คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The super fly called L-KIM .
“นี่ๆๆๆ ปีนี้ได้ข่าวว่าจะมีเด็กแลกเปลี่ยนโครงการพิเศษมาที่โรงเรียนเราด้วย”
“โรงเรียนซกโพที่ตั้งอยู่ห่างไกลความเจริญแบบนี้เนี่ยนะ”
“ใช่สิย้ะ ...เห็นบอกว่าชื่อมยองซูอะไรนี่แหละ”
“ต๊ายยย ชื่อเชยเป็นบ้า โรงเรียนเราพวกบ้านนอกไม่พอรึไง”
“กันว่าเป็นหนุ่มหล่อมาก มาจากยองกวังเลยนะเธอ บ้านรวย ไฮโซโก๋เก๋ที่สุด”
“ห้ะ ยองกวังหรอ แค่ได้ยินชื่อก็ตื่นเต้นจนใจสั่น ผู้ชายดีๆกำลังจะมาเยือนซกโพที่แสนเหี่ยวแห้งนี่แล้ว >[]<”
การสนทนาของสามสาวในชุดยูนิฟอร์มโรงเรียนรัฐบาลซกโพดังเจี้ยวจ้าวไปทั่วห้องเรียนขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยโต๊ะเรียนวางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ ทั้งๆที่พึ่งเปิดภาคเรียนได้เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
“ยัยเพี้ยน คิดว่าเด็กแลกเปลี่ยนอะไรนั่นจะชายตาลงมามองพวกเธอรึไง”
เสียงเบื่อหน่ายระคนรำคาญ ดังมาจากนักเรียนหน้าหวานเหมือนผู้หญิงที่ใส่สุดยูนิฟอร์มผู้ชาย ...คือ จริงๆก็หมายถึงนักเรียนชายนี้แหละ เขาขยับกายลุกขึ้นจากที่นั่งหลังห้องแล้วเดินตรงมายังกลุ่มหญิงสาวที่กำลังคุยกับถึงเรื่องนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะย้ายมาเรียนที่ซกโพอย่างออกรส
อันที่จริง ประเด็นนี้เขาเองก็ได้ยินมาตั้งแต่ช่วงปิดภาคเรียนแล้ว ว่าเปิดเรียนไปจะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเรียนด้วย นั่นทำให้เขาประหลากใจน่าดู โรงเรียนรัฐบาลธรรมดาๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางชนบทซกโพแสนลูกทุ่ง จนแทบไม่หาชื่อไม่เจอบนแผนที่ประเทศเกาหลี จะมีใครที่ไหนสนใจอยากจะมาแลกเปลี่ยนด้วย ขนาดตัวเขาเองยังไม่อยากจะเรียนที่นี่เลยด้วยซ้ำ
“อะไรของนายลีซองยอล ชิ ! อย่ามาพูดจาแบบนั้นกับดอกไม้งามแห่งซกโพอย่างพวกเรานะ”
“เห่อะ ยัยดอกไม้พลาสติก อย่าขยับหน้ามากเลยน่า ซิลิโคนเคลื่อนหมดล่ะนั่น”
“ว่าไงนะย๊ะ นายดอกไม้ปลอม เป็นผู้ชายซะเปล่า ยังทำหน้ามาทำหน้าแอ๊บแบ๊วแข่งกับพวกฉันอีก เสียชาติเกิดที่สุด”
“อ้อหรอ ! คิดว่าฉันเลือกเกิดได้มั๊ยล่ะ เกิดมาฉันก็หน้าอย่างงี้อยู่แล้ว ปัดโธ่ =____=*”
ชายหนุ่มเหวี่ยงสาวๆกลุ่มนั้นไปชุดใหญ่ พอดีกับที่เสียงระฆังบอกเวลาเข้าแถวดังขึ้น ถึงเวลาที่นักเรียนซกโพทุกคนต้องออกไปตากแดดเข้าแถวที่สนามด้านหน้าตึก
ที่ว่าโรงเรียนรัฐบาลซกโพห่างไกลความเจริญ คงจะหมายถึงบรรยากาศไกลปืนเที่ยง มองเลยรั้วโรงเรียนไปก็เจอแต่ป่าเขา อาคารเรียนเก่าๆที่ไม่ได้รับการซ่อมบำรุงมานานจนน่ากลัวว่าวันดีคืนดีจะถล่มลงมา
การเดินทางมานี่ที่ นักเรียนส่วนใหญ่ก็มักจะเดินเท้า หรือไม่ก็จักรยานเท่านั้น ด้วยที่อยู่ของพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนนี้เท่าไหรอยู่แล้ว อีกเหตุผลสำคัญคือหากใช้อะไรที่เครื่องแรงกว่านี้ ฝุ่นละอองบนพื้นอาจจะฟุ้งกระจายเหมือนหมอกลงเลยก็ได้
