ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Fan Fic]: ดอกไม้ที่เหลือแค่ดอกเดียว 415(อุลคิโอร่าXอิจิโกะ)
ลองแต่งดูครับ ครั้งแรกในชีวิตเลยอ่ะ = ="
Fic:อุลคิโอร่าXอิจิโกะ
+++++++++++++++++++++++++ ++
เป็นเพียงคนเดียว ที่คนอื่นไม่สามารถแทนกันได้
มีเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในโลกนี้
.
.
.
.
อุลคิโอร่าได้ก้มลงมอง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์กำลังเดินทำงานหาเงินมีชีวิตรอดเพื่อสู้กับเวลา
พวกนี้ช่างอ่อนแอ นิดเดียวก็ป่วย นิดเดียวก็ตาย
แต่กระนั้น พวกนี้แหละคืออาหารของพวกเขาเหล่าอารันคาร์
.
.
.
.
“เฮ้ วันนี้ท่าทางโลกแตกแน่ว่ะ”
เสียงกวนโอ๊ยของกริมจอว์ได้เอ่ยขึ้น
“แค่ลงไปโลกมนุษย์นะ มันแย่นักหรือไง”
อุลคิโอร่ากล่าว ความจริงเขาเองก็ไม่อยากลงมานักหรอก
แต่ว่าด้วยความที่รู้สึกว่าหิวถึงได้ลงมาเฉยๆหรอกนะ
.
.
.
“เฮอะ อารันคาร์ที่ไม่เคยไปที่นั้นจะรู้เรื่องอะไรได้น้า”
กริมจอว์ยังคงพูดแซวก่อนที่จะเดินหายไปยังที่มืด
อุลคิโอร่าไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่าย
แค่ลงไปแล้วจัดการฆ่ามนุษย์แล้วดูดกลืนอณูวิญญาณเข้าไป
มันจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรนักหนา
ชายหนุ่มผิวซีดยังคงทำอารมณ์นิ่ง สายตาที่ไม่แสดงถึงความรู้สึกอะไรได้ทอดมองลง
เมืองที่มีตึกรามบ้านช่องและมนุษย์ที่อยู่กันเยอะแยะ
+++++++++++
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต
ที่มีความคิดความอ่านอยู่อย่างมากมาย
มากกว่าสัตว์และสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นที่อยู่บนโลกนี้ก็ว่าได้
.
.
.
แต่มนุษย์ก็จำเป็นที่ต้องการ
สิ่งที่มีชีวิตทุกอย่างต้องการ
การเอาชีวิตให้รอดไปวันๆ
.
.
.
.
“ผมกลับไปก่อนนะครับ เถ้าแก่”
เสียงดูร่าเริงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ดังขึ้นจากซอยเล็กๆ
เด็กหนุ่มผู้มีผมสีส้มประกายที่ดูท่าทางกระฉับกระเฉง ร่าเริง
แต่หารู้ไหมว่าความจริงแล้วในใจของเขาช่างหดหู่
ครอบครัวที่ลำบากเพราะการโดนเพื่อนที่เชื่อใจได้หักหลัง
ทำให้บริษัทต้องล้มละลายอย่างไม่เป็นท่า
พ่อของเขาต้องระเห็จไปอยู่กับพี่ชายที่เป็นญาติๆกัน รวมทั้งน้องสาวอีก 2 คนของเขาด้วย
เพื่อไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขาจึงขอพ่อว่าอยากจะอยู่คนเดียว
หาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเอง เพื่อให้รอดไปวันๆ
ถึงแม้งานมันจะหนักขนาดไหนก็ตามแต่
.
.
.
.
ตอนแรกเขาคิดว่าอย่างนั้น
แต่ไปๆมาๆกลับได้เจอเถ้าแก่ของร้านขายของชำ
ที่ดูเก่าแก่ ได้มาขอร้องให้เขาไปช่วยขายหน่อยเงินเดือนก็จะให้แล้วมีหรือที่จะตอบว่าไม่
.
.
.
