ตอนที่ 2 : [OS] JUNHWAN : Oue Valentine
Title : Our Valentine
Paring : Koo Junhoe X Kim Jinhwan
Rate : R15
Genre : Romantic Drama
Note : เรื่องนี้รีไรท์มาจากเวอร์ชั่นของคู่บินกยุนวง JBJ นะคะ
1st Valentine…
ดูเหมือนว่าในบริเวณมหาลัยจะคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ นักศึกษาหลายๆคนต่างมีดอกกุหลาบและช็อคโกแลตอยู่ในมือ กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกกุหลาบลอยตลบอบอวนไปทั่ว คู่รักต่างเดินเคียงข้างกันพูดคุยกันอย่างมีความสุขจนทำให้เหล่าคนที่เป็นโสดต่างอิจฉาตาร้อนจนอยากจะวิ่งราวเอาช็อคโกแลตมากินเสียเอง แต่ตอนนี้เสียงพูดคุยและเสียงโห่แซวดังไปทั่วบริเวณโรงอาหารของคณะนิเทศศาสตร์เนื่องจาก กู จุนฮเว เดือนบริหารปีสาม กำลังถือช่อดอกกุหลาบสีแดงสดพร้อมกับเอ่ยปากขอเดือนนิเทศปีสี่อย่าง คิม จินฮวาน เป็นแฟน
“พี่จินฮวานเป็นแฟนกันนะครับ” เสียงทุ้มของจุนฮเวเอ่ยซ้ำอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้ายังยืนอ้ำอึ้ง ริมฝีปากสวยได้รูปกำลังเม้มเข้าหากันอย่างเขินอายก่อนที่ใบหน้าที่ได้รูปจะเงยขึ้นมาสบตาคนตัวสูงกว่าแล้วยิ้มกว้างออกมา
“อื้อ ตกลง” สิ้นเสียงตอบรับวงแขนแกร่งก็รวบตัวของจินฮวานเข้าไปกอดทันที เสียงโห่แซวดังขึ้นอีกรอบแต่ครั้งนี้มีเสียงปรบมือและถ้อยคำแสดงความยินดีตามมาด้วย จุนฮเวคลายอ้อมกอดก่อนจะยื่นช่อดอกกุหลาบให้แฟนหมาดๆของตัวเองรับเอาไว้
“ผมรักพี่นะครับ”
“พี่ก็รักเรานะ”
2nd Valentine…
ตอนนี้จินฮวานเรียนจบแล้วและทำอาชีพเป็นตากล้องฟรีแลนซ์ฝีมือดีที่ทุกคนล้วนต้องการตัว หลังจากทำงานเสร็จจินฮวานยืนฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะรอแฟนหนุ่มของตัวเองมารับไปทานอาหารเย็นด้วยกัน นี่ก็เข้าปีที่สองแล้วที่พวกเขาทั้งคู่คบด้วยกันมานึกย้อนไปถึงตอนที่โดนขอคบกลางโรงอาหารคณะเมื่อวันวาเลนไทน์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเขินออกมาน้อยๆ ระหว่างที่กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นรถยน์คันสีดำคุ้นตาก็เลื่อนมาจอดที่ด้านหน้าพร้อมกับกระจกเลื่อนลงจนเห็นหน้าของจุนฮเวที่กำลังยิ้มให้ตนเองอยู่
“มารับแล้วครับคุณแฟน” จินฮวานพาร่างของตนเองก้าวเข้าไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับอย่างคุ้นเคย ระหว่างที่กำลังคาดเบลล์อยู่นั้นจุนฮเวฉวยโอกาสยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มนิ่มของจินฮวานไปหนึ่งฟอดแบบเต็มๆ
“เด็กไม่ดี ชอบฉวยโอกาส” ถึงจะพูดบ่นคนชอบฉวยโอกาสแต่ปากก็ยกยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ หันไปมองจุนฮเวที่ตอนนี้กำลังยิ้มแป้นอย่างมีความสุขที่ขโมยหอมแก้มของตนเองมาได้ ไม่รอช้าจินฮวานยืดตัวไปขโมยหอมแก้มคืนจากอีกคนก่อนจะหัวเราะคิกคัก
“คิดว่าจะยอมหรอ เราทำได้พี่ก็ทำได้”
“ถ้าผมไม่ขับรถอยู่นะ จะเอาคืนให้แก้มช้ำเลยคอยดู” หลังจากที่ไปทานอาหารกันที่ร้านประจำแล้วจุนฮเวก็ขับรถมาส่งจินฮวานที่หน้าบ้านของอีกคน
