ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Sixth Mission : คำพูด Speech
หลังจบการรับน้องของประธานนักเรียน บรรดาปีหนึ่งทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปที่ห้องนอน เมื่อขึ้นบันไดมาถึงชั้นสอง
ตรงหน้าจะเป็นห้องของประธานนักเรียน ซ้ายมือเป็นห้องของเสนาธิการฝ่ายซ้าย ขวามือเป็นห้องเสนาธิการฝ่ายขวา ถัดจากห้อง
เสนาธิการฝ่ายซ้ายเป็นห้องนอนรวมหญิงขนาดให้ ซึ่งเปิดให้ใช้แค่ห้องเดียว ส่วนที่ถัดไปจากห้องของเสนาธิการฝ่ายขวาเป็นห้องนอน
รวมชายซึ่งเป็นให้แค่ห้องเดียวเช่นกัน
ห้องนอนของกรรมการนักเรียนทั้ง 3 เป็นห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว เตียงเป็นเตียงเดี่ยวกว้างขวางสีขาว
ภายในห้องนอนถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมาย ล้วนแล้วแต่ใช้โทนสีขาวดำทั้งสิ้น ตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่สีดำตั้งอยู่ข้างประตูห้องน้ำ
โคมไฟระย้าขนาดยักษ์สีขาวมีเทียนสีดำส่องแสงสว่างไสว
เอรีอาน่าเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็ได้แต่ยืนตะลึงกับการตกแต่งประดับประดาอยู่หน้าประตู ก่อนจะได้สติรีบเข้าไปจัด
เสื้อผ้าเข้าตู้ แล้วออกมายืนรอเพื่อนของเธอหน้าห้องนอนรวม
ภายในห้องนอนรวมทั้งหญิงและชาย ป็นห้องขนาดใหญ่ มีเตียงเดี่ยวสีขาว 5 ตัววางเรียงกัน ข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้าวาง
ขั้นระหว่างแต่ละเตียง มีห้องน้ำภายใน มีระเบียงห้องกว้างขวาง
นักเรียนหญิงปี 1 ทั้ง 4 คนต่างมาจับจองเตียงของตัวเอง ถ้ายืนตรงประตูหันหน้าเข้าห้องขวามือสุดจะเป็นเตียงของลูเคีย
ถัดมาเป็นเตียงของเฟรีย่า ตรงกลางไม่มีคนนอนส่วน 2 เตียงทางซ้ายเป็นนักเรียนหญิงอีก 2 คน
เฟรีย่าจัดเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนลูเคียโยนกระเป๋าสัมภาระใส่ไว้ในตู้แล้วเดินออกจากห้องมาเลย
"เป็นไงมั่ง เมื่อเช้ามาซะเกือบไม่ทันเลยนะ" ลูเคียทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นเอรีอาน่า
"เหอ ๆ มัวจัดของน่ะ โชคดีมีเจ้านี่เลยมาทัน" เอรีอาน่าเอามียีหัวคิล
"อย่าทำสิ ผมยุ่งหมดแล้ว" คิลทำหน้ามุ่ยแล้วดึงมือผู้เป็นนายออก
"เท่จังเลยเนอะคิลเนี่ย อยากได้แบบนี้มั่งจัง" ลูเคียทำสายตาอิจฉา คนฟังเริ่มโม้
"แน่นอนอยู่แล้ว อย่างข้าเนี่ยต้องเรียกว่าไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะความหล่อหรือความสามารถ"
เอรีอาน่ากุมขมับ อยากจะเอาดาบผ่าครึ่งมันซะให้รุ้แล้วรูรอด
"คุณเอรีอาน่าคะ ตั้งแต่มายังไม่ได้คุยกันเลย สบายดีมั้ยคะ ?" เฟรีย่าวิ่งออกมาจากห้อง
"ก็ดี" เอารีอาน่าตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ
ลูซิเฟอร์กับเอลเรนาสออกมาจากห้องของตัวเองพร้อมกันมาร่วมวงคุยกับสามสาว
"สบายดีมั้ยสาว ๆ" ลูซิเฟอร์ทัก ทำท่าทางกะล่อน
"ดีไม่ดีเกี่ยวไรกะนาย" ลูเคียสวนทันควัน
"แหม... ถามหน่อยเดียวเอง โมโหอะไรเนี่ย" ลูซิเฟอร์ยิ้มแหย ๆ
