คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 Home Alone (100%)
"กริ๊งงงงงงงง"เสียงนาฬิกาปลุกดังสะท้านโลกาตั้งแต่เวลาเจ็ดโมงเช้า...ทว่าคราวนี้ไม่ใช่ของฉันเพราะฉันตื่นมาตั้งแต่เมื่อสิบนาทีก่อนแล้วส่วนต้นตอของเสียงนั้นมาจากทางด้านในห้องของนายวายุ
"โครม...เพล๊ง"หลังจากเสียงนาฬิกาปลุกดังอยู่สักพักก็ตามมาด้วยเสียงนี้...ซึ่งฉันเดาเอาว่าเสียงอะไรบางอย่างภายในห้องของนายวายุแตกชัวร์ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตูห้องของนายวายุออกทันทีเผื่อว่าจะเรียกปอเท่งทึงทันเวลามาเก็บศพก่อนที่จะขึ้นอืด สงสารพนักงานเก็บศพ
"นายบ้าหื่นกามนั่น...สงสัยตกเตียงคอหักตายแหง ๆ ทำไงดีเนี่ย"ระหว่างที่รีบเดินนั้นก็คิดถึเรื่องนี้ไปพลาง คนอะไรจะตายได้อนาถขนาดนี้เนี่ย -_-
อนาถชายหนุ่มตกเตียงคอหักตาย -_- คิดแล้วอนาถโดยแท้
พอเปิดประตู(เปิดประตูเอาไว้แล้วยืนอยู่แค่หน้าประตู)ก็ต้องเสียดายเพราะจากการเหลือบมองระยะไกลแล้วหมอนี่ยังนอนหายใจอยู่แต่ไอ้ที่ตายน่ะ นาฬิกาปลุก
"นาฬิกาปลุกที่น่าสงสาร"ฉันหันไปมองเศษนาฬิกาปลุกที่น่าสงสารนอนเป็นเศษซากอยู่ทางด้านปลายเตียงน๊อตไปทาง เข็มไปทาง สปริงเด้งดึ๋ง ๆ สงสัยไอ้เสียงโครมที่ฉันได้ยินเมื่อกี๊นี้แน่ ๆ เลย
"นาฬิกาปลุกO_O"หลังจากมองนาฬิกาปลุกที่น่าสงสารอยู่พักหนึ่งสมองของฉันก็เพิ่งทำงาน
"ตายแล้ว"ตายแน่ ๆ จะไม่ให้ตายได้ยังไงนี่มันเจ็ดโมงกว่าแล้วและเมื่อคืนนายวายุนี่สั่งฉันเอาไว้ว่า....
"ถ้านาฬิกาปลุกเกิดมีอันเป็นไปเธอต้องมาปุกฉันปลุกไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะตื่นและต้องปลุกฉันก่อนเจ็ดโมงเข้าใจมั๊ย"และแน่นอนฉันเหรอจะยอมทำตามโดยง่าย
"ถ้าเธอไม่ปลุกฉันแล้วบังเอิญฉันไปเสนองานลูกค้าสาย เธอต้องรับผิดชอบโดยการมาเป็นนาฬิกาปลุกให้ฉันตลอดชีวิต"นายวายุพูดจบก็ทำสีหน้าหื่นสุด ๆ แล้วยื่นหน้ามาใกล้ ๆ ฉันเพื่อให้ฉันได้เห็นสีหน้าว่าเค้าไม่ได้ล้อเล่น หง่ะ ^_^ เจอแบบนี้เข้าไปมีเหรอจะขัดดังนั้นฉันเลยจำใจก้าวเท้าเข้ามาในห้องที่แสนจะอันตรายนี่
"นี่ ๆ เช้าแล้วนะ"เดินอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เข้ามาภายในห้องของนายวายุถึงแม้ว่าฉันจะมาพักที่นี่ได้หลายวันแล้วฉันยังคงวางใจนายวายุนี่ไม่ได้เพราะความหื่นนั้นมันไม่เข้าใครออกใครแถมฉันน่ะออกจะสวย ^O^
"......."ไม่มีเสียงตอบรับจากก้อนกลม ๆ เหมือนดักแด้ที่นอนขดอยู่บนที่นอน ถ้าเป็นธรรมดาฉันคงจะปลุกแค่ครั้งเดียวแล้วผ่านแต่หมอนี่สั่งฉันเอาไว้เมื่อคืนว่าให้ปลุกจนกว่าหมอนี่จะตื่น
"นี่ ๆ ตื่นได้แล้วนะจะเจ็ดโมงแล้ว"ฉันยืนมองนายวายุอย่างพิจารณา
'ตอนหมอนี่หลับก็น่ารักดีนะเนี่ย เหมือนเด็กเลย'มันเป็นเพียงแค่ความคิดของฉัน นายวายุตอนหลับกับตื่นน่ะแตกต่างกันอย่างกับคนละคนตอนนอนดูหน้าตาใสซื่อน่ารักน่าจุ๊บ แต่พอตื่นนอนแล้วนี่สิสุดยอดวายร้ายอันตรายสุดหื่น คนอะไรจะต่างกันได้ขนาดนี้นะ
หลังจากที่ยืนพิจรณาอยู่ครู่หนึ่งนายวายุก็พลิกตัวไปมาทำท่าเหมือนจะตื่นแต่ไม่ตื่น
