ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร้อยรักแรงปรารถนา

    ลำดับตอนที่ #2 : [บทที่ 1] บังคับและขอร้อง

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 49



     

    ...สำหรับลูกแล้วคงจะไม่มีสิ่งใดในโลกร้าวรานไปกว่าการได้เห็นหยาดน้ำตาของผู้อุ้มชูเลี้ยงดูตั้งแต่อยู่ในท้อง   ฬันดาต้องพยายามเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะหลีกเลี่ยงการมองแม่ของหล่อนร้องไห้   นางรัตนาก้มหน้าบ้างและเงยหน้าบ้างเพื่อมองลูกสาวคนกลางที่ใจแข็งที่สุด   นางปวดหัวและปวดใจเหลือเกินกับสิ่งที่ลูกชายคนเล็กก่อไว้และท่าทีไร้เยื่อใยของลูกคนกลาง

     

    ฬัน...   หนูคิดว่าช่วยแม่ได้ไหม   ผู้เป็นแม่วอนขอ   ถ้าไม่เห็นแก่ไว้อายุของลูกสาวจะสั้นลงนางคงก้มลงกราบลูกสาวของตนไปแล้ว   ฬันดาเบือนหน้าหนีไปอีกนิด   หล่อนพยายามกลั้นน้ำตาให้หยุดไหล

     

    แล้วแม่ไม่คิดจะช่วยหนูงั้นหรือคะ   ฬันดากำลังนึกถึงนรก   หล่อนต้องตกนรกแน่ๆ   เพราะสิ้นเสียงคำกล่าวของหล่อน   หล่อนได้ยินเสียงนางรัตนาผู้เป็นแม่ก้มหน้าลงสะอื้นไห้

     

    ในระหว่างที่หล่อนกำลังกล้ำกลืนฝืนทน   ฬันดานึกถึงเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่มารดาของหล่อนโทรศัพท์ด่วนตามหล่อนให้กลับบ้าน   ฬันดาซึ่งเลี้ยงปริญญาโทด้านศิลปะอยู่ที่มหาลัยขึ้นชื่อของเชียงใหม่จึงต้องรีบบึ่งมายังสนามบินเพื่อให้ทันเที่ยวบินที่เร็วที่สุดที่จะมุ่งหน้าสู่มหานครกรุงเทพ   และเมื่อหล่อนกับมาถึงบ้าน   ทันทีที่พบมารดา...   ฬันดาแทบจะบีบคอตัวเองตายเสียเดี๋ยวนั้น

     

    หล่อนปวดใจเหลือเกินที่เห็นแม่ของหล่อนมีน้ำตาพรมหน้า   นางรัตนาเมื่อได้พบหล่อนก็โผเข้ากอดหล่อนและสะอื้นฮึกๆใส่บ่าของหล่อน   เมื่อหาที่นั่งในห้องนั่งเล่นได้และนางรัตนาเริ่มมีสติที่จะพูดคุยแล้ว   ความจากปากของมารดาทำให้ฬันดาเกือบจะไถลตัวลงไปกองกับพื้น

     

    ตาฬุนดาน่ะลูก   มันติดหนี้การพนันเสียมากมาย   แม่ขอโทษนะลูกที่ต้องบอก...   แม่อยากตายเหลือเกินลูก   แม่ไม่อยากนึกเลยว่าน้องชายของลูกจะเหลวแหลกได้ถึงเพียงนี้   น้องสร้างหนี้เอาไว้...โธ่   แม่ไม่อยากจะพูดเลยจริงๆ   น้องเป็นหนี้สิบล้านบาทน่ะลูกฬัน   พูดถึงตรงนั้นนางรัตนาก็ปล่อยโฮออกมา   นางดึงทึ้งผมตัวเองเหมือนไร้สติ   ฬันดามองมารดาแล้วน้ำตาก็ไหล   หล่อนไร้เรี่ยวแรงที่จะปลอบประโลมมารดาได้   ทำได้เพียงเฝ้ามองนางรัตนาด่าทอตัวเองด้วยดวงตาที่ปวดร้าว

