ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #18 : [Many Couple * only SJ] SJ School 6

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 52













     

    Title : [Many Couple * only SJ]  SJ School 6

    Type : Short Fic

    Rate : PG

     

     

     

     

    =========================================================

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ปลายทางของอุโมงค์ได้เปิดขึ้นและโคลวโผล่ออกมาเท้าทั้งสี่เหยียบลงบนพื้นหญ้าแแต่ละคนเมื่อถึงที่หมายก็ต่างลงมายืนด้วยขาตนเอง ร่างสูงรีบวิ่งพรวดไปหาพุ่มไม้และ

     


    "อ้วก ก ก ก ก ก ก ! !"

     


    "=_=;;" (x3)

     


    "อี๋ ไอ้คุณองค์ชายแค่นี้ถึงกับอ้วกเลยรึไงห่ะ น่าขยะแขยง =O=;;"

     


    ถึงปากจะว่ายังงู้นงี้แต่ก็เดินมาลูบหลังอีกฝ่าย

     


    "เอ้าไหวมั้ยเนี่ย =_="

     


    มือเรียวยังคงลูบต่อไปจนอีกฝ่ายมีอาการดีขึ้น นัยน์ตาคมตวัดมามองร่างบางอย่างไม่พอใจ

     


    "อย่าใช้สายตาแบบนั้นมองชั้นนะ =_=*"

     


    "-_-++"

     


    "อยากตายนักใช่มั้ยไอ้องค์ชาย"

     


    "-_-++"

     


    "อยากตายจริงๆใช่มั้ยห๊า า า =O=^^"

     


    ...คนอย่างคิมฮีไม่เคยกลัวใครและไม่กลัวตาย อย่าคิดว่าจะใช้สายตาแบบนั้นทำให้ชั้นกลัวให้เมื่อยตุ้มหรอกไอ้ซิมบ้า ไม่กลัวอยู่แล้วเฟร้ย...

     


    "-_-++"

     


    "=_=^^"

     


    ...แน่ะ มันยังไม่เลิก ทุกคนดูมันสิ ยังไงชั้นก็ไม่กลัว...

     


    "-_-+++"

     


    "=_=^^"

     


    ...ไอ้นี่ยังเลิกอีกแน่ะ...

     


    "-_-++++"

     


    "=_=^"

     


    ...เอาซี่ อย่าคิดว่าคิมฮีจะเลิกจ้องนะ...

     


    "-_-+++++"

     


    "=_="

     


    ...เอาล่ะ มันถึกจริงๆแต่แค่นี้คิมฮีสู้ไม่ถอยเฟร้ย...

     


    "-_-++++++"

     


    "=_=;"

     


    ...อึ๋ย ทำไมไอ้ซิมบ้ามันดูน่ากลัวขึ้นพิกลๆวะ...

     


    "-_-+++++++"

     


    "=_=;;;"

     


    ...อริ๊ง ง ง มันน่ากลัวอ่ะ T^T เพราะฉะนั้นเพื่อสวัสดิภาพของคิมฮี...

     


    "ขอโทษ แล้วเลิกจ้องชั้นแบบนั้นสักที T^T "

     


    "^_^"

     


    ...แค่นั้นแหละไอ้ซิมบ้ายิ้มแฉ่งเป็นบ้าเป็นหลังเลย แต่มัน...

     


    "อี๊ ไอ้ซิมบ้าฟันแกมีเศษผักติดอยู่ด้วยอ่ะ แหวะ -O-;;"

     


    "ไหนๆ O.O"

     


    ซีวอนยื่นหน้าเข้าใกล้ฮีชอลจนเจ้าตัวแทบยันให้ออกห่าง

     


    "อย่าเอาหน้ามาใกล้ชั้นนะไอ้เด็กบ้า >O<"

     


    "ทำไมอ่ะ พี่กลัวจะอดใจไม่ไหวใช่มั้ยล้า า ^O^"

     


    "ถุย ไอ้หน้าด้าน =_="

     


    "ป่าวซะหน่อยนึง ^^"

     


    "ก็ถือว่าถูก"

     


    "ใช่ม้า า า ^O^"

     


    "แต่มากกว่านั้นโข"

     


    ฮีชอลเดินหันหลังมาหาโคลวทันทีปล่อยให้ซีวอนโวยวายเป็นเด็กต่อไป   ...ไอ้บ้านั่นพอออกจากโลกตัวเองแล้วประสาทกลับรึไงวะ รึว่าเพราะกรูไม่ยอมให้ไอ้แมวผีลดความเร็วเลยเป็นแบบนั้นวะ โอ้ว ว ว ไม่นะ ผมควรจับมันมัดไว้กับหลังของไอ้แมวผีแล้วให้พาบินอีกรอบจะได้หาย T-T... 


    โคลวกลายร่างกลับเป็นแมวเหมือนเดิมและนั่งเลียแผลของตัวเอง พร้อมกับมีเจ้าตัวจิ๋วซูจือบินวนรอบๆ จนฮีชอลอดจับให้กอดเสียเต็มรักเพราะเจ้าตัวชอบของเล็กๆน่ารักๆเป็นทุนเดิม

     


    "ฮีซิก้าปล่อยซูจือน้า ซูจืออึดอัด >O<"

     


    "ไม่อ่ะ นายออกจะน่ารักเล็กๆ >_<"

     


    "TT^TT" (ซูจือ)

     


    "ซูจือเค้าไม่อยากให้พี่กอดน่ะก็อย่าไปบังคับซี่ พี่มากอดผมดีกว่ามามะ ผมเต็มใจสุดๆเลยล่ะ >.<"

     


    ซีวอนโผเข้าอกดร่างบางเต็มรักจนทำให้ล้มคะมำคว่ำไปทั้งคู่ มือเรียวดันหัวของซีวอนให้ออกไป

     


    "ออกไปโว้ย ไอ้สิงโตถึก =_=++"

     


    "(   >_<) (>_<) (>_<   )"

