ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    microphone รักร้ายๆของนายประหลาด [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : stage 1 ไอ้ตัวประหลาด

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 59


    "หมายเลข B0041 เชิญครับ" เจ้าหน้าที่เสื้อดำ พูดพลางเผยมือให้เข้าห้องไปผมใจสั่นตูมๆ ราวกับจะหยุดเต้นให้ได้เลย ในขณะที่กำลังบังคับใจไม่ให้ตื่นเต้น เท้าของผมก็ตามมือของเจ้าหน้าที่เข้าไปใน 'ห้องเชือด' นั่นซะแล้ว

    "แนะนำ ชื่อ หมายเลข แล้วเริ่มเลยนะครับ" พี่เจ้าหน้าที่ใส่เฮดเซท พูดเสร็จก็นั่งลง กดเรคคอร์ดกล้องวีดีโอที่อยู่ข้างหน้าทันที เชี่ย!!กูยังไม่พร้อมเว้ยยยย
    แต่เอาวะ ซ้อมเพลงนี้มา 3 อาทิตย์แล้ว ต่อให้เมาก็ร้องจบ

    "สวัสดีครับ ผมชื่อเจ หมายเลข B0041 ครับ"แนะนำเสร็จผมก็เริ่มร้องเพลง Someone like you ของ Adele ที่ซ้อมมาให้คีย์เหมาะกับเสียงผมที่สุด

    "never mind I find someone like you...
    I wish nothing but the best for you too...."

    "ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร..ฉันพร่ำบอกให้เธอเข้าใจ
    เพราะรักจริงๆ รักคือการให้ ฉันให้เธอ..."

    ในขณะที่ปากผมร้องเพลงของผมอยู่นั้น หูก็ได้ยินเพลงนี้เข้าเต็มๆ แม่งห้อง A มันจะร้องเสียงดังให้พ่อบ นสวรรค์มันได้ยินรึไงวะ !!! ไม่มีสมาธิเลยวุ้ย คนยิ่งตื่นเต้นๆอยู่ ... เชี่ย !!?!! เอาแล้วไง ร้องเพี้ยนเลย สามอาทิตย์ของกู ไอ้เวรห้อง A เอาพี่ปู พงศ์สิทธิ์ มาแดก Adele กูซะเกลี้ยง

    "พอแล้วครับ" นั่น ! เสียงพี่เสื้อดำ ใส่เฮดเซทคนเดิม บอกให้พอ แล้วเชิญผมออกจากห้องออดิชันทันทีเพราะไอ้เวรห้องA นั่นคนเดียวเลย    

    ผมเดินคอตกออกจากห้องเชือด B อย่างเศร้าสร้อย เหนืออารมณ์เศร้า ผมยังมีอารมณ์แค้น ไอ้ห้อง A นั่นอยู่ ผมตัดสินใจ ยืนรอหน้าห้อง เพื่อดูหน้าของไอ้เงาพี่ปู พงศ์สิทธิ์ เพื่อจะแก้แค้นมันทีหลัง รออยู่ไม่นาน ประตูห้อง A ก็เปิดออก แล้วไอ้นั่นก็ออกมา เชี่ย!! คนหรือตัวอะไรวะ มันสักทั้งตัวเลยครับ รูหูมันระเบิด อย่างกับจะยัดท่อ หกหุนเข้าไปได้ แต่ดูไปดูมา มันก็หล่อมากเลยทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับผมแล้ว มันต้องชิดซ้ายแน่นอนครับ ฮ่าๆ (เจ มึงนอนอกประเด็นนะ) กับทรงผมมาดเซอร์ และท่าทางการเดินที่กวนทีนของมันนั้น ทำให้ผมอยากไปกระทืบมันซะตรงนั้น จะว่าไป หน้ามันก็คุ้นมากเลยทีเดียว

    "ที เป็นไงบ้างวะ ร้องนานกว่าคนอื่นเลยนะมึง" สงสัยเป็นเพื่อนมันครับ ผมเห็นยืนดีดกีตาร์อยู่หน้า 'ห้องเชือด'นี่สักพักแล้ว

    "ก็ดีหว่ะ" ไอ้ประหลาดนั่นตอบ (ก็มันประหลาดจริงนี่ครับ หน้าตาดีแท้ๆ เสือกทำตัวทุเรศ เสียดายความหล่อ หึ!)

