ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยเอ๋อสุดซ่าส์กะนายบ้าหน้าหื่น

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 แฟนเก็บ(น้องสาวผมครับ)

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 54





    สวัสดีค่ะ ดิฉันแชยีเองนะคะ ตอนนี้ฉันกลายเป็นพนักงานกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน เช็ดกระจก และหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมายที่แม่บ้านส่วนใหญ่เค้าต้องทำกัน ใครจะไปนึกล่ะ ว่าฉัน...คุณหนูตระกูลยุนผู้ยิ่งใหญ่ที่แสนจะเลิศเลอและเพอร์เฟคในเกาหลีตอนนี้ดันกลายมาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบ้าน อ้อ เมื่อวานมีโทรศัพท์จากสายการบินโทรมาถามที่อยู่กับฉันเพื่อยืนยันการส่งกระเป๋ากลับมาหาฉันแต่ฉันดันบอกไปว่าจะไปรับเองเพราะกลัวว่าทางบ้านฉันจะเผอิญสืบรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนและอาจจะร้ายเข้าไปใหญ่ถ้ารู้ว่าฉันพักกับตาบ้าหื่นกามนี่ และนี่คืออีกหนึ่งปัญหาของฉัน




    "อะไร เธอรู้เหรอว่าไอ้บริษัทที่เค้าโทรมาน่ะมันอยู่ที่ไหน"นายวายุที่เพิ่งกินโจ๊กเสร็จและกำลังนั่งดื่มนมหันถามคำถามนี้กับฉันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งมันเป็นคำถามที่ฉันอยากรู้อยู่เหมือนกันว่ามันอยู่ที่ไหน




    "ไม่อ่ะ ฉันมาอยู่ได้แค่เดือนเดียวเองนะเคยไปไหนซะที่ไหนละ วัน ๆ นายให้ฉันอยู่แต่ในนี้อ่ะ"นายวายุไม่เคยยอมให้ฉันออกไปไหนเลยน่าเบื่อ




    "แล้วไอ้ที่พาออกไปเที่ยวบ่อย ๆ นั่นล่ะ"แหะ ๆ ลืมไปเลยว่านายวายุพาฉันไปเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้าด้วยนี่นา




    "นี่ ๆ นายพาฉันไปหน่อยสิ นะ น๊า"ฉันพยายามทำหน้าตาบ้องแบ๊วที่สุดแล้วก็เริ่มอ้อนอีตาบ้าหื่นกามพอฉันอ้อนตานี่ทีไรตานี่ก็ใจอ่อนทุกที




    "อือ ๆ เด็ก ๆ อ้อนน่ะน่ารักแต่เธออ้อนเนี่ยมัน..."ตาหื่นมองหน้าฉันแล้วอมยิ้มอย่างมีเลศนัยน์แต่คงไม่มีอะไรนอกไปจากความหื่นหรอก (แบบว่าอยู่มานานเป็นเดือนเริ่มรับรู้ได้ถึงความหื่นของตาบ้านี่)




    "ทำไมเหรอ"ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตาบ้านี่คิดอะไรกับฉันอยู่และด้วยความอยากรู้เลยต้องยื่นหน้าไปใกล้ ๆ เพื่อรอจับผิดสีหน้าตาบ้านี่

     


    "ก็น่าทำแบบนี้ไงล่ะ"ตาบ้าวายุคว้าเอวแชยีแล้วดึงเธอให้ลงนั่งที่ตักของเขา เขามองหน้าเธอด้วยสายตาที่แพรวพราวซึ่งเธอเองก็ส่งสายตาที่เอียงอายตอบกลับไปให้เขาเองเช่นกัน ตาสบตาอยู่เนิ่นาน ใบหน้าของทั้งสองคนค่อย ๆ โน้มเข้าใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของกันและกันแขนของทั้งสองคนค่อย ๆ โอบกอดซึ่งกันและกันริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของทั้งสองคนค่อย ๆ ประกบกันอย่างแผ่วเบา วายุค่อย ๆ ถอนริมฝีปาก ก่อนมองแชยีแล้วยิ้มให้น้อย ๆ

     


    "Morning kiss ของเธอนี่น่าสนใจดีจังเลยนะ"วายุแซวหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างสนุสนานส่วนหญิงสาวที่ถูกแซวนั้นตอนนี้หน้าแดงเป็นซอสมะเขือเทศแล้ว


     

    "ตาบ้าหื่นกาม ปล่อยฉันได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสายนะ"แชยีผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่มแล้วลุกมายืนข้าง ๆ ด้วยสีหน้าที่ยังคงอาการเขินอายอยู่


     

    "ครับ ๆ งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ คุณกุ้งแชบ๊วยแล้วเย็น ๆ เจอกันนะครับ"วายุทำท่าลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องอาหารเพื่อไปทำงาน ส่วนแชยีพอเห็นวายุลุกไปแล้วเธอก็ลงมือเก็บจานอาหารเพื่อเตรียมตัวทำงานของเธอ





