ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักใสๆในโรงเรียนประจำ

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่5

    • อัปเดตล่าสุด 19 ม.ค. 50



    วันรุ่งขึ้น เมสถุนไปที่ห้องดนตรีชั้น
    3 ห้องที่ 2 ขวามือตามที่บอกไว้กับชาเย็น

    เขาบรรเลงเพลงสะกดใจคนด้วยคำอธิษฐานที่ว่า ... "ขอให้ชาทำตามสิ่งที่ใจเรียกร้อง"

    ดูเหมือนว่าพอเล่นเพลงให้ชาฟังจบหนึ่งรอบ ดูเหมือนมดจะขึ้นเต็มห้องดนตรี (=[]=')

    หลังจากการสวีทวี้ดวิ้วกับชาเย็น เขาก็เดินไปห้องสมุดเพื่อคืนหนังสือเพลงในตำนานนั่น ลงทะเบียนคืนหนังสือเรียบร้อย

    'หน้าที่ของข้าจบลงแล้ว...' หนังสือเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วหนังสือเล่มนั้นก็หายไปกับอากาศ...

    ---

    "นี่ไง วิธีเจอผอ."ห่านน้อยตะโกนลั่นห้องพักของตัวเองด้วยความดีใจ เธออ่านในหนังสือที่ขุดเจออย่างว่องไว

    "ยามที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์จักส่องลงมาจากฟากฟ้า กาลเวลาจักหยุดนิ่ง สายลมจักโผผิน แลผอ.จักปรากฏกายใต้ต้นสนใหญ่ของโรงเรียน"ห่านน้อยอ่านดังลั่น พลางเหลือบมองปฏิทินข้างตัว

    "วันนี้เป็นวันเพ็ญนี่หว่า สนใหญ่ของโรงเรียน+ผอ.จ๋า ห่านมาล้วงความลับแล้ว"ว่าแล้วห่านน้อยก็รีบวิ่งเพื่อที่จะไปให้ถึงสนใหญ่

    แต่ทว่า ยังไม่ทันจะพ้นหอพักของเธอ ประตูห้องของเธอก็ปิดกระแทกหน้าห่านเข้าอย่างจัง

    "ปัง!"ห่านน้อยเซล้มไป กับพื้น สายลมเย็นยะเยือกพัดแรงจนเสียวสันหลัง พลัน! ไฟในห้องก็ค่อยๆหรี่....และดับไปในที่สุด.........

    "เฮ้ย!!" ห่านที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นมองไปรอบกาย

    อุณหภูมิห้องที่ค่อนข้างร้อนอยู่แล้ว จู่ๆก็ต่ำลงอย่างไม่มีสาเหตุ

    "อย่าตามหาผอ.อีก" เสียงเนือยๆเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับการปรากฏตัวของร่างโปร่งใสซึ่งเงยหน้าจากหนังสือ "แกล้งคนอย่างไร ไม่เปลืองพลัง"

    แสงไฟก็ค่อยๆหรี่ขึ้นให้พอมองเห็นว่าร่างผู้มาเยือนนั้น นั่งขัดสมาธิอยู่บนอากาศ

    ห่านค้างด้วยความตกตะลึง...ผีที่เค้าลือกันปรากฏตัวให้เห็นแล้ว

    ข้อสรุปของเธอ ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

    ผีที่ให้เกรด0 ซึ่งนักเรียนหลายคนเกรงกลัวนั้น

    น่ารักกว่าที่เธอคิดไว้หลายขุมนัก!!

    "เยส!!"

    "หือ?" ดองซาโด๋ย เงยหน้าขึ้นมามองห่านน้อยนักเรียนสาว ผู้ท้าทายพลังอำนาจของผีเกรดศูนย์อย่างเขาอย่างงุนงง เด็กสาวยิ้มอย่างยินดีจนแก้มแทบปริ

    'การที่ผีเกรดศูนย์ปรากฏตัวต่อหน้าเรา แสดงว่าเราหาข้อมูลถูกต้อง!! ฮิฮิ ไม่เสียแรงที่อดทนหามานาน แถมโชคชั้นที่สอง ผีเกรดศูนย์ตนนี้ก็น่ารักน่าหยิกน่ากินขนาดนี้ ช่างเป็นโชคดีอะไรเช่นนี้'

    ห่านน้อยยิ้มพลางดิ้นไปดิ้นมาราวกับกุ้งเต้น ถูกน้ำมะนาวอย่างมีความสุข ใบหน้าใสขึ้นสีอย่างน่ารัก

