ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวันละนิด [ All My Life All My Love]

    ลำดับตอนที่ #1 : พบกันครั้งแรก

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 48


    แชะ  แชะ  แชะ



    เสียงชัตเตอร์จากกล้องสีดำตัวใหญ่  ดูเหมาะสมกับช่างภาพหนุ่มร่างสูงที่ถือมันอยู่  เขากำลังถ่ายภาพนางแบบสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อย(ปิดข้างบนแทบไม่มิด  เล่นเอาตากล้องเลือดกำเดาเกือบไหล)  เธอยิ้วยั่วยวนช่างภาพหนุ่มเหมือนกับเชิญชวนให้เขาเข้าไปสัมผัสกับเรือนร่างที่แสนจะเซ็กซี่ของเธอ  ถ้าจะดูกันดี ๆ แล้ว ช่างภาพหนุ่มคนนี้ดูหล่อเหลากว่าดารานายแบบบางคนซะอีก  ร่างสูงใหญ่ อกผายไหล่ผึ่ง  ผิวขาวเนียนราวอิสตรี  คิ้วขาวเข้ม จมูกโด่ง  ใบหน้าเรียวได้รูป  ไม่แปลกเลยที่มีหญิงสาวมากมายมาคอยสยบแทบเท้าของเขาอยู่เนืองๆ  



    “เรียบร้อยแล้วครับน้องพอลลีน  ”  ช่างภาพหนุ่มบอกกับพอลลีนนางแบบสาวสวยก่อนหันไปเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน  แต่นางแบบสาวสวยก็ยังไม่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำบอกของสไตลิสทันที  เธอกลับเดินเข้าไปกระซิบที่ข้าง ๆ หูของช่างภาพหนุ่มอย่างนิ่มนวลก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสตูดิโอ



    “คืนนี้พอลลีนว่างนะคะพี่กั้ง”  เธอยิ้มให้กับช่างภาพหนุ่มอย่างมีเลศนัย



    “ครับ  ถ้ายังไงแล้วเดี๋ยวพี่ไปหาน้องพอลลีนก็แล้วกัน” สายตาที่ทั้งสองสื่อถึงกันบอกได้เลยว่าคืนนี้สนุกแน่  







    ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า ! ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า !  





    เสียงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของช่างภาพหนุ่มดังขึ้น  เบอร์ที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์แทบจะทำให้เขาตัดสายทิ้ง  แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับมัน



    “สวัสดีครับคุณแม่”



    “ไอกั้ง ไอลูกทรพี  ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ฉัน “เสียงตะโกนดังดังออกมาจากโทรศัพท์จนขี้หูของเขาแทบออกมาเต้นระบำเสียงของแม่เขาดังประมาณว่ามีเครื่องขยายเสียงตั้งรววมกันอยู่ตรงนั้นประมาณ 10 เครื่องเห็นจะได้



    “หือแม่  เบา ๆ ก็ได้ผมได้ยินหรอกน่า”ชายหนุ่มปรามแม่ของเขาเบา ๆ หลังจากที่สังเกตว่าทุกคนในสตูดิโอพากันจ้องมองเขาเป็นตาเดียว “ผมทำงานอยู่ครับ”



    “งานบนเตียงแกน่ะสิ”เสียงตามสายโทรศัพท์ฟังดูประชดนิด ๆ”เมื่อเช้านี้ฉันโทรไปหาแกผู้หญิงที่ไหนมันรับโทรศัพท์แกหา”



    “อ๋อ..น้องฟ้ามั้งแม่”



    “เออนั่นแหละ  มันบอกว่ามันเป็นเมียแก”



    “หา O_O”ชายหนุ่มรู้สึกตะลึงจากสิ่งที่แม่เขาบอก”ผมยังไม่มีเมียนะแม่”เขารีบแก้ตัวกับแม่เป็นพัลวัน  และตัวเขาเองก็ยังไม่คิดที่จะมีครอบครัวผู้หญิงที่คบ ๆ อยู่ตอนนี้ก็เป็นแค่ของแก้เหงาสำหรับเขาเท่านั้น