     

    ฬันดากลืนก้อนน้ำตาลงในอก   สถานะภาพของบ้านแม้ว่าจะพอมีพอกินและมีพอที่จะฟุ่มเฟือยบ้างเพราะสมบัติเก่าของบิดาผู้ล่วงลับ   แต่หนี้ก้อนโตขนาดนั้นมันก็เหมือนกับหินก้อนหนักๆที่หล่นลงมาทับแมลงตัวเล็กๆ     ฬันดามองหาภายในบริเวณบ้านนั้น   น้องตัวดีผู้ก่อเรื่องไม่รู้ว่าหายหน้าไปไหน   ฬันดาอยากจะตีมันเหมือนตอนเด็กๆ   แต่เมื่อมันไม่อยู่หล่อนจึงคิดที่จะทำโทษตัวเองแทน   ข้อหาที่สอนน้องไม่ดี

     

    หนู...   จะให้หนูทำยังไงคะ  แล้วพี่ฬุล่ะคะ   หล่อนเอ่ยถึงพี่สาวคนโตคนดีของแม่   แต่คำตอบจากนางรัตนาคือการส่ายหน้า   ยิ่งพูดถึงคนดีของแม่   นางรัตนาก็ยิ่งดูเหมือนจะบอบช้ำมากขึ้น

     

    ฬุเขาร้องกรี๊ดลั่นบ้านแล้วร้องไห้ออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วลูก   ป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย   คงจะตกใจล่ะ...แน่สิ   ตัวเองอุตส่าห์ตั้งใจทำงานในบริษัทดีๆแทบตายเพื่อจะส่งน้องชายเรียน   แต่จู่ๆน้องชายที่ตั้งความหวังซะดิบดีกลับพาหนี้ขนาดนั้นมาให้   เป็นใครใครก็ต้องตกใจล่ะ

     

    หนูไม่อยากเชื่อเลย   ฬันดาพึมพำพร่ำเพ้ออย่างไร้สติ   หล่อนคงจะเสียใจเวียจนลืมสังเกตว่ามีแววแห่งความหวังอยู่บนใบหน้าของมารดาเมื่อนางจ้องมองลูกสาวอยู่เนิ่นนาน

     

    แต่ว่า...ฬัน   ไม่มีความสั่นเครือเจือปนในน้ำเสียง   ฬันดาหันขวับมามองมารดา

     

    คะ   หล่อนขานรับใจลอย

     

    หนู..   แม่ว่าหนูช่วยได้นะ  แม่ถึงเรียกหนูกลับมาด่วนไง   น้ำเสียงอิหรกอิเหรื่อ   ฬันดาปาดน้ำตา   หล่อนเริ่มรู้สึกเหมือนมีแรงฮึกเหิมเมื่อมารดาของหล่อนบอกว่าหล่อนสามารถช่วยครอบครัวได้

     

    ยังไงคะ   หล่อนถามต่อ

     

    ฟังนะลูก   ที่จริงแม่รู้เรื่องที่ฬุนดาติดหนี้พนันนานแล้ว   แต่แม่ไม่อยากให้หนูที่กำลังเรียนต่ออยู่แล้วก็พี่ฬุที่ตั้งใจทำงานต้องกังวล   ฬุนเขามาขอร้องให้แม่ช่วย   เพราะถ้าไม่มีเงินไปจ่ายพวกที่บ่อนไอ้พวกนั้นต้องมาฆ่าน้องแน่   แม่ก็เลย...   แม่ก็เลยแอบไปกู้เงินมา   คือว่า...   แม่ไปกู้เงินมาจากคุณดลชา   หนูอาจจะไม่รู้จักเขานะลูก   มารดาลูบหัวกลมๆของหญิงสาว   ฬันดาตกใจครู่หนึ่งเมื่อทราบว่าแม่ของหล่อนรับรู้เรื่องที่น้องชายติดหนี้นานแล้วแต่ไม่ยอมบอกหล่อน