"ขออีกสิบนาทีนะครับ...ฝน"ประโยคที่ทำให้ต้องส่ายหน้าน้อย ๆ ใครหว่า ฝนสงสัยแฟนใหม่ มองกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องแต่ในใจยังคงมีคำถามเดิม
'ฝน ใครกัน เพิ่งเเลิกกับคนที่ชื่อกิฟซี่เองนี่นา หาใหม่ได้เร็วดีนี่ เฮ้ย แล้วนี่ฉันจะมาคิดเรื่องไร้สาระนี่ทำไมเนี่ย'
ตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเป็นการเรียกสติ พอเลิกคิดก็ต้องมาเจอปัญหาใหม่ นาฬิกาปลุกพัง
"เฮ้อ...กรรมอะไรของฉันเนี่ยเป็นคนดี ๆ ทำไมต้องมาเป็นนาฬิกาปลุกให้ชาวบ้านชาวช่องเค้าด้วยเนี่ย"ฉันยืนมองชายหนุ่มหน้าตาเข้าขั้นหล่อที่ตอนนี้นอนขดเป็นดักแด้ตัวกลม ๆ อยู่บนที่นอนแล้วฉันก็ต้องถอนใจอีกรอบก่อนหันไปมองเศษนาฬิกาปลุกที่น่าสงสารน๊อตไปทาง เข็มไปทาง สปริงเด้งดึ๋ง ๆ อยู่ที่พื้นห้องก่อนก้มลงเก็บเศษซาก
"แล้วฉันจะปลุกหมอนี่ยังไงล่ะเนี่ย"แล้วฉันก็ต้องยกสารพัดวิธีขึ้นมาเพื่อปลุกหมอนี่แต่....เงียบค่ะ ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ จากดักแด้ตัวกลม ๆ มองซ้ายมองขวาสำรวจทั่วห้องแล้วก็เจอเป้าหมายที่คนอย่างนายวายุต้องมีติดห้อง
"ถ้านายยังไม่ยอมตื่นล่ะก็ฉันจะเผาหนังสือรวมภาพสาววัยใสของนายทิ้งเดี๋ยวนี้เลย"
"เฮ้ย!"ได้ผลค่ะ ^o^ นายวายุรีบกระเด้งขึ้นจากที่นอนทันทีก่อนวิ่งมาคว้าหนังสือที่ฉันเดาเอาว่ามันคือสุดรักสุดหวงเอาไปถือไว้เองก่อนมองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์ อิอิทำท่าเหมือนเด็ก ๆ เลยไม่น่าเชื่อว่าหมอนี่จะหวงหนังสือลามกขนาดนี้
"เธอทำบ้าอะไร มายุ่งอะไรกับของของฉัน"นายวายุกำลังทำหน้าตาโกรธ ๆ ใส่ฉันแต่ฉันน่ะเหรอ ยิ้มสิคะ อยู่มาตั้งหลายวันเพิ่งได้เอาคืนก็วันนี้แหละ
"เธอยิ้มบ้าอะไร"ดักแด้ยักษ์ยังคงยืนกอดหนังสือเอาไว้แน่น
"ก็...แค่วิธีการปลุกแบบหนึ่งน่ะ ว่าแต่ตอนนี้น่ะมันเจ็ดโมงสี่สิบห้าแล้วนะ"หลังจากที่ฉันพูดจบนายวายุก็ทำตาโตแล้ววิ่งหานาฬิกาปลุกของตัวเองเพื่อดูเวลาแต่มันจะไปดูเวลาได้ยังไงก็ในเมื่อมันกลายเป็นซากไปแล้ว
"ทำไมเธอไม่รีบปลุกฉัน"นายวายุรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีโดยไม่ฟังคำตอบจากฉัน
"เฮ้อ ก็ฉันปลุกนายตั้งแต่เจ็ดโมงแล้วนายไม่ตื่นเอง ช่วยไม่ได้"
"ฉันไปทำอาหารให้นะ"บอกไปว่าทำอาหารแต่ที่จริงแล้วมันคือการเอาอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งที่นายวายุซื้อมาเก็บเอาไว้ใส่ไมโครเวฟ ฉันคงลืมบอกไปว่านายวายุไม่เหมือนคนทั่วไป ไม่ใช่ว่ามีสี่หูสองปากหรอกนะ แต่นายวายุน่ะต้องกินอาหารเช้าทุกวันน่ะสิ ไม่แซนด์วิชก็โจ๊กนายวายุไม่กินกาแฟคนอะไรแพ้กาแฟกินแล้วน้ำลายฟูมปาก (เหมือนห ม า บ้าเลยเน๊อะ)
สิบห้านาทีต่อมา ดักแด้ยักษ์กลายร่างเป็นผีเสื้อ(หล่อ)
"เฮ้ ยัยกุ้งแชบ๊วย ฉันไปทำงานก่อนนะ อย่าลืมทำความสะอาดบ้านด้วยล่ะ"วายุหันมาบอกด้วยท่าทีที่รีบเร่ง มันก็น่าจะรีบเร่งอยู่หรอกนี่มันตั้งแปดโมงกว่าแล้วยังเพิ่งออกจากบ้านเอง กว่าจะถึงที่ทำงานคงสาย