    "แต่แม่ง กูไม่มีสมาธิเลยหว่ะ ไอ้เชี่ย ให้กูร้องเพื่อชีวิต ถนัดมั้ย..? แล้วร้องๆอยู่ ไอ้เชี่ยห้อง B ก็เสือกร้อง Adel เสียงโคตรดัง น่ารำคาญ" อ้าวเวร..กูนี่หว่า

    พูดงี้ต่อยเลยป่ะ "ค-ว-ย" ผมมองหน้ามัน แล้วทำปาก ไม่ออกเสียง (มันไม่เห็นหรอกครับ) หลังจากนั้น มันก็เดินมาทางผม แล้วมองผมนิดนึง ก่อนจะยิ้มให้หน่อย ก้มหัวทีนึง แล้วผ่านไป แน่นอนว่า ผมก็ยิ้มให้มันหน่อยๆ แล้วก้มหัวให้นิดนึงเหมือนกัน (แบบงงๆ)



     

    ผมหอบอารมณ์เซ็งๆ กลับมาที่บ้านแล้วแกะขนมปังที่แช่ตู้เย็นกิน เพราะตอนรอออดิชัน ก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย ซ้อมเพลงนี้ 3 อาทิตย์ เต็มๆ นั่งรอโดยที่ไม่ได้กินข้าวมา 4 ชั่วโมง ร้องเพลงไป 1 นาทีกว่าๆ เพราะไอ้ตัวประหลายนั่นทีเดียว เจอที่ไหนนะมึง กูจะเอานิ้วเกี่ยวท่อหกหุนให้แม่งหูขาด หึ! ยิ่งคิดยิ่งโมโห...

    แฟนผู้ข่า...นั่นบ้าไก่ตี....เกิดเป็นวันเดือนปี เอาดีแต่ตี๊ไก่...

    เอิ่มม เสียงริงโทนที่ไอ้เชี่ยบอม มือเบส ร่างบึ๊ก ผมยาว สาวกรี๊ด ตามสโรแกนมันตั้งให้คนทั้งวง มันบอกไว้อาลัย ยายยง หลงทีบ ตลกประจำวงเสียงอีสาน (กูรู้เรื่องด้วยมั้ย) ที่มันเคารพยกย่อง เอาเป็นว่า ทั้งวงเสียงริงโทนเดียวกัน ดังทีหันกันทั้งวงครับ

    "ว่าไงวะบอม"ผมกดรับสาย ปากยังเคี้ยวขนมปังตุ่ยๆ

    "เป็นไงบ้าง เจ ไปออดิชั่น"มันถาม

    "ฉลุย"ผมเสียงสูง

    "ตกฉลุย อ่ะดิมึง" มันรู้ได้ไงวะ "อย่างมึง ร้องแจซที่วงอย่างเดียวพอละ อย่าดังกว่านี้เลย กูขี้เกียจเพิ่มค่าตัว ฮ่าๆๆๆ" คือ คำพูดไม่เท่าไหร่หรอกครับ เสียงหัวเราะ มันช่างเหยียดหยาม

    "สัส...ถ้ามึงจะตอกย้ำกู ไปนอนให้รถเหยียบเลย ไอ้เพื่อนเวร" จริงไแล้วมันเป็นน้องผมปีนึงครับ แต่ว่าสนิทจนเล่นหัวผมได้ หรือผมมันไม่น่าเคารพก็ไม่รู้ เฮ้อออ

    "เออ ยังไงวันนี้เข้าร้านเร็วหน่อยแล้วกัน ซ้อมเพลงใหม่กัน"มันยังใช้น้ำเสียงเยียดหยัน หึ!!

