คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : stage 2 เรื่องประหลาด
"เฮ้ยยย บ้านกูไปทางนั้น"ผมท้วงขึ้นมา ก็บอกทางมันไปแล้วนี่หว่า..
"กูหิวข้าว"
"หือ....กูไม่หิว"
"กูหิว แล้วมึงก็อยู่บนรถกู"เออ จริงของมัน จะพากูไปไหนก็ไป - - (เหนื่อยใจกับมันจริงๆ)
รถลัดเลาะไปตามถนนย่านพระนครที่ซับซ้อน เท่าที่ผมอยู่กรุงเทพฯมา ไม่เคยจำทางแถวนี้ได้ซักที มันมีวันเวย์วุ่นวายไปหมด และแล้วผมก็จำได้ว่าเป็นสถานที่ไหน เมื่อรถฮาเร่ของมันเข้ามาในปากคลองตลาด มันมีอะไรกินด้วยเหรอวะเนี่ยยย
"ร้านนี้ สุดยอด แดกประจำ" มันภูมิใจนำเสนอร้านข้าวแกงร้านหนึ่งที่อยู่ในตรอกๆกนึ่งในปากคลองตลาด ไอ้นี่ก็มีมุมที่มันเหมือนคนปกติเหมือนกันนี่หว่า นึกว่ากินเป็นแต่จิ้งจกตุ๊กแก ฮ่าๆ
"หัวเราะพ่อง...เข้ามา"มันจูงมือผม หมับ.. ทันที
"กูเดินเองได้" ผมสะบัดมือออก
แล้วมันก็เลือกกับข้าวมา 2 - 3 อย่างครับ ผมก็หยิบกินเล่นๆบ้าง บอกว่าท้องไม่หิว แต่ไก่ทอดป้าแก เด็ดอย่างที่มันบอกจริงๆ ทำให้ผมหยุดกินไม่ได้ ผมกำลังจะหยิบอีกชิ้นมากิน ไอ้ตัวประหลาดที่นั่งข้างหน้าผม มันก็เอาส้อมมาจิ้มหลังมือผมเบาๆ
"โอ๊ยยยย..."ผมร้อง
"นั่นของกู วางเลยมึง"
"โหย ไอ้งก กูซื้อกินเองก็ได้ สัส" ไอ้งกเอ้ยยยย -*-
มันเอาไก่จากมือผมไปกัดหง่ำ คำใหญ่ๆ แล้ววางเศษที่เหลือมาที่จานผม
"อ่ะ ของมึง" ไอ้บ้า ใครจะกินลง น้ำลายมันทั้งนั้น ผมหลบหน้าหนีไม่กิน
"หึ ให้กินแล้วทำหยิ่ง กูแดกเองก็ได้" เออ กินเหอะ แล้วมันก็กินไก่ชิ้นนั้นต่ออย่างภาคภูมิใจ หัวเราะเยาะผมอยู่ หึๆ เสร็จแล้ว ก็กินน้ำ เรอเอิ้กกกกกกก เสียงดังลั่นร้านทีนึง โคตรทุเรศ ไม่คิดว่ามากับคุณหนูหน้าตาน่ารักอย่างผมเลย ยังดีที่ดึกแล้วร้านจะปิดแล้ว เลยมีแต่ป้าขายกับข้าว กับผู้ช่วย แค่ 2 คน เฮ้อออออออ ผมหันหน้าหนี ทำเป็นไม่รู้จักดีกว่า อายชะมัด......