    "เอ่อ..." ดองซาโด๋ย ผีเกรดศูนย์เอ่ยปากขัดการกระทำ 'อันแปลกประหลาด' ของเด็กสาว ก่อนจะมองเธอด้วยแววตาที่แฝงความไม่เข้าใจในความเหม่อลอย

    "ฉันเตือนเธอแล้วนะ..." ดองซาโด๋ยพูดด้วยเสียงเลื่อนลอย แล้วเอียงหัวไปด้านข้างไม่ตั้งใจ ทำให้ห่านน้อยยิ่งมีความรู้สึกอยากกรี๊ดในความน่ารักเข้าไปอีก

    "นะ..."


    "หือ...."

    "น่ารักจังเลยยยย!!!!" ห่านน้อยพูดจบก่อนจะวิ่งไล่ดองซาโด๋ยรอบห้องจนเกิดเสียงดังตึงตัง ดองซาโด๋ยผีหนุ่มเกรดศูนย์เบิกตาที่โตอยู่แล้วให้โตขึ้นไปอีกด้วยความตกใจ ก่อนจะลอยหนีห่านน้อยที่กำลัง 'อาละวาด' เพราะ 'ความน่ารักฉบับผี ๆ' ของผีเกรดศูนย์ของเรา

    สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ดูเหมือนกรรมการนักเรียนผู้คุมหอจะเดินมาดูที่ต้นกำเนิดเสียงดังตึงตัง ดองซาโด๋ยใช้โอกาสนี้หายตัวหนีห่านน้อย ส่วนเด็กสาวก็เริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อยที่มีคนมาขัดจังหวะ เธอเดินกระทืบเท้าไปเปิดประตูห้อง

    ย้อนเวลากลับไปหลายชั่วโมงก่อนที่ห้องสมุด...

    หลังจากที่กรรมการนักเรียนอาคุมะจัดการเคลื่อนย้ายกองหนังสือต่าง ๆ ออกจากซากชั้นหนังสือที่เอียงเอนซ้อนกันไปมานั้นเรียบร้อย ก็ทรุดตัวลงพักเหนื่อย เด็กหนุ่มหน้าคมหอบแฮ่ก ๆ เนื่องจากใช้แรงไปเยอะ ในใจก็นึกว่าตัวเองที่ไปว่าวิญญาณสาวเซนจัง เพราะเขาสามารถขอแรงที่เธอใช้ปาหนังสือช่วยเขาได้ ขณะนั้นเอง...

    คลื่น...~

    "เฮ้ย!!!"

    โครม...~

    ฝุ่นตลบไปห้องบริเวณจุดเกิดเหตุ ชั้นหนังสือที่ใกล้เด็กหนุ่มกรรมการนักเรียนได้ล้มลงมา เขาอาจโดนทับแน่ หากไม่มีใครสักคนช่วยผลักเขาออกมา

    "แฮ่ก ๆ ๆ~" อาคุมะอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนมองดูตู้หนังสือที่ล้มลงมาอย่างหวาดเสียว ใกล้ ๆ เขานั้น มีร่างของเด็กสาวนั่งหอบอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ร่างนั้นเป็นสีขาวใสไปทั้งร่าง ผมยาวสยายปรกหน้าเล็กน้อยเพราะเธอก้มหน้าอยู่ กรรมการนกเรียนหนุ่มมาเธออย่างเหลือเชื่อ

    "เอ่อเธอ.... ขอบคุณนะ" เสียงแหบพร่ายังคงสั่นเพราะยังไม่หายตกใจ วิญญาณสาวสะอึกเล็กน้อยก็จะช้อนสายตาค้อน ๆ คู่นั้นส่งมาให้เขา ราวกับบอกว่า "ฉันไม่ได้ตั้งใจช่วยนายนะ"

    "คือ... ฉัน... เอ้ย! เดี๋ยวสิ" ก่อนที่อาคุมะจะพูดจบ เซนจังทำท่าจะหายตัวไปอีกครั้ง แต่เด็กหนุ่มเรียกชื่อเธอไว้ แล้วเอื้อมมือคว้าแขนข้างหนึ่งของเธออย่างลืมตัว แขนข้างนั้นเย็นเฉียบ เซนจังหันหน้ามามองเขาเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