“วันนี้ขอบคุณมากนะ” จินฮวานหันไปพูดขอบคุณก่อนจะกดจูบที่ริมฝีปากของคนตัวสูงเบาๆ แต่ไม่มีทางซะหรอกที่จุนฮเวจะปล่อยให้มันหยุดแค่นี้ มือหนาเลื่อนมาจับหน้าอีกคนให้เอียงรับจูบอันร้อนแรงของตนเองลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากของจินฮวานที่ยอมเปิดให้ได้เข้ามาอย่างรู้งาน ทั้งคู่ต่างโต้ตอบกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนจินฮวานเป็นฝ่ายยกมือขึ้นมาดันหน้าอกของอีกคนเบาๆเป็นเชิงบอกว่าไม่ไหวแล้ว ทั้งสองคนต่างไม่พูดอะไรทั้งรถเงียบจนได้ยินเสียงหอบหายใจและเป็นจินฮวานที่เอ่ยทำลายความเงียบลง
“คืนนี้...ค้างที่นี่มั้ย”
3rd Valentine…
วาเลนไทน์ปีนี้จินฮวานเลือกที่จะมาคอนโดของจุนฮเวเพราะไม่อยากออกไปไหน อยากจะนอนดูหนังและพูดคุยกันแบบธรรมดาไม่ต้องการอะไรเป็นพิเศษ โดยทั้งคู่เลือกที่จะดูหนังฟีลกู้ดอย่าง begin again หัวทุยๆของจินฮวานเอนมาพิงไหล่ของของอีกคนไว้ มือของทั้งสองคนสอดประสานกันไว้อย่างหลวมๆ เมื่อถึงฉากที่นางเอกจับได้ว่าแฟนของตัวเองมีคนอื่นนั้นซังกยุนก็พูดขึ้นมา
“ถ้าแอบไปมีกิ๊กนะพี่ตีจะเราให้ตายเลย” ซังกยุนพูดติดตลกแบบไม่ได้คิดอะไรมากเพราะยังไงก็เชื่อใจคนรักว่ายังไงอีกคนก็ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่
“ผมไม่มีวันทำแบบนั้นหรอก ผมรักพี่ที่สุดเลย” จุนฮเวกระชับมือที่จับอีกคนอยู่ในแน่นขึ้นเพื่อบอกว่าเขาไม่มีทางปล่อยมือนี้ไปแน่นอน
“พี่จินฮวานผมมีอะไรจะให้แหละ” กล่องเล็กสีขาวสะอาดตาถูกยื่นมาตรงหน้าของจินฮวานมือเรียวยื่นไปรับมาก่อนจะเปิดดู เมื่อเห็นว่าข้างในกล่องเป็นอะไรจินฮวานก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมา กุญแจที่เขาจำได้ขึ้นใจว่าเป็นกุญแจห้องของจุนฮเว
“นี่มัน...”
“ย้ายมาอยู่ด้วยกันนะพี่”
4th Valentine…
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารหลายอย่างซึ่งทุกอย่างนั้นล้วนเป็นของโปรดของจุนฮเวทั้งนั้น จินฮวานถอดผ้ากันเปื้อนออกพร้อมกับมองผลงานบนโต๊ะอย่างภูมิใจริมฝีปากยกยิ้มขึ้นน้อยๆ
ใช่แล้ว...วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์และเป็นวันครบรอบสี่ปีของพวกเขา
มือเรียวหยิบเอาสมาร์ทโฟนขึ้นมาก่อนจะกดเข้าโปรแกรมแชทสีเหลืองเพื่อส่งข้อความหาอีกคน
Jinhwan
วันนี้จะกลับกี่โมงหรอ
JUN
งานยุ่ง คงกลับดึก
Jinhwan
อ่า อย่าหักโหมมากนะ
พี่เป็นห่วง
JUN
-READ-
ริมฝีปากที่ตอนแรกยิ้มอยู่ตอนนี้กลับหุบยิ้มลงทีละน้อยความน้อยใจค่อยตีตื้นขึ้นมาจนกลายเป็นหยดน้ำตาที่กำลังคลออยู่ตรงดวงตาสวยของจินฮวาน ไม่เป็นไร เขาเข้าใจว่าโปรเจคนี้สำคาญกับจุนฮเวมากขนาดไหน ช่วงนี้อีกคนแทบไม่มีเวลาว่างเลยทำงานจนดึก ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันแต่แทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำพอคุยกันทีไรก็ต้องจบลงด้วยการทะเลาะกันทุกทีเพราะเครียดกับโปรเจคงานทำให้จุนฮเวอารมณ์ไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ ไม่เป็นไร...เขาเข้าใจ จินฮวานได้แต่บอกประโยคเหล่านี้กับตัวเองวนซ้ำไปซ้ำมา
ติ๊ด .. แกร๊ก
เสียงประตูดังขึ้นปลุกจินฮวานที่เผลอฟุบหลับไปกับโต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ให้ตื่นขึ้น ร่างเล็กรีบวิ่งไปล้างหน้าล้างตาเพื่อที่จะไม่ให้อีกคนสักเกตุเห็นตัวเองนั้นร้องไห้ เมื่อเช็คความเรียบร้อยแล้วก็เดินออกไปหาที่อีกคนที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ที่หน้าประตู
