ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Four_seasons อาณาจักรเเห่งฤดูกาล

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 การพบกันของ สองพี่น้อง 100 %

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 49




    ฟึ่บ ร่างบางสองร่างโผล่มาจากกลางอากาศ ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะ หัวใจวายไปเเล้วก็เป็นได้ เเต่ที่นี่คือเขตพระราชฐานชั้นในทหารที่อยู่ในเขตพระราชฐานที่รีอาร์แห่งนี้เห็นจนชินตาเสียเเล้ว

    "หม่อมฉันว่า หม่อมฉันกลับไปรอที่พระตำหนักดีกว่านะเพคะ"

    "ไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ"

    "ไม่ดีกว่าเพคะ หม่อมฉันจะไปที่ครัวก่อนนะเพคะ พอท่านหญิงกลับไปจะได้มีขนมทาน"

    "อืม"

    บานประตูด้านหน้าห้องทรงพระอักษร ถูกเปิดโดยทหารที่เฝ้าหน้าประตู รางบางของเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งรีอาร์นครแห่งสายลม
    กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาภายใน

    "ท่านพ่อกับท่านแม่ให้เอมี่ไปตามหาลูก เหรอเพคะ"ด้วยความที่รีบร้อนแต่งตัว แถมยังวิ่งอีกจึงทำให้ มงกุฏน้อย ๆ ที่ประดับอยู่ลื่นไหล ลงมาจากเกษา

    "พ่อว่าดูท่าทางเจ้าจะรีบเหลือเกินนะ"

    "ก็ลูกกำลังเดินเล่นอยู่ที่สวนนี่เพคะ พอดีเอมี่บอกว่าท่านพ่อกับท่านแม่ให้เฝ้าลูกเลยรีบไปเปลี่ยนชุดน่ะเพคะ"

    "เปลี่ยนชุดหรือ เซ นี่ลูกไปเดินเล่นเท่านั้น การเดินเล่นมันทำให้ชุดของลูกเลอะได้หรือ"

    "ก็...คือว่า..."เจ้าหญิงจอมซนไม่รู้ว่าจะแก้ตัวอย่างไร จะบอกพระมารดาอย่างไรดี

    "ท่านแม่ ลูกว่าเราคุยธุระกันดีกว่านะ"เสียงชายหนุ่มดังมาจากด้านหลัง

    "ท่านพี่ พี่โซเรน"ผู้ที่ปรากฏกายตรงหน้าเจ้าหญิง คือ คนที่เธออยากพบหน้ามาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

    "วันนี้น้องหญิงของพี่ แต่งตัวดูสมกับเป็นเจ้าหญิงนะ"เจ้าชายราฟาเอล เจ้าชายรัชทายาทแห่งนครรีอาร์ น่ะเอง

    "ดีใจจังเลย ท่านพี่ได้กลับบ้านแล้ว เอ้ย ไม่ใช่สิ กลับวังต่างหาก"เจ้าหญิงน้อยหัวเราะคิกคัก

    "พ่อว่าเข้าเรื่องดีกว่านะ เสร็จธุระตรงนี้แล้วเจ้าสองพี่น้องจะได้คุยกันให้หายคิดถึง"เจ้าหญิงน้อย หันมามองพระบิดาแล้วก็ เริ่มตั้งใจฟัง

    "พ่อมีธุระให้ลูกช่วยหน่อย เจ้าช่วยนำจดหมายนี่ไปให้กับท่าน ชาร์รอท แห่ง โฟร์ซีซัน ให้พ่อหน่อย"เจ้าหญิงน้อยรับจดหมายมาแล้วก็ต้อง
    ทำหน้าสงสัย

    "ท่านชาร์รอท ใช่คนที่เป็นอาจารย์ใหญ่ ของโฟร์ซีซัน หรือเปล่าเพคะ"

    "ใช่ คนที่เจ้าคิดน่ะแหละ"

    "ทำไมท่านพ่อไม่ให้ท่านพี่เอาไปให้ล่ะเพคะ"เธอหันไปมองหน้าเจ้าพี่ของเธอ

    "พี่ของเจ้าจะต้องไปทำธุระสำคัญ ให้กับทางโรงเรียนน่ะ"

