ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alway เพราะว่ารักยากจะเข้าใจ [YeRyeo]

    ลำดับตอนที่ #6 : 5

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 54


    ร่างบางหงายหลังลงบนเตียงนุ่ม เค้าเงยหน้ามองอีกร่างที่ใช้มือโน้มกักตัวเค้าไว้ แววตาเด็กชายลอกแลกอย่างเห็นได้ชัด เค้ากำมือแน่นก่อนจะทุบลงอย่างแรงที่อกของคนตัวใหญ่กว่า

    “ปล่อย!ปล่อย!

    “ยังไม่รู้สภาพตัวเองอีกหรือไง ออกแรงไปก็เท่านั้นเอาแรงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่านะ”

    เด็กชายยกมือดันอกใหญ่ไว้ก่อนจะมองลอดออกไปยังประตู ปลายเท้าของใครสักคนยืนนิ่งอยู่ตรงประตูนั้น ทำให้เรียวอุคอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้พูดออกไปเสียงของชายคนนั้นก็ดังขึ้น

    “เลิกเล่นสักที”

                   ตึก ตึก ตึก..                   

    ปลายเท้านั้นเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ใบหน้าชายคนที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เรียวอุคมีสีหน้าไม่พอใจ ก่อนที่เค้าจะส่ายหัวเล็กน้อย แล้วผละร่างบางออกไปจากตัวเอง

    เยซองมาแล้วเค้ามาแล้วซินะ...

    ชายคนเมื่อกี้มองหน้าผมแล้วยิ้มบางๆให้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เยซองก็มองผมด้วยแววตานิ่ง..เหมือนกับเค้าไม่รู้สึกอะไรเลย

    “ฉันไม่อยากอยู่แล้วตั้งแต่วินาทีแรก..

    ผมเกลียดเค้า..ผมเกลียดใบหน้านี้ของเค้า.....มันนิ่งสนิทจนมองไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่...

    “ถึงจะอยู่ลำบากแค่ไหน ผมก็ทนได้แต่ไม่ใช่ชีวิตแบบนี้” 

    แววตาเค้าจ้องมองผม อีกครั้งที่ผมรู้สึกแย่ที่เค้าเหมือนไม่รู้สึกอยากจะช่วยผมจริงๆ

    “ทำไม มีชีวิตแบบนี้แล้วทำไม”

    “ก็..

    “อย่างน้อยนายก็ยังหายใจได้ด้วยตัวเอง”

                    ผมกัดฟันแน่น เยซองก็มองผมแล้วพูดเสียงอ่อนลงมา

    “ฉันสัญญาจะพานายออกไปจากนรกนี้”

    พาออกไปงั้นหรอ..

     “ไม่เป็นไรนะ ”

    ชายหนุ่มพูดก่อนจะคลุมเสื้อให้ร่างเด็กชาย เค้าลูบมือลงบนเส้นผมเพื่อปลอบใจ ระหว่างนั้นเรียวอุคก็พูดออกมา

     “นายจะพาฉันออกไปได้ยังไง ในเมื่อตัวนายยังไม่มีปัญญา แค่ตัวนายยังเอาตัวรอดไม่ได้เลย

    “แล้วจะให้ฝากชีวิตไว้กับนายได้ยังไง สัญญาของนายมันทำไม่ได้ตั้งแต่นายพูดมันออกมาแล้ว

    เยซองหยุดชะงักเพียงเล็กน้อย ดวงตาคมไม่ไหวติง เค้าไม่มีท่าทีแสดงออกถึงคำพูดนั้น

    “ฉันต้องการแค่เวลาและความอดทนจากนาย ”

    เยซองพูดเสียงนิ่ง

    “ถึงตัวฉันจะไม่มีทางเลือกให้ตัวเอง แต่ฉันจะสร้างทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับนายเอง”

     เค้าพูดเสียงเบาๆกับเรียวอุค

    “ฉันไม่ห้ามนายหรอก ถ้าจะเกลียดที่ฉันเป็นต้นเหตุ”

    เรียวอุคนิ่วหน้าเพราะความเจ็บปวดใจ แต่เค้าก็ได้ยินชัดทุกประโยคของเยซอง คนตัวใหญ่เดินไปปิดประตูห้องก่อนจะเดินมาลูบหัวเรียวอุคแล้วบอกด้วยเสียงเบาทว่ากลับรู้สึกถึงความห่วงใยที่จริงใจ

    “นอนพักเถอะแล้วตื่นมา….

    “อย่ามาเตะต้องตัวฉันอีก อย่ามาทำเป็นห่วงใย ในเมื่อนายนั่นแหละ....”

    “เป็นต้นเหตุ...”

    เรียวอุคล้มตัวลงนอน เค้ากระชับผ้าห่มไว้ก่อนจะผล็อยหลับไป เค้าไมได้นอนเต็มที่มาหลายคืน มันก็ไม่น่าแปลกหรอกที่ร่างกายจะต้องการ การพักผ่อนมากขนาดนี้

     “อะ..อื้อ..

