ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Short fic : SJ & TVXQ by Cho-kune

    ลำดับตอนที่ #12 : [KangxTeuk] Keep your vehemently touch 1

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 52


    Title : [KangxTeuk]  Keep your vehemently touch 1

    Type : Short Fic

    Rate : PG

     

     

     

     

    ===================================================


      

      ถ้าเราเป็นปลาที่ต้องแหวกว่ายอยู่ในน้ำ.........

    แต่กลับไม่มีน้ำให้แหวกว่าย..........

      ปลาที่ขาดน้ำ..........

      ไร้อากาศหายใจ.......

      ไร้ที่พึ่งพิง.............

      ฉันต้องการ..........

      ใครสักคนมาช่วยต่อลมหายใจ..........

      ให้มีชีวิตอยู่ต่อไป..............

      หลุดออกจากบ่วงทัณฑ์ทรมาน............

      หลุดออกจากบ่วงความรัก.......


    ห้องสีเหลี่ยมกว้างขวางถูกตกแต่งแค่โทนสีสามสีเท่านั้น สีดำ สีเทา และสีขาว สีที่เหมือนใครคนนึงที่เขาเก็บได้มาจากตลาดมืด โต๊ะสีเทาถูกจัดวางอยู่มุมอ่านหนังสือแฟ้มงานต่างๆถูกกองไว้บนโต๊ะอย่างระเกะระกะสูงจนเกือบบังคอมพิวเตอร์สีดำ ชั้นวางหนังสือมีหนังสือนับสิบเล่มถูกยัดไว้รวมๆกัน บางเล่มถูกวางเอียงกระเท่เร่ บางเล่มถูกยัดเข้าไปจนยับยู่ยี่

    ถัดมาเป็นทีวีแบบโฮมเทียเตอร์ถูกตั้งตระหง่านไว้กลางห้องมีโซฟาหนานุ่มสีขาวตั้งห่างออกมา เตียงนอนสีดำสนิทถูกจัดวางไว้ห่างไกลจากสถานที่เมื่อครู่ ร่างสูงที่กำลังอยู่ในห่วงนิทรารมณ์สะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก ปิ๊บๆๆ ! ! มือหนาปัดนาฬิกาเรือนใหม่ที่เพิ่งซื้อเมื่อวันก่อนกลิ้งโคโร่บนไปสามสี่รอบก่อนที่จะหยุดร้อง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงกว่าร่างสูงจะเคลื่อนกายออกจากเตียงนอนไปยังห้องน้ำที่อยู่ถัดมา คังอินเดินออกจากห้องมาแต่งตัว วันนี้เขาไม่ต้องเข้าบริษัทไปดูงานปล่อยให้เยซองคนสนิทของตนเข้าไปดูแลงานแทน ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียว กางเกงยีนส์ซีดที่เจ้าตัวชอบใส่อยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะพาตัวเองลงไปรับประทานอาหารเช้า หลังจากหมดมื้อแรกของวันเสียงเรียกเข้ามือถือราคาแพงก็ดังขึ้น มือหนาหยิบขึ้นมาดู 'ซีวอน' และกดรับเมื่อเห็นเป็นเพื่อนของตน

     

    "ฮัลโหล มีไร"

     

    "เออ ไอ้คังเหรอวะ โอย....ซินอยู่เฉยๆก่อนซิ วอนขอคุยกับไอ้คังก่อน"

     

    "เอามาฉันจะคุยกับมัน! ! ! !"

     

    เสียงคู่หมั้นของซีวอนแหลมปรี๊ดจนคังอินได้ยินเต็มสองรูหู

     

    "มึงไปเคลียร์กับเมียมึงก่อนป่ะ ค่อยมาคุยกับกู"

     

    "เออ ขอเวลาแป๊ป.......ซิน วอนขอคุยกับมันเเป๊ปเดียว เดี๋ยวให้ซินคุยกับมันเลย"

     

    "คุยเร็วๆด้วย ! !.....ไม่สิ เอาหูมานี่ซิ"

     

    "โอ๊ย!!มันเจ็บนะซิน ดึงเบาๆหน่อย"

     

    เสียงของทั้งคู่ก็เงียบไปสักครู่

     

    "ฮัลโหล"

     

    "เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"

     

    "อืม วันนี้มึงว่างเปล่าวะ"

     

    "ก็....ว่าง ถามทำไม"

     

    "กูจะชวนมึงออกมากินข้าวเที่ยงด้วยกันหน่อย"

     

    "อืม ได้ที่ไหน ?"

