คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 ผู้ชายอันตราย ชื่อนายวายุ(rewriteใหม่)
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยเสียงนาฬิกาปลุกของฉัน ที่มีเสียงดังสะท้านโลกาปลุกฉันตั้งแต่เช้า ตื่นมาดูเวลา 6 โมงเช้า ที่ต้องตื่นตั้งแต่เวลานี้เพราะนายวายุบอกว่าให้ฉันตื่นมาเตรียมอาหารแต่เช้าแล้วค่อยไปปลุกเค้า
"ไปอาบน้ำดีกว่า"ฉันเป็นประเภทที่ถูกปลุกแล้วจะนอนต่อไม่ได้ ฉันเดินงัวเงียไปทางห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอน
พอเปิดเข้าไปก็ตะลึงนิด ๆ หุหุ ห้องอาบน้ำของนายวายุนี่ก็กว้างดีนะ แต่กว้างน้อยกว่าที่บ้านฉัน เดินสำรวจห้องน้ำสักหน่อย เพราะเมื่อวานฉัน....ยอมรับตรง ๆ ว่าไม่ได้อาบน้ำตอนก่อนนอนอ่ะ มันง่วง แต่ว่านะตอนนี้น่ะ อยากอาบน้ำจังเลยว่าแล้วก็ถอดเสื้อคลุมนอนของนายวายุที่ใส่อยู่ใส่ตะกร้าที่วางอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับอาภรณ์ทุกชิ้นที่ใส่อยู่ ไม่นานนักร่างกายเปลือยเปล่าของแชยีก็เข้าไปยืนที่ด้านหลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำแล้วเลื่อนฉากกั้นมาปิด
เฮ้อ อุ่นสบายดีจัง
น้ำฝักบัวอุ่น ๆ ไหลออกมาทำให้ผิวกายชุ่มชื่นขึ้นคลายความรู้สึกเหนียวตัวไปได้มาก เธอมองเห็นครีมขัดผิวจึงหยิบขึ้นมามองดู
'ผู้ชายจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย'ว่าแล้วก็ลองขัดสักหน่อย ขัดไปได้สักพักก็ล้างออกแล้วถูสบู่ อาบน้ำถูสบู่ไปมาอย่างสบายอารมณ์จนร่างกายสะอาดมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ติดตัว หลังจากอาบน้ำจนชุ่มฉ่ำเสร็จแล้วก็เอื้อมมือไปคว้าชุดคลุมอาบน้ำที่พาดอยู่มาใส่
">_< ฟึ่บ"เสียงฉันดึงเลื่อนฉากกั้นที่กั้นห้องอาบน้ำออกแล้วก็ต้องตกใจเพราะฉันลืมไปว่าห้องนอนสองห้องนี้ใช้ห้องน้ำร่วมกัน
นายวายุที่ตอนนี้อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่ากำลังเปิดประตูเดินเข้ามาทั้งสองต่างยืนอึ้งมองหน้ากันอย่างประมวลผลว่า ใครกันหว่า
แชยียืนมองคนตรงหน้าอย่างตกตะลึงพอ ๆ กับที่คนตรงหน้าที่กำลังมองเธออย่างตกตะลึงเช่นกัน เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะหล่อล่ำซะขนาดนี้(>.<) เมื่อวานเธอไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่อายแต่ตอนนี้จะให้อดใจไม่มองได้อย่างไรกันล่ะ นายวายุยามเปลือยเปล่าเนี่ยช่างเซ็กซี่เหลือเกิน แชยีเผลอยืนมองตั้งแต่ผมสีน้ำตาลอ่อนทรงผมที่ยาวพอประมาณแบบวัยรุ่นทั่วไป โครงหน้าที่หล่อได้รูปแบบดาราและไล่มองต่ำมาเรื่อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ (เน้น ไม่ได้ตั้วใจเล้ย กรี๊ด ๆ นางเอกเริ่มเข้าโหมดหื่น) แล้วนางเอกเราก็เพิ่งนึกได้ว่าควรร้องกรี๊ด เมื่อเห็นที่ตรงจุดนั้นเข้า