    "อุ๊ย ตาบ้า"แชยีเอามือกุมแก้มตัวเองทันทีที่ถูกนายวายุแอบย่องมาขโมยหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ก่อนไปทำงาน





    แชยีเองก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรวายุยิ่งนับวันที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันยิ่งทำให้เธอกับเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เธอไม่รู้ว่าอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอทุกครั้งที่อยู่ใกล้วายุมันคืออะไร เธอรู้แต่ว่าเธอเองรู้สึกอบอุ่น มีความสุขและรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีคน ๆ นี้อยู่ใกล้ ๆ

     



    "นี่เราคิดอะไรเนี่ย มันคงไม่ใช่รักหรอกนะ"แชยียืนคิดอะไรเพลิน ๆ ระหว่างทำงานบ้าน คิดไปพลางยิ้มไปพลาง ทุกครั้งที่เธอนึกถึงวายุเธอจะยิ้มออกมาได้เองโดยอัตโนมัติ


     


    "เฮ้ ยัยกุ้งซ่าส์ รับโทรศัพท์หน่อย เฮ้ รับโทรศัพท์ด้วย"เสียงโทรศัพท์มือถือของแชยีดังขัดจังหวะการทำงานบ้านทำให้แชยีต้องละจากงานบ้านเพื่อรบโทรศัพท์






    "มีอะไรเหรอ ตาหื่น"แชยีทำเสียงกวน ๆ ใส่คนที่โทรมา ที่เธอพูดแบบนี้เพราะมีแค่วายุคนเดียวเท่านั้นที่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอ






    "ยัยกุ้งซ่าส์ฉันยังไม่อยากมาทะเลาะกับเธอตอนนี้นะ เธอช่วยหาซองเอกสารสีน้ำตาลให้ฉันทีสิไม่รู้ว่าฉันลืมเอาไว้ที่บ้านหรือเปล่า"วายุทำน้ำเสียงรีบร้อนแชยีสงสัยว่าคงมีเรื่องสำคัญเธอจึงเดินตามหาซองที่ว่านั้นทั่วทุกมุมของห้อง

     




    "อ๊ะ เจอแล้ว"แชยีเอื้อมมือลงเก็บซองสีน้ำตาลที่ตกอยู่ใต้โต๊ะอาหาร มันคงตกลงตอนที่เขาและเธอMorning Kiss กัน






    "เธอ เอามาให้ฉันหน่อยได้มั๊ย ที่บริษัทที่ฉันทำงานอยู่นี่น่ะ เดี๋ยวฉันจะบอกวิธีมาให้นะ เอาปากกามาจดเร็ว ๆ"แชยีคว้ากระดาษที่อยู่ใกล้มือมาจดตามที่วายุบอกอย่างรวดเร็ว

     




    "เอามาให้ถึงที่นี่ก่อนเที่ยงนะ ฉันต้องเข้าประชุมน่ะเลยกลับไปเอาไม่ได้ เธอมาเร็ว ๆ นะ"วายุไม่ลืมที่จะกำชับแชยีให้รีบมาไว ๆ






    "ได้ แต่นายต้องพาฉันไปกินข้าวข้างนอกบ้างนะ อยากกิน"แชยียื่นข้อเสนอให้วายุ เธอยื่นไปอย่างงั้นแหละถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องเอกสารเข้ามาขอเพียงแค่เธอเอ่ยปากวายุก็ยอมพาเธอไปอยู่แล้ว

     




    "อือ ได้ ๆ จะพาไปกินเจ้าประจำของฉํนเลยดีมั๊ย เออ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องเข้าประชุมแล้ว"พอวายุวางสายแชยีก็เหลืองมองเวลา ตอนนี้เวลา 9.30 น. เธอรีบอาบน้ำทันทีเพราะกลัวไม่ทัน วันนี้เธอทำสถิติเพราะธรรมดาเธอจะอาบน้ำนานเป็นชั่วโมงแต่วันนี้เพียงแค่ ครึ่งชั่วโมงเธอก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกเดินทาง

     




    แชยีเดินออกจากคอนโดแล้วเดินทางตามที่วายุบอกเอาไว้ เธออยู่เมืองไทยมาก็สักระยะหนึ่งแล้วทำให้การสื่อสารภาษาไทยของเธอไม่ใช่เรื่องที่ลำบากมากนักบวกกับพื้นฐานภาษาไทยที่เธอได้เรียนมาด้วยแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ตอนนี้แชยีเดินมาตามทางที่วายุบอกแล้วแต่ก็ยังไม่เจอตึกที่เธอต้องการจะไปแถมโทรหาวายุเขาก็ไม่รับโทรศัพท์เธออีก






