ตอนที่ 3 : The Accidental Love [3]
The Accidental Love
Pairing : Erik Lencherr x Charles Xavier
AU Fic X-men
[ 3 ]
“ ผมขอปฏิเสธเรื่องการเปลี่ยนศัลยแพทย์” ชาร์ลส์ยืนยันกับเอ็มม่า เวลานี้พวกเขาอยู่ในห้องทำงานของเธอแค่สองคน ที่เขาพูดแบบนี้เนื่องจากได้รู้ว่าคนที่จะมารักษาคุณกลายเป็นคนพูดจาไม่เข้าหู ไร้น้ำใจแถมยังปฏิบัติแบบนั้นต่อคนที่พิการ แล้วตอนนี้จะให้เขามารับการรักษาจากคนแบบนี้เหรอ เขารับไม่ได้
นอกจากนี้แล้ว…ตอนที่เอ็มม่าแนะนำให้ต่างฝ่ายต่างรู้จักหมอหนุ่มก็พูดจากวนโมโหเขาออกมาอีก (ไม่ขอบอกนะว่าอะไร)
“ ชาร์ลส์ ใจเย็นๆนะ” เอ็มม่าพยายามปลอบเพื่อนก่อนจะเริ่มโน้มน้าวด้วยเหตุผล “ ฉันเข้าใจดีว่าเขาเป็นคนน่าโมโหขนาดไหน แต่ถ้าคุณได้รู้จักเขาจริงๆคุณจะรู้ว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ดีมาก…”
“ แล้วทำไมผมต้องรู้จักเขาด้วย” ไม่อยากเลยสักนิด
“ คุณต้องรู้จักเขา เพราะอีริคจะมาเป็นหมอคนใหม่ของคุณ” เอ็มม่าพูดต่อโดยไม่สะดุดแม้แต่น้อย “ สิ่งที่คุณต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องขาของคุณนะ ฝีมืออีริคคือของจริง ถ้าคุณให้เขาช่วยโอกาสที่คุณจะกลับมาเดินได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากขาหายได้จริงๆเรื่องความแรงของฝีปากเขาก็เป็นเรื่องเล็กไปเลยจริงไหม”
“ แล้วถ้าเขาทำไม่ได้ล่ะ” ชาร์ลส์โต้เสียงเบา แสดงว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นสามารถโน้มน้าวได้มาก
“ นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้รู้เมื่อเข้ารับการรักษาค่ะ” เธอยิ้ม “ ถ้าหากอีริครักษาจนคุณเดินได้นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเขาทำไม่สำเร็จคุณก็ยังได้รับการรักษาจากศัลยแพทย์อยู่ดี มันไม่มีผลเสียนี่”
ชาร์ลส์ลองคิดทบทวนสิ่งที่เอ็มม่าบอก ทุกอย่างมีเหตุผลจนเกือบจะเถียงไม่ได้ แค่เกือบเพราะมีเรื่องหนึ่งที่เธอพูดผิดไป
ใครว่าไม่มีผลเสีย…
มันมีสิ…อย่างน้อยก็เรื่องที่เขาต้องคอยเสียอารมณ์จากฝีปากของชายคนนั้น
“ ถ้างั้น…” ชาร์ลส์ลองเสนอเพิ่ม “ ถ้าผมเข้ารับการรักษา แต่กำหนดเวลาล่ะ”
“ คุณหมายความว่ายังไง” เธอไม่เข้าใจ
“ เอ็มม่า…คุณเป็นศัลยแพทย์ที่ผมชื่นชมนะ คุณเก่งมาก และผมก็รู้สึกดีเวลาที่ได้รับการรักษาจากคุณ ที่ผมอยากจะพูดก็คือ… ผมคิดว่าการรักษามันต้องเป็นไปพร้อมกันทั้งเรื่องร่างกายและทางจิตใจ การรักษาของเขาอาจจะดีกว่าคุณก็จริง แต่ถ้าเขาพูดจาอย่างนี้…ผมเองก็มีเรื่องที่ทนได้และทนไม่ได้ หากร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นแต่จิตใจย่ำแย่ก็คงไม่ดีหรอกจริงไหมครับ”
ชาร์ลส์เว้นช่วงสำหรับหายใจและตัดสินใจ
“ ผมจะเข้ารับการรักษาตามที่คุณบอก แต่ผมอยากจะขอดูสัก…” กลอกตาคิด “ …ประมาณหนึ่งเดือน เพื่อดูว่าผมมีอาการดีขึ้นจริงๆไหม หากดร.เลนเชอร์ทำได้ ผมก็ยินดีเข้ารับการรักษาจากเขาต่อจากนั้นโดยไร้เงื่อนไข”
หมอสาวเห็นด้วยกับเขา เธออาสาจะคุยเรื่องนี้กับอีริคให้แล้วจะโทรไปบอกผลทีหลัง
…………………..
