ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยัยเอ๋อสุดซ่าส์กะนายบ้าหน้าหื่น

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 ออกกำลังกายกับการจ่ายตลาด(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 50





    เวลาเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่พระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสงแรกของยามเช้า มันคือเวลา ตีห้ากว่า ๆ ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังทำท่าเดินแบบย่องเบา ๆ เหมือนกับกลัวว่าใครบางคนจะตื่น พอถึงห้องเป้าหมายแล้วเขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างเบามือที่สุดเท่าทีจะทำได้ หลังจากที่ประตูห้องถูกเปิดแล้วเขาก็ค่อย ๆ เดินย่องไปทางเตียงนอนที่มีใครบางคนนอน อยู่

     

    "หึหึ เธอเสร็จฉันแน่ยัยกุ้งแชบ๊วย"เสียงชายหนุ่มพูดอย่างแผ่วเบาก่อนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขอยู่บนที่นอน ชายหนุ่มมองหญิงสาวบนที่นอนสักพักแล้วก็สูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้แล้ว

     

    "ยัยกุ้งแชบ๊วยตื่นได้แล้ว...ปุ๊"เสียงนายวายุตะโกนอย่างดังใกล้ ๆ หูของแชยีทำให้แชยีเกิดอาการตกใจจนคว้าหมอนมาปาตามทิศทางของเสียงทันทีทำให้หมอนถูกปาเข้าเต็ม ๆ ที่ใบหน้าของวายุแต่ที่ร้ายไปกว่านั้น หมอนของแชยีสอดใส้หนังสือนิตยสารแอลเอาไว้ด้วยทำให้นายวายุเจ็บกว่าปกติ

     

    "โอ๊ย ยัยกุ้งซ่า"นายวายุเริ่มเปลี่ยนสรรพนามการเรียกแชยีใหม่อีกครั้ง เขากำลังยืนเอามือกุมจมูกของตัวเองอยู่ส่วนแชยีตอนนี้ก็กำลังนั่งหัวเราะท่าทางของวายุอยู่บนที่นอนอย่างสนุกสนาน

     

    "ยัยกุ้งซ่าส์ ซ่าส์นักนะเธอเนี่ย"วายุหันมามองหน้าแชยีอย่างโกรธ ๆ ส่วนแชยีเองก็ทำหน้าทะเล้นตอบกลับ

     

    "เล่นอย่างนี้ใช่มั๊ย...ได้"วายุมองแชยีแล้วยิ้มอย่างสุดแสนเจ้าเล่ห์ออกมาก่อนที่จะกระโดดขึ้นบนที่นอนของแชยีโดยตัวเขาขึ้นคร่อมทับร่างของแชยีที่นอนอยู่ข้างล่างแล้วเริ่มลงมือปฎิบัติการ...ออกกำลังกายยามเช้า

     

    "อ๊าย ตาบ้า ปล่อยฉันนะ"เสียงแชยีร้องออกมาเพื่อบอกให้นายวายุหยุดการกระทำที่เขากำลังกระทำอยู่แต่วายุกลับไม่ฟังแถมยังคงทำหนักกว่าเก่าส่วนแชยีก็ได้แต่ดิ้นไปมาโดยมีนายวายุที่ยังคงทับร่างของเธอเอาไว้

     

    "หยุดเหรอ ใครจะหยุดให้โง่ล่ะ แบบนี้แหละดี ออกกำลังกายตอนเช้าไง ได้เหงื่อดีด้วย"พูดจบวายุก็ลงมือกระทำต่อโดยมีแชยีนอนหอบอยู่บนที่นอน

     

    "ฉัน...ขอ...โทษนาย...ก็...ได้"เสียงแชยีพูดขาดช่วงด้วยความเหนื่อยมันทำให้วายุเพลามือลงบ้าง

     

    "เหรอ"วายุหยุดการกระทำสักพักแล้วเขาก็เริ่มลงมือต่อ

     

    "ฮ่า ๆ ๆ นี่ ฉันบ้าจี้นะ หยุดจี๋เอวฉันได้แล้วอีตาบ้า ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ"แชยีเริ่มรวบรวมสติหยุดอาการหัวเราะแล้วเริ่มต่อว่าวายุทันที

     

    "หึหึ ก็แกล้งเธอมันสนุกดีนี่นา"วายุเห็นแชยีที่มีอาการเหนื่อยสุด ๆ หลังจากโดยเขาจี๋เอวเธออยู่นานก็เริ่มเห็นใจ เลยยอมเลิก

     

    วายุลงนั่งข้าง ๆ ที่นอนส่วนแชยีเองก็ลุกขึ้นมานั่ง แชยีไม่ได้สังเกตชุดนอนของเธอเลยว่าสภาพมันเป็นยังไง ชุดนอนHello Kitty สีชมพู กระดุมติดแบบจีนหลุดออกจบเกือบหมด วายุมองไล่ไปเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่เนินอกขาว ๆ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้สัมผัสมัน สัมผัสครั้งนั้นมันยังคงตราตรึงอยู่ในห้วงคิดของเขา เขาค่อย ๆ เลื่อนตัวเข้าใกล้แชยีโดยที่เธอเองไม่ทันสังเกตถึงภัยที่เข้าใกล้ตัวเธอ

     

    "อะไรของนะ... "แชยียังพูดไม่ทันจบ วายุก็ประกบริมฝีปากของเขากับของเธอเข้าก้วยกัน ลิ้นอุ่น ๆ ของเขาเริ่มซุกไซร้ไปทั่วเพื่อลิ้มชิมความหวาน แรก ๆ แชยีก็ขัดขืนแต่สักพักร่างกายของเธอก็ไม่ยอมเชื่อฟังผู้เป็นเจ้าของแล้ว วายุพอเห็นแชยีเริ่มคล้อยตามเขาก็ค่อย ๆ เลื่อนมืออุ่น ๆ ของเขาที่ตอนนี้กำลังกุมมือแชยีอยู่ ขึ้นมาลูบไล้เนื้อตัวของแชยีไปมาอย่างแผ่วเบา มันทำให้แชยีรู้สึกร้อนไปทุกการสัมผัสของวายุ