“ยินดีต้อนรับกลับ”
“ทำไมยังไม่นอน” ทั้งสองคนเอ่ยออกมาพร้อมกันและเป็นซังกยุนที่เอ่ยตอบคำถาม
“เอ่อคือพี่ได้ยินเสียงประตูเลยน่ะเลยออกมารับ”
“บอกแล้วไงว่ากลับดึกพี่จะรอทำไม” จุนฮเวพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดอย่างไม่ปิดบัง จินฮวานชะงักไปนิดเมื่อตัวเองเผลอทำให้คนรักหงุดหงิดอีกแล้ว
“ขอโทษ คะ คือพี่เผลอหลับที่ห้องนั่งเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้” จินฮวานพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักเพราะพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ร้องไห้ทำไมพี่อย่ามางี่เง่า ผมเหนื่อยงานมาก็พอแล้วทำไมต้องมาทำให้เหนื่อยเรื่องพี่อีกด้วยวะ” จุนฮเวพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนไปทันทีทิ้งจินฮวานไว้ให้ยืนร้องไห้เงียบๆอยู่ตรงนั้น...
Last Valentine…
จินฮวานหันไปมองรอบๆห้องที่เขาอาศัยอยู่กับคนรักมาตลอดสองปีกว่าก่อนจะยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สวยงามแต่ก็เศร้าในเวลาเดียว กวาดสายตามองไปรอบๆห้องซึมซับความทรงจำดีๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเดียวกันกับวันที่ย้ายเข้ามาอยู่
เวลาทุ่มกว่าๆร่างสูงของจุนฮเวเดินมาตามทางเดินของคอนโดที่ตัวเองอาศัยอยู่กับใครอีกคน วันนี้เขาเคลียร์งานทั้งหมดเสร็จเร็วเลยได้กลับมาพักผ่อนเร็วกว่าปกติ แขนยาวเปิดประตูเข้าห้องไปแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบแต่ความมืด กดเปิดสวิตซ์ไฟก่อนจะมองรอบๆเพื่อนหาอีกคนแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า
“พี่จินฮวาน” จุนฮเวเอ่ยเรียกพร้อมกับเดินตรงไปยังห้องนอนเพื่อดูว่าอีกคนเผลองีบหลับอยู่รึเปล่าแต่ยังไม่เจอตัวอีกคน ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อดูว่าอีกคนทำอาหารอะไรไว้ให้แต่ก็พบเพียงกระดาษแผ่นหนึ่งกับดอกไฮเดรนเยียวางไว้หนึ่งดอก หัวใจกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงในใจกำลังภาวนาว่าขอให้เป็นเพียงกระดาษโน็ตเขียนบอกเอาไว้ว่าจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวก็กลับมาเหมือนอย่างทุกครั้ง มือหนาค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน หัวใจของจุนฮเวกระตุกอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นข้อความสั้นๆที่เขียนด้วยลายมือของจินฮวาน...คนที่เขารักสุดหัวใจ
Thank you for everything
Take care yourself
Love you and Goodbye
ร่างสูงของจุนฮเววิ่งออกจากไปจากห้องทันทีมือนึงกำกระดาษโน็ตแผ่นนั้นไว้แน่น แน่นซะจนเล็บจิกเข้าเนื้อแต่มันก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อยถ้าเทียบกับความเจ็บปวดภายในใจตอนนี้ อีกมือพยายามกดโทรหาอีกคนแต่ก็ได้ยินเพียงเสียงตอบรับอัตโนมัติ เขาออกวิ่งตามอีกคนอย่างกับคนบ้าในใจได้แต่ขอร้องต่อทุกสิ่งขอให้เจอร่างเล็กที่คุ้นตา ร่างเล็กที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอดห้าปี ร่างเล็กที่เขาละเลยไม่ใส่ใจมาตลอดสองปีกว่าที่อยู่ด้วยกันมา แต่สุดท้ายก็พบแต่ความจริงที่ว่าจินฮวานนั้นได้จากเขาไปแล้ว...
จุนฮเวพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองกลับขึ้นมาบนห้องก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นดอกไฮเดรนเยียที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ ฝ่ามืออันสั่นเทาหยิบดอกไม้ขึ้นมาอย่าทะนุถนอมแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ริมฝีปากหนาของจุนฮเวที่จินฮวานชอบบอกว่าเหมือนเยลลี่กำลังขบเม้มเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ดังออกมาแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว เขาปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร้องไห้ให้กับความโง่ของตัวเองที่ทำให้ตัวเองต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไป ยิ่งเห็นดอกไม้ที่อีกคนทิ้งไว้ให้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ
ดอกไฮเดรนเยียนั้นหมายถึง ดอกไม้แห่งหัวใจที่ด้านชา
แต่ก็มีอีกความหมายนึงก็คือ คำขอบคุณ
การที่จินฮวานทิ้งดอกไม้นี้ไว้ให้คงจะตัดพ้อและขอบคุณในเวลาเดียวกัน
หลังจากที่ไห้มาอย่างหนักร่างสูงก็พาตัวเองเดินเข้าไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตายืนมองดูแก้วที่ใส่แปรงสีฟันของทั้งคู่ไว้แต่ตอนนี้เหลือเพียงของเขาเพียงแค่ด้ามเดียว กระดาษโน็ตแผ่นเล็กสีสดใสมีลายมือที่คุ้นตาเขียนแปะไว้ตรงกระจก
‘ ยาสีฟัน สบู่ ยาสระผม ถ้าหมดในตู้ตรงห้องครัวมีสำรองเอาไว้นะ ’
จุนฮเวเดินตรงไปยังห้องครัวก็พบกับกระดาษโน็ตอีกแผ่นหนึ่งที่แปะเอาไว้ตรงตู้เย็น
‘ ถ้าหิวก็เวฟกินเอานะ ’
เมื่อเปิดตู้เย็นออกดูก็พบกับอาหารที่เป็นของโปรดของตัวเองทั้งหมดถูกเก็บใส่ไว้ในกล่องอย่างดี ขายาวก้าวเดินต่อไปยังห้องนอนเปิดประตูเข้าไปก็เจอกันกระดาษอีกแผ่นที่แปะเอาไว้ตรงตู้เสื้อผ้าที่ตอนนี้เหลือเพียงแค่เสื้อผ้าเขาเขาเพียงคนเดียว
‘ อย่าลืมซักผ้านะ ถ้าไม่มีเวลาเอาไปให้ร้านซักรีดข้างใต้คอนโดก็ได้ ’
เมื่อหันหลังไปก็เจอกับกระดาษโน็ตอีกแผ่นที่แปะอยู่ตรงโคมไฟหัวเตียง
‘ อย่าเอาแต่ทำงาน พักผ่อนบ้าง เป็นห่วงนะ ’
และกระดาษโน็ตแผ่นสุดท้ายที่แปะไว้ตรงตุ๊กตาหมีที่วางอยู่บนเตียง
‘ ต้องยิ้มนะ ห้ามร้องไห้เข้าใจมั้ย นี่คือคำสั่ง ’
หลังจากอ่านกระดาษโน็ตแผ่นสุดท้ายจบจุนฮเวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาถึงแม้ว่าอีกคนจะไม่อยู่แล้วแต่ก็ยังเป็นห่วงเขาซึ้งเขาไม่สมควรได้รับมันจากจินฮวานซะด้วยซ้ำ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่ทำแบบนี้ แต่มันก็คงสายไปแล้ว มันไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้....
3 years later...