มหาวิทยาลัย X
“ ตกลงว่าพี่จะรับการรักษาจากหมอคนนั้นใช่ไหม” เรเวนถามชาร์ลส์ขณะที่เธอเดินข้างเขาโดยมีโลแกนช่วยเข็นรถเข็นให้
“ ยังไม่รู้เลย” ชาร์ลส์ส่ายหน้า เมื่อวานเขารอรับโทรศัพท์จากเอ็มม่าจนดึกแต่เธอไม่ได้ติดต่อมา ไม่รู้ว่าหมอหนุ่มคนนั้นไม่รับข้อตกลงหรือว่าอะไร เมื่อเช้าเขาลองโทรหาเธอแต่ไม่มีคนรับสาย แล้วตอนนี้เขาก็กำลังจะเริ่มสอนในอีกยี่สิบนาทีจึงคิดว่าเอาไว้ช่วงบ่ายที่ว่างค่อยโทรใหม่
“ แฮงค์!” เรเวนตะโกนเรียกชื่อเพื่อนชายที่เดินอยู่ด้านหน้า พอเขาหยุดหันกลับมาเธอก็วิ่งเข้าไปหาเขา ทักทายอย่างร่าเริง
แฮงค์ แมคคอยเป็นเด็กหนุ่มนักศึกษาคนหนึ่งในชั้นเรียนของชาร์ลส์ และดูเหมือนว่าเรเวนจะชอบเขา ดูเอาละกัน…ตอนนี้ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนิทสนมจนลืมพี่ชายคนนี้ไปแล้ว
“ ชั้นเรียนจะเริ่มแล้วนะครับ” ตอนที่โลแกนเข็นรถผ่านเด็กทั้งสองชาร์ลส์แกล้งเตือน
“ครับ/ค่ะศาสตราจารย์” สองคนตอบกลับทันที แต่แลดูเรเวนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ไม่ได้จริงจังอะไร
“ ขอทางด้วยค่ะโลแกน” เสียงหวานนุ่มด้านหลังเรียกให้ชายหนุ่มร่างใหญ่หันไปมอง เด็กสาวผมแดงหน้าตาสวยส่งยิ้มให้เขา เธอคือจีน เกรย์ เป็นนักศึกษาเช่นกัน ที่เธอบอกเขาแบบนั้นก็เพราะว่าเขากำลังเข็นรถเข็นของชาร์ลส์เข้าห้องเรียนแต่เผอิญล้อติดอะไรสักอย่าง
“ สักครู่นะคนสวย” โลแกนยิ้มตอบและแซวเธอกลับ
“ นั่นเข้าข่ายคุกคามทางเพศนะ” เสียงกวนๆดังตามมา ผู้ที่พูดก็คือสก็อต ซัมเมอร์ ลูกพี่ลูกน้องของจีน เขาชอบทะเลาะหรือกัด(?) กับโลแกนประจำ โดยเฉพาะเวลาที่เขาพูดจาเหมือนตาแก่ (?) แทะโลมเด็กสาว (เด็กสาวที่ชื่อว่าจีน แล้วยังเป็นญาติของเขา) “ แล้วก็รีบหลบไปซะ ตัวคุณใหญ่บังประตูจนคนอื่นเข้าไม่ได้”
“ ฉันก็อยากหลบนะเจ้าหนูแต่ศาสตราจารย์คนนี้ต่างหากที่บังประตู ไม่ใช่ฉัน” โลแกนโทษคนที่นั่งรถเข็นเล่นๆ
“ สรุปว่าฉันผิด” นอกจากไม่โกรธแล้วยังหัวเราะ ร่วมพูดเล่นอย่างเป็นกันเอง
