ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #17 : [KangxTeuk] Keep your vehemently touch ...END...

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 52


    Title :[KangxTeuk]  Keep your vehemently touch ...END...

     

    Type : Short Fic

     

    Rate : PG

     

     

     

     

     

     

     

    ===================================================

     

     

     





      ฉันเหนื่อยเหลือเกิน

      เหนื่อยจนหัวใจอ่อนล้า

      เหนื่อยจนทนไม่ไหว

      ถ้านายไม่ต้องการฉันก็ปล่อยฉันไปเถอะ

      สิ่งที่ทำให้ฉันอึดอัดทนแทบหายใจไม่ออก

      คือการที่นายแค่ต้องการเหนี่ยวรั้งฉันด้วยวัตถุ

      ช่วยเหนี่ยวรั้งฉันด้วยหัวใจของนายแทนได้มั้ย.....

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงที่เดินออกจากห้องมาเจอเหล่าเพื่อนที่ยืนหน้าเครียดกันหมด ซีวอนคว้าคอเสื้อคังอินทันทีที่มาถึงห้องนั่งเล่นเดือดร้อนคนที่เหลือต้องรั้งสิงโตที่กำลังโมโหเอาไว้

     

    "มึงทำอะไรทึก ไอ้คัง ! ! ! !"

     

    เขาปล่อยให้เพื่อนคนนี้ทำตามใจชอบมามากแล้วถึงเวลาที่เขาต้องปกป้องเพื่อนแฟนบ้าง เขาไม่อยากเห็นซินต้องร้องไห้ทุกครั้งที่ได้รู็ข่าวทึกกี้ คังอินเงียบไม่ยอมตอบ

     

    "โธ่เว้ย ! ! !"

     

    ซีวอนปล่อยคอเสื้อหันไปเตะโต๊ะเพื่อระบายอารมณ์

     

    "ไอ้คังมึงตอบไอ้วอนไปเถอะว่ะ" (คยู)

     

    "มึงอย่าทำอะไรเขาอีกเลยกูขอ" (ฮัน)

     

    "กูไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้เวลารู้ข่าวนางฟ้าแล้ว" (บอม)

     

    "กูว่ามึงพอเถอะคัง ไปคุยกับเขาซะแทนที่มึงคิดจะกักขังเขาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่าทำอะไรให้นายไม่พอใจ" (เย)

     

    คังอินกุมขมับก้มหน้านิ่งเวลาผ่านไปสักพักจึงปริปากพูดอะไรออกมา

     

    "กูไม่อยากเสียเขาไป กูไม่อยากให้เขาหนีไปไหนเลย....."

     

    "คัง.....กูขออัดมึงสักทีเหอะวะ ! ! ! ! !" (วอน)

     

    "เฮ้ย ! !" (เย)

     

    "ล็อคตัวไอ้วอนไว้" (คยู)

     

    ทุกคนไปมะรุมะตุ้มที่ซีวอนทันที เวลาสิงโตโมโหนั้นแรงฟายจริงๆ

     

    "ไอ้เวรเอ๊ย อย่าบอกนะว่ามึงเอาโซ่ไปล่ามตัวเขาแบบนั้น ! !" (บอม)

     

    คังอินพยักหน้า

     

    "ไอ้หมีควาย มึงควายจริงๆว้อย ! !" (ฮัน)

     

    "ไอ้หมีฟายมึงแกล้งโง่ป่าววะเนี่ย เวรเอ๊ย" (บอม)

     

    "โอ๊ย ย ย ย ! !  กูต้องซื้อน้ำมันตับปลามาให้มึงแดกจะได้ฉลาดขึ้นจริงๆแล้วว้อย" (คยู)

     

    "มึงฉลาดเรื่องบริหารงานแต่มาตกม้าตายเรื่องความรักเนี่ยนะ กูไปเป็นลูกน้องมึงได้ไงวะเนี่ย แมร่งกูกลับไปรับช่วงกิจการที่บ้านแล้วกลับมาเป็นเพื่อนมึงดีกว่าว้อย" (เย)

     

    "ด่ากูจนพอใจยังวะ"

     

    คังอินเงยหน้าขึ้นมา  ...ตอนนี้เริ่มจะโมโหเหมือนกันนะเว้ย จู่ๆมารุมด่าๆๆๆๆๆๆอยู่ได้...