    “เออฉันก็ไม่รับมันมาเป็นลูกสะใภ้ฉันหรอก  แล้วฉันก็หาทางแก้ความสำส่อนของแกไว้แล้วด้วย”  คิ้วหนาของเขาเริ่มขมวดกันเล็กน้อย  ทางแก้ปัญหาที่แม่เขาเคยได้ผลเลยสักครั้ง  มีแต่ยิ่งเพิ่มให้มันหนักขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง  แล้วเขาก็ไม่เห็นว่าเขาเองจะสำส่อนตรงไหน ก็แค่ไปกินข้าว ฟังเพลง แล้วก็นอนกับผู้หญิงไม่ค่อยซ้ำหน้ากันเท่านั้น





    “ เดี๋ยววันนี้หนูน้ำตาลเขาจะไปที่บ้านแก  แกไปคอยรับเขาด้วยก็แล้วกัน”



    “ยัยน้ำตาลลูกป้านีน่ะเหรอครับ”



    “ใช่”เสียงตอบรับจากแม่ของเขาทำให้เขาไม่พอใจมาก”และก็จะอยู่จนกว่าเขาจะเรียนจบอาจจะประมาณ 2-3 ปี เห็นจะได้



    “ไม่ได้นะ  O_O…..ยัยนั่นจะมาอยู่กับผมได้ยังไงผมเป็นผู้ชายนะ”





    “ทำไมจะไม่ได้ทีแกยังเอาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ไปนอนด้วย  แล้วทำไมฉันจะให้หนูน้ำตาลไปอยู่ด้วยไม่ได้”



    “ไม่รู้แหละยังไงผมก็ไม่ยอมให้ยัยนั่นมาอยู่ด้วยเด็ดขาด”  ไม่ว่าจะยังไงกั้งก็ไม่ยอมให้น้ำตาลมาอยู่ด้วยเด็ดขาด  ทำอย่างนั้นสาว ๆ ของเขาก็เข้าใจผิดกกันพอดี





    “ไม่รู้เหมือนกันยังไงหนูน้ำตาลก็ต้องอยู่ที่นั่น  ถ้ากลับจากออสเตรเลียแล้วไม่เห็นหนูน้ำตาลอยู่ที่บ้านฉันจะตัดแกออกจากมรดกแล้วยกให้หนูน้ำตาลคนเดียว”





    “แม่ TOT”  ไม่ทันที่กั้งจะพูดอะไรออกแม่ของเขาก็วางหูโทรศัพท์ไปแล้ว  ทำให้เขาต้องนั้งกุมขมับปวดหัวกับเรื่องที่แม่ยัดเยียดมาให้เขา  แต่มีบางสิ่งบางอย่างแว๊บเขามาในความคิดของเขา  สิ่งที่จะให้เขาไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกับยัยน้ำตาลนั่น และไม่ต้องถูกตัดออกจากกองมรดกแต่อย่างใด  เขารีบบึ่งรถบีเอ็มดับบิวสีดำคันเก่งของเขากลับไปบ้านเพื่อรอรับน้ำตาลทันที







    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*













    อากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวบวกกับความเหนื่อยล้าจากการเดินหาบ้านเพื่อนสนิทของแม่  ทำให้ฉันต้องถอดเสื้อคลุมสีครีมตัวนอกออก  เหลือเพียงแต่เสื้อกล้ามสีฟ้าตัวใน  เหงื่อเม็ดใส ๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้านวล  และที่กลางหลังก็ใช่ย่อยมันเปียกชื้นจนเสื้อกล้ามตัวน้อยแนบกับแผ่นหลังเห็นสั ดส่วนของฉันอย่างชัดเจน





    \'254/9  บ้านอมรักษ์\'





    ป้ายบ้านเลขที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าประตูรั้วสีขาว  มองเข้าไปจะเห็นสนามหญ้าค่อนข้างกว้างที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์  มันถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม



    “254/9  บ้านหลังนี้ล่ะมั้ง” ฉันก้มดูที่อยู่ที่แม่จดมาให้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ”เอาวะ..ที่นี่แหละ”  แล้วฉันก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปกดกริ่ง