"ใครโมโหกันยะ" ลูเคียส่งสายตาข่มขู่
"แล้วนี่แกจะเงียบอีกนานมั้ย" เอรีอาน่าจ้องเอลเรนาสเขม็ง ไม่สนใจการทะเลาะกันของคนทั้งคู่
"เกี่ยวกับเธอมั้ย" เอลเรนาสย้อนนิ่ม ๆ ทำเอาเอรีอาน่าฉุนกึก
"อย่ายอกย้อนได้มั้ย แกจะไปแข่งขันพูดน้อยชิงแชมป์รึไงฟะ"
"ก็มันไม่มีอะไรจะพูด" เอลเรนาสยังคงตอบแบบนิ่ม ๆ นิ่ง ๆ
"ก็หัดมีมั่งสิเฟ้ย !" เอรีอาน่าตะโกนใส่หูเขา
และแล้วสงครามน้ำลายของ 2 คู่ 2 รสชาติก็เริ่มขึ้น
"ว่าไปแกนี่ก็เหมือนเจ้านายเลยเนอะ" คิลหันไปพูดกับฮาเดส
"เจ้าก็พอกันน่ะแหละ เจ้านายยังไง สัตว์เลี้ยงยังงั้น" ฮาเดสตอบโดยไม่หันมามอง
"แล้วมันผิดหรือไง ไอ้หมาน้ำแข็ง !" คิลตั้งฉายาให้ฮาเดสด้วยความหมั่นไส้
"เงียบ ๆ ไปเหอะน่า" ฮาเดสยังไม่หันมามองคิล
"ใครมันจะเป็นน้ำแข็งได้อย่างแกฟะ"
"แล้วใครบอกให้เจ้ามาเป็นน้ำแข็งอย่างข้าล่ะ"
สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามน้ำลายของเจ้าชายกับเจ้าหญิง เจ้าชายผู้สูกศักดิ์กับนักฆ่า และหมากับหมา... เฟรีย่า
ยืนดูสงครามน้ำลาย 3 คู่ด้วยความปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างแรง ไม่รู้จะห้ามยังไงดี สุดท้ายก็ได้แต่ยืนดูเท่านั้น
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน และแล้วการโต้เถียงกันที่น่าเวียนหัวก็จบลงด้วยดี
"เฮ้อ... จะบ้าตาย" เอรีอาน่าถอนหายในยาว
"นี่เปออซมันหายไปไหนเนี่ย" ลูซิเฟอร์พูดพลางหันมองทางห้องนอนชาย
จังหวะนั้น เปออซก็ผลักประตูออกมาแล้ววิ่งมาทางพวกเธอ 'ตายยากจริง ๆ' ทุกคนคิดในใจ
"โทษที มัวจัดของเพลินน่ะ แหะ ๆ" เปออซหัวเราะแห้ง ๆ
"ช้าทั้งปีแหละนายเนี่ย ไม่เคยทันชาวบ้าน" ลูเคียค้อนใส่
"แหะ ๆ โทษทีนะเจ๊" เปออซว่าด้วยอาการหอบนิด ๆ
"เคยบอกไปแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าเจ๊ !" ลูเคียตะคอกจนเปออซหน้าซีด
"ไปกินข้าวกันเถอะ ชักหิว" เอรีอาน่าว่าพลางเอามือลูบท้อง
แล้วทั้ง 8 ชีวิตก็พากันเดินไปที่ห้องอาหาร ห้องอาหารของปราสาทไรเงาเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ แต่ก็ยังเล็กกว่า
ห้องอาหารรวมอยู่ดี โต๊ะอาหารยาว ๆ วางเรียงกันอยู่ 4 ตัว ผนัง 3 ด้านเป็นร้านขายอาหารซึ่งมีอาหารหลายประเภทให้เลือกซื้อ
เลือกกิน กลุ่มของเอรีอาน่าเลือกจับจองโต๊ะไว้โต๊ะหนึ่งโดยการสั่งให้คลอฟวูฟ 2 ตัวและเปออซซึ่งถูกลูเคียสั่งลงโทษนั่งเฝ้าโต๊ะก่อน
ส่วนเอรีอาน่ากับพวกอีก4คนก็ไปเลือกซื้ออาหารมากิน
ไม่นานนักพวกเอรีอาน่า 5 คนก็กลับมาถึงโต๊ะพร้อมอาหารหน้าตาน่ากิน กลิ่นหอมโชยมาชวนให้คนเฝ้าโต๊ะน้ำลายสอ
"ลูเคียจ๋า~ ให้ฉันไปซื้อข้าวได้ยัง" เปออซทำเสียงออดอ้อน
"ไปไหนก็ไปเลยไป" ลูเคียไล่ด้วยความรำคาญ
"เจ้านาย... ขอเงินไปซื้อของกินหน่อยนะคร๊าบบบ" คิลลากเสียงยานคาง พยายามอ้อนอย่างเปออซ
"น่ารำคาญจริง เอาไป แล้วไปไหนก็ไปเลย" เอรีอาน่าควักเงินให้ บ่นงึมงำทั้งที่ข้าวยังคาปากอยู่
"ขอบคุณเจ้านายที่แสนน่ารักขอรับ" คิลทำเสียงน่าหมั่นไส้จนเอรีอาน่าอดไม่ไหวประเคนบาทาให้หนึ่งที
