คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [บทที่ 2] ทุกข์ระทมและแค้นเคือง
ทันทีที่กาแฟหอมกรุ่นวางลงตรงหน้า สายตาของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญก็เริ่มสังเกตท่าทางของหญิงวัยกลางคน นางรัตนาหย่อนตัวลงบนโซฟาเล็กข้างๆเขา หล่อนร้องโอดครวญนิดหนึ่งตามประสาคนแก่ที่ต้องงอข้อกระดูก ผมบนศีรษะเริ่มปรากฏร่องรอยของความชรามากกว่าตอนที่ดลชาได้พบนางตอนแรก หญิงวัยกลางคนแสนสวยบัดนี้กลับซูบผอมและเสื่อมโทรมราวกับคนเป็นโรคร้ายได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
“ฬันดาตกลงจะแต่งงานกับคุณนะคะ” น้ำเสียงของนางเจ็บช้ำและสั่นเครือ ดลชามองนางพลางปลงไปด้วย ถึงเขาจะเป็นคนร้ายแต่เขาก็รู้สึกสงสารนางรัตนาขึ้นมาอีกค่อนข้างมาก
“เรื่องนั้นผมรู้ เพราะคุณไม่มีทางเลือกไหนอีกแล้ว” เขากล่าวโดยไม่มีความรู้สึกสงสารมาเจือปนในน้ำเสียง เขายกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม นางรัตนายิ้มอย่างเหนื่อยหน่ายและมองเขาด้วยสายตาของผู้แพ้
“ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหม” นางเอ่ยถาม ดูอ่อนน้อมถ่อมตนราวกับกลัวว่าจะทำให้คนใหญ่คนโตคนนี้พิโรธ ดลชามองหญิงกลางคนครู่หนึ่ง เขาวางถ้วยกาแฟลงตามตำแหน่งเดิม เอนหลังเล็กน้อย... แล้วจ้องมองนางรัตนา
“ได้สิ” วาจานั้นไม่มีความอ่อนน้อมตามแบบที่คนอายุน้อยพึงกระทำแก่คนสูงวัยกว่าเลย
“ทำไมคุณถึงต้องการแต่งงานกับฬันดา” นางดูกระด้งและเข้มแข็งขึ้น คำถามนั้นทำให้ดวงตาของดลชาเล็กหรี่ลง ใบหน้าหล่อเหลานั้นคมเข้มขึ้นจากท่าทางเข้มงวดของเขา
“เห็นแก่ว่าคุณเป็นแม่ของคนที่มอบความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตให้ผม” นางรัตนาสะอึก ดวงตาของเขาให้คำตอบเธอเต็มๆอยู่แล้วว่าคนที่เขาเอ่ยถึงคือใคร
“ผมตอบคุณก็ได้...” สีหน้าของนางรัตนาค่อยๆอ่อนลง แต่เธอยังพยายามรวบรวมความกล้าหาญเพื่อฟังคำตอบจากชายหนุ่มรูปงาม
“เพราะผมต้องการให้ฬุดาเจ็บปวด! เหมือนกับที่เธอทำกับผมเป็นแค่ของเล่น!!!”
“แล้วทำไมต้องเป็นฬันดา!” นางรัตนาทำท่าราวกับจะโผเข้าไปกระชากคอเสื้อของดลชา
“คุณแค้นฬุดา! แล้วทำไมต้องลงที่น้องสาวของเขา!!!”
“เพราะผมอยากให้ฬุดาเจ็บมากกว่าการที่จะต้องแต่งงานกับคนที่เธอไม่ได้รัก!!!!” ชายหนุ่มตะคอกใส่หน้าเย็นๆของนางรัตนา ดวงตาสีดำมืดถลึงโตอย่างน่ากลัว มองเห็นเปลวไฟโชติช่วงเต้นระบำอยู่ในดวงตาของเขา
“คุณรัตนา... ฬุดาที่แสนดีของคุณน่ะเป็นสาวเปรี้ยวที่ชอบล่าผู้ชาย” คนเป็นแม่สะอึกและปวดร้าวในใจเป็นที่สุด
“ผมรู้... กะอีแค่แลกตัวใช้หนี้น่ะมันไม่ทำให้ฬุเจ็บเท่าไรนักหรอก แถมแธอยังจะคิดว่าผมใช้วิธีสกปรกบังคับให้เพื่อให้ได้ตัวเธอมา แล้วเธอก็จะสมเพชผม!!! แต่ลองคิดกลับกัน ไหนๆผมก็ต้องเล่นสกปรกอยู่แล้ว ถ้าผมเอาน้องสาวสุดที่รักของเธอมาเธอจะเจ็บปวดขนาดไหน! ฬุดาต้องคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ครอบครัวพินาศ เธอคงจะสุขใจล่ะมั้ง... แล้วคุณคิดว่าระหว่างฬุดากับฬันดา ถ้าคุณเป็นผมที่ต้องการให้คนที่ทำให้เจ็บเจ็บมากกว่าเรา คุณจะเลือกใครมาเป็นเมียใช้หนี้!”