     


    "บอกให้ออกไปไง ชั้นไม่ชอบถึกๆแบบแกว้อยต้องตัวเล็กน่ารักแบบเจ้าจิ๋วนี่ต่างหาก ออกไปซิวะ -O-**"

     


    "งั้นเหรอครับ....แต่ถึงยังงั้นผมยังไม่ตัดใจหรอกนะ เรื่องนั้นน่ะ"

     


    ริมฝีปากหยักเคลื่อนมาพูดกระซิบข้างๆหูร่างบาง แก้มนิ่มพลันแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม้ได้ในเมื่อหัวใจดวงน้อยๆนั้นเต้นระรัวราวกับจะกระเด็นออกมาด้านนอกเสียมิได้เมื่อเจอลูกไม้นี้เข้า

     


    "ชะ ชั้นไม่สนว้อยไอ้ซิมบ้าถึก โรคจิต >O</ /"

     


    ฮีชอลได้แต่ดันอีกฝ่ายให้ออกห่างที่ตอนนี้ตนเองถูกจับไปนั่งตักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มี แต่แรงของมดหรือจะสู้แรงสิงโตได้จนแล้วจนรอดก็ต้องปล่อยให้ตนเองอยู่ในอ้อมกอดต่อไป    ...อะไรวะไอ้สิงโตบ้านี่ ทีเมื่อก่อนนะไม่เคยแม้แต่จะฉวยโอกาสแบบนี้พอบอกว่าอยากได้กรูเป็นเมียนี่ก็มือปลาหมึกขึ้นมาทันทีเลยนะมึงแถมยังหน้าด้านขึ้นมากระทันหันด้วยนะ ไอ้เด็กเปรต =_=**...  ฮีชอลนั่งหน้ามุ่ย จนอีกฝ่ายที่ลอบมองอดอมยิ้มจนเห็นลักยิ้มข้างแก้มเด่นชัด

     


    "อ่อ คุณโคลวครับ" (วอน)

     


    โคลวเงยหน้ามองทางต้นเสียง

     


    "ตอนนี้พวกเราข้ามอุโมงคืมิติมาแล้วใช่มั้ยครับ" (วอน)

     


    'ใช่'

     


    นัยน์ตากลมสีดำสนิทฉายแววกังวลและเศร้าหมองขึ้นมา    ...อีกแล้ว ทำไมต้องเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยตั้งแต่ตอนที่มาอยู่ในโลกของเจ้านี่นึกว่าเรื่องบ้าๆจะจบลง พยายามคิดว่าอีกไม่นานก็จะได้กลับบ้าน กลับโลกเดิมที่จากมาแต่นี่อะไรกันต้องมาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักอีกครั้งแถมครั้งนี้ไม่รู้จะเคราะห์ดีหรือเคราะห์ร้าย ไม่เหมือนครั้งนั้นยังดีที่เจอไอ้เด็กนี่ไม่ยังงั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน...    แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดมากขึ้นจนฮีชอลเงยหน้าขึ้นมอง

     


    "ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนผมก็จะคอยอยู่ข้างๆพี่ตลอด ทั้งกลางวัน กลางคืน หรือสถานที่แปลกตาผมไม่มีทางปล่อยให้พี่อยู่ตัวคนเดียวแน่นอน ^_^"

     


    เสียงทุ้มพูดสิ่งที่สามารถปลอบประโลมหัวใจดวงน้อยให้ชุ่มชื้นขึ้นมาทันที

     


    "ละ แล้วไงห่ะ ไอ้เด็กเปรต =_=/ /"

     


    "^_^"

     


    "ยังจะมาทำหน้าระรื่นอยู่ได้แกไม่กังวลเลยรึไงที่จากโลกตัวเองมาน่ะ -_-*"

     


    "อืม...จะบอกว่าไม่มีมันก็โกหก ก็คงมีนิดหน่อยล่ะนะ ถึงอย่างนั้นก็มีใครบางคนที่กังวลมากกว่าผมซะอีก ผมเลยต้องพยายามทำให้เค้าลุกขึ้นมาแว้ดๆซะหน่อย"

     


    "ว่าอะไรนะ -_-***"

     


    "ถึงอย่างนั้นผมบอกแล้วใช่มั้ยล่ะว่าพี่อยู่ที่ไหนผมอยู่ที่นั่น เพราะผมคิดว่ายังไงสักวันนึงผมก็ต้องได้กลับโลกของผมถึงแม้จะใช้เวลานานแค่ไหนก็ตามอีกอย่างตอนนี้ผมต้องทำให้พี่มาชอบผมให้ได้ซะก่อนแล้วเราก็จะได้กลับไปแต่งงานกัน ^O^"

     


    ว่าแล้วก็ขโมยกลิ่นหอมจากพวงแก้มนิ่มเสียหนึ่งฟอด

     


    "อะ อะ อะ ไอ้เด็กเวร ! ! >O</ / /"

     


    มือเรียวฟาดอีกฝ่ายไม่ยั้งมือจนขึ้นรอยแดงเป็นปื้น ตบท้ายด้วยส่งสายตาขุ่นเขียวไปให้เป็นการตอบแทน ซีวอนก็ได้แต่ยิ้ม ยิ้ม และยิ้มลูกเดียว   ...อู๊ย ย ย ทำไมพี่มือหนักยังงี้เนี่ย TT^TT แต่เราต้องยิ้มเข้าไว้ไอ้วอน ยิ้มเข้าไว้ ยิ้มเท่านั้นที่จะได้พี่เค้า อู๊ย ย ย แสบว้อย ย ย TT-TT...