“เฮ้อ วันนี้ฝนตกหนักชะมัด”
ร่างบางบ่นๆ เพราะว่าไม่ทันรู้ว่าฝนจะตกในวันนี้เขาเลยไม่ได้เตรียมร่มมา
สายตาได้จ้องมองไปยังพื้นถนนที่มีสายฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย
///เลิกงานก็สายแล้ว ยังมายืนติดแหง่กตรงใต้ตึกนี้อีก///
แต่จู่ๆนัยน์ตาสีน้ำตาลได้จับจ้องบุคคลหนึ่งที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวท่ามกลางสายฝน
///ใครนะ แต่งตัวประหลาดชะมัด///
ถูกอย่างที่เขาคิด ผู้ชายคนนั้นใส่ชุดสีขาวแต่เป็นชุดอะไรไม่ทราบได้
ผมสีดำสนิทแต่มีอะไรที่ครอบไว้ครึ่งซีก ดวงตาสีเขียวและมีรอยขีดลงมา
ปากที่ทาด้วยสีดำ อีกทั้งผิวที่ดูขาวเกินคน
///พวกเล่นหนังหรือ หรือว่าแถวนี้มีงานคอสเพลย์อะไร///
เด็กหนุ่มยังคงคิด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
เฮือก!!!
ร่างบางถึงกับทรุดนั่งไปชั่วขณะ
///อะไร....ทำไมจู่ๆถึงได้หนาวแบบนี้///
ขณะที่กำลังกอดตัวเองก็รู้สึกอะไรบางอย่างเดินใกล้เข้ามาทุกขณะ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมามอง
“!?”
ผู้ชายที่แต่งชุดประหลาดได้ยืนมามองเขาด้วยแววตาที่ไม่สะท้อนอะไรเลย
มันยิ่งทำให้เขากลัวขึ้นมาทันที
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++
เจ้าก็เป็นเพียงตัวเจ้า และมิมีผู้ใดอื่นอีกแล้ว
และจะมิมีสิ่งใดแทนที่เจ้าได้
.
.
.
.
.
“มนุษย์มันช่างอ่อนแอจริงๆนั้นแหละ”
อุลคิโอร่ากล่าว มือขาวซีดได้จับคอเสื้อของเด็กหนุ่ม
ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก ตัวของชายคนนี้ก็ลอยขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“อ่ะ...อะไรเนี่ย ทำไมนายถึงได้....”
ร่างที่ดูหมดแรงได้พยายามพูดออกมา มันกลับทำให้อีกฝ่ายถึงกลับชะงักไปเล็กน้อย
“นึกไม่ถึงเลยนะ ว่านายยังจะมีแรงพูดได้อีก”
ชายหนุ่มผิวขาวซีดกล่าว
ปกติเวลาที่เขาใช้พลัง แม้แค่น้อยนิดมันก็ทำให้มนุษย์ถึงกลับสลบไปไม่ก็ตายไปเลย
แต่นี่มันอะไรกัน
.
.
.
.
“จะ....ทำอะไร”
เด็กหนุ่มยังคงถามและพยายามเบี่ยงศีรษะหลบ จากมือของอีกฝ่ายที่กำลังมาจับ
“อยู่นิ่งๆ”
ไม่พูดเปล่า มือแกร่งอีกข้างได้ทำการดึงกระชากคอเสื้อ
“อึ๊ก!!!”
ร่างบางจึงยอม ทำตามคำพูดโดยการไม่ดิ้นอีก
มือขาวได้จับสัมผัสใบหน้าผิวสีน้ำผึ้ง
“!?”
เด็กหนุ่มถึงกลับสะบัดหน้าหนีทันที
ไม่ใช่ว่ากลัวอะไร
“เย็น...”
ความเย็นที่เกินขอบเขตของมนุษย์
ความเย็นที่น่าขนลุกแบบนี้
“อา...อย่างนี้นี่เอง”
อุลคิโอร่าพูดแบบไม่สนใจกับท่าทางของอีกฝ่าย
“นายมีพลังวิญญาณที่อยู่ระดับสูง จึงทำให้ต้านพลังของฉันได้”
ชายหนุ่มยังคงพูดต่อไป มือที่เย็นๆนั้นได้จับจับลูบใบหน้าของอีกฝ่ายต่อ
“เจ้ามีชื่อว่าอะไร”
เสียงทุ้มถามแบบหน้านิ่งแต่บรรยากาศบอกว่าถ้าไม่พูดคือตาย
“อ่ะ...อิจิโกะ คุโรซากิ อิจิโกะ...”
