ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Secret School (S.S.)

    ลำดับตอนที่ #5 : Fourth Lesson : คัดเลือก Choose

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 51


                    เบื้องหลังประตูเป็นสนามหญ้ากว้างที่พวกเขาอยู่ก่อนที่จะเข้ารับการทดสอบนี้ เวลานี้มีบุคคลเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู๋ที่นี่สภาพแต่ละคนนั้นย่ำแย่มาก ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้ายับยู่ยี่ บางคนก็มีร่องรอยเหมือนถูกของมีคนหรือถูกฉีกในบรรดาคนที่อยู่ที่นี่ในตอนนี้ ไม่มีใครเลยที่ไม่มีบาดแผล ถ้าคนที่ไม่รู้ว่าเพิ่งจะผ่านการทดสอบมาหมาด ๆ มาเห็นก็คงต้องถามว่า 'ไปกัดกับหมาที่ไหนมา'
                    เรียวเซเดินเข้าไปใกล้พวกนั้นเล็กน้อยเพื่อจะมองหาบุคคลที่เขารู้จัก แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครที่เขารู้จักอยู่ในกลุ่มนี้ เขาจึงปลีกตัวไปนั่งเล่นใต้ต้นไม้คนเดียว นัยน์ตาสีนิลเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ในหัวกำลังคิดย้อนกลับไปถึงการทดสอบที่เพิ่งผ่านมา และภาพเหตุการณ์ที่เขาได้เห็นในห้องสุดท้าย มันถูกฉายซ้ำ ๆ อยู่ในหัว วนเวียนไปมาอยู่กับเหตุการณ์ที่เขาไม่อยากเห็น ไม่อยากจดจำ ทั้งที่เขาควรจะลืมมันไปได้แล้ว แต่กลับต้องมาเห็นมันซ้ำอีก ในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ ไม่ใช่ผู้ประสบเหตุอย่างตอนนั้น
                    ระหว่างที่เขานั่งรอเวลาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ประตูหลายบานก็ถูกเปิดออกในเวลาใกล้เคียงกัน  สภาพแต่ละคนที่ผ่านประตูออกมาก็ไม่ต่างจากพวกที่มาถึงก่อนสักเท่าไหร่ บางคนแย่กว่าด้วยซ้ำ ประตูบานแล้วบานเล่าถูกเปิดออก  แต่เรียวเซก็ยังไม่เห็นร่างของคนที่กำลังรอสักที
                    ประตูสามบานปรากฏขึ้นพร้อมกัน บุคคลที่ออกมาจากหลังประตูมี รินะ เก็นโซ และ เด็กหนุ่มอายุเท่ากันอีกคนที่เขาไม่รู้จัก เก็นโซเดินเข้าไปหารินะเหมือนจะเข้าไปช่วยพยุงทั้งที่ตัวเองยังเอาตัวเองแทบจะไม่รอด
                    เรียวเซเบือนหน้าหนีในจังหวะเดียวกับที่รินะหันมามองเขาพอดี ทำให้เกิดการเข้าใจผิดโดยที่รินะคิดไปเองว่าเรียวเซแกล้วเมินเธอ เธอเลยทำเชิดใส่แล้วเดินหนีไปเสียอย่างนั้น
                    เวลายังคงเดินไปพร้อมกับประตูหลายบานที่เปิดเรียงกันมาในเวลาใกล้ ๆ กัน จนในที่สุด ประตูบานสุดท้ายก็ได้ปิดลง พร้อมกับการปรากฏตัวอีกครั้งของ คามิว เวสส์ตัน อาจารย์ประจำวิชาทักษะการรักษา พร้อมกับเสียงประกาศของเธอ
                    "ตอนนี้ผู้รับการทดสอบทุกคนก็กลับออกมาครบหมดแล้วนะคะ เราจะไม่มีการแจ้งคะแนนการทดสอบนี้ และต่อไปจะเป็นการคัดเลือกหอ ที่พวกเจ้าทุกคนจะต้องอยู่ตลอด 6 ปีการศึกษา ถ้าไม่มีอะไรข้องใจก็ตามข้ามา" ว่าจบเธอก็เดินกลับเข้าไปภายในปราสาทอีกครั้ง
                    ทุกคนค่อย ๆ ทยอยกันเดินเข้าปราสาทไป และแยกกันกลับไปนั่งที่ของตนเองในตอนแรก
                    "เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนผ่านการทดสอบที่ 2 เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะเป็นการคัดเลือกหอที่พวกเจ้าจะต้องอยู่ ซึ่งหอที่พวกเจ้าได้รับเลือกให้อยู่นี้ พวกเจ้าจะต้องอยู่ตลอด 6 ปีการศึกษา และไม่สามารถขอเปลี่ยนหอได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ขอเชิญอาจารย์ประจำการคัดเลือกครับ" อาจารย์ใหญ่ชี้แจงทันทีที่ทุกคนเข้ามาถึงในประสาท ตอนท้ายหันไปพูดกับอาจารย์อีกคน ที่นั่งถัดจากอาจารย์ใหญ่ไปทางซ้าย 2 คน