     

    ตอนนี้ร่างกายของแชยีเริ่มอ่อนใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ วายุค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกจากแชยีแล้วเลื่อนใบหน้าของเขาลงมาสู่ลำคอ ก่อนที่จะฝังใบหน้าของเขาลงไปพร้อมกับขบกัดเบา ๆทำให้แชยีที่มีประสาทสัมผัสที่ดีเป็นพิเศษถึงกับเผลอครางออกมาเบา ๆ กับรสสัมผัสที่ได้มามันเหมือนเรื่องเมื่อครั้งก่อนที่เกิดขึ้นในห้องน้ำ

     

    ใบหน้าอันหล่อเหลาของวายุค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่เนินอกขาวอวบอิ่มของแชยี ตลอดระยะทางจากคอถึงเนินอกวายุใช้ลิ้นเลียเป็นทางพร้อมกับทิ้งร่องรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเขากำลังจะเป็นเจ้าของเธอในไม่ช้า

     

    นี่คงเป็นโชคดีของวายุที่แชยีโนบราแต่คงเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับแชยีว่าครั้งหน้าเธอคงต้องใส่บรา

     

     

    ใบหน้าของแชยีตอนนี้ทำให้วายุอดใจไม่ได้ที่จะเกิดอาการใจเต้นโครมคราม มันเหมือนกับอาการของคนตกหลุมรัก นี่เขาตกหลุมรักแม่สาวตรงหน้าเข้าจริง ๆ เหรอเนี่ย

     

    "กรี๊งงงงงง"แล้วเสียงที่ทำลายบรรยากาศก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะของสองหนุ่มสาวมันคือโชคดีของหญิงสาวแต่เป็นโชคร้ายของชายหนุ่มเพราะเสียงนาฬิกาอันดังสะท้านโลกาทำให้หญิงสาวถูกดึงสติกลับมาอีกครั้งเธอหลุดออกจากมนตร์สะกดของดวงตาหยาดเยิ้มสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นแล้ว

     

    แชยีที่ตอนนี้นอนอยู่บนที่นอนโดยทีชายหนุ่มนอนทาบทับอยู่นั้นพยายามรวบรวมกำลังเท่าที่เหลือยู่แล้วซัดเข่าไปอย่างเต็มแรง

     

    "โอ๊ย...เธอ"วายุถูกเข่ากระแทกเข้าตรงจุดสำคัญ ถึงแชยีจะออกแรงได้ไม่มากแต่มันก็สามารถทำให้ชายหนุ่มนั่งจุกได้แชยีอาศัยช่วงเวลานี้ยันตัวขึ้นนั่งและรีบจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย

     

    "ยัยกุ้งซ่าส์ เธอ ๆ โอ๊ย"วายุที่หายจากอาการจุกเอามือชี้หน้าแชยี ส่วนแชยีเองก็เอามือของวายุมากัดเช่นกัน

     

    "ยัยกุ้งซ่าส์ เธอเปลี่ยนจากกุ้งเป็นหมาหรือไงเนี่ย"วายุชักมือกลับมาแล้วสะบัดไปมาอย่างเจ็บ ๆ

     

    "กรี๊ดดดดด"แชยีไม่ตอบแต่เธอกรี๊ดแทนเธอเสียงที่ดังกว่า 80 เดซิเบลที่ทำให้ชายหนุ่มที่ชื่อวายุต้องรีบเอามืออุดปากของแชยีเอาไว้ด้วยความเร็วสูง

     

    "ยัยกุ้งซ่าส์เธอจะแหกปากทำบ้าอะไรเนี่ยเดี๋ยวคนเค้าก็คิดว่าฉันกักขังหน่วงเหนี่ยวสัตว์ป่าสงวนเอาไว้หรอก"นายวายุตะคอกแชยีเบา ๆ แล้วทำหน้าดุใส่ส่วนแชยีเองก็ไม่สนใจในคำว่าเธอกัดมือของวายุแล้วใช้บาทาน้อย ๆ ของเธอผลัก (ว่าง่าย ๆ ถีบ น่ะเอง) วายุลงจากที่นอนของเธอ

     

    (เฮ้อ แชยีจ๋าเพิ่งนึกได้เหรอว่าต้องไล่นายวายุลงจากที่นอนก่อนน่ะ^_^)

     

    "ยัยกุ้งซ่าส์เธฮทำบ้าอะไรเนี่ย"วายุนั่งเอามือคลำสะโพกตัวเองไปมาแล้วทำสีหน้าเหยเก มันเป็นสีหน้าที่บอกได้เลยว่าเจ็บจริง ๆ

     

    "ยังน้อยไปด้วยซ้ำกับที่นายทำกับฉัน ไอ้บ้า ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้...ไอ้..."แชยีที่เรียนรู้ภาษาไทยได้นิดหน่อยเลยว่าได้แต่คำแบบนี้

     

    ส่วนวายุก็นั่งมองหน้าแชยีอยู่ข้าง ๆ เตียงสักพักก็ลุกขึ้นยืนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่แสนจะร่าเริง ส่วนแชยีพอเห็นวายุทำท่าร่าเริงก็เกิดอาการผวาเล็ก ๆ มือของเธอกุมผ้าห่มที่นำมาห่อตัวไว้แน่นเหมือนกับว่ามันมีเท้าเดินได้และกำลังจะเดินหนีเธอไป

     

