ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยยิ้มที่ผลิบาน

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1. ข่าวฉาวของจิอากิ

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 60


    1.

    ข่าวฉาวของจิอากิ

              เช้าวันเปิดเรียนที่หาความสุขมีไม่ของจิอากิ เธอเดินเข้าโรงเรียนโดยที่มีแต่คนรอบข้างจ้องมองเธอด้วยท่าทางรังเกียจ แต่จะต้องรู้สึกอะไรอีกล่ะก็ในเมื่อเธอชินกับมันแล้ว เธอเดินเข้าห้องเรียนเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะเอากระเป๋าวางไว้ที่โต๊ะประจำของเธอที่ถูกจัดไว้โดยที่ไม่ได้ขอ ใช่แล้ว ถึงขอไปนั่งที่อื่นก็คงไม่มีใครอยากจะเห็นด้วยนักหรอก เธอเหนื่อยจะอ้างสิทธิของตนเพียงเพราะเพื่อนๆในห้องต่างรังเกียจเธออย่างไร้เหตุผล สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่นั่งในที่ๆถูกจัดไว้ และ เรียนก็พอ

    สวัสดีครับนักเรียนทุกคนอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาพร้อมกับกล่าวทักทายเหมือนกับทุกๆวัน แต่สิ่งที่วันนี้มีไม่เหมือนทุกๆวันนั่นก็คือ วันนี้ห้องเรียนของเราจะมีนักเรียนใหม่เข้ามาเรียนด้วยกัน 3 คนนะครับในห้องเริ่มเกิดเสียงฮือฮา แต่จิอากิหาได้ตื่นเต้นไม่ เธอรู้อยู่แล้วว่าวันนี้คือวันที่จะมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา และหนึ่งในนั้นก็คือ

    สวัสดีครับ ผมอาตาเอะ ชินจิโร่ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับหลังจากที่ชินจิโร่เขียนชื่อของเขาบนกระดาน เขาก็แนะนำตัวพร้อมกับยิ้มให้ทุกคน

    เป็นอย่างที่จิอากิคิด เด็กสาวในห้องต่างพากันตื่นเต้นเมื่อพวกเธอเห็นชินจิโร่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหนุ่มรูปหล่อแบบเขา และใช่ พวกเธอเหล่านั้นต้องเชิญชวนให้เขามานั่งที่โต๊ะใกล้ๆตัวเองอย่างแน่นอน

    เลือกที่นั่งของเธอได้เลยนะอาตาเอะคุง

    ครับขณะที่ชินจิโร่กำลังมองหาที่นั่งให้ตัวเองอยู่นั้น กลุ่มผู้หญิงในแต่ละโซนก็ต่างพากันเรียกชินจิโร่ให้ไปนั่งโต๊ะที่ว่างอยู่ใกล้ๆพวกเธอ ชินจิโร่มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย เขายังเลือกไม่ได้ว่าจะนั่งตรงไหน จนกระทั่ง

    ผมขอนั่งตรงนี้นะครับ

    จิอากิหันมาทางต้นเสียง ประจวบเหมาะกับที่เผลอสบตาเข้ากับหนุ่มผมทอง เขาขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้งก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะข้างๆเธอ ซึ่งนั่น อาจเป็นสิ่งที่จะทำให้ผู้หญิงในห้องเกลียดเธอเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าทวีคูณ

    สวัสดีครับอิโตะซัง เราเจอกันอีกแล้วนะชินจิโร่ทักทายอย่างเป็นกันเอง ซึ่งนั่นต้องเป็นประเด็นให้คนในห้องสงสัยแน่ๆ จิอากิคิด

    สวัสดีค่ะอาตาเอะซัง ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะคะจิอากิยิ้มให้เขา โดยที่ตอนนี้ เธอไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกชูตะมองมาอย่างรู้สึกหึงหวง

    ในขณะนั้นเอง อาจารย์ก็แนะนำนักเรียนใหม่คนต่อไป คน ๆ นี้ คือคนที่มิซาโกะถึงกับต้องสะดุ้งเมื่อเห็นหน้า เพราะเขาคือ

    สวัสดีครับ ผมนิชิจิมะ ทาคาฮิโระ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับเขาแนะนำตัวพลางปรายตามองไปยังมิซาโกะที่พยามก้มหน้างุดเพื่อไม่ให้เขาเห็นหน้า

    ในขณะที่ทาคาฮิโระเดินผ่านมิซาโกะไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ด้านหลังมิซาโกะนั้น เจอกันอีกแล้วนะ ยัยมนุษย์ป้า

    มิซาโกะได้ยินประโยคนั้นก่อนจะหันไปมองทาคาฮิโระตาขวาง เธอกัดฟันกรอด

    ไอ่มนุษย์ปลาจรวดมิซาโกะแค่นเสียงลอดไรฟัน นั่นทำให้ทาคาฮิโระรู้สึกโมโหขึ้นมา

    ยังมีหน้ามาว่าฉันกลับอีกนะ ยัยหัวขโมย

    ยัยหัวขโมย คำ ๆ นี้ทำให้มิซาโกะแปลกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นโมโห ไอ้มนุษย์ปลา นายหาว่าใครเป็นหัวขโมยนะ!”

    เธอไงยัยป้า ยังทำเป็นไม่รู้ตัวอีกนะว่าเอาอะไรของคนอื่นไปน่ะ เธอนี่มันหน้าด้านจริง ๆ

    มิซาโกะตบโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นประจันหน้ากับทาคาฮิโระทันที ไอ้บ้า! ฉันไปเอาของ ๆ นายมาตอนไหนไม่ทราบ จู่ ๆ ก็มากล่าวหาคนอื่นเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้ ใครกันแน่ที่หน้าด้าน!”

    คนทั้งห้องต่างพุ่งเป้ามองไปที่ทั้งคู่ด้วยความสับสนปนอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงอาจารย์ประจำชั้นด้วย

    หนอยยย เธอนี่มันตอแหลเก่งจริง ๆ เธอจะไม่ยอมรับจริง ๆ ใช่ไหมว่าเมื่อคืนเธอขโมยกระเป๋าเงินของฉันที่ฮับผับไปน่ะ

    อะไรนะ!” มิซาโกะเอียงศีรษะด้วยความมึนงงว่าตัวเองไปทำอะไรแบบนั้นตอนไหน ถึงเธอจะเมา แต่เธอก็จำได้แค่ทะเลาะกับไอ้บ้าหน้าปลานี่แล้วก็รีบจ่ายเงินออกจากร้านไป ก็แค่นั้น เธอมั่นใจว่าไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินของเขาติดมือมาแน่ๆ

    นี่ฟังนะ ฉันไม่ได้ขโมยอะไรของนายทั้งนั้น โอเค ตอนนั้นฉันอาจจะเมา แต่ฉันยืนยันว่าฉันไม่ได้หยิบอะไรของนายติดมือมาเลยแม้แต่อย่างเดียว นายคงสะเพร่าเพราะสมองนายน่ะมันเล็กเท่าปลาเหมือนหน้าของนายที่ลืมไว้ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้เอง ซึ่งฉันไม่สามารถตรัสรู้ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน และฉันก็ยืนยันนั่งยันนอนยันว่าฉันไม่ได้เอาของนายไป!”

    ฉันไม่เชื่อผู้หญิงอย่างเธอหรอก คอยดูนะ ฉันต้องเค้นความจริงออกจากปากเธอให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ยังไงเธอก็ต้องคืนมันมาให้ฉัน ยัยป้า!”

    หนอย ยัยป้างั้นหรอ มิซาโกะกัดฟันกรอด ก่อนจะคว้าหนังสือเล่มหนาบนโต๊ะขึ้นมาแล้วเงื้อท่าเตรียมจะฟาดหน้าหล่อๆของทาคาฮิโระอย่างเหลืออด ทั้งอาจารย์และเพื่อนๆในห้องเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีแล้ว(จริงๆควรจะเห็นตั้งนานแล้ว?) จึงรีบเข้าไปห้ามทัพสองคนนั่น ก่อนที่ห้องนี้จะกลายเป็นสมรภูมิสงครามระหว่างสองคนนี้จริง ๆ

    พอได้แล้วทั้งคู่น่ะเมื่อมิซาโกะกับทาคาฮิโระที่กำลังจะปะทะกันถูกเพื่อนๆจับแยก อาจารย์ประจำชั้นก็รีบพูดปรามทันที

    นั่งที่เดี๋ยวนี้เลย ทั้งสองคน ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกัน มีอะไรค่อยไปเคลียร์กันรอบนอก และต้องไม่ใช่ที่นี่

    เมื่อทั้งสองถูกอาจารย์ตำหนิ พวกเขาก็หยุดทะเลาะ แม้ว่าจะไม่เปิดศึกโต้เถียงหรือใช้กำลังกันอีกแล้ว แต่เมื่อมองจากสายตา ต่างคนต่างก็มองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสลัดจากการเกาะกุมของเพื่อนที่มาห้ามศึกแล้วนั่งประจำที่ของตัวเองทันที

    หึ ๆมิตสึฮิโระที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ด้านนอกห้องแค่นหัวเราะออกมา ไม่คิดว่าจะเจอหมอนั่นที่นี่นะเนี่ยจากนั้นเขาก็เปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน

    ทุกคนอาจารย์พูดขึ้นเมื่อเห็นมิตสึฮิโระเดินเข้ามา นักเรียนใหม่คนสุดท้ายของวันนี้

    ผมฮิดากะ มิตสึฮิโระครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับเขายิ้มพลางมองไปยังทาคาฮิโระและมิซาโกะที่นั่งถัดกัน ในใจก็คิดว่า ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้

    จากนั้นเขาก็เดินไปยังโต๊ะที่ว่างตัวสุดท้าย ขณะที่เขากำลังเดินผ่านใครบางคนไปอยู่นั้นเอง

    สวัสดีฮิดากะชูตะเอ่ยทัก มิตสึฮิโระหยุดเดินก่อนจะมองไปทางชูตะ

    อืม หวัดดี

    ฉันชูตะ ยินดีที่ได้รู้จักนะชูตะพูดพร้อมกับยื่นมือขวาให้จับ

    อืมมิตสึฮิโระยื่นมือให้จับแบบส่ง ๆ ก่อนจะรีบเดินไปยังที่นั่งของตัวเอง โดยที่ไม่รู้ว่าชูตะได้พยายามอ่านทุกอย่างในตัวของเขาอยู่

    อะไรกัน ชูตะนึกในใจก่อนจะหันไปมองมิตสึฮิโระซึ่งตอนนี้กำลังล้วงหนังสือออกจากกระเป๋าวางบนโต๊ะ

    ทำไมอ่านความคิดหมอนี่ไม่ได้!?

