ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประเพณีสยองขวัญ

    ลำดับตอนที่ #2 : ทีละคน....

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 50


    “ เฮ้ย !!! ”
    จู่ๆประตูก็ปิดดังปัง ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกแล้วจ้องไปที่ประตูโดยอัตโนมัติ ทับทิมกระโดดมากอดคอฉัน -_-;; ส่วนบอลกอดกับแทน -_-“ ก่อนจะมองหน้ากันแล้วต่างคนต่างรีบปล่อยพลางหัวเราะแหะๆ
    “ แปลกนะ คราวนี้กระดิ่ไม่วิ่งหนีเลยนะ ปกติเธอจะวิ่งนำแล้วนี่  ”
    ฉันรู้ว่านายพูดแก้เขินนะ บอล แต่ทำไมต้องพูดถึงฉันด้วยฮะ =_=
    “ ฉันก็อยากจะวิ่งเหมือนกัน แต่ดันมีคนมาล็อกคอไว้ จะวิ่งหนีก็วิ่งไม่ได้ ทับทิม -_-^
    เลิกล็อกคอฉันซะ ฉันหายใจไม่ออก ”
    ทับทิมยิ้มแหยๆ แล้วเปลี่ยนมาจับมือฉันแทน เจ๋ง -_- เวลาวิ่งฉันต้องลากยัยนี่ด้วยใช่ไหม
    “ อะ...เอาเถอะ-O-!! แค่ลมพัดประตูเท่านั้นแหละ เรารีบไปกันเถอะที่สวนร้างนั่น ”
    ต้นพูดอย่างกล้าๆกลัว มันยังอยากไปอยู่อีกเหรอเนี่ย คนอื่นๆเหมือนอยู่ในสภาพปกติกันหมดแล้ว  แล้วทำไมมีแต่ฉันคนเดียวที่กลัวขึ้นมาดื้อๆT_T

    ในเวลา 2 ทุ่มมันเป็นเวลาที่คนส่วนใหญ่อยู่บ้านดูทีวีกันแล้ว แล้วทำไมเรา 8 คนต้องมาพิสูจน์อะไรอย่างนี้ด้วย T_T
    “ ว้าว ~ O_O สวนร้างจริงๆด้วย ทำไมถึงร้างล่ะ ”
    “ ไม่รู้เหมือนกัน -_- แต่มีคนบอกว่าตรงนี้มันอาถรรพ์น่ะ ”
    บอลเช็กกระบอกไฟฉายทุกกระบอกแล้วส่งกระบอกไฟฉายให้ทุกคน ท่าทางเขาจะยังเห็นคนอื่นสงสัยกันอยู่จึงอธิบายต่อ
    “ เคยมีคนตายที่นี่ด้วยน่ะ -_- เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ”
    “ ตายเพราะอะไรเหรอ O_O ”
    “ เพราะกินทุเรียนในสวนแล้วจุกคอตายไง...พร้อมยัง? ไปกันเถอะ ”
    เสียงเปิดประตูรั้วดังเอี๊ยดช้าๆราวกับเชื้อเชิญให้เดินเข้าไปข้างใน ฉันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ถึงแม้ว่าต้นไม้ในสวนจะยังคงมีใบเต็มต้น แต่ก็ให้ความน่าสยดสยองอย่างบอกไม่ถูก
    “ เดี๋ยวฉันกับต้นไปกันก่อนก็ได้ ^^a ท่าทางพวกเธอยังไม่อยากเข้า อีก 10 นาทีเดี๋ยวฉันเดินมาหาแล้วไปพร้อมกัน ”
    ต้นกับบอลเสนอ และแน่นอน -.,- ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน เจ้าสองคนนั้นเดินไปยิ้มไปแบบไม่ยี่หระ พวกเราที่เหลือนั่งรอกันข้างหน้า
                             ผ่านไป 20 นาที
    “ ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ -_-;; ”
    ฉันบ่น บ้าชะมัดไปนานมากเสียจนเราเริ่มกังวลและเป็นห่วง
    “ เราเข้าไปดูกันเหอะ เป็นห่วง ”
    “ เดี๋ยวก่อนหลิว ซายน์ว่าแยกกันไปดีกว่า -_- แบบนั้นจะได้หาไวขึ้น ”