"กรี๊ดดดดด"แชยีเริ่มร้องแล้วหันหน้าจะวิ่งแต่ กรรมของแชยีเพราะเธอดันวิ่งชนเข้ากับบานประตูห้องน้ำอย่างจัง (นางเอกซุ่มซ่ามจริงวุ้ย) ทำให้มึนและเซทำให้วายุรีบเข้ามากอดประคองร่างของแชยีเอาไว้และนี่ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทั้งสองคนได้ใกล้ชิดกัน
"อ๊าย ตาบ้า นายเอาอะไรมาโดนฉันออกไปเลยนะ" เสียงของแชยีทำให้วายุรู้สึกตัวและก้มลงมองตามสายตาของแชยีทันทีเมื่อมองตามแล้วเขาก็เผยรอยยิ้มอันยียวนและเจ้าเล่ห์ออกมา
ตอนนี้เขากำลังเปลือยเปล่าและตรงนั้นของเขามันตื่นจากการหลับแล้วและกำลังล้อเล่นอยู่กับหญิงสาวในอ้อมกอดของเขาซะด้วย
"หึหึ เพื่อนผมมันคงอยากทักทายคุณน่ะ ว่าแต่ตัวคุณนี่หอมดีจัง"ไม่พูดเปล่าวายุทำท่าสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ที่ติดตัวแชยีอยู่ทำให้แชยีเริ่มหน้าแดงเล็ก ๆ และเริ่มแดงจัดมากขึ้นเมื่อวายุเลื่อนใบหน้าของเขาลงมาสู่ลำคอ ก่อนที่จะฝังใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปพร้อมกับขบกัดเบา ๆ ทำให้แชยีที่มีประสาทสัมผัสที่ดีเป็นพิเศษถึงกับเผลอครางออกมาเบา ๆ กับรสสัมผัสที่ได้มา แชยีพยายามดันร่างของวายุให้ออกห่างแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เพราะตอนนี้ร่างกายของแชยีไม่ฟังคำสั่งของผู้เป็นเจ้าของแล้ว เนื่องมาจากว่าแชยีไม่เคยผ่านประสบการณ์ทางด้านนี้มาก่อนซึ่งแตกต่างกับชายหนุ่มที่ผ่านประสบการณ์ทางด้านนี้มาอย่างโชกโชนชายหนุ่มสามารถรับรู้ได้ว่าช่วงเวลาไหนควรทำอย่างไรและช่วงเวลาแบบนี้เขาควรจะทำอย่างไรกับหญิงสาวตรงหน้า
แชยียกแขนของตัวเองโอบกอดรอบคอของชายหนุ่มโดยสัญชาติญาณซึ่งมันเป็นไปโดยที่สมองของเธอยังไม่ทันสั่งการด้วยซ้ำซึ่งชายหนุ่มเองพอเห็นดังนั้นเขาก็โอบกอดแชยีแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมและดึงร่างงามตรงหน้าให้แนบชิดร่างของตัวเองมากขึ้นไปอีก ใบหน้าอันหล่อเหลาของวาค่อย ๆ เลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่เนินอกขาวอวบอิ่มของแชยี ตลอดระยะทางจากคอถึงเนินอกวาใช้ลิ้นเลียเป็นทางพร้อมกับทิ้งร่องรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ตอนนี้แชยียืนหอบด้วยความเหนื่อยจากแรงจูบเมื่อกี๊และจากประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เธอเพิ่งได้รับที่ทำให้ร่างกายเธอแทบหมดแรงเข่าอ่อน ชายหนุ่มก็เอามือประคองแชยีไว้