    มิตสึฮิโระเงยหน้ามองชูตะที่หันมามองเขา ชูตะเปลี่ยนเป็นส่งยิ้มยิงฟันให้อย่างอารมณ์ดี แต่มิตสึฮิโระหาได้สนใจไม่ เขาเมินชูตะแล้วจัดระเบียบของบนโต๊ะต่อไป ชูตะเอาสองมือจับมุมปากที่ยิ้มแฉ่งอยู่ให้หุบลงก่อนจะหันกลับไปด้านหน้าอย่างเศร้า ๆ แม้จะยังอดแปลกใจไม่ได้ แต่เขาก็สะบัดความคิดนั่นหลุดไปก่อนจะกลับไปตั้งสมาธิกับการเรียนเมื่ออาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้องแล้ว

     

    เวลาในการเรียนผ่านไปหลายชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงชั่วโมงที่ทุกคนต้องหาชมรมกันแล้ว จิอากิมองรายชื่อชมรมตามประกาศอย่างท้อ ๆ เธอรู้สึกว่าไม่มีชมรมไหนเหมาะกับเธอเลยสักชมรมเดียว เธอถอนหายใจ ก่อนจะตัดใจและคิดว่าเธออาจไม่จำเป็นต้องเข้าชมรมก็ได้ แต่แล้ว

    อิโตะซังอยู่ชมรมไหนครับ?จิอากิหันไปตามเสียง ก่อนจะพบว่าเจ้าของเสียงนุ่มคุ้นหูนั้นคือชินจิโร่ เขายิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่สาวคนไหนเห็นเป็นต้องละลาย ก่อนจะชูกระดาษใบปลิวในมือแกว่งไปมา

    คือ ผมเพิ่งได้ไอ้นี่มาน่ะ ได้มาจากรุ่นพี่คนนึง ชมรมแนวฟรีสไตล์ รายละเอียดน่าสนใจดี เลยกะจะมาชวนเข้าชมรมนี้ด้วยกันน่ะครับเขายื่นกระดาษแผ่นนั้นให้จิอากิ จิอากิรับใบปลิวจากชินจิโร่ก่อนจะกวาดสายตาอ่านข้อความรายละเอียดของชมรม หืม?จิอากิขมวดคิ้ว

    มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนรึเปล่าครับ?ชินจิโร่เอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจของจิอากิ จิอากิยื่นใบปลิวมาให้พร้อมกับชี้ข้อความบางอย่างให้ชินจิโร่อ่าน ชมรมของคนมีสิ่งพิเศษ?” ชินจิโร่ทวนประโยคนั้นก่อนจะหันมาหาจิอากิ มันทำไมเหรอครับ?

    ฉันแค่สงสัยในคุณสมบัติตรงนี้น่ะค่ะ ที่บอกว่าชมรมของคนมีสิ่งพิเศษ มันหมายความว่ายังไง?

    ผมคิดว่า เค้าคงจะหมายถึง คนที่มีของดีอยู่ในตัว ให้ปล่อยของสิ่งนั้นออกมาได้อย่างเต็มที่ในชมรมนี้อะไรแบบนี้มากกว่…”

    จิอากิพูดแทรกขึ้น ไม่หรอกค่ะ ฉันคิดว่าสิ่งที่เค้าเขียนมา เค้าหมายความถึงอย่างนั้นจริง ๆเธอเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษ ตกลงค่ะ ฉันจะเข้าชมรมนี้ชินจิโร่ที่กำลังงง ๆ อยู่ได้แต่พยักหน้าตอบรับพร้อมกับยิ้มให้เธอ

     

    ชูตะที่ยืนมองสองคนนี้อยู่ห่าง ๆ ได้แต่เจ็บปวดและก่นด่าตัวเองอยู่ในใจที่มันขี้ขลาด ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปทักทายผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ซ้ำยังปล่อยให้ไอ้นักเรียนใหม่คนนั้นแย่งตีสนิทกับเธอตัดหน้าตัวเอง แถมยังเป็นคนเดียวกับที่จิอากิเคยเดินถือของไปด้วยตอนที่ชูตะสะกดรอยตามสองคนนั้นไป ชูตะกำหมัดแน่น พร้อมๆกับขยำใบปลิวชมรมในมือของตัวเองอย่างลืมตัว เขาไม่สามารถทนเห็นภาพบาดตาบาดใจนี้ได้อีกต่อไป นั่นทำให้เขาเดินผละออกมาจากที่ตรงนั้นมายังหลังห้องน้ำของโรงเรียน

    ชูตะล้วงซองบุหรี่กับไฟแช็กในกระเป๋ากางเกงออกมา เขาเอาบุหรี่คาบไว้ในปาก ก่อนจะดีดไฟแช็กเพื่อจุดไฟ แต่โชคร้ายที่ดีดเท่าไหร่ไฟนั่นดันไม่ติด จนกระทั่ง

    พรึ่บ!’

    ไฟบุหรี่ของชูตะถูกจุดโดยฝีมือของใครบางคน ชูตะหันไปทางที่มาของไฟนั่น ก่อนจะพบกับผู้ชายที่เขาได้เจอกันก่อนหน้านี้ นาย!” ชูตะเบิกตาโตเมื่อเห็นชายคนนั้นสามารถจุดไฟให้ติดอยู่บนปลายนิ้วชี้ของเขา ก่อนที่เขาจะเป่าไฟบนปลายนิ้วนั่นดับ ไม่ต้องขอบคุณร้อก ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายเขาว่าพลางยักไหล่

    นายเป็นใครชูตะเอ่ยถาม

    ชะอุ่ย ทำไมลืมกันง่ายจัง ฉันนาโอยะงายยยย เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี่เองนะซูเอโยชิคุ๊ง!” นาโอยะยืนกอดอกทำท่าเง้างอนแล้วทำปากจู๋ ด้วยรูปร่างและหน้าตาที่ดูนักเลงของนาโอยะแล้ว การทำอากัปกิริยาแบบนี้มันช่างขัดกับลุคของเขาอย่างแท้จริง นั่นทำให้ชูตะแทบสำลักเมื่อเห็นท่าทางนั้นของนาโอยะ

    เฮ้ๆ ฉันจำนายได้ แต่สิ่งที่ฉันถาม ฉันหมายถึง…” ชูตะมองไปที่นิ้วมือเรียวสวยของนาโอยะที่กำลังกระดิกนิ้วกลางเล่นอย่างทึ่งๆ นายเป็นใครกันแน่ ถึงทำแบบนั้นได้น่ะ!?”

    อ้าว เมื่อวานฉันให้นายแตะมือแล้วนะ ไม่ได้อ่านอดีตฉันหรอกเหรอ?นาโอยะพูดยิ้มๆ ชูตะอึกอัก ตอนนี้เขางงไปหมดแล้วว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ตะ แต่ เมื่อวานฉันเห็นอดีตของนายก็จริง แต่ไม่ใช่ชูตะเริ่มตระหนักได้แล้วว่าเรื่องนี้มันชักจะไม่ปกติซะแล้ว “…นั่นไม่ใช่อดีตของนาย

    นาโอยะยิ้มมุมปาก อา ว่าแล้ว ไม่รู้ตัวจริงๆด้วยแฮะ

    ชูตะมองนาโอยะอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อวาน ภาพอดีตของนายหลั่งไหลเข้ามา แต่ว่าแต่ทำไมฉันนึกมันไม่ออก ตอนนี้มันนึกไม่ออกแล้ว…”

    นายน่ะ นึกไม่ออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนาโอยะพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้านายรู้อดีตหรืออ่านใจฉันได้จริงๆ นายคงไม่ย้อนถามฉันหรอก ว่าฉันมีจุดประสงค์อะไรถึงตามนายมา ฉันรู้พลังของนายได้ยังไง ถ้านายสามารถอ่านความคิดกับเห็นภาพอดีตของฉันได้จริงๆ นายก็ต้องรู้สิ ว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน แถมยังมีพลังพิเศษอีกด้วย

    ชูตะนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาเจอนาโอยะครั้งแรก

     

    โอเค ฉันแนะนำตัวเองก็ได้ ฉันอุราตะ นาโอยะในที่สุดเขาก็แนะนำตัวอย่างจริงจัง ฉันเป็นใครนายเองก็คงรู้หมดแล้วละมั้ง คราวนี้รู้จักยังล่ะ

    เฮ้…” ชูตะมองนาโอยะอย่างระแวง นายรู้พลังของฉันได้ยังไง

    อ้าว ในความคิดฉันไม่ได้บอกเอาไว้หรอกเหรอ หวา แย่จัง

    ชูตะเข้าประเด็นทันที โอเค ไม่ถามเรื่องนั้นก็ได้ แต่สิ่งที่ฉันต้องการถามในตอนนี้ก็คือ จุดประสงค์ที่นายมาที่นี่

    บอกก็ได้นาโอยะมุ่ยหน้า ฉันแค่สงสัยว่ายายนั่นมันแปลกยังไง

    เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วยชูตะพยักหน้าอย่างเข้าใจ นายก็เลยตามมาส่องพฤติกรรมของเธองั้นเหรอ?”