    “ อือ งั้นเราแยกกันหานะ !! ”
    ซายน์ไปกับหลิว ฉันไปกับทับทิม แทนไปกับหมง เรา 3 คู่จะแยกกันเดินไปคนละทาง ฉันนึกอะบางอย่างออกพอดีจึงหยิบของบางอย่างขึ้นมา
    “ อ่ะ ! ประทัดคนละ 2 อัน กับไฟแช็ค ”
    “ เกิดนึกคึกอะไรถึงเกิดอยากเล่นประทัด ! ”
    “ ฉันรู้ว่าเธอโง่นะ แทน แต่ไม่คิดว่าจะโง่ขนาดนี้ -_-^ เวลาเกิดอะไรขึ้นก็จุดประทัดขึ้นฟ้านะ เดี๋ยวพวกที่เหลือจะวิ่งไปหาเอง ”
    “ อ๋อ...ขอบใจมากนะ กระดิ่ง ”
    ฉันลอบยิ้มเมื่อเห็นทุกคนรับของไปจากมือ ทุกๆครั้งที่มีประเพณีนี้ฉันก็เตรียมมาทุกครั้งแหละ
    -..- เวลาเกิดอะไรจะได้มีคนช่วย พอทุกคนรับไปหมดแล้ว เราก็แยกย้ายกันเดินหาโดยตกลงว่าถ้าใครเจอบอลกับต้นเมื่อไหร่ให้ยิงประทัดขึ้นท้องฟ้า แค่ดอกเดียว ฉันหวังว่า...เราคงจะกลับมากันทุกคน
              ( ซายน์ )
    ซายน์กับหลิว 2 สาวที่แตกต่างกันสุดขั้ว เดินไปมาพลางพูดเบาๆตลอดเวลาเพื่อหวังให้มีเสียงเป็นเพื่อน แต่ก็ช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน
    “ อุ๊ย!! ดูนั่นสิหลิว O_O หิ่งห้อยมีเป็นฝูงเลย ”
    “ จริงด้วย ! ลองไปดูใกล้ๆไหม? ”
    ในสถานการณ์แบบนี้การที่เจอสิ่งที่สวยงามเหมือนกับเจอของขวัยที่ล้ำค่า ซายนืมัวแต่สนใจหิ่งห้อยจนไม่ได้สังเกตเลยว่า
                                  เพื่อนของเธอหายไปแล้ว.....
    ซายน์วิ่งตามฝูงหิ่งห้อยจนทัน เธอมองหิ่งห้อยด้วยใบหน้าทีแสดงถึงความสุขก่อนจะเหลียวหลังไปเรียกเพื่อนรัก  แต่....หลิวหายไป ซายน์ใจหายวาบ เธอเพียรตะโกนเรียกหลิว ทว่าสิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบที่น่าขนลุก ซายน์รนรานคว้าประทัดออกมาจุดหวังว่าทุกคนจะมาไวไว
    คนแรกที่โผล่มาคือกระดิ่งที่วิ่งมาหาซายน์แล้วคอยปลอบซายน์ที่ร้องไห้ระหว่างเล่าให้เพื่อนฟัง
                     ( กระดิ่ง )
    นี่มันอะไรกัน  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเพื่อนของเราหายไปทีบะคน สองคน ซายน์เลิกร้องไห้แล้วใบหน้าของเธอที่เคยผิวขาวอมชมพูมาบัดนี้แดงไปหมดจากการร้องไห้ ทับทิมยื่นน้ำให้ซายน์ล้างหน้า แล้วเราสี่คนที่เหลือก็มาคุยอย่างเคร่งเครียด
    “ จะเอายังไงดี เพื่อนของเราหายไปทีละคน สองคนแล้วนะ ”
    “ฉันไม่รู้เหมือนกัน หมง-_- ขอฉันพักหัวหน่อย ”
    ทับทิมตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนแล้วพิงกับพุ่มไม้หนา ฉันมองเธอแบบเห็นใจก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างข้างหลังทับทิม
    “ อะไรเหรอ =_= ”
    “ แปบนะ ”
    ฉันฉวยสิ่งนั้นขึ้นมาพินิจก่อนจะตาค้าง
                    มันคือเศษผ้า.....