     

    "ร้านเดิม เป็นส่วนตัวเเน่นอนไม่ต้องห่วง"

     

    "เออ"

     

    "พาทึกกี้มาด้วยนะไอ้หมี ! !"

     

    ตู๊ดๆ ๆ...... สายถูกตัดไปเรียบร้อยแล้วปล่อยให้คังอินเอ๋อรับประทานแถมยังไม่ให้ปฏิเสธแม้แต่คำเดียว

     

    "ไอ้....ไอ้ซิน ! ! !"

     

    นานพอดูกว่าคังอินจะตั้งสติได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์.........ตั้งแต่ที่เขาได้ทึกกี้มาจากตลาดมืด เป็นวันที่เขาต้องไปทำธุระ ธุระที่ว่านั่นคือการส่งมอบของเถื่อนกับบริษัทชื่อดังที่ค้าขายกันมานาน บังเอิญว่าซีวอนโทรมาหาเขาให้หาเพื่อนของซินที่ถูกขายสู่ตลาดมืด บังเอิญที่เขาอยู่ในห้องประมูลที่ว่าพอดี บังเอิญที่เขาเห็นคนคนนี้กำลังถูกประมูล บังเอิญว่าเขามีเงินมากพอจะสู้ราคากับราคาเก้าสิบล้านวอน บังเอิญว่า.........เขา........เคยพบเจอกันมาก่อน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ร่างสูงเดินเข้าร้านอาหารที่มากับซีวอนเป็นประจำ เขามาเพียงตัวคนเดียวไม่ได้พาคนที่คู่หมั้นของเพื่อนอยากจะพบมาด้วย เขาไม่มีทางพาของเล่นของตนออกจากกรงที่สร้างขึ้นแม้แต่ก้าวเดียวแน่นอน!! บริกรพาคังอินมาที่ห้องของซีวอนที่จองเอาไว้.......ทันทีที่คังอินก้าวขาไปข้างใน ฟ้าว~~เพล้ง ! ! ! แก้วใสถูกเขวี้ยงเฉียดใบหน้าคมเพียงไม่กี่เซน

     

    "ซิน! !"

     

    ซีวอนคว้าร่างบางที่เดือดจัดไว้ในอ้อมกอด คังอินค่อยๆหันไปตามทิศทางที่แก้วถูกเขวี้ยงไปกระทบใบหน้าคมเรียบเฉยแต่ภายในหัวใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆไปเสียแล้ว...อะไรวะแค่กูเดินเข้ามายังเจอแบบนี้ ถ้านั่งกินข้าวหน้ากูคงจุ่มอยู่ในน้ำแกงซะล่ะมั้ง...

     

    "ไอ้ซิมบ้าปล่อยฉัน ฉันจะฆ่ามัน ! ! !"

     

    "ใจเย็นซิซิน"

     

    "จะเย็นได้ยังไงห่ะ มันเอาไอ้ทึกไปขังแล้วถูกจั๊ดจาด่าด้าแบบนั้นน่ะ เป็นแก แกจะฆ่ามันมั้ยไอ้ฉ่อยศรี ! !"

     

    ร่างบางแว้ดออกมาอย่างเหลืออดแถมยังมาพาลใส่ซีวอนอีกต่างหาก ใช่แล้วเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ที่เขาได้ทึกกี้มาจนถึงปัจจุบันสองคนรู้มาตลอด ขอย้ำว่ารู้ทุกเรื่องด้วย ! ! คังอินเดินไปนั่งลงตรงข้ามทั้งสองคนและหยิบเมนูขึ้นมาสั่งอาหารโดยที่ไม่สนใจฮีชอลที่ยืนโกรธจนตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

     

    "ซินนั่งลงก่อนนะๆ ๆ"

     

    ซีวอนรีบดึงแฟนตัวเองลงมานั่งข้างๆก่อนที่จะจับหัวไอ้หมีฟายโขกกับโต๊ะ อาหารที่สั่งไปถูกทยอยนำมาเสิร์ฟปิดปากร่างบางที่กำลังจะโวยวายเอ็ดตะโรให้ห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากอาหารถูกลำเลียงลงท้องจนหมดฮีชอลเปิดประเด็นเป็นคนแรก

     

    "ทำไมแกไม่พาทึกมา"

     

    นัยน์ตากลมรี่ลงอย่างไม่พอใจ คังอินปรายตามอง

     

    "ทำไมฉันต้องทำตามที่คุณคิม ฮีชอลพูดด้วย ไม่สิคุณนายชเว ฮีชอลต่างหาก"

     

    "ไอ้เวร ! ! !"