เสียงสั่นๆแสดงถึงขีดจำกัดของร่างกาย
แล้วจู่ๆ
สายตาก็ได้ดับวูบลงไปทันที
อุลคิโอร่ายังคงมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่นิ่งแต่ในใจกลับครุ่นคิด
ว่าทำไมโลกที่อ่อนแอแบบนี้ ถึงได้มีสิ่งที่แตกต่างอยู่รวมกันด้วย
.
.
.
.
.
+++++++++++++++++++++++++++
ที่โลกของ Hueco Mundo
“ไง ที่โลกมนุษย์เป็นไงบ้างหละ”
แค่ก้าวเท้าไม่ทันไรก็โดนอารันคาร์ที่มีนิสัยอวดเก่งเข้ามาถาม
“.......”
ยังเป็นแบบเดิม คือไม่พูดไม่ตอบ เพราะขี้เกียจเถียง
“ชิ”
แล้วก็จะเป็นแบบเก่าที่กริมจอว์จะทำท่าทางไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเดินออกไป
ท่านไอเซ็นไม่ได้บอกและออกกฎเรื่องที่ห้ามไปโลกมนุษย์
มิน่าหละ ทำไมเจ้าอารันคาร์ตัวดีถึงได้ชอบไปที่นั้นบ่อยๆ และดูท่าจะติดใจมากเสียด้วย
และถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาก็ลงไปที่นั้นได้ตลอดเลยซินะ
.
.
.
.
แล้วฉันจะลงไปทำไมกันหละ
ไปที่ๆมันวุ่นวายแบบนั้น
.
.
.
.
ถึงจะคิดแบบนั้น
แต่ทำไมถึงลืมใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้
ใบหน้าที่ดูท่าทางทรมาน ลมหายใจที่ร้อนผิดกลับลมหายใจของเขาที่เย็นยะเยือก
เสียงที่ดูสั่นพร่า และแววตาที่ตื่นตระหนก และอีกอย่าง พลังวิญญาณของเจ้ามนุษย์นั้น
เป็นครั้งแรกที่เจอสิ่งที่แปลกประหลาด
.
.
.
.
.
.
+++++++++++++++++++++++
Fic:อุลคิโอร่าXอิจิโกะ
+++++++++++++++++++++++++ ++
เป็นเพียงคนเดียว ที่คนอื่นไม่สามารถแทนกันได้
มีเพียงสิ่งเดียวที่อยู่ในโลกนี้
.
.
.
.
อุลคิโอร่าได้ก้มลงมอง สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์กำลังเดินทำงานหาเงินมีชีวิตรอดเพื่อสู้กับเวลา
พวกนี้ช่างอ่อนแอ นิดเดียวก็ป่วย นิดเดียวก็ตาย
แต่กระนั้น พวกนี้แหละคืออาหารของพวกเขาเหล่าอารันคาร์
.
.
.
.
“เฮ้ วันนี้ท่าทางโลกแตกแน่ว่ะ”
เสียงกวนโอ๊ยของกริมจอว์ได้เอ่ยขึ้น
“แค่ลงไปโลกมนุษย์นะ มันแย่นักหรือไง”
อุลคิโอร่ากล่าว ความจริงเขาเองก็ไม่อยากลงมานักหรอก
แต่ว่าด้วยความที่รู้สึกว่าหิวถึงได้ลงมาเฉยๆหรอกนะ
.
.
.
“เฮอะ อารันคาร์ที่ไม่เคยไปที่นั้นจะรู้เรื่องอะไรได้น้า”
กริมจอว์ยังคงพูดแซวก่อนที่จะเดินหายไปยังที่มืด
อุลคิโอร่าไม่ได้สนใจคำพูดของอีกฝ่าย
แค่ลงไปแล้วจัดการฆ่ามนุษย์แล้วดูดกลืนอณูวิญญาณเข้าไป
มันจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรนักหนา
ชายหนุ่มผิวซีดยังคงทำอารมณ์นิ่ง สายตาที่ไม่แสดงถึงความรู้สึกอะไรได้ทอดมองลง
เมืองที่มีตึกรามบ้านช่องและมนุษย์ที่อยู่กันเยอะแยะ
+++++++++++
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต
ที่มีความคิดความอ่านอยู่อย่างมากมาย
มากกว่าสัตว์และสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นที่อยู่บนโลกนี้ก็ว่าได้
.