พอได้เห็นหญิงสาวตรงหน้าเริ่มเคลิ้มและเหนื่อยหอบเขาจึงเลื่อนมือที่โอบกอดหญิงสาวอยู่ขึ้นมาแล้วสอดเข้าไปภายในเสื้อคลุมอาบน้ำเคล้าคลึงเนินอกอวบอิ่มและดันตัวหญิงสาวให้แนบชิดกับกำแพง เพื่อช่วยในการทรงตัวของแชยีและมือของเขาที่โอบเธออยู่นั้นจะได้ว่างพอที่จะทำอย่างอื่นได้
เรื่องคงไม่จบแค่นี้แน่ ๆ ถ้าไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซะก่อน ชายหนุ่มชะงักไปนิด แต่ก็ทำท่าไม่สนใจเขากำลังจะทำในสิ่งที่เขาคิดต่อแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังไม่หยุด จนทำให้เขารู้สึกตัวว่ามันคือเสียงโทรศัพท์จริง ๆ ไม่ได้หูแว่ว เสียงโทรศัพท์ทำให้สองหนุ่มสาวหลุดออกจากภวังค์
"นาย นายทำบ้าอะไร" แชยีรีบถอยห่างและเอามือกุมชุดคลุมอาบน้ำเอาไว้แน่นเพราะมันหลุดลงไปกองอยู่ที่เอวของเธอแล้ว ยังดีที่เธอผูกเชือกเอาไว้แน่นไม่อย่างงั้นคงหลุดลงไปกองที่พื้นแล้วแต่ถึงอย่างงั้นตอนนี้ร่างกายท่อนบนของเธอเข้าขั้นเปลือยเปล่าโชว์เนินอกอันอวบอิ่มของเธอให้ใครบางคนมองอย่างไม่ละสายตา
"เอ๋ บ้าเหรอ แต่ผมฟังเสียงคุณแล้วไม่เห็นเหมือนกับที่ปากว่าเลยนะ แล้วก็นะทำไมไม่ล็อคห้องน้ำล่ะ ผมไม่รู้นี่ว่า...."วายุมองหน้าแชยีพลางส่งยิ้มยียวนไปให้แชยีที่ยืนหน้าแดงแจ๋อยู่
"คุณ....ทำแบบนี้ทำไม"
"ก็...ช่วยเจ้านี่ทำความรู้จักกับคุณไง"วายุทำหน้าตาทะเล้นแล้วชี้ลงไปยังจุดที่อยู่ต่ำลงไป ทำให้แชยีมองตามแล้วก็ต้องเอามือปิดตาพร้อมส่งเสียงร้องว้ายออกมาก่อนตามมาด้วยถ้อยคำที่กล่าวหาว่านายวายุเป็นคนลามกเพราะตรงส่วนนั้นของเขามันกำลังจะเผยโฉมโชว์เธออยู่
"อ้าว ๆ ปิดทำไมล่ะทีเมื่อกี๊ยังมองซะจนผมอายเลยนะเนี่ย"วายุบีบเสียงเล็กเลียนแบบผู้หญิง
"ตาบ้า โรคจิต"
"อ้าว ผมชี้แล้วคุณมองตามทำไมล่ะ ใครกันแน่ที่โรคจิต"วายุพูดด้วยน้ำเสียงกลั้นหัวเราะ ทำเอาแชยีเถียงไม่ออกเพราะสิ่งที่ชายหนุ่มพูดมานั้นเป็นจริงทุกประการ
"เสียงโทรศัพท์ห้องนายดังไม่ไปรับหรือไง" แชยีเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีแต่สายตาก็ยังคงมองไปทางอื่นอยู่เพราะชายหนุ่มยังคงเปลือยกายอยู่
"ฉันจะอาบน้ำ เธอไปรับแทนทีแล้วบอกว่าเดี๋ยวฉันจะโทรกลับเอง"วายุพูดเสร็จก็ทำท่าจะเดินไปอาบน้ำ
"อ้อ เธอ...อาบน้ำใหม่ก็ดีนะ ฉันชอบกลิ่นสบู่ตอนเพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะ มันยั่วยวนใจฉันดี"วายุมองแชยีที่ยืนหน้าแดงอยู่แล้วอมยิ้มน้อย ๆ
'อันตรายเป็นบ้า ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้'
แชยีมองตามวายุที่เดินทำท่ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าห้องน้ำไป หลังจาวายุเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วแชยีก็ถึงกับเข่าอ่อนหมดสิ้นเรี่ยวแรง เธอนั่งทรุดลงที่พื้น