     

    "ไอ้คังมึงเสือกเอาของแบบนั้นไปล่ามเขาไว้เนี่ยนะ ถ้าเขาจะหนีก็หนีได้อยู่แล้วว้อย มึงลองใช้หัวใจล่ามเขาดูซิวะเอาให้ดิ้นไม่หลุดซะ" (วอน)

     

    "ใช่ มึงยิ่งทำยังงั้นเขาต้องการจะหนีมึงมากขึ้น" (ฮัน)

     

    "เลิกอยู่กับอดีตแล้วหัดมองคนที่อยู่ตรงหน้ามึงมั่ง" (เย)

     

    "........มึงรักเขารึเปล่าไอ้คัง ถ้ารักก็ขึ้นไปซะ ถ้าไม่มึงก็ปล่อยเขาไปอยู่ในโลกที่เจ้าตัวต้องการ เขาต้องการคำตอบจากปากมึงอยู่" (บอม)

    คังอินมองพวกเพื่อนๆด้วยสายตาสับสน      ...ไม่รู้ว่ารักคนๆนี้รึเปล่า ไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกันแน่รู้เพียงแค่ว่าไม่มีทางให้คนๆนี้หนีไหนแน่นอน แต่ก็กลัวว่าจะเจ็บปวดเจียนตายอีกครั้งเวลาเขาจากไป...

     

    ส่วนไอ้พวกเพื่อนที่รู้คำตอบอยู่แล้วดั๊นไม่บอกก่ะจะแกล้งให้ไอ้คนตรงหน้ารู้สำนึกเสียบ้าง ให้มันสัมผัสอุ่นไอแห่งความรักที่แท้จริงด้วยตัวเองอีกครั้ง คังอินลุกขึ้นไม่รู้ว่าอะไรให้เขาอยากจะขึ้นไปข้างบนเสียเหลือเกิน

     

    "กูไปดูเขาแป๊ปนึง"

     

    เหล่าเพื่อนๆกระตุกยิ้มอย่างน้อยไอ้เพื่อนคนนี้มันก็ไม่ได้ซื่อบื้อเรื่องนี้เสมอไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงยืนลังเลอยู่หน้าห้องว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ กลัวจะโดนร่างบางไล่ตะเพิดออกมาเนี่ยซิ  ...เอาวะเป็นไงเป็นกัน ! ! !...

    มือหนาผลักเข้าไป ร่างสูงเดินเข้ามาเขาได้กลิ่นคาวๆอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เขามองไปทั่วห้องจนเจอร่างหนึ่งที่นอนแน่นิ่งบนโซฟาสีขาวที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานดวงเบ้อเริ่ม หัวใจของร่างสูงดิ่งลงสู่เหวลึก

     

    "ทึกกี้ ! ! ! ! ! !"

     

    คังอินคว้าร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมกอดและปลดล็อคโซ่ที่ข้อเท้า ก่อนที่จะตบหน้าหวานเบาๆเพื่อให้ได้สติ

     

    "โธ่เว้ย นายอย่าตายนะ แมร่งเอ๊ย ! ! ตื่นสิทึกกี้ ตื่นสิได้โปรด"

     

    นัยน์ตาคมเหลือบเห็นข้อมือเรียวที่มีเลือดไหลไม่หยุดหย่อนเขาฉีกเเขนเสื้อตัวเองออกมามัดเหนือแผลเพื่อจะหยุดเลือด ร่างสูงอุ้มร่างบางลงมาด้านล่าง ตอนนี้เนื้อตัวเริ่มจะเย็นเนื่องจากการเสียเลือดแล้วใบหน้าคมฉายแววกลัว ตื่นตระหนกและกังวล

     

    "เอารถออกด่วนเลยเร็วเข้า ! ! ! ! ! ! !"

     

    ทุกคนตรงไปรถที่จอดใกล้ที่สุดและขับออกไปด้วยความเร็ว ร่างสูงตบหน้าหวานเบาๆอีกครั้ง ครั้งนี้ทึกกี้ค่อยลืมตาขึ้นมา

     

    "คะ คังอิน"

     

    "ทึกกี้นายฟื้นแล้ว ฉัน...ฉันขอโทษ ฉันรักนายนะ นายอย่าตายนะ ได้โปรดอย่าเป็นอะไรนะ"

     

    "ฮะๆ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ยที่นายบอกรักฉันเนี่ย"

     