“ ขอโทษนะ ชาร์ลส์” โลแกนบอกก่อนจะใช้กำลัง(อันมากมายมหาศาล) ยกรถเข็นของชาร์ลส์ขึ้น ที่แท้ก็ล้อไปติดที่ร่องประตู
“ คุณควรจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรก ” สก็อตถอนหายใจราวกับเหนื่อยหน่าย
“ นั่นเพราะเขาคิดไม่ได้ในตอนแรกน่ะสิ” เรเวนรับเป็นลูกคู่ “ เรื่องใช้ความคิดโลแกนไม่ค่อยถนัด”
“ เคยมีใครบอกไหมว่าพอพวกเธอสองคนแท็คทีมกันแล้วกลายเป็นเด็กที่น่ารังเกียจที่สุดในมหาวิทยาลัยเลยน่ะ” โลแกนเท้าเอว จงใจโน้มหน้าลงมากใกล้สก็อต
“ เด็กๆพอได้แล้ว พวกเธอไม่ควรจะพูดจาแบบนั้นกับผู้ที่อาวุโสกว่า โลแกนคุณก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้พวกเขาสิ” โดนกันถ้วนหน้า
ชาร์ลส์เลื่อนรถเข็นด้วยตัวเองให้ไปที่โต๊ะด้านหน้า “ ผมจะเริ่มสอนแล้วนะ”
นั่นเป็นสัญญาณให้ห้องเรียนเข้าสู่สภาวะสงบ พวกเด็กๆเดินไปนั่งที่ประจำของตัวเอง ส่วนโลแกนก็ออกไปนั่งรอที่หน้าห้องไม่ก็ร้านกาแฟระหว่างนี้
…………………..
ช่วงบ่ายที่ชาร์ลส์คิดว่าว่างกลับไม่ว่างอีกต่อไปเพราะมอยร่าโทรมาชวนเขาไปหาอะไรทานด้วยกัน วันนี้เป็นวันหยุดของเธอ เขาตอบรับอย่างยินดีโดยตกลงกันว่าเธอจะมารับเขาที่มหาวิทยาลัยและจะมาส่งด้วย งานนี้เขาไม่ให้บุรุษพยาบาลประจำตัวตามไป ขณะเดียวกันน้องสาวก็ติดเรียนวิชาอื่น ดังนั้นก้างสองชิ้นจึงไม่มี
พวกเขาเลือกไปทานอาหารที่ร้านประจำ สั่งอะไรง่ายๆ ตั้งใจว่าจะคุยกันเป็นมากกว่า ทว่าอาหารยังไม่ทันได้เสิร์ฟ ไอโฟนของศาสตราจารย์หนุ่มก็ดังขึ้น
เขากดรับ โดยไม่ได้ดูว่าใครโทรเข้ามา
“ ฮัลโหล…” แค่ฟังคำทักทายสองพยางค์ก็จำได้ทันทีว่าใคร ชาร์ลส์เผลอเอาไอโฟนออกห่างจากหูเพื่อดูชื่อบนหน้าจอ บนนั้นแสดงเบอร์โทรแต่ไม่ได้เมมเบอร์ว่าเป็นของใคร ทว่ามันไม่จำเป็น เขาจำเสียงทุ้มต่ำแบบนี้ได้ มันเป็นเสียงของว่าที่ศัลยแพทย์ประจำตัวคนใหม่ของเขา
แล้วไปเอาเบอร์เขามาจากไหนนะ…แต่คำตอบของคำถามนี้ไม่ยาก อาจจะได้มาตอนที่สลับโทรศัพท์กัน ไม่ก็ได้จากเอ็มม่า
เขาไม่ได้อยากจะคุยด้วยเลยสักนิดแต่ถ้าไม่ทำก็จะเป็นการเสียมารยาท
“ ครับ” เอาขึ้นมาพูดสายอีกครั้ง
“ ฉันโทรมาบอกว่า…ตกลง”
“ หา?”
