คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4
เสียงน้ำไหลลงมาท่ามกลางความเงียบ เมสุถนพยายามอาบน้ำโดยไม่คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ในขณะที่ไอซ์เองก็เช่นกัน ด้วยเหตุบังเอิญหรือว่าอะไรก็ตาม ทั้งสองดันออกจากห้องน้ำมาพร้อมๆกันพอดี
เมสุถนกับไอซ์หันมาเจอกัน ก่อนจะค่อยๆเบือนหน้าออกห่าง เมสถุนถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปคนละทางกับไอซ์ศักดิ์
"ไอซ์ศักดิ์ เมถุน"แต่ทว่า ความพยายามของทั้งสองก็ต้องสูญเปล่า เมื่อคณะกรรมการฟิมะเรียกทั้งสองเอาไว้ก่อน
"มะ มีอะไรครับ"เมสถุนตอบรับอย่างงงๆตามด้วยไอซ์ศักดิ์
"มีคนบอกว่าพวกเธอทะ เลาะกันเมื่อเช้า คณะกรรมการนักเรียนทั้งหลายก็เกิดอาการวิตกจริต สั่งให้ฉันมาดูว่าพวกนายฆ่ากันตายรึยัง ได้ข่าวว่าต่อยกันเพราะผู้หญิงนี่นา"ฟิมะร่ายยาวเป็นฉากๆ
"พวกเรายังไม่ ตาย พอใจไหมครับ"ไอซ์ศักดิ์ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเดินจากไป
"นายไม่อยากจะสลัดชาไปให้พ้นเลยรึไง"ฟิมะตะโกนท้วงไอซ์ เอาไว้
ไอซ์หันกลับมาอีกครั้ง เมสถุนเองก็ยืนฟังเงียบๆ เขาไม่ยอมรับชาที่ไอซ์ยกให้ก็จริง แต่ถ้าชาเป็นคนบอกเลิกไอซ์เอง มันก็เป็นสิทธิที่เขาจะเข้าไปแทรกไม่ใช่หรือ?
"ไหนคุณฟิมะลองว่ามาทีสิครับ"ไอซ์เร่งเร้า
"ง่ายๆเลยนะ แค่พลอดรักที่สวนดอกไม้โรงเรียนตอนหลัง3ทุ่ม ผีเบลในสวนดอกไม้นั้นเกลียดคนที่รักกัน เพราะงั้น ในไม่ช้าไม่นาน ชาเย็นก็จะต้องเลิกกับไอซ์ แล้วถ้าในช่วงนั้นเมถุนเอายาเสน่ห์ไปให้ชาเย็นกินแล้วละก็ รับรองเร่องต้องจบด้วยดีแน่ๆ"ฟิมะหัวเราะหึหึด้วยความพอใจ
"ผมไม่เอาด้วยหรอก"เมสถุนบอกปัดทันควัน "ผมไม่ยอมทำแบบนั้นกับชาหรอก ชาไม่ใช่สิ่งของนะ เธอเลือกไอซ์ ผมไม่ยุ่งด้วยหรอก"
"ชาเย็นจะยอมเลิกกับฉันจริงๆเหรอ"ไอซ์ถามซ้ำด้วยความดีใจ ต่างจากเมถุนโดยสิ้นเชิง
"แน่นอน"ฟิมะยิ้ม "ในเมื่อเมถุนไม่สนใจชา ชาก็ต้องโสด"
"เมถุน ถ้างั้นฟิมะขอชาล่ะนะ ^^ "
ฟิมะไม่ได้บอกเหตุผลอะไรไปมากกว่านั้น เขาเพียงแค่บอกให้ทั้งสองไปคิดดูดีๆอีกที ถ้าตกลงให้ไปเจอกันที่สวนดอกไม้ตอน3ทุ่ม1นาที
ไอซ์กับเมสถุนมองหน้ากัน ก่อนจะแยกย้ายไปนอนที่ห้องของตัวเอง......