                    "สวัสดีครับ ว่าที่นักเรียนทุกคน กระผมมีนามว่า คาโดรัส คอสเคคัส เป็นอาจารย์ประจำวิชาสมุนไพรและการปรุงยา แล้ววันนี้ก็ได้รับเกียรติให้มาเป็นอาจารย์ประจำการคัดเลือกหออีกปีนะครับ" อาจารย์ผู้ชายหน้าตาจัดว่าดี ผมสีดำยาวประบ่า นัยน์ตาสีเดียวกันกวาดมองส่าที่นักเรียนทั่วห้อง
                    "ซึ่งก็เป็นอย่างที่อาจารย์ใหญ่ได้บอกไว้ ว่าหอที่พวกเจ้าได้รับคัดเลือกแล้ว ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องอยู่ตลอก 6 ปีการศึกษา หอทั้งหมดของเรามี 4 หอ คือ หออัคคี หอวารี หอแห่งแสง และหอแห่งเงา และเราจะทำการคัดเลือกหอโดยใช้ลูกแก้วจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับโรงเรียนนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ข้าจะขานชื่อพวกเจ้าทีละคน คนที่ถูกเรียกให้ออกมายืนข้างหน้า แล้วถือลูกแก้วจิตวิญญาณขึ้นมา ถ้าพวกเจ้าเข้าใจแล้ว ข้าจะขอเริ่มพิธีอันศักดิ์สิทธิ์เดียวนี้" คาโดรัสร่ายยาว ประโยคท้ายเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงทรงพลังและอำนาจ ต่างจากตอนแรกที่กล่าวอย่างเนิบ ๆ
                    คาโดรัสหลับตาลง ยืนนิ่งราวกับกำลังรวบรวมสมาธิ วูบหนึ่งที่สายลมร้อนพัดวูบเข้ามาภายในปราสาท  รอบตัวคาโดรัสเริ่มปรากฏแสงสีม่วงจาง ๆ และค่อย ๆ เข้มขึ้นอย่างช้า ๆ  และเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังที่แผ่ออกมา ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ พลังที่พวยพุ่งออกมายิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนแม้แต่คนที่ไม่เคยมีทักษะด้านเวทย์มนตร์ยังรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลนั้น
    ชั่วเวลาเพียงไม่นาน แต่กลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันนานนับปี ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนต้องมนตร์สะกด ไร้สรรพเสียงใด ๆ ทุกอย่างนิ่งสนิท ราวกับทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพวาด จนในที่สุดคลื่นพลังนั้นก็สงบลง
                    คาโดรัสถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก แล้วมองไปยังจุด ๆ หนึ่งซึ่งอยู่หน้าโต๊ะตรงตำแหน่งที่อาจารย์ใหญ่นั่งพอดี ทุกชีวิตในปราสาทมองตามสายตาคาโดรัส แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบกับสิ่งที่เพิ่งปรากฏขึ้นมา
                    ลูกแก้วขนาดประมาณลูกเทนนิสลอยอยู่ ณ ตำแหน่งหน้าโต๊ะตรงที่อาจารย์ใหญ่นั่ง มันเป็นลูกแก้วใส ๆ ที่ดูธรรมดา แต่กลับแฝงไปด้วยพลังอำนาจมหาศาล ที่ไหลวนอยู่รอบ ๆ ตัวมัน
                    "นี่คือลูกแก้วจิตวิญญาณ ลูกแก้วที่จะใช้ในการคัดเลือกหอ เพื่อไม่ให้เป็นการดสียเวลา ข้าจะขอเริ่มการคัดเเลอกเดี๋ยวนี้" คาโดรัสประกาศก้อง แล้วหันไปรับกระดาษแผ่นหนึ่งจากคามิว
                    เขากวาดสายตามองไปทั่วหน้ากระดาษ คล้ายการอ่านผ่าน ๆ  แล้วเอ่ยรายชื่อของผู้ที่จะได้รับการคัดเลือกให้อยู่หอต่าง ๆ เป็นคนแรก
                    "เซรีล เดเมนดาร์ก"
                    สิ้นเสียงเรียกชื่อ ทุกคนในปราสาทต่างพร้อมใจกันเงียบ เพื่อรอการปรากฏตัวของเจ้าของชื่อ สักพักคนที่น่าจะเป็นเจ้าของชื่อก็ยืนขึ้น เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ติดหวานนิด ๆ เส้มผมสีดำขลับ กับนัยน์ตาสีเดียวกัน รูปร่างสูงสมส่วน