“โฮย่า นายได้ยินเรื่องโครงการแลกเปลี่ยนพิเศษอะไรนั่นบ้างป่ะ”
“ไอ้โครงการสุดเจ๋งที่แลกเปลี่ยนจากเด็กเมืองกรุงมาใช้ชีวิตลูกทุ่งเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม และส่งเด็กลูกทุ่งไปเริงเมืองอะไรนั่นอ่ะนะ เอ่อ ...ไม่รู้อะไรเท่าไหร่หรอก”
“โห ขนาดไม่รู้นะเนี่ยย...ว่าแต่ นายเห็นอูฮยอนบ้างมั๊ย ฉันไม่เจอหน้ามันมาตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย”
“ไม่รู้ดิ่ มีอะไรวะ”
ร่างโปร่งเอียงหน้าไปกระซิบถามเพื่อนหน้าเข้มที่ยืนเข้าแถวอยู่ด้านหน้าของตน ชื่อโฮย่านั้นได้แต่ใดมา ไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ พ่อหนุ่มนักกีฬาคนนั้นไม่ประทับใจสักเท่าไหร่ถ้าใครเรียกชื่อเขาด้วยชื่อจริง ...เขาได้คำตอบสั้นๆพร้อมการส่ายหน้ากลับมาเท่านั้น คิ้วบางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เมื่อเพื่อนรักของตัวเองไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นอย่างวันอื่นๆที่ผ่านมา
“สวัสดีนักเรียนซกโพทุกคน...”
เสียงของครูใหญ่ทุกกรอกมากับไมค์ที่ท่านถือยืนถืออยู่หน้านักเรียนทุกคน เสียงหอนแสบหูของมันทำเอาทุกชีวิตต้องยกมือขึ้นอุดหูอย่างพร้อมเพรียง
“ยินดีต้อนรับสู่สัปดาห์ที่สองของภาคเรียน วันนี้เรามีเรื่องน่ายินดีมาประกาศให้ทุกคนได้ทราบ” ครูใหญ่วัยกลางคนค่อนไปทางสูงอายุหยุดพูดไปสักพัก แล้วหยิบโพยขึ้นแอบอ่านอย่างที่เป็นมาตลอดเวลาที่ท่านได้มาพูดอะไรหน้าไมค์
“ในปีนี้ โรงเรียนของเราได้รับความอนุเคราะห์จากโรงเรียนพี่น้อง คือโรงเรียนมัธยมยองกวัง…”
เสียงฮือฮาดังระงมเมื่อครูใหญ่เอ่ยชื่อโรงเรียนมัธยมชายล้วนชื่อดัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าเล่าเรียนสูงขนาดซื้อคฤหาสน์ได้ทั้งหลังและคุณภาพดุจฟ้าประธานของนักเรียนที่นั่น เด็กๆในซกโพรู้ว่าโรงเรียนตัวเองก็มีโรงเรียนพี่โรงเรียนน้องเหมือนที่โรงเรียนอื่นมี แต่ในสมองของทุกคน ไม่เคยกล้าคิดจะเอาโรงเรียนที่ดีเลิศไปซะทุกเรื่องอย่างยองกวังมานับญาติกับโรงเรียนตัวเองเลย
โรงเรียนมัธยมยองกวัง
ยองกวังที่หมายถึง เกียรติยศ อำนาจบารมี ความรุ่งโรจน์ งดงาม
โรงเรียนบ้าอะไรไม่รู้ แค่ความหมายชื่อก็กินขาดจนน่ากลัวแล้ว =A=^
“ซกโพเนี่ยนะพี่น้องกับยองกวัง ชิ ฟ้ากับเหวล่ะไม่ว่า” ซองยอลบ่นพึมพำขณะที่เท้าก็เขี่ยดินบนสนามที่พวกเขากำลังยืนอยู่ไปมา ตอนนี้เขาไม่ได้ใส่ใจกับการทักทายต้อนรับปีการศึกษาใหม่ของครูใหญ่เท่าไหร่ ตาโตกำลังสอดส่องหาเพื่อนอูฮยอนที่อาจไปหลงเข้าแถวอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันยิ่งมึนๆอยู่เกิดหายไปทำไงเนี่ย =___=
“และในวันนี้ ครูยินดีที่จะประกาศว่า ตั้งแต่วันนี้ นัมอูฮยอน จะได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมชายล้วนยองกวัง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นเวลาหนึ่งปีการศึกษา”
“ห๊าาาาาาา !!!!”