    "ใช่ พี่ต้องไปทำธุระต่อ"

    "อะไรนะเพคะ งั้นท่านพี่ก็กลับมาแป็บเดียวน่ะสิ"

    "ใช่"เจ้าหญิงทำหน้าบึ้นตึงทันที

    "คุยธุระจบแล้วเดี๋ยวพวกเจ้าค่อยออกไปคุยกันข้างนอก"เสียงพระมารดาดังขึ้นทำให้ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงหันมาสนใจธุระตรงหน้า

    "เจ้าช่วยพ่อหน่อยก็แล้วกันนะ"

    "เพคะ ลูกจะไปให้"

    "นี่เป็นเอกสารสำคัญ ลูกต้องให้กับมือของท่านชาร์รอท เท่านั้นนะ แล้วที่สำคัญ ในการเดินทางลูกจะต้องปกปิดฐานะการเป็นเจ้าหญิงของเจ้า เพื่อความปลอดภัยของตัวเจ้าและผู้ร่วมเดินทาง"

    "ผู้ร่วมเดินทาง???"

    "ใช่ พ่อจะให้เอมิลี่ กับ มิเนอร์ว่าไปกับเจ้าด้วยนะ"

    "อะไรนะเพคะ เอมี่น่ะ หม่อมฉันยอมได้ แต่มิเนอร์ว่าน่ะ ลูกไม่เอาไปด้วยนะเพคะ"

    "แม่ว่าเจ้าดูมีอคติกับน้องมากเกินไปแล้วนะ"

    "หม่อมฉันไม่ชอบ"

    "ไม่ชอบก็ต้องชอบ เอาล่ะ หมดธุระของพวกเจ้าแล้ว ออกไปกันได้แล้ว พ่อกับแม่มีธุระที่ต้องปรึกษากัน"

    "เพคะฝพะย่ะค่ะ"สิ้นคำทั้งสองพี่น้องก็ออกมาจากห้องทรงพระอักษร

    เจ้าหญิงน้อย รีบตรงไปยังพระตำหนักสีขาวริมทะเล ของเธอทันที

    "ที่นี่ สวยดีนะ"

    "___"เจ้าหญิงน้อยเงียบแล้วก็เดินไปนั่งที่ชิงช้าตัวโปรด

    "เจ้างอนพี่เหรอ"เจ้าชายเดินมาแล้วก็แกว่งชิงช้าให้ เบา ๆ

    "เปล่าเพคะ น้องแค่คิดว่า ท่านพี่ไม่ค่อยได้กลับมาที่นี่เท่าไหร่เลย น้องอยากทำอะไรให้ท่านพี่เอาไว้ดูเล่น ๆ น่ะ พอเห็นแล้จะได้คิดถึงน้องสาวคนนี้ แล้วก็ท่านพ่อ ท่านแม่ แล้วก็ประชาชนที่เมืองนี้"เจ้าหญิงน้อยเงยหน้าขึ้นมามองพี่ชายตัวเอง แล้วยิ้ม

    "ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ แค่รอยยิ้มของน้องสาวพี่ ก็ทำให้พี่น่ะคิดถึงน้องสาวคนนี้"ว่าแล้วก็เอามือหยิกแก้มเจ้าหญิงน้อยเบา ๆ

    "แล้วก็คิดถึงท่านพ่อ ท่านแม่ แล้วก็ประชาชนของรีอาร์นี่แล้วล่ะ"

    การสนทนาระหว่างพี่น้องเป็นไปอย่างสนุกสนาน 

    ---------------------------------------------------------------------------


    ในขณะเดียวกัน ที่ห้องทรงพระอักษร

    "ทรงคิดใหม่เถอะเพคะ"องค์ราชินีอัลซิโอเน่ ทรงมีทีท่าร้อนพระทัย
    ยิ่งนัก

    "ไม่ได้หรอก อัลซิโอเน่ เจ้าเองก็รู้ว่ามันเป็นธรรมเนียมที่ว่า ให้บรรดาเชื้อพระวงศ์ที่อายุถึงเกณฑ์ ต้องเดินทางไปที่นั่น"