    "เออๆๆ กูอาบน้ำแล้วไปเลย อะไรนะ จะเลี้ยงเบียร์กู เออ ขอบใจ" ผมใช้อภิสิทธิ์ความเป็นพี่ แดร๊กฟรีกับมันแบบนี้เสมอ

    "สัส เจ" ผมได้ยินแค่นั้น เพราะรีบวางหูก่อนที่มันจะปฏิเสธได้ก่อน ฮ่าๆ (ฉลาดมั้ยหล๊าาา)

    และหลังจากนั้น ไอ้ฟลุ๊ก ไอ้เคนโด้ ไอ้ตั๊ก ไอ้นุ และไอ้โชค ค่อยๆทะยอยโทรมาถากถางผมทีละคนๆ ทำให้ผมยิ่งเซ็งไปใหญ่ ความเซ็งมันสะสมให้ผมต้องหาที่ระบาย แล้วใบหน้าหล่อๆ ที่แฝงด้วยความกวนของไอ้เชี่ยประหลาดนั่นก็ลอยเข้า เออใช่..เพราะมึง ไอ้...เชี่ย...ที ผมจำชื่อมันแม่น



    บนถนนที่คราคร่ำด้วยรถ การจราจรแสนวุ่นวาย ผมเลือกที่จะเดินทางโดยเจ้า'แรมเดือน'จักรยานคู่ใจ ที่สั่งผ่านทางอินเตอร์เน็ตกว่าจะได้ ใช้เวลาเป็นเดือน เลยได้ชื่อว่า 'แรมเดือน' เพื่อให้หลุดพ้นจากการตามท้ายรถ ทุกคันบนถนน เพราะเจ้าแรมเดือน สามารถพาผมลัดเลาะตามซอยเล็กๆ หรือ วิ่งบนทางรถจักรยานโดยเฉพาะ ผมเลยถึงที่หมายก่อนใครทุกครั้ง แต่คงไม่ใช่ครั้งนี้มั้ง - -'
                    
    ปั้ง!!!! 

    ได้ยินเสียงแค่นั้น ร่างเล็กๆ (ก็เล็กจริงนี่หว่า ผมสูงแค่ 170 เองนะ) กระเด็นไปข้างหน้าจากแรมเดือนซัก 2 ก้าวได้

    "โอ๊ยยยย" ผมร้องสุดเสียงครับ พลางหันหน้าไปมองว่าเกิดไรขึ้น

    "ปั่นเชี่ยไรของมึง ไอ้หน้าอ่อน" ยังไม่ทันที่ผมจะมองหน้าเลย มันพูดสวนมา

    "มึงรีบมาเข็นจักรยาน ซังกะบวยนี่ออกจากทาง ชายงามกูได้ป่าววะ" มันพูดต่อ โดยที่ไม่สนผมซักคำ (สาสสสส กูเจ็บขาเนี่ยยย)

    "เชี่ย มึงนั่นแหล่ะ ขับยังไงของมึง นี่มันทางรถจักรยายโว๊ยย" ผมได้โอกาสด่ามันคืน ตาก็จ้องไปที่หน้ามัน

    แจ็คเก็ตยีนส์ตัวนี้ แว่นตาดำกวนทีนอันนี้ ลายสักที่ลามมาถึงคอแบบนี้ ผมจำได้เต็มตาขึ้นใจเลยทีเดียว
    "เชี่ยที" ผมพูดโพ่งออกมา

    งงอ่ะเด้ สาสสสสส มันหน้าเหวอไปพักนึง

    "สัส รู้จักชื่อกูด้วยเหรอวะ อ้อ...คงพวกตุ๊ด แฟนคลับกูอ่ะดิ นั่งทำเชี่ยไร มาเข็นรถมึงออกไป ไอ้ตุ๊ด" ตุ๊ดพ่องงงงงงง

