ตอนที่ 9 : The Accidental Love [9]
The Accidental Love
Pairing : Erik Lencherr x Charles Xavier
AU Fic X-men
[ 9 ]
“ ฉันควรไปจริงๆเหรอ” ชาร์ลส์เริ่มลังเล เขาอยู่หน้ากระจก ตอนนี้กำลังสวมเสื้อสูทสีดำราคาแพง ผมถูกจัดเสยเรียบแปล้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแต่งตัวเช่นนี้และมันก็เป็นครั้งแรก…ที่เขาจะไปงานเลี้ยง
“ แน่นอนอยู่แล้ว” เรเว่นที่ยืนข้างๆให้กำลังใจพี่ชาย “ชาร์ลส์ พี่ต้องมั่นใจในตัวเองสิ ถ้าพี่ไม่ทำแบบนั้นมอยร่าก็น่าสงสารแย่สิ”
เพราะผู้ที่ชวนชาร์ลส์ไปงานเลี้ยงก็คือมอยร่า เธอทำคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมือง พอไขคดีให้เขาได้รับความยุติธรรม เขาเลยเชิญเธอไปงานเลี้ยง แล้วเธอก็ชวนชาร์ลส์อีกต่อหนึ่ง
“ ก็จริง” ชาร์ลส์มีความมั่นใจมากขึ้นแล้ว “ พี่ดูโอเคแล้วใช่ไหม”
“ ดูดีเลยล่ะ” เรเว่นจัดหูกระต่ายให้เป็นอย่างสุดท้าย “ มาเถอะ มอยร่าคงจะมาแล้ว”
มอยร่ามาถึงแล้วจริงๆ เธอมาในชุดราตรีสีดำเปิดแผ่นหลังที่ทำให้เธอดูสวยมาก วันนี้เธอสวยจริงๆ พวกเขาทักทายกัน ชาร์ลส์เอ่ยชมเธอทำให้มอยร่าหัวเราะคิกคัก
“ มาๆเดี๋ยวฉันช่วยนะ” โลแกนช่วยแบกชาร์ลส์ขึ้นรถ ตอนนั้นเองที่ชาร์ลส์เกิดความรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง แต่พอมอยร่าถามว่าเขาพร้อมยังจะออกรถแล้วนะเขาก็ลืมความรู้สึกนั้นไป ชาร์ลส์พยักหน้า บอกครับๆ
เมื่อถึงงานเลี้ยง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ช่วยจัดรถเข็นและช่วยพยุงชาร์ลส์ให้อยู่บนรถด้วย
“…” ชาร์ลส์มองคนเจ้าหน้าที่คนนั้น
“ ชาร์ลส์…ชาร์ลส์…คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” มอยร่าเขย่าไหล่เขาเบาๆ
“ อ๊ะ! ผมไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร” ชาร์ลส์พยายามส่งยิ้มให้เธอ เขาชวนให้เข้าไปด้วยกันดีกว่า มอยร่ายิ้ม เธออ้อมมาด้านหลังช่วยเข็นรถให้เขา นั่นเป็นอีกครั้งที่ชาร์ลส์ก้มหน้าลงและครุ่นคิดบางอย่าง
ทั้งคู่เข้างานเลี้ยงด้วยกัน มอยร่าเข้าไปทักทายเจ้าของงานก่อนตามมารยาท พวกเขาคุยกันไม่เยอะ เจ้าของงานบอกให้พวกเขาตามสบายเลยก่อนจะขอตัวไปต้อนรับแขกคนอื่น มอยร่าพาชาร์ลส์มาอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง
“ คุณอยากได้เครื่องดื่มอะไรคะ”
“ เอ่อ อะไรก็ได้ครับ” ชาร์ลส์ตอบอย่างสุภาพ
“ ค่ะ รอสักครู่นะคะ” ดวงตาสีฟ้ามองตามร่างบางไป ระหว่างที่รอเขาก็แหงนหน้าขึ้น หลับตาลง รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกเลย เขากลับดีกว่าไหม
หมับ!