    ปิ๊งป่อง





    …เงียบไร้วี่แววสิ่งมีชิตในบ้าน…





    ปิ๊งป่อง





    ฉันกรดกริ่งซ้ำอีกครั้งหนึ่ง  ในใจก็นึกกลัว ๆ เหมือนกันไม่รู้ว่ามาบ้านผิดหลังรึเปล่า  หลังจากที่ฉันยืนรออยู่ประมาณ  3  นาทีก็มีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงยีนส์สีซีดเข้าชุดกัน  เดินออกมาจากในบ้านอย่างเร่งรีบ  ฉันมองจากไกล ๆ ก็รู้ได้เลยว่าตาคนนี้หล่อใช่ย่อย  เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน แล้วมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆนี่ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะยะมองฉันแบบนั้น  ในใจมันคิดอย่างนี้  แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปหรอกได้แต่ยืนทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงนั้น



    “เธอมาหาใคร” คำพูดแรกที่ดังออกมากจากปากนายหน้าหล่อคนนั้น



    “เอ่อ…คือ…หนูมาหาป้ายุค่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ ยิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าได้มั้ง   เขากวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า  ทำให้ฉันเริ่มหันมามองตัวเองตาม  ทำไมอ่ะฉันมีอะไรผิดปกติเหรอ



    “เธอชื่อน้ำตาลรึเปล่า”  



    ( - - )( _  _ )( - - )( _ _ )



    “เธอเนี่ยนะยัยน้ำตาล  ที่ตอนเด็ก ๆ อ้วน ๆ ดำ ๆ ชอบถักเปียสองข้าง แล้วก็ชอบวิ่งไล่เตะปิกะจู้ฉันตอนเด็ก ๆ อ่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นทำหน้าแปลกยิ่งกว่าเดิมเป็นล้าน ๆ เท่า เหมือนเจอผีหลอกมางั้นแหละ  แต่เอ๊ะ  นายคนนี้ทำไมรู้จักฉันล่ะ  หรือว่าเป็น



    “พะ…พี่กั้ง O_O” ไม่น่าเชื่อเลยไม่เจอกันไม่กี่ปี หล่อขึ้นจนฉันจำไม่ได้ ฉันขอถอนคำพูดออกมาได้มั้ยเนี่ยที่หลงชมว่าตานี่ดูดี เท่าที่ฉันรู้จักนายนี่เป็นคนที่ลามกที่สุดเท่าที่ฉันจำได้  เมื่อตอนฉันเด็ก ๆ ป้ายุชอบไปเยี่ยมแม่ที่บ้านแล้วพาไอพี่กั้งนี่ไปด้วย  พอนายนี่เจอหน้าฉันเท่านั้นแหละต้องมาดึงผมเปียสวย ๆ ของฉันแล้วก็ชอบวิ่งไล่ถอดกางเกงฉันทุกครั้งที่เจอกัน





    “เออ…พี่เอง^^”     ฉันยกมือไหว้พี่กั้งอย่างนอบน้อมที่ทำไปก็ทำไปอย่างนั้นแหละพอให้เป็นมารยาท     เขาจะได้ว่าฉันไม่ได้ว่าพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอน



    “เขาไปในบ้านก่อนสิ”  พอพูดจบพี่กั้งก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที  ทิ้งในฉันยืนอยู่กับกองสัมภาระกองใหญ่ของฉันโดยไม่คิดจะช่วยถือมันเข้าไปข้างในแม้แต่ชิ้นเดียวพอฉันทัก  เขาก็ตอบกลับมาว่า    ‘ไม่ใช่ธุระ’  ฉันก็เลยต้องค่อย ๆ ลากสัมภาระเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล  ปากก็ด่านายนั่นไปตลอดทาง   …คนอะไรก็ไม่รู้ไร้น้ำใจที่สุด…

























    ฉันนานพอสมควรกว่าจะสามารถจัดการกับข้าวของ ของฉันทั้งหมดให้เรียนร้อย  เสร็จแล้วฉันมาก็นั่งหอบเอาเป็นเอาตายบนโซฟาตัวหนานุ่ม ที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนี้   พี่กั้งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วหันมามองฉันด้วยแววตายิ้ม ๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคู่นี้ที่มองมาทางฉันบ่งบอกเลยว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดี ๆ แน่



