ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #16 : [KangxTeuk] Keep your vehemently touch 4

    • อัปเดตล่าสุด 1 ส.ค. 52


    Title :[KangxTeuk]  Keep your vehemently touch 4

     

    Type : Short Fic

     

    Rate : PG

     

     

     

     

     

     

     

    ===================================================

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงวันที่สัญญากับพวกฮีชอล เหล่ากลุ่มตัวป่วน ตัวแสบมานั่งรอในห้องนั่งเล่นเรียบร้อย พวกเขานั่งรอคังอินนานเกือบสิบนาทีได้

     

    "โว้ย ย ! ! !ไอ้หมีฟายมันทำห่าอะไรอยู่วะ" (ซิน)

     

    "ใจเย็นๆน่า ถึงโวยไปไอ้หมีมันก็ไม่โผล่มาหรอก" (ด๊อง)

     

    "ช่าย ย สู้นั่งอ่านหนังสือกินขนมที่ลุงชินเขามาให้ดีกว่าอีก" (ฮยอก)

     

    "ถ้าแกไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าแกเป็นใบ้หรอกนะไอ้ไก่" (ซิน)

     

    ฮยอกโยนขนมเข้าปากต่อไม่สนใจคำพูดของซินแม้แต่น้อย

     

    "โอ๊ย ย ย ย ! !"

     

    เสียงของเยซองร้องดังลั่นที่มานั่งรอคังอินก่อนหน้าพวกเขาเกือบยี่สิบนาทีได้ ทุกคนพากันหันไปมองเป็นตาเดียวที่ต้นเหตุคือเรียววุค

     

    "สม ใครใช้ให้นายมาแย่งหนังสือเล่มนี้ล่ะ"

     

    "ไอ้ตัวป่วน ! ! !" (เย)

     

    ทั้งสองคนจ้องกันแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ทั้งหมดหันมานั่งคุยซุบซิบกันเสียแล้ว

     

    "พวกแกว่าไง" (ซิน)

     

    "ดูท่าไอ้คู้นี้มันต้องลงเอยกันอยู่แล้ว" (ฮยอก)

     

    พูดจบก็โยนขนมเข้าปาก

     

    "ชัวร์ป้าบ" (มิน)

     

    "ยิ่งกว่าแน่" (ด๊อง)

     

    "คิดว่าไอ้ซาลาเปาขึ้นอืดจะปราบเจ้าจัสมินได้รึเปล่า" (ซิน)

     

    "ได้แหงแซะ ฉันลงหนึ่งพันวอน" (ฮยอก)

     

    "ฉันห้าร้อยวอน" (ด๊อง)

     

    "ฉันแปดร้อยวอน" (มิน)

     

    "แต่ฉันว่า......เจ้าจัสมินต่างหากที่ปราบซาลาเปาลงได้ หนึ่งพันวอน" (ซิน)

     

    "ฉันได้ยินนะพวกแกพนันบ้าบอคอแตกอะไรกันไว้"

     

    ไม่วายคนหูดีอย่างเรียววุคดันได้ยินอีกด้วย ทั้งหมดสลายโต๋ทำตัวเหมือนเมื่อกี้ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่นานนักคังอินพาเพื่อนคนสำคัญของตนลงมาพร้อมกับที่ปิดตาและที่ปิดหูเอาไว้พอมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย มือเรียวค่อยถอดที่ปิดตาและปิดหูออก

     

    "คังอิน ทำไมต้องทำ....ซิน มิน ด๊อง เรียว ฮยอก ! ! !"

     

    ทึกกี้วิ่งโผเข้ากอดเพื่อนตัวเองที่ไม่ได้เจอนานนับแรมปี ทั้งหมดกอดกันกลมและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คังอินเดินเลี่ยงออกมาและพาเยซองออกไปคุยในที่ไกลจากพวกทึกกี้พอสมควร

     

    "นายปล่อยให้นางฟ้าออกมาเดินเล่นได้แล้วเรอะ"

     

    เยซองมองร่างบางที่นั่งร้องไห้โฮๆกับเหล่าผองเพื่อน เขาจำได้ว่าตอนที่อยู่ในห้องนั้น ผิวที่ขาวเนียนนั้นดูซีดเซียวไม่มีน้ำมีนวลเหมือนตอนนี้ แล้วรอยเลือดฝาดที่แก้มนั่นอีกล่ะที่ทำให้เจ้าตัวดูสวยสดใสขึ้นมาทันตา