    "อย่าพึ่งไปสิ ฉัน... ฉันขอโทษ! เอ่อ... คือ หมายถึง เธอจะหนีงานแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันจะฟ้องอาจารย์แหนมนะ" เด็กหนุ่มพูดตะกุกตะกัก ใบหน้าขึ้นสีจาง ๆ ก็ในเมื่อเขาไม่เคยอ่อนข้อยอมง้อใครก่อน แม้ตอนท้ายประโยคจะดูไม่น่าฟังเท่าไหร่ก็เถอะ

    วิญญาณเด็กสาวค่อย ๆ แย้มรอยยิ้มก่อนจะหัวเราะอย่างสดใสเบา ๆ เธอพยักหน้า แล้วบอกว่า เธอยกโทษให้ก็ได้ แต่ช่วยปล่อยมือก่อนได้มั้ย

    อาคุมะตกใจรีบปล่อยมือพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีแดงกว่าเดิม เขากระแอมไอเล็กน้อยก่อนจะตั้งมาดขรึมก้าวเดินเป็นทหารอังกฤษไปทำงานต่อ เซนจังยิ้มแล้วหัวเราะขัน ๆ เบา ๆ ก่อนจะลอยตัวช้า ๆ ไปช่วยเด็กหนุ่มทำงาน

    ทางด้านโรงอาหาร4

    "โมเอะ ใจเย็นๆ อย่างเพิ่งกินตับหยีเลยนะ"อนีลันพยายามปลอบโมเอะที่กำลังอาละวาด

    "เมะเอ้ย หยีทำอะไรให้เธอน่ะ"ฟิมะถามสาเหตุ

    "ยัยหยีนี่ชักดาบค่าอาหารที่โรงอาหาร 4น่ะสิ"โมเอะตะโกนลั่น

    "จริงเหรอหยี เป็นกรรมการนักเรียนแล้วยังทำตัวแบบนี้อีกเรอะ ทำอะไรไม่คิด"อนีลันมองฟิมะด้วยความชื่นชมเล็กๆ ช่างเป็นคนที่ดูเอาจริงเอาจังกับหน้าที่ซะไม่มี

    "ทำไมไม่ไปชักดาบที่โรงอาหารอื่นล่ะเนี่ย ไร้สมอง"

    "โครม"อนีลันที่ได้ยินประโยคถัดมาถึงกับล้มชนคนข้างๆไปทันควัน

    "ว้าย ขอโทษค่ะ"อนีลันรีบขอโทษขอโพย

    "ไม่เป็นไรครับ"ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มให้อนีลัน ก่อนจะพยุงเธอให้ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป ทิ้งให้อนีลันตะลึง

    "หล่อจังเลย"อนีลันพึมพำเบาๆ "อย่างนี้ต้องตามจีบๆ"

    ในมุมหนึ่งของโรงอาหารป่วน ชิโนเอะ และเนกิเซนสามหน่อกำลังนั่งตั้งวงคุยหลังอาหารกันอย่างออกรส

    "นี่ป่วน นายได้ยินข่าวลือที่พวกตึก3เขาคุยกันรึเปล่า?" ชิโนเอะเริ่มเปิดประเด็น

    "ที่เขาบอกกันว่า พวกกรรมการนักเรียนน่ะ...ไม่ใช่คนสินะ ถือว่าเป็นเรื่องลึกลับเรื่องใหม่ของโรงเรียนเลยทีเดียว" ป่วนตอบเสียงค่อยเพื่อไม่ให้ฟิมะที่อยู่ถัดไป7โต๊ะได้ยิน

    "อย่าบอกนะว่า พี่ๆจะไปสืบดู!!" เนกิเซนกล่าวเสียงดังจนถูกชิโนเอะจับอุดปากด้วยเมล่อนปัง

    "แล้วจะไปสืบยังไง ลันสถั่วก็ไม่ใช่คนปรกติ พี่น้องสองคนนั้นก็น่ากลัว อันตรายเกินไป บางคนก็หาตัวยากเหลือเกิน" ป่วนพูดขึ้นอย่างใช้ความคิด

    "ปล่อยให้คนอื่นลองก่อนสิ จะได้ดูว่าจะเจออะไร" ชิเนโอ้แสดงความเห็น แววตาเต้นระริกด้วยความตื่นเต้นและแอบชั่ว = =" ดูเหมือนเขาจะไม่เข็ดเรื่องที่ไปยุ่งกับของลับของหมอฟัน เพื่อนร่วมห้องจนถูกถอนฟันหมดปากเลยแม้แต่น้อย