    ซูจือที่ยังอยู่ใกล้ฮีชอลก็อดขยาดกลัวกับการกลายร่างเป็นนางมารของคนใบหน้าสวยเสียไม่ได้ ส่วนโคลวมองภาพตรงหน้าอย่างปลง ก็ชินเสียแล้วที่จะต้องเห็นองค์ชายถูกประทุษร้ายตามร่างกายเป็นประจำ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลูกแก้วสีแดงสดของซูจือเปล่งแสงและภาพของแม่มดฉายออกมาให้เห็นเหมือนเครื่องโพรเจกเตอร์

     


    "พวกนายมาถึงอย่างปลอดภัยแล้วใช่มั้ย"

     


    'ครับ'

     


    ทั้งสองพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง

     


    "งั้นก็ดีแล้ว"

     


    "เจ๊ทำไมเจ๊ต้องให้แมวผีพาพวกผมมาอยู่อีกโลกหนึ่งด้วยล่ะ พาพวกผมกลับที่เดิมด้วยป่านนี้ไอ้เจ๊กแก่มันกลับไปยั้นไหนแล้ว =_="

     


    "พวกนายต้องย้ายเพื่อสวัสดิภาพของตัวเองรู้บ้างมั้ย"

     


    "ไม่รู้ =O="

     


    ฮีชอลตอบเสียงฉะฉานประหนึ่งว่าตอบคำถามคุณครู

     


    "เฮ้อ ยังไม่รู้ตัวกันอีก =_=;;"

     


    โบอาหรือแม่มดต่างมิติทำหน้าปลงๆ

     


    "ก็ตาของพวกนายน่ะตอนนี้กำลังจะตื่นขึ้นน่ะซิ ไม่รู้ตัวกันบ้างเลยรึไง -*-"

     


    "ตื่น ? ?" (x2)

     


    "มันจะตื่นได้ไงกันอ่ะ" (ชอล)

     


    "ก็ในเมื่อคุณโคลวเค้าบอกว่าต้องมีเงื่อนไข..." (วอน)

     


    "เงื่อนไขอะไรของพวกนาย นัยน์ตาสีทองน่ะไม่ต้องมีเงื่อนไขอะไรหรอกแค่รอให้เจ้าตัวพร้อมใจที่จะเปิดรับอีกฝ่ายที่เป็นคู่ของตนเองมันก็จะเริ่มตื่นขึ้นเองโดยธรรมชาติ"

     


    สมองของทั้งสองคนเริ่มประมวลและออกมาเหมือนกันว่า 'โดนหลอก ! !' ขาทั้งสี่ของแมวตัวน้อยเริ่มจะหย่องหนีแต่โดนมือเรียวบางคว้าหมับ ฮีชอลที่หลุดจากอ้อมกอดของซีวอนแล้วยิ้มหวานเคลือบยาพิษไว้เต็มร้อยตามแบบฉบับที่เฮนรี่และโจวมี่เห็นต้องรีบถอยไปตั้งหลักไกลระยะร้อยเมตร

     


    "เงื่อนไขอะไรน้าที่พูดกับชั้นมาน่ะ หืม ม ม คุณโคลว ^^+++"

     


    'จะ จำไม่ได้อ่ะ ข้าลืมไปแล๊ว ว ว  =[]=;;'

     


    "ลืมงั้นหรอแต่ชั้นจำได้ขึ้นใจเลยล่ะ 1หนึ่งคืนนั้นพระจันทร์ต้องเต็มดวง 2คืนนั้นต้องเป็นคืนเดือนมืด 3ต้องหานัยน์ตาของทั้งคู่ให้เจอแถมยังต้องมีsexด้วย ^^**"

     


    'ชั้นเคยพูดไปด้วยหรอ *^*;;;'

     


    "ใช่และแกก็ต้องตายไอ้แมวเปรต ต ต แกทำให้ชั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายเดือน น น -O-*****"

     


    ฮีชอลบีบคอโคลวโยกไปมาอย่างเมามันส์ทุกจังหวะของชีวิต(?)

     


    'อ๊าก ก ก ก ก ข้าน้อยผิดไปแล้ว จะไม่ล้อเล่นยังงี้อีกแล้ว ว  ว T[]T'

     


    "เฮ้ เจ้าหนูปล่อยมือซะเถอะไม่ยังงั้นเทพโครนอสได้เดือดร้อนหาสัญลักษณ์ใหม่แน่ ชั้นไม่อยากจะมาโดนหางเลขเหนื่อยหาสัตว์ตัวให้ท่านอีกหรอกนะ =_=;;"


    ฮีชอลต้องจำใจปล่อยโคลวให้ร่วงลงพื้นดังอั๊ก  ! ! ในใจเจ้าแมวขอบโบอาอย่างแรง       ...โอ้ว ว ว ท่านแม่มดที่ช่วยชีวิตของโคลวผู้นี้ไว้ ข้าน้อยซึ้งเสียเหลือเกิน T[]T...

     


    "แค่นั้นน่ะเหรอครับ =_= ? ?" (วอน)

     


    "ใช่ แค่เจอกันแล้วเปิดใจแค่นั้นจบ ไม่ต้องทำอะไรให้มากความ -O-"

     


    "เปิดใจ ? ? นี่หมายถึงให้เป็นเพื่อนกันแค่นั้นใช่มั้ยครับ" (วอน)

     


    "เปล่า หมายถึงรักกันต่างหาก -_-"

     


    "รัก  ! !"

     


    ฮีชอลร้องเสียงหลง

     


    "ใช่ โดยเฉพาะนายซีวอนตอนนี้เกือบจะเป็นสีทองแล้วเนี่ยรู้สึกจะรักจนหัวปักหัวปำเลยนะเนี่ย ส่วนนายก็....."

     


    ฮีชอลยืนหน้าซีด     ...อะ อะไรวะ ตากรูมันเป็นยังไงเนี่ย อย่าบอกนะว่าเป็นเหมือนไอ้เด็กเวรนั่น โอ้ว ว ว ม่าย ย ย ได้โปรดอย่าพูดอะไรออกมานะเจ๊ พลีส ส ส =[]=...    ซีวอนยืนลุ้นตัวโก่ง     ...พี่เค้าจะรู้สึกยังไงกับผมน้า า ตื่นเต้นๆๆ >_<...