    "เฮ้อ ร้อนนะเนี่ย แล้วที่ทำงานของตาบ้านั่นอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย"แชยีเดินมองตึกทางซ้ายทีทางขวาทีแล้วก้มลงมองกระดาษที่จด






    "บอกแต่ชื่อบริษัท กับชั้น แล้วฉันจะรู้เหรว่าไอ้ตึกบ้านี่มันตั้งอยู่ส่วนไหนของถนนนี่"แชยีมองกระดาษทีไรก็โมโหทุกที ทำไมเธอถึงถามไม่ละเอียดนะ ส่วนคนที่วานให้เธอเอาของมาให้ก็คงลืมไปว่าเธอน่ะ เพิ่งมาอยู่เมืองไทยได้แค่ เดือนเดียวเอง






    "เอี๊ยด/ว้าย"เสียงรถที่เบรคอย่างกระทันหันและตามมาด้วยเสียงของหญิงสาวที่ตอนนี้ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว

     





    "เอ่อ ขอโทษด้วยนะครับ คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า"เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนมาพร้อมกับรีบเปิดประตูรถลงมาดูอาการของหญิงสาว

     





    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่กรุณามองทางบ้างสิคะ"แชยีหันมามองค้อนใส่ผู้ชายคนที่กำลังพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน






    "เอ่อ ผมขอโทษนะครับ พอดีว่าผมรีบน่ะครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริง ๆ"ผู้ชายหนุ่มหน้าตาดี สูงราว ๆ 180 ต้น ๆ แต่งกายด้วยชุดสูทที่ดูดีและคงมีราคาที่แพงเอาการ แถมรถที่ขับราคาตัวเลขคงราว ๆ 8 หลักได้ แชยีค่อย ๆ ดึงแขนตัวเองออกจากการพยุงของผู้ชายคนนั้นอย่างสุภาพ

     





    "เอ่อ ผมขอโทษครับ"ดูเหมือนผู้ชายคนนั้นก็คงจะรู้ว่าตัวเองกำลังจับแขนหญิงสาวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขามีท่าทีที่เขินเล็กน้อย






    "ผมชื่อ บูมครับ คุณล่ะ"ชายหนุ่มรีบแนะนำตัวเองด้วยสีหน้าอมยิ้มเล็กน้อย






    "ฉันชื่อแชยีค่ะ ยุนแชยี"แชยีเองก็แนะนำตัวตามมารยาท

     





    "เอ่อ ผมว่าไปหาหมอทำแผลก่อนดีมั๊ยครับ แขนคุณเลือดออกด้วย"ชายหนุ่มชี้นิ้วม่ที่ข้อศอกของแชยีที่กำลังมีเลือดซึมนิด ๆ






    "ก็อยากไปอยู่หรอกค่ะ แต่ฉันต้องเอาเอกสารนี่ไปส่งให้คน ๆ หนึ่งน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้จักตึกนี้ไหมคะ"แชยียื่นกระดาษให้ชายหนุ่มดูเผื่อว่าเขาจะรู้จัก

     




    "รู้จักสิครับ ผมก็ทำงานที่นี่ งั้นเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณเอาเอกสารนี่ไปส่งให้เพื่อนคุณแล้วก็แวะทำแผลที่นั่นเลยก็ได้เพราะทีนั่นก็มีห้องพยาบาล"แชยีมองหน้าชายหนุ่มแล้วชั่งใจนิด ๆ ก่อนที่จะพยักหน้าตกลง






    "เอ่อ คุณดูท่าทางไม่ใช่คนไทย แล้วก็คงไม่ใช่ จีน หรือญี่ปุ่นด้วย ขอถามได้ไหมครับว่ามาจากประเทศไหน"ชายหนุ่มชวนหญิงสาวคุยเพื่อเพิ่มความสนิทสนม

     





    "พม่าค่ะ"แชยีหันไปตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ชายหนุ่มกลับทำตาโต สีหน้าตกใจ

     





    "โอ้โห เดี๋ยวนี้เค้าสวยแบบนี้กันแล้วเหรอเนี่ย สุดยอด"ชายหนุ่มยังคงมองหน้าหญิงสาวด้วยอาการสนอกสนใจจนแชยีแอบยิ้มไม่ได้

     





    "นี่คุณเชื่อฉันจริง ๆ เหรอคะ"แชยียิ้มออกมาทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการงงเล็ก ๆ

     





    "คุณหลอกผมเหรอ"ชายหนุ่มยังคงมีสีหน้าเหลือเชื่ออยู่

     





    "ค่ะ ฉันหลอกคุณ ฉันมาจากเกาหลีค่ะ"แชยีหัวเราะนิด ๆ กับสีหน้าของชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเชื่อเธอจริง ๆ

     




    'ยิ้มน่ารักจัง แต่งตัวก็น่ารักชะมัดเลย เสื้อบาง ๆ สีขาว เปิดไหล่ซะด้วย กระโปรงยาวไปหน่อย แต่ ขาขาวชะมัดเลยว่ะ ชอบ ๆ'ชายหนุ่มเหล่มองหญิงสาวที่กำลังนั่งยิ้มอยู่