"เอ่อ... เจ้านายครับ.... ขอตังค์หน่อย..." ฮาเดสอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของตังค์เอลเรนาส เจ้านายผู้ใจบุญหยิบเงินส่งให้
โดยไม่ปริปากพูดอะไร
แล้วผู้เคราะห์ร้ายต้องเผ้าโต๊ะทั้งหลายต่างก็รีบวิ่งไปซื้ออาหารก่อนที่จะโดนรั้งไว้ที่โต๊ะอีก
คิลกับฮาเดสกลับมาพร้อมน่องไก่ชิ้นโตหลายชิ้นในจาน ส่วนเปออซก็ยังคงช้าอีกตามเคย และแล้วทั้ง 8 ก็นั่งกินไป
คุยไปจนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง
"สงสัยจะคุยเพลินไปหน่อยนะเนี่ย คนจะหมดโรงอาหารอยู่แล้ว" เอรีอาน่าหันซ้ายหันขวา
"นั่นสิคะ พวกเราไปกันเถอะค่ะ" เฟรีย่าลุกขึ้นเอาจานไปเก็บ
จากนั้นทุกคนก็ลุกตามองค์หญิงผู้แสนจะเรียบร้อยไป หลังมื้อกลางวันทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เปออซขอ
ตัวไปไปนอนในห้อง ลูเคียไปเดินเล่น คิลกับฮาเดสขอไปตีกันในป่าหลงลืม เฟรีย่า เอรีอาน่า เอลเรนาสและลูซิเฟอร์ พากันมาอ่าน
หนังสือที่ห้องสมุดปราสาทไร้เงา
ห้องสมุดของปราสาทไร้เงาต้องขึ้นมาถึงชั้น 8 ซึ่งก็ทำเอาขาลากเหมือนกัน ห้องสมุดนั้นกว้างขวางชั้นหนังสือวาง
แบบขั้นห้องสมุดเป็นล็อก ๆ สูงจรดเพดาน แต่กลับมีโต๊ะเพียง 7 ตัวเท่านั้นที่อยู่ในห้องนี้ เนื่องจากนักเรียนปราสาทไร้เงาที่ชอบอ่าน
หนังสือมีไม่มากนัก ปราสาทไรเงาเป็นคล้ายปราสาทพิเศษที่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นพวกมีพลังมากแล้วก็เก่งมากด้วย เลยไม่ค่อยจะสนใจ
หยิบหนังสือมาอ่านกันซักเท่าไหร่
"เอาโต๊ะนี้นะคะ" เฟรีย่าวิ่งไปลากเก้าอี้ตรงโต๊ะที่ใกล้ประตูที่สุดออกมานั่ง
"จะไม่ลงชื่อก่อนหรือไง" เอรีอาน่าพลิกหน้าสมุดลงชื่อเข้าใช้ห้องสมุด
มันเป็นสมุดเก่า ๆ ข้างในเป็นกระดาษให้ลงชื่อซึ่งเก่าจนกลายเป็นสีน้ำตาลแล้ว สมุดลงชื่อหน้าแรกเป็นของปีนี้
ยังไม่มีชื่อใครมาใช้สักคน แน่นอนว่าพวกเอรีอาน่าเป็นพวกแรกที่เข้ามาใช้ของปีนี้ เอรีอาน่าจัดแจงเขียนชื่อลงในสุมดพร้อมเผื่อแผ่
ให้บรรดาเพื่อน ๆ ของเธอด้วย
เอรีอาน่าเดินไล่หาหันงสือที่ต้องการ เธอเดินจนทั่วห้องสมุดแล้วแต่ก็ยังหาเล่มที่ต้องการไม่เจอสักที (แล้วไอ้ชั้นบน ๆ
นี่เจ๊เขาดูยังไงเนี่ย) เลยเดินกลับมานั่งที่โต๊ะด้วยอารมณ์เบื่อโลก
"คุณเอรินเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำหน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลย" เฟรีย่าเรียกเธอด้วยชื่อย่อ
"เปล่าหรอก แค่หาหนังสือไม่เจอน่ะ" เอรีอาน่าบ่น มองไปทางเอลเรนาสที่เดินกลับมา
สายตาเอรีอาน่าจดจ้องไปยังหนังสือที่เอลเรนาสถือมาไม่กระพริบ
"เฮ้ย ! นายไปเจอมันจากไหน ทำไมฉันหาไม่เจอ" เอรีอาน่าตาโตเมื่อเห็นหนังสือเล่มที่เธอต้องการ
"ห้องสมุด" คำตอบสั้นง่ายจากเจ้าชายรัชทายาทนั้นชวนให้เอรีอาน่าอยากประเคนบาทาใส่ปากมันซะเหลือเกิน
"ไอ้บ้า ! แล้วที่แกยืนอยู่นี่มันห้องอาหารหรือไงเล่า ! ฉันหมายถึงว่าไปเจอมันจากตรงไหน !"
