คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : งานของคิมเรียวอุค
ร่างบางนั่งคุกเข่าอยู่กลางห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เค้ายกมือจับชายเสื้อที่มีคนนำมาคลุมร่างกายให้
เงาของใครอีกคน ทอดเป็นเงายาวออกมาจากมุมห้อง ใบหน้าชายอีกคนในห้อง ไล้ต้องกับแสงแดดยามเย็น เมือมองลงต่ำลงจากใบหน้านั้น ผ้าสีขาวยาวก็ปรากกฏแก่สายตา มันคาดไว้ที่หน้าท้องคล้องไปยังส่วนแขนด้านบน อกเปลือยเปล่ากระเพื่อมตามแรงหายใจ สายตาเค้าจับจ้องออกไปด้านนอกเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ไม่ได้หันมาสนใจคนที่นั่งอยู่กลางห้องที่อยู่ด้วยเลย แววตาเจือความกลัวของเด็กชายเหลียวมองใบหน้าคนที่พบกันที่แยกถนนเมื่อหลายคืนก่อน
“เรียวอุค..”
ริมปากบางพูดออกมาเบาๆ ก่อนจะเงียบไป แม้จะอยากพูดอะไรสักอย่างออกมา หากแต่เค้ากลับทำอะไรไม่ได้
เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะหาพูดปลอบใจ...ในสถาการณ์แบบนี้ เป็นไปไม่ได้เลย...
“ยืนขึ้นได้แล้ว”
คำพูดนั้นถูกพูดออกมาพร้อมกับปลายท้าวยาวที่ก้าวไวๆเข้ามา พร้อมกับดึงไหล่เล็กให้ลุกขึ้นมา
“ลุกขึ้น”
เค้าพูดก่อนจะกระชากน้อยๆให้เรียวอุคยืนขึ้น คนตัวเล็กกัดริมปากก่อนจะเคลื่อนไหวไปตามแรงดึง ร่างกายเล็กอ่อนยวบเหมือนไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เค้ามองกองเลือดก่อนจะพยายามหลบสายตาเยซอง แววตาสายตานั้นทำไมมันจึงเปลี่ยนไป ตั้งแต่เสียงปืนนัดนั้น เยซองก็มีแววตาเปลี่ยนไป
เรียวอุคนึกย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อหลายชั่วโมงก่อน
ปัง!
“อั่ก! ”
คนตัวใหญ่งอตัวเพราะแรงกระสุนสวนเข้าที่ท้อง เค้ายกมือกุมหน้าท้องก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ตกใจจนตัวสั่น เรียวอุคถอยกรูดไปด้านหลังเค้าพยายามอย่างมากที่จะถอยออกห่างเยซอง ความกลัวแล่นปราดเข้ามาในหัว เค้ามองเยซองที่ถูกยิงก่อนจะหลบสายตานั้น
“คนที่รู้ไม่ควรมีชีวิตรอด ถ้าอยากรอด...”
“ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
ผู้เป็นพ่อกล่าวก่อนจะนิ่ง แล้วมองหน้าเรียวอุค เค้าสบตาคนตัวเล็กสักพักก่อนจะละสายตาแล้วเดินออกตากห้องไป
เสียงปิดประตูไม้ดังขึ้น เยซองจับแขนเรียวอุคที่เดินมาด้วยไว้ ก่อนจะปิดประตูแล้วล็อคกลอน ห้องแคบสุดทางเดินถูกปิดลงยิ่งเพิ่มความกดดันให้เรียวอุคเป็นเท่าตัว เค้าอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ซะ
“พาฉันกลับไปเถอะ”
เรียวอุคพูดก่อนจะเงียบเมื่อรู้สึกถึงมือที่เย็นเยียบของเยซองที่สัมผัสท้องแขนเค้า เค้าหันมองเยซองก่อนที่คนตัวใหญ่จะพูดสวนกลับมา
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
คนตัวใหญ่กว่าพูดก่อนจะเดินลึกเข้าไป เค้านั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับจับลงที่หน้าท้องตัวเอง
“ต่อไปนายต้องเข้ามาทำงาน ..”
“ฉันต้องกลับไปเรียน กลับไปดูแลพ่อ ดูแลแม่”
“ยังไม่เข้าใจสถานการณ์หรือไง”
“.............”
เรียวอุคนิ่งสนิทไปกับคำพูดนั้น
“ฉันไม่ปล่อยให้นายอยู่แบบนี้ตลอดไปหรอก”
เยซองเงียบ ก่อนจะนิ่งไป มือหนาลูบลงที่หน้าท้องก่อนจะก้มหน้ามองดูแผล ถึงจะได้ทำแผลแล้วแต่พิษความเจ็บแล่นไปทั่วตัวเลย
เรียวอุคมองเยซอง คนตัวใหญ่หลบสายตานั้นเค้าหันมองไปด้านข้างก่อนจะเงียบพลางจับลงที่แผลหน้าท้อง… พอดีกับเวลาที่มีเสียงปลายเท้าของใครบางคนเดินมาแล้วหยุดที่หน้าห้อง ทำให้ทั้งคู่ต้องจ้องกลับไปที่ประตู
ปัง ปัง ปัง!