“อย่ากล่าวหาลูกสาวฉัน!” นางรัตนาร้องลั่น หล่อนโหยหวนและเอื้อมมือมาหาดลชา แต่เมื่อเธอจะแตะต้องตัวเขาเธอก็หดมือกลับมา
“อย่าเรียกลูกสาวฉันด้วยถ้อยคำต่ำช้าแบบนั้น!” หล่อนโอดครวญและเริ่มร่ำไห้ ดลชาลุกขึ้นยืนจากโซฟา... ขณะที่ร่างของนางรัตนากองอยู่บนพื้น ราวกับกำลังกราบกรานแทบเท้าของชายหนุ่ม เขาก้มมองหญิงกลางคนอย่างเยือกเย็น
“คุณแม่!!!” ผู้เป็นลูกกรีดร้อง ฬันดารีบถลาตัวเข้ามาตะกองกอดร่างหมดสภาพของมารดาขึ้นมา หล่อนรินไหลน้ำตารดใบหน้าของมารดา สงสารแม่จับใจที่ชี้มือชี้ไม้ด่าคนใจดำที่ยืนมองอยู่นั้น!!!
“ออกไป!” หล่อนกราดเกรี้ยว แววตาลุกโชนแต่คำพูดกลับเรียบเฉยและนิ่งเงียบ ซึ่งดูเหมือนดลชาจะไม่ได้สะทกสะท้านเลย
“กรุณาออกไป ถึงตอนนี้เราเป็นหนี้คุณอยู่ แต่ฉันมั่นใจว่าฉันยังมีสิทธิของมนุษยชนอยู่เต็มเปี่ยม” หล่อนเฉียงตาไปทางโทรศัพท์บ้านที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ บอกสัญญาณแก่ดลชาว่าหากเขายังเสนอหน้าอยู่ในบ้านหลังนี้หล่อนอาจจะโทรตามเรียกตำรวจมาลากคอเขาออกไปจากบ้านก็เป็นได้
“วันแต่งงานจะกำหนดทีหลัง เมื่อผมสามารถเลือกวันที่ผมพอจะมีเวลาว่างได้” ฬันดาเม้มปากแน่น ชายหนุ่มพูดเหมือนกับว่าเขาจะยอมเจียดเวลาสักเล็กน้อยเพื่อเข้าพิธีแต่งงานไร้สาระ! ดลชามองหล่อนอีกแวบหนึ่งแล้วหัวเราะ ‘หึ!’ เขาก้าวขายาวๆเดินออกไปจากบ้าน มีสายตาเกลียดชังของฬันดาตามไปส่งจนถึงประตูบ้าน
“เขาไม่ควรเรียกลูกอย่างนั้นเลย” นางรัตนากล่าวอย่างเจ็บช้ำ ดูเหมือนนางจะเรียกสติคืนมาได้แล้วเมื่อได้อ้อมกอดของลูกสาวคนกลางช่วยปลอบประโลม ฬันดามองแม่อย่างสงสาร หล่อนไม่ได้คิดจะล่วงเกินของสูง มือเรียวเล็กลูบผมอ่อนนิ่มของมารดาเพื่อปลอบโยน
“ช่างมันเถอะค่ะแม่ ช่างมัน...ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูจะแต่งงานกับเขาแล้ว ทุกอย่างจะเรียบร้อย” หญิงสาวเอ่ยปลอบ แต่ราวกับเอามีดมาแทงที่หัวใจซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักลูก นางรัตนาสะอื้นไห้หนักขึ้น ฬันดากระซิบคำปลอบโยนที่ข้างหูของแม่เหมือนกับตอนที่แม่กระซิบเพลงกล่อมนอนที่ข้างหูเธอในวัยเยาว์ หล่อนกอดร่างของแม่ที่กำลังร้องไห้เหมือนกับเมื่อคืนที่แม่ปลอบโยนเธอด้วยอ้อมกอดจนหลับไป...
อนาคตจะเป็นเช่นไรไม่รู้แน่ ฬันดาไม่แน่ใจว่าเธอจะทนอยู่กับเขาได้นานสักเท่าไร แต่ความเจ็บช้ำทั้งกายและใจของเธอถ้าแลกคืนค่าน้ำตาของมารดาได้ หล่อนก็เต็มใจ...