     

    คุณดลชาเป็นแฟนของพี่ฬุ   สองคนนี้แม่รู้สึกว่าจะรักกันนานพอควรนะ  แล้วก็รักกันมากด้วย   แต่หนูก็รู้ว่าพี่ฬุเป็นยังไง   ชอบเปลี่ยนผู้ชายเล่น   คบผู้ชายเล่นแก้เบื่อ   คุณดลชาก็เป็นเหยื่อของพี่ฬุนั่นแหละ   แต่ก่อนที่พี่ฬุจะบอกเลิกคุณดลชาแม่ก็เลยแอบไปขอยืมเงินเขามาสิบล้าน   ตอนนั้นคุณดลชาคงจะเห็นแก่พี่ฬุล่ะมั้งเลยให้แม่ยืม   แต่พอที่ฬุบอกเลิกคุณดลชา...   แกก็เลยผูกใจเจ็บ

     

    โธ่...   ฬันดาอุทาน   ไม่อยากนึกเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเจ้าหนี้เกิดแค้นลูกหนี้

     

    เมื่อไม่กี่วันนี้แกเลยมาทวง   แกน่ากลัวเหลือเกินลูก   คงจะเจ็บจากพี่ฬุเอามาก   แต่แม่ก็ไม่ได้บอกพี่ฬุ   จนเมื่อวันก่อนที่เขาบอกว่าจะยึดบ้านเรานั่นแหละ   แล้วเขาก็ขนพวกมาเต็มเลยลูก...แม่ก็เลยบอกเรื่องนี้กับพี่ฬุ   แล้วพี่ฬุก็ไม่กลับมาอีกเลย   นางรัตนาเขยิบเข้ามาใกล้ลูกสาวและซบไหล่ของหล่อน   ฬันดาพยายามกลั้นน้ำตาเพื่อรับฟังเรื่องราวที่แสนเลวร้ายนี้   หล่อนอยากรู้มากที่สุดคือนางรัตนาบอกว่าหล่อนสามารถช่วยครอบครัวได้   แล้วมันคืออะไร

     

    แม่คะ   อะไรล่ะคะที่หนูสามารถช่วยได้   ฬันดากล่าวอย่างมุ่งมั่น   และจู่ๆหล่อนก็นึกเกลียดคนชื่อดลชาขึ้นมาจับใจ   เพราะความเคืองแค้นของเขาถึงกับต้องขนพรรคพวกมาข่มขวัญมารดาของหล่อน   ถึงแม้ว่าครอบครัวของหล่อนจะเป็นลูกหนี้ของเขาก็เถอะ

     

    ฬันดา   นางรัตนาเงยหน้าขึ้น   นางกดศีรษะของลูกสาวคนกลางให้ลงมาซบอกของหล่อนแทน   แววตาของนางดูชอกช้ำเหลือเกิน

     

    หนูแต่งงานกับเขานะลูก

     

    อะไรนะคะ!!!”

     

    ฬันดาทะลึ่งตัวขึ้นมาทันที   ดวงตาสีนิลกลมแป๋วเบิกกว้างอย่างตกใจ   หล่อนไม่เคยดูตกใจมากขนาดนี้มาก่อน   สีหน้าของนางรัตนาดูหวาดหวั่นขึ้นมาทันที

     

    คุณดลชาแลกข้อเสนอกับเราลูก   แกบอกว่าจะยกหนี้ให้ทั้งหมดถ้าหนูยอมแต่งงานกับเขา

     

    แล้วแม่ก็จะ...   ฬันดาเอ่ยอย่างเจ็บช้ำ   แต่คนที่ดูเจ็บช้ำมากที่สุดคือนางรัตนา

     

    แม่ขอโทษนะลูก   แต่แม่คิดว่ามันคือทางเดียวจริงๆ   หนูคนเดียวนะลูกที่จะช่วยพวกเราได้   คนดีของแม่...