    ผมลุกขึ้นมา แล้ววิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะวิ่งได้ มือขวากำกำปั้น อย่างแข็งแรง ปีนขึ้นมอเตอร์ไซค์ฮาเร่ ยุค 80s ของมันกระชากเสื้อแจ็คเก็ตยีนส์นั้น แล้วกระหน่ำ ต่อยๆๆๆๆๆๆ มันร้อง "โอ๊ยๆๆๆ ยอมแล้ว ขอโทษครับๆๆๆ"ไม่หยุดปาก ผมหัวเราะสะใจ หึๆๆๆๆ ในลำคอ

    "เป็นเชี่ยไร ไอ้อ่อน หัวเราะคนเดียวอยู่ได้
    หรือสมองมึงกระเทือน บ้าไปแล้ววะ" เสียงนั้นทำให้ภาพทุกอย่างตัดไป ( นี่กูเพ้อไป เมื่อกี๊...- -*)

    ผมเดินขากระเผกๆ ไปเอาแรมเดือนผมค่อยๆพยุงขึ้น โธ่.....อยู่ด้วยกันมาหลายปี ไม่เคยแม้กระทั่งรอยขีดข่วน ไอ้เชี่ยนี่มา ไม่ถึงวินาที พรากความสวยของแรมเดือนสุดที่รักกูไป แค้นโว้ยยยยยยย

    "อ่ะ หลบๆๆๆๆ กูจะไป" มันเบิ้นเครื่องรถเสียงดัง ควันโขมง แถมยังกลิ่นน้ำมันเหม็นไปทั่ว

    "ไอ้เวรรรร ขอโทษไม่มีซักคำ" ผมตะโกนด่ามันตามหลังมันหัวเราะเสียงดัง แถมชูนิ้วกลางให้ผมอีก คนอะไร เฮีย
    ชิบหายยยยย





    "โห เชี่ยเจ มึงไปฟัดกับหมาที่ไหนมาวะ" ทันทีที่มาถึง ไอ้ตั๊ก มือคีย์บอร์ดนิ้วไฟไหม้ มันก็ทักทาย

    "เออ หมาด้วย เหี้ยด้วย" ผมตอบหัวเสีย

    "มาๆๆ คุณพี่เจฮะ มาซ้อมซะดีๆ พวกผมแกะเพลงจนจบแล้วเนี่ย" เคนโด้ ดูท่าจะสุภาพสุดนะ ดีใจที่มีน้องเห็นผมเป็นพี่บ้าง นอกนั้น แม่งตบหัวได้มันตบอ่ะ

    "เออ เพลงไร ว่ามาเลย"ผมเริ่มสนใจงานขึ้นมาหน่อยแล้ว พอได้ยินเสียงดนตรีแล้วก็อารมณ์ดีแบบนี้เสมอแหล่ะ

    "ผมว่าจะทำเพลงพี่ปู พงศ์สิทธิ์ เป็นแจซซะหน่อย เปลี่ยนมาร้องแบบไทยบ้าง ไม่น่าเบื่อ(เพลงพี่ปู คุ้นๆหว่ะ??)

    "มันแจซตรงไหนของมึงวะ ฟลุ๊ก" ผมหันไปถามไอ้หน้าหล่อ (น้อยกว่าผมอีกนั่นหล่ะ ฮ่าๆๆ)ที่คอมันห้อยแซกโซโฟนอยู่

    "ก็เปลี่ยนลิทึ่มใหม่ โชค มึงแสดงให้พี่เจเค้าดูดิ๊" ดุเหมือนทุกคนจะพร้อม พอไอ้โชคเคาะฉาบ 2-3 ที วงทั้งวงก็ซ้อมพร้อมกัน ผมหลับตาพลางคิดถึงจังหวะเพลง และกำลังจะแสคต ตามเมโลดี้ที่พวกมันเล่นกัน โคตรเพราะ
    ไอ้ตั๊กแม่งเก่ง เพลงนี้ก็เอามาทำแจซได้ เทพสัสๆ แต่เฮ้ยยย!!?!! เมโลดี้นี้ คุ้นๆหว่ะ เสียงร้องของไอ้ประหลาดห้อง A ลอยออกมา

    "ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร...ฉันพร่ำบอก ให้เธอเข้าใจ"