เย็นวันนั้น "ก"รรมการ"นั"กเรียน รึ ก.น. อาคุมะเดินมาดนิ่งไปที่ห้องสมุดตามคำสั่งของอาจารย์บรรณารักษ์แหนม เขาเดินไปถึงโถงทางเข้าห้องสมุด ก็พบอาจารย์แหนมมาดเข้ม และวิญญาณเด็กสาว เซนจังที่ทำหน้าบึ้งบูดไม่พอใจเมื่อเห็นเขาเข้ามา
"เอาล่ะ นี่คือหน้าที่ของพวกเธอ" อาจารย์แหนมขยับแว่นตาทรงโบราณแต่เก๋ไก๋ขึ้น แล้วจ้องเขม็งไปที่ทั้งสอง
"ยกตู้หนังสือกลับเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย และจัดหนังสือให้เข้าที่ตามหมวดและอันดับ ฉันให้เวลาจนถึงเช้าพรุ่งนี้ ทั้งสองคนต้องช่วยกันนะ และเซน เธอเป็นวิญญาณประจำที่นี่ ขอให้เธอซื่อตรงต่อฉันด้วย หากว่าพวกเธอทำเสร็จหลังเที่ยงคืน พรุ่งนี้ฉันอนุญาตให้หยุดได้ครึ่งวันนะสำหรับเธอ กรรมการนักเรียนอาคุมะ" อาจารย์แหนมสั่งด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่ใจความแฝงด้วยความห่วงใย และเป็นห่วงไม่น้อย เด็กหนุ่มและวิญญาณเด็กสาวขานรับเล็กน้อย ก่อนอาจารย์บรรณารักษ์จะบอกลา
"เฮ้อ... เพราะนายแท้ ๆ เชียวเรื่องถึงบานปลายขนาดนี้" เสียงใส ๆ บ่นอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลอยไปตรงจุดเกิดเหตุที่ปิดไม่ให้ใครเข้ามาเพื่อไม่ให้มีการขนย้ายใด ๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นทั้งกองหนังสือ ความเอียงเอนของชั้นหนังสือก็ยังคงเท่าเดิมเช่นเมื่อตอนกลางวัน
"อะไรนะ เพราะฉันอย่างนั้นเหรอ" อาคุมะส่งเสียงไม่พอใจพลางทำสายตาดุดันใส่วิญญาณสาวผู้นิ่งเฉย ก่อนจะถอยหายใจให้กับ "งาน"ของเขา
"ใช่น่ะสิ!!!" วิญญาณสาวโฉบเข้าหาอย่างรวดเร็วพร้อมถลึงตาใส่เขา จนก.น.อาคุมะ ถอยกรูดออกมาอย่างตกใจกลัว
"ก็เพราะนายไม่ใช่เรอะ ที่ทำเสียงดังโหวกเหวกโวยวายในห้องสมุดที่ที่ควรจะเงียบสงบ เป็นกรรมการนักเรียนซะเปล่าทำแบบนี้ได้ยังไง!" เซนจังตวาดใส่เขาผู้ทำทีท่าไม่ยอมใครอย่างเหลืออด ในเมื่อเรื่องนี้เขาผิดเต็มประตูชัด ๆ
"ก็เพราะฉันเป็นประธานนักเรียนน่ะสิ! ฉันถึงต้องตามดูพวกนักเรียนที่คอยจะทำผิดกฎโรงเรียนอย่างพวกนั้น จะให้ฉันละเลยหน้าที่เหรอ!!" อาคุมะไม่ยอมแพ้เถียงกลับทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอันที่จริงก็มีส่วนผิดไม่น้อย
"ดูนักเรียนไม่ให้ทำผิดกฎโรงเรียนเรอะ! เชอะ! แล้วกฎของห้องสมุดประจำโรงเรียนล่ะ นายเคยอ่านบ้างมั้ย หน้าที่ของนายมันรักษากฎรึแหกกฎกันแน่" วิญญาณเสียงใสแว้ดกลับ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างอารมณ์ร้อนใส่ก็ก็ยากที่เรื่องจะจบง่าย ๆ
"แล้วเธอล่ะ! กฎของห้องสมุดเขาให้ขว้างปาหนังสือใส่กันรึยังไง" อาคุมะงัดข้ออ้างมาเถียงกลับ ซึ่งก็ได้ผล เซนจังสะอึกเล็กน้อย ก่อนจะโต้กลับ
"เพราะนายนั่นแหละ ฉันบอกนายดี ๆ ก็ตวาดกลับว่าสิทธิ์ของนาย หน้าที่ของนาย แต่หน้าที่ของฉันก็คือคอยดูพวกนักเรียนที่ทำผิดกฎห้องสมุดเหมือนกันนะ!!!"