     

    คนดีของแม่...

     

    คำนี้ที่มารดาเคยใช้เรียกพี่ฬุดา   และตอนนี้ก็ยัดเยียดให้หล่อน   ฬันดายิ้มกับตัวเองอย่างน้อยใจ   พี่สาวสร้างปัญหาไว้ก็มาตกที่หล่อน   น้องชายทำเรื่องไว้ก็โยนมาให้หล่อน   นี่หล่อนเป็นตัวอะไรในครอบครัวกันแน่!!!

     

    หนูไม่ทำ!!!”   นานพอควรกว่าฬันดาจะกลั้นใจปฏิเสธมารดาได้   หล่อนจะไม่ใจอ่อน   หล่อนเบือนหน้าหนี...   นางรัตนาหวีดร้องและปล่อยโฮ   ฬันดากล้ำกลืนในอก   หล่อนจะเจ็บได้มากกว่านี้อีกมั้ยนะ   การที่ต้องปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือครอบครัวตัวเอง   ปฏิเสธความหวังหนึ่งเดียวของมารดา   แต่หล่อนคงจะเจ็บกว่านี้อีกมั้งที่จะต้องแต่งงานกับคนร้ายกาจที่หล่อนไม่เคยพบแม่ใบหน้า   และคงจะเจ็บช้ำยิ่งกว่านั้นอีกถ้าการแต่งงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนกับหนี้สินของน้องชายและความเคืองแค้นของพี่สาว

     

    ฬันดา   หนูใจร้ายจัง   น้ำเสียงนั้นคล้ายตำหนิ   แต่คนใจร้ายของแม่ยังคงเบือนหน้าหนี   ฬันดาเม้มปากแน่น   หล่อนพยายามที่จะไม่เปล่งเสียงคำว่า ก็ได้ค่ะ ออกมา

     

    แม่ขอร้องนะลูก   มือหยาบๆของแม่เลื่อนลงมาแตะเบาๆที่น่องขาเปลือยเปล่าของลูก   และความเย็นหยดเล็กๆก็หยดงบนหน้าตักของลูก   ฬันดารู้ว่าแม่ของหล่อนกำลังร้องไห้   แต่หล่อนไม่สามารถกลั้นใจแบกรับหน้าที่ภาระอันหนักอึ้งนี้ได้

     

    แม่คะ...   เขาจะทำร้ายเราทั้งตระกูลเลยใช่มั้ยคะ   หล่อนเอ่ยถามถึงคนใจร้ายคนนั้น   คนแรกก็ฬุนดา   คนต่อมาคือแม่ของหล่อน   และคนสุดท้ายก็คือหล่อนเอง   แล้วพี่ฬุดาล่ะ?   คนที่ทำเขาเจ็บคนนั้นล่ะ   เขาจะทำอย่าไรกับเธอ   ในมื่อขนาดคนที่ไม่เกี่ยวข้องเขายังลากให้เข้ามาสู่ห่วงวิบากกรรมนี้   แล้วพี่สาวของหล่อนจะได้รับโทษหนักถึงเจียนตายหรือไม่

     

    แม่ตอบไม่ได้   แต่เราเป็นหนี้เขา...ทั้งหนี้เงินและหนี้ความรู้สึก   แม่รู้สึกสงสารเขาเหลือเกินที่ถูกพี่ฬุทำราวกับเป็นเครื่องแก่เบื่อ   อย่างน้อยเขาก็ช่วยชีวิตฬุนดาเอาไว้   ไม่ให้ถูกพวกที่บ่อนฆ่าตายนะลูก   เขาคงจะเป็นเทวดาในสายตาของนางรัตนา   ฬันดาหันมามองมารดาด้วยแววตาสิ้นไหว   อัญมณีดวงน้อยสะท้อนประกายของหยาดน้ำตา   หล่อนจะทำอย่างไรดี...จะปล่อยให้แม่ต้องทุกข์ระทมอยู่อย่างนี้หรือ