    "นี่ พวกนาย!!" เสียงตะโกนด้านหลังทำให้ทั้งสามคนรีบหันไปด้านหลัง เผชิญหน้ากับหนึ่งในกรรมการนักเรียน

    ซวยแล้ว... TT^TT

    "เห็นคนหล่อๆเดินผ่านมาทางนี้บ้างมั๊ย" ลันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระริกระรี้เต็มที่ ทุกคนชี้ไปด้านซ้ายแบบมั่วๆพร้อมกันทันทีเพื่อให้เธอรีบจากไปโดยเร็ว

    "เกือบไม่รอด เก็บแผนนี้ไว้คุยวันหลังดีกว่า" ชิโนเอะตัดบทแล้วเดินกลับห้องเรียนที่ตึก2ไปกับป่วน ทิ้งให้เนกิเซนเดินไปตึกส่งเสริมทักษะวิทย์ - คณิตฯ เพียงคนเดียว

    กรรมการนักเรียน... ลึกลับดีแท้ ถ้าพวกพี่ไม่สืบ ผมสืบเองแล้วกัน

    เนกิเซนคิดในใจขณะเดินไปเคี้ยวขนมปังที่เพิ่งถูกยัดไป คราวนี้ล่ะ เขาจะเป็นคนเปิดโปงพวกนั้นให้ได้...

    --------------------------------------------------------------------------- --

    (นอกรอบ)

    การที่ชามีแฟนใหม่คือเมสถุนครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้คนในโรงเรียนไม่น้อย เพราะตอนเมสถุนกับไอซ์ศักดิ์มีเรื่องกันคราวที่แล้วผู้ชนะคือไอซ์ศักดิ์ แต่คนที่ได้ชาไปกลับกลายเป็นเมสถุนซะนี่...

    ชาดูสงบเสงี่ยมขึ้น เรียบร้อยขึ้น ประหยัดขึ้น ชอบสีชมพูมากขึ้น (อันหลังเริ่มไม่เกี่ยวละ)

    "ห้ามชาผิดกฎข้อที่ 15 พลอดรักในที่สาธารณะ" เมสถุนบอกชา ซึ่งชาก็ไม่ว่าอะไร เพราะชาจะลากเมสถุนไป 'กระทำ' ในที่ลับตาคนแทน เช่น... พุ่มไม้มากมายในสวนดอกไม้ 2 ทุ่ม 59 นาทีเมื่อไหร่เลิกเมื่อนั้น

    แม้แต่ตอนกินข้าว ชาก็เปลี่ยนไป ไม่มีการป้อนข้าวกัน (เพราะเสียเวลาซ้อมดนตรีของเมสถุน) จึงเปลี่ยนมาเป็น...

    "ชาอยากกินอะไร เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง"

    "อยากกิน...อืม...กินเมสถุน !!"

    "เหวออออ!!!!!!!!!!!"

    แล้วชาก็ลากเมสถุนออกจากโรงอาหารไปที่ลับตาคนเช่นเคย... หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เมสถุนก็โผล่มาในสภาพหลุดลุ่ยพร้อมกับชาที่แต่งตัวเรียบร้อย ทั้งคู่หน้าขึ้นสี ( แต่เมสถุนดูจะแดงกว่า ) แล้วนั่งกินข้าวด้วยกันจริง ๆ ซะที

    ของโปรดของเมสถุนก็มักจะแบ่งไปจานข้าวของชาอยู่เสมอ ๆ

    "กินมากเดี๋ยวก็อ้วนหรอก" เด็กหนุ่มพูดยิ้ม ๆ กับคนรักเมื่อชาไปซื้อขนมมาอีกถ้วย

    "ก็ใครชอบแบ่งกับข้าวมาให้เรื่อย ๆ ล่ะ" ชาตอกกลับ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากนั้น เมสถุนได้แต่ยิ้มรับแล้วนั่งกินผลไม้ต่อ และแน่นอนว่าผลไม้ที่ซื้อก็เพิ่มจากปกติเป็นสองเท่าเพื่อแบ่งให้ชาด้วยเหตุผลที่ว่า กินแต่ข้าวกับขนมสักวันจะได้อ้วนแน่ ๆ - -"

    ---

    "หัดเล่นกีฬาซะมั่ง !! ตัวเตี้ยม่อกต้อกแล้วเมื่อไหร่จะสูง"

    "บ้า พูดไม่ดูตัวเองเลย วัน ๆ เล่นแต่ดนตรี กีฬาไม่เคยแตะ"

    "..................."

