ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอให้รักครั้งนี้เป็นจริง

    ลำดับตอนที่ #2 : ความสงสัย

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 54


     [ 2 ปีต่อมา]

                    ฉันชื่อ โซฮาระ นามิ ตอนนี้ฉันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่1 ของมหาวิทยาลัยโตเกียว คณะวิศวกรรมศาสตร์ ฉันมีแฟนชื่อ ชิเมรุ โชจิ และเราเรียนอยู่ที่เดียวกันคณะเดียวกัน รวมทั้งเพื่อนอีกสองคนของฉันคือ ยูทากะ ยัตชัง และ โทยาสิ ซาโกะ ด้วย ซาโกะเรียนวิศวะเหมือนฉัน ส่วนยัตซังเรียนนิติศาสตร์ “นามิ” เสียงใส ๆ ของหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่มีชื่อว่ายัตซังดังขึ้น
    “อืม จ๊ะ ยัตซัง”
    “นามิมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้”
    “อ่อ รอโชจิน่ะ”
    “ยังไม่มาอีกหรอ เห็นเธอลงมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ” เนื่องพวกเราสามคน ฉัน ซาโกะ และ ยัตซัง เป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนกันพวกเราจึงมาอยู่หอที่เดียวกัน
    “เมื่อกี้ฉันโทรไปแล้วนะ โชจิบอกว่ากำลังมา”
    “ให้ฉันนั่งเป็นเพื่อนไหม”
    “ไม่ต้องหรอกยัตซัง เอ่อ แล้วเธอจะไปไหนเนี่ย”
    “อ่อ ไปกินข้าวกับ เคนโซ น่ะ” พอยัตซังเริ่มเข้าปี
    1 เสน่ห์ของเธอก็ดูจะฉายแววมากขึ้นในหมู่พวกเรา มีคนมาจีบเธอมากมาย รวมทั้ง เคนโซ ด้วย เคนโซเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่สัญญากับยัตซังไว้ว่า ถ้าเป็นแฟนกับยัตซังแล้วเขาจะหยุดความเจ้าสำราญของเขาไว้เพื่อยัตซังคนเดียว จากนั้นยัตซังก็เลยใจอ่อนยอมเป็นแฟนเคนโซแต่โดยดี
    “นามิ ไปกันเถอะ” เสียงชายหนุ่มผู้เป็นแฟนเรียกในท่าทางรีบสุดขีด
    “อืม ฉันไปก่อนนะยัตซัง”
    “จ้า นามิ”

     

    [ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง]

    [ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง]
    “โชจิ โทรศัพท์น่ะ”
    “อ่ะ อ่อ” แล้วโชจิก็ตัดสายโทรศัพท์นั้นทิ้ง
    “เอ๊ะ ทำไมไม่รับล่ะ เผื่อใครมีเรื่องสำคัญ”
    “ไม่มีหรอก”
    “แล้วใครโทรมาล่ะ”
    “เพื่อนนะ”
    “เพื่อนคนไหน ฉันแน่ใจว่าฉันรู้จักเพื่อนเธอทุกคนแหละ โชจิ”
    “นี่นามิ ดูนี่สิน่ากินจัง งั้นเดียวฉันจะลองสั่งมากินดูละกันนะ” โชจิชวนพูดเปลี่ยนเรื่อง แต่ฉันก็คิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก เพราะโชจิเขาไม่เคยโกหกฉันอยู่แล้วล่ะ

     

    [ในห้างสรรพสินค้า]

    [ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง]

    [ในสวนสาธารณะ]

    [ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง ตึง ตะ ละ ลึง ตึง ตึ้ง]
    แต่ทุกครั้งที่โทรศัพท์ของโชจิดังขึ้นเขาจะตัดสายมันทิ้งทุกครั้งไป