    "ทำแบบไหนเหรอ~~~"วายุยื่นหน้ามาใกล้แชยีแล้วก็ลากเสียงยาว ๆ ก่อนทำหน้าตาหื่น ๆ ใส่แชยีที่กำลังนั่งหน้าแดงอยู่ แชยีมองหน้าวายุอย่างโกรธ ๆ แล้วเล็งเต็มที่ก่อนตบเต็มแรง

     

    "เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรเหรอ"วายุที่จัดได้ว่ารู้จักผู้หญิงดีสามารถรู้ได้ว่าผู้หญิงอย่างแชยีมีเหรอที่จะไม่เอาคืนเขา วายุจับข้อมือของแชยีเอาไว้แล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู

     

    "เคยดูหนังไทยหรือเปล่า เธอตบฉันจูบน่ะ"วายุไม่พูดเปล่าเขาบรรจงส่งจูบที่แสนจะเร่าร้อนไปให้แชยี จูบที่เรียกให้ไฟในอารมณ์ของคนทั้งสองคุกรุ่นขึ้นมาได้อีกรอบ แชยีเผลอใจเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่แสนร้อนแรงนี้แต่สักพักจิตใต้สำนึกของเธอก็ได้สติ ดันตัววายุออกห่างจากเธอทันทีพร้อมกับตบหน้าวายุอย่างแรงอีกหนึ่งฉาด

     

    "รู้หรือเปล่าว่าคนไทยเค้ามีคำพูดที่ว่า ผู้หญิงตบแปลว่าผู้หญิงรัก"วายุไม่พูดอะไรมากเขาดึงตัวแชยีเข้ามากอดแล้วก็ส่งจูบอันเร่าร้อนให้เธออีกครั้งส่วนแชยีเองก็ได้แต่ดิ้นไปมาเพราะสู้แรงของวายุไม่ได้

     

    หลังจากที่ถูกจูบอยู่นานสองนานแชยีก็น้ำตาไหลอาบสองแก้มทำให้วายุหยุดการกระทำของเขา วายุมองแชยีด้วยสีหน้าตกใจอย่างมากเขาไม่เคยรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้เลยเวลาที่เห็นน้ำตาของผู้หญิง เขาไม่รู้ต้องทำอย่างไร เขาค่อย ๆ กอดแชยีอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอามือเช็ดน้ำตาของแชยี

     

    "คือ...คือ ผมขอโทษนะ ผม..."วายุเกิดอาการพูดตะกุกตะกักทันทีส่วนแชยีก็เงยหน้าขึ้นมาพร้มส่งค้อนให้วายุแต่ค้อนนั้นกลับทำให้วายุขำนิด ๆ เพราะหน้าตาของเธอไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสำหรับเขา เขากลับคิดว่าเธอน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งกว่าเก่าอีก

     

    "คุณมันแย่มาก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง"วายุที่กำลังถูกหญิงสาวในอ้อมกอดดุอยู่นั้นถึงกับหน้าถอดสีเล็กน้อย เพราะสิ่งที่เธอพูดมานั้นมันเป็นจริง

     

    "ผม...ผมขอโทษนะ"วายุพยายามทำหน้าสำนึกผิดใส่แชยี ส่วนแชยีเองก็แอบกลั้นรอยยิ้มเอาไว้เพราะเธอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำท่าน่ารักแบบนี้เป็นด้วย

     

    "ต่อไปนี้คุณห้ามทำแบบนี้กับฉันอีกนะ ถึงคุณจะเป็นเจ้านายฉันแต่ฉันก็ไม่ได้ง่ายนะ"

     

    "ครับ ๆ"วายุทำหน้าตายิ้ม ๆ ใส่แชยีจนแชยีอดมองค้อนไม่ได้

     

    "ครับอะไร"แชยีเริ่มมองค้อนใหม่อีกรอบ

     

    "ก็ที่ว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณยังไงล่ะครับ คุณแชยี"วายุทำหน้าตาทะเล้นใส่แชยีจนแชยีอดหัวเราะไม่ได้ พอเห็นหน้าแชยีหัวเราะออกมาได้วายุเองก็เกิดอาการยิ้มตามไปด้วย

     

    "เอ้า ไหน ๆ ก็ตื่นแล้วนี่ไปอาบน้ำแต่งตัวเร็ว ๆ เข้าเดี๋ยวจะพาไปจ่ายตลาดตอนเช้า ลุกเร็ว ๆ เข้าเดี๋ยวสายตลาดจะวายซะก่อน"วายุลุกจากที่นอนแชยีแล้วหันมาบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     

    "จ่ายตลาดเหรอ นายหมายถึงตลาดจริง ๆ น่ะเหรอ ที่ ๆ เค้าเอาผักเอาปลามาขายกันน่ะเหรอ ไม่ใช่เหมือนในซุปเปอร์นะ ใช่หรือเปล่า"พอแชยีได้ยินคำว่าจ่ายตลาดก็ทำตาโตทันทีเพราะเธอไม่คิดว่าจะได้ไปจ่ายตลาดจริง ๆ เธอนึกว่านายวายุจะพาเธอไปที่ห้าง

     

    "อือ ก็ใช่ตลาดสดไง"วายุมองหน้าแชยีอย่างงงเพราะสีหน้าท่าทางของแชยีตอนนี้เหมือนเด็กเล็ก ๆ ไม่มีผิดมันทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้

     

    "เธออย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยไปจ่ายตลาด"วายุหันมาถามแชยีถือเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวกำลังเดินไปอาบน้ำ

     

    "ใช่ ไม่เคยทีแรกฉันคิดว่านายจะพาไปห้างซะอีกนะเนี่ย ว่าแต่ไปจ่ายตลาดต้องแต่งตัวยังไงเหรอ"แชยีมองเสื้อผ้าของเธอที่พอเหลืออยู่แล้วเหลือบมองวายุ

     