     

    "อืม ตอนที่ไม่สบาย"

     

    "เฮ้ เกิดอะไรขึ้นเอ่ย ? ? เล่ามาให้กูฟังเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย"

     

    เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดออกจากริมฝีปาก........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นปาดน้ำตาแห่งความดีใจทิ้งก่อนที่จะหันมานั่งพูดคุยอย่างออกรส ถึงทุกคนจะรู้ว่าทึกกี้ถูกจับอยู่ที่นี่แต่มีเพียงฮีชอลเท่านั้นที่รู้ว่าทึกกี้ถูกทำอะไรบ้าง

    เขาไม่อยากให้พวกเพื่อนๆเศร้าเสียใจและอยากฆ่าไอ้หมี แค่เขาเสนอความคิดว่าให้ล่มบริษัทไอ้คังก็โดนไอ้พวกนี้ห้ามจนหัวชนฝาเพราะไอ้คังก็เป็นเพื่อนของเหล่าแฟนๆนี่นาอย่างน้อยก็ยกเว้นเรียววุคคนนึงล่ะ ทึกกี้ก็ยังรู้ว่าคังอินเป็นเพื่อนของบรรดาแฟนๆของเพื่อนทั้งหลายอีกด้วย....

    คนที่ทึกตกหลุมรักแรกพบเข้าอย่างจัง เมื่อครั้งที่ซินพาวอนมาให้เขารู้จักในฐานะแฟนและมีคนนี้ติดมาด้วย

     

    "ทึกแกเป็นไงบ้าง คงไม่โดนทำอะไรใช่มั้ย" (ซิน)

     

    "ห่ะ อือ"

     

    "แล้วไอ้หมีมันดูแลแกดีรึเปล่า" (ด๊อง)

     

    "ดีซิ"

     

    ทึกยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้มอย่างเด่นชัดแถมยังอมชมพูระเรื่ออีกด้วย ฮีชอลเดาได้ไม่ยากเลยว่าไอ้หมีบ้านั่นต้องทำอะไรดีๆให้ไอ้ทึกแน่นอน

     

    "แล้วเขาพาแกออกเดินเที่ยวที่ไหนบ้างรึเปล่า" (มิน)

     

    "แกพูดเหมือนยังกับฉันเป็นหมาเลยนะ ! ! เมื่อวันก่อนฉันยังไปเดินเล่นในเรือนกระจกกับเขาอยู่เลย"

     

    "เขาให้อาหารแกกินครบทุกมื้อใช่มั้ย" (ฮยอก)

     

    "แกถามบ้าอะไรเนี่ยเขาต้องให้ข้าวฉันกินทุกมื้ออยู่แล้วเซ่ ! ! ! !"

     

    พูดจบทึกกี้ตบหัวฮยอกแจไปหนึ่ง ป้าบ ! สักพักเหล่าแฟนๆของทุกคนพากันมาทยอยมาหาแฟนของตนเริ่มคุณซีวอน ต่อด้วย คุณคยู คุณฮันเกิง และคุณคิบอม

     

    "ไง ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ" (วอน)

     

    "โห ผมยาวชะมัดไอ้หมีควายมันไม่ได้พาเข้าร้านตัดผมบ้างรึไงฟ่ะ" (คยู)

     

    "ดีทึก เดี๋ยวนายฉันให้ไอ้หมียกคอมขึ้นไปให้นะ" (ฮัน)

     

    "เฮ้ นายดูดีขึ้นนี่" (บอม)

     

    "บอม ! ! !"

    ดงเฮแหวขึ้นมาด้วยหมั่นไส้ด้วยทั้งๆที่รู้ว่าทึกกี้มันโดนอะไรมาก่อนหน้านี้ยังทักว่าดูดีขึ้นอีก ป้าบ ! ! มือสวยที่แรงเยอะพอๆกับน้องช้างฟาดลงกบาลูกชายตัวเอง

     

    "ไอ้ลูกบ้า แกทักเพื่อนแม่กับเมียตัวเองแบบนั้นได้ยังไงห๊า ฉันล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเกือบได้หลานเป็นแมงมุมกับงู ! ! !"