"ขอบใจ"ผมบอกไอ้ตัวประหลาดนั่นหลังจากที่ฮาเร่เสียงดังคุ้งเร้งๆ ของมันจอดเทียบหน้าบ้านผมเรียบร้อยแล้ว
"ไม่คิดจะชวนแขกเข้าบ้าน ไม่มีมารยาทเลยนะมึง"เอ่อคือ บ้านใครวะ ไอ้เชี่ยยย มึงหน่ะ เสียมารยาท
"หื่อ ไม่คิด"ผมตอบแบบที่ใจคิดเลยฮะ คนอย่างมึงต้องเจอคนอย่างกู หึๆๆ
"ไม กลัวกูจะข่มขืนรึไง" หือออ คิดได้
"มึงรีบกลับบ้านได้แล้ว"เออ รีบไล่ดีกว่า ไปๆๆ แล้วผมก็หันไปเปิดประตูรั้วบ้าน หวังจะหนีชิ่งเข้าไป
"ครับ...ฝันดีนะครับ" หืออออ ไอ้เชี่ยนี่มาไม้ไหน ฟอด....!!!?!!! ?_? ทันทีที่ผมหันหลังกลับเพราะมันมาพูดกระซิบข้างๆหู มันก็หอมแก้มผมทันที ผมหน้าชาลงไปถึงหัวเข่า ชงักอยู่ 3 วินาที ก่อนจะตั้งสติได้
ผั๊วะ....ผมโบกกระโหลดมันแรงๆทีนึง มันลูบหัวป้อยๆ แล้วหันหลังหนี สตาร์ทรถดังคุ้งเร้งๆ แล้วบิดออกไปทันที พร้อมร้องเพลงเสียงดัง เพลงอะไรไม่รู้ ผมฟังไม่รู้เรื่อง ทิ้งความงงไว้ที่หน้าผม กับความจั๊กจี๋ ตรงรอยจมูกโด่งๆของมัน ดีที่ไม่มีหนวด ไม่งั้นคงซี๊ดกว่านี้ ผมรีบเอามือถูๆๆๆ ตรงนั้นแรงๆ เพื่อให้มันหาย แล้วกลับเข้าไปในบ้านทันที
ปิ้นนนนนนนนนน ปิ้นนนนนนนนนน
เสียงบีบแตรรถดังสนั่นหน้าบ้าน ปลุกผมตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอยู่ นี่ 8 โมงเช้า ปกติยังไม่ตื่นเลยเนี่ยยยยย เมื่อวานตื่นเช้าไปแล้ว วันนี้กะจะหลับให้สบายซะหน่อย ไอ้เสียงแตรรถมันพรากฝันดีออกไปจากผมซะแล้ว T T พ่อใครตายวะเนี่ย มาปลุกแต่เช้าเล๊ยยยยย
ไอ้ที.....มันใส่เสื้อยืด หมวกแก๊บหันกระบังไปข้างหลัง นั่งทำเท่อยู่บนมอเตอร์ไซค์ฮาเร่คันเก่าของมัน
"พ่อมึงตายรึไง มาปลุกแต่เช้าเนี่ย"ผมตะโกนลงไปหลังจากที่ออกมายืนบนระเบียงไอ้หน้าหล่อแต่ทำตัวประหลาดนั่น ชูถุงพลาสติก 2-3 ถุงขึ้นมา แล้วยิ้มให้ผมไม่พูดอะไร
"กูอยากกิน สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า"มันพูดขึ้นมาทันที่ที่ผมต้อนรับเข้ามาในบ้าน ผมสีขี้ตาแคร่กๆ
"แปรงฟันรึยังเนี่ย"มันถามผมมองหน้า... ฮ้า ... ผมพ่นลมหายใจเหม็นๆ ใส่หน้ามัน ต้องทุเรศให้ได้เท่ามัน
"ไอ้เชี่ย เหม็น ไปจัดการตัวเองให้มันเรียบร้อยไป เดี๋ยวอันนี้กูจัดการเอง" เออดีเหมือนกัน อยู่ๆลาภก็ตกถึงท้องแต่เช้า ผมรีบบอกมันว่าอะไรอยู่ตรงไหน ในห้องครัวของผมบ้าง ซึ่งมันก็ค่อนข้างเข้าใจยาก เพราะมันแสนจะรกเพราะผมไม่ค่อยได้ทำกับข้าวกินเอง จะมีแต่พวกเพื่อนๆ นานๆมาฉลองกันที ก็มีของอยู่ในครัวบ้าง หลังจากบอกไอ้พ่อครัวตัวประหลาดแล้ว ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำ แล้วลงมากินดีกว่า