ประเทศอิลาตีคือประเทศที่จุนฮเวเคยให้สัญญากับจินฮวานว่าจะมาเที่ยวด้วย แต่ตอนนี้มีเพียงร่างสูงของจุนฮเวที่กำลังเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆตามถนนที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านนัก ถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกแกลลอรี่เสียมากกว่า ที่เขาเลือกมาเดินถนนเส้นนี้เพราะกำลังคิดถึงจินฮวานอย่างน้อยการที่ได้มาเดินในสภาพแวดล้อมแบบที่อีกคนชอบมันทำให้จุนฮเวรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่กับใครอีกคน ตอนนี้มันก็ผ่านมาสามปีแล้วแต่เขาไม่สามารถลืมจินฮวานได้เลย...ไม่เลยสักนิด เขายังคงรักจินฮวานอยู่และยังตามหาอีกคนอยู่ตลอด หลังจากวันนั้นเมื่อสามปีที่แล้วเขาก็พยายามติดต่อเพื่อนของจินฮวานเพื่อตามหาแต่ก็ถูกไล่ตะเพิดพร้อมกับถ้อยคำด่าทออีกมากมาย ตลอดสามปีมานี้เขาไม่เคยได้รับรู้ข่าวคราวของอีกคนเลยแม้แต่น้อย ในใจก็ยังคงภาวนาขอให้ได้เจอคนที่รักอีกครั้ง อยากจะเอ่ยขอโทษอีกคนคำที่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้พูดมันออกมา
“nella memoria…ในความทรงจำอย่างงั้นหรอ” ร่างสูงหยุดยืนอยู่หน้าแกลลอรี่แห่งหนึ่งและอ่านชื่อแกลลอรี่ที่เป็นภาษาอิตาลีซึ่งเขาพอรู้ภาอิตาลีอยู่บ้างเลยสามารถแปลออก เหมือนโดนอะไรบางอย่างดึงดูดให้ขาวยาวก้าวเข้าไปในแกลลอรี่จุนฮเวจัดการซื้อตั๋วเข้าชมก่อนจะเดินเข้าไปยังบริเวณที่จัดแสดงรูป ในแกลลอรี่มีคนเข้ามาชมอยู่ประมาณสิบกว่าคนรูปที่แสดงส่วนใหญ่จะเป็นพวกรูปวิวตามสถานที่ต่างๆและสิ่งของ จุนฮเวเดินดูภาพไปเรื่อยๆแต่ยิ่งพอยิ่งเดินเข้าไปลึกขึ้นเท่าไหร่ หัวใจเริ่มที่เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้เพราะสถานที่และสิ่งของในรูปที่จัดแสดงนั้นเขาจำได้ขึ้นใจ รูปของแก้วกาแฟสีดำและสีขาวสองใบที่เขาเป็นคนไปเลือกซื้อกับจินฮวานตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันใหม่ๆ รูปของกระถางต้นไม้ตรงริมระเบียงที่ตอนนี้เขาก็ยังคอยเฝ้าดูแลอยู่ทุกวัน รูปของหน้าต่างที่มีผ้าม่านลายคุ้นตา และ รูปสุดท้ายถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงเสี้ยวหน้า จุนฮเวก็รู้ว่าเป็นใบหน้าของตนเอง
จุนฮเวเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด หัวใจเต้นเร็วและแรงจนน่ากลัว ความรู้สึกทุกอย่างตีกันมั่วไปหมดเมื่อเห็นร่างคุ้นตาที่กำลังยืนห่างออกไปไม่ไกลนัก ขายาวค่อยๆก้าวช้าๆเข้าไปหาอีกคน รู้สึกว่าแต่ละก้าวนั้นมันช่างหนักเสียเหลือเกิน ดูเหมือนว่าอีกคนจะรู้ตัวแล้วเลยหันมามองร่างสูงที่ตอนนี้มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง
“พี่จินฮวาน”
“ไม่เจอกันนานเลยนะจุนฮเว” จินฮวานเอ่ยทักทายอีกคนด้วยรอยยิ้มกว้างแบบที่ชอบยิ้มให้จุนฮเว รอยยิ้มที่เฝ้าคิดถึงตามตลอดสามปี...
-END-
.
.
.
.
.
สวัสดีค่า อ่านแล้วคุ้นๆก็ไม่ต้องงงไปนะคะ ฟิคนี้เป็นฟิคแปลงมาจากอีกคู่นึงที่เราเคยแต่งไว้ค่ะแล้วก็เราเคยลงเวอร์ชั่นนี้ไว้ในอีกบทความนึงซึ่งตอนนี้เราได้ย้ายฟิคทั้งหมดของไอค่อนมาลงในบทความนี้เป็นหลักแล้วนะคะ อ่านแล้วชอบช่วยกดให้กำลังใจกับคอมเม้นให้ไรท์ด้วยน้าาาาา
#สนดiKON
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

3 ความคิดเห็น
-
#2 Paiz (จากตอนที่ 2)วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 / 23:15เป็นการบรรยายที่เจ็บปวดแต่งดงามมากๆค่ะไรท์ เราชอบมากๆอ่ะ //ไรท์อย่าลืมตรวจชื่อตัวละครนะคะเราเห็นว่ามีชื่อตัวละครเดิมติดมานิดนึง สู้ๆค่ะไรท์#20