    สักพักรถของชายหนุ่มก็แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบริษัทและทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถ พนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ)ก็รีบมาเปิดประตูให้ชายหนุ่ม

     





    "สวัสดียามเกือบเที่ยงครับ ท่านประธาน"รปภ รีบทักทายชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มยิ้มเพื่อเป็นการทักทายก่อนเขาเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้หญิงสาว ทำให้รปภอดเหล่มองหญิงสาวที่ท่านประธานของเขาพามาไม่ได้

     




    "เอ่อ ไม่ทราบว่าเพื่อนคุนแชยี ทำงานอยู่ที่ชั้นไหนครับเดี๋ยวผมไปส่ง"ชายหนุ่มกระซิบถามเบา ๆ ข้าง ๆ หูหญิงสาวทำเอาหญิงสาวเขยิบหนีแทบไม่ทัน






    "เอ่อ ชั้น 14 ค่ะ"แชยีหันมายิ้มให้แล้วเดินไปยืนอีกมุมของลิฟต์ พอประตูลิฟต์เปิดแชยีก็รีบเดินไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันทีแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เธอรีบกดสายรับทันที

     




    "ยัยกุ้งซ่าส์ไม่ต้องมาแล้วนะ ฉันไม่ได้ประชุมแล้ว"

     





    "ไม่ทันแล้วล่ะ ฉันอยู่ที่ชั้น 14 ด้านหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แล้ว นายออกมารับเอกสารนายไปเร็ว ๆ"แชยีเกิดอาการโมโหทันทีที่ได้ยิน นี่เธอต้องเจอเรื่องอะไรต่าง ๆ มากมายกว่าจะมาถึงพอมาถึงตาบ้านี่กลับบอกเธอว่าไม่ต้องมาแล้ว

     





    "เพื่อนโทรมาเหรอครับ งั้นผมคอยเป็นเพื่อนนะครับ เราไปนั่งคอยตรงนั้นดีกว่า"ชายหนุ่มชี้ไปทางเก้าอี้สำหรับแขกผู้มาติดต่อ แชยีเดินไปนั่งได้สักพัก วายุก็เดินตรงมาทางเธอ

     




    "ขอโทษนะว่าจะโทรไปบอกตั้งนานแล้วแต่กำลังยุ่งอยู่น่ะ"วายุเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแชยี ชายคนที่นั่งข้าง ๆ แชยีเงยหน้าขึ้นมองวายุแล้วทำหน้าเบื่อ ๆ

     




    "ไอ้วา อย่าบอกนะว่าคุณแชยีเป็นเมียเก็บมึง"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนมองหน้าวายุอย่าต้องการคำตอบ

     





    "อ้าว ไอ้บูม ทำไมมึงเพิ่งมาวะ เค้านัดประชุมกันตอน 9 โมงนี่มันอีก 10 นาทีเที่ยงแล้วนะเว้ย"วายุจ้องหน้าบูมอย่างหาเรื่อง จะไม่ให้หาเรื่องได้ยังไง ก็นายบูมน่ะเป็นถึงท่านประธานแต่ดันมาสายซะเอง







    "เฮ้ย ไอ้วา กูถามมึงก่อนนะ ช่วยตอบมาก่อนเลย"บูมยังคงมีสีหน้าที่ต้องการคำตอบอยู่ แชยีเองก็เช่นกัน เธออยากรู้ว่าวายุจะตอบว่าอย่างไร

     




    "วาคะ มาอยู่ที่นี่เอง รีบออกมาไม่รอฟ้าเลยนะคะ ฟ้างอนแล้วนะ"ผู้หญิงสาว สวย เซ็กซี่ หุ่นดีสุดยอดคนหนึ่งเดินมาเกาะแขนของวายุอย่างแสดงความเป็นเจ้าของแล้วมองหน้าแชยีอย่างหาเรื่อง ด้วยเซ็นต์ของผู้หญิงทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกไม่ชอบหน้ากันสักเท่าไหร่

     





    "เอ่อ ฟ้าครับ เอ่อไอ้บูม นี่ เอ่ แชยี เป็น ๆ เอ่อ"วายุมองหน้าแต่ละคนที่ลุ้นคำตอบอยู่แล้วอึดอัด

     




    "ญาติฉันเองเพิ่งมาจากเกาหลี"คำตอบที่ทำให้คนสองคนยิ้มออกแต่อีกคนกลับรู้สึกเสียใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้

     




    "ค่ะ ฉันเป็นน้องสาว นี่ค่ะ เอกสาร ฉันกลับก่อนนะคะ"แชยีวางเอกสารเอาไว้แล้วทำท่าจะเดินกลับวายุกำลังจะเอื้อมมือคว้าข้อมือแชยีเอาไว้แต่บูมเร็วกว่า