นี่เธอเป็นอะไรไปเธอเคลิบเคลิ้มไปกับหมอนี่ได้อย่างไรกัน แล้วทำไมเธอถึงไม่มีอาการรังเกียจหมอนี่เลยสักนิดเวลาที่เขาทำกับเธอเมื่อครู่ ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอ เธอก็เกิดอาการรังเกียจแล้ว แต่ทำไมกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
หลังจากที่แชยีเริ่มมีแรงเธอก็รีบไปรับโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดแม้เวลาจะผ่านไปเกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมงแล้วก็ตาม
"สวัสดีค่ะ ห้องคุณวายุ ชินะไพศาลวงศ์ค่ะ ตอนนี้คุณวายุไม่ว่างมารับโทรศัพท์กรุณาฝากข้อความ
เอาไว้แล้วจะโทรกลับนะคะ"แชยีพูดเหมือนกับเทบที่อัดเอาไว้
'เออ แล้วเราจะมายืนพูดทำไมเนี่ย ให้เทบมันตอบรับเองซะก็สิ้นเรื่อง' แต่ไม่ทันแล้วน่ะสิ
"ตายแล้ว นี่หล่อนเป็นใครกันยะ แล้วไปทำอะไรที่ห้องของพี่วายุของฉัน" เสียงหวีดแหลมที่ทะลุทะลวงผ่านกระดูกค้อน ทั่ง โกน และ ทะลุหูซ้ายผ่านออกทางหูขวา ทำให้แชยีนึกโมโหกับความไม่สุภาพของผู้ที่โทรมา
"ก่อนอื่นฉันจะตอบที่ละข้อนะคะ ข้อแรกฉันชื่อว่า แชยี ส่วนฉันจะมาทำอะไรคุณไม่ต้องรู้ก็ได้มั๊งคะ แต่ที่แน่ ๆ ต่อจากวันนี้ไปฉันอยู่ที่ห้องนี้ค่ะ แล้วฉันจะบอกให้คุณวายุโทรกลับนะคะ สวัสดีค่ะ อ้อ ๆ เกือบลืม คราวหลังเวลาคุยโทรศัพท์น่ะกรุณามีมารยาทบ้างนะคะ เป็นคนไทยหรือเปล่าคำว่าสวัสดีน่ะ พูดเป็นมั๊ยคะ ขนาดฉันเป็นคนต่างชาติ เวลารับโทรศัพท์ฉันยังพูดว่าสวัสดีเลย อยากจะบอกแค่นี้แหละค่ะ สวัสดีอีกครั้งนะคะ" หลังจากพูดคนเดียวอยู่ยาว เพราะอีกฝ่ายอึ้งเงียบและพูดไม่ทันแชยีเลยวางสายเพราะอีกฝ่ายได้แต่ส่งเสียงกรี๊ด ๆ
พอวายุออกมาจากห้องน้ำแชยีก็เข้าไปอาบน้ำอีกรอบ คราวนี้เธอไม่ลืมที่จะล๊อคห้องทั้งสองด้าน
"เฮ้ ยัยแชบ๊วย อาหารเช้าฉันล่ะ" แชยีรีบอาบน้ำเร็วเป็นพิเศษเดินเข้าห้องไปแต่งตัวแล้วก็ออกมาตามเสียงเรียกร้องพร้อมรอยยิ้มแห้ง ๆ
"คือว่านะ นายจะว่าอะไรมั๊ย ถ้าฉันจะบอกว่าฉันทำอาหารไม่เป็น" O_O วายุที่กำลังยืนดื่มนมสดในแก้วอยู่ถึงกับสำลักทันที
"แค่ก ๆ จริงเหรอ" แล้วแชยีก็พยักหน้าเพื่อตอกย้ำความเป็นจริง
"-_-กรรม นี่ฉันจ้างคนที่ทำอาหารไม่เป็นมาเหรอวะเนี่ย แล้วเมื่อกี๊ใครโทรมา"วายุเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วก็หยิบเอาแซนด์วิชที่เขาซื้อมาเก็บเอาไว้ออกมาเคี้ยวตุ้ย ๆ โชคยังดีที่แซนด์วิชที่กิฟซี่ทำมาไว้ให้ยังเหลืออยู่และก็ยังกินได้
"ใครไม่รู้สิ เสียงแสบแก้วหูอย่างมาก แล้วก็เรียกนายว่าพี่วายุของฉัน" แชยีพูดหน้าตาเฉยแล้วก็หยิบแซนด์วิชที่วายุยื่นมาให้เคี้ยวกินบ้าง
"แล้วเธอตอบไปว่าไง" ในเมื่อวายุถามแชยีก็เต็มใจตอบเต็มที่ ผิดคาดกว่าที่แชยีคิดเพราะแชยีคิดว่าเขาคงจะโกรธแต่เขากลับยิ้มดีใจ