เอรีอาน่าขึ้นเสียงอย่างลืมตัวแต่ก็ไม่มีใครคิดจะใส่ใจกับเสียงของเธอสักคน
"...ชั้นหนังสือ" เอลเรนาสตอบเสียงเรียบ ลากเก้าอี้ออกมานั่งอย่างไม่ยี่หระคนตรงหน้า
"ไอ้เอลเรนาส !!! อย่านึกว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาทอะไรนั่นแล้วฉันจะกลัวน่ะ !! จะตอบให้มันเจาะจงลงไปกว่านี้ไม่
ได้หรือไง !!!" ในที่สุดเส้นฟางสุดท้ายก็ขาด เอรีอาน่าระเบิดอารมณ์ออกมาอยางไปเกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น
และก็คงไม่มีใครสนใจเธอหรอก หากว่าแม่คุณไม่ปล่อยจิตสังสารระดับพระกาฬออกมา ทำเอาทุกคนในห้องสมุด
ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้ว ลมหายใจติดขัดไปหมด บรรยากาศในห้องสมุดจากเงียบจึงได้กลายเป็นวิเวกวังเวงไปแล้ว และถ้ามีเข็มตก
ลงบนพรมสักเล่มคงได้ยินกันไปทั่วห้อง
เอลเรนาสยังมีทีท่าไม่สนใจเธอยิ่งทำให้จิตสังหารที่แผ่ออกมายิ่งรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดเอลเรนาสก็จำต้องยอม
บอกไปตรง ๆ เพื่อจะหยุดจิตสังหารที่แผ่ออกมาเรื่อย ๆ นี่เสียที ไม่ใช่ว่าเขากลัวหรอกนะ แต่เฟรีย่าที่นั่งอยู่ด้วยนี่สิ ทำท่าจะตาย
เพราะจิตสังสารของเพื่อนสาวข้าง ๆ อยู่รอมร่อ
"เอามาจากชั้นหนังสือในสุดด้านขวา อยู่มุมล่างสุดเลย" เอลเรนาสยังคงเยือกเย็นเหมือนเคย
ในที่สุดบรรยากาศน่ากลัวก็หายไปเมื่อเจ้าตัวพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
"บอกแต่แรกก็สิ้นเรื่อง" เอรีอาน่าตั้งท่าจะลุกไปตามที่เอลเรนาสบอกแต่ก็ถูกเบรกไว้
"มันมีเล่มเดียว" น้ำเสียงเฉยเมยที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่เอรีอาน่ารู้ดีว่าเขารู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร
"ชิ ! ไม่เอาก็ได้" เอรีอาน่ากระแทกตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวเดิม หากมันพูดได้คงจะด่าเธอจนไม่เหลือชิ้นดี
เวลายังคงผ่านไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หมดเวลาก็การพักผ่อน ตอนเย้นทุกคนยังไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม แล้วก็
แยกกันกลับห้องใครห้องมัน
"เฮ้อ ~ นึกว่าจะได้พักผ่อนสบาย ๆ แท้ ๆ กลับต้องมาทะเลาะกะไอ้ปฏิมากรรมน้ำแข็ง เซ็งชะมัด" เด็กสาวร่างบาง
นั่งลงบ่นเตียงยืดกายบิดขี้เกียจพลางบ่นด้วยน้ำเสียงแบบเซ็งชีวิต
"มีใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเจ้านาย" คิลเปิดประตูเข้ามาได้ยินพอดีถาม
"ไม่ต้องมายุ่งหรอกน่า ว่าแต่แกกับไอ้หมาน้ำแข็งนั่นไปทำอะไรกันที่ป่าหลงลืม" เอรีอาน่าพูดโดยไม่หันไปมองสัตว์
เลี้ยงของเธอ
"ก็... ไม่มีอะไรหรอก" คิลทำท่าจะบอกแต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน
ผู้เป็นนายชายตามองสัตว์เลี้ยงด้วยนัยน์ตาแฝงความฉงน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วลุกจาดเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำ
แต่ก็หยุดอยู่หน้าประตูแล้วพูดกับคิลโดยไม่หันไปมอง
"ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่นายเก็บความลับนี้ไว้ได้ไม่นานหรอก ไม่ฉันก็เอลเรนาสต้องรู้ให้ได้" เอรีอาน่าเดินเข้า