ยามค่ำ...
รถยนต์คันงามเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านกะทัดรัด ร่างกระปกกระเปลี้ยของฬุดาเคลื่อนไหวออกมาจากรถยนต์ ดวงหน้าของหล่อนขาวซีด ผมยาวสยายค่อนข้างยุ่ง และสิ่งที่บอบช้ำหนักที่สุดคือดวงตาของเธอที่ราวกับไม่อยากจะรับรู้เรื่องใดๆในโลกอีกแล้ว
หล่อนถอดรองเท้าส้นสูงสีแดงแป๊ดอย่างทุลักทุเล จากนั้นจึงเตะมันไปให้พ้นทางเดิน บ้านที่แสนอบอุ่นของเธอทำไมวันนี้ถึงได้เงียบเชียบและหนาวเย็น หล่อนมองขึ้นไปบนชั้นลอยชั้นสอง... ไร้แสงไฟที่บ่งบอกว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ แม่ของเราไปไหนเสียล่ะ? ฬุดาคิดอย่างสับสน เธอก้าวไปที่ห้องนั่งเล่น และเมื่อเธอเปิดไฟ.... ร่างผอมอ้อนแอ้นโอนเอนของใครคนหนึ่งนั่งปลงอยู่บนโซฟา
“ฬัน!” เสียงนั้นช่างแจ่มใสและมีชีวิตชีวา เกิดประกายสดใสขึ้นมาในดวงตาที่ไร้แววนั้น ฬุดารุดไปถึงตัวน้องสาว เธอรีบดึงร่างผอมบางของน้องสาวให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดและร่างอันอวบอัดของเธอ
“น้องรัก น้องรู้เรื่องนั้นแล้วใช่มั้ย” มือของพี่สาวลากยาวผ่านรวงเส้นผมนุ่มของน้องสาว ฬันดาไม่อยากจะเอ่ยปากบอกฬุดาเลยว่าเพราะความคับแค้นของดลชาที่มีต่อฬุดาทำให้หล่อนต้องยอมจำนนแต่งงานกับเขา!!!
“พี่ฬุ” น้ำเสียงราวหับจะขาดใจ ความเคืองโกรธและขุ่นเคืองที่เคยคิดโทษพี่สาวว่าเป็นสาเหตุทีที่ทำให้หล่อนต้องแต่งงานกับคนใจร้ายมันปลิวหายไปไหนแล้วไม่รู้ เมื่อได้สัมผัสถึงมืออุ่นที่ลูบหัวหล่อน ดวงตาแสนสวยราวอัญมณีที่มองหล่อนอย่างห่วงใย แล้วหล่อนจะโกรธพี่สาวแสนดีคนนี้ได้อย่างไร
“ถ้าน้องบอกอะไรพี่พี่จะต้องใจเย็นๆนะ” ยังไงเสียหล่อนคงต้องบอกพี่สาว เพราะอย่างไรในวันงานแต่งงานเธอก็อยากให้มีพี่สาวสุดที่รักสวมชุดแสนสวยยืนยิ้มให้หล่อนอยู่ในงาน
“บอกพี่มาเถอะ ไม่มีเวลาไหนที่พี่จะใจเย็นได้เท่านี้อีกแล้ว” ฬุดาหมายถึงช่วงเวลานี้ที่หล่อนได้กอดน้องสาวที่จากพี่สาวไปนานเกือบปีโดยไม่กลับมาให้หล่อนได้ชื่นใจเลย น้องสาวสุดที่รักที่หล่อนรักยิ่งกว่าชีวิต
“ดลชา...” น้ำเสียงของฬันดาขมขื่น หล่อนฝืนกลืนน้ำตาหลงอก “ดลชาให้น้องแต่งงานกับเขาเพื่อใช้หนี้!”