    “มองอะไรพี่กั้ง  ไม่เคยเห็นคนสวยรึไง”  ฉันถามกวน ๆ ออกไป



    “เปล่า  พี่ก็แค่คิดอะไรบางอย่างอยู่”พี่กั้งนั้งเอนตัวไปข้างหลังแต่ดวงตากลมโตคู่นั้นก็ยังจับจ้องที่ใบหน้าขาวนวลของฉันอยู่



    “ตาลจะมาอยู่ที่นี่ใช่ป่าว”



    “อือ..แม่บอกให้ตาลมาอยู่กับป้ายุ”  ความจริงฉันก็ไม่อยากมาอยู่ที่นี่หรอก  แต่ฉันดันเอนท์ติดมหาลัยในกรุงเทพฯก็เลยต้องมาอยู่กับป้ายุซึ่งเป็นเพื่อนรักของแม่ที่นี่  เพราะแม่ไม่อยากให้ฉันไปอยู่ที่หอพักกลัวฉันจะใจแตกก่อนเรียนจบน่ะสิ  



    “แล้วลุงพลกับป้ายุอยู่ไหนล่ะตาลยังไม่ได้ไปไหว้เลย”



    “ถ้าจะไหว้คงต้องไปออสเตรเลียแล้วล่ะ”  



    “หา  O_O   ลุงกับป้าอยู่ที่ออสเตรเลีย”  พี่กั้งทำหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วก็จ้องมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา



    “มะ…หมายความว่าตาลต้องอยู่กับพี่กั้งสองต่อสองงั้นเหรอ”  ฉันเริ่มนั่งเก้าอี้ไม่ติดแล้วพอรู้ว่าฉันจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้กับพี่กั้งเพียงสอง ต่อสองเท่านั้น









    \"ทำไม...กลัวพี่ปล้ำตาลเหรอ”  















    “ใครกลัว….ตาลรู้ว่าพี่กั้งไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”  ฮือ ฮือ แม่จ๋าหนูโกหกอีกแล้ว  ความจริงกลัวอีตาพี่กั้งนี่นึกหื่นขึ้นมาจะตาย  คนสวย ๆ อย่างฉันมันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาล่ะนะ (  อิอิอิ  หลงตัวเองมากไปป่าวเนี่ย)







    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อยู่ ๆ พี่กั้งก็ระเบิดหัวเราออกมานั่งท้องหงิกท้องงออยู่บนโซฟาตัวนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับฉัน



    “ดูหน้าเธอสิยัยขี้เหล่  อย่างเธอใครจะไปปล้ำลง  หุ่นก็อย่างกับไม่จิ้มฟัน  สะโพกก็ไม่มี  หน้าอกก็ยั่งกับทีวีจอแบน  ถ้าพี่จะปล้ำตาลนะไปทำกับไม้กระดานเจาะรูยังได้อารมณ์กว่าอีก  ^O^”



    “-_- +++”  (โมโหสุดขีด)



    ฉันนั่งตัวสั่นหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความโกธร  ในใจนี่อยากจะเอามีดมาสับ ๆ  ๆ เจ้าปิกะจู้ของตานี่ให้เป็นชิ้น ๆ แล้วโยนไปให้เป็ดกินซะจริง ๆ   ผีตัวไหนนะมาเจาะปากมาให้ตานี่พูด  ฉันจะไปจับมันมายัดใส่ไหปลาร้าให้เหม็นตายรอบสองไปเลย  โทษฐานที่บังอาจมาดูถูกหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็กของฉัน  เห็นอย่างนี้ฉันซ่อนรูปนะจะบอกให้  ฮึ…  ไม่อยากจะบอกตอนอยู่ที่บ้านนะพวกตัวผู้ตามฉันมาเป็นพรวนเลยล่ะ  ไม่ว่าจะไอดำ ไอแดง ไอด่าง