"ช่วยไม่ได้นะ นายไม่ยอมตื่นเอง"ฉันเดินเข้ามาในห้องครัวแล้วเริ่มต้นทำความสะอาดครัวก่อนเป็นอันดับแรกแล้วค่อยทำความสะอาดที่อื่น ๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่นายวายุออกไปทำงานแล้วฉันก็เริ่มต้นทำความสะอาดห้อง ทำความสะอาดห้องไปก็คิดอะไรไปเพลิน ๆนี่มันผ่านมาได้ห้าวันแล้วทำไมอึนเฮถึงไม่ติดต่อกลับมาเลยเป็นยังไงบ้างไม่รู้พอนึกถึงเรื่องนี้แล้วอดโมโหพี่ชายตัวเองไม่ได้เวลาที่น้องสาวต้องการตัวดันหายหัวไปอยู่ซะที่ไหน
"เอ๋ ทำไมวันนี้เราทำงานบ้านเสร็จเร็วล่ะเนี่ย"ฉันมองรอบ ๆ บ้านที่สะอาดเอี่ยมแล้วหันไปมองดูเวลา
"หึ ไม่เร็วล่ะมั๊งเนี่ย ห้าโมง"สงสัยว่าจะทำงานบ้านเพลินไปหน่อย พอมองดูเวลา ปาไปตั้งห้าโมงแล้ว ที่ทำเสร็จเร็วคงเพราะฉันไม่ต้องทำอาหารมั๊ง อาหารเที่ยงก็โทรสั่งมากินเอาส่วนอาหารเย็นนายวายุจะซื้อกลับมา ฉันนี่คงเป็นลูกจ้างที่โชคดีมั๊งเนี่ย นั่ง ๆ นอน ๆ หาอะไรดูดีกว่า ดูแต่โทรทัศน์ก็เบื่อ
"อี๋ย์ นี่อีตาหื่นนี่มีแต่ของแบบนี้เหรอ"ฉันรีบยัดซีดีในมือเก็บเข้าที่เดิมทันทีแล้วหันไปหาซีดีที่ล๊อกอื่นแล้วก็เจอซีดีหนังไทยเรื่องหนึ่งเลยลองเสียงเปิดดูเพราะพระเอกกับนางเอกทั้งสวยและหล่อ พอก้มลงมองอ่านแผ่นซีดีและพยายามอ่าน
"เจษฏาภร ผลดี กับ ณัฐฐาวีรนุช ทองมี (วีเจจ๋า)"มันเป็นเรื่องราวของความรักที่ลึกซึ้งกินใจฉันมากนั่งดูไปร้องไห้ไป ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีผู้ชายที่มั่นในรักขนาดนี้ จะว่าไปพระเอกในเรื่องนี้เหมือนกับฉันเลยแต่ต่างกันตรงที่ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้และฉันยังคงตามหาคนคนนั้นไม่เจอหลังจากดูซีดีจบเสียน้ำตาไปเป็นปี๊บ ๆ นายวายุก็ยังไม่โผล่มาสักที หิวแล้วนะเนี่ย พอหันมองดูนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ
"-_- ทุ่มนึงแล้ว"ฉันว่าฉันรู้แล้วที่คนไทยชอบพูดกันว่าหิวจนกินช้างได้ทั้งตัวมันเป็นยังไง คอยดูนะถ้ากลับมาจะเล่นงานให้
"อ้าว แล้วฉันจะไปเล่นงานนายนั่นได้ยังไงล่ะเนี่ย นี่ก็บ้านหมอนั่น เรามาอาศัยเค้าอยู่นี่นา"ด้วยความลืมตัวเพราะคิดว่าตัวเองอยู่ที่บ้านแล้วนี่ฉันต้องทนหิวถึงเมื่อไหร่เนี่ย T_T
"ยัยกุ้งแชบ๊วย รับโทรศัพท์ด้วย"O_O หันซ้ายแลขวา เสียงใครหว่าทำไมมันคุ้น ๆ ห้องนี้นอกจากฉันแล้วไม่มีใครนี่...หรือว่า........ผีหลอก
"ยัยกุ้งแชบ๊วย รับโทรศัพท์ด้วย"มันดังซ้ำแบบเดิมคงไม่ใช่ผีหลอกหรอกมั๊งเนี่ย เดินไปเดินมาตามหาต้นตอของเสียง
"โทรศัพท์มือถือของฉัน?"เสียงที่ดังมันออกมาจากโทรศัพท์ฉันน่ะเอง พอหยิบขึ้นมาดู
"วายุสุดหล่อ"-_- อยากอ้วก นี่อีตาหื่นนั่นแอบมายุ่งกับโทรศัพท์ฉันตอนไหนเนี่ย
"ทำอะไรอยู่ห๊ะ ยัยบ๊องส์ทำไมไม่รีบรับโทรศัพท์ ฉันนึกว่าเธอตายไปแล้วซะอีก"ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรนายวายุก็รัวใส่ฉันทันที
"นี่บ่นพอหรือยัง ก็ใครใช้ใหห้นายมายุ่งกับโทรศัพท์ฉันล่ะ ฉันก็คิดว่า..."