    ทึกกี้ยิ้มอ่อนระโหยแรง มือหนาที่สั่นจนควบคุมไม่ได้ลูบไปหน้าหวานตอนนี้เขารู้ใจตัวเองแล้วว่ารักคนๆนี้ขนาดไหน ถ้าคนๆนี้เป็นอะไรไปเขาจะไม่ยกโทษให้ตัวเองเลย

     

    "นายไม่ได้ฝันไปหรอก ฉันรักนายทึกกี้ ฉันรักนาย"

     

    "ฮะๆ ฉันก็รักนายคังอิน"

     

    ทึกกี้มอบจุมพิตให้ริมฝีปากที่เคยอบอุ่นบัดนี้เย็นชืดเสียเหลือก่อนที่จะหลับตาไปอีกครั้ง

     

    "ทึก ! ! ทึก ! ! นายต้องตื่นขึ้นมานะ นายทิ้งฉันไม่ได้นะทึก ตื่นขึ้นมาสิ"

     

    คังอินเขย่าร่างบางตอนนี้เริ่มเย็นเฉียบกว่าที่เขาอุ้มออกมาจากบ้าน

     

    "เยมึงขับเร็วกว่านี้ได้มั้ย ! !"

     

    "กูเหยียบอยู่นี่ไงเล่า ถ้าเร็วกว่านี้มึงจะไปทัวร์นรกแน่ ! !"

     

    "อย่าตายนะทึก ได้โปรดตื่นขึ้นมาอยู่กับฉันเถอะ ได้โปรด ฮึก"

     

    น้ำตาไหลออกจากนัยน์ตาคมหยดแล้วหยดเล่า พอมาถึงโรงพยาบาลร่างบางถูกนำเข้าห้องผ่าตัดทันที

     

    "หมอครับ ได้โปรดช่วยเขาด้วย"

     

    คังอินจับตัวหมอที่กำลังจะเข้าห้องผ่าตัดไว้

     

    "ครับ ทางเราจะพยายามอย่างสุดความสามารถครับ"

     

    หมอผละตัวออกจากคังอินแล้ววิ่งเข้าห้องผ่าตัด ร่างสูงนั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าห้องพวกเพื่อนได้แต่ปลอบ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาเห็นน้ำตาของคนๆนี้ น้ำตาแห่งความเสียใจที่เพื่อนคนนี้เคยร้องให้กับคนรักในอดีต.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จิน นาริม หญิงสาวที่คังอินเคยคบด้วยและรักจนหมดหัวใจ รักมากทำให้เขาเสียใจจนแทบเป็นคนบ้าเมื่อเธอลาโลกนี้ไปด้วยการกรีดข้อมือตัวเอง

    ภาพในอดีตกำลังซ้อนทับกับภาพในปัจจุบัน......แค่เจอร่างบอบบางนอนจมกองเลือดเหมือนกับว่าเลือดภายในตัวเขานั้นเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง.......

     

    ...ภาพที่นาริมนอนในอ่างอาบน้ำยังติดตาเขาอยู่มานับจวบจนทุกวนนี้ น้ำถูกย้อมให้เป็นสีแดงของเลือดและไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ ร่างหญิงสาวขาวซีดแทบไม่มีเลือด

     

    'นาริม นาริมตื่นสิ ! ! !'

     

    'อา...คังเหรอ ฉันมันเป็นคนรักที่แย่มากเลยใช่มั้ยที่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวแบบนี้'

     

    'อย่าพูดอะไรอีกเลยนะ เดี๋ยวฉันพาเธอโรงพยาบาลนะ'

     

    ตัวของนาริมเย็นเฉียบดุจน้ำแข็งจนเขาแยกไม่ออกว่ามันเย็นเพราะน้ำหรือเพราะเสียเลือดมากกันแน่ มือเรียวที่ขาวซีดยกขึ้นแตะใบหน้าคมอย่างอ่อนแรง

     

    'ไม่ต้องหรอก ฉันอยากอยู่กับคังมากกว่า......แต่ตอนนี้ฉันไม่มีค่าพอที่จะยืนเคียงข้างนายหรอกนะคัง'

     

    น้ำตาไหลออกจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อนแสนสวย

     

    'นาริมมีค่ากับฉันเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่เธอยังสำคัญกับฉัน'

     

    'ฉันอยากฟังนายร้องเพลงจัง ฉันชอบเสียงของนายมากเลยรู้มั้ย'

     

    คังอินพยักหน้า น้ำตาไหลออกจากนัยน์ตาคม เขารู้ดีว่าตอนนี้มันสายเกินไปที่จะยื้อชีวิตของเธอ เสียงของคังอินดังก้องในห้องน้ำ นาริมค่อยๆหลับตาลงพร้อมกับมือเรียวที่ทิ้งลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกเมื่อจบเพลง

     

    'นาริม ม ม ม ม ม ม ม ม ม ม ม ! ! ! ! !'