"ขอบใจนะ เธอเนี่ยช่วยฉันได้เยอะเลย เอาล่ะฉันไปทำงานก่อนนะ ฝากทำความสะอาดบ้านด้วยล่ะ หวังว่าคงใช้เครื่องดูดฝุ่นเป็นนะ"วายุพูดล้อเล่นกับแชยี
"ส่วนเรื่องอาหารน่ะ โทรสั่งเอานะ นี่เบอร์เอาโทรศัพท์ที่ห้องโทรลงไปสั่งร้านอาหารข้างล่างนะ แล้วนี่เงินคงพออยู่หรอก ไม่ต้องพยายามทำอาหารเองนะ ฉันกลัวว่าพอกลับมาจะโดนเจ้าของคอนโดเตะโด่งออกจากคอนโด เพราะข้อหาวางเพลิง" พูดจบก็เดินออกจากห้องเพื่อไปทำงาน
"หนึ่งพันบาท " นายวายุให้เงินค่าอาหารเอาไว้ตั้ง หนึ่งพันบาท ถึงค่าเงินจะต่างกันแต่ก็รู้อยู่หรอกว่ามันเป็นเงินที่เยอะพอควร
ตอนเที่ยงก็โทรสั่งอาหารขึ้นมากิน ทำไมคนส่งอาหารมองเราแปลก ๆ แถมอมยิ้มน้อย ๆ ด้วย สงสัยเพราะเราน่ารัก(นางเอก หลงตัวเองโครต)
นั่ง ๆ นอน ๆ เริ่มเบื่อแล้ว ทำงานบ้านดีกว่าจะได้เป็นการฝึกสมาธิไปด้วยในตัว พ่อเคยสอนเอาไว้ว่าจิตที่สงบย่อมพบทางสว่าง เอาฟะ สุภาษิตคนไทยเค้าว่ายังไงนะ
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายเสี่ยมเขาวัวเขา ค ว า ย ให้ชนกันเล่น
เอ สงสัยจะจำผิดมั๊งมันน่าจะเป็น
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้น ค ว า ย ให้ลูกท่านเล่น เออ ๆ อันนี้แหละน่าใช่
เอาเถอะทำความสะอาดก็ใช่ว่าจะยากเคยทำเวรตอนเรียนนี่นา กวาด ๆ ถู ๆ ดูด ๆ ก็ใช้ได้แล้ว
โอ๊ะ โอ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์แบบนี้ เสียงสวรรค์ พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูน้ำตาก็แทบไหล
"อึนเฮเพื่อนรัก ว่าไง เจอพี่จุนฮาหรือเปล่า"โทรศัพท์ที่ฉันรอคอยในเมื่อโทรมาแล้วฉันก็รีบยิงคำถามก่อนเลย
อึนเฮเธอเป็นทั้งเพื่อนรักและต้นห้องของฉัน
"คุณหนูคะ คือว่าที่อยู่ของคุณจุนฮาน่ะค่ะ มันผิดหรือเปล่าคะ ฉันมาตามที่อยู่นี่แล้วไม่ผิดแน่ ๆ ค่ะ แต่เค้าบอกว่าที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้อยู่น่ะค่ะ"T_T พี่ชายฉานไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันเนี่ย
"เอางี้นะ อึนเฮ เธอมีบัตรฉันใช่ป่ะ เธอเอาบัตรไปรูดแล้วก็หาโรงแรมดี ๆ พักก่อนก็แล้วกันนะ เอาโรงแรมดี ๆ นะอึนเฮ นี่เบอร์โทรฉันที่เมืองไทยเธอจดไปนะ"ฉันบอกเบอร์ที่คอนโดของนายวายุให้อึนเฮไป
"อึนเฮ ตอนนี้ฉันลำบากมากเลยนะเธอช่วยตามหาพี่ชายฉันให้ที หาให้เจอนะได้โปรด Please"
"คุณหนูคะ ที่สวิสเนี่ยมันไม่ใช่โรงเรียนอนุบาลลูกหมีนะคะที่จะได้หาเจอง่าย ๆ น่ะ แต่ฉันจะพยายามค่ะ ว่าแต่คุณหนูเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ"ฉันเข้าใจจิตใจอึนเฮดี เพราะจริง ๆ แล้วคนที่ต้องมาเมืองไทยน่ะเป็นอึนเฮที่จะมาหาเพื่อน ส่วนฉันต้องไปเรียนต่อทางด้านการโรงแรมที่สวิสต์เซอแลนด์