     

    "ซินจ๋า ใจเย้น น น น น น น ! !"

     

    ซีวอนกอดฮีชอลอีกรอบเมื่อเจ้าหล่อน(?)ลุกพรวด

     

    "ไอ้คังมึงก็อย่าตอบกวนซ้งแบบนี้สิว้า เดี๋ยวที่รักกูฆ่ามึงนะ"

     

    คังอินไหวไหล่อย่างไม่หยี่ระ ฮีชอลได้แต่กระทืบเท้าปึงปังก่อนที่จะแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ใบหน้าสวยบูดบึ้ง

     

    "ไอ้หมีฉันจะถามแกอีกครั้งทำไมแกไม่พาไอ้ทึกมา"

     

    "ฉันมีสิทธิ์ในตัวของเล่นชิ้นนี้ จะอยู่ จะออกไปไหน หรือจะตายมันขึ้นอยู่กับฉัน......ไม่ใช่นาย ซิน"

     

    คังอินพูดเสียงเรียบพร้อมกับจ้องตากับคนหน้าสวยอย่างไม่ลดละ ฮีชอลกระตุกยิ้มที่มุมปาก

     

    "ตกลงยังไงก็ไม่ปล่อยให้ไอ้ทึกออกมาหาฉันใช่มั้ย"

     

    คังอินไม่ตอบ

     

    "ถือว่าเป็นคำตอบก็แล้วกันนะไอ้หมี"

     

    ฮีชอลลุกออกจากโต๊ะ

     

    "ซินจะไปไหน"

     

    "ไปข้างนอกต่อแล้วค่อยเจอกันนะใหม่คุณชายคิม ยองอุน"

     

    ก่อนกลับฮีชอลฝากของขวัญให้ชิ้นใหญ่เบ้อเริ่มเสียด้วย โครม ! ! เพล้ง ! ! ร่างบางถีบโต๊ะอาหารจนคว่ำเฉียดคังอินเพียงแค่2นิ้วก่อนที่จะพาร่างบอบบางไปหาบริกรที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นพับๆอยู่มุมห้อง

     

    "นี่ ค่าเสียหายทั้งหมดคุณชายเสื้อสีฟ้าเค้าออกเงินทั้งหมดนะ"

     

    ฮีชอลเดินตัวปลิวออกไปพร้อมกับกระเป๋าสีชมพูก่อนที่จะชะโงกหน้ามาเรียกแฟนตัวเองพร้อมรอยยิ้มหวานบาดใจ

     

    "ไปเถอะวอนนี่"

     

    ซีวอนมองเลิกลั่กแต่ก็ต้องตามแฟนตัวเองออกไปทิ้งให้พี่หมีจัดการกับค่าเสียหายที่ซินเดอเรลล่าทิ้งเอาไว้..........มือเรียวหยิบมือถือสีแดงสดออกมาก่อนที่จะกดหาเพื่อนของตน

     

    "ฮัลโหล  มินนี่เหรอ"

     

    "ตอนนี้มินไม่ว่างนะครับซิน เท่านี้ก่อนนะ"

     

    คยูฮยอนรับสายแทนแฟนสาว(?)ของตนก่อนที่จะกดวางสายปล่อยให้ฮีชอลนั่งหน้าแดงเถือกกับเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน

     

    "ซินเป็นอะไร"

     

    ซีวอนที่ขับรถนำเข้าของตนหันมาถามที่รักของเขา

     

    "หันหน้าขับรถต่อไปถ้ายังไม่อยากตาย ! !"

     

    ร่างสูงหันขวับทันทีหลังจากคำประกาศิตหลุดออกจากจีบปากสวย ฮีชอลสบถอออกมาอย่างหัวเสียกับเพื่อนที่แสนดีก่อนที่กดไปหาเพื่อนของตนอีกคน

     

    "ฮัลโหล ด๊อง"

     

    "ฮ้าว~~มีรายซิน"

     

    "แกเพิ่งตื่นใช่มั้ยเนี่ย"

     

    "อืม....เอ๊ะ บอมอย่าซิเมื่อคืนก็เล่นไม่ให้ด๊องนอนไปแล้วนะ อ๊า า....บอกว่าไม่ยังไงเล่า ! ! โครม ! !"

