ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พบกันครั้งแรก
แชะ  แชะ  แชะ
เสียงชัตเตอร์จากกล้องสีดำตัวใหญ่  ดูเหมาะสมกับช่างภาพหนุ่มร่างสูงที่ถือมันอยู่  เขากำลังถ่ายภาพนางแบบสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อย(ปิดข้างบนแทบไม่มิด  เล่นเอาตากล้องเลือดกำเดาเกือบไหล)  เธอยิ้วยั่วยวนช่างภาพหนุ่มเหมือนกับเชิญชวนให้เขาเข้าไปสัมผัสกับเรือนร่างที่แสนจะเซ็กซี่ของเธอ  ถ้าจะดูกันดี ๆ แล้ว ช่างภาพหนุ่มคนนี้ดูหล่อเหลากว่าดารานายแบบบางคนซะอีก  ร่างสูงใหญ่ อกผายไหล่ผึ่ง  ผิวขาวเนียนราวอิสตรี  คิ้วขาวเข้ม จมูกโด่ง  ใบหน้าเรียวได้รูป  ไม่แปลกเลยที่มีหญิงสาวมากมายมาคอยสยบแทบเท้าของเขาอยู่เนืองๆ 
“เรียบร้อยแล้วครับน้องพอลลีน  ”  ช่างภาพหนุ่มบอกกับพอลลีนนางแบบสาวสวยก่อนหันไปเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน  แต่นางแบบสาวสวยก็ยังไม่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำบอกของสไตลิสทันที  เธอกลับเดินเข้าไปกระซิบที่ข้าง ๆ หูของช่างภาพหนุ่มอย่างนิ่มนวลก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสตูดิโอ
“คืนนี้พอลลีนว่างนะคะพี่กั้ง”  เธอยิ้มให้กับช่างภาพหนุ่มอย่างมีเลศนัย
“ครับ  ถ้ายังไงแล้วเดี๋ยวพี่ไปหาน้องพอลลีนก็แล้วกัน” สายตาที่ทั้งสองสื่อถึงกันบอกได้เลยว่าคืนนี้สนุกแน่ 
ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า ! ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า ! 
เสียงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของช่างภาพหนุ่มดังขึ้น  เบอร์ที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์แทบจะทำให้เขาตัดสายทิ้ง  แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับมัน
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไอกั้ง ไอลูกทรพี  ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ฉัน “เสียงตะโกนดังดังออกมาจากโทรศัพท์จนขี้หูของเขาแทบออกมาเต้นระบำเสียงของแม่เขาดังประมาณว่ามีเครื่องขยายเสียงตั้งรววมกันอยู่ตรงนั้นประมาณ 10 เครื่องเห็นจะได้
“หือแม่  เบา ๆ ก็ได้ผมได้ยินหรอกน่า”ชายหนุ่มปรามแม่ของเขาเบา ๆ หลังจากที่สังเกตว่าทุกคนในสตูดิโอพากันจ้องมองเขาเป็นตาเดียว “ผมทำงานอยู่ครับ”
“งานบนเตียงแกน่ะสิ”เสียงตามสายโทรศัพท์ฟังดูประชดนิด ๆ”เมื่อเช้านี้ฉันโทรไปหาแกผู้หญิงที่ไหนมันรับโทรศัพท์แกหา”
“อ๋อ..น้องฟ้ามั้งแม่”
“เออนั่นแหละ  มันบอกว่ามันเป็นเมียแก”
“หา O_O”ชายหนุ่มรู้สึกตะลึงจากสิ่งที่แม่เขาบอก”ผมยังไม่มีเมียนะแม่”เขารีบแก้ตัวกับแม่เป็นพัลวัน  และตัวเขาเองก็ยังไม่คิดที่จะมีครอบครัวผู้หญิงที่คบ ๆ อยู่ตอนนี้ก็เป็นแค่ของแก้เหงาสำหรับเขาเท่านั้น
“เออฉันก็ไม่รับมันมาเป็นลูกสะใภ้ฉันหรอก  แล้วฉันก็หาทางแก้ความสำส่อนของแกไว้แล้วด้วย”  คิ้วหนาของเขาเริ่มขมวดกันเล็กน้อย  ทางแก้ปัญหาที่แม่เขาเคยได้ผลเลยสักครั้ง  มีแต่ยิ่งเพิ่มให้มันหนักขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง  แล้วเขาก็ไม่เห็นว่าเขาเองจะสำส่อนตรงไหน ก็แค่ไปกินข้าว ฟังเพลง แล้วก็นอนกับผู้หญิงไม่ค่อยซ้ำหน้ากันเท่านั้น
“ เดี๋ยววันนี้หนูน้ำตาลเขาจะไปที่บ้านแก  แกไปคอยรับเขาด้วยก็แล้วกัน”
“ยัยน้ำตาลลูกป้านีน่ะเหรอครับ”
“ใช่”เสียงตอบรับจากแม่ของเขาทำให้เขาไม่พอใจมาก”และก็จะอยู่จนกว่าเขาจะเรียนจบอาจจะประมาณ 2-3 ปี เห็นจะได้
“ไม่ได้นะ  O_O ..ยัยนั่นจะมาอยู่กับผมได้ยังไงผมเป็นผู้ชายนะ”
“ทำไมจะไม่ได้ทีแกยังเอาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ไปนอนด้วย  แล้วทำไมฉันจะให้หนูน้ำตาลไปอยู่ด้วยไม่ได้”
“ไม่รู้แหละยังไงผมก็ไม่ยอมให้ยัยนั่นมาอยู่ด้วยเด็ดขาด”  ไม่ว่าจะยังไงกั้งก็ไม่ยอมให้น้ำตาลมาอยู่ด้วยเด็ดขาด  ทำอย่างนั้นสาว ๆ ของเขาก็เข้าใจผิดกกันพอดี
“ไม่รู้เหมือนกันยังไงหนูน้ำตาลก็ต้องอยู่ที่นั่น  ถ้ากลับจากออสเตรเลียแล้วไม่เห็นหนูน้ำตาลอยู่ที่บ้านฉันจะตัดแกออกจากมรดกแล้วยกให้หนูน้ำตาลคนเดียว”
“แม่ TOT”  ไม่ทันที่กั้งจะพูดอะไรออกแม่ของเขาก็วางหูโทรศัพท์ไปแล้ว  ทำให้เขาต้องนั้งกุมขมับปวดหัวกับเรื่องที่แม่ยัดเยียดมาให้เขา  แต่มีบางสิ่งบางอย่างแว๊บเขามาในความคิดของเขา  สิ่งที่จะให้เขาไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกับยัยน้ำตาลนั่น และไม่ต้องถูกตัดออกจากกองมรดกแต่อย่างใด  เขารีบบึ่งรถบีเอ็มดับบิวสีดำคันเก่งของเขากลับไปบ้านเพื่อรอรับน้ำตาลทันที
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
อากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวบวกกับความเหนื่อยล้าจากการเดินหาบ้านเพื่อนสนิทของแม่  ทำให้ฉันต้องถอดเสื้อคลุมสีครีมตัวนอกออก  เหลือเพียงแต่เสื้อกล้ามสีฟ้าตัวใน  เหงื่อเม็ดใส ๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้านวล  และที่กลางหลังก็ใช่ย่อยมันเปียกชื้นจนเสื้อกล้ามตัวน้อยแนบกับแผ่นหลังเห็นสั ดส่วนของฉันอย่างชัดเจน
\'254/9  บ้านอมรักษ์\'
ป้ายบ้านเลขที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าประตูรั้วสีขาว  มองเข้าไปจะเห็นสนามหญ้าค่อนข้างกว้างที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์  มันถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
“254/9  บ้านหลังนี้ล่ะมั้ง” ฉันก้มดูที่อยู่ที่แม่จดมาให้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ”เอาวะ..ที่นี่แหละ”  แล้วฉันก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปกดกริ่ง
ปิ๊งป่อง
เงียบไร้วี่แววสิ่งมีชิตในบ้าน
ปิ๊งป่อง
ฉันกรดกริ่งซ้ำอีกครั้งหนึ่ง  ในใจก็นึกกลัว ๆ เหมือนกันไม่รู้ว่ามาบ้านผิดหลังรึเปล่า  หลังจากที่ฉันยืนรออยู่ประมาณ  3  นาทีก็มีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงยีนส์สีซีดเข้าชุดกัน  เดินออกมาจากในบ้านอย่างเร่งรีบ  ฉันมองจากไกล ๆ ก็รู้ได้เลยว่าตาคนนี้หล่อใช่ย่อย  เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน แล้วมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆนี่ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะยะมองฉันแบบนั้น  ในใจมันคิดอย่างนี้  แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปหรอกได้แต่ยืนทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงนั้น
“เธอมาหาใคร” คำพูดแรกที่ดังออกมากจากปากนายหน้าหล่อคนนั้น
“เอ่อ คือ หนูมาหาป้ายุค่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ ยิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าได้มั้ง  เขากวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า  ทำให้ฉันเริ่มหันมามองตัวเองตาม  ทำไมอ่ะฉันมีอะไรผิดปกติเหรอ
“เธอชื่อน้ำตาลรึเปล่า” 
( - - )( _  _ )( - - )( _ _ )
“เธอเนี่ยนะยัยน้ำตาล  ที่ตอนเด็ก ๆ อ้วน ๆ ดำ ๆ ชอบถักเปียสองข้าง แล้วก็ชอบวิ่งไล่เตะปิกะจู้ฉันตอนเด็ก ๆ อ่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นทำหน้าแปลกยิ่งกว่าเดิมเป็นล้าน ๆ เท่า เหมือนเจอผีหลอกมางั้นแหละ  แต่เอ๊ะ  นายคนนี้ทำไมรู้จักฉันล่ะ  หรือว่าเป็น
“พะ พี่กั้ง O_O” ไม่น่าเชื่อเลยไม่เจอกันไม่กี่ปี หล่อขึ้นจนฉันจำไม่ได้ ฉันขอถอนคำพูดออกมาได้มั้ยเนี่ยที่หลงชมว่าตานี่ดูดี เท่าที่ฉันรู้จักนายนี่เป็นคนที่ลามกที่สุดเท่าที่ฉันจำได้  เมื่อตอนฉันเด็ก ๆ ป้ายุชอบไปเยี่ยมแม่ที่บ้านแล้วพาไอพี่กั้งนี่ไปด้วย  พอนายนี่เจอหน้าฉันเท่านั้นแหละต้องมาดึงผมเปียสวย ๆ ของฉันแล้วก็ชอบวิ่งไล่ถอดกางเกงฉันทุกครั้งที่เจอกัน
“เออ พี่เอง^^”    ฉันยกมือไหว้พี่กั้งอย่างนอบน้อมที่ทำไปก็ทำไปอย่างนั้นแหละพอให้เป็นมารยาท    เขาจะได้ว่าฉันไม่ได้ว่าพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอน
“เขาไปในบ้านก่อนสิ”  พอพูดจบพี่กั้งก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที  ทิ้งในฉันยืนอยู่กับกองสัมภาระกองใหญ่ของฉันโดยไม่คิดจะช่วยถือมันเข้าไปข้างในแม้แต่ชิ้นเดียวพอฉันทัก  เขาก็ตอบกลับมาว่า    ‘ไม่ใช่ธุระ’  ฉันก็เลยต้องค่อย ๆ ลากสัมภาระเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล  ปากก็ด่านายนั่นไปตลอดทาง  คนอะไรก็ไม่รู้ไร้น้ำใจที่สุด
ฉันนานพอสมควรกว่าจะสามารถจัดการกับข้าวของ ของฉันทั้งหมดให้เรียนร้อย  เสร็จแล้วฉันมาก็นั่งหอบเอาเป็นเอาตายบนโซฟาตัวหนานุ่ม ที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนี้  พี่กั้งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วหันมามองฉันด้วยแววตายิ้ม ๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคู่นี้ที่มองมาทางฉันบ่งบอกเลยว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดี ๆ แน่
“มองอะไรพี่กั้ง  ไม่เคยเห็นคนสวยรึไง”  ฉันถามกวน ๆ ออกไป
“เปล่า  พี่ก็แค่คิดอะไรบางอย่างอยู่”พี่กั้งนั้งเอนตัวไปข้างหลังแต่ดวงตากลมโตคู่นั้นก็ยังจับจ้องที่ใบหน้าขาวนวลของฉันอยู่
“ตาลจะมาอยู่ที่นี่ใช่ป่าว”
“อือ..แม่บอกให้ตาลมาอยู่กับป้ายุ”  ความจริงฉันก็ไม่อยากมาอยู่ที่นี่หรอก  แต่ฉันดันเอนท์ติดมหาลัยในกรุงเทพฯก็เลยต้องมาอยู่กับป้ายุซึ่งเป็นเพื่อนรักของแม่ที่นี่  เพราะแม่ไม่อยากให้ฉันไปอยู่ที่หอพักกลัวฉันจะใจแตกก่อนเรียนจบน่ะสิ 
“แล้วลุงพลกับป้ายุอยู่ไหนล่ะตาลยังไม่ได้ไปไหว้เลย”
“ถ้าจะไหว้คงต้องไปออสเตรเลียแล้วล่ะ” 