“สัตว์!!!” ตำนั้นระเบิดออกมาจากพี่สาวที่แสนปรานี ฬุดาดันร่างของน้องสาวออก หล่อนคงไม่อยากให้น้องสาวสัมผัสกับความโกรธที่พุ่งพล่านไปทุกอณูขุมขน
“เลวระยำ! มันบังคับ... บังคับให้น้องสาวของพี่แต่งงานกับมันเพียงเพราะใช้หนี้! มันเห็นน้องเป็นอะไร” หล่อนดูพลุ่งพล่าน ฬันดาดึงแขนพี่สาวอย่างเว้าวอน หล่อนไม่อยากให้แม่ที่เพิ่งจะหลับได้ตื่นขึ้นมาเผชิญเรื่องเลวร้ายอีก
จากความกราดเกรี้ยว ต่อมาใบหน้าแสนสวยนั้นก็เริ่มบิดเบี้ยว น้ำตาที่ไม่รู้ว่าเกิดจากความเสียใจหรือความโกรธแค้นหลั่งรินออกมา เธอเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวอย่างรู้สึกผิด ฬันดาเริ่มรู้สึกว่าหล่อนกำลังจะร้องให้ตามพี่สาว แต่หล่อนไม่อยากร้องไห้... ไม่อยากร้องไห้ในขณะที่พี่สาวร้องไห้เช่นกัน
“เพราะพี่ใช่มั้ย...” ฬุดาโอดครวญ หล่อนพูดไม่ค่อยเป็ฯภาษา “เพราะดลชาแค้นพี่ เขาเลยมาลงกับน้อง เพราะพี่ใช่มั้ย”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ” ฬันดาปลอบ หล่อนเกลี่ยหยดน้ำตากลมใสบนใบหน้าของฬุดาอย่างอาทร
“ไม่ใช่เพราะพี่หรอก พี่อย่าคิดมากนะ...”
“แต่ว่า...”
“จริองยู่ที่เขาทำไปเพราะเคืองแค้นพี่” ได้ยินน้องสาวบอก ฬุดาแทบจะขาดใจ หล่อนคือต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวต้องกลายเป็นของกำนัลใช้หนี้ไป... หล่อนทำให้น้องต้องกลายเป็นหญิงไร้ค่า!
“และน้องก็โกรธพี่ น้องคิดว่าพี่เป็นสาเหตุทำให้น้องต้องทนทุกข์”
“พี่ขอโทษ” ฬุดาเอ่ยอย่างเว้าวอน แววตาแสนสยราวกับจะขอโทษอย่างสุดชีวิต
“แต่ต้องไม่โกรธพี่แล้วในตอนนี้” แขนผอมแห้งโอบบ่าพี่สาว หล่อนวางคางลงบนบ่าของพี่สาวและยิ้มอย่างสุขใจ แม้อกจะระทมเท่าใดก็ตาม
“ตั้งแต่ตอนที่พี่กอดน้อง น้องรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของพี่เลย ทันทีที่พี่ให้ความห่วงใยและความอบอุ่นแก่น้อง ความโกรธของน้องได้มลายหายไปแล้ว” มือเล็กๆเริ่มเป็นฝ่ายลูบไปตามเส้นผมสลวยของฬุดา ฬันดาไม่นึกเลยว่าหล่อนจะได้ลูบหัวของผู้อาวุโสกว่าถึงสองคน หล่อนรับรู้ได้ถึงแรงสะอื้นของพี่สาว ในเวลานี้คงจะมีแต่หล่อนเท่านั้นที่ต้องเข้มแข็งกว่าใคร
“ไปพักผ่อนเถอะค่ะ” ฬันดาดันร่างของพี่สาวออก ใบหน้าของสองสาวพราวไปด้วยประกายใสของหยาดน้ำตา มีเพียงฬันดาเท่านั้นที่มีประกายจากรอยยิ้ม
“ที่เหลือ...คือหน้าที่ของน้อง” ฬันดากล่าว
...ภายในห้องที่มีแสงสลัวจากดวงไฟดวงเล็กๆที่เจ้าของห้องคงพอใจที่จะให้มันส่องแสงริบหรี่เช่นนั้น ชายหนุ่มวางขายาวลงบนเก้าอี้พักขา หย่อนร่างสูงใหญ่ลงบนเก้าอี้เอนนุ่มแสนสบาย เขาพ่นลมหายใจออกมาทางปากอย่างผ่อนคลายเมื่อจัดที่นั่งพอเหมาะให้กับตัวเองได้ วันนี้เหนื่อเยเหลือเกิน... โดยเฉพาะเหนื่อยใจ