     

    คังอินกรีดร้องเหมือนคนกำลังขาดใจตาย หลังจากนั้นเขาถึงรู้ว่านาริมถูกแก๊งค์ที่เป็นอริกับเขารุมโทรมจนทำให้เธอต้องจบชีวิตลง คังอินจัดการถล่มมันจนยับส่งไอ้เลวระยำทั้งหลายเข้าโรงพยาบาลเกือบปี เมื่อมันเพิ่งหายดีเขาก็ส่งให้เข้าไปกินข้าวแดงในคุกต่อตลอดชีวิตของพวกมันเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คังอินที่เคยยิ้มง่ายสดใสร่าเริงได้หายไปเหลือเพียงแค่คนที่เย็นชาไปกับทุกสิ่งทุกอย่าง จนเพื่อนๆอย่างพวกเขาภาวนาขอให้ใครสักคนมาช่วยรักษาแผลใจที่นับวันยิ่งกรีดลึกลงไปเรื่อยๆ แล้วคนๆนั้นก็เข้ามาในชีวิตของคังอิน......ทึกกี้

    ร่างบอบบางที่สดใสดั่งพระอาทิตย์ในฤดูร้อนเข้ามาละลายหัวใจมีน้ำแข็งเกาะกุมและค่อยๆรักษาแผลที่กรีดลึกให้มันบรรเทาจนเกือบหายดีแต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกต้องทำให้คังอินเจอภาพเหตุการณ์เดียวกันอีกครั้งหนึ่ง

     

    ''ทึกต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนนะ"

     

    คยูพูดปลอบ คังอินพยักหน้าแต่น้ำตาที่ไหลรินไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลยแม้แต่น้อย พวกฮีชอลที่เพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเหล่าแฟนๆของตนรีบบึ่งมาทันที ส่วนเรียววุคนั่นเยซองโทรไปบอก เมื่อมาถึงมือสวยฟาดลงบนใบหน้าคมจนหัน เพี๊ยะ ! ! ! ! !

     

    "ฮึก...ทำไมแกไม่ดูแลไอ้ทึกมัน"

     

    ฮีชอลคว้าคอเสื้อคังอินที่ตอนนี้เลื่อนลอยขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจกับคนตรงหน้าและเป็นห่วงเพื่อนของตน

     

    "ทำไมล่ะบอกฉันมาเซ่ ! ! !"

     

    ฮีชอลเริ่มอาละวาดจนซีวอนรวบเอวบางเอาไว้

     

    "ทั้งที่ๆไอ้ทึกมันรักแก รักแกมาตั้งนานแล้ว ทำไมแกถึงไม่เอะใจอะไรเลยสักอย่างเลย ฮือๆๆ"

     

    ฮีชอลยกมือปิดหน้าร้องไห้จนตัวโยน ส่วนคังอินทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิมน้ำตาก็ยังคงไหลไม่หยุด ซองมินร้องไห้มีคยูฮยอนคอยปลอบ ฮยอกแจซบอกกว้างของฮันกยองเพื่อซ่อนน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมไม่ขาดสาย

    เรียววุคคนที่อ่อนไหวที่สุดร้องไห้ตั้งแต่ที่ทราบข่าว เยซองอดสงสารคนตัวเล็กที่้ร้องจนตาบวมไม่ได้จึงลูบหัวปลอบ ดงเฮร้องไห้สะอื้นฮักๆในวงแขนของคิบอม

     

    "ฮือๆๆๆ ไอ้ทึกมันรักแกตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน มันดีใจมากเลยรู้มั้ยที่เห็นว่านายซื้อมันมา มันยอมแลกกับอิสรภาพที่มันรักและหวงเท่าชีวิตตัวเองเพื่อที่จะอยู่กับนาย รู้บ้างมั้ยไอ้หมี ฮือๆๆๆ"

     

    ยิ่งฮีชอลพูดเท่าไหร่มันเหมือนมีมีดนับร้อยเล่มกรีดหัวใจเขาอยู่

     

    "พอเถอะซิน ฉันขอร้อง"