    ไม่มาแต่เสียง หน้ามันก็ลอยมา ผมเผลอร้องออกไป ด้วยอารมณ์ หงุดหงิด ตะคอกเสียงสุดๆ ทำให้ทั้งวง ค่อยๆหยุดเล่น

    "เฮ้ยๆๆๆๆ เจ เพลงนี้มันอ้อนวอนหว่ะแฟนหว่ะ ทำให้น่าสงสาร ไม่ใช่ท้าต่อย ห่า อารมณ์เสียอะไรมามึงหน่ะ" มันด่าผมท่ามกลางทุกสายตาจ้องมอง ... เพราะไอ้ประหลาดนั่นคนเดียว มึงนะมึง

    ผับที่วงผมเล่นอยู่ที่ถนนพระอาทิตย์ครับ เป็นแจซแอนด์บลูผับ วงผมเล่นได้ทั้งสองแบบ จริงๆแล้วผมก็อยากร้องเพลงแบบอื่นบ้างนะ แต่เสียงมันไม่เอื้อ เหมือนเกิดมาให้ร้องเพลงแจซเลยก็ว่าได้ วงผมเล่นตอน 5 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืนครับ แต่เล่นได้ไม่กี่เพลงหรอก เพราะแต่ละคนมันเทพทั้งนั้น ลำพังร้องเพลงนึง โซโล่คนละชุด กว่าจะครบเครื่องดนตรี ก็ปาไปเพลงละ 16 - 17 นาทีแล้ว ชั่วโมงนึง ผมได้ร้องไม่เกิน 4 เพลงหรอกครับ สบายจริงๆ ^ ^

    "ไง มึงเจ แดกเบียร์ฟรี ชื่นใจมั้ย" ไอ้บอมเจ้าของเบียร์พูดทำหน้าหมั่นใส้

    "..."

    "มึงกินของกูฟรีแล้ว ก็เลี้ยงกูคืนมั่ง"

    "โห...กูจ่ายเองก็ได้" ผมมองหน้ามัน

    "คือ กูอยากไปเที่ยวแถวบางลำภูอ่ะ มีที่นึง นักร้องแม่งเด็ด" นั่น ไม่พ้น สาวๆนมโตๆ (อันที่จริงผมก็ชอบ ^ ^)

    "เออ..กูเซ็งๆ เปลี่ยนบรรยากาศแดกเบียร์มั้งก็

    ดี" ผมตอบไปตามอารมณ์ หลังจากเลิกงาน ก็มานั่งจิบเบียร์เย็นๆ หน้าร้าน ส่วนใหญ่ร้านที่ผมเล่นนั่นแหล่ะครับ แต่วันนี้อยากไปฟังวงอื่นเล่นบ้าง



    ในบรรยาศไฟหลากสีของร้านที่เต็มไปด้วยผู้คน ผมนั่งจิบเบียร์เพลินๆ กับเพื่อนๆน้องๆในวง หลังจากเลิกงานที่เหน็ดเหนื่อย กับสิ่งที่ทำให้ผมเซ็งๆ อยู่ทั้งวัน ดีเจเปิดเพลงร็อคที่ไม่ใช่แนวผมเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเพลงแล้วผมก็ฟังได้หมดแหล่ะครับ^^ ซักพักก็มีคนขึ้นไปบนเวทีหยิบเครื่องดนตรีที่วางอยู่แล้วมาตั้งสาย ซัก 3 นาทีก็เริ่มบรรเลงเพลงที่คุ้นหูผมทีเดียว เพลง Zombie ของ cranberries สงสัยนักร้องคงสวยอย่างที่ไอ้บอมบอกไว้

    "another head hangs lowly..." พอเสียงนักร้องขึ้นมาผมรีบหันไปตามเสียงทันทีครับ นี่มันเสียงผู้ชายนี่หว่า ไม่มีการลดคีย์เลยซักนิด มันจะเสียงสูงไปไหนวะเนี่ยยยย