     


    "อุบไว้เป็นความลับ ฮ่า ฮ่า ^O^"

     


    "อะ อะไรกัน โธ่....บอกหน่อยซิผมอยากรู้มากเลย บอกหน่อยเถอะ T^T"

     


    ซีวอนโอดครวญ

     


    "แกนี่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจังเนอะ ไอ้ซิมบ้า =_="

     


    "ผมน่ะชอบยุ่งเรื่องพี่คนเดียวต่างหากล่ะ *O*"

     


    "ไอ้จอมจุ้น -O-"

     


    "พวกนายจะเถียงกันอีกนานมั้ยพวกชั้นจะได้คอย =O="

     


    ทั้งสองคนหุบปากฉับ

     


    "เข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน ก่อนหน้านี้ชั้นกับโคลวได้ปรึกษากันตั้งแต่นัยน์ตาของซีวอนตื่นขึ้นไม่สิตั้งแต่ของฮีชอลตื่นขึ้นเป็นคนแรกต่างหาก.."

     


    "หมายความว่าไง ? ?" (ชอล)

     


    "ก่อนหน้านี้นายรู้สึกถึงอะไรบ้างรึเปล่าอย่างเช่นฝันหรือเห็นอะไรแปลกๆ"

     


    "ไม่ อ๊ะ"

     


    ฮีชอลนึกถึงความฝันที่ฝันถึงก่อนที่จะถูกลากเข้ามายังโลกของซีวอน    ...จะว่าไปพอเริ่มฝัน พลอยเริ่มจะเห็นอะไรแปลกไปด้วยนี่หว่า อย่างไอ้แมวผี...

     


    "ใช่ ผมฝันแปลกๆก่อนที่จะถูกดึงเข้าอุโมงค์เส็งเคร็งแล่วมาเจอกับไอ้เด็กนี่ =_="

     


    "นั่นล่ะ นัยน์ตาของนายเริ่มตื่นขึ้น ถ้าเริ่มตื่นขึ้นแล้วพวกคนที่อยากได้ก็ต้องรู้ตัวชั้นเลยปรึกษากับโคลวว่าต้องพาพวกนายมาอยู่ในที่ๆปลอดภัยแต่ก็เกิดเหตุขึ้นซะก่อน ไม่คิดว่าข่าวมันจะรั่วไปถึงหูไอ้พวกนั้นเร็วขนาดนี้"

     


    โบอากัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ

     


    "งั้นที่ผมมาอยู่ในโลกของไอ้เด็กนี่ก็เป็นแผนของเจ๊เหรอ"

     


    "ไม่ใช่"

     


    "งั้นมันก็บังเอิญงั้นเหรอเจ๊ =O="

     


    "เจ้าหนู ในโลกนี้น่ะมันไม่มีคำว่าบังเอิญหรอกนะ จะมีก็แต่พรหมลิขิต"

     


    นิ้วเรียวขาวซีดชี้มาทางฮีชอล

     


    "พรหมลิขิตที่นำพาให้พบเจอกับผู้คนหลากหลาย แม้แต่คนที่เดินผ่านไม่กี่วินาทีในวันข้างหน้าอาจจะพบเจอกันทำให้ชะตาชีวิตเปลี่ยนไป อย่างนายและองค์ชายที่มาพบเจอกันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ก็มีจะแต่พรหมลิขิตที่นำพามาให้เจอกัน"

     


    ทั้งสองคนค่อยๆหันมาสบตากัน      ...พรหมลิขิตทำให้ชั้นมาเจอกับนายงั้นเหรอคุณองค์ชายชเว...

     


    "แต่ทำไมของผมไม่เห็นฝันถึงอะไรเลยล่ะ -_-"

     


    "ถ้ามันเหมือนกันป่านนี้คงถูกคัดทิ้งเหลือคู่เดียวแล้วล่ะองค์ชาย นัยน์ตาสีทองของอดัมนั้นมีไว้เพื่อปกป้องเหมือนอัศวินนักรบผู้กล้าหาญ แต่นัยน์ตาของเอวานั้นสามารถทำนายสิ่งต่างๆล่วงหน้าได้เหมือนแม่หมอ ส่วนที่เหลือนั้นก็ตามที่เคยพูดไปแล้วล่ะนะ"

     


    พอได้ฟังดังนั้นฮีชอลก็แตะๆตาตัวเอง     ...ตากรูมันพิเศษขนาดนั้นเลยเหรอวะ หรือกรูจะเปิดตำหนักแม่หมอเลยดีมั้ย คงรวยเละ =_=;;...

     


    "ชั้นกับโคลวต้องพาพวกนายมาโดยกระทันหันป่านนี้โลกของคุณองค์ชายคงตามหากันให้วุ่นซะล่ะมั้ง เฮ้อ ทำไมต้องเป็นชั้นมาตามเก็บผลงานที่ทิ้งไว้เรี่ยราดของนายด้วยห๊ะ =_=**"

     


    'ในเมื่อช่วยกันวางแผนก็ควรช่วยกันทำงานสิครับ ^_^'

     


    โบอาจิ๊ปากอย่างขัดใจ

     


    "อีกอย่างตอนนี้พวกนายควรจะเตรียมใจไว้ซะเพราะหลังจากนี้ชีวิตของพวกนายไม่ได้สงบสุขอย่างแต่ก่อน สถานที่ๆชั้นจะให้พวกนายไปอยู่มันปลอดภัยสำหรับพวกนายแน่นอน ไม่แน่พวกนายอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตลอดไปชั่วชีวิตของพวกนายนอกเสียจากว่าพวกนายต้องการให้ชั้นกำจัดมันออกไปซะ"

     


    คำพูดที่ทำให้หัวสมองทั้งสองคนหมุนคว้างไม่คิดว่าการจะมีนัยน์ตาสีทองแล้วจะมีผลกระทบอะไรหลายๆตามมาแถมยังเป็นลูกใหญ่เบ้อเริ้มเสียด้วย