     

    แม่ขา...   ฬันดาเอ่ยเรียกมารดา   หล่อนหลับตาแน่นและร้องไห้ราวกับเด็ก

     

    หนูช่วยแม่ได้ใช่มั้ยคะ   หัวใจของหล่อนแตกสลาย   ฬันดาไม่รู้ว่าทำไมหล่อนถึงไม่พยายามดื้อดึงจนถึงที่สุด   เพียงแค่เห็นน้ำตาของมารดาหล่อนก็หยุดหายใจไปแล้วชั่วขณะหนึ่ง   หล่อนปล่อยโฮที่กลั้นไว้แสนนาน   เสียงร้องไห้ของหล่อนดังก้องไปทั่วบ้าน   ก้องกังวานไปทั่วจิตใจของมารดา

     

    ใช่จ้ะ   หนูจะช่วยพวกเราทุกคน   นางรัตนากล่าว   เจ็บช้ำเพียงใดที่ต้องประเคนลูกสาวให้คนที่ไม่น่าไว้ใจแบบนั้น   นางกอดร่างสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นของลูกสาวเอาไว้   ฬันดาไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะถามถึงสาเหตุที่เขาคนนั้นต้องการหล่อนเป็นภรรยา   หล่อนจะถาม...   ถามหลังจากที่ได้ร้องไห้ในอ้อมอกของมารดาจนหนำใจ

     

     

    เช้าวันใหม่มาเยือนแล้ว...

     

    แต่ฬันดายังคงหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน...

     

    หล่อนพาร่างและจิตใจที่บอบช้ำจากการยอมเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตมาที่สนามหญ้าหน้าบ้าน   เมื่อคืนหล่อนนอนกับแม่   และหล่อนร้องไห้ในอกแม่จนเกือบรุ่ง   ตื่นเช้ามาแล้วแม่ของหล่อนก็ทำข้าวต้มหอมกรุ่นไว้รอ   ยิ้มกับหล่อนอย่างละไมและไม่เอ่ยพูดถึงเหตุการณ์เมื่อวานอีก   แต่เมื่อหล่อนรู้ตัวว่าไม่สามารถทานอาหารเช้าได้   เพราะมีคำถามที่อยากรู้มากกว่านั้นคาติดแน่นอยู่ในอก

     

    เขาจะแต่งงานกับหนูทำไม   ถ้าเขาอยากแก้แคนพี่ฬุทำไมไม่เลือกพี่ฬุ   ทำไมถึงเป็นหนู

     

    ไม่รู้สิ   เขาคงอยากจะทำให้ฬุมีความรู้สึกผิดล่ะมั้งที่ทำให้ครอบครัวต้องพินาศ

     

    งั้นหรอกเหรอ...   งั้นความประเสริฐของเขาที่แม่บอกออกมาสั้นๆเมื่อวานก็คงจะมีน้ำหนักน้อยกว่าความน่าชังของเขาสินะ   ฬันดาแอบคิด

     

    ...ตอนนี้ฬันดารู้สึกปลอดภัย   หล่อนได้อยู่ในบ้านที่หล่อนอยู่มาค่อนชีวิต   อยู่กับแม่ที่แสนปราณี...   หล่อนไม่อยากจะจากไป   อยากจะห่อหุ้มตัวด้วยไออุ่นแห่งความปลอดภัยนี้   ไม่อยากจะจากอ้อมกอดอบอุ่นของแม่ไปหาความโหดร้ายที่รออยู่เบื้องหน้า   หล่อนอยากจะบอกแม่ว่าหล่อนขอยกเลิกเรื่องการแต่งงานนั่น   แต่เมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่ชุ่มชื้นด้วยหยาดน้ำตา   คำปฏิเสธที่หล่อนอยากจะเอ่ยก็ผลุบหายลงไปในลำคอ