    "ถ้าเป็นคราวก่อน ๆ หม่อมฉันคงไม่กังวลหรอกเพคะ แต่นี่ เป็นปีเดียวกับที่คำทำนายนั่น..."องค์ราชินีอัลซิโอเน่ ทรงกรรณแสงออกมา ทำให้องค์กษัตริย์ต้องปลอบให้พระนาง

    "คำทำนายนั่น อาจไม่ใช่ลูกของเราก็ได้นะ"

    "อย่าทรงปลอบหม่อมฉันเลยเพคะ หม่อมฉันเป็นแม่ย่อมรู้ดีถึงพลังของลูกนะเพคะ"

    "อย่ากังวลเลย คนที่จะไปน่ะคือเซเรส ไม่ใช่เซเรนิตี้"คำที่ทรงตรัสออกมาสร้างความงุนงงให้กับ องค์ราชินีอัลซิโอเน่

    "เซเรนิตี้ จะไปในนาม เซเรส ฮันส์ บุตรสาวของ อาร์เธอ ฮันส์"

    "อาร์เธอ อาร์เธอ อย่างงั้นเหรอเพคะ ใช่อาร์เธอที่เป็นนักล่าเงินรางวัลหรือเปล่าเพคะ"คำตอบที่ทำให้องค์ราชินี ทรงมีทีท่าว่าแปลกใจอย่างมาก อาร์เธอน่ะ คือนักล่าเงินรางวัลที่โด่งดังมาก และตระกูลฮันส์ก็มีชื่อเสียงมากด้วย แล้วตระกูลที่โด่งดังขนาดนี้ จะมีลูกสาวโผล่มาได้อย่างไรกัน

    "ใช่ อาร์เธอเพือนสนิทของเจ้ากับข้าน่ะแหละ"

    "แต่อาร์เธอน่ะ มีแต่ลูกชาย"

    "เจ้าไม่รู้หรือว่าอาร์เธอน่ะ มีลูกบุญธรรมด้วย"ลูกบุญธรรมงั้นหรือ พระนางเองก็เคยได้ยินมาว่าเป็นเด็กสาวที่ ดูท่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ทีเดียว

    "จะทรงให้ เซเรนิตี้ แอบอ้างงั้นรึเพคะ"

    "แอบอ้างงั้นรึ??"รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าขององค์กษัตริย์

    "เจ้าจะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ"องค์ราชินี่ถึงแม้ได้ฟังอย่างนั้นแต่ก็มิคลายความกังวล

    "ตามคำทำนายน่ะ บ่งบอกว่าเป็นธิดาผู้สูงศักดิ์นี่ แต่ถ้าเซเรนิตี้ไปในฐานะลูกสาวของอาร์เธอ เท่ากับว่าเราไม่ผิดธรรมเนียม เพียงแต่ว่าเราไม่ได้บอกใครเท่านั้น"

    "ก็จริงเพคะ ที่ บรรดาเชื้อพระวงศ์ บางแห่ง ไปที่นั่นโดยไม่ได้ป่าวประกาศถึงฐานะตนเอง แต่ ความลับน่ะไม่มีในโลกนะเพคะ"

    "เราเองก็คงทำได้เท่านี้ ที่เหลือก็สุดแล้วแต่ โชคชะตาจะกำหนด"ทั้งองค์กษัตริย์และ องค์ราชินีอัลซิโอเน่นั่งมองออกไปทางด้านนอกหน้าต่างมอง ไปทางตำหนักขาวริมทะเล ตำหนักขาวที่ทั้งสองพระองค์ทรงสร้างเพื่อให้เจ้าหญิงน้อย ธิดาองค์เล็ก ตามคำขอ เพราะเหตุใดกันนะ เจ้าหญิงน้อยที่ร่าเริง อ่อนหวานถึงได้เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าภายนอกจะยิ้มแย้มแต่ดูเหมือนว่าในใจลึก ๆ กำลังคิดอะไรอยู่ ลูกสาวที่เปลียนไปตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คำถามต่าง ๆ ยังคงสร้างความกลัดกลุ้มให้กับทั้งสองพระองค์อย่างยิ่ง กับการเปลี่ยนแปลงของธิดาองค์เล็ก