.
.
แต่มนุษย์ก็จำเป็นที่ต้องการ
สิ่งที่มีชีวิตทุกอย่างต้องการ
การเอาชีวิตให้รอดไปวันๆ
.
.
.
.
“ผมกลับไปก่อนนะครับ เถ้าแก่”
เสียงดูร่าเริงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้ดังขึ้นจากซอยเล็กๆ
เด็กหนุ่มผู้มีผมสีส้มประกายที่ดูท่าทางกระฉับกระเฉง ร่าเริง
แต่หารู้ไหมว่าความจริงแล้วในใจของเขาช่างหดหู่
ครอบครัวที่ลำบากเพราะการโดนเพื่อนที่เชื่อใจได้หักหลัง
ทำให้บริษัทต้องล้มละลายอย่างไม่เป็นท่า
พ่อของเขาต้องระเห็จไปอยู่กับพี่ชายที่เป็นญาติๆกัน รวมทั้งน้องสาวอีก 2 คนของเขาด้วย
เพื่อไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขาจึงขอพ่อว่าอยากจะอยู่คนเดียว
หาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเอง เพื่อให้รอดไปวันๆ
ถึงแม้งานมันจะหนักขนาดไหนก็ตามแต่
.
.
.
.
ตอนแรกเขาคิดว่าอย่างนั้น
แต่ไปๆมาๆกลับได้เจอเถ้าแก่ของร้านขายของชำ
ที่ดูเก่าแก่ ได้มาขอร้องให้เขาไปช่วยขายหน่อยเงินเดือนก็จะให้แล้วมีหรือที่จะตอบว่าไม่
.
.
.
“เฮ้อ วันนี้ฝนตกหนักชะมัด”
ร่างบางบ่นๆ เพราะว่าไม่ทันรู้ว่าฝนจะตกในวันนี้เขาเลยไม่ได้เตรียมร่มมา
สายตาได้จ้องมองไปยังพื้นถนนที่มีสายฝนเทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย
///เลิกงานก็สายแล้ว ยังมายืนติดแหง่กตรงใต้ตึกนี้อีก///
แต่จู่ๆนัยน์ตาสีน้ำตาลได้จับจ้องบุคคลหนึ่งที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวท่ามกลางสายฝน
///ใครนะ แต่งตัวประหลาดชะมัด///
ถูกอย่างที่เขาคิด ผู้ชายคนนั้นใส่ชุดสีขาวแต่เป็นชุดอะไรไม่ทราบได้
ผมสีดำสนิทแต่มีอะไรที่ครอบไว้ครึ่งซีก ดวงตาสีเขียวและมีรอยขีดลงมา
ปากที่ทาด้วยสีดำ อีกทั้งผิวที่ดูขาวเกินคน
///พวกเล่นหนังหรือ หรือว่าแถวนี้มีงานคอสเพลย์อะไร///
เด็กหนุ่มยังคงคิด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
เฮือก!!!
ร่างบางถึงกับทรุดนั่งไปชั่วขณะ
///อะไร....ทำไมจู่ๆถึงได้หนาวแบบนี้///
ขณะที่กำลังกอดตัวเองก็รู้สึกอะไรบางอย่างเดินใกล้เข้ามาทุกขณะ
เมื่อเงยหน้าขึ้นมามอง
“!?”
ผู้ชายที่แต่งชุดประหลาดได้ยืนมามองเขาด้วยแววตาที่ไม่สะท้อนอะไรเลย
มันยิ่งทำให้เขากลัวขึ้นมาทันที
.
.
.
.
++++++++++++++++++++++++
เจ้าก็เป็นเพียงตัวเจ้า และมิมีผู้ใดอื่นอีกแล้ว
และจะมิมีสิ่งใดแทนที่เจ้าได้
.
.
.
.
.
“มนุษย์มันช่างอ่อนแอจริงๆนั้นแหละ”
อุลคิโอร่ากล่าว มือขาวซีดได้จับคอเสื้อของเด็กหนุ่ม
ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก ตัวของชายคนนี้ก็ลอยขึ้นมาอย่างง่ายดาย
“อ่ะ...อะไรเนี่ย ทำไมนายถึงได้....”