"โว้ย!! หน้าที่พวกนี้ก็ต้องเป็นของคนสิ เธอน่ะเป็นแค่ผีไม่มีลมหายใจ ตายก็ตายไปแล้วยังอยู่ให้รกโลกอีก! ผีก็ผีเถอะ แต่เธอตายไปแล้ว เธอจะทำอะไรได้!!" กรรมการหนุ่มเลือดเดือด ตวาดกลับไปไม่ทันคิด วิญญาณสาวนิ่งเงียบ จากสายตาดุดัน ไม่พอใจ กลับกลายเป็นว่ามีแววการตัดพ้อและเจ็บปวดแฝงเล็ก ๆ หยาดน้ำตาใส ๆ เอ่อขึ้นมาอีกผู้ที่ถูกประณามว่ารกโลก
"เฮ้ย!?! เอ่อ.. ฉัน ฉัน..." เมื่ออาคุมะรู้สึกตัว เขากลับขยับปากเอ่ยคำขอโทษไม่ได้ เซนจังลอยมาหาเขาอย่างช้า ๆ พร้อมน้ำตาที่เอ่อล้น
"ในเมื่อฉันตายไปแล้ว ฉันทำอะไรไม่ได้... นายก็จงช่วยตัวเองเถอะ!!" สิ้นเสียงตะโกนครั้งสุดท้าย เซนจังหายไปกับความว่างเปล่า ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกผิดในใจของกรรมการหนุ่มตรงหน้า...
สวนดอกไม้ 3 ทุ่ม 1 นาที
เมสถุนยืนรออีก 2 คนที่เหลือ รอแล้ว...รอเล่า รอไป...รอมา รอมา...แล้วก็รอไป รอนาน...นานแล้ว รอมันเข้าไป...รอ รอ ๆๆๆๆๆ
หลังจากการรอที่ผ่านไปเนิ่นนาน ฟิมะกับไอซ์ศักดิ์ก็เดินมาพอดี ( สองคนนี้ไม่ได้มาด้วยกัน แค่บังเอิญเจอกันระหว่างทาง - - )
"ฉันบอกว่าถ้าตกลงให้มาเจอกันที่นี่ แสดงว่า เรื่องที่ว่าฉันขอชาน่ะ ตกลงใช่ไหม ?" ฟิมะพูดยิ้ม ๆ
"เปล่าครับ...ผมมาเจรจา" เมสถุนเอ่ยเสียงเรียบ ส่วนไอซ์นิ่งฟัง
"คุณมาขอชาจากผม" ฟิมะพยักหน้า "ผมไม่มีสิทธิ์ตอบคำถามนั้น เพราะชาไม่ใช่ของผม"
"แสดงว่าฉันแทรกได้น่ะสิ" กรรมการนักเรียนแทบจะร้องไชโยดัง ๆ
"แต่ผมขอยืนยันประโยคเดิม" เมสถุนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของฟิมะ "ชาไม่ใช่สิ่งของที่จะยกให้ใครก็ได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้น คุณก็ไม่มีสิทธิ์ขอชาจากใครง่าย ๆ เหมือนกัน คุณฟิมะ"
ฟิมะหัวเราะ "นายนี่ชอบพูดอย่างนี้อยู่เรื่อย นายน่าจะเป็นนักปรัชญาที่ดีนะ"
"ฟิมะ เมสถุน ฉันขอถามตรง ๆ ล่ะนะ" ไอซ์เริ่มพูดเป็นประโยคแรก "พวกนายคิดยังไงกับชา"
"ชาน่ะรึ ? ก็คิดว่าจีบแปบ ๆ ก็น่าจะติด หน้าตาก็น่ารักดี" กรรมการนักเรียนยิ้มเจ้าเล่ห์ "แล้วนายล่ะเมถุน ?"
คนถูกถามหน้าเริ่มแดงนิด ๆ เขาเกาแก้มแก้เขินแล้วบอกว่า "ก็...น่ารักดี" เขากระแอมไอนิดหนึ่ง "...แค่นั้นล่ะครับ"
"ถ้าแค่นั้น งั้นฉันจีบชาทันทีที่เลิกกับไอซ์ก็แล้วกัน...ฮ่า ๆๆ" ฟิมะหัวเราะ "นายคงไม่ว่าอะไรนะไอซ์ศักดิ์ ?"