    "แต่ถ้าให้เล่นกีฬาบนเตียง เค้าก็ไม่เกี่ยงน้า"

    "....-/////-.....

    ---

    "ผมติดประกาศรับสมัครคนเข้าวงซิมโฟนีออเคสตร้าแล้วล่ะ ผมอยากเล่นเป็นวงจริง ๆ จัง ๆ ซะที เล่นคนเดียวมานานละ"

    "แล้วมาบอกทำไมเนี่ย รู้ก็รู้ว่าฉันเล่นดนตรีไม่เป็น"

    "......................."

    "แต่ถ้าให้เล่นเครื่องดนตรีเมสถุนละก็ ชาทำได้นะ แถมเสียงที่ได้ยังเร้าอารมณ์ดีด้วย"

    ".....-/////-....."


    ---

    "ชาเรียนไม่เข้าใจตรงไหนหรือเปล่า เดี๋ยวสอนให้"

    "เข้าใจหมดแหละ เมสถุนต่างหากเรียนให้รู้เรื่องหมดก่อนเถอะแล้วค่อยมาถาม"

    "........................"

    "งั้นให้ชาสอนเมสถุนได้นะ โดยเฉพาะวิชาเพศศึกษา"

    ".....-/////-........"

    พอแล้วสำหรับคู่นี้ เก็บไว้ให้คู่อื่นดีกว่า ลั้นลา~ พบกับคู่นี้ใหม่เมื่อใจต้องการ

    ---

    หลังจากที่เนกิเซนคิดได้ดังนั้น เขาจึงเดินไปห้องสมุดอย่างเงียบๆ แต่ว่าเขากับเจอเรื่องไม่คาดฝัน! เขาพบเงาสีดำทะมึนหลังชั้นหนังสือประวัติศาสตร์ พร้อมกับหญิงสาวผมเปียสองข้าง สีดำสนิท ดวงตากลมโตสีดำของเธอนั้น กำลังบ่งบอกความอยากรู้ อยากเห็นไว้เต็มเปี่ยม

    แอบฟังสักนิดคง ไม่เสียมารยาทหรอกมั้ง เขาคิดเบาๆ


    "นายชื่ออะไรอ่า " เสียงหวานๆ ของหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนนั้น กระทบเข้ามาในหูของเค้า ทำให้เนกิเซนหันไปมองด้วยความสงสัยมากขึ้น

    "ด๋อง..โด๋ย.." เสียงของเงาดำๆที่ตอบมานั้นช่างแหบพร่าและน่ากลัวจริงๆ เนกิเซนตัดสินใจกระดึ๊บไปสองก้าว เผื่อเค้าจะได้ฟังชัดมากขึ้น

    "เราเจอกันอีกแล้วละ คิกๆ"

    "เธอตามหาฉันไม่ใช่เรอะ ...."

    "ว้าย นายรู้ด้วยหรอ -////-" สาวน้อยผมเปียคนนี้ตอบกลับมาด้วยท่าทางเขินอาย

    "หึๆๆ แล้วเธอไม่กลัวฉันหรอ..." เงาทะมึนๆนั่นตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มมุมปาก

    "เฮ้อ...ฉันจะไปกลัวนายได้ไงละ ตาบ้า! ก็บอกแล้วไงว่านายน่ารัก"หลังจากที่หญิงสาวคนนี้พูดจบ เงาสีดำๆนั่นถึงเดินเข้ามาให้เนกิเซนเห็นเต็มตา!

    นั่นมันไม่ใช่มนุษย์นี่หว่า!! มันลอยอยู่ อ้ากกกก

    เนกิเซนวิ่งหนีออกจากห้องสมุดมาด้วยความกลัว ก่อนจะคิดว่า กรรมการนักเรียนก็อาจจะไม่ใช่มนุษย์ สามพี่น้อง สถั่ว สช่า สยอง ก็อาจจะไม่ใช่มนุษย์

    อืม... เค้าคิดพร้อมถอนหายใจเบาๆ แต่สักพัก เนกิเซนก็ชะงัก พร้อมทราบถึงความจริงที่น่าตกตะลึง !!