"อึนเฮ ฟังฉันนะ"แล้วฉันก็เล่าเรื่องทุกอย่างโดยย่อให้อึนเฮฟังอย่างเร็วเพราะไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
"จริงเหรคะ คุณหนู ค่ะ ๆ เดี๋ยวฉันจะพยายามตามหาคุณจุนฮาให้เจอโดยเร็วเลยค่ะ อ๊ะ กรี๊ด ไอ้ขโมย"ฉันเหมือนกับได้ยินอึนเฮร้องโหวกเหวกโวยวายอยู่ สักพักโทรศัพท์ก็ตัด
"ไม่นะ ม่ายยยยยยยยย"ถ้าฟังไม่ผิดยัยอึนเฮดูเหมือนจะประสพชะตากรรมเดียวกับฉันซะแล้ว โดนมือเลว ๆ ฉกสิ่งของไป ฉันเอาแต่นั่งมองโทรศัพท์โดยหวังว่าอึนเฮจะโทรกลับมาอีกแต่....ไม่โทรมา T_T เลยต้องตัดใจแล้วก็ลุกไปทำความสะอาดห้องของนายวายุต่อ
"O_O ห๊ะ อี๋ย์"พอฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องของอีตานี่ก็ต้องตะลึงเพราะห้องตานี่รกมากผิดจากห้องรับแขกด้านนอกมาก ฉันค่อย ๆ เก็บของต่าง ๆ ให้เข้าที่เพื่อที่จะกวาด
"ห๊ะ อีย์ๆๆๆๆ อีตาซกมก"ฉันเอาปายไม้กวาดที่ถืออยู่เขี่ยวัตถุสีขาว ๆ นอนขดเป็นเลขแปดอยู่ที่พื้นมาใส่ไว้ในตะกร้า
"อีตาบ้าวายุ มันต้องแกล้งฉันชัวร์เลย"สาเหตุที่ทำให้คิดน่ะเหรอคะ เพราะว่าห้องนี้น่ะมันรกมากเหมือนกับว่าเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวมาอย่างงั้นแหละ
แล้วฉันก็หลับคาโทรศัพท์ไป รู้สึกตัวอีกทีอีตาหื่นกามก็กลับมาแล้ว
"อ้าว ทำความสะอาดห้องด้วยเหรอเนี่ย อืม ๆ ดี ๆ ค่อยสมกับค่าจ้างหน่อย"อีตาวายุเดินดูรอบ ๆ ห้องของตัวเองก่อนเดินเข้าห้องนอนตัวเองไปโดยมีฉันเดินตามเข้าไปด้วย (ที่เดินตามก็เพราะมีเรื่องอยากจะถาม) ทันทีพอเข้าไปในห้องนอนก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
"นี่เก็บห้องนอนเรียบร้อยดีนี่นา หึหึ" วายุพูดแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จนอดถามไม่ได้
"นี่นายจงใจแกล้งฉันใช่มั๊ย"ฉันเค้นเสียงต่ำ ๆ ออกมาแต่วายุก็ลอยหน้าลอยตาแล้วลงนั่งบนเตียงอันแสนนุ่มของตัวเอง
"เธอพูดเรื่องอะไรเหรอ"นายวายุยังคงนั่งอยู่บนเตียงนอนของตัวเอง แต่เขาเอามือปลดเนคไทด์แล้วก็กระดุมเสื้ออยู่
"ก็เรื่อง....เรื่อง.... "ฉันรู้สึกตัวว่าเริ่มหน้าแดงอีกแล้วและรู้สึกอายที่จะพูดมันออกมาแต่ก็จำใจต้องพูด
"เรื่องของที่นายทิ้งเอาไว้บนพื้นน่ะสิ นายจงใจแกล้งฉันใช่มั๊ย อย่าบอกนะว่าไม่ใช่" หลังจากยืนหายใจหอบสักเนื่องมาจากว่าพูดรัวยาวอยู่ฝ่ายเดียว
"อือ ใช่ฉันแกล้งเธอ"O_O นายวายุมองหน้าฉันแล้วก็ยักคิ้วกวน ๆ ให้แต่ยังไม่ทันได้ว่าอะไรนายวายุก็ยืนขึ้นแล้วก็ถอดเสื้อเชิ๊ตออกแล้วทำท่าเตรียมที่จะถอดกางเกงต่อ
"นี่ นายจะทำบ้าอะไรน่ะ"ฉันรีบถอยห่างออกจากนายวายุทันที ส่วนายวายุก็หยุดมือที่กำลังจะรูดซิปกางเกงเอาไว้แล้วมองหน้าฉันด้วยใบหน้ากวน ๆ