ดลชากระชากเนคไทออก ระหว่างที่เริ่มผ่อนคลายอาภรณ์ของตนเอง เขาหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ในวันนี้ ภาพของหญิงสาวววัยกลางคนที่เคนสวยสง่าแต่ในวันนี้กลับดึงทึ้งผมตัวเองเอ็ดตะโรจนเสียสวย นางรัตนาแก่ลงไปมาก เพียงไม่กี่สัปดาห์ที่เขายื่นข้อเสนอแสนเจ็บช้ำนั้นให้นาง
ความจริงเขามิใช่คนใจไม้ป่าเถื่อน แต่เป็นคนผูกเจ็บอย่างรุนแรง หล่อนคนสวยที่ชื่อฬุดาคือผู้หยิบยื่นความชอกช้ำให้แก่เขา เขายังจำได้ถึงวันที่แสนเจ็บปวดในวันนั้น หล่อนมาหาเขาที่บ้าน... และเขาก็ต้อนรับหล่อนอย่างดี ดีพอที่ชายคนหนึ่งจะทำให้คนรัก
‘นี่... ฉันเบื่อคุณแล้ว’ หล่อนหัวเราะคิกคักและพูดออกมาหน้าตาเฉย ดลชาเย็นวาบไปทั้งตัว เมื่อเขารู้ว่าผู้หญิงแสนสวที่เขาเคยหมายมั่นปั้นมือว่าจะมีลูกสาวหน้าน่าน่ารักเหมือนหล่อนกำลังจะจากไป
‘คุณคงไม่ได้รักฉันจริงๆหรอกนะ คุณเองก็คงจะเหมือนฉันนั่นล่ะ สนุกกันนิดหน่อยไง’ หล่อนยิ้มร่าแล้วเดินออกจากบ้านไป พูดคำบอกเลิกรวดเร็วจนกาแฟที่เขายกมาเสิร์ฟด้วยตัวเองไม่ทันหายร้อน เธอยังคังหัวเราะร่า... เดินออกจากบ้านหลังโตที่เปลี่ยวเหงาของเขาออกไป ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งอึ้ง... ก่อนจะมีน้ำตา
ดลชารู้ว่าฬุดาเป็นหญิงเปรี้ยวแสนเสน่ห์ รู้อีกเช่นกันว่าหล่อนทิ้งผู้ชายเหมือนทิ้งขยะ แต่เขาไม่สามารถหักห้ามใจต่อเสน่ห์ของหล่อนได้ หล่อนช่างพูด เย้ายวน และบางครั้งก็แสดงออกมาถึงความเมตตาที่หล่อนมีให้กับครอบครัวและอีกหลายๆคน เขาหลงรักเธอจนถอนตัวไม่ได้ และหลงนึกว่าการที่หล่อนพาเขาไปพบมารดาของหล่อนคือชัยชนะที่ประกาศให้รู้ว่าเขาได้ครอบครองเธอแล้ว
แต่เขาคิดผิดถนัด...
และยิ่งชอกช้ำมากกว่าคำบอกเลิก ภายหลังเขารู้ว่าหล่อนพาผู้ชายที่หล่อนเห็นเป็นของเล่นทุกคนไปที่บ้าน!!!
ตอนนี้เขาไม่เหลือหยาดหยดแห่งความรักอีกแล้ว ในอกของเขามันเต็มไปด้วยความแค้น และความเจ็บช้ำที่อยากจะให้หล่อนเจ็บช้ำเหมือนเขา!!!
ดวงตาของชายหนุ่มแดงกล่ำ ไม่ใช่ว่าเขากำลังจะร้องไห้หรอก แต่เพราะเขากำลังพยายามสะกดกลั้นความโกรธต่างหาก เขาต้องสะกดกลั้นอารมณ์นี้ให้ได้ รออีกนิดเดียว อีกแค่นิดเดียวความเจ็บช้ำของเขาก็จะได้ถ่ายทอดไปให้คนที่สมควรจะเจ็บช้ำมากกว่าเขา!!!
“อย่างคุณน่ะ!!! แค่ถูกบังคับให้แต่งงานกับผมมันไม่ทำให้ผู้หญิงร่านอย่างคุณเจ็บนักหรอก ผมจะทำลายสิ่งสำคัญของคุณทุกอย่าง เหมือนกับที่คุณได้ทำลายความไว้เนื้อเชื้อใจและหัวใจของผม!!!” น้ำเสียงนั้นเหมือนจะตะโกนออกไปให้คนที่ทำเขาเจ็บได้รับรู้ ดลชาคงจะดีใจเป็นอย่างยิ่งถ้าเขาได้ทราบว่าเขาประสบความสำเร็จแล้ว หากเขาได้เห็นสภาพจวนเจียนจะขาดใจของฬุดา!!!
Snowwrite Talk
ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย หวังเพียงแค่มีคนเข้ามาอ่าน และนำเสนอข้อวิจารณ์เพื่อเป็นการแก้ไขงานในคราวหน้า
รักชีวิตที่สนุกกับงาน และรักมิตรทุกคนที่ได้จากการทำงาน
รักทุกคนที่อ่านผลงาน
Snowwrite... กานต์พิมพลอย ในอนาคต
ความคิดเห็น