    “เอาเถอะ”พี่กั้งหยุดหัวเราะแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ขึงขังเป็นการเป็นงาน”ตาลอยู่ที่นี่ งานในบ้านทุกอย่างพี่ก็ยกเป็นหน้าที่ของตาลนะ ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า  ขัดห้องน้ำ  แล้วตาลจะต้องทำกับข้าวให้พี่กินทั้ง 3 มื้อ  ส่วนตอนเย็นก็ต้องรดน้ำต้นไม้ทุกวัน”   พี่กั้งสั่งงานฉันยาวเป็นหางตุ๊กแก  เอ้ย.. หางว่าว  จนฉันจดตามแทบไม่ทันสรุปว่าให้ฉันทำหน้าที่เป็นคนรับใช้นั่นแหละ  ฉันอยากจะท้วงว่าคนสวยอย่างฉันไม่ใช่คนใช้นะ  แต่คำที่แม่สั่งสอนฉันว่ามาอาศัยอยู่บ้านเขาต้องทำงานเป็นการตอบแทน คนสวยอย่างฉันก็เลยต้องก้มหน้าก้มตารับคำไป TT^TT



    “แล้วอีกอย่างมีงานอีกอย่างหนึ่งที่ตาลจำต้องทำ”รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าคมเข้มของพี่กั้งทำให้ฉันใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก   พี่กั้งค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบที่ข้าง ๆ หูฉันเบา ๆ งานที่พี่กั้งบอกกับฉันทำให้ขนฉันตั้งขึ้นทุกอณูขุมขนเลยทีเดียว











    ”ขัดหลังให้ตอนที่พี่กั้งอาบน้ำเนี่ยนะO_O”







    ฉันร้องเสียงหลงจะให้สาวบริสุทธ์อย่างฉันไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าแม่รู้เข้าได้หัวใจวายตายแน่ ๆ  



    “ ^_^ ”



    “ไม่…ไม่เลย”ฉันพลักพี่กั้งให้ออกไปไกล ๆ ตัวฉันแล้วส่ายหน้าจนหัวแทบจะหลุดจากคอเป็นผีกระสือไส้หายอยู่แล้ว”หน้าที่นี้ตาลปฏิเสธ…ไม่ทำเด็ดขาด”





    “เริ่มคืนนี้เลยนะ”  พี่กั้งไม่ฟังคำปฏิเสธระคนเสียงด่าที่ฉันตะโกนสมทบกันไป  กลับเดินผิวปากขึ้นไปข้างบนอย่างอารมณ์ดีซะอีก













    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*







    “อื้อหือ….กับข้าวหน้าอร่อยจัง”  อาหารน่าตาน่ากินหลายจานถูกยกมาวางตรงหน้าของกั้ง ทั้งแกงจืดปลาหมึกยัดไส้  ไข่เจียวหมูสับ  ผัดผักรวมมิตร แล้วก็น้ำพริกปลาทูที่อยู่เคียงกับผักสดหลายชนิด  แน่นอนว่ากับข้าวทั้งหมดนี่ฝีมือคนสวยอย่างฉันเองแหละ



    “จะกินล่ะน้า^^”  



    แล้วเราทั้งคู่ก็สวาปามอาหารทั้งหมดจนหมดเกลี้ยง  พี่กั้งชมไม่ขาดปากว่ากับข้าวอร่อยมาก  หลังจากกินอิ่มแล้วฉันก็ต้องมากเก็บจานไปล้าง…คนเดียว…. โดยที่เจ้าของบ้านไม่คิดจะช่วยฉันเก็บจานเลยซักนิดเดียว   ไม่รู้เห็นฉันเป็นแขกบ้างรึเปล่า  แถมส่งสายตาล้อเลียนมาให้ฉันอีก







    กว่าฉันจะเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว  ความเหนื่อยล้าจากการทำงานบวกกับการเดินทางไกล ๆ ทำให้ฉันยืนทรงตัวแทบจะไม่อยู่  ฉันเหลือบไปเห็นโซฟาตัวนุ่มอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกะว่าจะเดินไปนั่งพักเหนื่อยซะหน่อย  



    “น้ำตาล”  พี่กั้งเรียกฉันขณะที่ตัวเองกำลังเดินลงบันไดมา  ฉันหันไปมองตามเสียงที่เรียก   พอหันไปสบตากับเจ้าของเสียงเรียกเท่านั้นแหละใบหน้าที่ขาวซีดของฉันก็แดงปรี๊ดขึ้นทันที  พี่กั้งที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยท่อนบนเผยผิวขาวเนียนบริเวณหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ บ่งบอกว่าได้ออกกำลังกายมาเป็นอย่างดีค่อย ๆ เดินตรงมาที่ฉัน    ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย   ฉันอยากจะวิ่งหนีเขาไปให้ไกล ๆ แต่ขาเจ้ากรรมทำไมมันวิ่งไม่ออกก็ไม่รู้ TT^TT  แม่จ๋าช่วยหนูด้วย…….