    เปล่านาโอยะปฏิเสธด้วยท่าทางจริงจัง คนอย่างฉันไม่เสียเวลามาเดินตามสังเกตผู้หญิงต้อย ๆ อย่างนายหรอก

    คำพูดแบบนี้ทำเอาชูตะเกือบจะชกหน้าหมอนี่เข้าให้แล้ว แต่เขาก็ปล่อยให้นาโอยะพูดต่อไป คนที่ฉันมาหามันคือนายต่างหากละซูเอโยชิคุง

    ฉัน?”

     

    นี่ฉันสับสนอะไรอยู่เนี่ยชูตะพึมพำ

    เปล่าหรอก นายแค่ถูกกวนสมาธิน่ะนาโอยะเฉลย ในตอนนั้นนายไม่ได้สนใจฉัน นายกำลังพุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้น สำหรับคนที่มีพลังพิเศษ แน่นอนว่าจะไม่สามารถอ่านความคิดหรืออดีตของอีกคนที่มีพลังพิเศษได้ เพราะพลังของอีกฝ่ายจะเป็นตัวปั่นประสาทให้กับคนที่มีพลังแบบนายไงละ แล้วยิ่งใจไม่นิ่ง ไร้สมาธิจดจ่อ ก็ยิ่งยากที่จะอ่านใจกันได้ ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้

    สรุปว่านายเป็นใครกันแน่ชูตะหยุดความคิดที่กำลังสับสนอยู่ก่อนจะมองนาโอยะอย่างระแวง

    ฉันคือคนเชื่อมคนน่ะนาโอยะยิ้ม เอาเป็นว่านายได้รู้แน่ ถ้านายยอมเข้าชมรมของฉัน ชมรม Attack All Around น่ะ สนมะ?

    ชูตะหรี่ตาลง แม้จะยังไม่ไว้ใจ แต่มันก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย บวกกับที่เขาเองก็อยากจะไขปริศนาที่มาของนาโอยะด้วย สรุปจะไม่บอกกันจริง ๆ ใช่ไหมว่านายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงนาโอยะไม่ตอบ ก่อนจะยักไหล่ ชูตะถอนหายใจ พร้อมกับตอบว่า ตกลง ก็ได้

    เห้ยยยยย!!!” จู่ ๆ ก็มีเสียงผู้ชายร้องเสียงหลงมาจากทางด้านหลังของทั้งสองคน ชูตะและนาโอยะหันไปตามเสียงร้องทันทีก่อนจะถามขึ้นพร้อมกัน ใครน่ะ!?”

     

    มิซาโกะนั่งไล่ดูรูปถ่ายในมือถือที่มีรูปเธอกับโทมัสทีละรูป ทีละรูปอยู่ใต้ต้นไม้ในสวนหลังโรงเรียน เธอถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ ก่อนที่น้ำใส ๆ จะไหลออกมาจากดวงตาของเธอทั้งสองข้างอาบแก้ม เธอรู้ว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขามันจบแล้ว จบแค่เพียงข้ามคืน เธอยังทำใจรับกับมันไม่ได้ว่าตอนนี้เธอได้เลิกกับแฟนสุดหล่อของเธอไปแล้วจริง ๆ

    ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานเธอเมาหนักมาก และเธออกหัก เธอเลือกที่จะไม่มาโรงเรียนในวันนี้ก็ได้ แต่มิซาโกะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง เธอไม่ยอมปล่อยให้เรื่องแบบนี้มากระทบกับการเรียนของเธอแน่ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังทำใจและอดเสียใจกับมันไม่ได้อยู่ดี มันเร็วและกะทันหันเกินไปสำหรับเธอ

    ทำไมล่ะโทมัส นายยังไม่มีเหตุผลบอกเลิกที่ดีพอจะบอกกับฉันเลยนะ นายอยากจะหมดรักก็บอกเลิกกันง่าย ๆ แบบนี้เลยอย่างนั้นหรอ? ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาฉันมันไม่มีความหมายอะไรสำคัญมากมายกับชีวิตนายเลยใช่ไหม ฮึกฮือออออออมิซาโกะร้องไห้โฮ เธอกอดมือถือไว้กับตัวก่อนจะนั่งงอตัวเอาหน้าซุกเข่าร้องไห้ เป็นเรื่องจริงที่เธออาจจะดูเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง แต่ความจริงแล้วเธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่อ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ สิ่งที่เธอต้องการก็มีแค่เพียงใครสักคนที่จะมาปลอบและให้กำลังใจเธอในยามที่เธออ่อนแอ เธอไร้เพื่อน เพราะเธอเป็นคนปิดกั้นตัวเองและไม่ไว้ใจใคร ด้วยความหยิ่งยโสและอีโก้สูงของเธอ จึงยากที่จะมีเพื่อนที่รัก รู้ใจเธอและพร้อมที่จะปลอบโยนเธอในยามที่เธอเสียใจ ตอนนี้เธออยู่ตัวคนเดียว แฟนก็ทิ้งเธอไปแล้ว เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว เธอรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน

    แผละ

    เปลือกกล้วยถูกโยนลงมาจากบนต้นไม้ก่อนจะหล่นใส่ศีรษะของมิซาโกะ มิซาโกะเงยหน้าขึ้นจากเข่าก่อนจะหยิบเปลือกกล้วยบนหัวเธอออกมาดู

    กรี๊ดดดด มาจากไหนเนี่ย!” เธอขว้างเปลือกกล้วยออกไปไกลตัวก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนต้นไม้ และเธอก็พบกับต้นเหตุของเปลือกกล้วยที่หล่นใส่หัวเธอ นั่นทำให้เธอถึงกับปรี๊ด ไอ้หน้าปลากระดี่!!!!!!”

    ทาคาฮิโระมองลงมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะพูดเสียงเรียบ เปลี่ยนฉายาใหม่ให้กันอีกละเขาปอกกล้วยผลที่สองอย่างไม่สะทกสะท้าน

    นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!?” มิซาโกะถามอย่างแปลกใจปนอับอาย เธอรีบเช็ดน้ำตาออกจากหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน

    ก็ก่อนที่เธอจะมานั่งร้องไห้คร่ำครวญถึงคนรักที่จากไปอะไรนั่นแหละทาคาฮิโระว่าพลางกัดกล้วยเข้าปากคำใหญ่

    หนอย ไร้มารยาท มาแอบฟังคนอื่นได้ยังไงกัน!” มิซาโกะกระทืบเท้า เธอรู้สึกเสียฟอร์มและโกรธทาคาฮิโระที่ดันมาได้ยินเธอคร่ำครวญ นั่นทำให้เธอพาลใส่เขา แต่ทาคาฮิโระหาได้ใส่ใจคำด่าของมิซาโกะ เขากระโดดลงมาจากต้นไม้ ก่อนจะยื่นกล้วยอีกผลให้มิซาโกะ เอาไปกิน แล้วก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว

    มิซาโกะมองทาคาฮิโระอย่างงง ๆ ก่อนจะปัดมือเขาแล้วเดินฟึดฟัดออกไป แต่ทาคาฮิโระก็เดินไปจับมือของมิซาโกะไว้ให้เธอหยุดเดิน ก่อนจะเอากล้วยผลนั้นยัดใส่มือของเธอ รับไว้เถอะน่า ถือว่าเป็นของแทนคำขอโทษที่ดันมาได้ฟังเรื่องราวดราม่าของเธอแล้วกันมิซาโกะหันมามองทาคาฮิโระ เธอแปลกใจกับท่าทางของทาคาฮิโระในวันนี้เล็กน้อยไม่สิ มาก ๆ เลยล่ะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี เป็นไบโพล่าเหรอ

    เปล่าทาคาฮิโระยิ้ม เอาเป็นว่า ฉันไม่สบายใจเวลาเห็นผู้หญิงร้องไห้ก็แค่นั้นมิซาโกะเอียงคอด้วยอาการมึนงง อะไรของหมอนี่?

    เพราะฉะนั้น รับกล้วยนี่ไปซะ ไปละทาคาฮิโระกุมมือมิซาโกะที่ถือกล้วยที่เขาให้ไว้ ก่อนที่เขาจะเดินออกไป

    มิซาโกะยืนทึ่งอยู่ตรงนั้น ก่อนจะก้มมองกล้วยในมืออย่างงง ๆ จากนั้นเธอก็ตะโกนไล่หลังทาคาฮิโระไป แล้วกล้วยมันเกี่ยวอะไรด้วยล่ะไอ้บ้า!”