     


    "เจ้าหนูทั้้งสองคนต้องการมันมั้ย"

     


    'เฮ้อ...ก่ะเอาเข้าคลังอีกงั้นรึ ท่านแม่มด ท่านนี่จริงๆเลย =_='

     


    "อย่ามาทำเป็นรู้ทันนะยะ -^-"

     


    ฮีชอลกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดก่อนที่เอ่ยถามออกไป

     


    "ละ แล้วถ้าไม่เอาออกล่ะ"

     


    "นายก็จะเจอกับคนที่หวังจะได้นัยน์ตานี้อย่างหลี่เฟย"

     


    "ถ้าเอาออกไปแล้ว"

     


    "ชีวิตนายก็จะกลับมาเหมือนเดิมแต่ขั้นตอนเอาออกเนี่ยมันก็เจ็บมากอยู่เหมือนกันเพราะมันเชื่อมกับระบบประสาททั่วตัวของร่างกาย หลังจากนั้นนายก็ต้องเลือกอีกล่ะนะว่าจะกลับไปโลกตัวเองหรือจะไปอยู่กับองค์ชาย ^O^"

     


    ใบหน้าสวยแดงแปร๊ดและงุนงงว่าอีกฝ่ายรู้ได้ยังไงว่ากำลังคิดเรื่องที่จะกลับบ้านอยู่พอดีรวมถึงเรื่องที่ซีวอนขอให้เป็นมเหสี

     


    "ทะ ทำไมผมต้องไปอยู่กับเด็กบ้านี่ด้วยเล่า ! !"

     


    "อ้าว ก็เห็นว่าองค์ชายขอเป็นมเหสีด้วยนี่ ใช่มั้ยซูจือ ^O^"

     


    "ใช่เลย โบอา >_<"

     


    ...หนอย ไอ้เจ้าจิ๋วนี่เองที่คาบข่าวไปบอกยัยแม่มดนั่น =_=/ /...

     


    "มันต้องมีอะไรดีกว่าสองทางเลือกนั่นสิครับ"

     


    ซีวอนที่นิ่งเงียบอยู่นานถามขึ้นบ้าง


    "มันก็มีอยู่หรอก แต่เป็นวิธีที่คนส่วนมากจะหลีกเลี่ยงกันเพราะต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงน่าดู"

     


    ฮีชอลเม้มปากความคิดตีกันให้วุ่นวายได้สักพักคำตอบก็ออกมา

     


    "ผมว่า....ผมจะไม่เอาออกเพราะถ้ามันอยู่อย่างน้อยมันก็ต้องมีประโยชน์ต่อคนอื่นไม่มากก็น้อยแล้วอีกอย่างอาจจะมีประโยชน์ต่อในอนาคตอีกด้วย ถ้ามันถูกกำหนดว่าเกิดมาพร้อมกับตัวผม ผมก็ควรที่จะรับมันไว้ในเมื่อพ่อกับแม่ผมได้มอบมาให้.....อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้ที่เชื่อมระหว่างผมกับพวกท่าน"


    ริมฝีปากแดงระเรื่อยิ้มอย่างฝืดเฝื่อน ร่างสูงมองอีกฝ่าย     ...พี่ครับ ผมคงเห็นแก่ตัวเกินไปใช่มั้ยที่รั้งพี่เอาไว้แล้วปล่อยให้ทิ้งครอบครัวที่รอการกลับไปของพี่ ผมคงเห็นแก่ตัวเกินไปซินะ ? ? แต่ผมก็ต้องการพี่จริงๆ ต้องการพี่เพื่อประเทศ เพื่อราษฎร ที่สำคัญที่สุดก็เพื่อตัวผมเอง พี่ครับช่วยบอกผมทีผมควรจะทำยังไงปล่อยพี่ไปหรือเห็นแก่ตัวดี...

     


    "ก็แล้วแต่ล่ะนะ เเล้วเราล่ะพ่อรูปหล่อ ^_^"

     


    "ผมก็คงเหมือนกับพี่ฮีชอลล่ะครับ ถ้าถึงเวลาคับขันคงจะช่วยอะไรได้บ้าง คุณแม่มดครับมันมีแค่สองทางเลือกนั้นจริงๆเหรอครับมันน่าจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้สิครับแม้ว่าพวกจะเลือกที่เก็บมันไว้ก็ต้องมีบางอย่างมาช่วยทำให้คนอื่นไม่มีทางรู้ได้ด้วยสิครับ"

     


    "อ่าฮะ แต่ถึงยังไงพวกนายควรจะไปที่ๆนั่นเสียก่อน โคลวนายไปถูกใช่มั้ย"

     


    'ไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะข้าไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว สักประมาณสองร้อยกว่าปีได้ ไม่รู้ว่าเจ้านั่นจะเปลี่ยนถิ่นฐานหรือเปล่า'

     


    "งั้นชั้นคงต้องนำไปงั้นสิ ชิส์ งานนี้ขาดทุนชะมัด =3="

     


    ว่าแล้วซูจือก็ลอยนำหน้าไปจนฮีชอลอยากจะจับมากอดเสียให้รู้แล้วรู้รอด      ...อ๊าก ก ก ทำไมมันน่ารักยังงี้ โอย คิมฮีเห็นแล้วใจจะละลาย >_<...     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทั้งหมดเดินตามผู้นำตัวจิ๋วไปเรื่อยจนมาถึงหน้าผาแห้งหนึ่งซึ่งสูงลิบ

     


    "ซูจือไปแตะต้นไม้ต้นนั้น"

     


