ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข้างๆ หัวใจ (ชื่อไม่เป็นทางการ)

    ลำดับตอนที่ #2 : เมาๆๆ และภารกิจสำคัญ

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 51


    หลังจากสนทนากับพวกญาติๆ เรียบร้อย วริศก็พาเพื่อนขับรถออกมาจากบ้านเพื่อตรงไปยังร้านหมูกระทะ

    ระหว่างที่รถแล่นไปเรื่อยๆ สหวิทย์นั่งนิ่งเหมือนท่อนไม้ ไม่ยอมพูดอะไร

    กินร้านเดิมหรือเปล่า

    ก็ดีเหมือนกัน อยากรู้ว่าจะอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า

    แล้วจากนั้นต่างคนก็ต่างนั่งเงียบ จมอยู่ในความคิดของตัวเอง

    คนหนึ่ง กำลังทำใจที่อีกฝ่ายกำลังจะแต่งงานในไม่ช้านี้ ส่วนอีกคน กำลังเดาความรู้สึกในใจของอีกฝ่าย ว่าคิดยังไงกับคำพูดที่ได้พูดลองใจ

    วันนี้นายดูเงียบๆ นะ ตั้งแต่ขับรถออกมาจากบ้าน ไม่เห็นชวนเราคุยเลย

    ก็ไม่มีอะไรหรอก

    วริศพูด ในขณะที่หัวก็กำลังคิดแผนการในอนาคตต่อ คราวนี้เห็นท่าว่าจะต้องย้ายงานไปทำที่เชียงใหม่ เพราะเขาคงจะทนไม่ได้ที่คราวนี้จะต้องอยู่ห่างกันไกลขนาดนี้

    มาถึงร้านหมูกระทะตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศของสายน้ำและสายลมทำให้สหวิทย์ดูผ่อนคลายมากขึ้น เขาหวังว่าลมและน้ำจะช่วยทำให้ใจของเขาเย็นลงได้

    จะรับอะไรดีครับพนักงานในร้านเข้ามาถาม

    ขอเบียร์หนึ่งเหยือกครับสหวิทย์หันไปพูดกับบริกรที่มารับออร์เดอร์

    อะไรว่ะ ทุกทีนายไม่เคยกินเบียร์ไม่ใช่หรอ คราวนี้เป็นอะไรหรือเปล่าวริศถามด้วยความตกใจ เพราะทุกทีเพื่อนเขาไม่เคยกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย

    ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากลองกินเท่านั้นเองอันที่จริงอยากกินฉลองสละโสดให้เพื่อนต่างหาก และกินให้ลืมสำหรับเขาเอง

    หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟนำเบียร์มาวางที่โต๊ะ สหวิทย์ก็ดื่มเอาๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งปิ้งของกินไปคนเดียว ไอศกรีมมหาชัยที่เคยบอกว่าอยากกินเพราะที่ร้านนี้มีบริการ ก็กลับไม่ได้รับความสนใจจากสหวิทย์แม้แต่นิดเดียว

    “แล้วแฟนนายเขาทำงานที่เดียวกับนายหรอ”

    “ก็ใช่ ยัยนิดาที่เป็นดาวคณะเดียวของเราไง”

    “อ๋อ คนนั้นเองนะหรอ” สหวิทย์พูด นี่แหละ คือสิ่งที่เขาอยากรู้

    ความจริงเรื่องนี้เป็นที่โจษกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เขาเคยได้ยินเพื่อนสนิทของวริศบอกว่า วริศแอบชอบอยู่กับวนิดา ดาวคณะที่เป็นที่หมายปองของใครหลายๆ คน และดูเหมือนว่าเธอเองก็จะสนใจวริศด้วย

    ความเสียใจยิ่งพร่างพรูขึ้น ทำให้เขากระดกเบียร์ขึ้นอีก และมีจังหวะในการดื่มเร็วขึ้น จนในที่สุด เขาก็เมาพับหลับไป