     




    "เดี๋ยวครับ แชยี คุณยังไม่ได้ทำแผลเลยนะครับ"บูมมองแขนแชยีที่ตอนนี้เลือดเริ่มแห้งแล้ว วายุมองสีหน้าบูมก็รู้ว่าเพื่อนของเขาคิดอย่างไรกับแชยี 

     




    "บูม แกรู้จักแชยีได้ยังไง"วายุยังคงจ้องมองมือของเพื่อนตัวเองที่กำลังจับแขนแชยีอยู่






    "อุบัติเหตุรักนิดหน่อยน่ะไอ้วา เอ้ยไม่ใช่สิ ว่าที่พี่เขย"บูมพูดแล้วยิ้ม ๆ แต่คนที่ถูกเรียกว่า ว่าที่พี่เขยกลับเกิดอาการเครียดขึ้นมาดื้อ ๆเเล้วไหนจะไอ้คำว่า อุบัติเหตุรักนั่นอีก






    "แหม ๆ เพิ่งรู้จักกันเองไม่ใช่เหรอ บูม อะไรจะเร็วขนาดนั้นจ๊ะ"ฟ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ วายุตอนนี้กำลังเอาแขนตัวเองคล้องกับแขนวายุอยู่ก่อนหันมายิ้มให้แชยี

     




    "เคยได้ยินคำว่ารักแรกพบป่ะ เฮ้ยวา เดี๋ยวกูขอพาน้องมึงไปหาหมอก่อนนะแล้วเดี๋ยวข้าจะไปส่งให้ถึงที่คอนโดเลยก็แล้วกันนะ"บูมพูดเองเออเอง

     




    "เฮ้ย อะไรวะ"วายุทำท่าจะโวยวายแต่ฝนน้องสาวฝาแฝดของฟ้าเดินเข้ามาควงแชนอีกข้างของวายุซะก่อน

     




    "จะหวงน้องสาวทำไมคะ ปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ น้องสาวน่ะโตแล้วนะคะ เรามาต่อกันดีกว่านะ"แล้วสองสาวก็หันมาหัวดราะคิกคักกันสองคนทำให้แชยีที่ยืนมองภาพนั้นเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมานิด ๆ

     





    "คุณบูมคะ ถ้าไม่ว่าอะไร ช่วยพาฉันเที่ยวรอบ ๆ กรุงเทพได้มั๊ยคะ ตั้งเต่ฉันมาพี่ชายของฉันเค้าไม่เคยว่างพาฉันเที่ยวเลย"แชยีหันมามองหน้าบูมแล้วส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ บูมเองก็พยักหน้าตอบรับแล้วส่งรอยยิ้มที่หวาน ๆ กลับมาเช่นกันทำให้วายุเกิดอาการโมโหสุด ๆ

     




    "เออ ไอ้วาอ่ะ รับไป กุญแจห้องทำงานฉัน ฉันอนุญาติให้ใช้ห้องได้แต่อย่าทำลายข้าวของล่ะ แล้วก็รักษาความสะอาดด้วยนะ ไปละ"บูมเดินนำพาแชยีออกไปจากสำนักงานส่วนวายุตอนนี้ก็ถูกสองสาวล็อคตัวเอาไว้แทบขยับตัวไม่ไหวได้แต่มองแชยีเดินออกไปกับเพื่อนของเขา

     




    "เอ่อ แชยีครับไปหาหมอก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรทานก็แล้วกันนะครับ"บูมหันมาบอกกับแชยีที่นั่งเงียบอยู่

     





    "ค่ะ แล้วแต่สิคะฉันไม่รู้จักเส้นทางเท่าไหร่"แชยีเริ่มรู้สึกตัวว่าชายหนุ่มมองเธออยู่เธอจึงหันมาส่งยิ้มให้

     





    "มาเมืองไทยได้กี่วันแล้วครับเนี่ย ไม่เห็นไอ้วามันเล่าให้ฟังเลย"บูมขับรถไปก็ชวนแชยีคุยไปเพื่อทำลายคามเงียบ

     





    "ก็สักระยะหนึ่งแล้วค่ะ"

     





    "พี่ชายคุณนี่ท่าทางจะหวงน้องสาวสุด ๆ เลยนะครับเนี่ย"

     





    "คงกลัวกรรมตามสนองมั๊งคะ"แชยีพูดน้ำเสียงประชดประชันทำให้บูมอดหัวเราะไม่ได้







    "ดูท่าแล้ว คุณฌองก็คงรู้นิสัยพี่ชายคุณดีนี่ครับ ไอ้วาน่ะ มันฟันไม่เลือกสาวไหนเสนอมามันก็สนองตอบ แถมได้ทุกที่ทุกเวลาด้วย ที่ผมให้กุญแจห้องทำงานผมน่ะ เพราะอย่างนี้แหละ มันชอบทำกิจกรมกับสองสาวนั่นน่ะครับ เมื่อกี๊ที่มันว่ายุ่งคงยุ่งเรื่องสองสาวนี่ล่ะมั๊ง ก็เมื่อเช้าผมไม่ได้เข้าประชุมแล้วการประชุมมันจะมีได้ยังไง"พูดเสร็จบูมก็หัวเราะคนเดียวเพราะแชยีมัวแต่นั่งหน้าบึ้ง