    นิ้วเรียวชี้สั่งและซูจือบินตามไปแตะจบครบทำเอาคนดูแทบเวียนหัวกันไปข้างนึง   ...อะไรกันวะบินไปบินมาจนเวียนเฮดแล้วนะเนี่ย T^T...   เมื่อแตะจนครบม่านหมอกเริ่มโรยตัวลงมาทางเดินสีขาวเปล่งประกายทอดยาวไปเรื่อยและทั้งหมดก็เริ่มออกเดินอีกครั้ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จนกระทั่งเดินมาได้สักพักภาพตรงหน้าก็ปรากฎให้เห็น รั้วที่ทำจากอิฐบล็อคสีเทาตั้งยาวเรียงรายจนสุดลูกหูลูกตาและประตูรั้วถูกดัดเป็นลวดลายต่างๆสูงเสียดฟ้า

    ป้ายชื่อขนาดยักษ์ที่ติดอยู่บนรั้วถูกสลักเป็นตัวหนังสือสีทองสวยงาม 'SJ School' เมื่อร่างบางเงยหน้าไปด้านบนก็พบกันร่างที่คลุมด้วยผ้าคลุมสีเทาตั้งแต่หัวจรดเท้าส่วนใบหน้านั้นถูกสวมด้วยหน้ากายักษ์ทั้งคู่กำลังกระโดดลงมาจนถึงพื้นด้วยท่าทางสวยงาม

     


    "สวัสดีชั้นต้องการพบผู้อำนวยการของที่นี่หน่อย"

     


    เมื่อทั้งสองเห็นว่าใครเป็นคนพูดก็ก้มหัวทำคความเคารพอย่างนอบน้อมยิ่งเห็นสัญลักษณ์ของเทพโครนอสยิ่งค้อมตัวแทบติดพื้น ประตูรั้วค่อยๆเปิดออก ทั้งหมดเดินเข้าไปด้านใน

     


    "นี่เจ๊ ทั้งสองคนนั่นใครน่ะ"

     


    "ชิกามิยังไงล่ะ"

     


    เมื่อเห็นทั้งสองคนทำฉงนโดยเฉพาะซีวอนโบอาเลยอธิบายต่อ

     


    "ทวารบาลของที่นี่ ส่วนมากมันก็คือสัตว์อสูรที่คอยทำงานรับใช้เจ้านายแค่นั้นแหละ"

     


    ฮีชอลพยักหน้าหงึกหงักพลางมองสถานที่โดยรอบ ที่นี่มีอาคารสูงหลายแห่งถูกสร้างเป็นทรงยุโรปสไตล์โกธิคและไบแซนไทค์สลับกันดูหรูหราอย่างลงตัว อีกทั้งมีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าของแต่ละอาคาร รูปปั้นต่างๆตั้งเรียงรายตามทางเดินและมีทางเดินเชื่อมแต่ละตึกอีกต่างหากรวมถึงต้นไม้เขียวขจีถูกตัดแต่งสวยงามอยู่โดยรอบของสถานที่แห่งนี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทั้งหมดเดินผ่านอาคารทั้งหมด เดินเข้าไปในดงต้นไม้อีกสักพัก    ...อะไรวะนี่กรูมาเดินทางไกลรึไงกัน เหนื่อยวุ้ย =_=**...   มือหนาเอื้มมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้านวลจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือกและหันไปมองร่างสูงทันที

     


    "เหงื่อพี่ออกเลยเช็ดให้ไงครับ พี่ไหวใช่มั้ย"

     


    "ไหวสิชั้นไม่ใช่คนอ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย  -^-"

     


    พูดจบก็เดินพรวดๆไปยืนอยู่ข้างๆซูจือ     ...ไอ้เด็กบ้านั่นจู่ๆก็ทำอะไรของมันฟ่ะแล้วทำไมหน้าเราต้องร้อนฉ่าแบบนี้ด้วยเนี่ยโอ๊ย ย ย คิมฮีอยากจะบ้าตาย...     เมื่อมาถึงที่ฮีชอลเห็นบ้านทรงยุโรปทาสีครีมปนกับสีชมพูอ่อนๆดูแล้วอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่าเด็กๆดังอย่างไม่ขาดสายจนร่างบางอดแปลกใจไม่ได้

     


    "ทำไมมีเสียงเด็กแถวนี้ด้วยล่ะเจ๊ =O=??"

     


    โบาอาไม่ตอบได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอซูจือก็บินต่อไปจนมาถึงหน้าประตู มือขนาดจิ๋วเคาะประตูอยู่สามสี่ทีประตูไม้สีน้ำตาลเปิดออกเจอกับชายหนุ่มร่างท้วมดูมีอายุสักประมาณสามสิบปีถึงสี่สิบปีพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นจนร่างบางนึกถึงผู้เป็นพ่อขึ้นมา

     


    "มาถึงกันแล้วเหรอ นึกว่าจะใช้เวลามากกว่านี้ซะอีก เข้ามาๆ"

     


    "นายก็น่าจะรู้อยู่คุณชินดงฮี"

     


    โบอาหัวเราะคิกๆ ทั้งหมดเดินผ่านห้องต่างๆที่กั้นด้วยประตูกระจกใสซึ่งด้านในเต็มไปด้วยเด็กๆไม่ถึงสิบคนวิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าว บางคนก็ร้องไห้จ้าโดยมีคุณครูคอยปลอบ ที่สำคัญแต่ละคนนั้นไม่ใช่มนุษย์บางคนมีหูของแมวงอกออกมา หูของสุนัข มีเขา มีอปีกงอกออกมา

    ...อะ อะไรกันที่นี่มันอะไรกันเนี่ย ! ! มาเจอกับพวกแปลกๆอีกแล้ววุ้ยกรู =_=''...     เมื่อมาถึงห้องที่อยู่ส่วนในสุดของบ้านก็เจอกับห้องโถงที่กว้างขวางตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแล้วยังไงมันก็แพงสุดหูรูดแน่นอน เมื่อเจ้าของบ้านผายมืออกเป็นการเชื้อเชิญให้นั่งทั้งหมดก็นั่งลงยกเว้นฮีชอลกับซีวอนที่ยืนทำหน้ากระอักกระอ่วนอยู่

     