ไอซ์ยิ้ม "ตามสบาย ท่านกรรมการนักเรียน"
เมสถุนยังคงหน้าตาเรียบเฉย หากแต่อารมณ์ทุกอย่างกับแสดงออกทางสายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจเต็มที่ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ...ชาไม่ใช่ของเขา
"ไอซ์ ผมขอถามคุณอย่างนึง"
"ว่ามา"
"...คุณเคยรักชาบ้างไหม ?" เมสถุนถามตรง ๆ
"ฉันบอกแล้วไง เมสถุน ว่าฉันน่ะโดนยาเสน่ห์ยัยเปี๊ยกนั่น ที่จริงฉันไม่ได้คิดอะไรมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นเลย"
เด็กหนุ่มนักดนตรีเงียบ
"ถ้าฉันจะจีบชา นายจะว่าอะไรไหม เมสถุน ?" ฟิมะหันไปถามเขาบ้าง
"ถึงผมจะชอบเธอแค่ไหน รักเธอแค่ไหน แต่ยังไง...ผมก็ไม่ใช่เจ้าของเธออยู่ดี ผมคงไม่มีสิทธิ์ ผมเองก็ตัดใจจากเธอไปแล้วด้วย"
ชาปรากฏตัวออกมาจากหลังต้นไม้ท่ามกลางความประหลาดใจของทั้งสาม
"จริงเหรอไอซ์...ที่ว่าไม่เคยคิดอะไรกับฉันมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่นน่ะ"
ไอซ์ศักดิ์ทำหน้าอึกอัก มองอีกสองคนเหมือนจะขอความช่วยเหลือ
"...........ผมขอตัวละครับ" เมสถุนพูดแทรก "แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แค่นี้ก็บอกได้หมดแล้วว่าชาเลือกใคร...ผมขอตัว"
เขาโค้งตัวลงก่อนจะหันหลังให้อีก 3 คน แล้วเดินไปทางหอพัก
ชากอดจากด้านหลังของเมสถุน ไหล่บางสั่นสะท้าน น้ำตาไหลออกมาจนหลังเขาเปียกชุ่ม
"จริงเหรอเมสถุน จริงเหรอที่นายบอกว่านายชอบฉันน่ะ" เด็กสาวพูดพลางร้องไห้
"ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาจะก้าวเดินต่อไปแต่ชากลับกอดเขาแรงขึ้น
"ไม่เอานะ อย่าเพิ่งไป มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน"
เมสถุนแกะมือของชาออกจากตัวเขาแล้วหันไปมองเธอ "เมื่อกี้นี้...ผมก็รู้แล้วล่ะครับ ว่าชาเลือกไอซ์ ผมไม่อยากขวางใคร ขอโทษครับ"
"แล้วนายไม่สนใจหรือไงว่าที่ฉันทำอยู่นี่ฉันเลือกใคร !!" เธอพูดเสียงดัง
ทั้งสวนตกอยู่ในความเงียบ มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของเด็กสาวนามชาเย็น
ฟิมะยืนดูเหตุการณ์ด้วยความใจเย็น ไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่ไอซ์เริ่มหวั่นใจนิด ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เมสถุนก็มองเธอด้วยสายตาเย็นชา แต่ในใจนั้น...ไม่ใช่เลย
"ผม...ขอตัว" เมสถุนโค้งอีกครั้ง และก่อนที่เขาจะเงยหัวขึ้น ชาก็คล้องแขนโอบรอบคอเขาไว้ก่อน
เขาเงยหน้าขึ้นมองเด็กสาว เธอเปลี่ยนจากโอบรอบคอเป็นจับใบหน้าของเขาไว้อย่างเบามือ และโน้มใบหน้าของเขาให้เข้ามาใกล้ ริมฝีปากห่างกันแค่ไม่กี่เซนติเมตร...
ไอซ์ศักดิ์เบือนหน้าหนีจากความเป็นจริงข้างหน้า แต่ฟิมะกลับจ้องจะดูหนังสดหน้าตาเฉย
ชาหลับตาลงพร้อมกับเมสถุนที่หลับตา ลงเช่นกัน ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันเรื่อย ๆ
เธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอุ่นที่ริมฝีปาก เขาและเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย..............
"ชา"
เสียงเรียกที่ทำให้ชาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแต่ปากยังคงไม่เลื่อนไปไหน
ภาพตรงหน้าคือเด็กนักดนตรีที่ยกมือ ขึ้นปิดปากของเธอไว้ ชารู้แล้วว่าเมื่อกี้เธอจูบกับฝ่ามือของเขา ไม่ใช่ริมฝีปาก !!