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหูพร้อมกับสัมผัสที่หัวไหล่ ดวงตาสีฟ้าลืมขึ้นในทันที
“ อีริค?” ชาร์ลส์ตาโต ทำไมอีกฝ่ายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ “ทำไม…”
“ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม” อีกคนที่คุ้นหน้าปรากฏจากด้านหลังของอีริค เธอคือเอ็มม่า
“ ทำไมพวกคุณถึงมอยู่ที่นี่ล่ะ” ชาร์ลส์ถามออกไปจนได้
“ เอ็มม่าเป็นเพื่อนของเจ้าของงานน่ะ” อีริคเฉลย ชาร์ลส์พึ่งจะสังเกตว่าอีริคอยู่ในชุดสูทสีดำซึ่งช่วยทำให้ชายหนุ่มดูดีมากขึ้น ส่วนเอ็มม่าก็อยู่ในชุดราตรีสีขาวที่ดูเซ็กซี่สุดๆ ดวงตาสีฟ้ายิ่งโตกว่าเก่า ชาร์ลส์อ้าปาก
“นี่พวกคุณ…” ชี้ที่สองคน
“ ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น” อีริครีบตอบ
“ แหมมมมม จะช่วยเล่นเป็นคู่รักให้ฉันสักนาทีก็ไม่ได้นะ” เอ็มม่าหัวเราะ
“ ใครได้เป็นคู่รักเธอต้องโชคร้ายน่าดู” อีริคบอกหน้าตาย
“ ถ้าฉันเป็นนายแล้วมีเอ็มม่าเป็นคนรักฉันคงเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก” ชาร์ลส์ไม่เห็นด้วย เอ็มม่ายิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำนั้น เธอเลื่อนมายืนข้างอดีตคนไข้
“ ฉันขอเปลี่ยนคู่ควงในคืนนี้ ชาร์ลส์ เซเวียร์ไม่ทราบว่าคุณจะมาเป็นคู่ควงให้ฉันได้ไหมคะ” เอ็มม่าโปรยยิ้ม นั่นทำให้เธอดูงดงามกว่าเก่า
“ ได้ครับ” ชาร์ลส์รับมุก จากนั้นทั้งคู่ก็หัวเราะ
“ แล้วนายมากับใครล่ะ” อีริคเปลี่ยนเรื่อง ชาร์ลส์ตอบคำถาม จังหวะนั้นมีบริกรคนหนึ่งเดินถือถาดที่มีแก้วเครื่องดื่มผ่านพอดี อีริคเอื้อมไปหยิบแล้วส่งให้เอ็มม่า เขาถามชาร์ลส์ว่าจะเอาด้วยไหม
“ ไม่ล่ะ” แต่เขาไม่ได้พูดต่อว่ามอยร่าไปหยิบให้แล้ว
“ อ้าว!?” เธอกลับมาพอดี ตำรวจสาวทักทายอีริคและเอ็มม่า ตั้งคำถามคล้ายๆกับชาร์ลส์และแน่นอนว่าอีริคปฏิเสธเช่นเคย ก่อนที่เอ็มม่าจะได้พูดแกล้ง
“ถ้างั้นพวกฉันไม่รบกวนเวลาพวกคุณแล้ว” เอ็มม่าควงแขนอีริค ลากให้เขาออกไปด้วยกัน สาวอีกคนบอกให้ทั้งคู่โชคดี
ดวงตาสีเทาเหลือบมองกลับมา เขาทันเห็นสีหน้าของชายหนุ่มอีกคนตอนที่รับแก้วเครื่องดื่มจากหญิงสาวพอดี และสีหน้านั่นก็ดูเศร้าอย่างปิดไม่มิด