    "หึหึ เอาชุดนี้ก็แล้วกันนะ เสื้อยืดธรรมดาก็พอ ส่วนกางเกงก็สามส่วนตัวนี้ก็แล้วกันนะ"วายุเดินมาเลือกเสื้อผ้าให้แชยี เสื้อที่เขาเลือกเป็นเสื้อแขนสั้นเข้ารูปธรรมดาสีขาวลายผีเสื้อส่วนกางเกงก็สีเขียวอ่อนสามส่วนแชยีมองเสื้อผ้าที่วายุเลือกให้แล้วก็รีบคว้าไปแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันทีแต่ก็ไม่ลืมชะโงกหน้ามาเพื่อกำชับ

     

    "นี่ นายห้ามแอบเข้ามาในห้องน้ำนี้นะ"แชยีทำหน้ายักษ์ใส่วายุส่วนวายุเองก็หันมายักคิ้วให้นิด ๆ ก่อนที่จะเดินออกนอกห้องไป

     

    หลังจากที่แชยีอาบน้ำอยู่นานก็ได้เวลาไปจ่ายตลาดทั้งสองคนเดินลงมายังที่จอดรถที่อยู่ข้างล่างคอนโด

     

    "ไหนรถนายเหรอ"แชยีมองหารถที่ตนคิดว่าน่าจะเป็นรถของนายวายุ เธอพยายามกวาดสายตาแล้วหันมามองนายวายุที่ส่งยิ้มให้เธออยู่ข้าง ๆ เธอแทบไม่เคยก้าวเท้าออกจากห้องขอบนายวายุเลยมันทำให้เธอไม่รู้ว่านายวายุมีรถกับเค้าด้วย

     

    "นี่ไงรถของผม"วายุเดินมาหยุดยืนที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก่อนหันมายิ้มกว้างให้กับแชยีที่กำลังทำท่าอึ้งสีหน้าแปลก ๆ จนวายุอดคิดไม่ได้ว่าเธอคงคิดดูถูกเขาอยู่แน่ ๆ

     

    "เอ่อ มอเตอร์ไซค์"แชยีมองรถมอเตอร์ไซค์แล้วหันไปมองวายุเพื่อขอความแน่ใจ พอวายุพยักหน้าแชยีถึงกับยิ้มกว้างออกมา

     

    "เย้ ๆ ดีใจจังเลยจะได้นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์แล้ว เย้ ๆ รีบ ๆ ไปกันเลยสิ นายบอกว่าถ้าช้าแล้วเดี๋ยวตลาดวายไม่ใช่เหรอ"แชยีรีบเดินไปนั่งที่รถทันทีแล้วเรียกให้วายุรีบ ๆ ออกรถวายุอึ้งสักพักก็ยิ้มออกมาเขารู้สึกโล่งใจยังไงบอกไม่ถูกที่แชยีไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจรถมอเตอร์ไซค์คันนี้

     

    "นี่ ๆ นาย ฉันมีเรื่องสงสัยตั้งแต่เมื่อกี๊นี้แล้วล่ะว่าจะถามแต่ลืม"หลังจากที่มาถึงตลาดแชยีก็เริ่มถามคำถามแรกกับวายุ

     

    "เอ่อ ไอ้ตลาดวายเนี่ยมันเป็นยังไงเหรอ เอ่อ คนในตลาดเค้าเป็นแบบในการ์ตูนเหรอ แบบyaoi กะ yuri อ่ะ"คำถามของแชยีทำให้วายุหยุดเดินกระทันหันทำให้แชยีที่เดินตามมาข้างหลังชนเข้ากับแผ่นหลังของวายุอย่างจัง วายุหันมามองหน้าแชยีแล้วทำตาโตสักพักเขาก็ปล่อยก๊ากออกมาจนแชยีสงสัย วายุเลยรีบอธิบายก่อนที่แชยีจะเข้าใจผิดมากไปกว่านี้

     

    "คือว่านะ ไอ้คำว่าตลาดวายน่ะเค้าไว้ใช้กับ เอ่อ อธิบายยังไงดีล่ะ อืม...เหมือนกับว่าถ้าเราไปช้าแล้วเค้าจะไม่เหลือของไว้ขายน่ะเพราะคนอื่นเค้าซื้อไปหมดแล้วประมาณนี้อ่ะนะ มันไม่เกี่ยวกับพวก yaoi กะ yuri หรอก"วายุอธิบายไปก็ขำไปส่วนแชยีก็ยิ้มนิด ๆ กับความรู้ใหม่ ๆ ที่ได้มา

     

    วายุเดินนำหน้าแชยีไปจ่ายตลาดวายุเป็นคนถือตะกร้าใส่ของแล้วก็คอยแนะนำแชยีเวลาเลือกซื้อของต่าง ๆ แชยีเองก็ตั้งใจฟังตั้งใจดูกับสิ่งที่วายุบอก

     

    "ตายแล้วน่ารักดีนะคะเนี่ยวันนี้พ่อวายุพาแฟนมาจ่ายตลาดด้วย"ป้าท่าทางใจดีคนหนึ่งที่กำลังขายของอยู่พูดแล้วส่งยิ้มมาให้กับวายุและแชยี

     

    "เอ่อ ไม่"

     

    "แล้วแฟนผมน่ารักมั๊ยล่ะครับ"วายุพูดแรกแล้วหันมาส่งยิ้มหวานให้กับแชยีก่อนที่จะหันมารอคำตอบจากป้าคนขาย

     

    "จ้า น่ารักมาก ๆ เลยแหม หาน่ารัก ๆ อย่างนี้ที่ไหนจ๊ะเนี่ยป้าจะไดไปหาให้ลูกชายป้าบ้าง"

     

    "เอ่อ หามาจากซอกตึกน่ะครับ"

     