     

    น้ำค้างยามเช้ายังไม่ระเหยออไปจากยอดหญ้า   หญิงสาวก้มหน้าและปล่อยเท้าให้เดินย่ำไปบนพื้นหญ้าแฉะๆเรื่อยๆ   ไม่รู้ว่าจะได้เดินดูยอดหญ้าแบบนี้อีกรึเปล่า   บ้านของเขาคนนั้นที่ชื่อดลชามีหญ้าสวยๆสีเขียวสดแบบนี้รึเปล่านะ   แล้วหล่อนต้องจากบ้านอันแสนอบอุ่นนี้ไปด้วยหรือ?

     

    หล่อนเดินไปเรื่อยๆ   ก้มหน้าและยิ้มให้กับยอดหญ้าที่เปล่งประกายสะท้อนแสงของน้ำค้าง   แต่หล่อนต้องหยุดเดินเมื่อจู่ๆศีรษะของหล่อนก็ชนเข้ากับสิ่งหนักๆสิ่งหนึ่ง   ในตอนแรกที่หล่อนยังไม่เงยหน้าขึ้น...หล่อนคิดว่าตัวเองเดินเพลินจนมาถึงกำแพงบ้าน   แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น   ฬันดาอุทานออกมาอย่างตกใจ

     

    ว้าย!”  หล่อนร้องแล้วรีบก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว   มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาปิดปาก

     

    ใครกันน่ะ...   นั่นคือคำถามในใจของฬันดา

     

    เมื่อหล่อนเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าบึ้งตึงดูร้ายกาจ   ทั้งที่เขาหล่อมากเหลือเกินแต่แววตาเย็นชานั่นมันบั่นทอนความหล่อของเขาให้ลดลงไปมาก   ร่างสูงโปร่งยืนนิ่ง   ฬันดาเริ่มคิดว่าสิ่งที่ศีรษะของหล่อนปะทะเมื่อกี้คือแผ่นอกกว้างขวางของเขานั้นเอง

     

    มีตารึเปล่า   เสียงทุ้มต่ำไม่น่าเกลียดเอ่ยขึ้น   แววตาเย็นชานั่นมองฬันดาอย่างเหยียดหยาม

     

    แต่...  แต่คุณเดินเข้ามาในบ้านของฉันเองนะ!!!   แล้วคุณก็เป็นคนแปลกหน้าด้วย   หล่อนยังไม่ทิ้งนิสัยขี้เถียงแบบเด็กๆ   รู้สึกเกลียดเขาจับใจเมื่อสายตาของเขาสำรวจหล่อนตั้งแต่ปลายเท้ายันปลายผม   พลางขมุบขมิบปากเหมือนก่นด่าหล่อน

     

    ………………………………………………..

     

     

    ดลชามองหล่อนคนนั้นคั้งแต่ปลายนิ้วเท้าไล่ไปจนถึงปลายเส้นผม   จากนั้นเขาจึงตัดสินได้ว่าหล่อนคือผู้หญิงที่เรียกกันทั่วไปว่าสวย   ใบหน้าของหล่อนดูเป็นเด็กสาวแรกรุ่นที่สวยน่ารัก   แล้วหล่อนเป็นใครกัน   ทำไมถึงมายืนอยู่ในบ้านของฬุดา   ยืนอยู่ในบ้านลูกหนี้ของเขา!

     

    คุณเป็นใคร   ผมต่างหากต้องถามคุณ   คนร่างสูงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์   ดวงตากลมแป๋วที่มีสีน้ำตาลอ่อนๆปนอยู่จ้องมองเขาเหมือนอยากจะถาม

     

    ฉันเป็นคนที่อยู่บ้านนี้ไงล่ะ   ฉันเป็นเจ้าของบ้าน!”   ฬันดากระแทกเสียงใส่เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย   ใบหน้าสวยน่ารักเริ่มจะบูดบึ้ง   ผู้ชายไร้มารยาทคนนี้เป็นใครกัน   ถึงจะหล่อแต่ไร้มารยาทแบบนี้หล่อนก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาหรอก

     

    ดลชาอึ้งไป...