    “เราไปทำอะไรที่มันสนุก ๆ กันเถอะตาลจ๋า”แล้วพี่กั้งก็ฉุดร่างที่แสนจะบอบบางฉันขึ้นไปโดยเร็วไม่ว่าฉันจะขัดขืน จะเตะ จะต่อยฉันยังไงก็ไม่สามารถหลุดจากแรงอันมหาศาลนั่นได้เลย



    “แง้  แง้ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   ไม่นะปล่อยตาลเดี๋ยวนี้นะ”

























    “อ่าส์…อย่างนั้นแหละ”









    เสียงของพี่กั้งครางออกมาอย่างมีความสุข  ขณะที่น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย



    “แรงอีกนิดนึง…อย่างนั้น…อย่างนั้นแหละ”





    “พอรึยังตาลเมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้วนะ”





    “เดี๋ยวก่อนสิกำลังสบายเลย…อือ…ลงไปข้างล่างอีกหน่อย…แรง ๆ เลยนะ”



    “ตาลเนี่ยเก่งจัง….เคยถูหลังให้ใครมาก่อนรึเปล่าเนี่ย”



    “ไม่เคย”  



    ฉันถูหลังของพี่กั้งไปสลับกับหน้าแดงระเรื่อขึ้นเป็นพัก ๆ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้า  ถึงจะเปลือยแค่ช่วงบนก็เถอะ  บ็อกเซอร์ตัวที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้ปิดอะไรมากนักหรอกนะ

      



    “พี่ยังจำได้เลยนะว่าตอนเด็ก ๆ น่ะตาลชอบชวนพี่ไปโดดน้ำคลองหลังบ้าน  แล้วก็ให้พี่ขัดขี้ไคลให้ประจำ”พี่กั้งพูดขึ้นแล้วหันมามองหันเหมือนกับจะถามให้แน่ใจว่าฉันยังจำได้รึเปล่า



    “   -_-   “







    สาด !



    ฉันก็แถมน้ำร้อนราดตัวให้เป็นการตบท้ายหลังจากที่ถูหลังเสร็จ  พี่กั้งลุขึ้นพรวดแล้วร้องเหมือนกับโดนใครเอามีดมากรีดที่ผิวขาวเนียนของเขา    มือไม้ก็ลูบไปตามหน้าอกและแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าเหมือนจะบรรเทาความปวดแสบปวดร้อนให้บรรเทาลงไปบ้าง





    “เฮ้ย….ทำอะไรเนี่ยยัยบ๊อง”  พี่กั้งพูดพลางใช้มือลูบตามลำตัวและค่อย ๆ ไล่มือต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึง ที่น้องชายของเขา



    ”สุกกันพอดี”





    “สมน้ำหน้า    แบร่ …”







    ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากห้องน้ำทันที  ขืนอยู่ต่อก็ไม่รู้จะเกิดอะไรกับฉันอีก    ถ้าแม่รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักต้องมาทำอะไรแบบนี้คงต้องลมจับแน่ ๆ ครั้นจะไปอยู่ที่อื่นก็ต้องเปลืองค่าเช่าหอ    ค่าอาหาร ฉันไม่ได้งกนะแค่ต้องการประหยัดเงินเอาไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นต่างหากล่ะ   ช่างเถอะ…ทนอยู่ที่นี่ไปสักพักพอป้ายุกลับมาตานี่คงไม่กล้าใช้ฉันให้ไปถูหลังให้หรอก



















    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*





    ทางด้านกั้งเขามองน้ำตาลที่วิ่งออกไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  ยัยนี่แสบกว่าที่เขาคิด  แต่ก็ความรู้สึกบางอย่างเขามาสะกิดที่หัวใจของ   เขาตั้งแต่แรกที่ได้พบกับน้ำตาล(หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี)  ความรู้สึกที่อยากจะไล่น้ำตาลออกจากบ้านมันหายไป  ความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  บางทีอาจจะเป็นความผูกพันธ์ที่เคยสนิทกันตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เป็นได้  











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×