    "แหม พ่อวายุล่ะก็ พูดเป็นเล่นไปได้ อ่ะนี่จ๊ะป้าแถมกุ้งให้อีกก็แล้วกันนะจ๊ะ เนี่ยสด ๆ เลยนะจ๊ะ"วายุยิ้มให้กับป้าคนขายแล้วรับถุงกุ้งมาถือไว้ในมือ

     

    "นาย ทำไมนายไม่ให้ฉันพูดล่ะว่าฉันกับนายไม่ได้เป็นแฟนกัน"แชยีทำหน้าตาโกรธ ๆ ใส่วายุแล้วเดินงอนจนวายุอดนึกขำไม่ได้ขณะที่วายุกำลังจะเดินตามแชยีสายตาเขาก็สะดุดเข้ากับร้าน ๆ หนึ่งเขาแอบแว่บไปซื้อของที่ร้านนั้นก่อนเดินตามแชยีไป

     

    "อ่ะนี่ หายโกรธนะครับ"วายุยื่นกระทงใบตองมาทางแชยี แชยีมองของในกระทงใบตองแล้วเงยหน้ามองวายุด้วยสีหน้าสงสัย

     

    "นี่น่ะมันเป็นขนมไทย ชื่อขนมครก ลองกินดูสิอร่อยนะ"วายุยื่นขนมครกไปให้แชยีลองทานดู แชยีชั่งใจนิด ๆ ก่อนี่จะลองหยิบมากินดู

     

    "อ๊าย ร้อน ๆ"แชยีกำลังอ้าปากพะงาบ ๆ พ่นไอร้อนออกจากปากของเธอเพราะขนมครกที่เธอเพิ่งใส่ปากไปทำพิษเข้าให้

     

    "หึหึ ผมลืมบอกไปว่ามันร้อนน่ะ"วายุพูดแล้วทำหน้าตายิ้มแย้มแถมด้วยการยักคิ้วให้แชยีนิด ๆ ก่อนจะเอามือจิ้มที่หน้าตัวเองเหมือนเป็นการบอกนัย ๆ ว่ามันคือการแก้แค้นที่เธอตบเขาเมื่อเช้าแชยีแลบลิ้นใส่แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินขนมครกต่อจนหมด

     

    ตลอดทางที่วายุเดินจ่ายตลาด วายุเดินยิ้มแย้มให้กับแม่ค้าภายในตลาดเหมือนกับว่ารู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

     

    'ดูท่าหมอนี่จะเป็นขวัญใจแม่ค้าด้วยแหง ๆ'แชยีมองวายุที่กำลัต่อรองราคาสินค้ากับบรรดาแม่ค้าแล้วก็ยิ้มนิด ๆ

     

    "เอาล่ะ ได้ของครบแล้วงั้นกลับเหอะ หิวข้าวแล้ว"วายุพาแชยีกลับมายังคอนโดของตัวเอง เนื่องจากตลาดอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่นักจึงใช้เวลาไม่นาน

     

    หลังจากที่จัดข้าวของใส่ตู้เรียบร้อยแล้ววายุก็ให้แชยีช่วยถือถุงอาหารมาจัดใส่จานที่โต๊ะอาหาร

     

    "อ่ะ นี่ผมซื้อโจ๊กเจ้าอร่อยมาด้วยนะ แล้วนี่ก็น้ำเต้าหู้แล้วก็ที่ขาดไม่ได้เลย ปาท่องโก๋"วายุมองจานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วมองหน้าแชยีที่กำลังมองหน้าตาอาหารอย่างสนใจ

     

    "อ่ะ กินซะ อร่อยนะ"วายุเลื่อนชามโจ๊กให้แชยีแล้วตัวเขาเองก็เริ่มลงมือทานโจ๊กอย่างเอร็ดอร่อย

     

    "เอ่อ อร่อยเหรอ"แชยีมองหน้าตาวายุที่กำลังกินอย่างอร่อย

     

    "อือ อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยกินน่ะ"วายุทำสีหน้าแปลกใจที่แชยียังไม่ยอมแตะอาหารตรงหน้า

     

    "ไม่ใช่ไม่เคย แต่นายเอาปาท่องโก๋ใส่ลงไปด้วยเหรอ รสชาติมันเป็นยังไงเหรอ"วายุมองหน้าแชยีก่อนส่งยิ้มให้เขาค่อย ๆ ตักโจ๊กจากชามของเขาป้อนแชยี

     

    "อะ อร่อยจังเลย แต่เผ็ดไปหน่อยนึง"แชยีทำหน้าตาราวกับเพิ่งเคยได้กินของอร่อย ๆ แบบนี้มาก่อน มือหนึ่งก็ตักโจ๊กเข้าปากส่วนอีกมือก็พัดคลายความเผ็ดร้อน วายุมองแชยีแล้วอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนลากชามโจ๊กของแชยีมาแล้วปรุงรสอ่อน ๆ ให้แชยีเสร็จแล้วเลื่อนมาให้แชยี

     

    "เอ่อ แหะ ๆ ขอโทษทีนะ มันอร่อยน่ะฉันเลยกินของนายไปซะเยอะเลย"แชยีมองชามโจ๊กของวายุที่เหลืออยู่ครึ่งถ้วยแล้วมองหน้าวายุด้วยสายตาขอโทษ

     

    "หึหึ ดูท่าแล้วเธอเนี่ยคงกินเก่งเน๊อะ สงสัยถ้าไม่ลูกคนเดียวก็ต้องเป็นลูกคนเล็กแน่ ๆ"วายุลากชามโจ๊กของตัวเองที่เหลืออยู่มาทานต่อหน้าตาเฉย

     

    "หืม เดาเก่งนี่นา ฉันน่ะลูกคนเล็กฉันมีพี่ชายอีกคนหนึ่งแต่พี่ชายฉันเค้าได้ทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะ"แชยีพูดไปด้วยกินไปด้วยส่วนวายุก็นั่งมองแชยีไปพลางกินไปพลาง