    วีรกรรมที่สาวๆ(?)ไปถล่มบริษัทไอ้หมีถูกเล่าสู่กันฟังจนทำให้สามีแต่ละคนยิ้มแหยๆและเสียวสันหลังวาบๆกันเป็นว่าเล่นโดยเฉพาะซีวอน สงสัยถ้าพวกเขาแอบไปมีชู้มีหวังตายหยังเขียดแหงๆ มีแต่ทึกกี้ที่นั่งมองแต่ละคนสลับไปมา

     

    "เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมแกถึงต้องได้หลานเป็นแมงมุมกับงูด้วยล่ะซิน ? ? แล้วทำไมคังอินเขาต้องไปยกคอมไปให้ฉันด้วย ? ?"

     

    "ก็ฉันไปเดินซื้อของกันแล้วไอ้ด๊องดันอยากซื้อแมงมุมกับงูไปเลี้ยงที่บ้าน พอฉันไม่ให้มันเลยโวยวายใหญ่เลยว่าฉันรังเกียจลูกๆที่แสนน่ารักของมัน ให้ตายเหอะ ! !"

     

    ฮีชอลพูดคำโกหกที่เพิ่งคิดสดๆร้อนๆเมื่อกี้นี้ เขาไม่อยากให้คนๆนี้รู้ว่าพวกเขาไปทำอะไรกับบริษัทของคนที่แอบรัก

     

    "ส่วนคอมน่ะไอ้คังมันสั่งให้ฉันซื้อมาให้นาย"

     

     พูดจบฮันกยองกอดเอวบางของไก่น้อย หัวใจของร่างบางเต้นตึกตักๆและพองฟูยิ่งขึ้น  ...ความหวังที่มันยังไม่หายไปใช่มั้ย ความหวังที่คนๆนั้นจะหันมามอง...  คังอินและเยซองที่ยืนคุยกันเหลือบไปเห็นเหล่าพวกผองเพื่อนมากันครบเลยก่ะจะไปทักทายเสียหน่อย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงเดินเข้าทางห้องโถงที่ติดกับห้องเล่นคำถามของฮีชอลทำให้เขาชะงักเท้าทันที

     

    "ทึกแกไม่คิดจะจากที่นี่ไปบ้างรึไง แกไม่ทรมานรึไง" (ซิน)

     

    ทุกคนกลั้นหายใจรอฟังคำตอบจากคนตาสวย

     

    "ทรมานสิ ทรมานมากด้วยและคิดอยากจะหนีไปไกลๆ ไปให้พ้นๆซะ...."

     

    เพียงแค่นี้คังอินถึงกับหูอื้อตาลายเท้าถอยไปด้านหลังอัตโนมัติและพาตัวเองออกจากสถานที่แห่งนั้นมาหยุดอยู่ในสวนหมากรุกใหญ่ยักษ์ที่เจ้าของประโยคเมื่อกี้นั้นชอบเสียเสียเหลือเกิน ภาพวันนั้นก็ย้อนกลับมาภายในหัวของคังอิน ร่างบอบบางใส่ชุดนอนตัวโคร่งของเขากำลังปีนขึ้นตัวหมากรุกสีดำ

     

    'ไม่ได้ปีนเล่นแบบนี้ตั้งนานแล้วนะเนี่ย ว้าว ! ! ! คังอินวิวบนนี้สวยจังนายลองขึ้นมาดูบ้างสิ'

     

    รอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ถูกใจ....รอยยิ้มประทับแน่นอยู่ในหัวใจเขาตลอดมาเพียงแต่เขาปฎิเสธมาตลอด

     

    'เฮ้ เดี๋ยวตกลงมาหรอก'

     

    'ไม่หรอกน่า เร็วๆเข้า'

     

    ใบหน้าหวานย่นเมื่อยามถูกขัดใจ.....ทำไมเขาจะไม่รู้แต่ทำเป็นไม่สนใจ

     

    'ว้าาา ชิ'

     

    ริมฝีปากแดงเชิดขึ้นเวลาไม่พอใจ....เขารู้ดีมาตลอดแต่ทำเป็นมองผ่านมันเสีย

     