( - -) ( - -) ( - -) ( - -) (O[]O) (- - ) (- - ) (- - ) (- - )
ทุกคนตาหันขวับไปที่ต้นเสียงอย่างพร้อมเพียง แต่ร่างบางไม่ได้สนว่าเสียงร้องของตัวเองมันจะดังขนาดทำเอานักเรียนทุกคนหันมาจ้องกันเป็นตาเดียว เพราะเขากำลังตื่นตะลึงที่เพื่อนรักของตัวเอง กลับไปยืนโด่เด่อยู่ข้างครูใหญ่ในสภาพเนิร์ดอย่างที่สุด ทั้งแว่นตากลมๆและเครื่องแบบถูกระเบียบเป๊ะ ผิดกับภาพลักษณ์นัมสตาร์ยามปกติที่ออกจะดูเป็นไอ้บ้าคนหนึ่งที่มั่นใจว่าตัวเองเหมาะกับการเป็นนักร้องไอดอล
อย่าตกใจ นัมสตาร์อะไรนั่น มันเป็นฉายาลูกทุ่งๆที่อูฮยอนตั้งเองล้วนๆ
“อะไรของนาย อิจฉาอูฮยอนล่ะสิ” โฮวอนหันมาแหวะของอย่างอดไม่ได้
“ไม่ใช่เว้ย ถึงฉันจะอยากไปเหยียบยองกวังบ้างก็เหอะ แต่... แต่อูฮยอนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยนะ แล้วทำไมจะไปไหน มันไม่บอกฉันสักคำวะ”
“ฉันว่ามันไม่เป็นนายเป็นเพื่อนมาตั้งแต่แรกแล้วมากกว่า”
“ว่าไงนะ !!!!”
“อย่าทำตัวเป็นเด็กหน่อยเลยยอลลี่ หน้าอย่างนาย อ่อยใครก็ติดทั้งนั้นแหละ เชื่อเหอะ ไม่เหงาหรอก”
“อย่าเอาชื่อตุ๊ดๆแบบนั้นมาเรียกฉันนะว้อยยยยย อ่อยบ้าอะไรวะ ฉันไม่ได้อยากมีแฟนเป็นผู้ชายสักหน่อย TTOTT”
เจอคนหน้าอย่างมึง... ถ้ากูเมาก็เอาได้ล่ะวะ =____=;
โฮวอนคิดอย่างปลงตก แล้วยกมือขึ้นตบบ่าเพื่อนรักคนหนึ่งของตัวเอง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าจะจะปลอบเด็กม.ปลายใจประถมแบบนี้ยังไง
“ยินดีด้วยกับนัมอูฮยอนที่ได้ไปแลกเปลี่ยนที่ยองกวัง เอาล่ะจบไปแล้วหนึ่งเรื่อง มาต่อที่เรื่องน่ายินดีที่สอง...”
ครูใหญ่เงียบไปอีกครั้ง และคราวนี้นักเรียนทุกคนดูจะสนใจมากขึ้นผิดปกติ ทุกชีวิตพากันเงียบกริบ มีเสียงสะอื้นของซองยอลดังมาจากท้ายแถวเป็นระยะๆเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนลดความสนใจจากครูใหญ่หน้าไมค์ได้เลย
“โรงเรียนมัธยมชายล้วนยองกวัง ได้ส่งนักเรียนของเขามาแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนเราเหมือนกัน...”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด !!!”