    "เซ เจ้ามีเรื่องอะไรจะเล่าให้พี่ฟังหรือเปล่า"ราฟาเอลที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้ต้นใกล้ ๆ ชะโงกหน้าลงมาคุยกับน้องสาว

    "เรื่องที่เล่าเหรอ ก็เล่าไปหมดแล้วนี่นา"

    "แน่ใจนะ"

    "อืม"

    "แล้วเรื่อง ที่เจ้าแอบหนีออกไปข้างนอกวังบ่อย ๆ ล่ะ"

    "นั่นก็ธรรมดานี่"

    "เหรอ แล้วที่เจ้าออกไปทำงานเป็นนักล่าเงินรางวัลนั่นล่ะ"เจ้าหญิงที่กำลังนั่งแกวงชิงช้าเพลินเกือบหน้าทิ่มลงมาด้วยประโยคที่หลุดออกมา
    จากปากของผู้เป็นพี่ชาย ที่ไม่น่าจะมีใครล่วงรู้เรื่องนี้ได้

    "ท่านพี่รู้"คราวนี้เซทำหน้าตาเหมือนโดนผีหลอก(ไม่งามเลย เจ้าหญิง) ท่านพี่จะรู้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อมีคนที่รู้เรื่องนี้แค่ไม่กี่คน

    "เจ้าอย่าทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกอย่างนั้นสิ"

    "แล้วท่านแม่..."ถ้าท่านพี่ของเธอรู้ก็ไม่แน่ว่าท่านแม่ จะต้องรู้ด้วยเป็นแน่

    "ท่านแม่ไม่รู้หรอก ก็เจ้ากับท่านพ่อน่ะปิดท่านแม่กันมิดเลยไม่ใช่เหรอ"

    "แล้วท่านพี่รู้ได้ยังไง"

    "พี่น่ะ เป็นผู้รอบรู้อยู่แล้วนี่นา"

    "ไม่บอกก็ไม่ง้อหรอก"

    "ทำแก้มป่องเหมือนอะไรเลยน๊าน้องสาวเรา"

    "ท่านพี่อ่ะ"

    "เอาน่า ๆ ว่าแต่อีก สองวันก็จะเดินทางแล้วนี่นา"

    "หา อีกสองวันอย่างงั้นเหรอ แต่ท่านพี่เพิ่งจะกลับมาเองนี่นา"

    "เอาน่า พี่ว่าอีกไม่นานเราก็คงได้เจอกันอีกแน่ ๆ"

    "จริงเหรอ นี่ท่านพี่มองเห็นอนาคยเหมือนน้องด้วยเหรอ"

    "เซ เจ้ารับปากพี่นะว่าเจ้าจะต้องไม่บอกใครเรื่องพลังหยั่งรู้ของเจ้า"

    "เพคะ"

    "แล้วพี่อยากให้เจ้ารู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านพ่อ ท่านแม่แล้วก็พี่ทำไปน่ะเพราะว่ารักและหวังดีกับน้อง"

    ถึงจะงงกับคำพูดที่ได้รับฟังแต่ก็ยอมรับปากแต่โดยดี

    "เพคะ หม่อมฉันรับปากเพคะ"

    "อ๊ะ จริงสิ ท่านพี่มานี่เร็ว"เซรีบกระโดดลงจากชิงช้า

    "อะไรงั้นเหรอ"

    "ลงมาเร็ว ๆ สิ นะ"ถึงจะไม่รู้ว่าน้องสาวต้องการอะไรแต่ด้วยความที่ว่าตนรักน้องสาวและตามใจน้องตลอดมาเลย
    กระโดดลงมาแล้วก็ยอมให้น้องจูงแล้วก็วิ่งเข้าไปที่ตำหนักสีขาวหลังงาม