     

    หรือหล่อนคนสวยน่ารักคนนี้...   จะเป็นน้องสาวของฬุดา!   ใช่แน่ๆ   เพราะราวกับว่าคัดลอกความสวยกันมาเลยทีเดียว   เขาตกใจอยู่ครู่หนึ่ง...   หล่อนคนนี้คือคนที่จะเป็นภรรยาของเขาในอนาคตอย่างนั้นหรือ   เป็นเมียใช้หนี้ที่เขาขูดรีดเอามาจากคุณนายรัตนา!

     

    คุณเป็นน้องสาวของฬุดาใช่มั้ย   ใจครึ่งหนึ่งเชื่อไปแล้วว่าหล่อนคือน้องสาวแท้ๆของฬุดา   คนสวยใจดำที่ทำให้เขาชอกช้ำแทบตาย   เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีความสะใจเล็กน้อยเกิดขึ้น   ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้อีกหน่อยก็ตะต้องรับกรรมที่พี่สาวก่อไว้!

     

    ใช่!   แล้วทำไมคุณรู้จักพี่ฬุ   เอ๊ะ...   จากสีหน้าในตอนแรกที่มีการวางท่านิดๆ   เพียงครู่หนึ่งหล่อนก็ทำท่าชบคิดบนใบหน้า   มือเรียวค่อยๆถูกยกขึ้นมาปิดปาก   เป็นการแสดงออกว่าหล่อนกำลังปะติดปะต่อเรื่องราวได้   เขาคนนี้รู้จักพี่สาวของเธอ   และเขาก็เป็นคนแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในบ้านของเธอได้โดยไม่รอให้เจ้าของบ้านมาเชื้อเชิญโดยไม่กระดากสักนิด   เขาคงจะสำคัญตนว่าบ้านหลังนี้...เป็นบ้านของลูกหนี้ที่เขาไม่จำเป็นต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยด้วย!

     

    ดลชา!!!”   หล่อนโพล่งออกมาโดยลืมใช้สรรพนามนำหน้า   แวบหนึ่งบนใบหน้าของเขามีความขุ่นเคือง   แต่ความขุ่นเคืองนั้นถูกกลบหายไปเพราะมีความเย่อยิ่งที่มากับรอยยิ้มโอหังฉาบอยู่บนใบหน้า

     

    กรุณาเรียกผมด้วยถ้อยคำที่สุภาพด้วยถ้าคุณยังพอมีมารยาทอยู่บ้าง   เขายิ้มอย่างทะนงตน   จ้องมองใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาวอย่างพอใจ   ใบหน้าสวยๆนั่นพอมีความตกใจแสดงอยู่ดูแล้วก็ยิ่งสวย

     

    ฬันดานึกคถามไม่ออก   เธอไม่รู้ว่าจะถามคำถามใดก่อนเพราะคำถามในใจของหล่อนนั้นมีร้อยแปด   ถ้าไม่ถือว่าเขาอาจจะใช้อำนาจของเจ้าหนี้มารังแกลูหนี้ล่ะก็เธออาจจะกระโจนเข้าทำร้ายร่างกายเขาให้สาสมกับที่แม่ของเธอต้องหลั่งน้ำตา   และหคุ้มค่าที่ทำให้ครอบครัวหล่อนพินาศ!