"อ้าว ก็นี่ห้องฉันนี่นาเธอเข้ามาทำไมล่ะ หรือว่าอยากสานต่อเรื่อเมื่อเช้านี้ ก็ได้นะ" ทันทีทีนายวายุพูดจบฉันก็รีบวิ่งออกจากห้องนายวายุแทบไม่ทัน (กลัวโดนปล้ำ)
"อีตาบ้า หื่นกาม ผู้ชายอะไร อันตรายเป็นบ้า วัน ๆ คิดเป็นแต่เรื่องนี้หรือไงนะ" คำพูดของวายุทำให้นึกถึงภาพที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า พอยิ่งคิดก็ยิ่งทวีความหน้าแดงเข้าไปอีก
"อ๊าย นี่เราบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย"เอามือตบหน้าตัวเองเบา ๆ แล้วก็รีบเดินเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว และเธอไม่ลืมที่จะล็อกประตูห้องเพื่อความปลอดภัย
ฉันกลับเข้าห้องแล้วก็เริ่มต้นเขียนไดอารี่เพื่อบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ลงไดอารี่สีฟ้าไดอารี่ที่ได้มาเป็นของขวัญวันเกิดอายุครบ 22 เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว และแล้ววันแรกของฉันก็ผ่านพ้นไปอย่างลำบากเฮ้อวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงไม่รู้หรอกขอแค่ว่าอย่าซวยเป็นใช้ได้
'พี่คะ ช่วยมาจับอีตาบ้าลามกนี่ไปทำยำกิมจิเร็ว ๆ นะคะ ตาบ้านี่เป็นบุคคลหื่นกาม อันตราย พี่คะ มาเร็ว ๆ นะ รีบมาก่อนที่น้องสาวพี่จะเสียจิ้นเพราะห้ามใจตัวเองไม่อยู่
^_^ ซะงั้น เเหมพี่คะก็ตาหื่นเนี่ยตรงสเปคเค้าทุกอย่างเลยนี่นา เเต่ติดตรงที่ว่าหื่นไปเท่านั้นเอง พี่คะตาหื่นนี่น่ะเห็นหื่นอย่างนี้ก็มีคงามน่ารักนะคะเพียงเเต่น้องยังหาไม่เจอเท่านั้นเอง'
คำภาวนาในค่ำคืนนี้ ขอให้คำขอนี้ส่งไปถึงพี่จุนฮาด้วยเถอะ
จากแชยี น้องสาวที่น่ารักของพี่
ลงวันที่.... วันแรกของการเป็นคนใช้แต่เป็นวันที่สองของการใช้ชีวิตในเมืองไทย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ มาอัพให้เเล้วนะคะ
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะคะ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่เข้ามาอ่านทุกคนเลยนะคะ
เเล้วอย่าลืมเเวะทักทายกันก่อนกลับนะคะ เเวะแปะเรื่องของเพื่อน ๆ เอาไว้ได้นะคะ ไม่ว่ากัน เเต่ก่อนเเปะขอให้อ่านเรื่องของเราก่อนสักนิดนะจ๊ะ
บาย
ปล.ชี้เเจงนิด ๆ จ้า เนื่องจากว่า ช่วงนี้ งานการท่วมหัวอย่างมากมาย มหาศาลเเทบเอาตัวไม่รอด เเละ ตอนนี้ ข้าพเจ้าก็เข้าชมรม แพนด้าซอมบี้ไปเรียบร้อยเเล้ว เพราะอดหลับอดนอนมาเป็นเเรมอาทิตย์ เเถมสอบเก็บคะเเนนทุกชั่วโมงอีก T_T หนังสือก็อ่านไม่ทัน เเล้วจะทำข้อสอบได้มั๊ยเนี่ย T_T อนาถเเท้ ชีวิต มหา'ลัย
เอาเป็นว่า อาจจะอัพช้าหนอยนะเจ้าคะ คงไม่ว่ากันนะ ถือซะว่าเห็นใจ เด็กมหา'ลัยตาดำ ๆ ตัวดำ ๆ คนนี้เถอะนะจ๊ะ
ความคิดเห็น