"หึ คิดว่าผีหลอกงั้นสิ"จึ๊ก หมอนี่เดาถูก
"เออ เรื่องของฉัน"พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติสุด ๆ นายวายุยังคงส่งเสียงหัวเราะนิด ๆ อยู่
"นี่ นายอยู่ที่ไหนเนี่ย"เสียงที่ดังรอบตัวนายวายุเหมือนกับว่าเขากำลังอยู่ตามสถานที่ ๆ มีงานเลี้ยงอะไรสักอย่างมันดังมากจนบางครั้งทำให้ฉันไม่ค่อยได้ยินเสียงนายวายุ
"ฉันมาเลี้ยงฉลองกับเพื่อน ๆ เธอไม่ต้องคอยนะนอนไปก่อนเลย โทรสั่งอาหารขึ้นมากินก่อนได้เลยนะเพราะฉันคงกลับดึก ฉันคิดว่าเงินค่าอาหารที่ฉันให้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวันแรกที่เธอมาน่ะ ยังคงเหลือนะ"หึ ตาขี้งก เงินหนึ่งพันบาทที่ได้มาตั้งแต่วันแรกน่ะเหรอ เรารึอุตส่าห์คิดว่าให้ค่าข้าววันละพันแต่หมอนี่บอกว่า หนึ่งพันน่ะ สำหรับทั้งอาทิตย์ ดีนะที่ฉันยังใช้ไม่หมด
"อือ แค่นี้ใช่มั๊ยวางนะ"อีตาวายุจอมหื่นขี้งก
"เดี๋ยว ๆ แล้วอย่าเปิดประตูให้คนแปลกหน้านะ อ้อ ๆ แล้วก็เวลานอนน่ะล๊อคห้องให้ดีนะ ล๊อคมันทุกตัวล๊อคที่มีเลยนะ ฉันมีกุญแจสำรอง"หมอนี่มันเห็นฉันเป็นเด็กอนุบาลหรือไงเนี่ยสั่งได้สั่งดี
"ตายจริง วาขาคุยโทรศัพท์กับใครเอ่ยทำไมต้องใส่สมอล์ทอคด้วยไปทางสนุกทางด้านนู้นกับฝนดีกว่า"เสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังออดอ้อนตาหื่นวายุอยู่ข้าง ๆ (ที่รู้ว่าข้าง ๆเพราะเสียงคุณหล่อนดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์อย่างชัดเจน)
"ครับ ฝน"วายุหันไปบอกกับฝนแล้วหันมาคุยโทรศัพท์ต่อ
"โอเคนะ ฉันยุ่ง"ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้เกิดอาการหมั่นไส้ตาบ้านี่ขึ้นมาอย่างกระทันหันแต่ทำไมหมอนี่ถึงยังไม่วางสายล่ะ ฉันลองเอาหูตัวเองแนบโทรศัพท์ให้แน่นกว่าเดิมเพราะได้ยินเสียงแปลก ๆ
"เฮ้ย ๆ ไอ้วา เล่นตรงนี้เลยเหรอมึง เกรงใจสายตาคนในผับบ้างลิ้นมึงกับฝนจะพันกันอยู่แล้วนะมึงน่ะ"เสียงใครบางคนที่ดังแทรกเข้ามาช่วยเฉยข้อสงสัยให้ฉันได้ว่าทำไมหมอนี่ถึงยังไม่วางโทรศัพท์และเสียงที่ฉันได้ยินมันคือเสียงนายวายุกับผู้หญิงที่ชื่อฝนกำลังจูบกันน่ะเอง
"แหมบูมก็ อย่าแซวฝนสิ ว่าแต่ วาขา คืนนี้จะไปต่อกับยัยฝนเหรอ ฟ้าไม่ยอมนะ"หึ ยังมีต่อฉันเองก็ยังไม่กดสายทิ้งเหมือนกันอยากรู้ว่าตาวายุจะว่ายังไง
"เอ วาอยากรู้มานานแล้วที่เค้าว่าฝาแฝดน่ะ สื่อถึงกันได้น่ะจริงหรือเปล่า งั้นคืนนี้ ฟ้ากับฝนช่วยวาพิสูจน์หน่อยสิครับ"-_- อย่าบอกนะว่า...อีตาวายุนี่จะควบสอง
"เฮ้ย ๆ ใจคอแกจะไม่เหลือให้เพื่อนเลยเหรอไงไอ้วา เพื่อนยังนั่งอยู่อีกตั้งหลายคน เล่นควบสองแบบนี้ก็แย่สิวะ"นั่นไง...ว่าแล้ว
"ฟ้ากับฝนว่าไงจ๊ะ สองแฝดแสนสวยของผมจะยอมแยกจากกันหรือเปล่า"เสียงนายวายุออกแนวหื่น ๆ แล้วตามมาด้วยเสียงสองสาวที่หัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ๆ