    'ลงมาได้แล้ว เดี๋ยวต้องไปดูที่อื่นอีก'

     

    'ได้ๆ  ลงเดี๋ยวนี้แหละ'

     

    ร่างบางที่กำลังโหนตัวลงมาแต่เท้าดันเหยียบพลาดทำให้เกือบร่วงลงสู่พื้น ยังดีที่มีแขนแกร่งมารับไว้ทัน เวลาที่ทำอะไรคนๆนี้จะต้องซุ่มซ่าม....เขาเห็นมาตลอด...............ตั้งแต่ที่พบกันครั้งแรกในฐานะเพื่อนแฟนของซินเดอเรลล่าแต่ไม่อยากที่จะจดจำ....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    "....ถึงอย่างนั้น ฉันก็ทำไม่ได้หรอกซิน ฉันทิ้งเขาไปไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไม? เพราะอะไร?ถึงไม่สามารถจากที่นี่ไปได้อาจจะเป็นเพราะคำว่ารักคำเดียวล่ะมั้ง ทำให้ฉันทิ้งทุกอย่างทิ้งแม้แต่อิสรภาพที่ฉันรักหวงแหน ฉันยังปล่อยมันให้หลุดลอยออกไปไกลแสนไกล"

     

    ทึกจับมือสวยมากอบกุมเอาไว้

     

    "ถึงยังงั้นไม่มีวันไหนที่ฉันไม่คิดถึงแก คิดถึงด๊อง คิดถึงมิน คิดถึงฮยอก คิดถึงทุกๆอย่างที่พวกเราเคยทำด้วยกัน"

     

    "ทึก..." (ซิน)

     

    ซองมินซบไหล่คยูเพื่อปิดบังรอยน้ำตา ฮยอกแจก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่กำลังจะไหล เรียววุคปิดปากน้ำตาคลอ ฮีชอลเม้มปากเป็นเส้นตรงนัยน์ตาแดงๆ มือของฮีชอลข้างที่ว่างจับปอยผมสีดำที่ตกลงมาทัดกับหูให้คนตรงหน้า

     

    "ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ ฉันจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆรักษาตัวเองด้วย"

     

    ฮีชอลดึงทึกไปกอดแน่น เขาอวยพรให้เพื่อนคนนี้ไม่ต้องทนทรมานจากน้ำมือของที่ตัวเองรักไปมากกว่านี้ ไม่ยังงั้นเขาเนี่ยล่ะจะพาคนนี้ออกจากที่นี่ไปเองแม้ว่าจะดิ้นพราดแค่ไหนก็ตาม หลังจากที่พวกเพื่อนๆกลับไปแล้วทิ้งไว้แต่เหล่าบรรดาแฟนๆที่รอพบหมีฟายตัวเบ้ง

     

    "เฮ้ ทึกไอ้คังไปไหนเหรอ" (วอน)

     

    "ไม่รู้สิ ฉันไม่เห็นเขาตั้งแต่พาฉันมาเจอกับพวกไอ้ซินน่ะ"

     

    "มันไปหมุดหัวอยู่ในรังผึ้งที่ไหนวะ" (ฮัน)

     

    "ถามไอ้ซาลาเปาที่เดินมานู่นซิ" (บอม)

     

    ร่างบางลุกขึ้นไปหาเยซองผมสีดำสนิทคลอกเคลียสะโพกมนยามเยื้องกาย ตัวเล็กผอมบางจนน่าทนุถนอม พวกเขาล่ะอิจฉาไอ้หมีบ้านี่จริงๆมีนางฟ้าอยู่ในมือแท้ๆแต่กลับเอาแต่สร้างรอยแผลในจิตใจจนเหวอะหวะจนเป็นบาดทะยักแล้วล่ะมั้ง

     

    "เยซอง คังอินล่ะพวกวอนมารอตั้งนานแล้วนะ"

     

    "คือว่า..."