     




    "หน้าตาคุณกับพี่ชายไม่เห็นเหมือนกันเลยนะครับ ถ้าไอ้วาไม่บอกว่าคุณเป็นน้องสาว ผมคงคิดว่าคุณต้องเป็นเมีย
    เก็บมันแน่ ๆ"บูมพูดแล้วยิ้มให้แชยีแชยีเองก็ส่งยิ้มกลับมาเหมือนกันหากแต่รอยยิ้มของเธอแฝงไปด้วยความเศร้า ความเสียใจที่ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไม

     




    บูมพาแชยีไปหาหมอแล้วพาไปดูหนัง ตามด้วยกินข้าว ก่อนพามาส่งที่คอนโด






    "นี่มันก็มืดแล้วผมขึ้นไปส่งก็แล้วกันนะครับเผื่อว่าไอ้วามันจะกลับมาแล้ว เดี๋ยวมันจะว่าคุณเอา ผมเป็นห่วง"บูมคว้าของในมือแชยีที่ถือเอาไว้มาถือซะเองก่อนเดินนำหน้าแชยี

     




    พอไขกุญแจแล้วประตูห้องเปิดออกแชยีก็ต้องตกใจ เพราะวายุกำลังนั่งหน้ามุ่ยคอยอยู่แชยีทำสีหนแฉย ๆ ใส่ทำเหมือนมองไม่เห็น

     





    "ขอบคุณนะคะ วันนี้ฉันสนุกมากเลยค่ะ"แชยีหันมายิ้มแย้มกับบูมซึ่งบูมเองก็ยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน

     





    "ดูท่าจะสนุกสนานกันเสียจริงนะ ดูเวลาหรือเปล่าว่ามันกี่โมงกันแล้ว นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ"วายุเดินมาหยุดยืนระหว่างคนทั้งสองแล้วมองอย่างไม่สบอารมณ์

     




    "ขอโทษทีว่ะ วาพอดีว่าเราสองคนแวะดูหนังก่อนพอดีเลิกเย็นน่ะก็เลยแวะกินข้าวก่อน เอาน่า ๆ ยังไงก็พามาส่งโดยไม่บุบสลาย ไม่ได้ล่วงเกินกันเลยนะเนี่ย"บูมหันมามองแชยีก่อนส่งสายตาหวาน ๆ ไปให้แต่ก็ถูกขัดโดยวายุ

     




    "คุณบูมคะ นี่ก็มืดมากแล้วนะคะ รีบกลับดีกว่านะคะ ขับรถมืด ๆ มันอันตรายนะคะ"แชยีเห็นว่าบรรยากาศคงไม่ค่อยดีเลยรีบไล่(เชิญ)บูมให้กลับ

     





    "โอ้ ดีจังเลย คุณแชยีเปนห่วงผมด้วย มิน่าล่ะเดี๋ยวนี้ไอ้วามันไม่ค่อยเที่ยวกับเพื่อน ๆ เป็นเพราะต้องคอยดูแลน้องสาวที่น่ารักอย่างคุณน่ะเอง งั้นผมกลับก่อนนะครับ ฝันดีนะครับ"บูมยังคงขยันหันมาส่งยิ้มให้แชยีอยู่เหมือนเดิม

     





    "เออ จะกลับก็รีบกลับ ๆ ไปเลยป่ะ กูง่วงแล้ว"วายุรีบดันหลังเพื่อนตัวเองให้ออกไปจากประตูบ้านตัวเอง







    "แชยีครับ อย่าลืมฝันถึงผมด้วยนะครับ"บูมที่กำลังถูกเพื่อนดันหลังให้ออกจากบ้านก็ยังมิวายหันมาส่งยิ้มหวานให้แชยี กว่าที่วายุจะดันเพื่อนให้ออกจากประตูบ้านได้ก็นานสองนานพอหันมาอีกทีแชยีก็เดินเข้าห้องอาบน้ำปิดไฟนอนแล้ว








    "เฮ้ ๆ ยัยกุ้งแชบ๊วย ออกมาก่อนสิ เธอเล่ามาก่อนนะว่าไปรู้จักไอ้บูมได้ยังไง"วายุตะโกนคุยอยู่ข้างนอก ที่จริงแล้วการที่เขาจะเข้าไปในห้องแชยีนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่เขาไม่อยากผิดคำพูดที่ให้ไว้กับแชยี








    "......"เงียบ ไม่มีเสียงตอบจากภายในห้องของแชยี

     