"โว้วๆๆๆ น่ากินฝุดๆ นี่มึงทำเองเหรอที"ผมถามอย่างสงสัย เมื่อผมลงมาจากการอาบน้ำ เห็นจานสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า วางอยู่บนโต๊ะอาหารแบบน่ากินสุดๆ
"ก็เห็นว่ากูทำเอง กูไม่ได้หล่ออย่างเดียวนะเว้ย มีประโยชน์ด้วย" มันยิ้มภูมิใจ
"อ่ะแดกๆๆๆ"มันโยนช้อนส้อมมาให้ผม
อ้ามมม ผมม้วนเส้นสปาเก็ตตี้คำโต เข้าปากไปหนึ่งคำ
"แหว่ะ!!!!เชี่ยเค็มชิบหาย"ผมคายออกมาทันที กินไม่ได้เลยครับ เค็มก็เค็ม เส้นก็ไม่สุก คาวก็คาว โอ้ยยยยย ทิ้งๆๆ
"เฮ้ยยย เสียน้ำใจ ทิ้งได้ไง"เจ้าของเสียงทำหน้าเศร้า
"ก็มันแดกไม่ได้ มึงแดกเองแล้วกัน"
"ก็เพราะกูทำเองแล้วมันกินไม่ได้หน่ะสิ กูถึงมาหามึงไง"ไม่พูดเปล่า มันจ้องมาทำหน้าผม ทำเอาผมเขิน... เป็นอะไรวะเนี่ยยยย กูเขินไอ้นี่เนี่ยนะ - -'
"เจ...กูอยากจะมีคนทำกับข้าวให้กินทุกวัน อยากจะขับรถกลับบ้านด้วยกันทุกวัน อยากจะดูแลเขาทุกวัน"มันกดเสียงต่ำ ทำหน้าซึ้ง แถมจุดพีคสุด คือมันยื่นมือมากุมมือผมด้วยสิ ผมนั่งนิ่ง จ้องตามัน เพราะทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่แค่คำพูดของมันอย่างเดียวนะครับ แต่ครั้งนี้มันเรียกชื่อผมเป็นครั้งแรก...
"ฮ่าๆๆๆๆๆ อ๊ากกกกกกกก มึงเขินกูเหรอวะไอ้เจ ไอ้ตุ๊ดเอ๊ยยยยย" มันหัวเราะเสียงดัง แล้วก็พูดเยาะเย้ยทันที กูว่าแล้ววว
"ตุ๊ดพ่องงงงงง มึงไปหาที่แดกเองเลยไป"ผมโวยไปแล้วโยนส้อมใส่หน้ามัน อะไร เมื่อกี๊คือพูดเล่น เชี่ยเอ๊ยยยย ตกใจหมด
"ของที่เหลืออยู่นั่น ทำให้กูกินเลย"มันชี้นิ้วไปที่ของที่มันทำเหลือไว้ แล้วทำไมไม่รอกูมาทำตั้งแต่ทีแรก - -'
ในที่สุดผมก็ต้องทำสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าให้มันกิน ทั้งที่ก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่ไอ้ตัวประหลาดก็ซดจนเกลี้ยงแถมเรอเสียงดังตามสันดานมันเลยครับ แหว่ะ ผมนี่จะอ้วกให้ได้
"นี่มึงเลิกเรอแบบนี้ได้ป่ะ กูจะอ้วก"
"เห็นแก่กับข้าวที่ทำให้กูกิน ไม่เรอก็ได้" เออ คิดได้แบบนี้ก็ยังดี
"กูอิ่มแล้ว ขอดูทีวีหน่อยนะ" มึงไม่มีบ้านกลับรึไงห๊าาาาา - -'
"เฮ้ยย คีย์บอร์ดใคร ขอเล่นหน่อยนะ" มันไม่สนโทรทัศน์แล้วครับเพราะว่าเห็น
คีย์บอร์ดที่ตั้งอยู่ในห้องรับแขกของผม แล้วมันก็จัดการเสียบปลั๊ก ตั้งเสียงเรียบร้อย โดยที่ไม่ได้ฟังคำอนุญาตจากผมด้วยซ้ำ แล้วมึงจะถามทำมายยยย
"จะมีใคร ใคร รัก... คนหน้าตาอย่างฉัน..." เสียวสาสสสส เพลงมึง
"ฮัลโหลหมวย อยู่บ้านเพื่อน มาซ้อม ครับ จำได้ เดี๋ยวไปเดี๋ยวนี้" มันเงียบเสียงร้องกับคีย์บอร์ดลง แล้วก็ได้ยินแค่เสียงรับสายโทรศัพท์ หึ...เมียโทรมาอ่าาเด้....