    "จะ จะดีหรอครับตัวผมเปื้อนฝุ่นเปื้อนเลือดแบบนี้เดี๋ยวเปื้อนโซฟาของคุณหมด เดี๋ยวผมยืนเอาก็ได้นะครับ"

     


    ฮีชอลพูดออกตัวอย่างเกรงใจ

     


    "ไม่เป็นไรหรอก นั่งเถอะ"

     


    เมื่อฮีชอลและซีวอนนั่งลงชินดงก็เริ่มพูด

     


    "เอาละโบอามีเรื่องอะไรรึเปล่าถึงมาหาชั้นถึงที่นี่ แล้วก็พาคุณโคลวแล้วก็นัยน์ตาสีทองมาด้วยทำไมรึ"

     


    ทั้งสองคนที่ถูกพาดพิงถึงนัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

     


    "ไม่ต้องตกใจไปหรอก ถึงยังไงชินดงก็เป็นถึงพ่อมดแห่งยุคอีกคนเลยนะ เรื่องแค่นี้ทำไมเค้าจะไม่รู้"

     


    "นั่นเคยเป็นหรอกโบอา ตอนนี้ชั้นล้างมือแล้ว"

     


    "คิก ชั้นมีเรื่องจะวานหน่อยอยากจะฝากทั้งสองคนไว้กับนายหน่อยได้มั้ย นายก็น่าจะรู้สถานการณ์ตอนนี้ดีขืนปล่อยไว้ด้านนอกคงถูกตามล่าจนเสียตาทั้งสองข้างไปแน่"


    "ได้สิ"

     


    ชินดงยิ้มออกมาอย่างใจดี

     


    "ยินดีที่ได้รู้จักนะทั้งสองคน ชั้นชินดง ผู้อำนวยการของSJ School"

     


    "อ่ะ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมคิม ฮีชอลมากจากโลกที่ต่างจากคุณฮะ"

     


    "ผมชเว ซีวอนองค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรเซเรส ยินดีที่ได้รู้จักครับ แต่ตอนนี้ผมคงเป็นคนสามัญธรรมดาซะแล้วล่ะครับ ^_^"

     


    "อ๋อ มาจากอาณาจักรเซเรสรึ เมื่อก่อนชั้นก็เคยไปเทียวอยู่พักนึงนะที่นั่นสวยมากๆเลยล่ะ ^_^"

     


    ซีวอนอดอมยิ้มอย่างภูมิใจเสียไม่ได้

     


    "นี่ทั้งสองคนมาจากโลกเดียวกันรึ"

     


    "เปล่าฮะ ผมกับเจ้าเด็ก เอ๊ย ซีวอนมากจากคนละโลกกัน"

     


    ชินดงพยักหน้าแล้วหันไปคุยกับโบอาและโคลวต่อเมื่อไม่ได้เจอคนที่นานๆทีจะได้เจอกันก็ต้องมีเรื่องคุยกันเป็นธรรมดา เมื่อเห็นว่าบทสนทนาได้จบลงคนที่ช่างขี้สงสัยก็ถามขึ้น

     


    "เอ่อ ขอโทษนะครับ คือที่นี่เป็นที่แบบไหนหรอฮะ ตอนที่เดินเข้ามาผมเห็นมีเด็กเล็กๆเต็มไปหมดแล้วก็ดูพวกเค้าไม่ใช่มนุษย์เลย"

     


    "ที่นี่เป็นโรงเรียนรับบุคคลทุกประเภทยกเว้นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเทพ กึ่งสัตว์ แวมไพร์หรืออะไรก็ตาม และรับตั้งแต่เด็กตัวเล็กๆจนถึงระดับชั้นตามที่มีในโลกมนุษย์แล้ววันนี้ก็เป็นวันเปิดรับสมัครเรียนเป็นวันสุดท้ายสำหรับเด็กเล็กพอดี ส่วนเด็กโตนั้นเริ่มเรียนไปได้สองอาทิตย์ได้"

     


    "แล้วรับสมัครเรียนเหมือนปกติรึเปล่าครับ -O-"

     


    "เปล่าก็แค่ใครมาทันตามที่วันเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้นเอง แต่ก็มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นแหละที่จะมาทัน"

     


    "ทำไมล่ะครับ"

     


    "มันก็เป็นเรื่องของพรหมลิขิตเหมือนกันว่าใครที่จะได้มาอยู่ที่นี่"

     


    "คุณนี่พูดเหมือนเจ๊ เอ๊ย คุณแม่มดเลยนะเนี่ย -3-"

     


    "แล้วพวกเค้าได้กลับบ้านหรือเปล่าครับ เห็นกว่าจะเดินทางมาได้ก็ลำบากน่าดู"

     


    ซีวอนที่นั่งฟังอยู่เฉยเลยถามขึ้นบ้าง

     


    "ที่นี่มีหอพักสำหรับนักเรียนอยู่แล้วล่ะ"

     


    "รวมถึงพวกเด็กๆด้วยรึเปล่าครับ" (ชอล)

     


    "ใช่ จะให้พวกเค้าเดินทางไปกลับก็กระไรอยู่ เด็กจะเหนื่อยเสียเปล่าแล้วผู้ปกครองก็เสียเวลาด้วย"

     


    "คุณชินดงฮะ คือยังไงพวกผมก็ต้องพักอยู่กับคุณ มีอะไรให้ผมช่วยทำบ้างมั้ยคือผมไม่อยากจะอยู่เฉยๆน่ะครับ" (ชอล)

     


    "ผมก็ด้วยครับ ไม่อยากจะอยู่ว่างโดยไม่ทำอะไรให้คุณเลย" (วอน)

     


    ชินดงยิ้มอย่างใจดี

     


    "ทั้งสองคนลองไปเดินๆดูด้านนอกก็แล้วกันว่าอยากจะทำอะไร ถ้าเลือกได้ก็ค่อยมาบอกชั้นนะ"

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อเดินไปรอบๆก็ไม่รู้จะทำอะไรก็เดินเลยออกมาจนถึงอาคารที่เจอตอนแรกอีกครั้ง