“ จำไม่ได้หรือไงว่าพูดอะไรไว้น่ะ”
นึกออกสิแต่แค่ไม่ทันตั้งตัวเลยงุนงงไปชั่วขณะ
“ ผมจำได้ครับ” ชาร์ลส์ตอบเสียงขุ่น “ คุณมีธุระแค่นี้ใช่ไหม ถ้าใช่ผมจะวางสายแล้ว”
“ มีอีกเรื่อง” อีกฝั่งของสายพูดต่อเสียงเรียบ “ นายช่วยเข้ามาที่โรงพยาบาลหน่อย ฉันอยากจะเช็คอะไรเล็กน้อย”
“ นัดวันมาสิครับ”
“ ตอนนี้”
“ ห๊ะ!?” เขาตะลึง คิดว่าหูฝาดไปหรือเปล่า “ ตอนนี้เหรอ? มันกะทันหันไป ผมไปไม่ได้ เอาเป็นวันอื่นได้ไหมอย่างเช่น…วันเสาร์นี้ ”
“ วันเสาร์ฉันไม่ว่าง” ตอบกลับมาในทันที
“ วันอาทิตย์ล่ะ” ยังไม่ยอมแพ้
“ มีธุระ” ตอบห้วนๆ
ไม่ว่าชาร์ลส์จะเสนอวันไหนขึ้นมาอีกฝ่ายก็จะบอกว่าไม่ได้ สรุปวันที่ตรงกันก็คือหลังจากนี้สองอาทิตย์ เขาไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายยุ่งอะไรหนักหนา
“ นายจะไม่มาก็ได้ ถ้าไม่มาบ่ายนี้ก็เจอกันหลังจากนี้สองอาทิตย์และถ้าตอนนั้นฉันมีธุระก็อย่ามาโทษกันล่ะ” แบบนี้มันบังคับกันนี่!
“ คุณเป็นหมอนะ พูดแบบนี้ได้ยังไง!?” ชาร์ลส์ชักเหลืออด ไม่ชอบไอ้การพูดจาไม่สนใจไยดีคนไข้ของอีกฝ่าย
“ มีคนไข้ตั้งหลายคนที่ฉันนัดเอาไว้วันอื่น วันที่นายว่างนั่นแหละ นายจะให้ฉันยกเลิกนัดพวกเขาแล้วมารักษานายเหรอ แบบนั้นอย่างไหนเป็นการกระทำที่หมอไม่ควรทำมากกว่าล่ะ” อีริคโต้กลับมายาวเหยียดแบบที่ชาร์ลส์นึกเรื่องมาเถียงต่อไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าควรจะโกรธคำพูดของอีกฝ่ายหรือควรจะขอโทษอีริค
สุดท้ายเขาไม่ได้ทำทั้งสองอย่าง เขาบอกว่าเขาจะรีบไป…แค่นั้น
เมื่อวางสายจากฝั่งนู้นเขาก็มองหน้ามอยร่าด้วยความรู้สึกผิด เขาขอไถ่โทษด้วยการเลี้ยงมื้อนี้และไม่รบกวนเธอต่อ เดี๋ยวเขาจะไปโรงพยาบาลด้วยแท็กซี่
“ อย่าเลยค่ะ” มอยร่าห้าม เธอไม่โกรธเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสุดวิสัย “ ฉันไปส่งดีกว่าแบบนั้นมันจะลำบากเกินไป แล้วฉันก็คงใจร้ายมากหากไม่ยอมช่วยคุณ เรื่องอาหารเราห่อกลับก็ได้”
เธอยืนยันหนักแน่นว่าจะไปส่ง แล้วก็ทำตามที่พูดจริงๆ ไม่ถึงชั่วโมงชาร์ลส์ก็มานั่งอยู่ในห้องทำงานของดร.อีริค เลนเชอร์ นอกจากเขากับคุณหมอหนุ่มก็มีมอยร่าและเอ็มม่า