"กูกลับก่อนเจ ไปหาหมวยก่อน"เออ ไปไหนก็ไป กูจะกลับขึ้นไปนอน เหลือเวลาอีกนานเลยกว่าจะทำงาน นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป เฮอะ คนอะไรประหลาดทั้งตัว ประหลาดทั้งการกระทำ แต่ทำไม ผมต้องรู้สึกแปลกๆพอรู้ว่าไอ้นี่มันมีแฟนแล้วนะ
ห้าววววว ง่วงแล้วววว นอนต่อดีกว่า zzZZZ
วันนี้สงสัยเป็นวันดีครับ เพราะไม่มีเสียงใครโทรมาปลุก ผมตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ช่วงบ่ายๆ เพราะได้กินข้าวเช้า ที่ไอ้ทีมันมาปลุกให้ทำให้กินแต่เช้า ไม่ใช่ชีวิตประจำวันของผมเล๊ยพับผ่าสิ -_- แต่ก็ดี เพราะไม่อย่างนั้นผมก็หิวตอนเที่ยงแล้วลุกมาหาอะไรกินอีกอยู่ดี ผมอาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีใข่ไก่ กางเกงแสลคสีเทา กับเอี๊ยมสายหนัง พร้อมหมวกไบเล่ใบโปรด เดินลงข้างล่างบ้าน หมายใจจะปั่นเจ้าแรมเดือนออกไปทำงานเหมือนทุกครั้ง แต่ลืมไป !!! แรมเดือน ไม่ได้เอากลับบ้านนี่หว่า โอ่ยยยยย ลูกพ่อ....ไม่เคยได้ห่างกันแม้คืนเดียว ปล่อยให้ตากแดดตากลมอยู่คนเดียว เป็นไงบ้างน๊าาาา รีบพาไปซ่อมดีกว่า จะได้เอากลับบ้าน
"ลงมาช้านะมึง" ไอ้...ที
"มึงมาทำไม" เออนั่นหน่ะสิ อย่าบอกนะว่ามากินย้าวเที่ยง นี่บ่ายแล้วนะโว้ยยยย
"มีคนบางคนไม่มีรถไปทำงาน กูเลยมารับ"โห ช่างเป็นคนดีมีน้ำใจ พ่อเทพบุตรสุดประเสริฐ
"ก็เพราะว่ามีหมาตัวนึง ขับรถมาชนแรมเดือนกูไง รถกูเลยปั่นไม่ได้"ต้องย้อนมันบ้าง ได้นี่
"ปากดี เดินไปทำงานเองแล้วกัน จะมาไม่มา เร็ว กูหิว"ว่าแล้วมันก็คร่อมรถฮาเร่มันสตาร์ทดังคุ้งเร้งๆ เออไปก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งแทกซี่รถติด แต่ภาพคงแปลกน่าดู เพราะมันแต่งตัวด้วยเสื้อหนังสีดำ ใส่กางเกงขาเดฟ ใส่หมวกกันน๊อค และถุงมือขับรถ มันก็เหมาะอยู่หรอก กับรถฮาเร่คันนี้ แต่ผมนี่สิ โอ้ยยยยย รถออกไปแล้ว ถึงรู้สภาพตัวเอง ไม่น่ามาขึ้นรถให้คนมองเลย ทุเรศหว่ะ ฮ่า
มันพาผมมากินข้าวก่อนครับร้านบ๊ะหมี่แถวสนามม้านางเลิ้งก็อร่อยเหมือนกัน ดีที่ขับนถมอเตอร์ไซค์มา เพราะหาที่จอดรถยากมากแถวนี้ เสร็จแล้ว ผมก็ปิดม้ายด้วยวุ้นน้ำอ้อย เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของป้าเขาเลยหล่ะ ไอ้ทีมันก็มีรสนิยมในการกินดีจริงๆ