เสียงกระแทกประตูด้วยแรงอย่างมาก คล้ายมีคนมาทุบประตูห้องทำให้เยซองต้องลุกออกไปเปิด
เค้ามองหน้าคนที่ยืนหน้าประตู ก่อนจะพูดเสียงเบาๆบอกอะไรสักอย่างกับคนที่ยืนพูดด้วย ชายคนนั้นมองมาด้านหลังก่อนจะพยักหน้าให้เยซองก่อนจะเดินจากไป
--------------------------------------------------*
ตกดึกเยซองก็หันมองเรียวอุคที่นอนหลับอยู่บนเตียง เค้าเดินออกจากห้องพร้อมกับสวมแจ็คเก็ตตัวหนา คนตัวใหญ่ตรงไปยังโรงพยาบาลและบ้านของเรียวอุค
เค้ายกมือถือขึ้นก่อนจะต่อสายออกไป
“นี่ฉันนะ”
เยซองที่ยืนอยู่ในมุมมืด โทรออกไปก่อนจะพูดคุยด้วยสีหน้าเครียด
“พอดีมีเรื่องจะไหว้วานหน่อย พอจะหาที่พักดีๆให้ฉันสักที่ได้ไหม”
“ต้องการเมื่อไหร่ที่พักหน่ะ”
“เป็นไปได้ก็อีกสองวัน ฉันจะส่งรายละเอียดไปทางเมลล์แล้วกันนะ ขอบใจมาก”
“แล้วฉันจะรีบจัดการให้แล้วกัน”
เยซองลดระดับมือถือลง เค้าเข้าไปในร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆนั้นก่อนจะสั่งอาหารพร้อมจดที่อยู่ให้ไปส่ง ที่อยู่ที่จดลงไปเป็นบ้านเรียวอุค พร้อมกับโรงพยาบาลที่พ่อเรียวอุคน่าจะพักรักษาตัวอยู่
“ขอบคุณมากนะค่ะ แล้วจะรีบจัดส่งไปที่บ้านในสามสิบนาทีนะค่ะ”
-------------------------------------------------------------------*
เค้ากลับเข้ามาในห้องพักก่อนจะหายออกไป เรียวอุคที่รู้สึกตัวแล้วก็เอาแต่มองออกไปด้านนอก มือเล็กข้างนึงถูกใส่กุญแจล็อคอยู่ข้างหัวเตียง
เรียวอุคไม่พูดจาอยู่สองสามวัน และเยซองก็ผลุบๆโผล่ๆตลอด จนเข้ามาวันที่สามเค้าก็กลับมาพร้อมกับบอกเรียวอุคด้วยเสียงนิ่ง
“เราจะย้ายเข้าไปบ้านใหญ่ ลุกขึ้นเร็วเข้า”
“ทำไมฉันต้องเข้าไป”
“.........................”
เยซองไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เค้ายกกระเป๋าในห้องพร้อมกับเก็บเสื้อผ้าลงด้านในโดยไม่สนใจเสียงถามคำถามเรียวอุค
“ฉันไม่ไป “
“นายไม่มีสิทธิ์เลือกมากหรอกนะ”
เยซองพูดก่อนจะปิดกระเป๋า เค้ามองหน้าเรียวอุคก่อนจะพูด
“ไม่อยากทำก็ต้องฝืน หรือชีวิตนี้ไม่เคยฝืนอะไรเลย”
“ลุกขึ้น”
เยซองยกกระเป๋าพาดบ่าก่อนจะกระชากแขนบางให้ลุกตามตัวเองมา
“ตามมา”
เรียวอุคถูกดึงออกไปจากห้องพักแคบๆ ก่อนจะพาลงไปตามขั้นบันไดของอาพร์ทเมนที่พักเยซอง คนตัวใหญ่ออกแรงกระชากแขนเรียวอุคตลอดเวลาให้เดินตามตัวเอง เรียวอุคก็พยายามฝืน เมื่อลงไปยังชั้นล่างก็มีคนเข้ามาล็อคแขนเค้า เยซองปล่อยแขนเค้าแล้วปล่อยให้คนอีกสองสามคนเข้ามาล็อคตัวเค้าไว้แทน
เรียวอุคถูกดันตัวเข้าไปในรถยนต์สีดำ เค้าถูกปิดตาด้วยผ้าหนาก่อนจะมีเสียงพูดดังๆบอกเค้า
“อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากลงไปนอนให้ดินกลบหน้า”
เรียวอุคเลิกดิ้นทันที เค้าก้มหน้านิ่งฟังเสียงเครื่องยนต์ที่เคลื่อนไปด้านหน้า ความรู้สึกโหว่งๆเริ่มก่อตัวชัดเจน เค้าหวาดกลัวต่อสิ่งที่จะเจอและก็อยากออกไปจากที่นี่
สักพักรถยนต์ก็จอดสนิท มีเสียงเคลื่อนของประตูบ้านใหญ่ดังขึ้น ใครสักคนจับแขนเค้าแล้วดึงให้ออกมาจากตัวรถ เรียวอุคโอนเอนตามแรงดึงที่ไม่ใส่ใจว่าเค้ายังมีบาดแผลอยู่ แล้วตอนนี้เยซองอยู่ที่ไหนหล่ะ
ผ้าที่ปิดตาทำให้เค้ามองอะไรไม่เห็น แต่แล้วความมืดนั้นก็ค่อยหายไป เมื่อผ้าที่ผันอยู่หลุดออก เรียวอุคเงยหน้ามองดูตัวบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าก่อนจะรีบหันมองไปรอบๆ
เค้าต้องดูลู่ทางหนีไว้ แต่ที่นี่มันที่ไหนกัน แล้วเยซองหล่ะ
“เข้าไปข้างใน”
เรียวอุคถูกจับดึงเข้าไปในตัวบ้าน คนตัวเล็กยอมเดินตามโดยดี เมื่อไม่เห็นประโยชน์กับการที่ฝืน มีแต่เสียแรงเปล่าๆ
“นายครับ”
เสียงชายคนที่พาเรียวอุคเข้ามา เรียกชายแก่ที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโต๊ะไม้ให้เงยหน้าขึ้น เค้าจ้องมองหน้าเรียวอุคอยู่ครู่นึงก่อนจะพยักหน้าแล้วบอกให้เรียวอุคนั่งลงที่เก้าอี้
“นั่งลงซิ”
“..........”