                     เขาเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าลูกแก้วจิตวิญญาณ แล้วเอื้อมมือไปจับมัน และดึงมันเข้าหาตัว  อยู่ ๆ ภายในปราสาทที่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดก็เกิดสายลมพัดกระหน่ำไปทั่วห้อง พลังมหาศาลเริ่มหมุนวนรอบลูกแก้ว ก่อนจะถูกดูดกลืนหายเข้าไปในตัวลูกแก้วนั้น
                     ลูกแก้วใสเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน และค่อย ๆ เข้มขึ้น ๆ จนกลายเป็นสีแดงจัด ทอแสงสีแดงจ้าไปทั่วปราสาท  พลังที่ถูกดูดเข้าไปในลูกแก้วปะทุออกมา คลื่นพลังสีแดงสดแผ่กระจายออกไปทั่วตัวปราสาท ผลักดันทุกอย่างที่ขวางทางมัน
                     บรรดาอาจารย์ทุกคนไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ใหญ่ หลบลงไปหลังโต๊ะ เพื่อใช่มันเป็นโล่กำบัง  ว่าที่นักเรียนและนักเรียนปี 6 ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ พร้อมใจกันเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะ ส่วนพวกที่หลบไม่ทันก็ถูกคลื่นพลังผลักตกเก้าอี้ ลงไปนอนแผ่อยู่บนพื้น สิ่งของต่าง ๆ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ตัวเล็ก ๆ กระถางต้นไม้ และอีกหลายสิ่ง ล้มระเนระนาด
                     และแล้ว ทุกอย่างภายในปราสาทก็กลับมาอยู่ในความสงบดังเดิม คลื่นพลังรุนแรงสลายตัวไป ทุกคนออกมาจากที่กำบัง กลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมของตนเอง และกลับมาทำตัวดังเดิม ราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
                      "หออัคคี !" คาโดรัสประกาศผล
                      เซรีลปล่อยมือจากลูกแก้ว มันลอยตัวขึ้นแล้วสร้างพายุหมุนเล็ก ๆ สีแดงสดขึ้นเหนือตัวมัน พายุนันหมุนอยู่ได้พักหนึ่ง ก็สลายตัวไป เหลือไว้เพียงเข็มกลัด สีแดง ที่มีลายสลักรูปดาบ 2 เล่ม วางพาดกันเป็นกากบาท มันตกลงสู่มือของเซรีล เขามองมันด้วยความฉงน แล้วเงยหน้ามองคาโดรัส
                      "นั่นคือเข็มกลัดอัคคี สัญลักษณ์ของหออัคคี เท่ากับว่าเจ้าได้รับการยอมรับจากผู้ก่อตั้งหออัคคีแล้ว" คาโดรัสไขข้อข้องใจให้แก่เซรีล
                      เด็กหนุ่มมองหน้าคาโดรัสนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินกลับมานั่ง โต๊ะที่มีนักเรียนปี 6 ที่สวมชุดสีแดงนั่งอยู่
                      "หลาน เสี่ยวผิง" คาโดรัสประกาศรายชื่อคนต่อไปทันที
                      เด็กสาวร่างเล็ก ผิวขาว หน้าตาน่ารัก มวยผมไว้สองข้าง สวมชุดกี่เพ้าสีแดงสด วิ่งออกไปยืนข้างหน้าลูกแก้ว เธอถูมือเบา ๆ เพื่อคลายความตื่นเต้น แล้วเอื้อมมือไปหยิบลูกแก้วจิตวิญญาณ
                      สายลมพัดวนทั่วห้องอีกครั้งเหมือนคราวที่เซรีลถือลูกแก้ว แต่ครั้งนี้เบากว่ามาก พลังของลูกแก้วถูกดูดกลับเข้าไปในตัวลูกแก้วอีกครั้ง ลูกแก้วใสเริ่มมีสีฟ้าจาง ๆ และค่อย ๆ เข้มขึ้นจนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม ทอประกายระยิบระยับ คลื่นพลังถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง แต่เบากว่าครั้งก่อนมาก มันมีความแรงเท่ากับลมเบา ๆ เท่านั้น ไม่สามารถสร้างความเสียหายอะไรเหมือนครั้งก่อนได้เลย