     

    "แกไปเคลียร์กับไอ้แก้มแตกลูกชายฉันก่อนม่ะ"

     

    "ไม่ต้องซิน ฉันถีบมันตกเตียงไปแล้ว....อย่ามาพูดอะไรออกมาอีกนะ บอกแล้วไม่ ! !...ม่ะ ต่อๆแกมีอะไร"

     

    "ฉันจะให้แกช่วยอะไรหน่อย นัดรวมพลกันวันนี้เดี๋ยวนี้ด้วยที่ร้านของฮยอกกี้ ส่วนไอ้กระต่ายปล่อยมันไป ป่านนี้คงลัลล้ากับไอ้หมาป่าหื่นกามของมันอยู่"

     

    "โอเค เดี๋ยวเจอกันนะซิน.....บอมอยากโดนตบใช่มั้ยห๊า า า ! !"

     

    ปิ๊บ ! ! ฮีชอลกดโทรหาเรียววุคเป็นคนต่อไปหลังจากนั้นต่อด้วยฮยอกแจเพื่อไม่ให้เจ้าของร้านคาเฟ่เล็กๆที่มีบรรยากาศแสนรื่นรมย์หนีไปไหนกับฮันคยองชายหนุ่มที่มาจากแผ่นดินใหญ่ ซีวอนขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ทำไมซินต้องโทรหาพวกเพื่อนๆทุกคนด้วยนะ แล้วคิ้วด้านขวายังกระตุกไม่หยุดเลยแฮะ

     

    "วอนเดี๋ยวไปร้านฮยอกกันนะ"

     

    ฮีชอลเกาะแขนร่างสูงประจบเอาใจ ใบหน้าคมพยักนิดๆก่อนที่จะเปลี่ยนจุดหมายจากห้างสรรพสินค้าเป็นคาเฟ่แทน...........

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    คังอินที่กลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ไม่คงที่นักเนื่องจากเจ้าหญิงซินเดอเรลล่าของเจ้าชายซิมบ้าดันกวนประสาทเขาจนเกือบรวน ร่างสูงเดินมานั่งสงบสติอารมณ์ในห้องนั่งเล่นที่กว้างขวางเหมือนห้องโถงตามพิพิธภัณฑ์ พ่อบ้านชินดงเดินมาหาร่างสูงด้วยอาการร้อนรน

     

    "คุณชายครับ คุณชาย ! !"

     

    "มีอะไร"

     

    "คุณชายรีบโทรหาคุณเยซองด่วนเลยครับ"

     

    คังอินขมวดคิ้วเข้าหากันก่อนที่จะกดโทรไปหาเยซองตามที่พ่อบ้านบอก ส่วนพ่อบ้านก็ขอตัวออกไปทำงานต่อ

     

    "ฮัลโหล"

     

    "โอ๊ย กว่ามึงจะโทรกลับนะไอ้คัง กูรอจนหน้าหล่อๆเมื่อยไปหมดแล้ว"

     

    "มีอะไร"

     

    "ไอ้จองดงเจ้าของบริษัทG.D.Fมันเชิดหน้าบานๆหนีหนี้เก้าล้านวอนไปอยู่ฝรั่งเศสแถมยังจัดการยัดหนี้ทุเรศๆของบริษัทมันมาอยู่ที่บริษัทเราอีกเกือบหมื่นกว่าล้านวอน ส่วนไอ้มูนกวาที่กู้เงินไปร่วมสิบล้านวอนไม่รวมดอกเบี้ยไปอยู่อินเดีย มึงจะเอาไง"

     

    เยซองอ่านตามแฟ้มสีดำที่เพิ่งถูกนำมาให้เมื่อตอนเช้า คังอินถอนหายใจ เขาเบื่อหน่ายกับพวกหนีหนี้เสียเหลือเกิน

     

    "จัดการไอ้จองดงซะ ส่วนมึงเอาให้ให้ถึงตายหรือเปล่าก็เรื่องมึงเอาเครื่องในมันไปขาย มึงคงรู้นะว่าไปขายให้ที่ไหน ส่วนไอ้มูนกวาจับมันมาทำงานในบาร์ที่ญี่ปุ่น เป็นบาร์อะไรก็ได้ขอให้ได้เงินคืนมาเป็นพอถ้ามันไม่ยอมจับไปขายให้พวกทำหนังAVซะ ไม่สิ.....เอาไปประมูลขายได้เงินมากกว่า หวังว่าคงไม่พลาดนะไอ้ซาลาเปา"

     

