหญ่ด้วย ขอบคุณมาก”
รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขไม่สามารถลบหายไปจากใบหน้าหล่อเหลา เพียงแค่รู้ว่ากำลังจะได้เจอคนที่ตัวเองอยากเจอตลอดสิบปี ตัวใจก็เต้นถี่ขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำถามที่วนเวียนมาตลอด
สิบปีผ่านไป ซองยอลจะสวยขึ้นแค่ไหนนะ หรือจะน่ารักเหมือนเดิม
เสียงของเธอจะยังห้าวเหมือนเดิมรึเปล่า แล้วเธอจะมีแฟนหรือยัง...
ต่อให้มีแล้วงั้นหรอ.... ถ้าหล่อน้อยกว่ามยองซูคนนี้ก็เตรียมเลิกกันได้เลย
ก๊อกๆ...
เสียงเคาะแผ่วเบา ทำเอาหัวใจแทบกระตุกเต้นไปตามจังหวะ ประตูไม้สีเข้มถูกแง้มออกช้าๆ พร้อมกับศีรษะกลมๆที่ค่อยๆโผล่เข้ามาทีละน้อย ดวงตาคู่นั่น ...ดวงตาที่มีประกายซุกซนเหมือนสิบปีก่อนไม่มีผิด ผิวกายสีขาวนั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิดเดียว
“ขออนุญาตครับ”
ครับหรอ ?
“เข้ามาสิซองยอล”
สิ้นเสียงอนุญาตจากครูใหญ่ ประตูบานนั้นถูกเปิดออกเต็มที่ก่อนที่เจ้าของชื่อจะย่องกร่ายเข้ามาในห้อง
วินาทีที่ได้เห็นคนชื่อลีซองยอล ภาพสาวน้อยน่ารักนิสัยห้าวหสญถูกทำลายพินาศในชั่วพริบตาด้วยร่างสูงโปร่ง แต่ดูผอมบาง กับผิวสีขาวละเอียด ผมสั้นสีดำ และเครื่องแบบนักเรียนชาย...ไม่มีอะไรในตัวคนๆนั้นเลยที่บอกว่าเป็นผู้หญิง
มยองซูกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วจ้องร่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไล่สายตาขึ้นลงไปมาหลายครั้งหลายครา
เดี๋ยวนะ ! ลีซองยอลในความทรงจำของเขาคือเด็กร่างเล็กที่ตัวสูงกว่าเขานิดหน่อย มีหน้าหวานๆกับเสียงเข้มนิดๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในตอนนั้นเขาจะแยกไม่ออกนะว่าแบบไหนที่เรียกว่าผู้ชาย แบบไหนที่เรียกว่าผู้หญิง ...ไม่มีทาง นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ !
“ลี ซอง ยอล...”
เพียงแค่พูดชื่อเบาๆ เจ้าของชื่อก็หันมามองด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม ยิ่งได้มองดวงตาคู่นั้น ภาพเด็กน้อยเมื่อสิบปีก่อนก็เข้ามาแทนที่ได้พอดี ว่ากันว่าดวงตาสามารถสื่อสารทุกอย่าง ไม่ว่าจะภายนอกเปลี่ยนไปขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้เลยคือแววตาของแต่ละคน...
“นี่แหละ ลีซองยอลตัวขาวๆ ลูกเจ้าของฟาร์มที่เธอถามถึง แต่ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกนะ” ครูใหญ่แนะนำคนที่พึ่งเรียกเข้ามา ซองยอลหันขวับไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้กลับดูอมทุกข์อย่างบอกไม่ถูก ไม่เห็นเหมือนเจ้าชายที่เต็มไปดวยรอยยิ้มก่อนหน้านี้เลยสักนิด
“อะไรของนาย ทำไมหน้าแบบนั้นล่ะน่ะ =___=;” ตาโตกรอกไปมากับท่าทางแปลกๆนั้น เขาคิดมาตลอดว่าเด็กยองกวังผู้ยิ่งใหญ่เป็นอะไรที่เป๊ะทุกท่วงท่า แต่เจอมยองซูนี่ทำให้เขาต้องคิดใหม่แล้วแฮะ
“เออ ที่พูดเมื่อเช้า โคตรซึ้งเลยว่ะ มาหารักแรกเนี่ย โห พระเอ๊กพระเอก เป็นไง เจอใครหน้าตาเหมือนผู้หญิงคนนั้นบ้างรึยังล่ะ”
ยิ่งได้ยินที่อีกฝ่ายพูดก็ยิ่งมั่นใจ ประโยคกร่างๆไม่เข้ากับหน้าหวานๆแบบนี้แหละที่ตัวเขาเมื่อสิบปีก่อนตกหลุมรักไปเต็มๆ แต่เท่าที่จำได้ คนที่พูดอะไรแบบนี้กับเขา เป็นเด็กผู้หญิงนะ เด็กผู้หญิงที่ออกจะแมนไปหน่อย แต่จำได้แม่นว่าต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ !!