"เราสองคนเป็นฝาแฝดกันนะ เราไม่ยอมแยกจากกันหรอกค่ะวา"เสียงสองสาวดังขึ้นพร้อม ๆ กัน อี๋ย์ขยะแขยงยัยสองคนนี่จริง ๆ
"หึหึ ว่าไงไอ้บูม งั้นกูไปก่อนนะโว้ย กูจะไปลองทฤษฏีที่ว่าฝาแฝดมีจิตที่สื่อถึงกันน่ะมันจริงอย่างที่เค้าว่ากันหรือเปล่า"แล้วเสียงนายวายุที่หัวเราะได้หื่นสุด ๆ ก็ดังลอดมาเข้าหูฉัน
"ติ๊ด ๆ ๆ ๆ"เสียงเตือนแบตเตอรี่โทรศัพท์ของวายุดังสักพักสายก็ตัดไป
"อี๋ย์ อีตาบ้า อีตาลามก อีตาหื่นกาม อีตาโรคจิต @&*$*"สารพัดคำที่จะสรรหามาว่าตาวายุนี่นั่งว่าไปว่ามาชักหิวโทรสั่งอาหารขึ้นมากินดีกว่า ^O^
"สั่งอาหารค่ะ เอา ข้าวผัดกุ้ง กิมจิ ฯลฯ เอามาส่งที่ห้อง 820 นะคะ"รัวสั่งเป็นชุดด้วยอาการหิวจนตาลายเลยสั่งมามากมายสั่งไปก็น้ำลายไหลไปเเต่ทุกครั้งที่สั่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ กิมจิ
"เอ่อ คุณน้องครับ ใจเย็น ๆ นะครับ ^_^" ^_^" แหะ ๆ พี่พนักงานแกคงจดไม่ทันแหง ๆ
"คือ พี่จะบอกว่าป้าแม่ครัวเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะครับ เขียงตกทับเท้าเลยต้องปิดร้านก่อนเวลาน่ะครับ" กรรมของแชยี
"เอ่อ พี่คะ ช่วยหน่อยสิคะ ข้าวผัดสักกล่องก็ยังดีค่ะ"T_T อ้อนวอนสุด ๆ
"เอ่อ ป้าแกล๊อคห้องครัวแล้วน่ะครับน้อง พี่คงช่วยอะไรไม่ได้ พี่ต้องกลับบ้านแล้วครับ สวัสดีครับ"แล้วความหวังของฉันก็วางสายลง
"ไม่นะ O_O ฮือ ๆ จ๊อก ๆ โครกคราก ๆ "เสียงฉันร้องไห้รวมกับเสียงท้องร้อง อนาถแท้ชีวิตฉัน ฮือ ๆ ถ้าฉันหิวข้าวตายจะทำไงเนี่ย
อนาถหญิงสาวอดข้าวตายคาห้อง
ไม่นะ ฮือ ๆ ที่ฉันต้องนั่งหิวแทบตายส่วนอีตาบ้าวายุนั่นไปเที่ยวอย่างสบายอารมณ์คอยดูนะถ้าฉันเป็นผีฉันจะมาหาตาบ้านี่คนแรกเลยในข้อหาที่รู้ทั้งรู้ว่าฉันทำอาหารไม่เป็นแล้วยังปล่อยฉันเอาไว้อีก
"จ๊อก ๆ โครกคราก ๆ "T_T แง๊ ๆ หิวไม่ไหวแล้ว
เดินไปดูในครัวเผื่อว่าจะมีอะไรให้กินได้บ้าง นมสักกล่องก็ยังดี พอเปิดตู้เย็นออกมา
"-_-"โล่งโจ้ง ไม่มีอะไรเลย ฉันลืมไปเลยว่านายวายุจะซื้ออาหารมาใส่ตู้ไว้ทุกวันอาทิตย์และนี่มันก็หมดแล้ว
"ไม่มี"หลังจากรื้อค้นไปทั่วห้องครัวก็ไม่เจอสิ่งของที่พอจะกินได้เลยT_T แง๊ ๆ หิวนั่งทรุดกับพื้นข้าง ๆ ตู้กับข้าว
"ฮือ ๆ หิวจังเลย พี่คะ แชยีหิวจังเลย โอ๊ะ โป๊ก"เกิดอาการเซ หน้ามืดเพราะหิว หัวเลยโหม่งเข้าที่ชั้นเก็บจานอย่างเต็ม ๆ และเหมือนมีอะไรบางอย่างเบา ๆ ตกใส่หัวฉัน
"บะหมี่สำเร็จรูป" ^O^ รอดตายแล้วเรา
"กินบะหมี่ ๆ หม่ำ ๆ "ต้มน้ำร้อนลวกเส้นด้วยอารมณ์ดีใจสุด ๆ ที่กำลังจะรอดตาย ต้มน้ำเสร็จก็เทน้ำร้อนใส่ชามบะหมี่
"เท ๆ ลวก ๆ อร่อย โอ๊ย เพล๊ง"น้ำร้อนลวกมือ T_T มือปัดแก้วที่วางอยู่ข้าง ๆ ตกแตก