    วริศเห็นเพื่อนหลับ ก็เลยพยายามปลุกจนงัวเงียขึ้นมา

    เราว่ากลับบ้านก่อนไหม นายดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะ

    นาย...ไป...ส่ง...เรา...ที่...โรง...แรม...เถอะอีกฝ่ายพูดยานคางออกมาด้วยความเมา

    ชายหนุ่มค่อยๆ พยุงเพื่อนเดินออกจากร้านไปที่รถของเขา แล้วขับมุ่งหน้าไปที่โรงแรมที่พัก ส่วนเจ้าของห้องเองพอขึ้นรถได้ก็หลับเป็นตาย

    เมื่อรถแล่นมาจอดที่หน้าโรงแรม วริศพยายามปลุกเพื่อนก็ไม่ได้สติ  ทำให้เขาต้องไปถามเจ้าหน้าที่เช็กอินแล้วพาขึ้นไปบนห้อง เอากุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเพื่อนเปิดเข้าไปในห้องพัก แล้วก็ค่อยๆ วางร่างบางลงไปบนเตียงนอน

    นั่งพักเหนื่อยได้สักครู่ วริศก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในห้องน้ำ ชุบน้ำมาจนชุ่มแล้วค่อยๆ ไล้ไปบนตัวของคนที่นอนอยู่บนเตียง

    และเสียงละเมอก็ดังขึ้น

    ริศ ยินดีด้วยนะ ที่นายจะแต่งงาน ยินดีด้วยนะ

    ชายหนุ่มฟังแล้วขะงัก

    เดี๋ยวเราก็จะไปอยู่เชียงใหม่แล้ว คงไม่ได้เจอกันอีก ขอให้นายมีความสุขมากๆ นะ คนดีของผม เพื่อนที่รักที่สุดของผม

    นี่แหละ เป็นเหตุผลทำให้เพื่อนของเขากินเหล้าเมามากมายนี้เอง ชายหนุ่มจองไปที่ใบหน้าของเพื่อนสนิท สีหน้าของเขาสลดลง

    มันทำให้เขารู้ว่า การที่เขาตัดสินใจคบกับวนิดา เป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์ แล้วยังเป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายเพื่อนสนิทของเขาด้วย

    ถ้าเขาใจกล้าบอกความในใจหรือแสดงอะไรให้รู้บ้าง เพื่อนของเขาก็คงจะไม่เข้าใจอะไรผิดๆ แบบนี้

    วริศค่อยๆ ก้มหน้าลงไป ให้ริมฝีปากของตน แตะที่หน้าผากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา แล้วเช็ดตัวให้เพื่อนสนิทที่เขาหลงรักมานาน

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น สหวิทย์รู้สึกตัวด้วยอาการปวดหัวอย่างหนัก เหมือนมีใครเอาเหล็กมาถ่วงเอาไว้ที่หัว สายตาเขาสอดส่องมองไปรอบๆ ห้อง เห็นวริศนอนขดตัวหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวอย่างยากลำบาก เพราะความหนาวเย็นของแอร์ในห้อง

    เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง หยิบผ้าห่มไปห่มให้อย่างแผ่วเบา แต่เมื่อผ้าสัมผัสที่ร่างกาย ก็ทำให้วริศรู้สึกตัวทันที

    ตื่นนานแล้วหรอ วิทย์

    เปล่าหรอก เราก็เพิ่งตื่นนะ เห็นนายนอนหนาวอยู่ เลยลุกเอาผ้าห่มมาห่มให้

    สหวิทย์ค่อยๆ พยุงตัวเองไปนั่งที่เตียงด้วยความเวียนหัว แล้วก็ลุกขึ้นวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แล้วอาเจียนลงในโถส้วมอย่างหนัก

    วริศวิ่งเข้าไปลูบหลังให้เพื่อน หลังจากอาเจียนเสร็จ ก็ค่อยๆ พยุงให้สหวิทย์บ้วนปาก พาเดินออกมาจากห้องน้ำ

    ไม่เคยกิน แล้วไปกินทำไมวริศดุเพื่อน

    เปล่าหรอก ก็แค่อยากกินน่ะ เพื่ออะไรๆ ในใจมันจะได้ดีขึ้นบ้างสหวิทย์พูดดวงตามีรอยเศร้าอยู่เล็กน้อย