แต่นั่นไม่ใช่ที่สุด…
งานดำเนินมาจนใกล้ถึงตอนจบและในค่ำคืนนี้เจ้าของงานก็ได้มีการจัดการเต้นรำ เป็นการเต้นวอลท์แบบโรมานซ์เขาหวังให้ทุกคนร่วมสนุกด้วย แต่งานนี้อาจจะยกเว้นชายหนุ่มคนหนึ่ง
“ ฉันไม่เต้นหรอกค่ะ ฉันเต้นไม่เป็นน่ะ” มอยร่ายืนเคียงข้างชาร์ลส์ ชายหนุ่มรู้ดีว่าเธอแค่พยายามพูดปลอบเขาเท่านั้น
ชาร์ลส์ได้แต่ฝืนส่งยิ้ม
“ มอยร่า ไม่มาเต้นรำเหรอ” ชายร่างยักษ์คนหนึ่งเดินเข้ามาตรงที่ทั้งคู่อยู่ ชาร์ลส์จำได้ว่าเขาคือหัวหน้าของมอยร่า หัวหน้าไม่ได้สังเกตเลยว่าชาร์ลส์อยู่ข้างๆ
“ ไม่ดีกว่าค่ะ” เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ ในตอนนี้เขาสังเกตเห็นชาร์ลส์แล้ว จึงได้หัวเราะแก้เก้อ ทักทายศาสตราจารย์ก่อนจะหลบออกไป หัวหน้าไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่ถามมอยร่าแบบนั้นและเมื่อคนที่สามที่ถามออกไป ชาร์ลส์ก็เปิดปาก
“ คุณไปเต้นรำเถอะครับ ไม่ต้องห่วงผม” ชาร์ลส์ส่งยิ้มซึ่งพยายามเต็มที่เพื่อไม่ให้คนมองจับได้ว่าฝืนทำ “ เพื่อนหญิงที่เดินมาทักคุณเมื่อกี้บอกว่าคุณชอบเพลงนี้”
“ แต่…”
“ ไปเถอะครับ ผมไม่เป็นไร ถ้าคุณต้องอยู่ตรงนี้แล้วเบื่อเพราะผม ผมคงรู้สึกแย่ยิ่งกว่า”
“ฉันไม่เบื่อค่ะ” มอยร่าบอกด้วยเสียงแน่วแน่
“…”
“ ผมดูเขาให้ก็ได้” บุคคลที่โผล่มาแทรกได้อย่างพอดีคืออีริค เลห์นเชอร์ “ พอดีผมไม่ชอบเต้นรำ”
มอยร่าอ้าปากจะปฏิเสธอย่างสุภาพ
“ มอยร่าเต้นรำกันไหม” เพื่อนคนหนึ่งจากสำนักงานตำรวจก็เข้ามาทักอย่างไม่ได้ดูสถานการณ์ซะเลย ชาร์ลส์รีบพูดกระตุ้นว่าให้เธอไปสนุกเถอะ ยืนยันว่าเขาจะไม่เป็นไร กว่าสามนาทีที่เกลี้ยกล่อม ในที่สุดมอยร่าก็ยอมแพ้
“ เดี๋ยวฉันมานะคะ” เธอกระซิบก่อนเดินออกไปพร้อมกับเพื่อน
เหลือแค่สองหนุ่ม…
“ เอ็มม่าไปไหนล่ะ” ชาร์ลส์เปิดบทสนทนาก่อน
อีริคไม่ตอบแต่ปรายตาไปตรงกลางห้อง บริเวณที่ใช้เต้นรำ เอ็มม่ากำลังเป็นคู่เต้นรำให้ชายคนหนึ่ง ชาร์ลส์คลับคล้ายคลับคลาจำได้ว่านั่นคือท่านนายกของรัฐ
“ เธอเป็นที่รู้จักในวงนั้น” อีริคยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
ชาร์ลส์พยักหน้า