    "เธอเข้าใจฉันผิดนะ ฉันเดาเอาว่าไอ้บูมมันคงบอกเธอว่าฉันไปทำอะไร ๆ กับฟ้าแล้วก็ฝนใช่มั๊ย คือจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างที่เธอรู้มานะ"วายุพยายามแก้ตัวอยู่ เพราะที่เขาพูดมันก็มีจริงบ้างคือก่อนหน้าที่แชยีจะมาน่ะเขายอมรับว่าทำอย่างนั้นกับสาวสองนางนั้นจริง ๆ แต่หลังจากที่แชยีกลับไปแล้วเขาก็ลางานครึ่งวันแล้วกลับมานั่งคอยแชยีอยู่ที่บ้าน

     





    "แล้วไง นายจะมาบอกฉันทำไม ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนาย อ้อไม่สิ เป็นแค่น้องสาวหลอก ๆ ของนายก็เท่านั้น เพราะฉนั้นนายไม่ต้องมาบอกหรือรายงานอะไรให้ฉันฟัง"แชยียอมตอบกลับมาแล้วและมัน็ชช่วยให้อะไรง่ายขึ้นสำหรับวายุ

     





    "โถ่ นึกว่างอนเรื่องอะไร ถ้าผมบอกว่าคุณเป็นแฟน มันก็จะทำให้คุณเสียชื่อเสียงนะ เพราะคุณเป็นผู้หญิง ถ้าบอกว่าเป็นญาติพี่น้องก็จะดูดีขึ้นมาหน่อย"ดูเหมือนภายในห้องจะเงียบเสียงไป

     





    "แชยีครับ ผมหิวข้าวจังเลย"วายุส่งเสียงออดอ้อนอยู่ที่ด้านหน้าประตูห้องนอนของแชยี

     





    "หิวก็ไปทำกินเองสิ นายทำเองก็ได้นี่นา"แชยีตอบกลับมาจากภายในห้อง ตอนนี้เธอลุกจากที่นอนมายืนตรงหน้า
    ประตูแล้ว

     




    "จ๊อก ๆ ๆ ๆ"เสียงท้องของวายุดังจนจนแชยีที่อยู่ในห้องถึงกับหัวเราะนิด ๆ ก่อนเปิดประตูห้องนอนออกมาเพื่อดูหน้าคนหิวข้าว

     





    "ยอมออกมาแล้วเหรอยัยกุ้งซ่าส์"วายุที่ยืนรออยู่หน้าห้องโอบกอดแชยีเอาไว้แล้วหอมแก้มเธอเบา ๆ

     





    "นี่ ๆ น้อย ๆ หน่อย คนที่เค้าเป็นพี่เป็นน้องน่ะเค้าทำอย่างงี้กันเหรอ ปล่อยเลย"แชยีพยายามดันตัวของวายุให้ออกห่างอย่างอาย ๆ และอีกใจหนึ่งก็ยังไม่หายงอน

     






    "แหมเลือดสักหยดเราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกันนี่นา ไม่ผิดหรอก"วายุหอมแก้มแชยีอีกฟอดใหญ่







    "ออกไปเลย เหม็นกลิ่นน้ำหอมเน่า ๆ"แชยีดันตัววายุออกห่างแล้วเดินหนีเข้าครัว วายุดมเสื้อผ้าตัวเองที่มีกลิ่นน้ำหอมของฟ้ากับฝนติดมาแล้วยิ้มออกก่อนเดินเข้าห้องตัวเองไปอาบน้ำ

     





    "ตาหื่น กับข้าวเสร็จแล้ว"แชยีเรียกให้วายุออกมาทานข้าวได้

     





    "ผัดพริกแสนอร่อย"วายุลงนั่งกินอาหารด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยทำเอาคนทำนั่งยิ้มแก้มแทบปริ






    "ฉันน่ะ นั่งรอเธอตั้งแต่บ่ายเลยนะ"วายุกินข้าวไป พูดไป มองหน้าแชยีไป (คนอะไรเก่งจริง ๆ ทำหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน)






    "แล้วจะรอทำไม"แชยีมองคนกินที่กินอย่างอร่อยแล้วลุกไปเปิดตู้เย็นหยิบของหวานออกมาจากตู้แล้ววางลงตรงหน้า

     



    "ฉันเป็นห่วงเธอน่ะสิ รู้มั๊ย โทรหาเธอก็ไม่รับสาย โทรหามันก็ไม่ติด ฉันกลัวว่ามันจะทำอะไรเธอ"วายุตักคัตสตาร์ดเข้าปากสองคำก็หมดแชยีเลื่อนจานของเธอให้วายุอีก

     



    "ฉันน่ะ ถ้าไม่เต็มใจใครก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"แชยีหลุดปากพูดความจริงออกไป วายุเงยหน้าจากจานขนมที่ตอนนี้ว่างเปล่าแล้วมองแชยีที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป

     