    ผีเข้าเหรอ เมื่อเช้ายังชวนตีอยู่เลยมิซาโกะพึมพำ มาแล้วก็ไป ฉันก็ยังไม่เข้าใจหมอนี่อยู่ดี…”

    แต่แล้วมิซาโกะก็ได้แต่ยักไหล่และบอกตัวเองว่า จะไปสนใจเรื่องของเขาทำไมกัน มิซาโกะคิดพลางเปิดมือถือขึ้นมาดูรูปเธอกับโทมัสที่ยังค้างอยู่ ไอ้ผู้ชายเฮ็งซวย!” เธอสบถพร้อมกับไล่ลบภาพเธอกับโทมัสออกจากมือถือทันที ทีละรูป ทีละรูปจนกระทั่ง เดี๋ยวนะมิซาโกะมองรูปในมือถือตาไม่กระพริบ นั่นมัน…” เธอแสยะยิ้มก่อนจะปอกเปลือกกล้วยที่ทาคาฮิโระให้ไว้แล้วกัดเข้าปาก เธอตัดสินใจไม่ลบรูปนั้นก่อนจะเดินกลับเข้าห้องเรียน

     

    นิชิจิมะคุงเสียงผู้หญิงเรียกทาคาฮิโระจากด้านหลัง เขาหันไปตามเสียง ก่อนจะพบกับสาวสวยสี่คนเดินเข้ามาทักทาย แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักพวกเธอและไม่รู้ว่าพวกเธอรู้จักเขาได้ยังไง แต่เขาก็ยิ้มทักทาย มีอะไรรึเปล่าครับ?

    ผู้หญิงคนที่เรียกชื่อเขาคนแรกยื่นมือถือมาให้อย่างเขินอาย ขะ ขอเบอร์ของนายหน่อยสิเธอพูดพลางบิดตัวไปมา ทาคาฮิโระอึ้งไปสักพักเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกผู้หญิงเข้ามาจู่โจมเขาอย่างกะทันหันแบบนี้ แต่แล้วเขาก็ทำแค่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี อะฮ่า ๆ ๆ ๆ ทำไมถึงมาขอเบอร์กันดื้อ ๆ แบบนี้ละครับเขาว่าพลางเกาหัวด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ

    กะ ก็แหมเพื่อนสาวคนที่สองซึ่งยืนข้างคนที่ยื่นโทรศัพท์ให้ทาคาฮิโระพูดขึ้นพร้อมกับกระแทกไหล่เพื่อนเบา ๆ ยัยนี่ชอบนายน่ะสุดหล่อ แค่ให้เบอร์โทรเอง จะสงเคราะห์กันหน่อยไม่ได้หรอจ้ะแล้วทั้งสามสาวก็กรี๊ดเล็ก ๆ ให้กับคำพูดของเพื่อน ทาคาฮิโระที่ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดกำลังคิดแผนที่จะปฏิเสธ แต่แล้ว

    อ่า ก็ได้ครับ ได้เลย เขาว่าพลางรับมือถือนั่นมาแล้วพิมพ์เบอร์ลงไป จากนั้นก็ยื่นให้เธอ

    อย่าโทรหาผมบ่อยนักละเขาขยิบตาให้เธอหนึ่งครั้งก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับโบกมือบ๊ายบาย ผู้หญิงตรงหน้ารับมือถือนั่นไว้ด้วยอาการที่เรียกว่าระทวย เธอเหม่อลอย ก่อนที่เพื่อนผู้หญิงรอบตัวเธออีกสามคนจะกรีดร้องอิจฉาเมื่อเห็นการตอบสนองของทาคาฮิโระต่อเพื่อนของพวกเธอ กรี๊ดดดด เขาให้เบอร์แกด้วยอ่ะ แอร๊ยยย

     

    ทาคาฮิโระที่เดินออกมาไกลแล้วหลุดขำออกมา ก็แค่เบอร์เงินกู้นอกระบบ เอาไปทำอะไรกันน้าสาว ๆ คิก ๆเขาจินตนาการตอนที่พวกหล่อนโทรเบอร์ที่เขาให้ไปแล้วก็หัวเราะคิก ก่อนจะสะบัดความคิดนั่นทิ้งแล้วเดินไปห้องน้ำ ในขณะที่ทาคาฮิโระกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำนั้น เขาก็บังเอิญได้ยินบทสนทนาของคนสองคนดังมาจากด้านหลังห้องน้ำ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงเดินแอบไปดูว่าเป็นใคร

    นายเป็นใครชายผมหยักศกสีบลอนด์ทองหน้าตาหล่อเหลากำลังยืนถามคำถามด้วยท่าทางตกใจกับชายหนุ่มร่างสูงอีกคนที่มีท่าทางดุดันแต่แฝงความขี้เล่นไว้ในที ชายร่างสูงทำท่าตกใจพร้อมกับเอามือทาบอก ชะอุ่ย ทำไมลืมกันง่ายจัง ฉันนาโอยะงายยยย เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี่เองนะซูเอโยชิคุ๊ง!” คนที่บอกว่าชื่อนาโอยะยืนกอดอกทำท่าเง้างอนแล้วทำปากจู๋ ด้วยรูปร่างและหน้าตาที่ดูนักเลงของเขาแล้ว การทำอากัปกิริยาแบบนี้มันช่างขัดกับลุคของเขาอย่างแท้จริง นั่นทำให้ทาคาฮิโระแทบสำลักเมื่อเห็นท่าทางนั้นของชายที่ชื่อนาโอยะ

    เฮ้ๆ ฉันจำนายได้ แต่สิ่งที่ฉันถาม ฉันหมายถึง…” ชายที่ชื่อซูเอโยชิมองไปที่นิ้วมือเรียวสวยของชายที่ชื่อนาโอยะที่กำลังกระดิกนิ้วกลางเล่นอย่างทึ่งๆ นายเป็นใครกันแน่ ถึงทำแบบนั้นได้น่ะ!?”

    ทาคาฮิโระคิด ก็แค่กระดิกนิ้วกลาง มันแปลกตรงไหน?

    อ้าว เมื่อวานฉันให้นายแตะมือแล้วนะ ไม่ได้อ่านอดีตฉันหรอกเหรอ?ชายที่ชื่อนาโอยะพูดยิ้มๆ นั่นทำให้ชายที่ชื่อซูเอโยชิเกิดอาการอึกอัก

    ทาคาฮิโระมองทั้งสองคนอย่างไม่เข้าใจ อะไรคือแตะมือ? อ่านอดีต? ยังไง? ไอ้พวกนี้มันพูดเรื่องบ้าอะไรกันอยู่วะเนี่ย แม้ว่าทาคาฮิโระจะไม่เข้าใจ แต่ด้วยเพราะต่อมอยากรู้อยากเห็นของเขานั่นเอง ทำให้เขาจำต้องฟังต่ออย่างช่วยไม่ได้

    ชายที่ชื่อซูเอโยชิพูดขึ้นอย่างไม่มั่นใจ ตะ แต่ เมื่อวานฉันเห็นอดีตของนายก็จริง แต่ไม่ใช่ชายที่ชื่อซูเอโยชิเริ่มมีทาทางไม่แน่ใจ “…นั่นไม่ใช่อดีตของนาย

    ชายที่ชื่อนาโอยะยิ้มมุมปาก อา ว่าแล้ว ไม่รู้ตัวจริงๆด้วยแฮะ

    ไม่รู้อะไรวะ ทาคาฮิโระตามแอบฟังอยู่ห่าง ๆ อย่างตั้งใจพร้อมกับสบถไม่เข้าใจในใจเพราะไม่รู้เรื่องอะไรเป็นระยะ ๆ

    ชายที่ชื่อซูเอโยชิมองชายที่ชื่อนาโอยะอย่างไม่เข้าใจ ก็เมื่อวาน ภาพอดีตของนายหลั่งไหลเข้ามา แต่ว่าแต่ทำไมฉันนึกมันไม่ออก ตอนนี้มันนึกไม่ออกแล้ว…”

    นายน่ะ นึกไม่ออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วชายที่ชื่อนาโอยะพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้านายรู้อดีตหรืออ่านใจฉันได้จริงๆ นายคงไม่ย้อนถามฉันหรอก ว่าฉันมีจุดประสงค์อะไรถึงตามนายมา ฉันรู้พลังของนายได้ยังไง ถ้านายสามารถอ่านความคิดกับเห็นภาพอดีตของฉันได้จริงๆ นายก็ต้องรู้สิ ว่าฉันเป็นใคร มาจากไหน แถมยังมีพลังพิเศษอีกด้วย

    ชายที่ชื่อซูเอโยชิพึมพำ แต่เนื่องจากทาคาฮิโระแอบฟังในสถานที่ที่ไกลเกินไป จึงยากที่จะได้ยินประโยคนั้น