“ครูใหญ่ครับ ท่าทางเด็กยองกวังคนนี้จะจิตไม่ปกติ ส่งกลับเถอะ”
ซองยอลเสนอขึ้นเพราะสายตาประหลาดๆที่ชายชื่อมยองซูส่งมาให้ แค่ได้ยินก็อยากจะลุกขึ้นมาโต้ตอบบ้าง แต่ในตอนนี้ หัวสมองของหนุ่มหล่อจากยองกวัง คิดเรื่องอื่นไม่ได้เลยนอกจาก ประเด็นที่ว่า เด็กผู้หญิงที่แอบชอบมาเป็นสิบปี เวลานี้หล่อนกลายเป็นผู้ชายไปแล้ว ! หรือให้พูดให้ถูก ...ลีซองยอลที่แสนน่ารักเมื่อสิบปีก่อน แท้จริงแล้วคือผู้ชาย งั้นหรอ !?
บ้าเห่อะ ! ลีซองยอลคนนั้นเป็นผู้หญิงชัดๆ แล้วไอ้ผู้ชายตัวขาวโบ๊ะนี่ครูใหญ่เรียกมานี่มันอะไรวะ... แต่เท่าที่ดู ก็แทบไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กคนนั้นเมื่อสิบปีก่อนเลยนี่ ไม่มีทาง นี่มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ
มีทางเดียวที่จะพิสูจน์ได้ว่าใช่หรือไม่ใช่…
มยองซูปัดกระเป๋าตัวเองให้หล่นลงพื้น โดยจงใจให้มันตกลงตรงหน้าคนชื่อซองยอลพอดี ตาโตก้มลงมองกระเป๋าใบนั้นด้วยความหมั่นไส้นิดๆ ...เด็กยองกวังนี่เว่อร์เนอะ ขนาดกระเป๋านักเรียนยังต้องใช้เบอเบอรี่ร์เลยรึไงวะ ?
มือขาวเอื้อมลงหยิบกระเป๋าราคาแพงชะลูดใบนั้นขึ้นมาปัด ก่อนจะหยุดกึกเมื่อสายตาปะทะเข้ากับตุ๊กตาสีขาวแอ๊บแบ๊วที่ห้อยต่องแต่งอยู่กับตัวกระเป๋าหนังสีดำ ไม่ได้เข้ากับหน้าเจ้าของเลย
พอมองกลับไปที่หน้ามยองซู เขากลับนั่งขบริมฝีปากแน่น ยกมือขึ้นประสานกันเหมือนกำลังสวดภาวนาอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตาโตวกกลับมามองที่ตุ๊กตาสีขาวอีกครั้ง เขาจำได้ว่าเหมือนเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน แต่อาจจะเป็นเพราะความทรงจำสมัยเด็กมันออกจะวุ่นวายไปหน่อย เลยนึกไม่ค่อยออกเท่านั้น แต่ที่แน่ๆ ตุ๊กตาตัวนี้มันเหมือนมาก...
“ที่ห้อยกระเป๋านายอยู่ หน้าตาเหมือนยอลลี่ที่หายไปฉันเปี๊ยบเลยอ่ะ”
“...”
“เนี่ย ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆฉันเผลอทำนมช็อคโกแลตหกใส่ ขามันเลยออกเป็นสีน้ำตาลๆ แบบนี้เลยๆ” เวลาก็ชี้นิ้วไปที่ขาข้างขาวของหมีตัวนั้นทีมีร่องรอยคราบสีน้ำตาลอยู่จริงๆ
“น่าแปลกเนอะ ฉันทำมันหายไปตั้งนาน แล้วมันมาอยู่ที่นายได้ไงวะ”
“เชี่ย...”
ตอนสองมาแล้วจ้าาาา >[]< ! ทิ้งช่วงมานานมาก จนรีดเดอร์คงลืมไปแล้วว่า
ฟิคเรื่องนี้มันเป็นอะไรยังไง =_=? ขอโทษจริงๆนะคะที่ไม่มีเวลามาอัพเลย
เรื่องนี้เลยเหมือนไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร ! ไรเตอร์สนมาก !
55555555555 หลงมยองยอลหลีดนัมหัวปักหัวปำ เรตติ้งไม่ดี ไม่มีคนอ่านก็จะแต่ง
แต่ตอนนี้ขอตัวไรเตอร์ไปเคลียร์ปัญหานักอกของเด็กม.6ทุกคนก่อนนะคะ
จะกลับมาอัพอีกทีปีหน้านู่นเลย T3T ~ รอเค้าด้วยนะทุกคนนนนน
ความคิดเห็น