    เฮ้ย!! แล้วตูละ!! หวังว่าตูคงไม่ใช่พวกนั้นอีกคนนะ !! อ้ากกกก

    "คงไม่ใช่หรอก เราก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเค้านินา" หนุ่มน้อยมือระนาดเอกพึมพำ
    เฮ้อ...กลับห้องดีกว่าเรา เดี๋ยวจะเจออะไรที่มัน...เลวร้ายกว่านี้ บรึ๋ย~
    นี่ก็เพิ่งจะ บ่ายกว่าๆเอง โดดเรียนภาคบ่ายดีกว่าเรา ว่าแต่...จะไปไหนดี

    หลังจากที่เนกิเซนยืนคิดอยู่นานแสนนาน เขาก็ตัดสินใจได้ว่า

    "ไปห้องดนตรีไทยดีกว่า"


    ชั้น4ห้อง5 จะมีอะไรบ้างหนอ...


    "แอ๊ดดดดด"


    ภายตกแต่งในเข้ากับเครื่องดนตรีไทยที่สังเกตได้ว่า ไม่เคยมีใครใช้มันใน1รอบปีนี้แน่นอน


    เสียงก็ไม่เพี้ยน สายจะเข้ก็ไม่ขาดเลยซักเส้น ไม้ระนาดทุ้มใช้ได้ทุกอัน แอร์ใช้ได้ทุกตัว
    มีตู้เก็บโน้ตดนตรีไทยตู้เล็กๆอีก1ตู้ เนกิเดินเข้าไปเปิดตู้โน้ตดูเพื่อหาเพลงที่ตนพอจะเล่นได้บ้าง ในที่สุด...เนกิก็สะดุดที่เพลง... ค้างคาวกินกล้วย!!!


    ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูขึ้นมา

    "แอ๊ด...~"

    หนุ่มน้อยเนกิเซนละสายตาจากระนาดเอก ก่อนจะหันหน้าไปมองผู้มาเยือน

    ใบหน้าหวานโผล่หน้าออกมาก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาในห้องดนตรีไทย เธอเป็นเด็กสาวแก้มแดงผิวขาวเหมือนเด็กเมืองหนาว ผมดำเป็นประกายสยายตรง มีเพียงผ้าคาดผมสีขาวเท่านั้นที่ประดับศีรษะของเธอ ภายใต้แว่นไร้เลนส์ทรงวงรีของเธอ มีดวงตาที่ฉายแววสดใสและใสซื่อที่พาให้หนุ่มที่เผลอมองต้องหน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุก

    เธอเดินเข้ามาอย่างเรียบร้อย แม้พื้นห้องดนตรีไทยจะเป็นพื้นไม้มะฮอกกานีสีสวย แต่เสียงฝีเท้าของเธอนั้นแทบจะไม่มีเลย ระหว่างที่หนุ่มน้อยเพียงคนเดียวในห้องกำลังเคลิ้มไปกับความน่ารักของเด็กสาว เสียงใส ๆ ของเธอก็ดังขึ้น ปลุกเขาตื่นจากภวังค์

    "เอ่อ... ขอโทษนะคะ"

    "ครับ... มะ..มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ" เนกิเซนถามเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าแดงรั้นของเขาเรียกรอยยิ้มขันๆ ของเธอให้ปรากฏบนใบหน้าหวาน

    "คือว่า... ดิฉันสนใจจะมาสมัครเข้าชมรมดนตรีไทยค่ะ" แม้เธอจะยิ้มแบบเคอะเขิน หนุ่มน้อยเนกิเซนก็ยังคงมองว่าน่ารัก

    "อะอ๋อ... คืออันนี้ ต้องไปขอและยื่นใบสมัครกับกรรมการนักเรียนน่ะครับ เอ่อ... ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมดนตรีไทย ขอแนะนำตัวเองนะครับ.... เอ่อ... ผมชื่อ เนกิเซน ชั้นปี 1 ห้อง B ครับ" เนกิเซนรวบรวมความกล้าทั้งหมดในตัวที่มี แนะนำตัวไปซื่อ ๆ ซึ่งเป็นใครก็ต้องรู้ว่า 'ตั้งใจจีบ'

    ฝ่ายเด็กสาว เธอเอียงคอเล็กน้อยประมาณ 85 องศา ก่อนจะระบายยิ้มหวาน

    "ฉันชื่อเพิ้งค่ะ"

    -+*+--+* +--+*+--+*+--+*+--+*+--+*+--+*+-


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×