สาวๆทุกคนกรีดร้องพร้อมกับอย่างไม่ได้นัดหมาย เหมือนมีนักร้องไอดอลชื่อดังมาเยียนโรงเรียนถึงที่ จนคราวนี้ฝ่ายครูใหญ่ต้องยกมือขึ้นอุดหูบ้าง เพียงแค่รู้ว่าจะมีนักเรียนจากรั้วยองกวังมาที่ซกโพ ไม่ว่ายังไม่เห็นหน้าตา พวกเธอก็รู้สึกได้ว่า ผู้ชายคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
ระหว่างที่นักเรียนหันไปพูดคุยกันอย่างสนุกปากถึงการวาดภาพความหล่อเหล่าของนักเรียนจากยองกวัง ตัวครูที่ยืนอยู่บนเวทีก็มองหน้ากันเลิกลัก เพราะตัวเด็กแลกเปลี่ยนที่ว่ายังมาไม่ถึงที่นี่ด้วยซ้ำ
“อ่า ตอนนี้เด็กคนนั้นยังไม่มา ครูจะให้พวกเธอกลับเข้าห้อง...”
“ไม่ค่ะครู พวกเราทุกคนยินดีจะยืนต้อนรับเพื่อนนักเรียนจากยองกวังค่ะ!! ถึงแดดจะร้อนแค่ไหน พวกเราก็ไม่หวั่น โรงเรียนซกโพต้องแสดงความเข้มแข็ง และทรหดอดทนให้นักเรียนยองกวังคนนั้นดูค่า !!!”
เสียงแหลมตอบกลับไปอย่างมั่นใจจนครูใหญ่ถึงกับต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อด้วยความตระหนกในความทะเยอทะยานของสาวๆ ที่ปกติมักจะบ่นไม่หยุดปากว่าพวกเธอไม่ยอมยืนตากแดดนานๆแน่
“ถามกูบ้างมั๊ยว่าอยากยืนด้วยรึเปล่า” เสียงจากจางดงอูเรียกเสียงอือออเห็นด้วยจากนักเรียนชายได้เป็นอย่างดี
ถึงจะตัวเตี้ยไปนิดจนไม่น่ามายืนท้ายแถว แต่จางดงอูก็เป็นรุ่นพี่คนหนึ่งที่หลายคนเลือกที่จะเกรงกลัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ท่าทางแบบนั้นทำเอาหลายคนไม่กล้าเข้าไปสุงสิงด้วย...อาจจะยกเว้นอยู่คนที่ดูท่าทางชอบแกว่งปากไปหาเท้ารุ่นพี่คนนั้นซะเหลือเกิน
“หุบปากน่ะ ฟังพี่บ่นแล้วยิ่งหงุดหงิดว่ะ อยากเตะคน =_=+” รุ่นน้องที่บังเอิญได้มายืนเข้าแถวอยู่ข้างๆส่งเสียงตอบกลับพร้อมแกว่งขาไปมาเป็นสัญญาณว่าพร้อมจะเหวี่ยงใส่ใครก็ตามที่กำลังกวนอารมณ์เขาตอนนี้
“เห่ย อย่าไปหาเรื่องพี่ดงอูเลยน่า เดี๋ยวซวยกันยกห้องหรอก” ร่างบางสะกิดเพื่อนอารมณ์ร้อนของตัวเอง ตอนนี้ทำใจเรื่องที่อูฮยอนต้องจากไปได้แล้วนิดหน่อย จากความรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง ถูกแทนที่ด้วยความอิจฉาเบาๆที่เพื่อนรักกำลังจะไปได้ดิบได้ดีที่อภิมหาโรงเรียนในฝันของเด็กชายเกือบค่อนประเทศ
“...อ่า งั้นครูของลองโทรหานักเรียนคนนั้นก่อนแล้วกันว่าเขาถึงไหนแล้ว”
ครูใหญ่หัวล้านโป้งเหน่งผละออกจากไมค์ ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์รุ่นโบราณน่าสะสมขึ้นมากด ขณะที่นักเรียนหญิงพากันยกไม้ยกมือชูมือถือของพวกเธอกันสล๋อน
“เอาโทรศัพท์หนูไปก็ได้ค่าาาาาา >[]< !!”
