ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alway เพราะว่ารักยากจะเข้าใจ [YeRyeo]

    ลำดับตอนที่ #5 : งานของคิมเรียวอุค

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 54


    ร่างบางนั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เค้ายกมือจับชายเสื้อที่มีคนนำมาคลุมร่างกายให้

    เงาของใครอีกคน ทอดเป็นเงายาวออกมาจากมุมห้อง ใบหน้าชายอีกคนในห้อง ไล้ต้องกับแสงแดดยามเย็น เมือมองลงต่ำลงจากใบหน้านั้น ผ้าสีขาวยาวก็ปรากกฏแก่สายตา มันคาดไว้ที่หน้าท้องคล้องไปยังส่วนแขนด้านบน  อกเปลือยเปล่ากระเพื่อมตามแรงหายใจ สายตาเค้าจับจ้องออกไปด้านนอกเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ไม่ได้หันมาสนใจคนที่นั่งอยู่กลางห้องที่อยู่ด้วยเลย แววตาเจือความกลัวของเด็กชายเหลียวมองใบหน้าคนที่พบกันที่แยกถนนเมื่อหลายคืนก่อน

    “เรียวอุค..”

    ริมปากบางพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะเงียบไป แม้จะอยากพูดอะไรสักอย่างออกมา หากแต่เค้ากลับทำอะไรไม่ได้

    เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะหาพูดปลอบใจ...ในสถาการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้เลย...

    “ยืนขึ้นได้แล้ว”

    คำพูดนั้นถูกพูดออกมาพร้อมกับปลายท้าวยาวที่ก้าวไวๆเข้ามา พร้อมกับดึงไหล่เล็กให้ลุกขึ้นมา

    “ลุกขึ้น”

    เค้าพูดก่อนจะกระชากน้อยๆให้เรียวอุคยืนขึ้น คนตัวเล็กกัดริมปากก่อนจะเคลื่อนไหวไปตามแรงดึง ร่างกายเล็กอ่อนยวบเหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เค้ามองกองเลือดก่อนจะพยายามหลบสายตาเยซอง แววตาสายตานั้นทำไมมันจึงเปลี่ยนไป ตั้งแต่เสียงปืนนัดนั้น เยซองก็มีแววตาเปลี่ยนไป

    เรียวอุคนึกย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อหลายชั่วโมงก่อน

    ปัง!

    “อั่ก!

    คนตัวใหญ่งอตัวเพราะแรงกระสุนสวนเข้าที่ท้อง เค้ายกมือกุมหน้าท้องก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ตกใจจนตัวสั่น  เรียวอุคถอยกรูดไปด้านหลังเค้าพยายามอย่างมากที่จะถอยออกห่างเยซอง ความกลัวแล่นปราดเข้ามาในหัว เค้ามองเยซองที่ถูกยิงก่อนจะหลบสายตานั้น

    “คนที่รู้ไม่ควรมีชีวิตรอด ถ้าอยากรอด...”

    “ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

    ผู้เป็นพ่อกล่าวก่อนจะนิ่ง แล้วมองหน้าเรียวอุค เค้าสบตาคนตัวเล็กสักพักก่อนจะละสายตาแล้วเดินออกตากห้องไป

     

    เสียงปิดประตูไม้ดังขึ้น เยซองจับแขนเรียวอุคที่เดินมาด้วยไว้ ก่อนจะปิดประตูแล้วล็อคกลอน ห้องแคบสุดทางเดินถูกปิดลงยิ่งเพิ่มความกดดันให้เรียวอุคเป็นเท่าตัว เค้าอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ซะ

    “พาฉันกลับไปเถอะ”

    เรียวอุคพูดก่อนจะเงียบเมื่อรู้สึกถึงมือที่เย็นเยียบของเยซองที่สัมผัสท้องแขนเค้า  เค้าหันมองเยซองก่อนที่คนตัวใหญ่จะพูดสวนกลับมา

    “ยังไม่ใช่ตอนนี้”

    คนตัวใหญ่กว่าพูดก่อนจะเดินลึกเข้าไป  เค้านั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับจับลงที่หน้าท้องตัวเอง

    “ต่อไปนายต้องเข้ามาทำงาน ..”