    แล้วชายที่ชื่อนาโอยะก็พูดขึ้น เปล่าหรอก นายแค่ถูกกวนสมาธิน่ะเขายังพูดต่อไป ในตอนนั้นนายไม่ได้สนใจฉัน นายกำลังพุ่งความสนใจไปที่ผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้น สำหรับคนที่มีพลังพิเศษ แน่นอนว่าจะไม่สามารถอ่านความคิดหรืออดีตของอีกคนที่มีพลังพิเศษได้ เพราะพลังของอีกฝ่ายจะเป็นตัวปั่นประสาทให้กับคนที่มีพลังแบบนายไงละ แล้วยิ่งใจไม่นิ่ง ไร้สมาธิจดจ่อ ก็ยิ่งยากที่จะอ่านใจกันได้ ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้

    สรุปว่านายเป็นใครกันแน่ชายที่ชื่อซูเอโยชิเอ่ยถามประโยคนี้อีกครั้ง ซึ่งเป็นคำถามเดียวกันกับของทาคาฮิโระที่อยู่ในใจเหมือนกันตอนนี้ แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลยก็ตาม

    ทาคาฮิโระที่แอบฟังมาสักพักเริ่มจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว ที่เขาเข้าใจในตอนนี้คือ คนที่ชื่อซูเอโยชิ เป็นคนที่มีพลังพิเศษบางอย่างที่สามารถอ่านความคิดหรืออดีตของคนอื่นได้โดยการสัมผัส แล้วจากนั้นก็พูดถึงเรื่องกวนสมาธิจากพลังที่มาจากคนที่มีพลังพิเศษเช่นกัน และอื่นๆบางส่วนที่ทาคาฮิโระยังไม่เก็ทเท่าที่ควร เขาตั้งใจฟังต่อไปเพื่อเก็บข้อมูลที่น่าสนใจที่กำลังดึงดูดเขาอยู่ในตอนนี้

    ฉันคือคนเชื่อมคนน่ะชายที่ชื่อนาโอยะพูดยิ้ม ๆ เอาเป็นว่านายได้รู้แน่ ถ้านายยอมเข้าชมรมของฉัน ชมรม Attack All Around น่ะ สนมะ?

    ชมรมงั้นเหรอ ทาคาฮิโระนึก เขาเหมือนเคยได้ยินชื่อชมรมนี้จากที่ไหน

    ชายที่ชื่อซูเอโยชิหรี่ตาลง สรุปจะไม่บอกกันจริง ๆ ใช่ไหมว่านายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงชายที่ชื่อนาโอยะไม่ตอบ ก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงว่า ใช่

    ชายที่ชื่อซูเอโยชิได้แต่ถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะตอบว่า ตกลง ก็ได้

    ทาคาฮิโระที่มัวแต่ตั้งใจฟังอยู่เลยไม่ทันได้ระวังตัว จู่ ๆ เขาก็ถูกใครบางคนจู่โจมจากทางด้านหลัง

    จ๊ะเอ๋!”

    เห้ยยยยย!!!” ทาคาฮิโระร้องเสียงหลงก่อนจะหันไปทางผู้มาเยือน เป็นเวลาเดียวกันกับชายที่ชื่อนาโอยะและซูเอโยชิหันมาทางเขาแล้วตะโกนถามพร้อมกัน ใครน่ะ!?”

    ทาคาฮิโระพบว่า คนที่มาทำให้เขาตกใจคือ โคนิชิ ฮิโรกิ หนุ่มหล่อระดับท็อปในโรงเรียนซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ของทาคาฮิโระที่เจอในวันแรกก็สนิทกันทันที ด้วยนิสัยที่เฟรนด์ลี่ขี้เล่น ทำให้เขาดูจะเล่นไม่รู้กาลเทศะไปสักหน่อย

    ตกใจเสียงดังเลย ฮ่า ๆ มาทำอะไรตรงนี่ล่ะนิชชี่ ไม่เข้าห้องน้ำล่ะ?ฮิโรกิถามอย่างซื่อ ๆ ในขณะที่ทาคาฮิโระนี่แทบอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือด้วยความโกรธจัดมากในตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่าชายที่ชื่อนาโอยะและซูเอโยชิเดินมาหาเขาแล้ว

    เฮ้ ๆ นิสัยไม่ดีเลยนะครับชายที่ชื่อนาโอยะมองมาทางทาคาฮิโระด้วยสีหน้าบ่งบอกได้เลยว่าหงุดหงิดสุด ๆ

    งานเข้าแล้วไง! ทาคาฮิโระหันไปมองหน้าทั้งสองคนก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ในขณะที่ฮิโระกิที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็ส่งยิ้มอารมณ์ดีทักทายผู้มาเยือน สวัสดีครับ! มีอะไรกันรึเปล่าครับเนี่ย?

    ไอ้โคนิชิ ไอ้บ้า!!!!! ทาคาฮิโระแทบอยากกัดลิ้นตัวเองตาย

    ไม่มีอะไรหรอกครับชายที่ชื่อนาโอยะพูดกับฮิโรกิด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะปรายตามองไปไปยังทาคาฮิโระที่ตอนนี้ได้ยิ้มเจื่อน เรามีเรื่องต้องคุยกับเพื่อนของคุณนิดหน่อยน่ะ

     

    มิซาโกะเดินไปหาประธานชมรมข่าวในโรงเรียนที่กำลังนั่งพิมพ์อะไรสักอย่างบนแล็ปท็อปของตัวเอง คาดว่าน่าจะเป็นการเขียนข่าว หรือไม่ก็การจัดการข้อมูลสมาชิกใหม่ เนื่องจากวันเปิดเทอม ก็จะมีคนสมัครชมรมนี้เยอะมากทีเดียว จึงต้องมีการคัดเลือกก่อนเข้าชมรม หรือจะอะไรก็ตามแต่ จุดประสงค์ที่เธอเดินทางมายังชมรมนี้ไม่ใช่เพราะเธอต้องการจะมาเข้าชมรมหรอก เพราะแน่นอนว่าก่อนหน้านี้เธอไม่มีชมรมอยู่แล้ว และเธอก็ไม่ต้องการจะเข้าร่วมอีกด้วย แต่เธอต้องการที่จะมา ขายข่าวเด็ดของเธอต่างหากละ

    สวัสดีค่ะซาโต้ซังมิซาโกะเอ่ยทักทายเขา ซาโต้ ทาเครุ หนุ่มรูปหล่อผู้เป็นหน้าเป็นตาแห่งวงการชมรมข่าวของโรงเรียน เรียนแก่งโปรไฟล์ดี แล้วยังพ่วงด้วยตำแหน่งประธานชมรมข่าวของโรงเรียนอีก แต่ด้วยนิสัยของเขานั้นเป็นคนที่เจ้าเล่ห์พอตัว บวกกับที่เจ้าตัวนั้นฉลาดเป็นกรด หากไม่ระวัง อาจจะถูกชายคนนี้แย่งชิงผลประโยชน์โดยไม่รู้ตัว

    ทาเครุเงยหน้าจากจอแล็ปท็อปของเขา ก่อนจะส่งยิ้มให้มิซาโกะ สวัสดีครับอุโนะจัง สบายดีไหมครับ?

    ฉันสบายดีค่ะ ซาโต้ซังล่ะคะ เปิดเรียนวันแรก ยุ่งมากรึเปล่า?

    อา สุด ๆ เลยละครับเขาผละออกจากแล็ปท็อปของเขา ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะเครื่องดื่มด้านหลัง ดื่มอะไรหน่อยไหมครับ? เครื่องดื่มเรามีทุกอย่างเลยนะ

    กาแฟค่ะ ฉันขอกาแฟดำ

    ทาเครุรินกาแฟลงถ้วยทั้งสองใบสำหรับของทั้งเขาและเธอ ก่อนจะนำมายื่นให้มิซาโกะ มิซาโกะรับมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ

    ว่าแต่ คุณมาเยี่ยมผมถึงที่นี่ มีธุระอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?ทาเครุเข้าประเด็นทันที

    แน่นอนค่ะมิซาโกะวางถ้วยกาแฟลงก่อนจะหยิบมือถือของเธอเปิดรูปในเครื่องแล้วยื่นให้ทาเครุดู

    หืม?

    ซาโต้ซังรู้จักเธอใช่ไหมคะ?