“เดี๋ยวครับท่าน นั่นอะไรนะ!”
ครูผู้น้อยคนหนึ่งส่งเสียงห้าม พร้อมกับชี้โบ้บี้เบ้ไปทางรั้วโรงเรียน ทำเอานักเรียนและครูทุกคนหันไปมองด้วยความสนใจ ก่อนที่นักเรียนเกือบทั้งหมดจะพากันไปยืนอออยู่ที่รั้วโรงเรียนจนเหล็กกล้าแทบโยกไปตามแรงผลัก คนที่ยืนอยู่ท้ายแถวอย่างซองยอลตอนนี้โดนเบียดบี้อยู่กับรั้วจนหน้าเนียนแทบจะแนบไปกับเหล็กร้อนๆอยู่แล้ว
สิ่งที่ดวงตาเกือบพันคู่เห็นเหมือนกันคือ รถสีแดงสดกำลังเคลื่อนตัวมาตามถนนคดเคี้ยวจากเนินเขาด้วยความรวดเร็ว ฝุ่นละอองจากดินบนพื้นฟุ้งตลบไปทั่ว ยิ่งรถเคลื่อนมาใกล้เขตโรงเรียนเท่าไหร่ บริเวณที่พวกเขายืนอยู่ก็เหมือนห้องรมควันขึ้นมากเท่านั้น
แต่อุปสรรคก็ไม่อาจลดทอนความอยากรู้อยากเห็นได้ ทุกคนต่างพากันเบิ่งตาเต็มที่เพื่อจะมองทะลุผ่านม่านหมอกไปยังรถหรูที่เคลื่อนตัวมาจอดหน้ารั้วโรงเรียน
“โอ้ยย อย่าเบียดได้มั๊ย ฉันจะตายแล้วเนี่ย TOT” หนุ่มหน้าหวานร้องโอดโอยอย่างไร้ความหวัง ร่างกายของเขาเหมือนโดนรถบดอัดเข้ากับรั้วจนตอนนี้ไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย ทุกคนพยายามจะเยื้อแย่งที่ด้านหน้ากันอย่างแข็งขัน เหมือนกำลังมาตามศิลปินที่ชอบและต้องเสนอหน้าไปที่หน้าสุดเท่าที่จะทำได้
“ขอทางหน่อยๆ เด็กจากยองกวังมาถึงแล้ว”
ครูใหญ่พยายามแหวกกลุ่มนักเรียนผู้บ้าคลั่ง จนในที่สุดแกก็ออกไปได้สำเร็จ พอดีกับที่ประตูรถนั้นถูกเปิดออก...
ร่างที่ก้าวออกมาทำเอาทุกคนถึงกับเงียบกริบ ย่างก้าวที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นฟุ้งกระจายระกับพื้น ให้บรรยากาศเหมือนดรายไอซ์ในงานคอนเสิร์ตเปิดตัวศิลปินชื่อดังไม่มีผิด
ใบหน้าเรียวได้รูปประดับด้วยดวงตาเรียวๆสีดำสนิทดูมีสเน่ห์อย่างที่สุด ปากหยักสีธรรมชาติ จมูกโด่งเป็นสัน ผมสีดำซอยสั้นถูกเซ็ตมาอย่างดีเข้ากับโครงหน้าได้รูป ร่างกายสมส่วนอยู่ในชุดเครื่องแบบแบบเดียวกับที่ทุกคนกำลังใส่แท้ๆ แต่กลับมีออร่าส่องประกายกว่าคนอื่นหลายเท่านัก ยิ่งเมื่อใบหน้านั้นประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ ทุกคนในที่นี้ ไม่ว่าจะครู นักเรียน หรือแม้แต่ภารโรง ต่างเข้าใจถึงคำว่า เจ้าชาย ได้อย่างถ่องแท้เลย