    "ระดับเทพไม่พลาดอยู่แล้วเฟ้ย ไอ้หมีฟาย"

     

    เยซองรีบวางสายไปทันทีที่พูดจบ ร่างสูงได้แต่โมโหตาเหลือกอยากจะขับรถไปฆ่าไอ้ซาลาเปาหน้าบานที่บริษัทให้รู้แล้วรู้รอด มือหนาคว้านิตยาสารมาอ่านแก้เซ็งไม่ทันไรพ่อบ้านชินดงวิ่งกระหืดกระหอบลงมา

     

    "คุณชายครับ ! ! คุณหนูทึกกี้ คุณหนูทึกกี้ไม่สบายครับ"

     

    "ว่าไงนะ ! !"

     

    คังอินลุกพรวดพร้อมกับก้าวไปยังจุดหมายที่อยู่ชั้นสี่ของบ้านทันที.....หลังจากวันนั้นเขาไม่ก้าวเข้าไปเกือบห้าเดือนได้กระมัง ห้าเดือนที่ห่างหายไป ห้าเดือนที่ไม่ได้พบหน้า ห้าเดือนที่ไม่ได้แตะต้องของเล่นราคาแพง....ปัง ! ! มือหนาผลักประตูเข้าไปอย่างรุนแรงและมุ่งตรงไปยังเตียงสีขาวที่ร่างบอบบางนอนหายใจติดขัด มือหนาเอื้อมไปแตะหน้าผากมนแผ่วเบา

     

    "ตัวร้อนเป็นไฟเลยแฮะ ลุงชินเอาที่วัดไข้มาหน่อย"

     

    พ่อบ้านรีบหยิบมาให้คุณชายของเขาทันที มือหนานำแแปะวางบนหน้าผากขาว

     

    "39.5 ลุงชินไปเอาผ้ากับกะละมังใส่น้ำอุ่นมา ยาลดไข้ ที่สำคัญเอาชุดนอนมาด้วย"

     

    "ครับ....แต่คุณหนูทึกกี้ไม่มีชุดนอนนะครับมีแต่เสื้อเชิ้ตที่คุณชายทิ้งไว้ให้"

     

    ".....ไปเอาชุดนอนของผมมา"

     

    ร่างสูงเดินไปลากเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวมานั่งข้างๆร่างบาง มือหนาลูบหัวทุยเบาๆสายตาทอดมองร่างบางด้วยความเป็นห่วง...ห่วงว่าถ้าไอ้ซินมันรู้เรื่องมันฆ่ากูแน่ ! ! ! ...พ่อบ้านวิ่งนำของที่สั่งมาให้พร้อมกับสาวใช้อีกสองคนของทุกอย่างถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงนอน คังอินลุกไปหยิบกะละมังและผ้ามาชุบน้ำแล้วนำไปวางบนหน้าผากมน

     

    "อื้อ...นะ หนาว"

     

    ใบหน้าหวานสะบัดไปมาทำให้ผ้าร่วงหล่นบนหมอนแทน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจนิดๆ ก่อนที่จะวางไว้เหมือนเดิม

     

    "อื้อ..."

     

    "คุณหนู ผมว่าคุณหนูเปลี่ยนชุดก่อนเถอะครับ"

     

    พ่อบ้านแนะนำพร้อมกับหยิบชุดนอนของคุณชายยื่นให้ ร่างสูงรับมาก่อนที่จะโบกมือให้พ่อบ้านออกไปด้านนอก มือหนาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก แขนแกร่งช้อนร่างบางที่ตัวอ่อนปวกเปียกขึ้นมาเพื่อถอดเสื้อผ้าเช็ดตัวสีขาวที่ชุบน้ำแล้วค่อยๆลูบไล้ผิวขาวเนียนอมชมพูราวกับไข่มุกสีสวย...ผมได้แต่ถอนหายใจพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองอย่างหนักหน่วงไม่ให้ทำอะไรเกินเลยของเล่นที่กำลังป่วยอยู่...

     

    "หนาว...หนาว"

     

    "เฮ้อ..."

     

    ผมสวมชุดนอนให้เสร็จแล้วปลุกของเล่นให้กินยา

     

    "อื้อ....ยา....ไม่กิน...หนาว อือ"

     

    ร่างบางที่พอจะได้สติเล็กน้อยพยายามหันหน้าหนีเม็ดยาสีขาวที่อยู่ตรงหน้า แขนแกร่งล็อคเอวบางให้อยู่นิ่งๆ

     

    "กินเข้าไป ! !"