"ยาสีฟัน ๆ อ๊ะ เจอแล้ว"ป้าแม่นมเคยสอนไว้ว่าให้เอายาสีฟันทาบริเวณที่ถูกลวกมันจะช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนลงได้ ทาเสร็จก็มาเก็บเศษแก้วแล้วนั่งกินบะหมี่ที่กำลังอืดได้ที่
"อร่อยจังเลย บะหมี่ที่เราทำเองเนี่ย ถึงแม้ว่าจะแลกมาต้วยการถูกน้ำร้อนลวกก็เถอะนะ"ฉันนั่งมองบริเวณมือที่แดงนิด ๆ จะว่าไปกว่าฉันจะนั่งกินบะหมี่หมดมันก็นานมากแล้วนะเนี่ยอีตาวายุยังไม่กลับมาเลย
"เที่ยงคืนเหรอ"นาฬิกาแขวนผนังแบบโมเดิร์นเข็มสั้นและเข็มยาวชี้ตรงกันที่เลขสิบสอง บ่งบอกว่ามันคือเวลาเที่ยงคืน
เที่ยงคืนแล้วสินะฉันเดินเปิดไปรอบ ๆ ห้องให้สว่างไสวฉันไม่ค่อยชอบความมืดสักเท่าไหร่ มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องไม่ดีตอนเด็ก ๆ มันทำให้ฉันเกลียดความมืดพอต้อง อยู่ในที่มืด ๆ คนเดียวทีไรน้ำตามันพาลจะไหลเสียให้ได้
"เฮ้อ ทำไงดีล่ะ เปิดเพลงฟังหรือว่าจะดูหนังดีล่ะเนี่ย"สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ ดูหนัง ฉันเพิ่งเห็นว่าตาวายุมีหนังดี ๆ กับเค้าเหมือนกันแต่มันถูกแพ็คใส่กล่องเอาไว้อย่างดีมีทั้งการ์ตูนและหนังโรแมนติค
ในเมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ออกไปหยิบผ้าห่มกับหมอนออกมาที่ห้องด้านนอกแล้วก็เริ่มการนอนดูหนังไม่รู้ว่าดูไปกี่เรื่องและเผลอหลับไปเมื่อไหร่
"คลิ๊ก"เสียงไขกุญแจห้องดังมาเบา ๆ
"ยัยกุ้งแชบ๊วยเล่นบ้าอะไรเนี่ย เปิดไฟซะทั่วเลย"เสียงวายุเดินบ่นพึมพัมพลางเดินปิดไปตามทางที่เดินผ่านเข้ามาภายในห้อง วายุเดินตรงเข้าไปที่ห้องครัว
"คอแห้งเป็นบ้า หิวน้ำชะมัด"วายุเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำออกมาดื่มเขาเหลือบเห็นซอง มาม่าทิ้งอยู่ในถังขยะและข้าง ๆ กันก็มีเศษแก้วแตกอยู่ภายในถังขยะ
"ทำแก้วแตกเหรอเนี่ย ว่าแต่ยังไม่ตื่นเหรอนี่มันสายแล้วนี่นา"วายุละสายตาจากถังขยะแล้วเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ นาฬิกาบอกเวลา สิบโมงเช้า แต่เขายังไม่เห็นแชยีเลย เธอเป็นอะไรหรือเปล่า วายุเดินเข้าไปหาแชยีที่ห้องก็ไม่เจอ เขาเดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นก็เห็นโทรทัศน์เปิดทิ้งอยู่แต่ไม่เห็นมีใคร
"อ้าว ทำไมเปิดเครื่องเล่นซีดีทิ้งเอาไว้เนี่ยทำไมไม่ตั้งเวลา โทรทัศน์ก็เปิดทิ้งไว้อีก เปลืองไฟ"วายุเดินไปปิดเครื่องเล่นซีดีกับโทรทัศน์ที่ถูกเปิดค้างเอาไว้พอหันกลับมาก็ต้องตกใจเพราะตรงโซฟามีกองผ้าห่มกองหนา ๆ กองอยู่พอเขาเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็อมยิ้มน้อย ๆ
"อย่าบอกนะว่ามานอนรอเราทั้งคืน"วายุมองแชยีที่กำลังหลับด้วยสีหน้าอมยิ้มทำให้เขาเองก็อดอมยิ้มตามไม่ได้ วายุทำท่าจะปลุกแชยีแต่ก็ชะงักเอาไว้นิด ๆก่อนเลื่อนมือไปแตะเบา ๆ ที่แก้มลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบาก่อนบรรจงก้มลงประทับรอยจูบที่ริมฝีปากแดงได้รูป