“ เรา…ออกไปด้านนอกไหม” อีริคเอ่ยขึ้น
“ ไปไหน”
“ ข้างนอก ในสวนก็ได้ ฉันอยู่ในนี้แล้วอึดอัด” อีริคทำท่าขยับเนคไท ชาร์ลส์ตอบว่าเอาสิ เพราะเขาเองก็รู้สึกอึดอัดเช่นกัน หมอหนุ่มจึงช่วยเข็นพาเพื่อนออกมาสูดอากาศด้านนอกงาน
“สมกับเป็นบ้านของเศรษฐีและมีหน้ามีหน้าตา สวนสวยดี” อีริคเอ่ยชม
“ ฟังดูเหมือนนายไม่ค่อยอยากชมเท่าไรเลย” ชาร์ลส์คิดว่ามันแลฟังดูประชดมากกว่าด้วย
“ ฉันชมจริงๆ” อีกฝ่ายยืนยัน
“ ถ้าอย่างนั้นมิสเตอร์เลห์นเชอร์คงใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่อง” ศาสราจารย์ทำท่าเหมือนจะสอนภาษาให้ลูกศิษย์ตัวโต “ ควรพูดว่า สวนสวยงามมากเลย จะดีกว่า”
“ สวนสวยดี” ชายหนุ่มอีกคนดื้อไม่ยอมพูดตาม
ชาร์ลส์ถอนหายใจ ไม่ใช่ระอาหรือเบื่อ เป็นการถอนหายใจเพราะขำปนชอบมากกว่า เขาปล่อยให้อีริคเข็นรถของเขามาใกล้ๆน้ำพุ ขณะที่อีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นนั่งตรงขอบ พวกเขาปล่อยให้เวลาผ่านไปเงียบๆสักพักหนึ่ง
“นายเป็นอะไรไป”
“ อะไรนะ” ชาร์ลส์ไม่ทันฟัง
“ ฉันเห็นสีหน้านาย” อีริคพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ชาร์ลส์ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น “ ถ้านายไม่ได้ทำสีหน้าเศร้า ฉันก็ต้องคิดว่านายทำสีหน้าเบื่อ นายเบื่องานหรือเบื่อคนที่มาด้วยล่ะ”
“ ฉันเบื่อนาย” ชาร์ลส์มองด้วยหางตา เห็นอีกฝ่ายหน้าตึง “ ฉันแค่ล้อเล่น ไม่เอาน่า นายควรมีอารมณ์ขันมากกว่านี้นะอีริค”
แต่อีริคยังทำหน้าตึงไม่เลิก
“ บอกฉันมาสิว่านายทำหน้าแบบนั้นทำไม” ยังไม่เลิกถาม
ชาร์ลส์ส่ายหน้าให้ความดื้อของอีกฝ่าย “ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนแล้วจะตอบนายได้ยังไง”
มือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสหน้าของเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ และมันทำให้ชาร์ลส์สะดุ้งได้
“ นายกำลังทำอยู่” อีริคว่า “สีหน้าแบบที่ฉันพูด”
ชาร์ลส์นิ่งตกตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ยิ้ม “ ไม่มีอะไรรอดสายตานายได้เลยหรือไงมิสเตอร์เลห์นเชอร์”
“ ส่วนใหญ่ฉันปล่อยให้รอดสายตานะ”
“ หืม?”