     

    "งั้นพี่ชายเธอคงเรียนเก่งน่าดูเลยสินะ พ่อแม่คงภูมิใจแย่"แชยีสะดุดกับคำพูดของวายุเธอหยุดกินแล้วทำหน้าเศร้านิด ๆ จนวายุต้องเลยหน้ามามองแชยีด้วยความสงสัย

     

    "ใช่ พี่ชายฉันเรียนเก่งมากเลยล่ะ พี่ชายฉันมีความฝันที่ดีนะเค้าอยากที่จะเป็นนักสถาปนิก"แชยีพูดถึงพี่ชายไปก็อมยิ้มไป

     

    "แต่พ่ออยากให้พี่เรียนบริหารมากกว่าน่ะ พี่ชายเลยทะเลาะกันกับพ่อ สุดท้ายพี่ก็เลือกความฝันของตัวเองนาน ๆ ทีพี่จะกลับมาเยี่ยมฉันกับแม่น่ะ"แชยีพูดไปก็น้ำตาคลอไปเธอคิดถึงพี่ชายเธอมากเหลือเกิน พี่ชายที่แทบจะตัวติดกันตลอดเวลา พี่ชายที่เป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอมา

     

    "ถ้าคิดถึงก็ไปหาพี่เธอสิ"วายุพูดให้กำลังใจแชยีเขาเองไม่ค่อยถนัดที่จะปลอบใจใครเท่าไหร่นักเพราะเขาไม่มีพี่น้อง

     

    "นั่นสินะ"แชยีมองหน้าวายุแล้วส่งยิ้มให้ส่วนวายุเองก็ส่งยิ้มตอบกลับมาเช่นกันแต่ลึก ๆ ในใจของเขาแล้วเขาไม่ต้องการให้เธอไปจากเขาเลยเขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งเธอเอาไว้ให้นานเท่านาน

     

    "รีบ ๆ กินเข้าแล้วก็รีบไปล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน เช็ดกระจก ฯ ไม่ต้องมาทำหน้าตาเป็นกุ้งเอ๋อหรอกฉันเป็นเจ้านายเธอเธอมีหน้าที่เป็นแม่บ้านให้ฉันเธอก็ทำงานของเธอไปซะแล้วเย็น ๆ จะสอนทำอาหาร"วายุกลับมาทำหน้าขรึมแบบเดิมหลังจากสั่งงานแชยีเสร็จเขาก็เดินไปนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์ส่วนแชยียังคงนั่งอ้าปากค้างอยู่ที่โต๊ะอาหาร

     

    "อีตาบ้านี่ ท่าจะประสาท เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เมื่อกี๊ยังคุยกันดี ๆ อยู่เลย"แชยีเดินเอาจานอาหารไปเก็บแล้วล้างทำความสะอาดก่อนที่จะลงมือทำความสะอาดบ้านตามที่ได้รับคำสั่งมา

     

    สายตาของวายุจับจ้องอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์แต่ภายในใจเขาตอนนี้กลับว้าวุ่น สมองของเขากำลังสับสน

     

    'นี่เรารักยัยนี่เหรอ จริง ๆ เหรอ'วายุนั่งหน้าเครียดกว่าเก่าเพราะถ้าเขารักแชยีจริง ๆ ล่ะก็คงจะแย่ สาเหตุแรก เขาไม่รู้ที่มาที่ไปของเธอเลย เธอแทบไม่เคยเล่าอะไรให้เขาฟังเลย เท่าที่ฟังจากเมื่อกี๊เขาเดาเอาว่าเธอคงหนีออกจากบ้านมาและถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คงต้องมีสักวันที่เธอจะต้องจากเขาไปแล้วเขาจะทนได้อย่างไร

     

    'เราต้องพยายามไม่รัก อย่าลืมสิ เราได้ฉายาเจ้าชายแห่งสายลม สายลมที่พัดไปเรื่อย สายลมที่ไม่มีใครสามารถจับได้ สายลมที่ไม่หยุดอยู่ที่ใครทั้งนั้น จะต้องไม่รัก'ในหัวของเขามีแต่เรื่องนี้วนเวียนไปมาใคร ๆ ต่างให้ฉายาเขาว่าเจ้าชายสายลมเพราะไม่เคยมีสาว ๆ คนไหนจับเขาได้เลย เขานั่งมองแชยีทำความสะอาดสักพักก็เดินเข้าห้องนอน

     

    "อีตาบ้านี่ท่าจะประสาทหนัก นั่งทำหน้าเครียดแล้วก็เดินเข้าห้องไปเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เอ๊ะแล้วเราจะสนใจทำไมกันทำงานต่อดีกว่า"

     

    แชยีเองเอก็ไม่เข้าใจตัวเธอเหมือนกันเพราะมีเวลาว่างทีไรหน้าของวายุต้องมาวนเวียนอยู่ภายในหัวสมองของเธอแล้วเธอก็ต้องเผลอยิ้มออกมาทุกครั้งที่คิดถึงหน้าวายุโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อย ๆ

     

    หลังจากทำงานบ้านมาเกือบทั้งวันแชยีก็ต้องมาเรียนทำกับข้าวกับวายุอีกในช่วงเย็น

     

    "อ๊าย ๆ"แชยีกระโดดไปมาอยู่หน้ากระทะจนวายุเห็นแล้วต้องกลุ้มใจ ตอนนี้แชยีเหมือนกับจะไปออกศึกมากกว่าทำอาหาร มือหนึ่งถือตะหลิวอีกมือถือฝาหม้อคอยกันน้ำมันที่จะกระเด็นใส่

     