( กร๊ากกกกก~ =[>= )
ชาปล่อยมือทันทีและกลับมายืนเต็มสองเท้าดังเดิม ใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าชายตรงหน้า
ฟิมะถอนหายใจอย่างเสียดายที่อดดูหนังสด ไอซ์ที่หันหน้ากลับมามองทั้งคู่และถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ผมไม่รู้ว่าคุณ ทำแบบนี้กับใครมาแล้วกี่คนและกี่ครั้ง" เมสถุนพูดพลางจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ
"แต่นี่...สำหรับคุณ"
เมส ถุนยื่นดอกไม้สามดอกที่ไม่รู้ไปเด็ดตอนไหนมาให้ชา ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง ดอกกุหลาบขาว และดอกทิวลิปสีแดง
"พรุ่งนี้...มาหาผมที่ห้องดนตรีชั้น 3 ห้องที่ 2 ขวามือหน่อยนะ"
เขาพูดไว้แค่นั้นแล้วเดินกลับหอพักไป ทิ้งให้ชามองแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา
ฟิมะกับไอซ์เดินเข้ามาหาเธอ
"นี่หมายความว่าอะไรน่ะ ??" เด็กหนุ่มทั้งสองมึนงงสุดขีด ผู้หญิงคนเดียวในสวนก็ไม่รู้เหมือนกัน
"ชิ...ฉันจะเกลียดคนรักกันซะจริง " ร่างใสไร้วิญญาณนามว่าเบลปรากฏกายขึ้น
"คาร์เนชั่นสีเหลืองคือสำหรับคุณ ที่บริสุทธิ์และน่ารัก กุหลาบขาวคือคุณมีค่าสำหรับฉัน แล้วก็ทิวลิปสีแดงคือฉันรักคุณ พวกนี้นี่ไม่เข้าใจเรื่องภาษาดอกไม้กันเลยรึไง แย่จริง ๆ !!" ผีเบลพูดอย่างหัวเสีย "ฉันไม่ชอบคนรักกันเท่าไหร่หรอกนะ แต่ครั้งนี้ฉันยอมปล่อยไปก็ได้ ชิ !!" แล้วผีเบลก็หายตัวไป... ทั้งสามจึงแยกย้ายกันไป ชาเดินกลับหอพักพร้อมดอกไม้สามดอกและความหมาย ไอซ์ที่ทำหน้าบอกไม่ถูกก็เดินกลับหอพัก ส่วนฟิมะไปรอเฝ้าเวรยามในกะต่อไป...
---
"เฮ้อ เมถุนกะชาเย็นลงเอยกันซะแล้วล่ะ ลันล้า"ฟิมะบ่นอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ "หมดกัน กะว่าจะเอายัยชาเย็นนั้นเป็นเหยื่อ พิสูจน์ตำนานโรงเรียนซะหน่อย"
"ฝีม้า เนี่ยน้า ใจดีจริงเชียว ช่วยให้เรื่องราวจบลงอย่างสวยสดงดงามได้แล้วไม่ใช่รึไง ยังจะมาพูดจาแก้ตัวอีก"อนีลันบ่น
"ใครบอกล่ะ ลันล้า ฉันตั้งใจจะทำจริงๆตังหาก"ฟิมะพึมพำเบาๆป้องกันไม่ให้อนีลันได้ยิน
"เงาจางๆของคำสาปที่นี่มีมากมาย ไฉนเลยเราจะรู้ได้นอกเสียจากว่า ส่งคนอื่นๆเข้าไปทดสอบแทน....."ฟิมะอมยิ้ม"แต่จะว่าไปแล้ว พวกนี้ก็ยังจะพอเป็นตัวทดสอบได้อยู่นี่นา"
"ฟิมะ มาทางนี้เร็ว ผีโมเอะกะลังจะกินตับนักเรียนแล้ว"อนีลันโวยวายเรียกฟิมะ
"ไม่ต้องรีบก็ ได้ลันล้า ยังมีคนรู้ตัวช้าอีกตั้งเยอะ"ฟิมะขานตอบก่อนจะเดินตามอนีลันไป พร้อมๆกับครวญเพลงอย่างสบายใจ
"ก็ตอนนี้ คนที่เอาแต่ผลักไส ปวดหัวใจ มองอะไรก็เป็นภาพเธอ หือ~"