    เชี่ย...!! แจ๊คเก็ตตัวนี้ ลายสักแบบนี้ ไอ้เชี่ย..ที มันร้องที่นี่เหรอวะเนี่ย นี่ชาตินี้กูจะหนีพ้นมันมั้ยยยยยยย

    ผมมองการร้องบนเวทีของมันไปเรื่อง ไอ้นี่ก็เทพอย่างที่ไอ้บอมบอกไว้จริงๆ เทคนิคการร้องที่หลากหลายทำให้เพลงไม่น่าเบื่อ ไม่เหมือนต้นฉบับเลยทีเดียว และลีลาการแสดงบนเวที ถือว่าเอ็นเตอร์เทรนด์ได้สุดเหวี่ยงจริงๆครับ มันร้องเพลงทำให้คนร้องตามกันทั้งร้าน รวมถึงไอ้พวกเพื่อนทรยศของผมด้วย ไม่ว่ามันจะทำอะไร สาวๆที่นั่งข้างล่าง อันที่จริงก็ไม่ได้นั่งหรอกครับ ทุกคนลุกขึ้นโยกๆ แล้วก็กรี๊ดดดดดดดด กันทั้งร้านเลยครับ ซักพัก มันก็ถอดเสื้อแจ๊คเก็ตทำให้ผมเห็นลายสักทั้งตัวของมันอย่างชัดเจน มีแต่ลายสวยๆทั้งนั้นเลย ที่จริงแล้วผมก็อยากสักเหมือนกันนะครับ แต่กลัวเจ็บ แฮ่ๆ แล้วสุดท้ายมันก็ถอดเสื้อกล้ามที่เต็มไปด้วยเหงื่อของมันออก แล้วโยนไปให้สาวๆที่กรี๊ดดดดดดดด อยู่ข้างล่าง น่าอ้วกชิบหาย ลีลาการแสดงของมันถือว่ามันสุดๆไปเลยครับ มันทั้งถ่มน้ำลาย ทั้งปาไมค์ทิ้ง ก็ยังมีคนกรี๊ดดดดดดด ผมอยากทำแบบนี้ได้ป่าว แต่ว่าผับของผมมีแต่ผู้ดีเข้าครับ ฮ่าๆๆ แล้วการแสดงก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย คือ เพลงช้า ตามระเบียบครับ

    "เธอจะมีใจรึป่าว....เธอจะมองมาที่ฉันรึป่าว...." เพลงเก่าไปป่าววะ แต่ก็ดีเหมือนกันครับ เพราะผมฟังเพลงที่หนวกหูนานๆ จนจะครื่นใส้อยู่แล้ว มาฟังเพลงช้าแบบนี้ก็สบายดีเหมือนกัน เสียงของมันทำให้ผมเคลิ้ม ผมเผลอยิ้มออกมาเลยครับ

    ไฟฟอโร่วจับที่หน้าหล่อๆของไอ้ตัวประหลาดที่ยืนโชว์ลายสักบนหุ่นที่ผมก็อยากได้แบบนั้นบ้าง จนถึงฮุคที่ 2 มันหันมามองหน้าผม เฮ้ยยย เห็นจนได้ แต่คงไม่เป็นไรเพราะผมอยู่ข้างล่าง มันอยู่ข้างบน มันยักคิ้วให้ผมทีนึง ก่อนที่จะจ้องหน้าผมแล้วร้องจนจบฮุก เชี่ยยย มึงจะจ้องหน้ากูทำมายยยย หน้าผมงี้ร้อนผ่าวๆ จนไปถึงหน้าอก ทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าก็ได้วะ จนจบเพลงแม่งเลย




    "เฮ้ย..เบย์..ทางนี้ๆ" ไอ้บอมร้องขึ้นหลังจากที่พวกผมกำลังอยู่หน้าร้านจะรำลากันกลับบ้านซะที

    "เจ นี่เบย์ แฝดกู" ไอ้บอมมันมีแฝดที่เหมือนกันอย่างกับแกะครับ ผิดแต่ทรงผมไม่เหมือนกัน ไอ้บอมผมยาว แต่ไอ้เบย์ผมสั้น เมื่อสักครู่มันก็เล่นอยู่บนเวทีเหมือนกันครับ เป็นมือเบสเหมือนกับไอ้บอมนั่นแหล่ะครับ