เรียวอุคนิ่งจนมีคนจับเค้ากดตัวให้นั่งลง เรียวอุคนิ่งแข็งทื่อต่อหน้าชายคนนี้ เค้ามองเรียวอุคก่อนจะเพ่งมองแววตาเด็กชายที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวในความไม่แน่นอนในความปลอดภัยของตัวเอง
“ยังเด็กอยู่หนิ”
“ที่บ้านลำบากมากไหม พ่อของนายกลายเป็นคนไร้ความสามารถไปแล้วใช่ไหม”
ชายแก่พูดก่อนจะมองดูใบหน้าเรียวอุค
“เข้ามาอยู่ในบ้านฉันแล้วทำงานให้ฉัน”
เรียวอุคจ้องมองดวงตานั้นที่มองมายังตนเอง แววตาที่มองไม่ออกถึงเจตนาที่แท้จริงทำให้เค้าบีบมือตัวเองน้อยๆด้วยความกังวลใจ
“ไปพักก่อน แล้วฉันจะบอกงานของนายให้ฟังอีกที”
ชายแก่พูดก่อนจะเรียกลูกน้องที่อยู่ ให้พาเรียวอุคไปพัก คนตัวเล็กเดินตามอย่างว่าง่าย เค้าพยายามมองหาเยซองแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
เรียวอุคเดินไปยังชั้นสองของบ้าน ห้องเค้าอยู่ริมสุดของชั้นสอง เค้าเข้าไปในห้องก่อนจะตกใจเมื่อประตูถูกปิดลง ทิ้งเค้าให้ยืนนิ่งอยู่ในห้องนั้น
สายตาเล็กปรับมองไปทั่วทั้งห้อง มือบางลูบลงที่ผนังสีขาว กับเตียงที่ดูแล้วน่ากระโดดลงไปนอนเสียจริง ทว่ายังไม่ได้เตะนิ้วลงไปเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อกๆๆ
เยซองแน่ๆ
เรียวอุคเดินไปเปิดประตูก่อนจะผวาตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ยกมือเค้าไว้ด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจ
“ว่าไง เด็กใหม่ของพ่อ”
“ฉัน..”
เรียวอุคพูดก่อนจะถอยหลังเมื่ออีกฝ่ายเดินก้าวเข้ามาในห้อง ผู้ชายคนนี้มีเค้าโครงหน้าคล้ายเยซองแต่แววตานั้นดูไม่น่าไว้ใจ
“นายจะทำอะไรฉัน”
เรียวอุคถามเมื่อตัวของชายคนนั้นเข้าประชิดตัวเค้าทุกทีๆ จนขาเล็กถอยกรูดไปอยู่ใกล้ๆเตียง
“ไม่รู้หรอ งานของนายคืออะไร”
“งานอะไรกัน ฉันต้องการคุยกับเยซอง”
“ถูกมันหลอกยังไม่รู้ตัวอีก มันไม่มาหรอกจนกว่านายจะทำงานเสร็จ...”
เรียวอุคจ้องมองกลับไป ด้วยแววตาตกใจ ชายคนนั้นก็ดึงแขนเล็กขึ้นมาแล้วเพ่งมองดวงตาที่เจือปนด้วยความหวาดกลัว
-------------------------------*
ฟ้าพูดว่า : มาลงให้แล้วนะค่ะ อิ๊ดๆๆ ปิดเทอมแว้วเย๊จะได้มาแต่งฟิคให้อ่านเยอะๆเลยนะ อ๋อ เดี่ยวจะเปลี่ยนชื่อเรื่องด้วยนะค่ะ ฮี่ๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ลงตัวขอเลือกก่อน อยาจกะเปลี่ยนเพราะมันยาวไป55+
ความคิดเห็น