                      แล้วคลื่นพลังก็สลายตัวไป เสี่ยวผิงปล่อยลูกแก้วให้กลับไปลอยอยู่ที่เดิม ลูกแก้วใสสร้างพายุหมุนขนาดเส็ก สีน้ำเงินขึ้นเหนือตัวมัน แล้วพายุก็สลายตัวกลายไปอีกครั้ง เหลือไว้เพียงเข็มกลัดสีน้ำเงิน ที่มีลายสลักรูปขนนกสองอันวางพาดกันเป็นกากบาท เสี่ยวผิงรับมันไว้แล้วเงยหน้ามองคาโดรัส
                       "หอวารี !!" จบคำประกาศ เด็กสาวก็เดินกลับมานั่งโต๊ะที่มีนักเรียนปีหก สวมชุดสีน้ำเงินนั่งอยู่
                       การคัดเลือกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างเชื้อชาติ ถูกเรียกออกไปรับการคัดเลือกทีละคน ๆ เหตุการเดิม ๆ เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทั้งสายลมและคลื่นพลังในแต่ละครั้งมีความแรงไม่เท่ากัน และมีสีที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนแต่ละหอ สีแดงคือ หออัคคี มีเข็มกลัดอัคคีเป็นสัญลักษณ์ สีน้ำเงินคือ หอวารี มีเข็มกลัดวารีเป็นสัญลักษณ์ สีขาวคือ หอแห่งแสง มีเข็มกลัดสีขาว สลักลาย คทาสองอันพาดกันเป็นกากบาท ที่เรียกว่าเข็มกลัดแห่งแสง เป็นสัญลักษ์  สีดำคือ หอแห่งเงา มีเข็มกลัดสีดำ ที่มีลายสลักรูปปีกค้างคาวเป็นสัญลักษ์
                        การคัดเลือกดำเนินมาจนถึงคนที่ 110 ซึ่งกำลังเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของหอแห่งเงา และคาโดรัสกำลังขานชื่อคนที่ 111
                        "โอริฮาระ รินะ"
                        รินะยืนขึ้น และหันมามองเรียวเซเล็กน้อย เขามองตอบกลับไปด้วยสายตาเรียบเฉย  รินะเดินออกไปยืนหน้าลูกแก้วจิตวิญญาณ  เธอสูดหายใจเข้ายาว ๆ แล้วค่อย ๆ ผ่อนออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความตื่นเต้น  เธอเอื้อมมือไปหยิบลูกแก้วมาถือไว้ แล้วหลับตาลง
                        สายลมแผ่วเบาพัดวนอยู่ภายในปราสาทเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ตัวลูกแก้วกลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่าน ๆ มา  แล้วสายลมก็ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  จากลมเบา ๆ ที่แทบจะสัมผัสไม่ได้ ตอนนี้กลับพัดกระหน่ำราวกับพายุ  พลังที่ไหลวนรอบลูกแก้วไม่ได้ถูกดูดเข้าไปในลูกแก้ว แต่ไหลวนรอบลูกแก้วด้วยความเร็วสูงแทน ลมแรงบวกกับพลังที่พัดวนไปมาด้วยความแรงและเร็ว สร้างความเสียงหายมหาศาล โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด ผู้คนถูกพัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง
                         แล้วสายลมและพลังทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสด แล้วกลับหมุนวนอยู่เบื้องหน้าเด็กสาวราวกับว่ามันถูกอะไรบางอย่างที่เป็นจุดศูนย์กลางดูดมันเข้ามา การหมุนของมันเปลี่ยนเป็นหมุนแบบเกลียวในแนวนอน พายุสีแดงสดมุนวนอยู่ได้ครู่หนึ่งก่อนจะกระจายตัวออกไป แล้วสลายตัวไป  ทิ้งสิ่งที่สร้างความตะลึงงันให้กับคนทั้งปราสาท
                         ดาบสีแดงสดทั้งเล่ม ลอยเด่นสง่าอยู่ตรงหน้าเด็กสาว ราวกับเชื้อเชิญให้เธอหยิบมัน  ด้ามดาบสีแดงสด สลักเป็นลายหงส์สีเพลิง กำลังสยายปีกบินด้วยท่าทางที่สง่างาม นัยน์ตาสีเพลิงของมันจดจ้องไปยังเบื้อหน้า ราวกับจะเผาพลาญทุกสิ่งที่มันจ้องมอง กันดาบมีสิ่งที่มีลักษณะคล้ายปีกนกยื่นออกมา  ตัวดาบและคมดาบเป็นสีเพลิง เงาเป็นประกาย สะท้อนภาพรินะออกมาราวกับมันเป็นกระจก