“หา  O_O  ลุงกับป้าอยู่ที่ออสเตรเลีย”  พี่กั้งทำหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วก็จ้องมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา
“มะ หมายความว่าตาลต้องอยู่กับพี่กั้งสองต่อสองงั้นเหรอ”  ฉันเริ่มนั่งเก้าอี้ไม่ติดแล้วพอรู้ว่าฉันจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้กับพี่กั้งเพียงสอง ต่อสองเท่านั้น
\"ทำไม...กลัวพี่ปล้ำตาลเหรอ” 
“ใครกลัว .ตาลรู้ว่าพี่กั้งไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”  ฮือ ฮือ แม่จ๋าหนูโกหกอีกแล้ว  ความจริงกลัวอีตาพี่กั้งนี่นึกหื่นขึ้นมาจะตาย  คนสวย ๆ อย่างฉันมันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาล่ะนะ (  อิอิอิ  หลงตัวเองมากไปป่าวเนี่ย)
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อยู่ ๆ พี่กั้งก็ระเบิดหัวเราออกมานั่งท้องหงิกท้องงออยู่บนโซฟาตัวนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับฉัน
“ดูหน้าเธอสิยัยขี้เหล่  อย่างเธอใครจะไปปล้ำลง  หุ่นก็อย่างกับไม่จิ้มฟัน  สะโพกก็ไม่มี  หน้าอกก็ยั่งกับทีวีจอแบน  ถ้าพี่จะปล้ำตาลนะไปทำกับไม้กระดานเจาะรูยังได้อารมณ์กว่าอีก  ^O^”
“-_- +++”  (โมโหสุดขีด)
ฉันนั่งตัวสั่นหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความโกธร  ในใจนี่อยากจะเอามีดมาสับ ๆ  ๆ เจ้าปิกะจู้ของตานี่ให้เป็นชิ้น ๆ แล้วโยนไปให้เป็ดกินซะจริง ๆ  ผีตัวไหนนะมาเจาะปากมาให้ตานี่พูด  ฉันจะไปจับมันมายัดใส่ไหปลาร้าให้เหม็นตายรอบสองไปเลย  โทษฐานที่บังอาจมาดูถูกหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็กของฉัน  เห็นอย่างนี้ฉันซ่อนรูปนะจะบอกให้  ฮึ   ไม่อยากจะบอกตอนอยู่ที่บ้านนะพวกตัวผู้ตามฉันมาเป็นพรวนเลยล่ะ  ไม่ว่าจะไอดำ ไอแดง ไอด่าง
“เอาเถอะ”พี่กั้งหยุดหัวเราะแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ขึงขังเป็นการเป็นงาน”ตาลอยู่ที่นี่ งานในบ้านทุกอย่างพี่ก็ยกเป็นหน้าที่ของตาลนะ ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า  ขัดห้องน้ำ  แล้วตาลจะต้องทำกับข้าวให้พี่กินทั้ง 3 มื้อ  ส่วนตอนเย็นก็ต้องรดน้ำต้นไม้ทุกวัน”  พี่กั้งสั่งงานฉันยาวเป็นหางตุ๊กแก  เอ้ย.. หางว่าว  จนฉันจดตามแทบไม่ทันสรุปว่าให้ฉันทำหน้าที่เป็นคนรับใช้นั่นแหละ  ฉันอยากจะท้วงว่าคนสวยอย่างฉันไม่ใช่คนใช้นะ  แต่คำที่แม่สั่งสอนฉันว่ามาอาศัยอยู่บ้านเขาต้องทำงานเป็นการตอบแทน คนสวยอย่างฉันก็เลยต้องก้มหน้าก้มตารับคำไป TT^TT
“แล้วอีกอย่างมีงานอีกอย่างหนึ่งที่ตาลจำต้องทำ”รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าคมเข้มของพี่กั้งทำให้ฉันใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก  พี่กั้งค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบที่ข้าง ๆ หูฉันเบา ๆ งานที่พี่กั้งบอกกับฉันทำให้ขนฉันตั้งขึ้นทุกอณูขุมขนเลยทีเดียว
”ขัดหลังให้ตอนที่พี่กั้งอาบน้ำเนี่ยนะO_O”
ฉันร้องเสียงหลงจะให้สาวบริสุทธ์อย่างฉันไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าแม่รู้เข้าได้หัวใจวายตายแน่ ๆ 
“ ^_^ ”
“ไม่ ไม่เลย”ฉันพลักพี่กั้งให้ออกไปไกล ๆ ตัวฉันแล้วส่ายหน้าจนหัวแทบจะหลุดจากคอเป็นผีกระสือไส้หายอยู่แล้ว”หน้าที่นี้ตาลปฏิเสธ ไม่ทำเด็ดขาด”
“เริ่มคืนนี้เลยนะ”  พี่กั้งไม่ฟังคำปฏิเสธระคนเสียงด่าที่ฉันตะโกนสมทบกันไป  กลับเดินผิวปากขึ้นไปข้างบนอย่างอารมณ์ดีซะอีก
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
“อื้อหือ .กับข้าวหน้าอร่อยจัง”  อาหารน่าตาน่ากินหลายจานถูกยกมาวางตรงหน้าของกั้ง ทั้งแกงจืดปลาหมึกยัดไส้  ไข่เจียวหมูสับ  ผัดผักรวมมิตร แล้วก็น้ำพริกปลาทูที่อยู่เคียงกับผักสดหลายชนิด  แน่นอนว่ากับข้าวทั้งหมดนี่ฝีมือคนสวยอย่างฉันเองแหละ
“จะกินล่ะน้า^^” 
แล้วเราทั้งคู่ก็สวาปามอาหารทั้งหมดจนหมดเกลี้ยง  พี่กั้งชมไม่ขาดปากว่ากับข้าวอร่อยมาก  หลังจากกินอิ่มแล้วฉันก็ต้องมากเก็บจานไปล้าง คนเดียว . โดยที่เจ้าของบ้านไม่คิดจะช่วยฉันเก็บจานเลยซักนิดเดียว  ไม่รู้เห็นฉันเป็นแขกบ้างรึเปล่า  แถมส่งสายตาล้อเลียนมาให้ฉันอีก
กว่าฉันจะเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว  ความเหนื่อยล้าจากการทำงานบวกกับการเดินทางไกล ๆ ทำให้ฉันยืนทรงตัวแทบจะไม่อยู่  ฉันเหลือบไปเห็นโซฟาตัวนุ่มอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกะว่าจะเดินไปนั่งพักเหนื่อยซะหน่อย 
“น้ำตาล”  พี่กั้งเรียกฉันขณะที่ตัวเองกำลังเดินลงบันไดมา  ฉันหันไปมองตามเสียงที่เรียก  พอหันไปสบตากับเจ้าของเสียงเรียกเท่านั้นแหละใบหน้าที่ขาวซีดของฉันก็แดงปรี๊ดขึ้นทันที  พี่กั้งที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยท่อนบนเผยผิวขาวเนียนบริเวณหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ บ่งบอกว่าได้ออกกำลังกายมาเป็นอย่างดีค่อย ๆ เดินตรงมาที่ฉัน    ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย  ฉันอยากจะวิ่งหนีเขาไปให้ไกล ๆ แต่ขาเจ้ากรรมทำไมมันวิ่งไม่ออกก็ไม่รู้ TT^TT  แม่จ๋าช่วยหนูด้วย .