    อา ครับ รู้จัก เธอดังออกเขายิ้มมุมปาก อย่าบอกนะว่า อุโนะจังต้องการให้ผม…”

    ใช่ค่ะเธอยิ้ม แลกกับราคาที่เราตกลงกันได้

     

    ที่นี่รึเปล่านะ สถานที่ตั้งชมรมที่ว่าน่ะชินจิโร่มองแผนที่บนกระดาษพร้อมกับมองตึกชมรมขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังของโรงเรียน ทำไมมันใหญ่และดูหรูหราขนาดนี้ละเนี่ย มันดูดีเกินกว่าจะเป็นแค่ตึกชมรมเขาพูดอย่างแปลกใจก่อนจะหันไปมองจิอากิที่เดินมากับเขาด้วย

    ลองเข้าไปดูด้านในก่อนไหมคะอาตาเอะซังเธอว่าพลางชี้ไปที่รั้วประตูทางเข้าที่เปิดอยู่

    ครับแล้วทั้งสองก็เดินเข้าไป

    หากจะพูดถึงสภาพด้านนอกตึกว่าหรูหราแล้ว ด้านในนี่หรูหรากว่าหลายเท่าเลย ชินจิโร่ถึงกับรู้สึกเหวอไปเลยทีเดียวเพราะไม่อยากจะเชื่อ มันหรูเกินกว่าจะเป็นชมรมอย่างที่เขาคิดจริง ๆ แต่สิ่งที่เขาและจิอากิต่างรู้สึกเหมือนกันก็คือ มันเงียบไปรึเปล่าคะเนี่ยจิอากิมองไปรอบ ๆ อย่างระแวง

    สถานที่ก็หรูหรา แต่ทำไมไม่มีคนเลยล่ะชินจิโร่เดินไปรอบ ๆ ห้องโถง ซึ่งเป็นที่ ๆ กว้างมาก แล้วก็โล่งมากเช่นกัน ไร้ซึ่งสิ่งที่เรียกว่าเฟอร์นิเจอร์ มีแต่ห้องโล่ง ๆ ที่ตกแต่งดูหรูหราโอ่อ่าเท่านั้น หากแต่จะถามหาเก้าอี้ ดูเหมือนชินจิโร่จะต้องผิดหวังเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เพราะมันไม่มีเลย

    มีใครอยู่ไหมครับ!” ในที่สุดชินจิโร่ก็ตัดสินใจตะโกนถามเมื่อรู้สึกว่า บรรยากาศมันเงียบและวังเวงแปลก ๆ เขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่นานสักเท่าไหร่หากรู้ว่ามันไม่มีคน และแน่นอนว่านอกจากเสียงสะท้อนของชินจิโร่แล้วก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมาอีก เขาถอนหายใจ พร้อมจะถอดใจกลับแล้วถ้าไม่เห็นว่าจิอากิเจออะไรบางอย่าง อาตาเอะซังเธอเรียกให้ชินจิโร่เดินเข้าไปหา ตรงนี้มีประตูค่ะ

    อิโตซังคิดว่าเราควรจะเข้าไปเหรอครับ?เขาพูดติดตลก ในใจเขาอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มทน

    ค่ะ ไหน ๆ เราก็มาแล้ว เผื่อเปิดประตูเข้าไปอาจจะเป็นห้องของประธานชมรมก็ได้นั่นเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความคิดของชินจิโร่เมื่อสักครู่นี้โดยสิ้นเชิง เขาต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าจิอากิอยากเข้าไปในนั้นทั้ง ๆ ที่เขาอยากกลับจะแย่ ไว้ไปหาชมรมใหม่ที่มีคนเป็น ๆ ให้เขาเจอยังดีซะกว่ามาไม่เจออะไรแบบนี้ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนก้องมาจากด้านหลัง พวกเธอสองคนกำลังจะทำอะไรน่ะ!” ชินจิโร่และจิอากิหันไปตามเสียงนั่นก่อนจะพบกับชายหนุ่มรูปงามสามคนที่ย่างเท้าเดินเข้ามาอย่างกับบอยแบนด์ เอ่อ…” ชินจิโร่ที่มัวแต่สติลอยพยามนึกคำพูดสวย ๆ ที่เขารู้สึกพลาดมากที่ไม่ได้เตรียมมันมาตั้งแต่ต้น แต่ก็ถูกขัดด้วยบุคคลที่เพิ่งมาเยือนใหม่และเป็นคนเดียวกับที่ตะโกนถามพวกเขาสองคนเมื่อสักครู่ พวกเธอมาเข้าชมรมใช่ไหม?ชายร่างสูง หน้าตาดุดันเดินมาใกล้เขา ชินจิโร่รู้สึกโล่งอกเมื่อถูกถามแบบนั้น แน่นอน จุดประสงค์ที่เขากับจิอากิมาที่นี่ก็เพราะจะมาเข้าชมรมเนี่ยแหละ ใช่ครับ

    ชายร่างสูงยิ้ม ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนท่าทางเป็นกระโดดโลดเต้น เย่!! มีสมาชิกหน้าตาดีมาเข้าชมรมเราอีกสองคนเลยแหน่ะซูเอโยชิคุง ~ ฮ่า ๆชายร่างสูงว่าพลางหันไปมองชายผมทองหยักศกที่ตอนนี้ชินจิโร่ก็เดาสีหน้าไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไง เขารู้แต่เพียงว่าชายร่างสูงที่กำลังทำท่าลิงโลดดีใจอยู่นั้น ช่างเป็นคนที่หน้าตาขัดกับบุคลิกในตอนนี้จริง ๆ

    มา ๆ เชิญ ๆ พวกเธอสามารถเปิดประตูเข้าไปในห้องรับแขกของฉันได้เลย ชมรม Attack All Around ของเรายินดีต้อนรับเสมอชายร่างสูงว่าพลางเดินไปเปิดประตูด้านหน้าแล้วผายมือเชิญพวกเขาเข้าไป แน่นอน เมื่อเข้าไปแล้วชินจิโร่ก็พบว่า ด้านในนั้นก็หรูหราโอ่อ่าไม่แพ้ด้านนอกนั่น แต่สิ่งที่แตกต่างจากห้องโถงเมื่อสักครู่คือ ด้านในนี้มีเฟอร์นิเจอร์ครบครับ และทุกชิ้นล้วนเป็นเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงที่ชินจิโร่คุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี

    เชิญนั่งได้ตามสบายเลยชายร่างสูงว่าพลางผายมือไปที่โซฟาตัวใหญ่ ก่อนที่ชินจิโร่จะนั่งลงไป จู่ ๆ ชายผมทองหยักศกก็เดินมาหาเขาแล้วแนะนำตัว สวัสดี ผมซูเอโยชิ ชูตะ ยินดีที่ได้รู้จักครับเขายิ้มให้ชินจิโร่ก่อนจะยื่นมือมาให้จับ ชินจิโร่แนะนำตัวบ้าง ผม…” แต่ยังไม่ทันพูดจบ ชูตะก็แทรกขึ้น อาตาเอะ ชินจิโร่ ใช่ไหมครับ คุณแนะนำตัวเมื่อเช้า เราอยู่ห้องเดียวกันน่ะครับ

    อะ อ๋อ ครับชินจิโร่ยิ้มให้ก่อนจะยื่นมือให้จับ ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเอง หรือเป็นเรื่องจริงก็ไม่รู้ได้ ที่เขารู้สึกว่า มือที่ชูตะให้เขาจับนั้นเริ่มบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับสายตาดุดันแวบหนึ่งที่ชูตะมองมาที่เขา แล้วชูตะก็ปล่อยมือจากเขา ก่อนจะหันไปทางจิอากิที่นั่งอยู่พร้อมกับทักทาย สวัสดีครับ

    จิอากิยิ้มให้เขา สวัสดีค่ะซูเอโยชิคุง นึกไม่ถึงเลยนะคะเนี่ยว่าคุณก็อยู่ชมรมนี้ด้วยน่ะ

    อา เอ่อครับ ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าอิโตะจังก็อยู่ชมรมนี้…” หูชูตะเริ่มเป็นสีแดง ก่อนจะรีบหลบหน้าจิอากิแล้วเดินไปนั่งตรงโซฟาที่อยู่ใกล้ ๆ เขา

    ฉัน อุราตะ นาโอยะ เป็นประธานชมรมนี้เองแหละชายร่างสูงคนเมื่อสักครู่นั่งกอดอก อยู่ชมรมนี้สบาย ๆ นะ เดี๋ยวมีงานอะไรให้ทำฉันจะมาบอกเอง ตอนนี้ก็อยู่กันชิวๆแบบนี้ไปก่อนละกันนาโอยะหันไปทางผู้ชายอีกคนที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟาอีกฟาก ชินจิโร่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าชายคนนี้คือใคร เพราะเขาเองก็เป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาเข้าที่นี่วันแรกเหมือนกัน ไม่แนะนำตัวหน่อยเหรอนิชิจิมะคุง ~”

    เอ่อ…” ชายที่ชื่อนิชิจิมะมีท่าทางอึกอักเล็กน้อย ก่อนจะแนะนำตัว ผมนิชิจิมะ ทาคาฮิโระ ยินดีที่ได้รู้จักครับเขากล่าวกับทุกคน สีหน้าเหมือนไม่เต็มใจ

    เอาละทุกคนนาโอยะพูดขึ้น สมาชิกของเราในตอนนี้ ถ้ารวมตัวฉันด้วย เราก็มีกัน 5 คน ตามกฎของชมรมนี้ เราต้องการอยู่ทั้งหมด 7 คน หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งยังขาดอีก 2 คน นั่นแปลว่าชมรมนี้ยังพร้อมที่จะเปิดรับคนอื่นเข้ามาในชมรมได้ตลอดเวลา ดังนั้น หากใครจะชวนเพื่อน ๆ มาเข้าชมรมนี้ ก็ตามสบาย กี่คนก็ได้ ฉันยินดีต้อนรับนาโอยะพูดยิ้ม ๆ แล้วก็นะ สำหรับสมาชิกในชมรม ให้คิดว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านของพวกเธอนะ จะทำอะไรก็ได้ โดดเรียนมานอนเล่นที่นี่ก็ได้ เพราะที่นี่เป็นชมรมฟรีสไตล์ สามารถทำได้ทุกอย่างตามแต่ใจต้องการ แต่มีข้อแม้ทุกคนตั้งใจฟัง หากว่าฉันมีคำสั่ง หรือมอบหมายให้ทำงาน อะไรบางอย่างทุกคนต้องทำ ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เข้าใจไหม