    -------------------------------------------------------------------------


    "เอมี่ ๆ"เสียงร้องเรียกดังลั่นปราสาทหลังน้อยริมทะเล

    "เพคะ ๆ"สาวน้อยวิ่งอย่างรีบร้อนตามเสียงร้องเรียก

    "เอากล่องนั้นมาหน่อย"คำพูดที่รู้กันอยู่แค่สองคนเท่านั้น แล้วก็รีบทำตามที่สั่ง เอมี่เป็นทั้งเพื่อน ทั้งคนสนิทก็รีบวิ่งหายเข้าไปในห้องบรรทม
    ของเจ้าหญิงน้อยมันที สักพักก็วิ่งออกมาพร้อมกล่องไม้ใบเล็ก ๆ

    "นี่อะไรกัน"โซเร็น มองหน้าน้องสาวตนเองอย่างงง ๆ เมื่อ

    "เปิดดูเองสิเพคะ"ในเมื่อน้องสาวไม่บอกเลยหันไปทางเอมี่แทน แต่เอมี่ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เช่นกัน เลยต้องเปิดดูเอง สิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นคือ
    เข็มกลัดรูปใบไม้สีเงิน โซเรน หยิบเข็ดกลัดออกมาพิจรณาดู ก็ต้งขมวดคิ้ว

    "เมื่อคราวก่อนที่น้องไปแถว ๆ เมือง วู๊ดแลนด์ น้องไปให้เผ่าเอล์ฟเค้าช่วยทำให้น่ะเพคะ"เซเริ่มต้นเล่าทันทีที่เห็นหน้าพี่ชายที่กำลังงงอยู่

    "แล้วมนตร์นี่"

    "น้องให้เผ่าเอล์ฟช่วยลงให้น่ะเพคะ เป็นมนตร์คุ้มครองน่ะเพคะ"โซมองเข็มกลัดแล้วก็เผยรอยยิ้มออกมา โซน่ะทั้งรักทั้งห่วงน้องสาวคนนี้มาก
    มาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เซถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จากเด็กที่เคยร้องไห้งอแง เอาแต่ให้คนอื่นทำนู่นทำนี่ให้ ถึงได้กลับ
    กลายเป็นคนที่หัดทำอะไรด้วยตัวเอง

    "อืม ขอบใจนะ พี่ชอบมากเลยล่ะจะพกติดตัวตลอดเลยล่ะ"โซเอาเข็มกลัดที่ได้มาติดเข้ากับผ้าคลุมของตน ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็อยากรู้ว่าเหตุใดน้องสาวของตนจึงเปลี่ยนแปลงไปได้มากมายขนาดนี้ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยถาม เขาถามหากแต่คำตอบที่ได้กลับมานั้น คือความเงียบ แรก ๆ เขาเองก็กลุ้มใจเหมือนกันที่น้องสาวของตนเริ่มแต่งตัวเป็นชายแล้วมาขอฝึกศิลปวิชาการต่าง ๆ ด้วยแต่หลังจากที่เขาเข้าเรียนที่ โฟร์ซีซั่นแล้ว ความเป็นห่วงน้องก็ลดลงบ้าง เนื่งจากท่านพ่อส่งเซไปอยู่กับท่านลุงอาร์เธอที่เป็นเพื่อนของท่านพ่อกับท่านแม่ แต่สิ่งที่ทำให้เขารีบกลับมาอีกอย่างก็คือ ข่าวของนักล่าเงาจันทร์ เฮ้อไม่ว่าจะถามถึงสาเหตุการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ไม่ยอมบอก จนตัดใจที่จะถามแล้ว เมื่อถึงเวลา ก็คงจะเล่าให้ฟังเอง

    "ว่าแต่พี่ได้ยินมาว่า เจ้าไล่ตะเพิดลูกขุนนางที่มาดูตัวเจ้างั้นหรือ"โซเริ่มถามทันทีที่นึกได้ เพราะตั้งแต่เขากลับเข้าเมืองมาคราวนี้ก็ได้ข่าวเกี่ยวกับน้องสาวของเขามาหลายข่าวเหลือเกิน ข่าวแรกที่ทำให้เขาอยากที่จะกลับเข้าวังเร็ว ๆ คือข่าวเรื่องพระสิริโฉมอันงดงามของเจ้าหญิงน้อยแห่งรีอาร์ ส่วนข่าวต่อมาทำเอาเขา แทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
    ข่าวท่ว่า ไม่ว่าลูกขุนนาง เจ้าชายจากแคว้นต่าง ๆ ที่ต้องการมายล
    โฉลเจ้าหญิงน้องแห่งรีอาร์ต้องเอาชนะองค์รักษ์นั้นให้ได้เสียก่อนแต่ทั้งเจ้าชาย และบรรดาลูกขุนนางทั้งหลายต่างก็ถูกองค์รักษ์ประจำตัวของเจ้าหญิงน้อยเล่นงานจนเข็ดไปทุกราย