    "เออ ไงเบย์" ผมทักทายไปเหมือนที่ทักไอ้บอมปรกติ เพราะคิดว่ามันคงไม่ต่างกันเท่าไหร่

    "สบายดี เฮ้ยพวกมึง มานี่เดี๋ยว" มันหันไปเรียกสมาชิกในวงของมัน รวมไปถึงไอ้ตัวประหลาดนั่นก็มาด้วย

    "นี่พี่ชายฝาแฝดกู แล้วนี่เจ เพื่อนมัน เป็นนักดนตรีแจส เล่นแถวๆนี้แหล่ะ" มันแนะนำเสร็จสรรพ

    "บอมมึงกลับบ้านกับกูเลยนะ"มันหันไปคุยกับพี่ชายฝาแฝด หลังจากที่พวกผมแนะนำตัวกันเสร็จ ไอ้ตัวประหลาดพูดแต่กับไอ้บอม ไม่พูดกับผมเลยซักคำ หึ หยิ่งสัส...





    หลังจากนั้นพวกผมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยผมมีแรมเดือนกลับไปเป็นเพื่อน แต่ครั้งนี้ผมต้องจูงแรมเดือนหน่ะสิครับ เพราะล้อของแรมเดือนไม่ค่อยดี ตอนแรกคิดว่าจะปั่นได้ เลยปล่อยให้ไอ้บอมมันกลับ เฮ้ออออ เซ็งเลย

    ปี้นนนนนนนปิ้นนนนนน

    เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นข้างหลัง

    "ทำไมมึงจูงหล่ะวะ ปั่นไม่เป็นรึไง ไอ้อ่อน" เสียงคุ้นจังวะ ไอ้ทีนี่หว่า มาทำไมวะ

    "หมาตัวไหนทำของกูพังหล่ะ สาสส" ผมได้โอกาสด่ามันเป็นครั้งแรก มันหัวเราะในลำคอ

    "เออปากดี งั้นก็กลับเองแล้วกัน กูว่าจะไปส่งซะหน่อย" มันพูดแล้วเบิ้นเครื่องแรงๆ

    "ไปไหนก็ไปไป.."

    "มา  กูไปส่ง" ไม่พูดเปล่ามันลงจากรถมาจับข้อมมือผมทันที

    "ไม่ กูกลับเองของกูได้" ผมสะบัดมือทิ้ง

    มันแย่งแรมเดือนไปจากมือผมทันที

    "เฮ้ยมึงจะทำอะไรหน่ะ"

    "เอาล๊อคไว้ตรงนี้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอาไปซ่อม ส่วนคืนนี้ กูไปส่ง เข้าใจมั้ย" นั่นไม่ใช่ประโยคบอกเล่าใช่มั้ย ?? มันเป็นประโยคบังคับครับ มันทั้งจูงทั้งลากผมขึ้นบนรถฮาเร่มันทันที แล้วให้ผมนั่งหน้าเกือบติดกับถังน้ำมันด้วย

    "ล๊อคไว้แบบนี้ จะได้ไม่ดิ้น แล้วอยู่เฉยๆ อย่าขัดขืน เดี๋ยวล้มไปตายทั้งคู่" ไอ้ตัวประหลาด มันพูดใกล้หูจนผมขนลุก เชี่ยยยย มึงไม่กัดหูกูเลยหล่ะ...












    บทสัมภาษณ์
    .......................................................................

    บอม: เจ มึงเขียนเรื่องจากชีวิตจริงใช่มั้ย บอกกูมา
    เจ : ก็เออ นิดหน่อย
    บอม : แล้วไอ้ทีนี่คือใคร ???
    เจ : ก็ตัวละคร คิดขึ้นมา.......
    บอม : หราาาาาาาาาา




    อ๊ากกกกกกก กว่าลงได้ รากเลือด นอนก่อนดีกว่า
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×