“ เปล่า” อีริคถามต่อว่าจะบอกได้หรือยังว่าเป็นเพราะอะไร “หยุดโยกโย้สักที”
“ ฉันแค่กำลังรู้สึกว่าตัวเองนี่พึ่งไม่ได้เอาซะเลย” ชาร์ลส์ระบายสิ่งที่อยู่ในใจ ตั้งแต่ตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์แล้วที่ต้องให้โลแกนช่วยแบกขึ้นรถ ตอนนั้นเขายังไม่คิดเท่าไร แต่ตั้งแต่เริ่มเข้างานเขาก็ต้องให้คนอื่นคอยช่วยอุ้มลง คอยช่วยเข็นให้ “ ตอนเห็นนายหยิบน้ำให้เอ็มม่าฉันก็รู้สึกว่านั่นเป็นหน้าที่ที่ผู้ชายต้องทำนะ แต่แล้วฉันก็พบว่าฉันทำไม่ได้ ยิ่งตอนที่เต้นรำ ฉันมองมอยร่าแล้วคิดว่าถ้าเธอไม่ได้มากับฉันละก็ เธอคงจะมากับคู่ควงที่ดีกว่านี้ ที่สามารถทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ดูแลเธอ เต้นรำกับเธอได้”
ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น มือที่วางบนตักเริ่มกำแน่น
“ การที่นายทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่ได้แปลว่านายไม่เป็นสุภาพบุรุษสักหน่อย” อีริคไม่ได้มองหน้าชาร์ลส์ “ นายอาจจะหยิบเครื่องดื่มให้เธอไม่ได้ เต้นรำด้วยไม่ได้แต่นายมีอย่างอื่นที่นายทำได้ตั้งเยอะ”
“ เช่นอะไร”
“ อืมมมม สอนหนังสือ ดูแลเด็กๆ เอาใจใส่พวกนั้น เป็นพี่ชายที่ดี เป็นนักสู้ที่เข้มแข็ง ที่สู้กับอาการของตัวเองโดยไม่ย่อท้อ…”
“ ฉันเคยท้อนะ” ชาร์ลส์แย้ง “ ตั้งหลายครั้ง”
“ แต่ทุกครั้งนายก็ลุกขึ้นใหม่ใช่ไหมล่ะ นายมีความพยายามนี่” อีริคว่าต่อ เขาหันหน้ากลับมา ยิ้มนิดๆ “ แล้วก็…นายเล่นหมากรุกกับอีริค เลห์นเชอร์ได้”
ประโยคนี้ทำเอาชาร์ลส์หลุดขำพรืด
“ ฉันเล่นหมากรุกได้กับทุกคนต่างหาก”ชาร์ลส์แก้ เขามองหน้าอีริคกลับ ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย “ แต่ฉันสามารถเอาชนะอีริค เลห์นเชอร์ได้”
หนุ่มเยอรมันหน้าตึงอีกครั้ง เรียกเสียงหัวเราะจากศาสตราจารย์หนุ่มได้ดังกว่าเดิม
“ ดูท่าวันนี้ศาสตราจารย์เซเวียร์อาจจะได้ลงไปนอนเล่นในน้ำพุ” คนขู่ขยับเข้าใกล้
ชาร์ลส์ใช้มือสองข้างยันไหล่ของเพื่อน “ หยุดเลยอีริค”
“ นายพูดอะไรที่ร้ายแรงมาก”
“ แค่เอาชนะมิสเตอร์เลห์นเชอร์เนี่ยนะ” ชาร์ลส์แกล้งย้ำ
“ ใช่” คนไม่ยอมแพ้ใครพยักหน้า
“ ไม่เอาน่า เราเล่นกันใหม่ แล้วสถิติตอนนี้ก็อยู่ที่เราเสมอกันนะ” ชาร์ลส์ปรับความเข้าใจใหม่ “ แต่ถ้านายไม่พอใจสถิตินี้พรุ่งนี้ฉันจะช่วยทำสถิติชนะนายเพิ่มให้ก็ได้”
“ มั่นใจเกินไปแล้วนะศาสตราจารย์” คนยิ้มยากกำลังหัวเราะ
“ มันอาจไม่ใช่ความมั่นใจแต่เป็นความจริงก็ได้”
“ พิสูจน์สิ” ไม่รู้ทำไมชาร์ลส์จึงรู้สึกเหมือนตกหลุมพราง ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังตอบตกลงอยู่ดี
“ พรุ่งนี้เวลาสิบโมงโอเคไหม”
มีเหรอคนที่ชอบเล่นหมากรุกจะปฏิเสธ
“ อีริค…”
“ อะไรเหรอชาร์ลส์”
“ ขอบใจนะ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่ารักกกกกก
สงสารศาสตราจารย์นะที่เดินไม่ได้..