    คนตัวเล็กค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงเล็ก โดยมีสายตาคู่นึงจับจ้องอยู่ กลิ่นยาคละคลุ้งในห้องพร้อมกับผ้าพันแผลที่ถูกพันเข้าที่ขาและแขน คิมเรียวอุคยกมือลูบหัวตัวเองก่อนจะมองไปรอบๆด้วยดวงตาระคนตกใจ

    “ฉันเห็นนายเป็นแผลที่ตัว ก็เลยทำแผลให้..”

    คนตัวใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าเค้านิ่งสนิท ทว่าที่ใบหน้านั้นกลับมีรอยฟกช้ำและแผลเป็นเพิ่มจากเมื่อกี้...  ทำให้เรียวอุคพยายามสงบสติอารมณ์ไว้ คนที่นั่งบนเก้าอี้จ้องตาอีกคนกลับเค้าไม่ละสายตาไปไหน

    “ฉันโอเค”

    “ฉันจะไปจากที่นี่..”

    คนตัวเล็กพูดออกมา ก่อนจะลุกจากเตียงแล้วพยายามเดินไปที่ประตู

    “ชีวิตนายวิ่งหนีปัญหาตลอดเลยหรอ นายเคยคิดจะรอคอยช่องว่างของโอกาสไหม”

    “นายจะเลือกทางของนายก็ได้ แต่นายจะต้องวิ่งหนีตลอดไป อาจจะวิ่งไปได้ไม่ไกล อาจจะไปได้ไม่กี่ก้าว..

    ประโยคท้ายแผ่วเบาซะจนคนฟังไม่กล้าก้าวเท้าต่อ คิมเรียวอุคนิ่งแล้วพูดออกมาด้วยแสงแผ่วเบา ทุกคำพูดถูกแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวและมันทำให้แววตาเยซองไหวติง

     “ฉันไม่รู้ว่าพวกนายเป็นใคร ฉันไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไร ..

    “แต่ฉันไม่อยากทำงานอะไรให้พวกนายทั้งนั้น ไม่อยากจะอยู่กับพวกนาย..นายปล่อยฉันไปเถอะ ..

    “ถ้านายต้องฝืนทำเพื่อรักษาชีวิตนายหล่ะ ข้อเสนอนี้นายจะทำไหม”

    คนตัวเล็กนิ่ง เค้าไม่ตอบไม่แม้แต่จะปริปาก เยซองมองหลังเล็กที่ยกตัวขึ้น เรียวอุคคงกำลังกดดันและสับสน

    “บนโลกนี้ไม่มีข้อเสนอที่ดีไปกว่านี้แล้วเรียวอุคการที่เราต้องทนอยู่เพื่อรักษาลมหายใจของเรา..”

    “ยังไงฉันก็จะไป”

    มือเล็กเปิดประตูออกไป ก่อนจะพบกับคนที่เป็นพ่อของเยซอง คนตัวเล็กผงะทันทีก่อนที่จะถอยหลังมาอย่างเสียไม่ได้

    เยซองมองจ้องหน้าผู้เป็นพ่อ เค้าไม่ได้ลุกขึ้นทำความเคารพหรือแสดงออกว่าเคารพต่อบุคคลนี้แต่อย่างใด เรียวอุคได้แต่มองหน้าชายคนนั้นที่จ้องมาที่เค้า ไม่มีประโยคเอ่ยออกมาจากปาก เพื่อบอกเหตุผลที่เค้ามายืนอยู่ตรงนี้ และแล้วปลายเท้านั้นก็ก้าวออกไปทิ้งไว้แค่ความอึดอัดที่ถาโถมลงมา ซำแล้วซ้ำเล่า

    น่ากลัว..เป็นความรู้สึกที่กดดันและน่ากลัว

    “ฉันไปไหนไม่ได้จริงๆใช่ไหมเยซอง”

                    คนตัวใหญ่ไม่ได้พูดอะไร เค้านิ่งไม่สามารถคาดเดาความคิดในใจได้

     

     

     

     “เด็กคนนั้น พ่อนายคิดจะทำแบบนั้นจริงๆหรอ?

    คังอินเงยหน้ามองเยซอง คนตัวใหญ่นิ่งไม่ได้ตอบคำถามนั้น คังอินที่นั่งอยู่บนในห้องครัวของบ้านก็มองหน้าเพื่อน

    “รสนิยมเพศนี้ห้ามกันไมได้เลยนะ”

    “ไม่หรอก ...”