"ฮัดเช้ย..." ไอซ์ศักดิ์จามชิ่ว ๆ ราวกับมีคนนินทา ก็แหงสิ สงสัยจะมีคนหาว่าเขาจะเข้าทำนองเพลงรู้ตัวช้าแหง ๆ เขาคิดอย่างไม่พอใจ
"เป็นหวัดรึน้องรัก" ป่วนถาม ขณะเล่นตีหมอนกับชิโนเอะ และน้องชาย เนกิเซน ผู้ที่ดูเหมือนจะเมาเพราะฤทธิ์การบ้าน แล้วตีหมอนใส่ชิโนเอะอย่างเมามัน หัวเราะเอิ๊กอ้ากอย่างถูกใจ
"เปล่า สงสัยมีคนนินทา" เด็กนักป่วนหัวเราะเฮอะ ๆ ก่อนจะโดดเข้าไปในสมรภูมิศึกตีหมอนต่อ ไอซ์ศักดิ์เดินเช็ดหัวที่เปียกจากการสระผม เดินออกมานอกระเบียง เขาใส่ชุดนอนประจำของเขา นั่นคือกางเกงยาวสำหรับนอนตัวเดียว เผยอกกว้างขาวน่าเจี๊ยะ (เหอะๆ)
ดาวสวยดีแฮะ... ไอซ์ศักดิ์คิดในใจพลางเหม่อลอยไปบนท้องฟ้า ...เธอจะมองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยทะเลดาวเช่นนี้เหมือนกันมั้ยนะ... ไอซ์ศักดิ์คิดแล้วหน้าก็พลันอมสีเลือดจาง ๆ แล้วอมยิ้ม
เขาจะไปรักชาเย็นได้ยังไง... ในเมื่อทั้งใจของเขามีเจ้าของเสียแล้ว แต่เจ้าของผู้นั้นจะรู้ตัวมั้ยนะ
ไอซ์ศักดิ์คิดเพลินจนรีบสลัดความคิดเห ล่านั้นออกไป ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเด็กหนุ่มคนบ้า ผู้อมยิ้มหวานน่ารักให้ท้องฟ้ายามราตรี แล้วเด็กหนุ่มก็หันหน้าไปมองห้องของเมสถุน ผู้ที่น่าจะมีความสุขที่สุดในคืนนี้
เมื่อมองผ่านม่านบาง ๆ สีขาวที่รูดปิดประตูระเบียงไป เมสถุนกำลังนอนเอนตัวพิงหัวเตียงพลางกอดหมอน อมยิ้มหวานอย่างมีความสุข หน้าตาใสขึ้นสีอย่างไม่มีท่าทีจะจางลงไปแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นมาลูบแก้มข้างที่ชาเย็นสัมผัสอย่างแผ่วเบา เสียงเพลงรักบรรเลงเบา ๆ สร้างความรู้สึกเป็นสุขได้ดียิ่งนัก
ไอซ์ศักดิ์มองเห็นภาพนั้นก็ยินดี อย่างน้อยก็ได้ทำให้คนสองคนมีความสุข ตอนนี้ก็เหลือแต่ตัวเขาล่ะนะ ไอซ์ศักดิ์ถอนหายใจอีกครั้ง ด้วยความเหนื่อยใจ
"พี่ไอซ์ ๆ" เนกิเซนวิ่งออกมาในชุดนอนตัวหมี ๆ ถือหมอนสีขาวใบใหญ่ ๆ เดินมา
"อะไร?"
พลัวะ!!
"เฮ้ย!!!" เนกิเซนหวดหมอนใส่หน้าไอซ์ศักดิ์ที่เผลอตัวอยู่อย่างแรง แม้ไม่เจ็บแต่ก็ทำให้มึน ๆ ไม่น้อย
"พี่ไอซ์เป็น!! เอิ๊ก ๆ!!" เนกิเซนพูดอ้อแอ้หัวเราะเอิ๊กอ้าก สงสัยจะโดนพวกพี่ ๆ จับกรอกเหล้าแหง ในห้อง มีเสียงหัวเราะแหบห้าวอย่างสะใจดังขึ้น ชิโนเอะ และเด็กนักป่วนผู้ซึ่งเมาไม่แพ้กัน
"อ๋อ... งั้นเรอะ หึ ๆ งั้นเตรียมใจได้เลย มาท้านักบาสผู้หล่อเหลากำลังดีอย่างไอซ์!!" ไอซ์ศักดิ์พูดติดตลก แล้ววิ่งตามเนกิเซนขึ้นไปในสมรภูมิตีหมอน
เสียงหัวเราะแห่งความสนุกสนาน ความเงียบแห่งความสุข มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในหอพักชาย ในคืนนี้...
ความคิดเห็น