    "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องกลัว น้ำมันน่ะไม่ถึงตายหรอก"หลังจากที่นั่งบอกวิธีให้แชยีอยู่นานสองนานวายุเลยตัดสินใจเดินมาปิดเตาแก๊สแล้วหันมาทำหน้าดุใส่แชยี

     

    "เฮ้อ นี่เธอจะทำอาหารหรือจะไปออกรบเนี่ย ตะหลิวนะไม่ใช่ดาบแล้วนี่ฝาหม้อเอามาทำอะไรเธอคิดว่ามันเป็นโล่หรือไงยัยเอ๋อ"วายุหยิบเอาฝาหม้อและตะหลิวมาถือไว้แล้วแกล้งทำหน้าตาดุ ๆ ใส่แชยีแต่ลึก ๆ แล้วเขาอดขำกับท่าทางของเธอไม่ได้

     

    "ก็ฉันไม่เคยทำอาหารนี่นา แต่ฉันทำขนมได้นะ จริง ๆ นะ พี่จุนฮายังบอกเลยว่าอร่อยที่สุด"แชยีรีบบอกกับวายุเพราะรู้ว่าวายุจะต้องว่าเธอแน่ วายุเริ่มมีสีหน้าตึง ๆ ขึ้นทันที

     

    'จุนฮา ใครวะ หรือว่าจะเป็นแฟนยัยนี่'วายุทำหน้าบึ้งใส่แชยีนิด ๆ แต่พอเห็นหน้าแชยีทำท่าเหมือนจะร้องไห้เขาก็อดใจอ่อนกับเธอไม่ได้

     

    "อ่ะ ถ้ากลัวน้ำมันมากขนากนั้นล่ะก็นะ เอาผ้านี่พันแขนเอาไว้ เวลาน้ำมันกระเด็นใส่จะได้โดยแค่ผ้า"วายุดึงมือของแชยีมาแล้วเอาผ้าขนหนูพันรอบ ๆ แขนเอาไว้

     

    "เฮ้อ เดี๋ยวฉันจะค่อย ๆ สอนนะ เธอก็จดแล้วก็จำเอาไว้นะ ผัดพริกแกงผักบุ้ง ก่อนอื่นเลย ตั้งน้ำมันให้ร้อน พอร้อนแล้ว็ใส่พริกแกงนี่ลงไป กะเอาว่าต้องการเผ็ดมาน้อยตามใจชอบ เธอกินเผ็ดไม่ค่อยได้งั้นใส่แค่ช้อนเดียวพอ"วายุบรรยายไปโดยมีแชยียืนดูอยู่ข้าง ๆ

     

    "แค่ก ๆ"เสียงของแชยีที่กำลังสำลักเพราะกลิ่นพริกแกงแชยีรีบเอาหน้าของตัวเองซุกเข้ากับแผ่นหลังของวายุทันที วายุนิ่งไปสักพักก็ยิ้มออกมา

     

    "ฉันลืมบอกไปว่ากลิ่นมันฉุนน่ะ เดี๋ยวก็ชินเองแหละ เอาล่ะทีนี้พอพริกแกงได้ที่แล้วก็เอากุ้งที่เตรียมไว้ใส่ลงไป"สักพักกลิ่นก็ค่อยจางลงแชยีเลยยื่นหน้ามามองในกระทะแล้วมองหน้าวายุ

     

    "ใส่น้ำปลา น้ำมันหอย อ้อ นี่สูตรพิเศษสำหรับเธอยัยกุ้งซ่าส์ ใส่น้ำตาลนิด ๆ อ่ะลองชิมดูสิ"วายุลองเอาช้อนตักมาให้แชยีชิม

     

    "เป็นไงอร่อยป่ะ"วายุมองหน้าแชยีที่กำลังชิมแชยีหันมาพยักหน้าให้วายุเป็นเชิงบอกว่าอร่อย

     

    "เอาล่ะที่นี้ก็ใส่ผักบุ้งลงไปได้แล้ว ผัดให้ผักเข้าถึงเครื่องแกงก็ปิดไฟได้แล้ว ที่ต้องใส่กุ้งก่อนแล้วค่อนใส่ผักบุ้งเพราะผักบุ้งสุกไวกว่ากุ้งแค่โดนความร้อนนิด ๆ ก็สุกได้แล้ว การทำอาหารเราจะต้องเรียงลำดับส่วนผสมที่สุกช้าลงก่อนส่วนของที่สุกเร็วเอาไว้ใส่ทีหลังสุด"แชยีพยักหน้าให้กับคำสอนของวายุแล้วชะโงกหน้ามองผัดพริกแกงในกระทะด้วยความอยากกิน

     

    "นายนี่รู้เรื่องอาหารดีจังเลยนะเนี่ย"แชยีหันมามองหน้าวายุแล้วทำเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าผู้ชายอย่างวายุจะทำอาหารอร่อยได้

     

    "ฉันอยู่คนเดียวไม่มีใครทำให้กินนี่ ก็ต้องทำเองสิ บางครั้งก็เปิดตำราแล้วทำตาม"วายุพูดไปก็ตักผัดใส่จานไป

     

    "แล้วพ่อแม่นายล่ะ"

     

    "ความคิดของฉันกับพ่อมักจะขัดกันบ่อย ๆ น่ะคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ก็เถียงกันแล้วฉันเลยตัดปัญหาออกมาอยู่ข้างนอกนี่คนเดียวไง"

     

    "ต่อไปก็ต้องเจียวไข่ เธอทำเป็นมั๊ย"วายุหันมามองหน้าแชยีที่กำลังยิ้มแป้น

     

    "เหอ ๆ ไม่เป็น"แล้ววายุก็ต้องสอนแชยีทำอาหารอีกหนึ่งอย่างคือเจียวไข่

     

    "นี่น่ะสูตรพิเศษของฉันนะ เห็นตามร้านแล้ววจำมาน่ะ"วายุหันมาพูดกับแชยีที่กำลังตั้งใจดูอยู่