ห้องน้ำทันทที่พูดจบ เล่นเอาคิลที่ยืนฟังอยู่ปรับตัวตามอารมณ์เธอไม่ทัน
ไม่นานนักเอรีอาน่าก็ออกมาในสภาพที่ผมเปียกโชก ใส่ชุดนอนสีขาว ร่างบางค่อย ๆ นั่งลงบนเตียง ใช้ผ้าผืนเล็กเช็ด
ผมเบา ๆ นัยน์ตาสีเงินกลมโตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย
ภายในห้องยังคงเงียบกริล แม้แต่หมาจอมกวนอย่างคิลยังจ้องมองเจ้านายของมันเงียบ ๆ อยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง
ในใจยังคงสงสัยว่าเจ้านายของมันเป็นอะไร คิลทำท่าอ้าปากจะถามหลายครั้ง แต่ก็เปลี่ยนใจเงียบไปเสียทุกครั้ง
ผ้าผืนเล็กเปียกน้ำหมาด ๆ ปลิวมาตกใส่หัวของมัน เอรีอาน่าล้มตัวลงนอนทั้งที่ผมยังไม่แห้งดีแล้วก็ผล็อยหลับไป
คิลดึงผ้าผืนบางออกจากหัว กลิ่มหอมอ่อน ๆ โชยออกมาจากผ้าในมือ คิลยกมันขึ้นมาแตะจมูก สูดหายใจเอากลิ่นที่ติดผ้าเข้าไป
"เจ้าหญิงน้อยของข้า แม้ท่านจะบอบบางแต่ก็แข็งแกร่งนัก" คิลพึมพำแผ่วเบา ทิ้งคำพูดแปลก ๆ ให้จางหายไปกับ
สายลม คืนร่างเป็นหมาป่าสีเงินแล้วนอนหมอบลงตรงนั้น
ตรงหน้าจะเป็นห้องของประธานนักเรียน ซ้ายมือเป็นห้องของเสนาธิการฝ่ายซ้าย ขวามือเป็นห้องเสนาธิการฝ่ายขวา ถัดจากห้อง
เสนาธิการฝ่ายซ้ายเป็นห้องนอนรวมหญิงขนาดให้ ซึ่งเปิดให้ใช้แค่ห้องเดียว ส่วนที่ถัดไปจากห้องของเสนาธิการฝ่ายขวาเป็นห้องนอน
รวมชายซึ่งเป็นให้แค่ห้องเดียวเช่นกัน
ห้องนอนของกรรมการนักเรียนทั้ง 3 เป็นห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ มีห้องน้ำในตัว เตียงเป็นเตียงเดี่ยวกว้างขวางสีขาว
ภายในห้องนอนถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมาย ล้วนแล้วแต่ใช้โทนสีขาวดำทั้งสิ้น ตู้เสื้อผ้าตู้ใหญ่สีดำตั้งอยู่ข้างประตูห้องน้ำ
โคมไฟระย้าขนาดยักษ์สีขาวมีเทียนสีดำส่องแสงสว่างไสว
เอรีอาน่าเปิดประตูเข้าไปในห้อง ก็ได้แต่ยืนตะลึงกับการตกแต่งประดับประดาอยู่หน้าประตู ก่อนจะได้สติรีบเข้าไปจัด
เสื้อผ้าเข้าตู้ แล้วออกมายืนรอเพื่อนของเธอหน้าห้องนอนรวม
ภายในห้องนอนรวมทั้งหญิงและชาย ป็นห้องขนาดใหญ่ มีเตียงเดี่ยวสีขาว 5 ตัววางเรียงกัน ข้างเตียงมีตู้เสื้อผ้าวาง
ขั้นระหว่างแต่ละเตียง มีห้องน้ำภายใน มีระเบียงห้องกว้างขวาง
นักเรียนหญิงปี 1 ทั้ง 4 คนต่างมาจับจองเตียงของตัวเอง ถ้ายืนตรงประตูหันหน้าเข้าห้องขวามือสุดจะเป็นเตียงของลูเคีย
ถัดมาเป็นเตียงของเฟรีย่า ตรงกลางไม่มีคนนอนส่วน 2 เตียงทางซ้ายเป็นนักเรียนหญิงอีก 2 คน
เฟรีย่าจัดเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเป็นระเบียบ ส่วนลูเคียโยนกระเป๋าสัมภาระใส่ไว้ในตู้แล้วเดินออกจากห้องมาเลย
"เป็นไงมั่ง เมื่อเช้ามาซะเกือบไม่ทันเลยนะ" ลูเคียทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นเอรีอาน่า
"เหอ ๆ มัวจัดของน่ะ โชคดีมีเจ้านี่เลยมาทัน" เอรีอาน่าเอามียีหัวคิล
"อย่าทำสิ ผมยุ่งหมดแล้ว" คิลทำหน้ามุ่ยแล้วดึงมือผู้เป็นนายออก
"เท่จังเลยเนอะคิลเนี่ย อยากได้แบบนี้มั่งจัง" ลูเคียทำสายตาอิจฉา คนฟังเริ่มโม้
"แน่นอนอยู่แล้ว อย่างข้าเนี่ยต้องเรียกว่าไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะความหล่อหรือความสามารถ"
เอรีอาน่ากุมขมับ อยากจะเอาดาบผ่าครึ่งมันซะให้รุ้แล้วรูรอด