    “นี่ซาโกะ” ฉันเริ่มสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้
    “มีอะไรนามิ”
    “วันนี้ฉันว่ามีเรื่องแปลก ๆ กับโชจิด้วยแหละ”
    “หือ เรื่องอะไรกัน”
    “ก็วันนี้นะ โทรศัพท์โชจิดังทั้งวันเลย แล้วเขาก็ไม่ยอมรับเลยซักครั้งด้วย”
    “หือ แล้วโชจิเขาว่ายังบ้างล่ะ”
    “เขาก็บอกว่าเพื่อนโทรมา แต่เพื่อนคนไหนก็ไม่ยอมบอก ฉันละกลัวจริง ๆ”
    “กลัว กลัวเรื่องอะไร”
    “ก็กลัวว่าโชจิจะไปมีคนอื่นน่ะสิ”
    “นามิ นี่โชจินะ แต่ถ้าเป็นเคนโซค่อยว่าไปอย่าง แต่โชจิน่ะถ้าเขาบอกว่าเพื่อนก็คือเพื่อนเขาไม่โกหกเธอหรอก”
    “จริงหรอ ซาโกะ ฉันไว้ใจเขาได้ใช่ไหม”
    “อืม อย่าไปคิดมากเลย นี่มาดูนี่ดีกว่า ตลกมากเลย” ซาโกะพยายามจะไม่ชวนฉันคุยเรื่องที่ผ่านมาของวันนี้ แต่ยังไงในใจฉันก็มีลางบอกเหตุร้ายไว้อยู่ว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างกับโชจิแน่น ๆ พรุ่งนี้เช้าเรามีนัดจะไปอ่านหนังสือด้วยกัน ฉันจะต้องรู้ให้ได้

     

    [ห้องสมุด]

    ฉันมาถึงก่อนโชจิ ซักประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว แต่เขากำลังเพิ่งมาถึง
    “นี่โชจิ วันนี้อย่าลืมปิดเสียงโทรศัพท์ล่ะ” นี่คือคำทักทายแรกของวันที่ฉันทักเขา

    “อ่ะ อืม” สังเกตได้ชัดว่าโชจิเริ่มหน้าเสีย จากนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันต่อ ฉันเริ่มอ่านหนังสือต่อไป ส่วนโชจิ ก็เอาโน๊ตบุคขึ้นมาเปิดแล้วจ้องอยู่หน้าคอม ซักพักเขาก็เริ่มเปิดการสนทนา

    “นี่นามิ คนนี้สวยไหม” พอพูดจบ เขาก็หันหน้าจอคอมมาให้ฉันดู
    “อืม ฉันว่าเฉย ๆ นะ ยัตซังยังสวยกว่านี้อีก”
    “หรอ”
    “ใครน่ะ”

    “คนรู้จักน่ะ”
    “อืม”
    “เอ่อ นามิ ฉันไปห้องน้ำแปปนึงนะ”

    “อืม” โชจิลุกไปห้องน้ำอย่างรีบ ๆ จนลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ

    [อืดดดดดดดดดดดดดด อืดดดดดดดดดดดดดดด]

                    โทรศัพท์ของโชจิดังขึ้น แล้วฉันก็หยิบมันขึ้นมาดู มันโชว์ว่าเป็นเบอร์ของ ชาล็อตฉันตัดสินใจรอจนกว่าผู้ที่โทรมาจะวางไปเอง จากนั้นฉันก็เริ่มสำรวจโทรศัพท์ของเขา ฉันสังเกตเห็นว่า คนที่ชื่อชาล็อตนี้โทรมาหลายครั้งมาก รวมถึงเวลาเมื่อวานที่ฉันกับโชจิอยู่ด้วยกัน ทางที่จะรู้แน่นต้องเข้าไปดูในข้อความ

    “นามิ” เสียงของโชจิดังขึ้นจากข้างหลัง ฉันรีบออกจากอะไรก็ตามที่ฉันกำลังจะหาดูในโทรศัพท์ของโชจิ
    “เอ่อ มีคนโทรหาเธออ่ะ”
    “ใครหรอ”
    “เห็นขึ้นชื่อว่า
    ชาล็อตแต่ฉันไม่ได้รับหรอกนะ พอดีตอนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเขาก็วางไปแล้ว” ฉันยื่นโทรศัพท์คืนให้โชจิ
    “อ่อ”
    “ใครกันหรอ ชาล็อต เนี่ย”
    “เพื่อนที่เรียน
    Eng ด้วยกัน สงสัยจะโทรมาเรื่องงานกลุ่มแหละ”
    “อ่อ” จะว่าไปแล้วฉันกับโชจิก็เรียนเหมือนกันแทบจะทุกตัว ก็มีบางตัวที่ไม่เหมือนกันเช่น วิชาภาษาอังกฤษนี่แหละ แต่นั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันหายสงสัยไปได้หรอก

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×