    ทุกคนเงียบ

    เอ่อถ้าเงียบนี่ เอาเป็นว่าตกลงแล้วกันนะพูดเองตกลงเองเสร็จสรรพเลย ชินจิโร่คิด ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว จะกลับเลยก็ได้ หรือจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ จะนอนที่นี่ก็ได้ เพราะพวกเธอเป็นสมาชิกของชมรมนี้แล้ว นี่คืออภิสิทธิ์ของพวกเธอนาโอยะพูดพร้อมกับผายมือออก และแน่นอนว่าไม่มีใครตอบ ก่อนที่ทุกคนต่างก็แยกย้ายออกไปแบบงง ๆ

    เดี๋ยว ๆ มีอีกเรื่องนาโอยะพูดดักไว้ก่อนที่ทุกคนจะลุกออกไป พรุ่งนี้เจอกันที่นี่หลังเลิกเรียนนะ มาทุกวันด้วยละทุกคนต่างพยักหน้า แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ

    ชินจิโร่ที่เดินออกมาอย่างงง ๆ กับจุดประสงค์ของชมรมก็กำลังคิดว่ามันแปลก ๆ ยังไงพิกลกับกฎของชมรมนี้ที่เซอร์วิสมันดีเกินไป เขารู้สึกไม่ไว้ใจและแปลกใจมากที่ชมรมดีขนาดนี้ทำไมคนถึงมาเข้าร่วมน้อยจัง แต่แล้วความคิดของเขาก็ต้องถูกขัดจังหวะด้วยเสียงร้องของจิอากิ

    โอ๊ย!” จู่ ๆ จิอากิก็สะดุดล้มลงไป ชินจิโร่รีบเข้าไปหาเธอทันที

    เกิดอะไรขึ้นครับ เป็นอะไรไหมเขาถามอย่างเป็นห่วง พร้อมกับมองเข่าที่ถลอกของเธอ อา แผลใหญ่เลย

    ฉันเดินไม่มองทางน่ะค่ะ ก็เลยไม่เห็นว่าตรงนี้มันเป็นทางต่างระดับชินจิโร่มองทางที่เดินมา ถึงพบว่าทางตรงนี้เป็นทางต่างระดับจริงๆ ซึ่งไม่แปลก หากว่าเธอซึ่งอาจจะเดินเหม่อลอยไม่มองเท้าตัวเองแล้วสะดุดเข้ากับตรงนี้อย่างง่ายดาย ลุกขึ้นเดินไหวไหมครับ ให้ผมช่วยนะเขาพยุงจิอากิให้ลุกขึ้น จิอากิมีสีหน้าเจ็บปวดเมื่อเธอต้องพยายามฝืนยืน อ๊ะ! โอ๊ย โอ๊ย โอ๊ย!!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อต้องยืนตัวตรงก่อนจะเสียหลักล้มลงไปซบกับแผงอกของชินจิโร่ อิโตะซังชินจิโร่โอบเธอไว้เพื่อไม่ให้ตก

    ทะ เท้าฉันค่ะ เท้าฉันมัน ฮืออออเธอร้องออกมาด้วยเสียงขาดห้วง มันเจ็บจนเค้นเสียงพูดไม่ออก

    ณ ตอนนี้ชินจิโร่รู้แล้วว่าจิอากิข้อเท้าแพลงแน่นอน ขออนุญาตนะครับเขาตัดสินใจช้อนร่างของจิอากิขึ้นมาอุ้ม จิอากิเบิกตาโตด้วยความตกใจก่อนจะรีบพูดกับชินจิโร่ อะ อาตาเอะซังคะ ดะ เดี๋ยว…”

    อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยครับ เดี๋ยวผมจะรีบพาอิโตะซังไปห้องพยาบาลก่อน โอบคอผมแน่น ๆ นะครับเดี๋ยวตก

    จิอากิที่ตอนนี้ไร้ทางเลือกจึงต้องจำยอมเอาแขนโอบรอบคอของเขาให้เขาอุ้มเธอไว้แบบนั้นแล้วพาไปยังห้องพยาบาล

    ชินจิโร่ที่ขณะนี้ในสองมือกำลังอุ้มร่างของจิอากิเดินตรงไปยังห้องรักษาพยาบาล พวกเขาทั้งสองคนถูกคนทั้งโรงเรียนมองมายังพวกเขาเป็นจุดเดียวพร้อมกับถูกซุบซิบนินทา แน่ละ พวกเขาสองคนจะไม่ถูกนินทาและจับจ้องหนักขนาดนี้ หากว่าไม่มีข่าวที่ส่งผ่านมือถือทางสำนักพิมพ์ออนไลน์ของโรงเรียน และใช่ ข่าวนั่นแพร่ไปไวมาก ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังถูกจับตามองเป็นพิเศษ แล้วยิ่งชินจิโร่กับจิอากิเดินเข้ามาในใจกลางของโรงเรียนด้วยสภาพแบบนี้ ยิ่งตอกย้ำความถูกต้องของข่าวฉาวที่กำลังแพร่สะพัดไปทั่วอยู่ในขณะนี้ขึ้นไปอีกเท่าทวีคูณ

    ชินจิโร่ไม่สนว่าใครจะมองพวกเขาสองคนตอนนี้ยังไง จะเป็นจุดสนใจมากแค่ไหน เขาสนแค่ว่า เขาต้องพาจิอากิไปถึงห้องพยาบาลให้เร็วที่สุด

    เกิดอะไรขึ้นกับเธอครับ?เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลเอ่ยถามชินจิโร่พร้อมกับจัดแจงเตียงให้ชินจิโร่วางตัวจิอากิลงนอน สะดุดครับ เธอสะดุดเข้ากับทางต่างระดับ ทำให้เข่ากับแขนถลอกและขาแพลงครับชินจิโร่บอกจุดที่บาดเจ็บให้กับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เขาจะทำการรักษาให้กับจิอากิในจุดที่เธอบาดเจ็บทันที

    ชินจิโร่นั่งรอเจ้าหน้าที่ทำแผลเสร็จ ก่อนที่เขาจะเข้าไปหาเธอข้าง ๆ เตียง จิอากิที่ตอนนี้ถูกทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ แต่ประเด็นที่น่ากังวลคือ เธอจะกลับบ้านยังไงในสภาพแบบนี้

    อิโตะซังกลับเองไหวไหมครับ? ที่บ้านมีรถมารับรึเปล่า? ให้ผมไปส่งไหม?

    ฉันอยากให้อาตาเอะซังไปส่งค่ะจิอากิเอื้อมไปจับมือชินจิโร่ ขอบคุณนะคะอาตาเอะซังสำหรับวันนี้ ถ้าไม่ได้อาตาเอะซังละก็ ฉันต้องแย่แน่ ๆ เลยค่ะ

    ด้วยความยินดีครับ ผมไม่มีวันปล่อยให้อิโตะซังเป็นอะไรแน่ ถ้าอิโตะซังเป็นอะไรหนักขึ้นมา ผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองที่ดูแลคุณไม่ดีอย่างแน่นอน

    สุภาพบุรุษจังนะคะจิอากิยิ้มเขิน ชินจิโร่หัวเราะ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้คำพูดดูเลี่ยนมากไปกว่านี้ แต่แน่ใจเหรอครับ ว่าจะกลับกับผม ผมเอาแค่จักรยานมานะ

    สบายมากค่ะ ถ้าเป็นอาตาเอะซังละก็ ยังไงฉันก็เชื่อใจค่ะว่าคุณจะไม่ทำให้ฉันเป็นอันตรายเด็ดขาด

    นี่ผมกลายเป็นSecurityของคุณไปแล้วสิใช่ไหมครับเนี่ย ฮ่า ๆ

    ก็คงจะอย่างนั้นละมั้งคะ ฮ่า ๆ ๆ

    ว่าแต่ ตอนนี้อิโตะซังเดินไหวรึเปล่าครับ? หรือว่าชินจิโร่ยิ้มกรุ้มกริ่ม จะให้ผมอุ้มแบบเมื่อกี้ดี?

    จิอากิรีบบอกปัดไม่ค่ะไม่ ฉันไหวค่ะ ฉันไหวจิอากิปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับทำท่าทางแข็งแรงเป็นเครื่องยืนยันให้ชินจิโร่เชื่อว่าเธอไหว นั่นทำให้ชินจิโร่หัวเราะกับท่าทางนั้นของเธอ ฮะ ๆ ๆ โอเคครับ โอเค เดี๋ยวผมช่วยพยุงแล้วกันนะครับ ที่นี่ไม่มีรถเข็นให้ ลำบากนิดนึงนะครับ

    ค่ะจิอากิตอบรับก่อนจะลุกขึ้นนั่ง โดยมีชินจิโร่ช่วยพยุงให้ลุกขึ้นเดิน

    เอาอีกแล้ว สายตาทุกคู่จ้องมองมายังชินจิโร่กับจิอากิที่ช่วยพยุงกันเดิน แม้จะเป็นแวลาเลิกเรียน แต่คนในโรงเรียนก็ยังพลุกพล่าน ชินจิโร่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยถึงมากที่สุดที่จู่ ๆ เขากับจิอากิก็กลายเป็นจุดสนใจขนาดนี้

    อึดอัดรึเปล่าคะ?” จิอากิเอ่ยถามชินจิโร่ในขณะที่เขากำลังช่วยพยุงเธอเดิน

    อึดอัด? ทำไมต้องอึดอัดละครับ แล้ว อิโตะซังหมายถึงอึดอัดเรื่องอะไร?