“เราไปทำอะไรที่มันสนุก ๆ กันเถอะตาลจ๋า”แล้วพี่กั้งก็ฉุดร่างที่แสนจะบอบบางฉันขึ้นไปโดยเร็วไม่ว่าฉันจะขัดขืน จะเตะ จะต่อยฉันยังไงก็ไม่สามารถหลุดจากแรงอันมหาศาลนั่นได้เลย
“แง้  แง้ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไม่นะปล่อยตาลเดี๋ยวนี้นะ”
“อ่าส์ อย่างนั้นแหละ”
เสียงของพี่กั้งครางออกมาอย่างมีความสุข  ขณะที่น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“แรงอีกนิดนึง อย่างนั้น อย่างนั้นแหละ”
“พอรึยังตาลเมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้วนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิกำลังสบายเลย อือ ลงไปข้างล่างอีกหน่อย แรง ๆ เลยนะ”
“ตาลเนี่ยเก่งจัง .เคยถูหลังให้ใครมาก่อนรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่เคย” 
ฉันถูหลังของพี่กั้งไปสลับกับหน้าแดงระเรื่อขึ้นเป็นพัก ๆ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้า  ถึงจะเปลือยแค่ช่วงบนก็เถอะ  บ็อกเซอร์ตัวที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้ปิดอะไรมากนักหรอกนะ
 
“พี่ยังจำได้เลยนะว่าตอนเด็ก ๆ น่ะตาลชอบชวนพี่ไปโดดน้ำคลองหลังบ้าน  แล้วก็ให้พี่ขัดขี้ไคลให้ประจำ”พี่กั้งพูดขึ้นแล้วหันมามองหันเหมือนกับจะถามให้แน่ใจว่าฉันยังจำได้รึเปล่า
“  -_-  “
สาด !
ฉันก็แถมน้ำร้อนราดตัวให้เป็นการตบท้ายหลังจากที่ถูหลังเสร็จ  พี่กั้งลุขึ้นพรวดแล้วร้องเหมือนกับโดนใครเอามีดมากรีดที่ผิวขาวเนียนของเขา    มือไม้ก็ลูบไปตามหน้าอกและแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าเหมือนจะบรรเทาความปวดแสบปวดร้อนให้บรรเทาลงไปบ้าง
“เฮ้ย .ทำอะไรเนี่ยยัยบ๊อง”  พี่กั้งพูดพลางใช้มือลูบตามลำตัวและค่อย ๆ ไล่มือต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึง ที่น้องชายของเขา
”สุกกันพอดี”
“สมน้ำหน้า    แบร่ ”
ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากห้องน้ำทันที  ขืนอยู่ต่อก็ไม่รู้จะเกิดอะไรกับฉันอีก    ถ้าแม่รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักต้องมาทำอะไรแบบนี้คงต้องลมจับแน่ ๆ ครั้นจะไปอยู่ที่อื่นก็ต้องเปลืองค่าเช่าหอ    ค่าอาหาร ฉันไม่ได้งกนะแค่ต้องการประหยัดเงินเอาไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นต่างหากล่ะ  ช่างเถอะ ทนอยู่ที่นี่ไปสักพักพอป้ายุกลับมาตานี่คงไม่กล้าใช้ฉันให้ไปถูหลังให้หรอก
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ทางด้านกั้งเขามองน้ำตาลที่วิ่งออกไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  ยัยนี่แสบกว่าที่เขาคิด  แต่ก็ความรู้สึกบางอย่างเขามาสะกิดที่หัวใจของ  เขาตั้งแต่แรกที่ได้พบกับน้ำตาล(หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี)  ความรู้สึกที่อยากจะไล่น้ำตาลออกจากบ้านมันหายไป  ความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  บางทีอาจจะเป็นความผูกพันธ์ที่เคยสนิทกันตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เป็นได้ 
เสียงชัตเตอร์จากกล้องสีดำตัวใหญ่  ดูเหมาะสมกับช่างภาพหนุ่มร่างสูงที่ถือมันอยู่  เขากำลังถ่ายภาพนางแบบสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อย(ปิดข้างบนแทบไม่มิด  เล่นเอาตากล้องเลือดกำเดาเกือบไหล)  เธอยิ้วยั่วยวนช่างภาพหนุ่มเหมือนกับเชิญชวนให้เขาเข้าไปสัมผัสกับเรือนร่างที่แสนจะเซ็กซี่ของเธอ  ถ้าจะดูกันดี ๆ แล้ว ช่างภาพหนุ่มคนนี้ดูหล่อเหลากว่าดารานายแบบบางคนซะอีก  ร่างสูงใหญ่ อกผายไหล่ผึ่ง  ผิวขาวเนียนราวอิสตรี  คิ้วขาวเข้ม จมูกโด่ง  ใบหน้าเรียวได้รูป  ไม่แปลกเลยที่มีหญิงสาวมากมายมาคอยสยบแทบเท้าของเขาอยู่เนืองๆ 
“เรียบร้อยแล้วครับน้องพอลลีน  ”  ช่างภาพหนุ่มบอกกับพอลลีนนางแบบสาวสวยก่อนหันไปเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน  แต่นางแบบสาวสวยก็ยังไม่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตามคำบอกของสไตลิสทันที  เธอกลับเดินเข้าไปกระซิบที่ข้าง ๆ หูของช่างภาพหนุ่มอย่างนิ่มนวลก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสตูดิโอ
“คืนนี้พอลลีนว่างนะคะพี่กั้ง”  เธอยิ้มให้กับช่างภาพหนุ่มอย่างมีเลศนัย
“ครับ  ถ้ายังไงแล้วเดี๋ยวพี่ไปหาน้องพอลลีนก็แล้วกัน” สายตาที่ทั้งสองสื่อถึงกันบอกได้เลยว่าคืนนี้สนุกแน่ 
ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า ! ติ๊ดชิ่ง ตาลาล้า ! 
เสียงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของช่างภาพหนุ่มดังขึ้น  เบอร์ที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์แทบจะทำให้เขาตัดสายทิ้ง  แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจรับมัน
“สวัสดีครับคุณแม่”
“ไอกั้ง ไอลูกทรพี  ทำไมแกไม่รับโทรศัพท์ฉัน “เสียงตะโกนดังดังออกมาจากโทรศัพท์จนขี้หูของเขาแทบออกมาเต้นระบำเสียงของแม่เขาดังประมาณว่ามีเครื่องขยายเสียงตั้งรววมกันอยู่ตรงนั้นประมาณ 10 เครื่องเห็นจะได้
“หือแม่  เบา ๆ ก็ได้ผมได้ยินหรอกน่า”ชายหนุ่มปรามแม่ของเขาเบา ๆ หลังจากที่สังเกตว่าทุกคนในสตูดิโอพากันจ้องมองเขาเป็นตาเดียว “ผมทำงานอยู่ครับ”
“งานบนเตียงแกน่ะสิ”เสียงตามสายโทรศัพท์ฟังดูประชดนิด ๆ”เมื่อเช้านี้ฉันโทรไปหาแกผู้หญิงที่ไหนมันรับโทรศัพท์แกหา”
“อ๋อ..น้องฟ้ามั้งแม่”
“เออนั่นแหละ  มันบอกว่ามันเป็นเมียแก”
“หา O_O”ชายหนุ่มรู้สึกตะลึงจากสิ่งที่แม่เขาบอก”ผมยังไม่มีเมียนะแม่”เขารีบแก้ตัวกับแม่เป็นพัลวัน  และตัวเขาเองก็ยังไม่คิดที่จะมีครอบครัวผู้หญิงที่คบ ๆ อยู่ตอนนี้ก็เป็นแค่ของแก้เหงาสำหรับเขาเท่านั้น
“เออฉันก็ไม่รับมันมาเป็นลูกสะใภ้ฉันหรอก  แล้วฉันก็หาทางแก้ความสำส่อนของแกไว้แล้วด้วย”  คิ้วหนาของเขาเริ่มขมวดกันเล็กน้อย  ทางแก้ปัญหาที่แม่เขาเคยได้ผลเลยสักครั้ง  มีแต่ยิ่งเพิ่มให้มันหนักขึ้นกว่าเดิมทุกครั้ง  แล้วเขาก็ไม่เห็นว่าเขาเองจะสำส่อนตรงไหน ก็แค่ไปกินข้าว ฟังเพลง แล้วก็นอนกับผู้หญิงไม่ค่อยซ้ำหน้ากันเท่านั้น
“ เดี๋ยววันนี้หนูน้ำตาลเขาจะไปที่บ้านแก  แกไปคอยรับเขาด้วยก็แล้วกัน”
“ยัยน้ำตาลลูกป้านีน่ะเหรอครับ”
“ใช่”เสียงตอบรับจากแม่ของเขาทำให้เขาไม่พอใจมาก”และก็จะอยู่จนกว่าเขาจะเรียนจบอาจจะประมาณ 2-3 ปี เห็นจะได้
“ไม่ได้นะ  O_O ..ยัยนั่นจะมาอยู่กับผมได้ยังไงผมเป็นผู้ชายนะ”
“ทำไมจะไม่ได้ทีแกยังเอาผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ไปนอนด้วย  แล้วทำไมฉันจะให้หนูน้ำตาลไปอยู่ด้วยไม่ได้”
“ไม่รู้แหละยังไงผมก็ไม่ยอมให้ยัยนั่นมาอยู่ด้วยเด็ดขาด”  ไม่ว่าจะยังไงกั้งก็ไม่ยอมให้น้ำตาลมาอยู่ด้วยเด็ดขาด  ทำอย่างนั้นสาว ๆ ของเขาก็เข้าใจผิดกกันพอดี
“ไม่รู้เหมือนกันยังไงหนูน้ำตาลก็ต้องอยู่ที่นั่น  ถ้ากลับจากออสเตรเลียแล้วไม่เห็นหนูน้ำตาลอยู่ที่บ้านฉันจะตัดแกออกจากมรดกแล้วยกให้หนูน้ำตาลคนเดียว”
“แม่ TOT”  ไม่ทันที่กั้งจะพูดอะไรออกแม่ของเขาก็วางหูโทรศัพท์ไปแล้ว  ทำให้เขาต้องนั้งกุมขมับปวดหัวกับเรื่องที่แม่ยัดเยียดมาให้เขา  แต่มีบางสิ่งบางอย่างแว๊บเขามาในความคิดของเขา  สิ่งที่จะให้เขาไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกับยัยน้ำตาลนั่น และไม่ต้องถูกตัดออกจากกองมรดกแต่อย่างใด  เขารีบบึ่งรถบีเอ็มดับบิวสีดำคันเก่งของเขากลับไปบ้านเพื่อรอรับน้ำตาลทันที
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
อากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวบวกกับความเหนื่อยล้าจากการเดินหาบ้านเพื่อนสนิทของแม่  ทำให้ฉันต้องถอดเสื้อคลุมสีครีมตัวนอกออก  เหลือเพียงแต่เสื้อกล้ามสีฟ้าตัวใน  เหงื่อเม็ดใส ๆ ผุดขึ้นเต็มใบหน้านวล  และที่กลางหลังก็ใช่ย่อยมันเปียกชื้นจนเสื้อกล้ามตัวน้อยแนบกับแผ่นหลังเห็นสั ดส่วนของฉันอย่างชัดเจน
\'254/9  บ้านอมรักษ์\'
ป้ายบ้านเลขที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าประตูรั้วสีขาว  มองเข้าไปจะเห็นสนามหญ้าค่อนข้างกว้างที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์  มันถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
“254/9  บ้านหลังนี้ล่ะมั้ง” ฉันก้มดูที่อยู่ที่แม่จดมาให้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ”เอาวะ..ที่นี่แหละ”  แล้วฉันก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปกดกริ่ง
ปิ๊งป่อง
เงียบไร้วี่แววสิ่งมีชิตในบ้าน
ปิ๊งป่อง