    เยซองพูดก่อนจะหันมองหน้าคังอิน

    “ฉันกำลังแลกเปลี่ยน”

    “แลกอะไร ทำงานใช้หนี้ คนเราถ้ามีความต้องการยังไงเงินแค่ไหนเค้าก็ไม่เอาหรอก”

    “ฉันไม่ยอมหรอก”

    ริมปากเปล่งออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เยซองลุกขึ้นก่อนจะหยิบถาดอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน เค้าตรงไปห้องเรียวอุคก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

    “เรียวอุครีบกิน แล้วฉันจะพาออกไปฝึกงาน”

    “ไม่”

    “ก็ดีจะได้ไม่เสียเวลา”

    เยซองกระชากคอเสื้อเรียวอุคแล้วลากคนตัวเล็กออกมาจากห้อง เค้าเหวี่ยงคนตัวเล็กจนแทบจะล้มไปข้างหน้า เค้าไม่สนใจว่าเรียวอุคที่ถูกเหวี่ยงออกไปจะรู้สึกยังไง มือหนาเหวี่ยงประตูปิดอย่างแรงก่อนจะเดินไปคว้ามือเล็กแล้วดึงให้ตามตัวเองมา

    “เป็นบ้าอะไรเนี่ย”

    “อย่าสำออย ทำตัวให้มันสมเป็นผู้ชายหน่อย”

    เยซองดุเสียงแข็ง คิมเรียวอุคก็สะบัดมือออกด้วยความโกรธและตะโกนใส่หน้าอีกคนที่หันมามอง

    “ฉันต้องการมีชีวิตเหมือนเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไป!ต้องการกลับบ้าน ต้องการครอบครัว”

    “นายแน่ใจนะ ว่าสิ่งที่รอนายอยู่ข้างนอกเรียกว่าครอบครัว”

    เรียวอุคกัดริมปากกับประโยคที่สะเทือนความรู้สึก เค้าหายใจแรงๆแล้วมองหน้าเยซอง คนตัวใหญ่ไม่สะทกสะท้าย เค้าพูดย้ำอีกครั้ง

    “แม่ขายตัว พ่อติดเหล้า ”

    “นายกำลังดูถูกฉัน!

    เยซองหันหลังไปก่อนจะถกชายเสื้อแล้วหยิบปืนยื่นให้คิมเรียวอุค

    “รับไปซิ ฉันเอาไว้ให้นายทำร้ายฉัน”

    เรียวอุคหยิบขึ้นมาก่อนจะเล็งไปที่หน้าเยซอง

    “คิดว่าไม่กล้าหรอไง”

    เยซองหยิบปืนจากด้านหลังขึ้นมาก่อนจะมองเรียวอุคแล้วก้มมองปืนในมือตัวเอง เค้ายกมันขึ้นช้าๆจ่อหัวตัวเองแล้วมองหน้าเรียวอุค

    “ง้างปืนตรงนี้แล้วกดลงไป”

    เยซองง้างไกด้านล่างก่อนจะมองหน้าเรียวอุค คนตัวเล็กมือสั่นก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่น

    “นายจะทำบ้าอะไร”

    “กดปลายให้ชิดขมับ ยิงเข้าที่หัวแน่นอนเท่ากับยิงโดนที่หัวใจ ”

    มือเยซองกดปลายกระบอกชิดที่ขมับ เรียวอุคก็ตะคอกเสียงดัง

    “ทำบ้าอะไร!!!

    “แล้วก็ปล่อย”

    ปัง!

    แกร๊งงงงงงงงงง ฟืด……..

    เรียวอุคหายใจแรงๆก่อนจะตะโกนใส่หน้าเยซองที่ตอนนี้มือเค้าไม่มีปืนถืออยู่ หากแต่มันกลับไถลลื่นไปด้านหลัง เรียวอุคเป็นคนเล็งไกปืนไปที่ปืนเยซอง ก่อนที่คนตัวใหญ่จะลั่นไกระเบิดหัวตัวเอง

    เลือดจากสะเก็ดลูกปืนเฉี่ยวเข้าที่ใบหน้าหล่อ ไหลลงมาตามแก้ม คนที่ยืนอยู่พูดกับเรียวอุคโดยไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย

    “นั่นปืนนาย เก็บไว้”

    “ฉันไม่เหมือนนาย ..

    เรียวอุคพูดทันที แต่เยซองก็พูดสวยขึ้นมา

    “ฉันไม่ได้ให้นายมาเป็นฉัน แต่ฉันให้เพราะมันเป็นของนาย”

    “ไปฝึกงานได้แล้ว”

    “งานฉันคืออะไร”

    “งานนายสำหรับฉันคือทำตัวให้เข้มแข็งจนกว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ ส่วนงานจริงมันยังไม่ถึงเวลา”

    เยซองเดินไปใกล้เรียวอุคก่อนจะดึงมือคนตัวเล็ก แต่เรียวอุคก็มองด้วยแววตาสงสัยแล้วถาม

    “เลิกทำแบบนี้สักที ให้เวลาฉันเตรียมใจบ้างซิ ”

    “อยากรู้จริงๆใช่ไหม”

    เยซองมองหน้าเรียวอุคก่อนจะพูดด้วยแววตานิ่ง

    “งานนนายก็คือฆ่าฉันให้ตายไง”

     

     

     

     -------------------------------------------8









    หวัดดีจ๊า น้ำลดแล้ว พี่ฟ้าอัพฟิค TT^TT ขอโท๊ดเน๊อที่ช้า มีคนอ่านม๊ะเนี่ย5555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×