     

    เสียงทุ้มตวาดออกมาด้วยความหงุดหงิดกับคนป่วย ร่างบอบบางฟุบพิงกับอกแกร่งและหมดสติ ร่างสูงได้แต่สบถอย่างหัวเสียก่อนที่จะโยนเม็ดยาใส่ปากแล้วตามด้วยน้ำเปล่าและป้อนยาให้ของเล่นที่น่าถนุถนอม แขนแกร่งค่อยๆวางอย่างแผ่วเบาตามด้วยหม่ผ้าสีขาวทาบทับ ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้สักพักจึงลุกขึ้นไปที่ชั้นวางหนังสือเพื่อหาหนังสืออ่านฆ่าเวลารอแฟ้มงานจากเยซองที่กำลังขนมาให้เขา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มือหนาไล่ตามสันปกหนังสือส่วนมากในชั้นจะมีแต่วรรณกรรมสำหรับเยาวชนทั้งนั้น ทั้งอลิซในแดนมหัศจรรย์ โดโรธีกับพ่อมดแห่งออซ แมงมุมเพื่อนรัก เจ้าชายน้อย อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย ริมฝีปากกระตุกยิ้ม...หนังสือแต่ละเล่มที่เจ้านี่ชอบอ่าน......เด็กชะมัด...

    ก่อนที่จะหยิบเรื่องยุทธการวอเตอร์ชิป เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการออกค้นหาดินแดนอันเสรีสำหรับตนเองของเหล่ากระต่ายกลุ่มหนึ่งฉากสำคัญในเรื่อง คือ ทุ่งวอเตอร์ชิป นัยน์ตาคมเหลือบไปเห็นที่คั่นหนังสือ...หืม ? ? เจ้านั่นอ่านหนังสือเล่มนี้ค้างไว้ยังงั้นเรอะ...มือหนาเลื่อนไปเปิดหน้านั้นขึ้นมาเห็นที่คั่นรูปนางฟ้าที่เขาซื้อมา....

    ของขวัญชิ้นแรกที่เขาให้ของเล่น กี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยหยิบยื่นสิ่งดีๆให้ กี่ปีแล้วที่เขาหยิบยื่นแต่ความทุกข์ทรมานให้เพียงอย่างเดียว กี่ปีแล้วที่เขาเห็นแต่ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนตุ๊กตา ของเล่นชิ้นใหญ่ กี่ปีแล้วที่เขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกสดใสตามไปด้วย...ใช่...หลังวันนั้น วันที่เขาได้ความใสสะอาดบริสุทธิ์จากร่างที่บอบบาง ก๊อกๆ ! ! เสียงเคาะประตูปลุกให้ร่างสูงออกจากภวังค์

     

    "เข้ามา"

     

    "ไอ้คังกูเอางานมาให้มึงแล้ว"

     

    เยซองหอบงานที่สูงเกือบจะเท่าหัวเขาเข้ามาวางบนโต๊ะเขียนหนังสือ ร่างสูงเดินไปหยิบแฟ้มงานเกือบครึ่งของทั้งหมดมาวางไว้บนโต๊ะรับแขกก่อนที่ผละไปดูร่างที่นอนป่วยอยู่บนเตียงเพื่อเปลี่ยนผ้าขนหนูบนหน้าผาก มือหนาอังตามหน้าผาก แก้ม และลำคอขาว ดูเหมือนไข้จะลดลงไปหน่อยนึง

     

    "อะไรวะนางฟ้าตัวน้อยไม่สบายเรอะ"

     

    เยซองเดินผ่านฉากกั้นมายืนอยู่ข้างๆร่างสูงที่นั่งบนเตียงนุ่ม

     

    "มึงเข้ามาทำไม"

     

    คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจลึกๆ

     

    "ทำไมกูเข้ามาไม่ได้รึไงวะ ไอ้หมีขี้หวง"

     

    ร่างสูงถลึงตามองเพื่อนของตน เยซองไหวไหล่ก่อนที่จะออกจากห้องได้ทิ้งคำพูดเอาไว้

     

    "ถ้ามึงอยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม.......มึงลองทำตัวดีๆกับเขาสักครั้ง"

     

    ใบหน้าคมหันมามองของเล่นที่นอนอยู่หายใจติดขัด มือหนาแตะใบหน้าหวานที่อุ่นๆ นัยน์ตาคมมองด้วยสายที่ยากจะเข้าใจได้.............

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     M ag ic 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×