     

    ไม่ทันทีที่เยซองจะพูดจบประโยค คังอินเดินมาให้เห็นทางด้านหลังเยซองร่างบางวิ่งไปหา นัยน์ตาสวยเหลือบมองโซ่ในมือด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ติดใจอะไร

     

    "ไปไหนของนายมาน่ะพวกวอนเขารอตั้งนานแล้วรู้มั้ย"

     

    มือหนาคว้าข้อมือเรียวและลากขึ้นบันไดไปทันที ร่างบางส่งสายตางงๆไปให้พวกซีวอนที่นั่งอึ้งกับการกระทำของเพื่อนตนรู้แต่ว่ามันจะต้องส่งผลที่ไม่ดีต่อนางฟ้าตาสวยแน่นอน พวกเขารีบตามไอ้เพื่อนตัวดีไปติดๆแม้แต่เยซองก็ด้วย

     

    "เฮ้ย ไอ้คังมึงจะทำอะไรวะ!!" (วอน)

     

    "ใจเย็นเว้ย ! !" (ฮัน)

     

    "สงบสติหน่อยไอ้หมี" (บอม)

     

    "มึงคุยกับเขาดีกว่านะเว้ยไอ้คัง ! !" (เย)

     

    พอมาถึงที่หมายคังอินปิดประตูเสียงดังและล็อคด้านในเอาไว้พวกเพื่อนได้แต่ทุบประตูและตะโกนให้เขาหยุดหารกระทำซะ ร่างบางถูกโยนลงบนเตียง โซ่สีเงินที่มีความยาวพอที่จะให้เดินรอบๆห้องได้สบายปลายด้านหนึ่งล็อคไว้กับขาเตียงอีกด้านถูกนำมาพันข้อเท้าเล็กและล็อคด้วยแม่กุญแจ

     

    "ทะ ทำอะไร"

     

    ร่างบางถามเสียงสั่น

     

    "ฉันไม่ให้นายหนีไปไหนหรอก ไม่มีทาง ฉันไม่ปล่อยให้นายหนีไปไหนเด็ดขาด"

     

    ร่างสูงบอกด้วยแววตาไหวระริก  ...รู้สึกเเน่นหน้าอกไปหมดเมื่อนึกถึงว่าร่างบอบบางข้างหน้าจะหนีหายไปไม่ได้เห็นอีก ไม่มีทางจะให้คนๆนี้หนีไปไหนเด็ดขาดจะต้องอยู่ที่นี่ไม่ว่าจะยอมหรือไม่ก็ตาม...   มือหนาสั่นระริกเมื่อแตะใบหน้าหวานและมอบจุมพิตที่แผ่วเบาเหมือนความรู้สึกของเขาตอนนี้่และเดินออกนอกห้อง ปล่อยให้ร่างบางนั่งนิ่งบนเตียง

     

    "อะ อีกแล้วเหรอ...ทุกอย่างก็ลงเอยเหมือนเดิม..."

     

    ทึกกี้แค่นยิ้มออกมา ถึงแม้ว่ามือจะสั่นระริกแววตาวูบไหวแต่เขาก็เพียงแค่ไม่อยากให้ของเล่นชิ้นนี้หลุดมือออกไปไหนอีกครั้ง

     

    "คังอินคนนั้นเป็นเพียงแค่ฝัน ฝันที่แสนดี ฝันที่เราโหยหามานานก็เท่านั้นเอง....ตอนนี้เราได้ตื่นขึ้นมาเจอกับคุณคิมในโลกความเป็นจริง..."

     

    ขาเพรียวเดินเข้าไปที่บาร์หยิบมีดปอกผลไม้ออกมาและนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรงพร้อมกับมองมีดในมือสลับกับข้อมือสีขาวของตน โลหะแวววับกระทบกับเนื้ออุ่นก่อนที่เลือดสีแดงสดจะไหลออกจากข้อมือเรียวเปียกชุ่มตัดกับโซฟาสีขาวเป็นดวงเบ้อเริ่มและเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น มีดต้นเหตถูกปล่อยลงบนพรมที่นำเข้าจากต่างประเทศ น้ำตาไหลออกจากนัยน์ตาคู่สวย อยากที่จะหลบอยู่ในฝันที่แสนดีตลอดไป.......ตลอดชั่วชีวิตของตน

     

     

     

     


      ปล่อยฉันไว้คนเดียว ฉันยังจะทนไหว

      ฝันได้ตามใจ มีเธอได้แสนนาน

      ให้ฉันเจอความจริง ฉันทนไม่ไหว......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    M ag ic 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×