“สวัสดีครับ”
ชายคนนั้นโค้งทำความเคารพ ก่อนเงยหน้ามาทำหน้าประหลาดใจกับท่าทางแปลก ๆของคนทั้งโรงเรียน ตาเรียวไล่มองหน้าทุกคนเหมือนต้องการคำตอบว่าพวกเขามายืนเบียดเสียดอะไรกันแถวนี้
สติของชายหนุ่มถูกเรียกกลับคืนเมื่อมือของชายวัยกลางคนจับที่ข้อแขน ตอนแรกก็ว่าจะชักมือกลับอยู่หรอก เขาไม่ได้ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวสักหน่อย แต่ชายคนนั้นกลับออกแรงลากเขาเข้ารั้วโรงเรียนไปแล้ว มารู้สึกตัวอีกที ก็ถูกพามายืนอยู่บนเวทีเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่าง
ร่างโปร่งประพริบตาปริบๆขณะมองลงไปยังนักเรียนในยูนิฟอร์มแบบเดียวกันที่กลับมายืนเข้าที่อีกครั้ง น่าแปลกที่ผู้หญิงพากันมายืนเข้าแถวข้างหน้ากันหมด ส่วนผู้ชายก็ไปยืนซะไกลลิบ
“ทุกคนเงียบหน่อย นักเรียนจากยองกวังมาถึงแล้ว เขาจะอยู่ที่นี่กับพวกเราหนึ่งปีการศึกษาเต็มๆ หวังว่าพวกเธอจะช่วยดูแลเขากันเป็นอย่างดี เอาล่ะ พูดแนะนำตัวหน่อยสิ”
“ผมคิมมยองซู...แต่โปรดเรียกผมว่าแอล”
“อร๊ายยยยยยยยยย !!!”
“....”
“เอ่อ... เธอจะไม่พูดอะไรอีกหน่อยหรอ” เสียงของอาจารย์ใหญ่ลอดผ่านไมค์มา มยองซูหันไปมองใบหน้าแกเล็กน้อยก่อนยกยิ้มนิดๆ
“อ่อ ไม่ละครับ ผมพูดแค่นี้ดีกว่า”
“ว๊ายยยยยย เท่ห์ระเบิดดดด !!!!!!!”
“ว้อยยย จะกรี๊ดอะไรกันนักหนาห้ะ ไอ้นั่นก็คนห่าอะไรวะ ขี้เก๊กจริงๆ พูดแค่สองประโยคสาวกรี๊ดคอโก่งเป็นโอ่งก็ไม่ปาน ทีพวกกูพูดเป็นต่อยหอยทั้งวันยังไม่มีสาวที่ไหนมากรี๊ดกร๊าดแบบนี้บางเลย หมั่นไส้เว้ย”
พวกนักเรียนชายที่ยืนอยู่ด้านหลังทำหน้าเบ้ไปตามๆกัน โดยเฉพาะเด็กประถมซองยอลที่มั่นใจในหน้าตาซะเหลือเกินยังต้องกลับมาพิจารณานาตัวเองใหม่ ...
เหอะ งั้นๆแหละ ดูยังไงเด็กจากยองกวังชื่อมยองซูบ้านนอกๆคนนั้นก็หน้าตาธรรมด๊าธรรมดา เด็กประถมอย่างลีซองยอลคนนี้น่ารักกว่าตั้งเยอะ =3=
“หนูมีคำถามค่ะครูใหญ่!” ยัยผมบ๊อบยกมือขึ้น ครูใหญ่ทำหน้าเบื่อหน่าย มันก็สมควรอยู่หรอก เธอคิดว่าที่นี่เป็นโรงเรียนประถมรึไงล่ะ ?