     

    คังอินพูดออกมาอย่างแผ่วเบา หมอผ่าตัดเปิดประตูออกมาทุกคนหยุดทุกการกระทำวิ่งกรูไปมุงหมอทันที

     

    "ตอนนี้หมอรักษาบาดแผลให้เรียบร้อยแล้วครับ โชคดีที่ไม่กรีดโดนเส้นเลือดใหญ่แต่คนไข้เสียเลือดมากเราต้องการเลือดกรุ๊ปเอหรือโอก็ได้ ใครมีบ้างครับ"

     

    "ผมครับ ของผมกรุ๊ปโอ"

     

    "ครับ งั้นตามนางพยาบาลคนนั้นไปครับ"

     

    นางพยาบาลที่เพิ่งเดินออกมาพาคังอินไปอีกห้องเพื่อถ่ายเลือดให้ร่างบางที่นอนหลับด้านข้างไม่รู้เรื่องอะไร ตอนนี้ใบหน้าหวานขาวซีดเหลือเกิน ที่ข้อมือเรียวมีผ้าพันแผลเพียงแค่ทำให้ร่างสูงเจ็บแปล็บในหัวใจ แผลที่เกิดขึ้นจากเขา.....

    ตอนนี้ร่างบางถูกย้ายไปอยู่ในห้องที่ดีที่สุดในโรงพยาบาล คังอินนั่งลงด้านข้างกุมมือบอบบางที่เย็นเฉียบไว้ไม่ปล่อย เหล่าคนที่เหลือนั่งรอบ้างยืนรอบ้างรอบๆเตียงร่างบาง

    ...ได้โปรดฟื้นมาเถอะทึกกี้ ฟื้นมาเพื่อฟังคำบอกรักของผมอีกครั้ง คราวนี้ผมจะรักและดูแลคุณให้ดีที่สุดเท่าที่สองมือของผมจะทำได้ ฟื้นเถอะ........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาล่วงเลยไปถึงเช้าของวันใหม่ นัยน์ตากลมโตลืมขึ้นมองสภาพโดยรอบ   ...ที่นี่ที่ไหนกัน นี่....เรายังไม่ตายอีกเหรอแต่ทำไมฝันดีจัง ฝันว่าคังอินกอดเราและบอกรักเรา...

     

    "ทึกกี้นายฟื้นแล้ว ! ! !"

     

    คังอินที่เพิ่งตื่นจากการนอนฟุบด้านข้างพูดเสียงดัง เหล่าผู้ที่นอนเฝ้ากันกระเด้งตัวลุกขึ้นกันอย่างพร้อมเพรียงและมามุงเตียงถามเสียงแจ้วๆจนคนป่วยมึนและอึนสุดๆ

     

    "พวกนายอย่าถามทึกมากเซ่ เอาน้ำมั้ย"

     

    ทึกกี้พยักหน้าน้อยๆ คังอินรีบกุลีกุจอรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้ มือเรียวรับมาแล้วจิบไปสองสามอึกก่อนที่จะส่งแก้วคืนให้

     

    "ไอ้เพื่อนบ้า แกทำให้พวกฉันใจหายหมดเลยรู้มั้ย" (ซิน)

     

    "ฮึก ทึกพวกฉันเป็นห่วงแกแทบแย่" (เรียว)

     

    "ฉันนึกว่าแกไม่รอดกันรู้มั้ย ไอ้หมีบอกว่าตัวแกเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งเลย" (มิน)

     

    ส่วนฮยอกแจกับดงเฮร้องไห้จ้าตั้งแต่รู้ว่าทึกกี้ฟื้นไปแล้ว เดือดร้อนคุณแฟนทั้งหลายต้องลูบหัวลูบหลังปลอบกันยกใหญ่ เมื่อคุยกันจนเต็มที่.....

     

    "เดี๋ยวพวกฉันออกไปหาอะไรกินก่อนนะ" (วอน)

     

    "ไปเหอะ บอมหิวข้าวแล้ว" (บอม)

     

    คิมบอมจับครีบปลาน้อยอ้อนๆพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วย และทั้งหมดพากันยกโขยงออกไปโดยไม่ลืมซื้อข้าวมาฝากคังอินด้วย บรรยากาศในห้องเงียบเชียบ มือหนาที่กุมมือบอบบางก็ยังไม่ปล่อย

     

    "วันหลังนายอย่าทำแบบนี้ได้มั้ย อย่าทิ้งฉันไปเหมือนนาริม"

     

    "นาริม?"