ฉันกรดกริ่งซ้ำอีกครั้งหนึ่ง  ในใจก็นึกกลัว ๆ เหมือนกันไม่รู้ว่ามาบ้านผิดหลังรึเปล่า  หลังจากที่ฉันยืนรออยู่ประมาณ  3  นาทีก็มีผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินกางเกงยีนส์สีซีดเข้าชุดกัน  เดินออกมาจากในบ้านอย่างเร่งรีบ  ฉันมองจากไกล ๆ ก็รู้ได้เลยว่าตาคนนี้หล่อใช่ย่อย  เขาเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน แล้วมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆนี่ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะยะมองฉันแบบนั้น  ในใจมันคิดอย่างนี้  แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปหรอกได้แต่ยืนทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงนั้น
“เธอมาหาใคร” คำพูดแรกที่ดังออกมากจากปากนายหน้าหล่อคนนั้น
“เอ่อ คือ หนูมาหาป้ายุค่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ ยิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าได้มั้ง  เขากวาดสายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า  ทำให้ฉันเริ่มหันมามองตัวเองตาม  ทำไมอ่ะฉันมีอะไรผิดปกติเหรอ
“เธอชื่อน้ำตาลรึเปล่า” 
( - - )( _  _ )( - - )( _ _ )
“เธอเนี่ยนะยัยน้ำตาล  ที่ตอนเด็ก ๆ อ้วน ๆ ดำ ๆ ชอบถักเปียสองข้าง แล้วก็ชอบวิ่งไล่เตะปิกะจู้ฉันตอนเด็ก ๆ อ่ะ”  นายหน้าหล่อคนนั้นทำหน้าแปลกยิ่งกว่าเดิมเป็นล้าน ๆ เท่า เหมือนเจอผีหลอกมางั้นแหละ  แต่เอ๊ะ  นายคนนี้ทำไมรู้จักฉันล่ะ  หรือว่าเป็น
“พะ พี่กั้ง O_O” ไม่น่าเชื่อเลยไม่เจอกันไม่กี่ปี หล่อขึ้นจนฉันจำไม่ได้ ฉันขอถอนคำพูดออกมาได้มั้ยเนี่ยที่หลงชมว่าตานี่ดูดี เท่าที่ฉันรู้จักนายนี่เป็นคนที่ลามกที่สุดเท่าที่ฉันจำได้  เมื่อตอนฉันเด็ก ๆ ป้ายุชอบไปเยี่ยมแม่ที่บ้านแล้วพาไอพี่กั้งนี่ไปด้วย  พอนายนี่เจอหน้าฉันเท่านั้นแหละต้องมาดึงผมเปียสวย ๆ ของฉันแล้วก็ชอบวิ่งไล่ถอดกางเกงฉันทุกครั้งที่เจอกัน
“เออ พี่เอง^^”    ฉันยกมือไหว้พี่กั้งอย่างนอบน้อมที่ทำไปก็ทำไปอย่างนั้นแหละพอให้เป็นมารยาท    เขาจะได้ว่าฉันไม่ได้ว่าพ่อแม่ไม่รู้จักสั่งสอน
“เขาไปในบ้านก่อนสิ”  พอพูดจบพี่กั้งก็เดินหันหลังกลับเข้าไปในบ้านทันที  ทิ้งในฉันยืนอยู่กับกองสัมภาระกองใหญ่ของฉันโดยไม่คิดจะช่วยถือมันเข้าไปข้างในแม้แต่ชิ้นเดียวพอฉันทัก  เขาก็ตอบกลับมาว่า    ‘ไม่ใช่ธุระ’  ฉันก็เลยต้องค่อย ๆ ลากสัมภาระเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเล  ปากก็ด่านายนั่นไปตลอดทาง  คนอะไรก็ไม่รู้ไร้น้ำใจที่สุด
ฉันนานพอสมควรกว่าจะสามารถจัดการกับข้าวของ ของฉันทั้งหมดให้เรียนร้อย  เสร็จแล้วฉันมาก็นั่งหอบเอาเป็นเอาตายบนโซฟาตัวหนานุ่ม ที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้องนั่งเล่นของบ้านหลังนี้  พี่กั้งซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วหันมามองฉันด้วยแววตายิ้ม ๆ เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ สายตาคู่นี้ที่มองมาทางฉันบ่งบอกเลยว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดี ๆ แน่
“มองอะไรพี่กั้ง  ไม่เคยเห็นคนสวยรึไง”  ฉันถามกวน ๆ ออกไป
“เปล่า  พี่ก็แค่คิดอะไรบางอย่างอยู่”พี่กั้งนั้งเอนตัวไปข้างหลังแต่ดวงตากลมโตคู่นั้นก็ยังจับจ้องที่ใบหน้าขาวนวลของฉันอยู่
“ตาลจะมาอยู่ที่นี่ใช่ป่าว”
“อือ..แม่บอกให้ตาลมาอยู่กับป้ายุ”  ความจริงฉันก็ไม่อยากมาอยู่ที่นี่หรอก  แต่ฉันดันเอนท์ติดมหาลัยในกรุงเทพฯก็เลยต้องมาอยู่กับป้ายุซึ่งเป็นเพื่อนรักของแม่ที่นี่  เพราะแม่ไม่อยากให้ฉันไปอยู่ที่หอพักกลัวฉันจะใจแตกก่อนเรียนจบน่ะสิ 
“แล้วลุงพลกับป้ายุอยู่ไหนล่ะตาลยังไม่ได้ไปไหว้เลย”
“ถ้าจะไหว้คงต้องไปออสเตรเลียแล้วล่ะ” 
“หา  O_O  ลุงกับป้าอยู่ที่ออสเตรเลีย”  พี่กั้งทำหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วก็จ้องมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา
“มะ หมายความว่าตาลต้องอยู่กับพี่กั้งสองต่อสองงั้นเหรอ”  ฉันเริ่มนั่งเก้าอี้ไม่ติดแล้วพอรู้ว่าฉันจะต้องอยู่ในบ้านหลังนี้กับพี่กั้งเพียงสอง ต่อสองเท่านั้น
\"ทำไม...กลัวพี่ปล้ำตาลเหรอ” 
“ใครกลัว .ตาลรู้ว่าพี่กั้งไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”  ฮือ ฮือ แม่จ๋าหนูโกหกอีกแล้ว  ความจริงกลัวอีตาพี่กั้งนี่นึกหื่นขึ้นมาจะตาย  คนสวย ๆ อย่างฉันมันก็ต้องกลัวเป็นธรรมดาล่ะนะ (  อิอิอิ  หลงตัวเองมากไปป่าวเนี่ย)
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อยู่ ๆ พี่กั้งก็ระเบิดหัวเราออกมานั่งท้องหงิกท้องงออยู่บนโซฟาตัวนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกับฉัน
“ดูหน้าเธอสิยัยขี้เหล่  อย่างเธอใครจะไปปล้ำลง  หุ่นก็อย่างกับไม่จิ้มฟัน  สะโพกก็ไม่มี  หน้าอกก็ยั่งกับทีวีจอแบน  ถ้าพี่จะปล้ำตาลนะไปทำกับไม้กระดานเจาะรูยังได้อารมณ์กว่าอีก  ^O^”
“-_- +++”  (โมโหสุดขีด)
ฉันนั่งตัวสั่นหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศด้วยความโกธร  ในใจนี่อยากจะเอามีดมาสับ ๆ  ๆ เจ้าปิกะจู้ของตานี่ให้เป็นชิ้น ๆ แล้วโยนไปให้เป็ดกินซะจริง ๆ  ผีตัวไหนนะมาเจาะปากมาให้ตานี่พูด  ฉันจะไปจับมันมายัดใส่ไหปลาร้าให้เหม็นตายรอบสองไปเลย  โทษฐานที่บังอาจมาดูถูกหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟ็กของฉัน  เห็นอย่างนี้ฉันซ่อนรูปนะจะบอกให้  ฮึ   ไม่อยากจะบอกตอนอยู่ที่บ้านนะพวกตัวผู้ตามฉันมาเป็นพรวนเลยล่ะ  ไม่ว่าจะไอดำ ไอแดง ไอด่าง
“เอาเถอะ”พี่กั้งหยุดหัวเราะแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ขึงขังเป็นการเป็นงาน”ตาลอยู่ที่นี่ งานในบ้านทุกอย่างพี่ก็ยกเป็นหน้าที่ของตาลนะ ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า  ขัดห้องน้ำ  แล้วตาลจะต้องทำกับข้าวให้พี่กินทั้ง 3 มื้อ  ส่วนตอนเย็นก็ต้องรดน้ำต้นไม้ทุกวัน”  พี่กั้งสั่งงานฉันยาวเป็นหางตุ๊กแก  เอ้ย.. หางว่าว  จนฉันจดตามแทบไม่ทันสรุปว่าให้ฉันทำหน้าที่เป็นคนรับใช้นั่นแหละ  ฉันอยากจะท้วงว่าคนสวยอย่างฉันไม่ใช่คนใช้นะ  แต่คำที่แม่สั่งสอนฉันว่ามาอาศัยอยู่บ้านเขาต้องทำงานเป็นการตอบแทน คนสวยอย่างฉันก็เลยต้องก้มหน้าก้มตารับคำไป TT^TT
“แล้วอีกอย่างมีงานอีกอย่างหนึ่งที่ตาลจำต้องทำ”รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าคมเข้มของพี่กั้งทำให้ฉันใจสั่นอย่างบอกไม่ถูก  พี่กั้งค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามาหาฉันแล้วกระซิบที่ข้าง ๆ หูฉันเบา ๆ งานที่พี่กั้งบอกกับฉันทำให้ขนฉันตั้งขึ้นทุกอณูขุมขนเลยทีเดียว
”ขัดหลังให้ตอนที่พี่กั้งอาบน้ำเนี่ยนะO_O”
ฉันร้องเสียงหลงจะให้สาวบริสุทธ์อย่างฉันไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ถ้าแม่รู้เข้าได้หัวใจวายตายแน่ ๆ 
“ ^_^ ”
“ไม่ ไม่เลย”ฉันพลักพี่กั้งให้ออกไปไกล ๆ ตัวฉันแล้วส่ายหน้าจนหัวแทบจะหลุดจากคอเป็นผีกระสือไส้หายอยู่แล้ว”หน้าที่นี้ตาลปฏิเสธ ไม่ทำเด็ดขาด”
“เริ่มคืนนี้เลยนะ”  พี่กั้งไม่ฟังคำปฏิเสธระคนเสียงด่าที่ฉันตะโกนสมทบกันไป  กลับเดินผิวปากขึ้นไปข้างบนอย่างอารมณ์ดีซะอีก
*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*
“อื้อหือ .กับข้าวหน้าอร่อยจัง”  อาหารน่าตาน่ากินหลายจานถูกยกมาวางตรงหน้าของกั้ง ทั้งแกงจืดปลาหมึกยัดไส้  ไข่เจียวหมูสับ  ผัดผักรวมมิตร แล้วก็น้ำพริกปลาทูที่อยู่เคียงกับผักสดหลายชนิด  แน่นอนว่ากับข้าวทั้งหมดนี่ฝีมือคนสวยอย่างฉันเองแหละ
“จะกินล่ะน้า^^” 
แล้วเราทั้งคู่ก็สวาปามอาหารทั้งหมดจนหมดเกลี้ยง  พี่กั้งชมไม่ขาดปากว่ากับข้าวอร่อยมาก  หลังจากกินอิ่มแล้วฉันก็ต้องมากเก็บจานไปล้าง คนเดียว . โดยที่เจ้าของบ้านไม่คิดจะช่วยฉันเก็บจานเลยซักนิดเดียว  ไม่รู้เห็นฉันเป็นแขกบ้างรึเปล่า  แถมส่งสายตาล้อเลียนมาให้ฉันอีก