    ที่คนกำลังมองเราสองคนอยู่ในตอนนี้นั่นแหละค่ะ

    เธอหมายถึงเรื่องนี้เอง ชินจิโร่คิด ความจริงเขาเองก็แปลกใจ ว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงตกเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะได้มาเรียนที่นี่วันแรก จะบอกว่าเพราะเขาเป็นนักเรียนใหม่มันก็ไม่น่าใช่ นักเรียนใหม่ที่ย้ายเข้ามาในวันเปิดเทอมก็มีเยอะแยะมากมาย ไม่เป็นเป้าสายตากันหมดหรอกเหรอ?

    ก็นิดนึงครับเขายอมรับ ผมไม่เข้าใจว่าเขามองพวกเราทำไม

    จิอากิเดินก้มหน้า เหมือนเธอกำลังพยามข่มอารมณ์ไว้ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?ชินจิโร่ถามจิอากิอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอรู้สึกไม่ค่อยดี

    ไม่เป็นไรค่ะ รีบเดินไปถึงโรงเก็บรถเร็ว ๆ ดีกว่านะคะเธอพูดตัดบท ชินจิโร่ตัดสินใจไม่ถามต่อ เขาพยุงจิอากิไปจนกระทั่งถึงลานจอดจักรยานของเขา

    ขอผมปลดโซ่ล็อครถก่อนนะครับ

    โอเคค่ะ

    ชินจิโร่ทำการปลดโซ่ล็อครถ เขาจูงจักรยานออกมา อิโตะซังขึ้นนั่งได้รึเปล่าครับ? จิอากิพยักหน้าตอบรับยิ้ม ๆ เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นนั่งบนเบาะด้านหลังของจักรยาน ชินจิโร่เอื้อมมือไปจับมือจิอากิแล้วเอามือของเธอวางไว้บนเอวของเขา กอดแน่น ๆ นะครับ เพื่อความปลอดภัย

    ค่ะจิอากิยิ้มเขิน พร้อมกับเอามืออีกข้างกอดเอวของชินจิโร่ไว้ ก่อนที่เขาจะออกตัวปั่นออกไป

    จิอากิหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะส่งข้อความไปหาพ่อบ้านของเธอ [วันนี้กลับช้าหน่อย ไม่ต้องมารับนะ]

    หลังจากส่งข้อความเสร็จ เธอเก็บมือถือ ก่อนจะพูดกับชินจิโร่ อาตาเอะซัง ยังไม่ไปส่งฉันที่บ้านได้ไหมคะ

    ชินจิโร่เหมือนจะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถาม แล้วอิโตะซังจะไปที่ไหนล่ะครับ?

    หอพักของอาตาเอะซัง

    “…”

    ได้ไหมคะ?

     

    ณ หอพักยามางุจิ

    ชินจิโร่รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นี้มันลูปมาอยู่จุดเดิม คือการที่มีสาวสวยที่เขาเพิ่งพบเธอเมื่อวาน และได้รู้ว่าเธอเรียนโรงเรียนเดียวกันและห้องเดียวกันกับเขา มาเยือนหอพักของเขาอีกครั้ง ครั้งก่อนเธอมาที่นี่เพราะความบังเอิญเพื่อช่วยเขาถือของและยังทำอาหารเย็นให้ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เธอมาเพื่อจุดประสงค์อะไร เขาเองก็ยังไม่เข้าใจ

    ชินจิโร่พยุงเธอเดินเข้ามาในห้องก่อนจะพาเธอนั่งบนโซฟา เขาเดินไปยังห้องครัวก่อนจะออกมาพร้อมกับน้ำส้มคั้นที่เขาคั้นไว้เองหนึ่งแก้ว จิอากิรับมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ

    ขอโทษที่ต้องรบกวนให้ลำบากใจนะคะจิอากิพูดขึ้น ตอนนี้ฉันยังไม่อยากกลับบ้านน่ะค่ะ

    ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้รบกวนอะไรเลยชินจิโร่ยิ้มให้เธอ

    วันนี้…” จิอากิวางแก้วน้ำส้มในมือลงบนโต๊ะ ฉันต้องขอโทษอาตาเอะซังจริง ๆ นะคะ ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดความอึดอัดใจ

    ชินจิโร่ที่ยังไม่เข้าใจเอ่ยถาม เดี๋ยวนะครับ ต้นเหตุแห่งความอึดอัดใจอะไรกัน อิโตะซังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ แล้วก็ เรื่องที่ผมช่วยอิโตะซังนี่ผมก็เต็มใจทำจริง ๆ นะครับ

    ไม่ใช่เรื่องนั้นค่ะ

    “…”

    ฉันหมายถึงเรื่องที่คนมองเราทั้งโรงเรียนน่ะค่ะ

    เอ่อ เรื่องนั้นมันจะไปเกี่ยวกับอิโตะซังได้ยังไงละครับ ผมว่าคนเค้าก็ชอบมองกันเป็นปกติอยู่แล้วละมั้ง แค่เพราะผมอาจจะยังไม่ชิน

    อาตาเอะซังเห็นข่าวนี่รึยังคะจิอากิยื่นมือถือของเธอมาให้ชินจิโร่ เขารับมาก่อนจะเปิดอ่าน

    [หลุด! สาวสวยหน้าซื่อควงหนุ่มหล่อเข้าห้อง รายละเอียด คลิก!]

     เขาเบิกตาโตด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าบุคคลในภาพนั้นคือเขาและจิอากิอย่างชัดเจน อะไรกัน!”

    มันเป็นความผิดของฉันเองค่ะอาตาเอะซังจิอากิเริ่มร้องไห้ ฉันมันเป็นตัวซวยที่ใครอยู่ด้วยก็มักจะซวยไปด้วย รวมถึงรวมถึง อาตาเอะซัง

    มะ ไม่ใช่นะครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เราต้องไปแก้ข่าวนะครับอิโตะซัง มันไม่ใช่ความผิดของคุณ หรือของใครทั้งนั้น อย่าเพิ่งร้องไห้นะครับชินจิโร่รีบเข้าไปปลอบจิอากิทันทีด้วยความตกใจที่จู่ ๆ เธอก็ร้องไห้ออกมา จิอากิโผเข้ากอดชินจิโร่ ก่อนที่เธอจะพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่เธออัดอั้นเก็บมันไว้อยู่ในใจออกมา ฉันมันเป็นตัวซวย ใคร ๆ ก็เกลียดฉัน ใคร ๆ ก็ยี้ฉัน โดยที่พวกเขาไม่รับรู้ ไม่รับฟังเหตุผลอะไรจากฉันบ้างเลย พวกเขาเชื่อแต่ข่าวที่ถูกเขียนขึ้นและสิ่งที่เล่าปากต่อปากอย่างไม่รู้ที่มา มันทำให้ฉันเสียหาย แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคอยช่วยเหลือฉันเลย ฉันฉัน ฮึก ทำไม ทำไมทุกอย่างต้องลงมาที่ฉันคนเดียว ฮืออออ

    ชินจิโร่ที่ตอนแรกยังงงกับอาการที่กะทันหันนี้ของจิอากิทำได้เพียงเงียบฟัง แล้วกอดปลอบจิอากิที่ตอนนี้กำลังร้องไห้ฟูมฟายและพูดระบายทุกอย่างออกมา ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เขาก็พอจะรับรู้ได้ว่าเธอเจ็บปวดและอดทนกับสิ่งเหล่านี้มานานแค่ไหน

    ตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้วจิอากิผละจากอ้อมกอดของชินจิโร่ อาตาเอะซังที่กำลังจะเป็นเพื่อนกับฉัน ก็ต้องมาเจอเรื่องร้าย ๆ แบบนี้เพราะฉันอีกเธอปล่อยโฮอีกครั้ง แล้วอาตาเอะซังก็อาจจะทิ้งฉันไปอีกก็ได้…. เหมือนที่คนอื่น ๆ เคยทำ ฮือออออ

    ไม่หรอกครับ ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอนชินจิโร่พูดอย่างหนักแน่น ผมอยู่ข้างอิโตะซังเสมอนะครับเขาพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้จิอากิเชื่อใจผมนะครับ

    อาตาเอะซัง…” จิอากิยิ้มทั้งน้ำตา เธอโผเข้ากอดชินจิโร่อีกครั้ง ขอบคุณนะคะ

    อ่า ครับ ครับแม้ว่าชินจิโร่จะยังงง ๆ อยู่บ้างกับท่าทางดีใจเกินเหตุนั่นของจิอากิ แต่เขาก็ดีใจที่สามารถทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้ เขากอดจิอากิตอบ แม้ว่าเธอจะยังคงร้องไห้ แต่เขาก็ปล่อยให้เธอได้ระบายมันออกมา ในใจก็กำลังหาสาเหตุ ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงคนนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นคนที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ไม่น่าจะเป็นศัตรูกับใครได้ แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขาก็ทำได้แค่เพียงอยู่ข้าง ๆ เธอ และปลอบเธอในยามที่เธอเจ็บปวดเท่านั้น

    บางทีนับจากนี้ หากเขาได้รับรู้ถึงอะไรที่ลึกลงไปหรือมากกว่านั้น ความจริงบางอย่างก็อาจจะทำให้เขาเข้าใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ก็เป็นได้

    ............................................................................................................................................................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×