ดวงตาสีฟ้าจับจ้องที่คุณหมอสองคนซึ่งยืนอภิปรายเกี่ยวกับรูปฟิล์มเอ็กซเรย์กระดูกของเขา หลังทักทายแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้สนใจเขาเลย ชาร์ลส์เริ่มเลื่อนสายตาสำรวจรอบห้องแทน ห้องทำงานของอีริคนั้นมีขนาดกว้างกว่าห้องของเอ็มม่า การจัดตกแต่งดูเรียบง่ายและโล่ง มีเพียงหุ่นโครงกระดูกตรงมุมห้อง โปสเตอร์กายวิภาคของกระดูกตามผนัง หนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ไม่กี่เล่มบนชั้นหนังสือแล้วก็มีตู้สำหรับใส่แฟ้มงานอยู่สองตู้
แต่นั่นไม่ใช่กับโต๊ะทำงาน…
ดวงตาสีฟ้าหรี่มองกองแฟ้มประวัติคนไข้ซึ่งวางระเกะระกะ ประมาณจากสายตาคงไม่ต่ำกว่าสิบคน เห็นทีเรื่องธุระที่อีกฝ่ายบอกจะไม่ใช่เรื่องโกหกเพื่อกวนเขา เริ่มรู้สึกผิด ถ้าตรวจเสร็จเขาอาจจะขอโทษอีกฝ่าย
นอกจากแฟ้มงานแล้วก็ยังมีของชิ้นหนึ่งที่ดูไม่ได้เข้ากับของชิ้นอื่นในห้อง มันคือกระดานหมากรุกขนาดเล็ก และเหมือนจะมีคนเล่นไปแล้ว อาจจะเป็นอีริคกับเอ็มม่า
ชาร์ลส์ดูมันอย่างสนใจ เขาเองก็เป็นคนที่ชอบเล่นเกมนี้ และเชื่อสิว่าฝีมือเขาไม่ใช่ธรรมดาด้วย เขามองดูการเล่นบนกระดาน สิ่งที่สังเกตได้ก็คือคนที่เล่นหมากสีดำต้องเก่งน่าดู จากการเดินถ้าหากเล่นต่ออีกสักพักหมากสีขาวคงจะแพ้แน่นอน
แต่เวลานี้หมากสีขาวยังไม่แพ้และอาจแลดูเหมือนไม่มีหนทางพลิกเกมแต่จริงๆมันยังมีทางอยู่ ชาร์ลส์ห้ามตัวเองไม่ได้ เขาเดินหมากสีขาวตัวหนึ่ง หากคนที่เดินหมากสีดำติดกับแล้วเดินแบบที่เขาคิดไว้ อีกตาหนึ่งเกมก็จะพลิก…
“ ชาร์ลส์” เสียงเอ็มม่าทำให้เจ้าของชื่อผละจากเกม เธอบอกว่าอีริคอยากจะตรวจดูขาของเขา
“ โอเค” เขาตอบรับ รอให้คนอื่นช่วยพยุงเขาขึ้นเตียงสำหรับตรวจ งานนี้คนที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นผู้ชายอีกคนในห้อง
ชาร์ลส์ดันตัวขึ้นจากรถเข็นเพื่อให้อีกฝ่ายช่วยพยุงได้ง่ายขึ้น
แต่อีริคกลับทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิด…
วืด…
“ เฮ้!!!” ร้องเสียงหลงเมื่อถูกช้อนตรงข้อพับโดยไม่ทันตั้งตัว อีริคอุ้มเขาในท่าเจ้าสาวแล้ววางลงบนเตียงอย่างไม่เบานัก
“ ขอบคุณที่ช่วย แต่จะดีมากถ้าคุณไม่ทำแบบนั้นในครั้งต่อๆไป” ชาร์ลส์ส่งสายตาขุ่นเคืองให้ “ ผมไม่ชอบให้ใครอุ้ม” โดยเฉพาะในท่าของผู้หญิง
อีริคไม่แสดงท่าทีรับฟัง เขาก้มลงไปจับที่ขาของชาร์ลส์ ลองยกทดสอบ
“ ขาเขาดูไม่ค่อยลีบนะ” อีริคพึมพำ