    “ฉันต้องกลับไปเรียน กลับไปดูแลพ่อ ดูแลแม่”

    “ยังไม่เข้าใจสถานการณ์หรือไง”

    “.............”

    เรียวอุคนิ่งสนิทไปกับคำพูดนั้น  

    “ฉันไม่ปล่อยให้นายอยู่แบบนี้ตลอดไปหรอก”

    เยซองเงียบ ก่อนจะนิ่งไป มือหนาลูบลงที่หน้าท้องก่อนจะก้มหน้ามองดูแผล ถึงจะได้ทำแผลแล้วแต่พิษความเจ็บแล่นไปทั่วตัวเลย

     เรียวอุคมองเยซอง  คนตัวใหญ่หลบสายตานั้นเค้าหันมองไปด้านข้างก่อนจะเงียบพลางจับลงที่แผลหน้าท้อง พอดีกับเวลาที่มีเสียงปลายเท้าของใครบางคนเดินมาแล้วหยุดที่หน้าห้อง ทำให้ทั้งคู่ต้องจ้องกลับไปที่ประตู

    ปัง ปัง ปัง!

    เสียงกระแทกประตูด้วยแรงอย่างมาก คล้ายมีคนมาทุบประตูห้องทำให้เยซองต้องลุกออกไปเปิด

    เค้ามองหน้าคนที่ยืนหน้าประตู ก่อนจะพูดเสียงเบาๆบอกอะไรสักอย่างกับคนที่ยืนพูดด้วย ชายคนนั้นมองมาด้านหลังก่อนจะพยักหน้าให้เยซองก่อนจะเดินจากไป

     

    --------------------------------------------------*

    ตกดึกเยซองก็หันมองเรียวอุคที่นอนหลับอยู่บนเตียง เค้าเดินออกจากห้องพร้อมกับสวมแจ็คเก็ตตัวหนา คนตัวใหญ่ตรงไปยังโรงพยาบาลและบ้านของเรียวอุค

    เค้ายกมือถือขึ้นก่อนจะต่อสายออกไป

    “นี่ฉันนะ”

    เยซองที่ยืนอยู่ในมุมมืด โทรออกไปก่อนจะพูดคุยด้วยสีหน้าเครียด

    “พอดีมีเรื่องจะไหว้วานหน่อย พอจะหาที่พักดีๆให้ฉันสักที่ได้ไหม”

     “ต้องการเมื่อไหร่ที่พักหน่ะ”

    “เป็นไปได้ก็อีกสองวัน ฉันจะส่งรายละเอียดไปทางเมลล์แล้วกันนะ ขอบใจมาก”

    “แล้วฉันจะรีบจัดการให้แล้วกัน”

    เยซองลดระดับมือถือลง เค้าเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆนั้นก่อนจะสั่งอาหารพร้อมจดที่อยู่ให้ไปส่ง ที่อยู่ที่จดลงไปเป็นบ้านเรียวอุค พร้อมกับโรงพยาบาลที่พ่อเรียวอุคน่าจะพักรักษาตัวอยู่

    “ขอบคุณมากนะค่ะ แล้วจะรีบจัดส่งไปที่บ้านในสามสิบนาทีนะค่ะ”

    -------------------------------------------------------------------*

    เค้ากลับเข้ามาในห้องพักก่อนจะหายออกไป เรียวอุคที่รู้สึกตัวแล้วก็เอาแต่มองออกไปด้านนอก มือเล็กข้างนึงถูกใส่กุญแจล็อคอยู่ข้างหัวเตียง

    เรียวอุคไม่พูดจาอยู่สองสามวัน และเยซองก็ผลุบๆโผล่ๆตลอด จนเข้ามาวันที่สามเค้าก็กลับมาพร้อมกับบอกเรียวอุคด้วยเสียงนิ่ง

    “เราจะย้ายเข้าไปบ้านใหญ่ ลุกขึ้นเร็วเข้า”

    “ทำไมฉันต้องเข้าไป”

    “.........................”

    เยซองไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เค้ายกกระเป๋าในห้องพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าลงด้านในโดยไม่สนใจเสียงถามคำถามเรียวอุค

    “ฉันไม่ไป “

    “นายไม่มีสิทธิ์เลือกมากหรอกนะ”

    เยซองพูดก่อนจะปิดกระเป๋า เค้ามองหน้าเรียวอุคก่อนจะพูด

    “ไม่อยากทำก็ต้องฝืน หรือชีวิตนี้ไม่เคยฝืนอะไรเลย”

    “ลุกขึ้น”

    เยซองยกกระเป๋าพาดบ่าก่อนจะกระชากแขนบางให้ลุกตามตัวเองมา

    “ตามมา”

    เรียวอุคถูกดึงออกไปจากห้องพักแคบๆ ก่อนจะพาลงไปตามขั้นบันไดของอาพร์ทเมนที่พักเยซอง คนตัวใหญ่ออกแรงกระชากแขนเรียวอุคตลอดเวลาให้เดินตามตัวเอง เรียวอุคก็พยายามฝืน เมื่อลงไปยังชั้นล่างก็มีคนเข้ามาล็อคแขนเค้า เยซองปล่อยแขนเค้าแล้วปล่อยให้คนอีกสองสามคนเข้ามาล็อคตัวเค้าไว้แทน

    เรียวอุคถูกดันตัวเข้าไปในรถยนต์สีดำ เค้าถูกปิดตาด้วยผ้าหนาก่อนจะมีเสียงพูดดังๆบอกเค้า

    “อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากลงไปนอนให้ดินกลบหน้า”

    เรียวอุคเลิกดิ้นทันที เค้าก้มหน้านิ่งฟังเสียงเครื่องยนต์ที่เคลื่อนไปด้านหน้า ความรู้สึกโหว่งๆเริ่มก่อตัวชัดเจน เค้าหวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเจอและก็อยากออกไปจากที่นี่

    สักพักรถยนต์ก็จอดสนิท มีเสียงเคลื่อนของประตูบ้านใหญ่ดังขึ้น ใครสักคนจับแขนเค้าแล้วดึงให้ออกมาจากตัวรถ เรียวอุคโอนเอนตามแรงดึงที่ไม่ใส่ใจว่าเค้ายังมีบาดแผลอยู่ แล้วตอนนี้เยซองอยู่ที่ไหนหล่ะ

    ผ้าที่ปิดตาทำให้เค้ามองอะไรไม่เห็น แต่แล้วความมืดนั้นก็ค่อยหายไป เมื่อผ้าที่ผันอยู่หลุดออก เรียวอุคเงยหน้ามองดูตัวบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าก่อนจะรีบหันมองไปรอบๆ

    เค้าต้องดูลู่ทางหนีไว้ แต่ที่นี่มันที่ไหนกัน แล้วเยซองหล่ะ

    “เข้าไปข้างใน”

    เรียวอุคถูกจับดึงเข้าไปในตัวบ้าน คนตัวเล็กยอมเดินตามโดยดี เมื่อไม่เห็นประโยชน์กับการที่ฝืน มีแต่เสียแรงเปล่าๆ

    “นายครับ”

    เสียงชายคนที่พาเรียวอุคเข้ามา เรียกชายแก่ที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโต๊ะไม้ให้เงยหน้าขึ้น เค้าจ้องมองหน้าเรียวอุคอยู่ครู่นึงก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกให้เรียวอุคนั่งลงที่เก้าอี้

    “นั่งลงซิ”

    “..........”