     


    "เฮ้อ ไม่รู้จะทำอะไรแหะ =3="

     


    "นั่นสิครับ ผมไม่อยากจะอยู่เฉยๆเป็นตัวถ่วงคุณชินดงซะเท่าไหร่ดูท่า ถ้าพวกเราไม่ช่วยเค้าทำอะไรก็ไม่ว่าเสียด้วย"

     


    "นั่นสิ"

     


    ฮีชอลกัดริมฝีปากล่างอย่างทุกครั้งเมื่อเรื่องอะไรให้ขบคิด เสียงเด็กน้อยร้องไห้จ้าแหวกอากาศมาเมื่อเจ้าตัวกำลังเดินกลับไปยังที่เดิม ขาเพรียววิ่งไปตามเสียงร้องก็เจอกับเด็กคนนึงที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กลางป่า ใบหน้ากลมหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา จมูกนิด ปากหน่อย อีกทั้งสวมเสื้อฮู้ดสีชมพูกางเกงสีน้ำตาลอ่อนดูแล้วน่ารักน่าหยิกเสียจริง

     


    "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะจ๊ะคนดี เงียบซะๆ"

     


    ร่างบางโอบอุ้มเด็กน้อยมาอยู่ในอ้อมกอด มือเรียวลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มอย่างเบามือ นัยน์ตากลมเหลือบไปเห็นหูของเด็กคนนี้ก็ต้องเบิกกว้างก็ในเมื่อมันเป็นหูกระต่ายแถมยังขนฟูฟ่องน่าจับเสียด้วย    ...เหอะๆ สงสัยท่าจะจริงตามที่เจ้าตัวพูดแฮะ ขนาดกระต่ายยังรับ...

    เด็กตัวน้อยเกาะฮีชอลเสียแน่นแต่เจ้าตัวไม่โวยวายสักคำ    ...อ๊าย ย ย นะ น่ารักจังเลย T^T คิมฮีขอลาตาย อร๊าง ง ง...   ซีวอนที่ยืนมองอยู่ก็อดอมยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้ มือหนาเช็ดน้ำจากพวกแก้มนิ่มๆของเด็กน้อยออก

     


    "สวัสดีครับเด็กน้อย ชื่ออะไรครับ"

     


    "ฮึก ซองมินฮับ T^T"

     


    "คุณพ่อคุณแม่ของซองมินอยู่ไหนครับ"

     


    "มะ ไม่รู้ฮับ เมื่อกี้มะ มินแค่ออกมาเดินเล่น ละ แล้วหันไปอีกก็ไม่เจอคุณป๋อคุณแม่แล้ว ฮึก T-T"

     


    "งั้นเดี๋ยวพวกพี่ช่วยหานะครับ ซองมิน ^_^" (ชอล)

     


    ฮีชอลยิ้มออกมา รอยยิ้มที่กระแทกหัวใจซีวอนอย่างจัง     ...ทำไมพี่ยิ้มได้น่ารักแบบนี้เนี่ย ผมอดใจไม่ไหวขึ้นมาจะทำไงครับเนี่ย TT-TT...   ทั้งสองคนช่วยกันตามหาพ่อแม่จนมาถึงหน้าบ้านทรงยุโรปหรือเนสเซอร์รี่นั่นเอง ชายหญิงที่สวมชุดดูมีถูมิฐานมีสีหน้ากระวนกระวายอย่างเห็นโดยเฉพาะฝ่ายหญิงแล้วทั้งสองคนก็มีหูกระต่ายเหมือนกับเด็กคนที่อุ้มอยู่เสียด้วย

     


    "ซองมิน ! !"

     


    เห็นอีกฝ่ายตะโกนร้องหา ฮีชอลเลยวางซองมินลงขาป้อมๆวิ่งไปผู้เป็นพ่อแม่แล้วกระโดดกอดทันที

     


    "ซองมินไปไหนมาลูกพ่อกับแม่เป็นห่วงแทบแย่"

     


    "มินแค่ไปเดินเล่นนะฮับก็เลยหลงกับคุณป๋อคุณแม่ แต่มินไปเจอพี่คนสวยกับพี่ชายฉุดหล่อช่วยไว้พามาหาคุณป๋อคุณแม่ฮับ >_<"

     


    "ขอบคุณมากเลยนะคะที่พาแกมาส่งให้"

     


    "ไม่เป็นไรหรอกครับคุณน้า ^O^" (ชอล)

     


    "แต่น่าแปลกนะคะเพราะปกติแกจะไม่ค่อยให้คนแปลกหน้าอุ้มเลย ดูท่าแกจะถูกชะตากับคุณเสียล่ะมั้งคะ คุณเป็นคุณครูห้องไหนหรอคะ ^_^"

     


    "เอ่อ พวกผมไม่ได้เป็น.."

     


    จู่ๆฮีชอลหันมามองหน้าของคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

     


    "นี่ ซีวอนชั้นรู้แล้วล่ะว่าพวกเราจะทำอะไรดี ^O^"

     


    ซีวอนเลิกคิ้วด้วยความสงสัย


    "พวกผมขอตัวก่อนนะครับ พี่ไปก่อนนะซองมินถ้ามีโอกาสเราคงได้กันนะครับ"

     


    มือเรียวหยิกแก้มยุ้ยเบาๆแล้วจูงมือหนาแล้วตรงเข้าไปด้านในพร้อมกับฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

     


    "งานที่พี่จะทำคืออะไรหรอครับ"

     


    "เดี๋ยวก็รู้น่าเจ้าสิงโต"

     


    เมื่อเข้ามาถึงห้องโถงชินดงก็เอ่ยทัก

     


    "อ้าว กลับมาแล้วหรอ หางานที่จะทำกันได้รึยัง ? ?"

     


    "ครับ พวกผมจะทำงานเป็นครูดูแลเด็กที่นี่ครับ ^O^"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    M ag ic 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×