เสร็จแล้วเราก็มาที่ที่เราล็อคแรมเดือนไว้ครับ ผมลงรถพลางนึกถึงรหัสปลดล็อคของโซ่ที่ผูกล้อแรมเดือนไว้เมื่อคืน แล้วเดือนเข้าในตรอกแคบๆ ที่ล็อคแรมเดือนไว้ แต่ เห.....!!! ? !!! ไม่มี ล็อคไว้ตรงนี้นี่หว่า หาย ...แรมเดือนหาย เหลือแต่ ล้อ กับ โซ่ ที่ล็อคไว้ นอกนั้น ล้อหลัง เฟรม บันได แฮนด์ เบลค โดนปลดไปหมดเลยครับ โธ่...แรมเดือน ขับมายังไม่ถึงปีแท้ๆ หายไปแล้ว... ไม่มีอีกแล้ว....T T
"แรมเดือนกูหายหว่ะ" ผมเดินกลับมาบอกไอ้ทีเป็นคนแรก ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ทำไมต้องอยากบอกมันด้วยนะ คงเพราะว่าแค่อยากหากำลังใจจากใครซักคน มันคงเป็นคนที่อยู่ใกล้สุดในตอนนี้
"เฮ้ยยยยย หายได้ไง เก่าขนาดนั้น ยังมีคนขโมย" ไม่วายปากหมานะมึง
"มึงไม่รู้หรอก ว่ารถวินเทจแบบนี้มันแยกชิ้นส่วนขายได้ แล้วไม่ต้องมาพูดว่ารถกูเก่า จะเก่าไม่เก่า กูก็รักของกู กูรอมันมากว่าจะได้เป็นเดือน กูปั่นมันทุกวัน คุยกับมันตลอด แล้วมึง ฮือ...." ทำไมน้ำตาต้องไหลด้วยวะ
"เฮ้ย อย่าร้องสิวะ ไอ้อ่อน อย่าร้องๆ" ไอ้ทีทำท่าเลิ่กลั่ก ทำอะไรไม่ถูก มันเอาผ้าเช็ดหน้าสีม่วงที่ปิดจมูกมันทีแรก แต่ตอนนี้เลื่อนมาเป็นผ้าพันคอ แกะออกมาแล้วยื่นมาให้
"โอยยย อย่าร้อง กูปลอบใครไม่เป็น"มันเอามือมาถอดหมวกไบเล่ของผมแล้วลูบหัว อย่างกับผมเป็นเด็กๆ
"กูไม่ใช่เด็กนะเว้ย หึ" ผมหลุดหัวเราะออกมาทั้งๆที่น้ำตายังร่วงผอยๆ
"เห้ย..นั่นหัวเราะแล้ว อย่าร้องๆโอ๋ๆๆ มากอดหน่อยมา" แล้วมันก็ดึงร่างผมเข้าไปกอด ผมกอดกับมันอย่างว่าง่ายมันลูบหัวผมเบาๆ ปากก็พูดว่า "โอ๋...อย่าร้องๆ" ไม่หยุด มันรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด ผมปล่อยน้ำตาออกมาสักพักหนึ่งจนผ้าเช็ดหน้า ผ้าปิดจมูก ผ้าพันคอ เอาเป็นว่าผืนเดียวกันของมัน เปียกทั้งผืน
"เดี๋ยวกูซื้อให้ใหม่ ความผิดกูเอง"มันพูดหลังจากที่ผมเงียบเสียงร้อง
"ไม่ต้อง ยังไงก็ไม่เหมือนแรมเดือน"
"กูจะหามาคืน" ว่าแล้วมันก็ขับรถออกไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงผมเลยครับ ผมตะโกนออกไปให้แผ่นหลังของมัน "ไม่ต้องก็ได้...." แต่ไม่ทันแล้ว
บทสัมภาษณ์
..........................................................
บอม : เฮ้ยเจ.....ไม่ไหวหว่ะตอนนี้ กูหล่ะ
เจ : ก็กูเจอแค่มัน อยู่แต่กับมัน มึงยังไม่โผล่นี่หว่า
บอม : จำไว้ ตอนหน้ากูจัดหนักแน่
ตั๊ก : พูดอะไรกันวะ
บอม : ไอ้เจอ่ะดิ ตอนนี้ไม่มีเราหว่ะ
ตั๊ก : อ้าวเจ ... ยังไง ... มึงคิดอะไรกับไอ้ทีนี่ป่าวเนี่ยยย
เจ : คิด ....
บอม/ตั๊ก : .....
เจ : ก็เริ่มนิดๆแล้วหว่ะ....
ความคิดเห็น