    "น้องเปล่า แต่เป็นองค์รักษ์ของน้องต่างหากล่ะ"เซยิ้มนิด ๆ ส่วนเอมี่ พยายามกลั้นหัวเราะอยู่ข้าง ๆ

    "พี่รู้หรอกว่าเป็นเจ้าน่ะ ท่านแม่ยอมหรือ"

    "ก็น้องตั้งเงื่อนไขเอาไว้นี่นา"

    "แล้วถ้าเค้าเกิดชนะขึ้นมาล่ะ เจ้ามิต้องหมั้นกับคนผู้นั้นหรอกเหรอ"คราวนี้โซทำท่าทีโมโห แต่ทั้งเซและเอมี่กลับหัวเราะกันอย่างสนุก

    "ก็น้องบอกว่าใครชนะจะให้เข้าพบ น้องไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะหมั้นหมายด้วยน่ะ"คำตอบที่ทำเอาโซคลายความกังวลได้บ้าง

    "ดูท่า เจ้าชายจะหวงท่านหญิงน้อยมากเหลือเกินนะเจ้าคะ"เอมี่เริ่มคำถามทันทีที่กลั้นหัวเราะได้

    "เราไม่อยากให้เซต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ถ้าต้องแต่งงานเพื่อหน้าที่ล่ะก็เราคนเดียก็เพียงพอแล้ว"โซทำหน้าตาเอ็นดูน้องสาว แล้วก็ทำหน้าเศร้า

    "ไม่หรอกเพคะ ท่านพี่ชายน่ะต้องได้แต่งานกับคนที่รักอย่างแน่นอน แล้วการแต่งงานนั้นจะนำมาซึ่งความยินดีทั้งปวง นี่คือคำพยากรณ์ที่น้อง
    ขอมอบให้ท่านพี่ชาย"เซเอื้อมมือมาแจะมือของโซเรนเอาไว้

    "เซ นี่เจ้าทำอะไร เจ้าอย่าได้ใช้พลังหยั่งรู้แบบนี้อีก แล้วเจ้าก็อย่าได้ให้คำพยากรณ์กับใคร"โซออกอาการดุ เพราะนี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
    การที่จะพยากรณ์สิ่งใดออกมา แล้วต้องการให้มันเป็นจริง ผู้พยากรณ์ต้องใช้พลังอย่างมาก คนทั่วไปพยากรณ์ได้แค่นิดหน่อย ส่วนผู้ที่เป็นพยากรณ์ของเจ้าครองเมืองต่าง ๆ นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นระดับจอมเวทย์แล้วก็เถอะยังไม่สามารถให้สิ่งที่ตนล่วงรู้บังเกิดผลได้ 100 เปอร์เซ็นต์เลย

    แต่นี่คำพยากรณ์ใดที่หลุดออกมาจากปากของเซเรนิตี้ ล้วนเป็นจริงทั้งสิ้น แต่การล่วงรู้ความลับสวรรค์นั้นไม่ใช่การดี

    "เซ ๆ เจ้าเป็นไงบ้าง"โซรีบประคองเซทันที เมื่อเห็นเซทำท่าจะล้ม

    "หม่อมฉันว่า รีบพาไปที่ห้องบรรทมดีกว่าเพคะ ท่านหญิงจะได้ทรงพักผ่อนมาก ๆ"เอมี่รีบเดินนำทางไปยังห้องบรรทมทันที

    "เราจะพักที่นี่นะ เอมี่"โซบอกกับเอมี่ทั้ง ๆ ที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของเซที่นอนสลบอยู่บนเตียงนอน