วายุค่อย ๆ อุ้มแชยีที่กำลังนอนหลับตรงไปที่ห้องนอนของเธอ เขาค่อย ๆ บรรจงวางเธอลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวลก่อนก้มลงมองแชยีที่นอนหลับอย่างสบายใจ เขาค่อย ๆ เลื่อนผ้าห่มขึ้นมาห่มให้แชยี
"เอ๊ะ รอยอะไรแดง ๆ ที่มือนี่ สงสัยจะโดนน้ำร้อนลวก"วายุที่กำลังเอามือของแชยีออกมานอกผ้าห่มสังเกตุเห็นรอยแดงจาง ๆ ที่มือ
"เดี๋ยวฉันไปเอายามาทาให้ก็แล้วกันนะ"วายุเดินไปหยิบยามาทาให้แชยีอย่างเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่วายุทายาเสร็จก็นั่งมองแชยีที่นอนหลับแล้วยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
"เฮ้อ เมื่อคืนหนักไปหน่อย ฟ้ากับฝนทำเอาเราหมดแรงเลย ขอนอนด้วยคนก็แล้วกันนะ"วายุขยับตัวเพื่อนอนข้าง ๆ แชยีแต่แล้วก็ชะงัก วายุปรับแอร์ไปที่อุณหภูมิ 10 องศา
"ฝันดีนะ ขอนอนกอดหน่อยก็แล้วกันนะ หนาว "วายุขยับตัวเข้าใกล้แชยีแล้วสอดแขนตัวเองเพื่อให้แชยีหนุนแขนเขาแทนหมอน
"ฮือ ๆ ทำไมมืดจัง พี่คะ พ่อคะ แม่คะ หนูกลัว"แชยีละเมอออกมาทั้งน้ำตาทำเอาคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับตกใจนิด ๆ
"ยัยกุ้งแชบ๊วย เฮ้"วายุเขย่าตัวแชยีเบา ๆ แต่แชยีกก็ยังละเมอร้องไห้อยู่
"แชยีผมอยู่นี่นะครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ"วายุค่อย ๆ โอบกอดแชยีแน่นขึ้นแล้วเอามือลูบหลังแชยีไปมาอย่างเบา ๆ ซึ่งมันได้ผล แชยีหยุดร้องไห้
"ผมขอโทษนะที่ปล่อยคุณเอาไว้คนเดียว คุณคงรู้สึกเหงามากสินะ ในที่ต่างแดนเบบนี้น่ะ"วายุรู้สึกเสียใจที่เมื่อคืนปล่อยให้แชยีต้องอยู่เฝ้าบ้านคนเดียวเขาลืมไปว่าแชยีมาที่เมืองไทยคนเดียว ผู้หญิงตัวคนเดียวในต่างแดนแถมยังมีเรื่องโชคร้ายอีก
แชยีขยับตัวเข้าหาที่ที่อบอุ่นและปลอดภัยซึ่งก็คือแผงอกอันอบอุ่นของวายุน่ะเอง ชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงจูบลงที่เปลือกตาของแชยีก่อนบรรจงจูบลงที่ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มอีกครั้งอย่างแผ่วเบา แชยีหลับตาพริ้มก่อนซุกหน้าลงที่แผงอกของชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวแล้วอมยิ้มในความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวก่อนหลับตาลงอย่างมีความสุขโดยไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าทำไม
"อืม..."แชยีค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา เธอรู้สึว่าตัวหนัก ๆ เหมือนถูกอะไรทับเอาไว้พอมองรอบ ๆ ก็เห็นวายุนอนอยู่ข้าง ๆ โดยที่แขนข้างหนึ่งสอดอยู่ใต้หัวเธอและอีกแขนหนึ่งกอดเธอเอาไว้