"คุณเอรีอาน่าคะ ตั้งแต่มายังไม่ได้คุยกันเลย สบายดีมั้ยคะ ?" เฟรีย่าวิ่งออกมาจากห้อง
"ก็ดี" เอารีอาน่าตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ
ลูซิเฟอร์กับเอลเรนาสออกมาจากห้องของตัวเองพร้อมกันมาร่วมวงคุยกับสามสาว
"สบายดีมั้ยสาว ๆ" ลูซิเฟอร์ทัก ทำท่าทางกะล่อน
"ดีไม่ดีเกี่ยวไรกะนาย" ลูเคียสวนทันควัน
"แหม... ถามหน่อยเดียวเอง โมโหอะไรเนี่ย" ลูซิเฟอร์ยิ้มแหย ๆ
"ใครโมโหกันยะ" ลูเคียส่งสายตาข่มขู่
"แล้วนี่แกจะเงียบอีกนานมั้ย" เอรีอาน่าจ้องเอลเรนาสเขม็ง ไม่สนใจการทะเลาะกันของคนทั้งคู่
"เกี่ยวกับเธอมั้ย" เอลเรนาสย้อนนิ่ม ๆ ทำเอาเอรีอาน่าฉุนกึก
"อย่ายอกย้อนได้มั้ย แกจะไปแข่งขันพูดน้อยชิงแชมป์รึไงฟะ"
"ก็มันไม่มีอะไรจะพูด" เอลเรนาสยังคงตอบแบบนิ่ม ๆ นิ่ง ๆ
"ก็หัดมีมั่งสิเฟ้ย !" เอรีอาน่าตะโกนใส่หูเขา
และแล้วสงครามน้ำลายของ 2 คู่ 2 รสชาติก็เริ่มขึ้น
"ว่าไปแกนี่ก็เหมือนเจ้านายเลยเนอะ" คิลหันไปพูดกับฮาเดส
"เจ้าก็พอกันน่ะแหละ เจ้านายยังไง สัตว์เลี้ยงยังงั้น" ฮาเดสตอบโดยไม่หันมามอง
"แล้วมันผิดหรือไง ไอ้หมาน้ำแข็ง !" คิลตั้งฉายาให้ฮาเดสด้วยความหมั่นไส้
"เงียบ ๆ ไปเหอะน่า" ฮาเดสยังไม่หันมามองคิล
"ใครมันจะเป็นน้ำแข็งได้อย่างแกฟะ"
"แล้วใครบอกให้เจ้ามาเป็นน้ำแข็งอย่างข้าล่ะ"
สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามน้ำลายของเจ้าชายกับเจ้าหญิง เจ้าชายผู้สูกศักดิ์กับนักฆ่า และหมากับหมา... เฟรีย่า
ยืนดูสงครามน้ำลาย 3 คู่ด้วยความปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างแรง ไม่รู้จะห้ามยังไงดี สุดท้ายก็ได้แต่ยืนดูเท่านั้น
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน และแล้วการโต้เถียงกันที่น่าเวียนหัวก็จบลงด้วยดี
"เฮ้อ... จะบ้าตาย" เอรีอาน่าถอนหายในยาว
"นี่เปออซมันหายไปไหนเนี่ย" ลูซิเฟอร์พูดพลางหันมองทางห้องนอนชาย
จังหวะนั้น เปออซก็ผลักประตูออกมาแล้ววิ่งมาทางพวกเธอ 'ตายยากจริง ๆ' ทุกคนคิดในใจ
"โทษที มัวจัดของเพลินน่ะ แหะ ๆ" เปออซหัวเราะแห้ง ๆ
"ช้าทั้งปีแหละนายเนี่ย ไม่เคยทันชาวบ้าน" ลูเคียค้อนใส่
"แหะ ๆ โทษทีนะเจ๊" เปออซว่าด้วยอาการหอบนิด ๆ
"เคยบอกไปแล้วไงว่าไม่ให้เรียกว่าเจ๊ !" ลูเคียตะคอกจนเปออซหน้าซีด
"ไปกินข้าวกันเถอะ ชักหิว" เอรีอาน่าว่าพลางเอามือลูบท้อง
แล้วทั้ง 8 ชีวิตก็พากันเดินไปที่ห้องอาหาร ห้องอาหารของปราสาทไรเงาเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ แต่ก็ยังเล็กกว่า
ห้องอาหารรวมอยู่ดี โต๊ะอาหารยาว ๆ วางเรียงกันอยู่ 4 ตัว ผนัง 3 ด้านเป็นร้านขายอาหารซึ่งมีอาหารหลายประเภทให้เลือกซื้อ
เลือกกิน กลุ่มของเอรีอาน่าเลือกจับจองโต๊ะไว้โต๊ะหนึ่งโดยการสั่งให้คลอฟวูฟ 2 ตัวและเปออซซึ่งถูกลูเคียสั่งลงโทษนั่งเฝ้าโต๊ะก่อน
ส่วนเอรีอาน่ากับพวกอีก4คนก็ไปเลือกซื้ออาหารมากิน
ไม่นานนักพวกเอรีอาน่า 5 คนก็กลับมาถึงโต๊ะพร้อมอาหารหน้าตาน่ากิน กลิ่นหอมโชยมาชวนให้คนเฝ้าโต๊ะน้ำลายสอ
"ลูเคียจ๋า~ ให้ฉันไปซื้อข้าวได้ยัง" เปออซทำเสียงออดอ้อน
"ไปไหนก็ไปเลยไป" ลูเคียไล่ด้วยความรำคาญ
"เจ้านาย... ขอเงินไปซื้อของกินหน่อยนะคร๊าบบบ" คิลลากเสียงยานคาง พยายามอ้อนอย่างเปออซ