    ถ้านายมีอะไรอยากบอกเรา นายก็บอกเราได้นะวริศพูด เพราะเมื่อคืนคำละเมอของเพื่อนก็ทำให้เขารุ้ว่าคนที่เขากำลังพยุงอยู่นี้ คิดยังไงกับเขา

    ไม่มีอะไรหรอก เราบอกแล้วว่าไม่มีอะไรจริงๆ

    การเก็บอะไรไว้คนเดียว มันไม่ใช่หนทางที่ดีหรอกนะวริศเตือนเพื่อน แล้วก็เดินออกไปมองวิวที่หน้าต่าง ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในแววตา เพื่อนของเขาปากแข็งมากจริงๆ ไม่ยอมบอกความจริง

    สายตาของเขามุ่งมั่น เขาจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่า ความรู้สึกที่เขามีให้นั้น มันคืออะไร

     

    “นิดา เรามีเรื่องจะคุยด้วย”

    หญิงสาวร่างสูงเพรียว เดินถือแฟ้มเอกสารอยู่หันกลับมามองวริศ แฟนหนุ่มของเธอ ไม่ใช่สิ แฟนที่เธอตัดสินใจคบเพราะเธอต้องการจะช่วยเขา และเธอก็ต้องการให้เขาช่วยเธอเหมือนกัน

    เธอมองดูแววตาเขาแล้ว คงจะเป็นเรื่องสำคัญ เธอจึงเดินนำไปที่บันไดหนีไฟ

    “มีอะไรหรือเปล่า ริศ”

    วริศถอนหายใจ แล้วพูดว่า

    “นิดา เราเลิกกันเถอะ”

    หญิงสาวไม่มีแววตาเสียใจอยู่ในดวงตา พูดเรียบๆ ว่า

    “เพราะอะไร ริศ”

    “เราขอโทษที่หลอกเธอ ความจริงเราไม่ได้รักเธอเลย”

    วนิดาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า

    “คิดว่าเราไม่รู้หรอ วริศ ว่าเธอไม่ได้รักเรา”

    ชายหนุ่มหน้าถอดสี พูดว่า

    “ผมขอโทษนะ นิดา ผมไม่ได้ตั้งใจ”

    “ไม่เป็นไรหรอก เราไม่โกรธเธอหรอก ความจริงที่เราคบกับเธอก็เพราะว่าเราไม่ต้องการให้พ่อเราจับเราคลุมถึงชนด้วย เพราะฉะนั้น เราทั้งสองก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”

    “ผมขอบคุณมากนะ นิดา ที่ไม่โกรธผม”

    “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก สิ่งที่เธอจะชอบคุณฉันได้ คือ การที่เธอยอมสารภาพรักกับคนที่เธอรักเท่านั้นเอง”

    คราวนี้ใบหน้าของชายหนุ่มมีสีหน้าแห่งความตกใจ

    “เธอรู้ด้วยหรอ ว่าเรารักใคร”

    “อย่าลืมซิ ว่าเราเป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งห้าปี ทำไมเราจะไม่รู้ว่าหัวใจเพื่อนของเราอยู่ที่ไหน”

    “ตอนนี้วิทย์กำลังจะไปเป็นอาจารย์ที่เชียงใหม่แล้ว” ชายหนุ่มพูด

     “คนเรา เมื่อรู้ว่าหัวใจตัวเองอยู่ที่ไหน แล้วยังวิ่งหนีต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตของเขาก็จะไม่มีความสุข ในเมื่อเขาหนีเธอมาครั้งหนึ่งแล้ว การที่เขาหนีเป็นครั้งที่สอง แสดงว่าเขาเองก็ไม่มีความสุขเช่นกัน…เพราะฉะนั้น เธอเองนั่นแหละ ที่จะทำให้เขาหยุดหนีได้”

    วนิดาเตือนเพื่อนด้วยรอยยิ้ม เธอยินดีเหลือเกินที่เพื่อนคนนี้ของเธอยอมรับความจริงในหัวใจของตัวเองแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×