     

    ไม่เป็นไรหรอกคุณฬันดา   เขายิ้มกริ่มเหมือนมีแผน   ชายหนุ่มร่างสูงขยับเข้ามาใกล้หญิงสาว   เขาก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าคมงามได้อยู่ตำแหน่งเดียวกับใบหูขาวๆของฬันดา

     

    ไว้หลังจากที่คุณได้เป็นเมียผมแล้ว...   ผมจะสอนมารยาททุกอย่างให้คุณเอง   เขากล่าวถ้อยคำสามแง่สองงามและแกล้งฬันดาด้วยการเป่าลมหายใจอุ่นๆรวยรินรดที่ต้นคอ   หญิงสาวรีบเขยิบหนีและยกมือขึ้นปิดต้นคออย่างตกใจ   หน้าแดงแป๊ด   จนคนสูงยิ้มให้กับท่าทางเขินอายระคนโกรธเคืองของหล่อน

     

    รู้สึกว่าการพบกันครั้งแรกของเขาก็ไม่ค่อยน่าประทับใจเสียแล้ว   แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถสร้างความประทับใจให้คุณได้หลังจากคืนแต่งงานคืนแรกแน่นอน   เขากล่าวสองแง่สามง่ามเป็นครั้งที่สอง   เขาหัวเราะครึกครื้นแต่ไว้ตัวแล้วเดินผ่านฬันดาไป   หล่อนมองตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ที่หายลับเข้าไปในบ้านของหล่อนเองอย่างขุ่นเคือง

     

    โอ...   เขาไม่ใช่แค่เป็นคนไร้ความเมตตาและเจ้าคิดเจ้าแค้น   แต่เขายังเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าไร้มารยาทและหยาบโลนที่สุดอีกด้วย!   ฬันดาอยากจะหายตัวไปเสียเดี๋ยวนั้นเมื่อหล่อนคิดว่าตัวเองต้องนอนให้เขาเป่าลมหายใจรดต้นคอแบบนี้ทุกคืน!





    Snowwrite   Talk

    สวัสดีค่ะ   Snowwrite   ค่ะ

    เหตุที่ใช้ชื่อว่า   Snowwrite   เพราะในชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะเป็นนักข่าว   เปลี่ยนไปเลยเมื่อได้พบเจอองค์หญิงแสนสวยคนนี้

    ในตอนนั้น   Snowwrite   คิดว่าใครกันนะที่สร้างผู้หญิงแสนสวยคนนี้ขึ้นมาได้   ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนบทเรื่อง   Snowwhite   แต่ที่รู้ก็คือเขาคนนั้นช่างมีจินตนาการที่แสนงดงาม   สามารถร้อยกรองผ่านตัวหนังสือ   โลดแล่นสู่จอภาพ   ทำให้เด็กคนหนึ่งได้พบเจ้าหญิงคนนั้น

    จากนั้น...   ความฝันที่อยากจะสร้างความประทับใจและเรื่องราวแสนสนุกผ่านตัวหนังสือจึงเกิดขึ้นภายในใจนับแต่นั้นเป็นต้นมา

    ...โตขึ้นจึงได้รู้ว่า   เราไม่ชอบนิยายแบบประเภทพระเอกแสนดีและนางเอกยอดประเสริฐ   แนวที่เราชอบคือแนวที่พระเอกแข็งแกร่ง   จนกระด้าง   และผู้หญิงเย่อหยิ่งทะนงตน   ทั้งสองเป็นคนไม่ยอมใคร   หรือที่เรียกแนวชาวบ้ายว่า 'ตบจูบ'

    ผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องที่คิดว่าถ่ายทอดความชอบของตัวเองออกมาได้ดีที่สุด   อยากให้ทุกคนได้สนุกไปกับเรื่องราวที่ข้าพเจ้าแต่งขึ้น  

    ไม่หวังจะได้ตีพิมพ์   สิ่งที่หวังมากที่สุดในชีวิตนี้คือมีคนชอบนิยายเรื่องนี้

    ฝากด้วยค่ะ...

    รักชีวิตที่สนุกกับงาน   และรักมิตรทุกคนที่ได้จากการทำงาน
    รักทุกคนที่อ่านผลงาน

    Snowwrite...   กานต์พิมพลอย   ในอนาคต



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×