"น่ารำคาญจริง เอาไป แล้วไปไหนก็ไปเลย" เอรีอาน่าควักเงินให้ บ่นงึมงำทั้งที่ข้าวยังคาปากอยู่
"ขอบคุณเจ้านายที่แสนน่ารักขอรับ" คิลทำเสียงน่าหมั่นไส้จนเอรีอาน่าอดไม่ไหวประเคนบาทาให้หนึ่งที
"เอ่อ... เจ้านายครับ.... ขอตังค์หน่อย..." ฮาเดสอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ของตังค์เอลเรนาส เจ้านายผู้ใจบุญหยิบเงินส่งให้
โดยไม่ปริปากพูดอะไร
แล้วผู้เคราะห์ร้ายต้องเผ้าโต๊ะทั้งหลายต่างก็รีบวิ่งไปซื้ออาหารก่อนที่จะโดนรั้งไว้ที่โต๊ะอีก
คิลกับฮาเดสกลับมาพร้อมน่องไก่ชิ้นโตหลายชิ้นในจาน ส่วนเปออซก็ยังคงช้าอีกตามเคย และแล้วทั้ง 8 ก็นั่งกินไป
คุยไปจนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง
"สงสัยจะคุยเพลินไปหน่อยนะเนี่ย คนจะหมดโรงอาหารอยู่แล้ว" เอรีอาน่าหันซ้ายหันขวา
"นั่นสิคะ พวกเราไปกันเถอะค่ะ" เฟรีย่าลุกขึ้นเอาจานไปเก็บ
จากนั้นทุกคนก็ลุกตามองค์หญิงผู้แสนจะเรียบร้อยไป หลังมื้อกลางวันทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เปออซขอ
ตัวไปไปนอนในห้อง ลูเคียไปเดินเล่น คิลกับฮาเดสขอไปตีกันในป่าหลงลืม เฟรีย่า เอรีอาน่า เอลเรนาสและลูซิเฟอร์ พากันมาอ่าน
หนังสือที่ห้องสมุดปราสาทไร้เงา
ห้องสมุดของปราสาทไร้เงาต้องขึ้นมาถึงชั้น 8 ซึ่งก็ทำเอาขาลากเหมือนกัน ห้องสมุดนั้นกว้างขวางชั้นหนังสือวาง
แบบขั้นห้องสมุดเป็นล็อก ๆ สูงจรดเพดาน แต่กลับมีโต๊ะเพียง 7 ตัวเท่านั้นที่อยู่ในห้องนี้ เนื่องจากนักเรียนปราสาทไร้เงาที่ชอบอ่าน
หนังสือมีไม่มากนัก ปราสาทไรเงาเป็นคล้ายปราสาทพิเศษที่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นพวกมีพลังมากแล้วก็เก่งมากด้วย เลยไม่ค่อยจะสนใจ
หยิบหนังสือมาอ่านกันซักเท่าไหร่
"เอาโต๊ะนี้นะคะ" เฟรีย่าวิ่งไปลากเก้าอี้ตรงโต๊ะที่ใกล้ประตูที่สุดออกมานั่ง
"จะไม่ลงชื่อก่อนหรือไง" เอรีอาน่าพลิกหน้าสมุดลงชื่อเข้าใช้ห้องสมุด
มันเป็นสมุดเก่า ๆ ข้างในเป็นกระดาษให้ลงชื่อซึ่งเก่าจนกลายเป็นสีน้ำตาลแล้ว สมุดลงชื่อหน้าแรกเป็นของปีนี้
ยังไม่มีชื่อใครมาใช้สักคน แน่นอนว่าพวกเอรีอาน่าเป็นพวกแรกที่เข้ามาใช้ของปีนี้ เอรีอาน่าจัดแจงเขียนชื่อลงในสุมดพร้อมเผื่อแผ่
ให้บรรดาเพื่อน ๆ ของเธอด้วย
เอรีอาน่าเดินไล่หาหันงสือที่ต้องการ เธอเดินจนทั่วห้องสมุดแล้วแต่ก็ยังหาเล่มที่ต้องการไม่เจอสักที (แล้วไอ้ชั้นบน ๆ
นี่เจ๊เขาดูยังไงเนี่ย) เลยเดินกลับมานั่งที่โต๊ะด้วยอารมณ์เบื่อโลก
"คุณเอรินเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำหน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเลย" เฟรีย่าเรียกเธอด้วยชื่อย่อ
"เปล่าหรอก แค่หาหนังสือไม่เจอน่ะ" เอรีอาน่าบ่น มองไปทางเอลเรนาสที่เดินกลับมา
สายตาเอรีอาน่าจดจ้องไปยังหนังสือที่เอลเรนาสถือมาไม่กระพริบ
"เฮ้ย ! นายไปเจอมันจากไหน ทำไมฉันหาไม่เจอ" เอรีอาน่าตาโตเมื่อเห็นหนังสือเล่มที่เธอต้องการ
"ห้องสมุด" คำตอบสั้นง่ายจากเจ้าชายรัชทายาทนั้นชวนให้เอรีอาน่าอยากประเคนบาทาใส่ปากมันซะเหลือเกิน
"ไอ้บ้า ! แล้วที่แกยืนอยู่นี่มันห้องอาหารหรือไงเล่า ! ฉันหมายถึงว่าไปเจอมันจากตรงไหน !"