"หึ อ๊าย อีตาบ้า ลามก หื่นกาม โรคจิต"แชยีกระหน่ำฝ่ามือใส่วายุที่นอนอยู่ข้าง ๆ อย่างไม่ยั้งด้วยความเจ็บวายุเลยตื่นขึ้นมา
"โอ๊ย เธอจะบ้าหรือไงกันเนี่ย"วายุเอามือจับตามแขนของตัวเองด้วยความเจ็บ
"ตาบ้า นี่นายลักหลับฉันเหรอ"แชยีนั่งหน้าแดงพร้อมกัยสำรวจตัวเอง
"โห อย่างเธอน่ะฉันไม่สนหรอก ที่ฉันมานอนห้องนี้น่ะเพราะประหยัดค่าแอร์ไง"วายุลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินไปเปิดม่านออกก่อนก้มลงมองนาฬิกาที่วางอยู่ข้าง ๆ ที่นอนก่อนหันมามองหน้าแชยีที่มีท่าทีโล่งใจ
"ว่าแต่ เธอน่ะ ดูซีดีรอฉันทั้งคืนเลยเหรอ"วายุหันมาถามแชยีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เขารู้สึกหวังเล็ก ๆ ในใจว่าอยากให้แชยีตอบว่าใช่
"เปล่า"แชยีละสายตาจากการสำรวจร่างกายตัวเองมามองหน้าวายุ
แชยีมองวายุที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าเธอรู้สึกว่าวันนี้วายุดูดีมากเลย เธฮรู้สึกร้อน ๆ ที่ใบหน้าอย่างไม่รู้สาเหตุ
"งั้นเหรอ แอบเสียใจนิด ๆ นะเนี่ย"คำพูดและสีหน้าผิดหวังนิด ๆ ของวายุทำให้แชยียิ่งเกิดอาการหน้าแดงไปกว่าเก่า นี่เธอเป็นอะไรกัน
"มือน่ะ เจ็บมากหรือเปล่า ทำไมไม่โทรสั่งอาหารมากินล่ะ"วายุเดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงก่อนลงนั่งข้าง ๆ แชยีแล้วยกมือของแชยีขึ้นมาดู
"นาย...ทำแผลให้เหรอ"วายุส่งยิ้มให้แทนคำตอบ
"ก็ป้าแม่ครัวของร้านข้างล่างน่ะเค้าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ"แชยียังคงจับจ้องอยู่ที่ผ้าพันแผลที่ถูกพันไว้อย่างประณีต นี่ถ้าเธอเป็นคนพันเองคงออกมาแย่กว่านี้หลายเท่า
"เอางี้ เดี๋ยววันนี้ฉันจะทำอาหารให้กินก็แล้วกันนะ แล้วพรุ่งนี้เธอก็ต้องตื่นแต่เช้าไปจ่ายตลาดกับฉัน"วายุบอกแชยีที่กำลังทำหน้างง
"ฉันจะสอนเธอทำอาหาร เธอจะได้ไม่ต้องง้อร้านอาหารข้างล่างไง"แล้ววายุก็เข้าครัวทำอาหารเย็นให้แชยีกิน
หึหึ วายุนี่ช่างเป็นเจ้านายที่ดีจริง ๆ
หลังอาหารเย็นวายุไม่ลืมที่จะกำชับให้แชยีตื่นแต่เช้าในวันพรุ่งนี้เพื่อไปจ่ายตลาด
"เฮ้อ วันนี้มีเรื่องให้เขียนไดอารี่ตั้งเยอะแยะจะเริ่มเขียนที่ตรงไหนดีเนี่ย เอาเป็นว่า...เริ่มจากตรงนี้ก็แล้วกันนะ"แล้วแชยีก็เริ่มต้นเขียนไดอารี่ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มก่อนล้มตัวลงนอน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เย้ ๆ ในที่สุดก็อัพครบเเล้ว เย้ ๆ ฮูเล่ ๆ ฮ่า ๆ อิอิ ^O^(คนเเต่งออกอาการบ้าค่ะ) วัน
วาเลนไทน์นี้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุขในวันวาเลนไทน์นี้นะคะ คนที่ไม่มี
แฟนก็ขอให้มีแฟนคส่วนคนที่มีอยู่เเล้วก็ขอให้มีความสุขนะคะอย่าลืมเเวะทักทายกัน
ก่อนนะจ๊ะ คิดถึงทุกคนจังเลยจ้า ช่วงนี้ใกล้ สอบเเล้ว ตั้งใจสอบกันนะคะ
ความคิดเห็น