    "เอ่อ ฉันไปนอนก่อนนะ"แชยีรีบเดินออกจากห้องอาหารทันที ด้วยความอาย

     



    "อะไรของนายน่ะ ตาบ้า ปล่อยนะ"วายุเดินเข้ามากอดแชยีจากทางด้านหลังเขาเอาคางเกยไหล่ของแชยีแล้วสูดความหอมจากกลิ่นตัวและเส้นผมของเธอ





    "ผมเองก็ไม่เคยทำแบบนี้กับสาว ๆ คนไหนมาก่อนนอกจากคนที่ผมรัก"คำพูดเป็นนัยน์ ๆ ของวายุทำให้แชยีเกิดอาการหน้าแดง





    "ปล่อยได้แล้วง่วงนอน"เชยีพยายามแกะมือวายุออกจากตัวของเธอ






    "งั้นขอ Goodnight Kiss ก่อนนะ"วายุจับตัวแชยีให้หันหน้ามาทางเขาอย่างช้า ๆ

     



    "ฉันกับนายไม่ได้เป็นอะไรกันนะ อย่ามาทำแบบนี้สิ"แชยีมีท่าทีเขินอาย


     

    "โห ใครว่าไม่เป็นล่ะ ผมน่ะ...เอาล่ะ ถึงบรรยากาศจะไม่ค่อยดีแต่ผมก็คงต้องบอก..."วายุทำสีหน้าจริงจังส่วนแชยีก็ทำสีหน้าลุ้นตาม




     

    "คือ....คือ...."ลุ้นระทึก





    "เธอน่ะเป็นคนใช้ฉันนะ เเต่งตัวเเบบนี้ได้ยังไง พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ เธออย่าแต่งตัวเหมือนวันนี้อีกนะ"แป่ว แชยีเกิดอาการแห้วขึ้นมากระทันหัน




     

    "อะไร ทำไม"แชยีดันตัววายุออกห่างแล้วทำสีหน้ากึ่งงอนกึ่งโมโห




     

    "ก็...แบบว่า...มันโชว์จนเกินไปน่ะ เธอไม่เห็นจะสวยเลย สงสารคนที่เค้าเผลอมองเธอน่ะ"เท่านั้นแหละแชยีผลักวายุจนหน้าคะมำลงไปนั่งที่พื้นแล้วเดินเข้าห้องอย่างไม่สนใจเเต่ก่อนเข้าห้องไปยังไม่วายตะโกนกลับมาอย่างน้อยใจ





    "เเน่สิ ฉันน่ะต่อหน้าคนอื่นมันก็เป็นได้เเค่น้องสาวจอมปลอม ส่วนกับนายฉันมันก็เเค่คนใช้"เเถมตามมาด้วยเสียงปิดประตูที่ดังลั่น




     

    "เฮ้อ ไอ้วายุ หนอไอ้วายุ ทำไมไม่พูดไปวะ ผม-ชอบ-คุณ สั้น ๆ แค่นี้ ทำไมไม่พูดวะ"วายุนั่งเอามือตีปากตัวเองเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนมองหน้าประตูห้องนอนของแชยีสักพักก่อนเดินโมโหตัวเองเข้าห้องนอนไป






    "เเล้วฉันจะสนใจนายทำไมว่าฉันจะเป็นอะไรสำหรับนาย เพราะยังไงคนที่ฉันต้องเเต่งงานด้วยก็คงไม่ใช่นาย อีตาบ้าหื่นกามโรคจิต"แชยีนั่งทำหน้าเศร้าทุกครั้งที่พูดถึงชะตากรรมเรื่องนี้ของตัวเอง นี่เเม้เเต่คนที่เธอต้องใช้ชีวิตด้วยไปจนวันตายเธอก็ไม่มีสิทะเลือกเองเหรอเนี่ย เเชยีล้มตัวลงบนที่นอนแล้วค่อย ๆ หลับตาลงวันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอต่าง ๆ มากมายเธอเหนื่อยเหลือเกินง่วงมาก เอาไว้ค่อยเขียนไดอารี่พรุ่งนี้ก็แล้วกัน

     


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    สวัสดีค่ะ ขอโทษที่มาช้าไปหน่อยนะคะ คงไม่ว่ากันนะคะ เนื้อหาตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจทานรายละเอียดเลยน่ะค่ะ รีบเอามาลงให้ก่อน ถ้าใครพบเห็นว่ามีสิ่งใดผิด(อาจจะพิมพ์ผิด หรืออื่น ๆ )ก็เเวะบอกกันด้วยนะคะ

    ขอบคุณเพื่อน ๆ ผู้ที่เข้ามาอ่านทุกท่านเลยนะคะ ตั้งเเต่ตอนนี้เป็นต้นไป คนเเต่งจะเเวะทักทายกับเพื่อน ๆ ที่เเวะเข้ามาเเปะข้อความเอาไว้นะคะ บายค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×