“โรงเรียนพี่น้องของยองกวังมีตั้งเยอะแยะ ทำไมแอลถึงเลือกที่จะมาที่ซกโพนี่ล่ะค่ะ”
“เอ่อ..เรื่องนั้น”
“ถ้าแอลตอบคำถามนี้ด้วยตัวเองจะดีมากเลยค่ะ หนูว่าเขาจะได้แนะนำตัวให้พวกเราได้รู้จักกมากขึ้นด้วยนะคะ”
หลังจากได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วแว่วมา ลีซองยอลพยายามเขย่งปลายเท้าและชะโงกหน้าเต็มที่เพื่อที่จะยลโฉมยัยผมบ๊อบสะดิ้งปากอยู่ไม่สุขที่ดูจะสนอกสนใจในตัวนักเรียนใหม่คนนั้นจนออกนอกหน้า
“ผมชอบบรรยากาศชนบทน่ะครับ” มยองซูตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบาดใจ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดให้ดังระห่ำมากขึ้นเป็นเท่าตัว
“ผมชอบบรรยากาศชนบทครับ ชิ จะบอกว่าซกโพมันบ้านนอกก็พูดมาเหอะ” ซองยอลได้ยินก็อดบ่นกับตัวเองไม่ได้ เขาทำเสียงล้อเลียนคนบนเวที ขณะขายาวเขี่ยดินที่พื้นมากองรวมกันก่อนจะเตะป้าบจนเศษดินฟุ้งกระจาย
“แต่เหตุผลจริงๆที่ผมอยากมาซกโพ...”
เขาเงียบไปพลางกวาดสายตาไปทั่วๆเหมือนพยายามจะมองหาใครสักคน
“ก็เพื่อมาตามหารักแรก”
“ว้ายยยยยยย”
ชั่วพริบตานั้น ทุกชีวิตที่มายืนเข้าแถวก็ตกอยู่ในบรรยากาศของความโรแมนติก แค่เพียงคำพูดเดียวก็ดึงดูดสายตาของทุกคนได้ มยองซูยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มเนิบๆที่ให้ความรู้สึกล่องลอยเหมือนมีพ่อเทพบุตรสุดแดนสรวงลงมาโปรดสัตว์โลกก็ไม่ปาน
“ค่อกกกกกก แค่กๆๆๆ” ซองยอลยกมือขึ้นปิดปากอย่างรวดเร็ว พยายามจะหยุดเสียงไอโครกครากที่ดังขึ้นมานี้ แต่เหมือนมันจะไม่ง่ายเลย ยิ่งเมื่อโฮวอนทุบหลังด้วย เขาก็ยิ่งไอจนท้องไส้แทบสะลัก
ไม่รู้ว่าเป็นอย่างนี้เพราะอยู่ๆดีๆแพ้ฝุ่นขึ้นมา
หรือสำลักความหวานของเจ้าชายมยองซูคนนั้นกันแน่
โอ้ยยย พ่อซูเปอร์แมนแสนเพอร์เฟ็คอย่างนายเนี่ยนะ คิดจะมาเฟ้นหาเจ้าหญิงที่บ้านนอกแบบนี้ ไม่อยากจะพูดทำลายความหวังหรอก แต่ฉันอยู่ที่ซกโพมาตั้งแต่เกิด ไม่เห็นเจอใครที่เข้าข่ายเจ้าหญิงของนายสักคน
เพราะฉะนั้น... ไม่ว่าจะหลุดออกมาจากเทพนิยายเรื่องไหน เชิญไสหัวกลับเข้าไปอย่างเดิมเลยไอ้แอลคิม ก่อนที่ผู้หญิงในซกโพจะตกเป็นของนายกันหมด แล้วผู้ชายอย่างเราต้องครองเวอร์จิ้นไปจนตาย !
มาอัพตอนหนึ่งแล้วจ้าาาาาาาา !!!!!!!!!!!!!!!!
มาแบบงงๆและยาวค่อด เกิดมาให้เคยแต่งฟิคแล้วตอนนึงยาวมากขนาดนี้
ปกติเล่นตัวอัพทีละครึ่งตลอด 555555555555 แต่เห็นเรตติ้งเรื่องนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เลยมาอัพเต็มๆไปเลยล่ะกัน (โถ่แม่คุณ พึ่งลงตอนแรก จะเอาเรตติ้งที่ไหน? -_-;)
เอาจริงไม่รู้ด้วยแหละว่าควรจะตัดตอนตรงไหน T___T ผิดวิสัยคนแต่งมั่กๆ !
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้ให้ไรเตอร์ชื่นใจนะจ๊ะ
แล้วเจอกันตอนหน้านะ อิ_______อิ ~
ความคิดเห็น