    “ นี่มัน....ลายเดียวกับเสื้อของต้นเลยนี่ ! ”
    “ อะไรนะ O_O ”
    ทุกคนเงียบกันหมด มีแต่แทนที่ยังมีวีหน้าไม่เปลี่ยน เขามองไปที่ซายน์ด้วยสายตาเย็นชา
    “ เลิกเล่นได้แล้ว ซายน์ -_-^ ”
    “ เล่น?ซายน์เล่นอะไร ”
    “ อย่ามาโกหกหน่อยเลยน่า !! นี่มันเป็นแผนของเธอใช่ไหม?!! เพราะมันเหมือนกับเรื่องที่เธอเล่าไม่มีผิด!!! ”
    “ ซายน์เปล่า... ”
    “ เฮอะ โกหกทั้งนั้น -_-^ ฉันเห็นนะว่าบอลกับต้นซุบซิบอะไรกันบ่อยๆ เธอคงนัดแนะให้แสดงละครให้เหมือนกับเรื่องที่เธอเล่าล่ะสิ ส่วนหลิว...เธอสองคนก็สนิทกันคงรวมหัวกันวางแผน ”
    “ ฉันเปล่านะ >O< ”
    ซายน์ตะโกนกลับ แทนชะงัก ตอนนี้สีหน้าของซายน์ดูโกรธมาก เห็นได้ชัดจากหน้าตากับคำพูดที่เธอแทนตัวว่าฉัน ทั้งที่เธอไม่เคยแทนตัวเองแบบนั้น ใบหน้าของซายน์ขาวเผือดกว่าปกติ
    “ ฉันไม่ได้วางแผนอะไรนะ >_< เรื่องของบอลกับต้น 2 คนนั้นคงวางแผนกันเอง ส่วนหลิวหายไปไหนฉันก็เป็นห่วงเหมือนกัน! แล้วเรื่องผีที่ฉันเล่าไปน่ะ ....เรื่องจริง ”
    “ ว่าไงนะO_O!! ก็ๆเด็กคนสุดท้ายก็ตายไปเหมือนกันนี่ แล้วมันจะมีคนรู้มาพูดได้ไง ”
    “ ใครบอก-_- เด็กคนสุดท้ายยังไม่ตายนะ หลังจากนั้น 3 วันก็มีตำรวจมาพบเด็กคนนี้ ด้วยความที่เธอกลัวมาก จึงทำให้ผมของเธอขาวโพลนไปหมด ”
    “ ผะ...ผมขาวโพลนเหรอ... ”
               เสียงของฉันสั่นเล็กน้อย บ้าน่า เรื่องของพวกเราตอนนี้เหมือนกับเรื่องผีที่ซายน์เล่า
    ไม่มีผิด ไม่ว่าจะทั้งคนที่ค่อยๆหายไป ทีละคน สองคน ทั้งเศษผ้าของคนที่หายไป เป็นครั้งแรกจริงๆที่ฉันกลัวจับใจมากขนาดนี้ ฉันจับมือกับทับทิม มือของทับทิมเองก็เย็นเฉียบไม่แพ้กันราวกับจะตอกย้ำความกลัวให้มากขึ้น
    “ ใจเย็นๆกันก่อนนะครับ ผมว่าเรารีบตามหาทุกคนแล้วกลับไปพร้อมกันโอเคไหมครับ? ”
    ในเวลานี้คนที่ยังคุมสติได้มากที่สุดคือ หมง ผู้มีประสบการณ์ด้านนี้มากที่สุด
    “ เดี๋ยวกระดิ่ง  ซายน์ ทับทิมไปทางขวานะครับ ส่วนผมกับแทนจะไปอีกทาง แยกย้ายกันนะครับ ”
    “…. ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ยิงพลุขึ้นฟ้านะ ”
    “ ขอให้โชคดีนะทุกคน ”
             เมื่อพวกเราแยกกันไปคนละทาง ฉัน ทับทิม ซายน์เดินไปด้วยกันอย่างเงียบเชียบ ต้นไม้ที่สูงชะลูดบดบังท้องฟ้าจนเกือบมิด แถมเสียงนกที่ดังตอนนี้ทำให้บรรยากาศ...
    น่ากลัวเป็นบ้า  T_T
    “ เดี๋ยวๆ ได้ยินเสียงอะไรไหม -_=a ”
    จู่ๆทับทิมก็หยุดและทำท่าหยุดฟัง หันไปรอบๆตัว ยัยนี่ =_= มาพูดอย่างนี้ทำไมกลางสวนฟะ
    “ ซายน์ไม่เห็นได้ยินเลย-_-a หูแว่วไปรึเปล่า ”
    “ จริงๆนะ>_< ลองฟังดูสิ กระดิ่ง ได้ยินป่ะ ”
    “ แล้วเธอจะพูดมาทำซากไรฮะ -_-“ ฉันอยากเดินแบบเงียบๆเข้าใจ๋? ”
          ทับทิมทำหน้างอนใส่ฉัน ช่างมันสิ =_=;; เราเริ่มเดินกันต่อ สักพักก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้ดังแซ่กๆเรา 3 คนยืนมองตัวแข็ง  เสียงจากพุ่มไม้ดังขึ้นเรื่อยๆ หัวสมองของฉันมันสั่งให้วิ่งไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่ขาของฉันมันก็ขยับไม่ออก คาดว่าทับทิมกับหลิวก็เป็นเหมือนกันเพราะทั้งสองก็ยืนตัวแข็งเช่นเดียวกัน เสียงพุ่มไม้ดังขึ้นเรื่อยๆและ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×