เอรีอาน่าขึ้นเสียงอย่างลืมตัวแต่ก็ไม่มีใครคิดจะใส่ใจกับเสียงของเธอสักคน
"...ชั้นหนังสือ" เอลเรนาสตอบเสียงเรียบ ลากเก้าอี้ออกมานั่งอย่างไม่ยี่หระคนตรงหน้า
"ไอ้เอลเรนาส !!! อย่านึกว่าเป็นเจ้าชายรัชทายาทอะไรนั่นแล้วฉันจะกลัวน่ะ !! จะตอบให้มันเจาะจงลงไปกว่านี้ไม่
ได้หรือไง !!!" ในที่สุดเส้นฟางสุดท้ายก็ขาด เอรีอาน่าระเบิดอารมณ์ออกมาอยางไปเกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น
และก็คงไม่มีใครสนใจเธอหรอก หากว่าแม่คุณไม่ปล่อยจิตสังสารระดับพระกาฬออกมา ทำเอาทุกคนในห้องสมุด
ไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้ว ลมหายใจติดขัดไปหมด บรรยากาศในห้องสมุดจากเงียบจึงได้กลายเป็นวิเวกวังเวงไปแล้ว และถ้ามีเข็มตก
ลงบนพรมสักเล่มคงได้ยินกันไปทั่วห้อง
เอลเรนาสยังมีทีท่าไม่สนใจเธอยิ่งทำให้จิตสังหารที่แผ่ออกมายิ่งรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดเอลเรนาสก็จำต้องยอม
บอกไปตรง ๆ เพื่อจะหยุดจิตสังหารที่แผ่ออกมาเรื่อย ๆ นี่เสียที ไม่ใช่ว่าเขากลัวหรอกนะ แต่เฟรีย่าที่นั่งอยู่ด้วยนี่สิ ทำท่าจะตาย
เพราะจิตสังสารของเพื่อนสาวข้าง ๆ อยู่รอมร่อ
"เอามาจากชั้นหนังสือในสุดด้านขวา อยู่มุมล่างสุดเลย" เอลเรนาสยังคงเยือกเย็นเหมือนเคย
ในที่สุดบรรยากาศน่ากลัวก็หายไปเมื่อเจ้าตัวพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
"บอกแต่แรกก็สิ้นเรื่อง" เอรีอาน่าตั้งท่าจะลุกไปตามที่เอลเรนาสบอกแต่ก็ถูกเบรกไว้
"มันมีเล่มเดียว" น้ำเสียงเฉยเมยที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่เอรีอาน่ารู้ดีว่าเขารู้ว่าเธอคิดจะทำอะไร
"ชิ ! ไม่เอาก็ได้" เอรีอาน่ากระแทกตัวลงนั่งเก้าอี้ตัวเดิม หากมันพูดได้คงจะด่าเธอจนไม่เหลือชิ้นดี
เวลายังคงผ่านไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หมดเวลาก็การพักผ่อน ตอนเย้นทุกคนยังไปกินข้าวด้วยกันเหมือนเดิม แล้วก็
แยกกันกลับห้องใครห้องมัน
"เฮ้อ ~ นึกว่าจะได้พักผ่อนสบาย ๆ แท้ ๆ กลับต้องมาทะเลาะกะไอ้ปฏิมากรรมน้ำแข็ง เซ็งชะมัด" เด็กสาวร่างบาง
นั่งลงบ่นเตียงยืดกายบิดขี้เกียจพลางบ่นด้วยน้ำเสียงแบบเซ็งชีวิต
"มีใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเจ้านาย" คิลเปิดประตูเข้ามาได้ยินพอดีถาม
"ไม่ต้องมายุ่งหรอกน่า ว่าแต่แกกับไอ้หมาน้ำแข็งนั่นไปทำอะไรกันที่ป่าหลงลืม" เอรีอาน่าพูดโดยไม่หันไปมองสัตว์
เลี้ยงของเธอ
"ก็... ไม่มีอะไรหรอก" คิลทำท่าจะบอกแต่ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน
ผู้เป็นนายชายตามองสัตว์เลี้ยงด้วยนัยน์ตาแฝงความฉงน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา แล้วลุกจาดเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำ
แต่ก็หยุดอยู่หน้าประตูแล้วพูดกับคิลโดยไม่หันไปมอง
"ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่นายเก็บความลับนี้ไว้ได้ไม่นานหรอก ไม่ฉันก็เอลเรนาสต้องรู้ให้ได้" เอรีอาน่าเดินเข้า
ห้องน้ำทันทที่พูดจบ เล่นเอาคิลที่ยืนฟังอยู่ปรับตัวตามอารมณ์เธอไม่ทัน
ไม่นานนักเอรีอาน่าก็ออกมาในสภาพที่ผมเปียกโชก ใส่ชุดนอนสีขาว ร่างบางค่อย ๆ นั่งลงบนเตียง ใช้ผ้าผืนเล็กเช็ด
ผมเบา ๆ นัยน์ตาสีเงินกลมโตเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย
ภายในห้องยังคงเงียบกริล แม้แต่หมาจอมกวนอย่างคิลยังจ้องมองเจ้านายของมันเงียบ ๆ อยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง
ในใจยังคงสงสัยว่าเจ้านายของมันเป็นอะไร คิลทำท่าอ้าปากจะถามหลายครั้ง แต่ก็เปลี่ยนใจเงียบไปเสียทุกครั้ง
ผ้าผืนเล็กเปียกน้ำหมาด ๆ ปลิวมาตกใส่หัวของมัน เอรีอาน่าล้มตัวลงนอนทั้งที่ผมยังไม่แห้งดีแล้วก็ผล็อยหลับไป
คิลดึงผ้าผืนบางออกจากหัว กลิ่มหอมอ่อน ๆ โชยออกมาจากผ้าในมือ คิลยกมันขึ้นมาแตะจมูก สูดหายใจเอากลิ่นที่ติดผ้าเข้าไป
"เจ้าหญิงน้อยของข้า แม้ท่านจะบอบบางแต่ก็แข็งแกร่งนัก" คิลพึมพำแผ่วเบา ทิ้งคำพูดแปลก ๆ ให้จางหายไปกับ
สายลม คืนร่างเป็นหมาป่าสีเงินแล้วนอนหมอบลงตรงนั้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น