ร่างที่ดูหมดแรงได้พยายามพูดออกมา มันกลับทำให้อีกฝ่ายถึงกลับชะงักไปเล็กน้อย
“นึกไม่ถึงเลยนะ ว่านายยังจะมีแรงพูดได้อีก”
ชายหนุ่มผิวขาวซีดกล่าว
ปกติเวลาที่เขาใช้พลัง แม้แค่น้อยนิดมันก็ทำให้มนุษย์ถึงกลับสลบไปไม่ก็ตายไปเลย
แต่นี่มันอะไรกัน
.
.
.
.
“จะ....ทำอะไร”
เด็กหนุ่มยังคงถามและพยายามเบี่ยงศีรษะหลบ จากมือของอีกฝ่ายที่กำลังมาจับ
“อยู่นิ่งๆ”
ไม่พูดเปล่า มือแกร่งอีกข้างได้ทำการดึงกระชากคอเสื้อ
“อึ๊ก!!!”
ร่างบางจึงยอม ทำตามคำพูดโดยการไม่ดิ้นอีก
มือขาวได้จับสัมผัสใบหน้าผิวสีน้ำผึ้ง
“!?”
เด็กหนุ่มถึงกลับสะบัดหน้าหนีทันที
ไม่ใช่ว่ากลัวอะไร
“เย็น...”
ความเย็นที่เกินขอบเขตของมนุษย์
ความเย็นที่น่าขนลุกแบบนี้
“อา...อย่างนี้นี่เอง”
อุลคิโอร่าพูดแบบไม่สนใจกับท่าทางของอีกฝ่าย
“นายมีพลังวิญญาณที่อยู่ระดับสูง จึงทำให้ต้านพลังของฉันได้”
ชายหนุ่มยังคงพูดต่อไป มือที่เย็นๆนั้นได้จับจับลูบใบหน้าของอีกฝ่ายต่อ
“เจ้ามีชื่อว่าอะไร”
เสียงทุ้มถามแบบหน้านิ่งแต่บรรยากาศบอกว่าถ้าไม่พูดคือตาย
“อ่ะ...อิจิโกะ คุโรซากิ อิจิโกะ...”
เสียงสั่นๆแสดงถึงขีดจำกัดของร่างกาย
แล้วจู่ๆ
สายตาก็ได้ดับวูบลงไปทันที
อุลคิโอร่ายังคงมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่นิ่งแต่ในใจกลับครุ่นคิด
ว่าทำไมโลกที่อ่อนแอแบบนี้ ถึงได้มีสิ่งที่แตกต่างอยู่รวมกันด้วย
.
.
.
.
.
+++++++++++++++++++++++++++
ที่โลกของ Hueco Mundo
“ไง ที่โลกมนุษย์เป็นไงบ้างหละ”
แค่ก้าวเท้าไม่ทันไรก็โดนอารันคาร์ที่มีนิสัยอวดเก่งเข้ามาถาม
“.......”
ยังเป็นแบบเดิม คือไม่พูดไม่ตอบ เพราะขี้เกียจเถียง
“ชิ”
แล้วก็จะเป็นแบบเก่าที่กริมจอว์จะทำท่าทางไม่สบอารมณ์ ก่อนจะเดินออกไป
ท่านไอเซ็นไม่ได้บอกและออกกฎเรื่องที่ห้ามไปโลกมนุษย์
มิน่าหละ ทำไมเจ้าอารันคาร์ตัวดีถึงได้ชอบไปที่นั้นบ่อยๆ และดูท่าจะติดใจมากเสียด้วย
และถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาก็ลงไปที่นั้นได้ตลอดเลยซินะ
.
.
.
.
แล้วฉันจะลงไปทำไมกันหละ
ไปที่ๆมันวุ่นวายแบบนั้น
.
.
.
.
ถึงจะคิดแบบนั้น
แต่ทำไมถึงลืมใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้
ใบหน้าที่ดูท่าทางทรมาน ลมหายใจที่ร้อนผิดกลับลมหายใจของเขาที่เย็นยะเยือก
เสียงที่ดูสั่นพร่า และแววตาที่ตื่นตระหนก และอีกอย่าง พลังวิญญาณของเจ้ามนุษย์นั้น
เป็นครั้งแรกที่เจอสิ่งที่แปลกประหลาด
.
.
.
.
.
.
+++++++++++++++++++++++
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น