กว่าฉันจะเก็บกวาดทุกอย่างให้เรียบร้อยก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว  ความเหนื่อยล้าจากการทำงานบวกกับการเดินทางไกล ๆ ทำให้ฉันยืนทรงตัวแทบจะไม่อยู่  ฉันเหลือบไปเห็นโซฟาตัวนุ่มอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกะว่าจะเดินไปนั่งพักเหนื่อยซะหน่อย 
“น้ำตาล”  พี่กั้งเรียกฉันขณะที่ตัวเองกำลังเดินลงบันไดมา  ฉันหันไปมองตามเสียงที่เรียก  พอหันไปสบตากับเจ้าของเสียงเรียกเท่านั้นแหละใบหน้าที่ขาวซีดของฉันก็แดงปรี๊ดขึ้นทันที  พี่กั้งที่อยู่ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยท่อนบนเผยผิวขาวเนียนบริเวณหน้าอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัด ๆ บ่งบอกว่าได้ออกกำลังกายมาเป็นอย่างดีค่อย ๆ เดินตรงมาที่ฉัน    ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยเลศนัย  ฉันอยากจะวิ่งหนีเขาไปให้ไกล ๆ แต่ขาเจ้ากรรมทำไมมันวิ่งไม่ออกก็ไม่รู้ TT^TT  แม่จ๋าช่วยหนูด้วย .
“เราไปทำอะไรที่มันสนุก ๆ กันเถอะตาลจ๋า”แล้วพี่กั้งก็ฉุดร่างที่แสนจะบอบบางฉันขึ้นไปโดยเร็วไม่ว่าฉันจะขัดขืน จะเตะ จะต่อยฉันยังไงก็ไม่สามารถหลุดจากแรงอันมหาศาลนั่นได้เลย
“แง้  แง้ แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไม่นะปล่อยตาลเดี๋ยวนี้นะ”
“อ่าส์ อย่างนั้นแหละ”
เสียงของพี่กั้งครางออกมาอย่างมีความสุข  ขณะที่น้ำตาของฉันเริ่มไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“แรงอีกนิดนึง อย่างนั้น อย่างนั้นแหละ”
“พอรึยังตาลเมื่อยไปหมดทั้งตัวแล้วนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิกำลังสบายเลย อือ ลงไปข้างล่างอีกหน่อย แรง ๆ เลยนะ”
“ตาลเนี่ยเก่งจัง .เคยถูหลังให้ใครมาก่อนรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่เคย” 
ฉันถูหลังของพี่กั้งไปสลับกับหน้าแดงระเรื่อขึ้นเป็นพัก ๆ เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้า  ถึงจะเปลือยแค่ช่วงบนก็เถอะ  บ็อกเซอร์ตัวที่ใส่อยู่ก็ไม่ได้ปิดอะไรมากนักหรอกนะ
 
“พี่ยังจำได้เลยนะว่าตอนเด็ก ๆ น่ะตาลชอบชวนพี่ไปโดดน้ำคลองหลังบ้าน  แล้วก็ให้พี่ขัดขี้ไคลให้ประจำ”พี่กั้งพูดขึ้นแล้วหันมามองหันเหมือนกับจะถามให้แน่ใจว่าฉันยังจำได้รึเปล่า
“  -_-  “
สาด !
ฉันก็แถมน้ำร้อนราดตัวให้เป็นการตบท้ายหลังจากที่ถูหลังเสร็จ  พี่กั้งลุขึ้นพรวดแล้วร้องเหมือนกับโดนใครเอามีดมากรีดที่ผิวขาวเนียนของเขา    มือไม้ก็ลูบไปตามหน้าอกและแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าเหมือนจะบรรเทาความปวดแสบปวดร้อนให้บรรเทาลงไปบ้าง
“เฮ้ย .ทำอะไรเนี่ยยัยบ๊อง”  พี่กั้งพูดพลางใช้มือลูบตามลำตัวและค่อย ๆ ไล่มือต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนถึง ที่น้องชายของเขา
”สุกกันพอดี”
“สมน้ำหน้า    แบร่ ”
ฉันไม่รอช้ารีบวิ่งออกจากห้องน้ำทันที  ขืนอยู่ต่อก็ไม่รู้จะเกิดอะไรกับฉันอีก    ถ้าแม่รู้ว่าลูกสาวสุดที่รักต้องมาทำอะไรแบบนี้คงต้องลมจับแน่ ๆ ครั้นจะไปอยู่ที่อื่นก็ต้องเปลืองค่าเช่าหอ    ค่าอาหาร ฉันไม่ได้งกนะแค่ต้องการประหยัดเงินเอาไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นต่างหากล่ะ  ช่างเถอะ ทนอยู่ที่นี่ไปสักพักพอป้ายุกลับมาตานี่คงไม่กล้าใช้ฉันให้ไปถูหลังให้หรอก
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
ทางด้านกั้งเขามองน้ำตาลที่วิ่งออกไปอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ  ยัยนี่แสบกว่าที่เขาคิด  แต่ก็ความรู้สึกบางอย่างเขามาสะกิดที่หัวใจของ  เขาตั้งแต่แรกที่ได้พบกับน้ำตาล(หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี)  ความรู้สึกที่อยากจะไล่น้ำตาลออกจากบ้านมันหายไป  ความรู้สึกบางอย่างเข้ามาแทนที่ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  บางทีอาจจะเป็นความผูกพันธ์ที่เคยสนิทกันตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เป็นได้ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น