    "หม่อมฉันจะไปจัดเตรียมห้องให้นะเพคะ"แต่ก่อนที่เอมี่จะก้าวเดินออกจากห้องไป

    "ไม่ต้องหรอกเอมี่ เราจะเฝ้าเซที่ห้องนี้แหละ"เอมี่มองมาที่เจ้าชายผู้เป็นห่วงน้องสาวแล้วก็ยิ้มก่อนเดินออกจากห้องไป

    โซนั่งมองน้องสาวตัวเองที่หลับอยู่อย่างเป็นห่วง นี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทั้งเขาและท่านพ่อท่านแม่ สั่งห้ามมิให้เซเรนิตี้ใช้พลังหยั่งรู้ เพราะมันจะทำให้สูญเสียพลังไปอย่างมาก และท่านจอมเวทย์ท่านหนึ่งที่ท่านพ่อเชิญมาเป็นการส่วนตัวได้เคยเตือนแก่พวกเขาเอาไว้ในงานวันเกิดครบเดือนของเซเรนิตี้

    "เด็กคนนี้ เกิดมาพร้อมภาระอันยิ่งใหญ่นัก จงดูแลเด็กน้อยผู้นี้ให้ดี การได้มาในบางอย่างอาจต้องเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนและ ถ้าหากเซเรนิตี้ยังใช้พลังต่อไปเรื่อย ๆ อาจเกิดอันตรายขึ้น
    ได้สักวันหนึ่ง อันตรายทีว่านั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ อาจจะถึงแก่ชีวิตเลยก็เป็นได้" นี่คือสิ่งที่สร้างความหวาดกลัวต่อเขา และท่านพ่อท่านแม่ยิ่งนักกลัวว่าสักวันต้องเสียน้องสาวที่น่ารักคนนี้ไป

    เซเรนิตี้น้องรักของพี่ พี่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจ้าเอาไว้ไม่ให้ใครหรือสิ่งใดมาทำร้ายเจ้าได้ พี่จะไม่ยอมหรอก แล้วพี่ก็ไม่เชื่อว่า 1 ในผู้ที่ถูกเลือก ในคำทำนายนั่นจะเป็นเจ้า ถ้าหากว่าใช่เจ้าจริง ๆ พี่ก็จะทำให้มันไม่ใช่เอง คำทำนายนั่น

    "เมื่อเวลาผ่านไปนานนับพันปี ผู้ถูกเลือกทั้ง 8 จะทำให้สิ่งที่ผู้คนทั้งหลายต่างเฝ้าเพียรพยายามมาตลอดให้เป็นจริงขึ้นมา"แต่ยังมีข้อความส่วนท้าย ที่มีแต่กษัตริย์แห่งรีอาร์และท่านชาร์รอทเท่านั้นที่รู้คำทำนาย
    ถึงแม้ตัวเขาจะไม่รู้ว่าคำทำนายท่อนสุดท้ายคืออะไร แต่ที่โซเเน่ใจได้ก็คือมันต้องไม่ดีต้อผู้ถูกเลือกทั้ง 8 แน่

    โซกุมมือของเซเรนิตี้เอาไว้แน่น เหมือนกับว่ากลัวว่ามือน้อย ๆ นั้นจะจากหายไป ถ้าธิดาแห่งโชคชะตาคือเจ้า พี่ก็จะเปลี่ยนมันเอง

    ---------------------------------------------------------------------------


    แจ้งนิดนึงค่ะ เรื่องการเปลี่ยนชื่อค่ะ
    เปลี่ยนชื่อ จาก ราฟาเอล เป็น โซเรนค่ะ

    ตอนนี้สมองตื้อนิดหน่อยน่ะค่ะ เอาเป็นว่าจะพยายามก็แล้วกันนะคะ คงจะอัพช้าสักหน่อย แต่รับรองได้ว่าอัพชัวร์

    ขอบคุณนะคะที่มาอ่านกัน รักคนอ่านทุกคนเล้ย

    อย่าลืมเเวะทักทายกันนะคะ  บะบาย

    kiss ๆ จุ๊บส์ ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×