    เรียวอุคนิ่งจนมีคนจับเค้ากดตัวให้นั่งลง เรียวอุคนิ่งแข็งทื่อต่อหน้าชายคนนี้ เค้ามองเรียวอุคก่อนจะเพ่งมองแววตาเด็กชายที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนในความปลอดภัยของตัวเอง

    “ยังเด็กอยู่หนิ”

    “ที่บ้านลำบากมากไหม พ่อของนายกลายเป็นคนไร้ความสามารถไปแล้วใช่ไหม”

    ชายแก่พูดก่อนจะมองดูใบหน้าเรียวอุค

    “เข้ามาอยู่ในบ้านฉันแล้วทำงานให้ฉัน”

    เรียวอุคจ้องมองดวงตานั้นที่มองมายังตนเอง แววตาที่มองไม่ออกถึงเจตนาที่แท้จริงทำให้เค้าบีบมือตัวเองน้อยๆด้วยความกังวลใจ

    “ไปพักก่อน แล้วฉันจะบอกงานของนายให้ฟังอีกที”

    ชายแก่พูดก่อนจะเรียกลูกน้องที่อยู่ ให้พาเรียวอุคไปพัก คนตัวเล็กเดินตามอย่างว่าง่าย เค้าพยายามมองหาเยซองแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา

    เรียวอุคเดินไปยังชั้นสองของบ้าน ห้องเค้าอยู่ริมสุดของชั้นสอง เค้าเข้าไปในห้องก่อนจะตกใจเมื่อประตูถูกปิดลง ทิ้งเค้าให้ยืนนิ่งอยู่ในห้องนั้น

    สายตาเล็กปรับมองไปทั่วทั้งห้อง มือบางลูบลงที่ผนังสีขาว กับเตียงที่ดูแล้วน่ากระโดดลงไปนอนเสียจริง ทว่ายังไม่ได้เตะนิ้วลงไปเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

    ก๊อกๆๆ

    เยซองแน่ๆ

    เรียวอุคเดินไปเปิดประตูก่อนจะผวาตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ยกมือเค้าไว้ด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจ

    “ว่าไง เด็กใหม่ของพ่อ”

    “ฉัน..”

    เรียวอุคพูดก่อนจะถอยหลังเมื่ออีกฝ่ายเดินก้าวเข้ามาในห้อง ผู้ชายคนนี้มีเค้าโครงหน้าคล้ายเยซองแต่แววตานั้นดูไม่น่าไว้ใจ

    “นายจะทำอะไรฉัน”

    เรียวอุคถามเมื่อตัวของชายคนนั้นเข้าประชิดตัวเค้าทุกทีๆ จนขาเล็กถอยกรูดไปอยู่ใกล้ๆเตียง

    “ไม่รู้หรอ งานของนายคืออะไร”

    “งานอะไรกัน ฉันต้องการคุยกับเยซอง”

    “ถูกมันหลอกยังไม่รู้ตัวอีก มันไม่มาหรอกจนกว่านายจะทำงานเสร็จ...”

    เรียวอุคจ้องมองกลับไป ด้วยแววตาตกใจ ชายคนนั้นก็ดึงแขนเล็กขึ้นมาแล้วเพ่งมองดวงตาที่เจือปนด้วยความหวาดกลัว

     













     -------------------------------*

    ฟ้าพูดว่า : มาลงให้แล้วนะค่ะ อิ๊ดๆๆ ปิดเทอมแว้วเย๊จะได้มาแต่งฟิคให้อ่านเยอะๆเลยนะ อ๋อ เดี่ยวจะเปลี่ยนชื่อเรื่องด้วยนะค่ะ ฮี่ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ลงตัวขอเลือกก่อน อยาจกะเปลี่ยนเพราะมันยาวไป55+







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×