     

    "ก่อนอื่นก็เอาต้นหอมมาซอย เสร็จแล้วก็เอาไข่มาตอกใส่ชามอย่างนี้ แล้วก็เอาตะเกียบมาตี ๆ ๆ ให้ไข่แตกแบบนี้นะ ถ้าให้ดีตีให้มันขึ้นฟูเลยก็ดีนะ ใส่ต้นหอมที่ซอยเมื่อกี๊ลงไป ใส่น้ำนิดหน่อย ใส่น้ำมันหอย เสร็จแล้วก็ตั้งกระทะให้น้ำมันร้อนแล้วก็เทไข่เจียวนี่ลงไป เอาล่ะพอด้านนี้สุกแล้วก็พลิกกลับด้านอย่างนี้รอจนสุกแล้วก็ตักใส่จาน โรยพริกไทยนิด ๆ แล้วก็ตกแต่งด้วยนี่ผักชีเอาล่ะเสร็จแล้ว"หลังจากที่วายุบรรยายไปทำอาหารไปสักพักไข่เจียวสูตรพิเศษของเขาก็เสร็จออกมาหอมน่ากิน

     

    "ว้าว ทำง่าย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ อืม ๆว่าแต่กินได้หรือยัง"แชยีมองอาหารตรงหน้าแล้วรู้สึกว่าพยาธิในท้องของเธอเริ่มไม่สุภาพเอาเสียเลยเพราะมันร้องจ๊อก ๆ จนนายวายุได้ยินเลยน่ะสิ

     

    ตอนนี้แชยีตักข้าวรอไว้เรียบร้อยแล้ว

     

    "อือ ๆ กินเลย ๆ ผัดพริกแกงต้องกินกับไข่เจียวนี่ถึงจะสุดยอด"วายุมองหน้าแชยีที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย

     

    "ว้าว ๆ นี่เหรอที่เค้าเรียกว่าผัดพริกแกงน่ะอร่อยจังเลย ไม่ค่อยเผ็ดด้วย"แชยีพูดไปก็กินไปส่วนวายุเอาแต่นั่งมองแชยี

     

    "ก็แน่นอน ผัดพิกแกงนี่ต้องอร่อยอยู่แล้วฝีมือฉันซะอย่าง แล้วที่ไม่เผ็นน่ะเพราะเมื่อเช้าฉันเห็นเธอกินโจ๊กที่ฉันใส่พริกเข้าไปแล้วบอกว่าเผ็ดน่ะ นี่เป็นสูตรที่เพิ่งคิดเลยนะเนี่ย คิดสด ๆ เลยเพราะธรรมดาฉันไม่ใส่น้ำตาล"แชยีหยุดกินแล้วหันมามองหน้าวายุที่กำลังส่งยิ้มให้เธอ แชยีรู้สึกว่าตัวเองกำลังร้อน ๆ ที่หน้าไม่ใช่เพราะว่าผัดพริกนี่เผ็ดแต่เป็นเพราะเธอไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าเธอจะจำได้แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่เธอทำ

     

    "เอ่อ ไว้คราวหน้านายช่วยสอนฉันทำอาหารอย่างอื่นอีกนะ"วายุพยักหน้านิด ๆ แชยีเลยก้มหน้าก้มตากินต่อเพื่อกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง

     

    "กินเสร็จแล้วก็ช่วยเก็บล้างให้เรียบร้อยด้วยนะ ยัยกุ้งซ่าส์"

     

    "อ้าว นายอิ่มแล้วเหรอ"แชยีมองจานข้าวของวายุที่ตอนนี้ว่างเปล่าแล้ววายุยักคิ้วให้แล้วลุกไปนั่งหน้าจอโทรทัศน์ที่เป็นมุมโปรดของเขาส่วนแชยีก็นั่งกินไปเรื่อย ๆ

     

    'ผู้ชายบ้าอะไรกินเร็วจัง'

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    สวัสดีค่ะ เเบบว่าจะมาขออนุญาติไปเตรียมตัวสอบก่อนอ่ะ ส่วนที่เหลือจะพยายามเอามาต่อให้หลังสอบเสร็จละกันนะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ

    เอ่อ เเล้วจะเเก้ปัญหายังไงล่ะเนี่ย ^_^ ที่จริงก็เป็นห่วงเด็ก ๆ อยู่เหมือนกันนะ ว่ามัน...เกินไป เอาเป็นว่าจะเเก้ไขยังไงดี ช่วยเเปะบอกกันด้วยนะคะ ว่าคนที่เข้ามาอ่านจะให้เเก้ยังไงอ่ะ เเบบว่าไม่รู้จริง ๆ ที่จริงก็กลัวโดนเเบนเหมือนกัน ^_^"


    ขอลายาวเลยนะคะ ถ้าสอบเสร็จเเล้วงเจอกัน

    //23/03/2005 ณ.เวลา 22.10 นาฬิกา

    อ่านเเล้วอย่าลืมที่จะเเปะความคิดเห็นของท่านเเละเเวะให้กำลังใจคน

    เเต่งเน้อ เนื้อหาตอนนี้อาจไม่เหมือนเดิมเพราะรีไรท์ใหม่อ่ะจ๊ะ เเบบว่า

    กลัวว่าเนื้อหาเเบบเดิมมันจะทำร้ายจิตใจเด็ก ๆ ที่หลงเข้ามาอ่านมาเกิน

    ไปน่ะจ๊ะ ^_^ คงไม่ว่ากันนะจ๊ะ

    จบการายงาน

    พลอยม่วง(มดตะนอย) ขอขอบใจท่านผู้อ่านที่เเวะคุยกับ ข้าพเจ้าทั้งใน

    หน้าไอดีเเละความคิดเห็นด้านหน้าค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×