     

    "อดีตคนรักของฉันที่จากไปด้วยการกรีดข้อมือแบบนาย"

     

    มือของคังอินสั่นไปหมดเมื่อพูดถึงร่างของหญิงสาวที่เขากอดจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตหล่อน

     

    "ตอนที่เห็นนายภาพของนาริมย้อนกลับมาให้นึกถึง อีกแล้วเหรอที่ฉันไม่สามารถรักษาสิ่งสำคัญไว้ในมือไว้ได้"

     

    น้ำตาลูกผู้ชายหยดลงหลังมือบอบบาง ทึกกี้ปาดน้ำตาที่ไหลตามใบหน้าคม     ...อย่าร้องไห้เลย มันทำให้ฉันเจ็บปวดไปด้วย...

     

    "อย่าจากฉันไปอยู่กับฉันต่อได้มั้ย อย่าหนีไปในที่ๆไกลแสนไกลที่ฉันไปไม่ถึง อย่าหนีไปอยู่กับนาริม....ฉันรักนายทึกกี้"

     

    นัยน์ตาสวยคลอไปด้วยน้ำตาตอนนี้คนที่เขารักข้างเดียวมาเป็นแรมปีกำลังบอกรักเขา

     

    "ขอโทษที่ดีแต่สร้างรอยแผลให้นาย ขอโทษที่ไม่เคยดูแลนาย ขอโทษที่ทำให้นายเจ็บปวด ขอโทษทำให้ได้แผลนี้มา"

     

    "...ไม่ยกโทษให้หรอก..."

     

    มือบอบบางเลื่อนจากการกอบกุม คังอินใจหายวูบกับคำตอบ

     

    "แต่ถ้านายตั้งใจจะรักษาแผลให้ฉัน....ฉันก็ยกโทษให้"

     

    มือบอบบางวางบนมือหนา รอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนแสงตะวันถูกส่งให้คนตรงหน้า

     

    "ฉันก็รักนายคังอิน รักมานานแล้ว"

     

    ร่างสูงมอบจุมพิตที่แผ่วเบาแต่หอมหวานสำหรับคนทั้งสองคนที่หัวใจตรงกัน............

     

    "เฮ้ ไอ้หมีอ้วนฉันซื้อข้าวมาให้แล้ว อุ๊ย ! สงสัยเข้ามาผิดจังหวะแฮะ" (มิน)

     

    "ผิดจังหวะมากเลยไอ้กระต่าย"

     

    คังอินผละจากริมฝีปากสีแดงแล้วหันมาแขวะไอ้กระต่ายตัวดีที่โผล่มาไม่ได้ดูตาม้าตาเรือแถมพ่วงด้วยไอ้เพื่อนทั้งหลายโผล่หัวกันสลอน ทึกกี้ได้แต่หน้าแดงแจ๋ด้วยความอาย

     

    "ลงเอยกันแล้วเรอะไอ้ทึก"

     

    ซินโผล่หัวมาดู ทึกกี้พยักหน้าอายๆ

     

    "พวกแกมีตาก็น่าจะเห็นแล้วนะเว้ย อย่าถามอะไรมากได้มั้ยนางฟ้าของฉันอายจนหน้าแดงไปหมดแล้วเห็นมั้ย"

     

    คนที่เพิ่งได้เป็นแฟนหมาดๆรีบขี้ตู่ว่าเป็นของตัวเองทันที

     

    "โห่ๆ ไอ้หมีควายขี้ตู่เอ๊ย ! ! !"

     

    เยซองที่แทรกตัวเข้ามาในห้องได้นั่งเปิดกล่องข้าวเคี้ยวตุ้ยๆแถมยังหลบลูกถีบจากหมีควายเป็นพัลวัน เสียงหัวเราะก้องกังวานดังภายในห้องผู้ป่วย.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนนี้เวลานี้ความสุขที่ต่างคนต่างมองหาพยายามไขว่คว้าได้มาอยู่ในมือ จงดูแลทนุถนอมมันเสียมิเช่นนั้นมันจะหลุดลอยไปอย่างไม่มีวันหวนคืนหรือถึงจะได้มันกลับมาคงจะมีสภาพที่บอบช้ำไม่เหมือนเดิม......แล้วคุณล่ะดูแล'มัน'ดีแล้วหรือยัง???

     

     

     

     

    M ag ic 






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×