ปกติคนที่เดินไม่ได้ ไม่ได้ใช้ขาเลยกล้ามเนื้อย่อมลีบเล็กลง แต่ขาของชาร์ลส์แม้จะเล็กกว่าขนาดที่สมควรจะเป็นแต่ก็ไม่ได้ลีบแบบแคระแกร็น งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับโลแกน เห็นอย่างนั้นแต่เขาก็ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี คอยขยับขาให้เขา เหมือนเป็นการออกกำลังกายนั่นแหละ กล้ามเนื้อเลยไม่ลีบหดมาก
“ ขาขยับไม่ได้ทั้งสองข้างแต่ดูจากฟิล์ม รู้สึกจะเป็นเพราะการกดทับเส้นประสาทสินะ” อีริคประเมินอาการโดยรวมทั้งหมด
“ เคยผ่าตัดแล้วสองครั้งแต่ไม่ได้ผล” ชาร์ลส์เสริมอีกเรื่อง
คนฟังพยักหน้ารับรู้ เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน เปิดดูแฟ้มประวัติของชาร์ลส์อีกครั้ง ดวงตาสีเทาเหลือบไปเห็นหมากบนกระดาน เขามองแวบหนึ่งก่อนหยิบหมากสีดำเดิน ที่แท้คนที่เดินด้วยหมากสีดำก็คือเขา
“ เซเวียร์…ตอนนี้ฉันดูแฟ้มอาการของนายแล้ว เรื่องวิธีการรักษาฉันขอเวลาในการประเมินและตัดสินสักพัก เมื่อได้ผลสรุปจะโทรนัดอีกครั้ง”
ชาร์ลส์พยักหน้ารับรู้ ถึงเวลาต้องลงจากเตียง
ดวงตาสีฟ้ากับดวงตาสีเทาสบกัน ต่างฝ่ายต่างนิ่ง
“ คุณจะให้ผมกระโดดลงหรือไง” ชาร์ลส์ประชด
ชายหนุ่มผู้เย็นชายกยิ้ม มันเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแล้วมันก็ดูดีมาก… “ ไม่แน่นอน เพราะถ้านายกระโดดได้ก็คงไม่มาหาฉัน”
…หากมองแค่ภายนอกไม่รู้นิสัยน่ะนะ
เป็นอีกครั้งที่อิริคอุ้มชาร์ลส์ลงจากเตียง ถึงจะขัดใจแต่ก็ขัดขืนไม่ได้
เมื่อจัดท่านั่งเรียบร้อยแล้วเขาก็บังคับรถเข็นให้มันขยับไปทางประตู ช่วงที่ผ่านโต๊ะก็หยิบหมากสีขาวที่เขาหมายตาไว้ เดินมัน แล้วหันมามองผู้ที่เดินหมากสีดำ
ชาร์ลส์ยกยิ้ม
“ รุกฆาต”
เอาคืนเล็กน้อยทิ้งท้ายไว้ก่อนจะออกไปพร้อมมอยร่า
…………
เรื่องการแพทย์ เรื่องโรคนี่บางอย่างเราก็มโนเอานะคะไม่แน่ใจว่าจริงๆเป็นอย่างนี้หรือเปล่า หากมีข้อผิดพลาดก็บอกได้นะคะ จะได้แก้ไขให้ด้วย
ขอบคุณค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ติดตามค่ะติดตาม
แอบสะใจแทนชาร์ลส์ อิอิ
ชอบตอนเล่นหมากรุกจังงง ดูเป็นอย่างเดียวที่ชาร์ลสจะเอาคืนได้ 55555555
อุ้ยย โลแกนสก็อต-.,- เราก้มีจิ้นคู่นี้นะเธอว์
สะใจมากๆค่ะ ฮ่าาา
คุณ
น่ารักดีงามมากค่ะ ดูมันค่อยเป็นค่อยไปดีนะ
แอบมุ้งมิ้งอ่า-..- หุหุ
กัดๆกันไปก็รักกันเองล่ะจ้า55555
สนุกมากค่ะ
อ่านแล้วฟินอย่างบอกไม่ถูก ชอบแนวเรื่อยๆค่อยๆรักกันแบบนี้ที่สุดเลย... //เลยตามทุกเรื่องของไรท์ซะงั้น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