                         ทุกชีวิตในปราสาทต่างนิ่งอึ้ง ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น ดาบสีแดงเพลิงที่สวยงามและดูทรงพลังจนยากที่จะละสายตาจากมัน แสงสีแดงจาง ๆ เรืองรองออกมาจากตัวดาบ  รินะเอื้อมมือออกไป เพื่อจะจับดาบ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของคาโดรัส
                         "ดาบหงส์ไฟ... หนึ่งในสัญลักษ์...ตัวแทนหออัคคี" แม้มันจะแผ่วเบา แต่ก็ยังดังพอที่จะให้รินะได้ยิน เธอมองหน้าคาโดรัสอย่างต้องการคำขยายความเพิ่มเติม
                         "หยิบมันสิ นั่นเป็นหนึ่งในสองของสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งหออัคคี หมายความว่ามันยอมรับในความสามารถของเจ้าแล้ว" คำตอบที่ได้ไม่ได้มาจาดคาโดรัส แต่กลับเป็นอาจารย์ใหญ่ที่เป็นคนตอบคำถามนี้แทน
                         รินะเอื้อมมือไปหมายจะหยิบดาบ แต่ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวสัมผัสมัน ดาบสีแดงสดก็กลับกลายเป็นสายลมสีแดงแล้วพัดกระจายไปคนละทิศละทาง เหลือไว้เพียงเข็มกลัดสีแดงที่สลักลายดาบสองอันไขว้กัน แต่ดาบอันด้านขวานั้นเป็นสีทอง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เข็มกลัดอันนี้แตกต่างจากเข็มกลัดอันอื่น ๆ  เข็มกลัดอันเล็กร่วงหล่นลงสู่มือของรินะ มันเรืองแสงสีแดงแวบหนึ่งแล้วหายไป  
                         "หออัคคี!!!" คาโดรัสประกาศ ลูกแก้วใสปรากฏขึ้นตรงตำแหน่งเดิมที่มันเคยลอยอยู่พร้อม ๆ กับคำประกาศนั้น
                         รินะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะที่มีรุ่นพี่ปี 6สวมชุดสีแดงนั่งอยู่ โดยมีสายตาทุกคู่ในปราสาทมองตามทุกย่างก้าวของเธอ เธอนั่งลง มองเข็มกลัดในมืออย่างครุ่นคิด แล้วเก็บมันใส่กระเป๋ากางเกง
                          การคัดเลือกยังคงดำเนินต่อไป คนที่ 112 นั้นได้รับเลือกให้อยู่หอแห่งเงา และต่อด้วยคนที่ 113 ทันทีโดยที่แทบไม่เว้นวรรคให้ได้พักหายใจกันเลย
                          "คิริซากิ เรียวเซ" คาโดรัสขานชื่อ
                          เจ้าของชื่อลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปยืนหน้าลูกแก้วด้วยท่าทีหยิ่งทะนง โดยสาว ๆ ในปราสาทจับจ้องเขาทุกอากัปกิริยาด้วยสายตาปลาบปลื้มและหลงใหล ทำเอาผู้ชายในปราสาทมองเขาด้วยความอิจฉาและหมั่นไส้ระคนกัน
                          เรียวเซมองลูกแก้วที่ลอยอยู่เบื้องหน้า เขารู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังมองเขาผ่านลูกแก้วนี่ แต่เมื่อไม่สามารถหาคำตอบใกบตนเองได้เขาจึงหยิบมันมาถือไว้  ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นกับลูกแก้ว  ทำให้คนทั้งปราสาทมองเขาด้วยความสงสัย   ก่อนจะต้องตกใจเมื่อสายลมพัดกรรโชกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว
                          สีของลูกแก้วเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทั้งชมพู  แดง เหลือง ส้ม ฟ้า ขาว ดำ และอีกสราพัดสีที่สับเปลี่ยนไปมาโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด สีในลูแก้วยังสับเปลี่ยนวนเวียนไปเรื่อย ๆ ในที่สุดมันก็หยุดลงที่สีแดง แสงสีแดงสาดจ้างไปทั้งปราสาท กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีของมัน ทุกคนต่างยกมือขึ้นบังแสงสีแดงที่ทำให้แสบตานั้น ยกเว้นเด็กหนุ่มที่เป็นคนถือลูกแก้ว กลับจ้องมองมันราวกับจะสั่งให้มันหยุดเปล่งแสงนี่เสียที
                          สายลมที่ยังคงพัดกรรโชกและแสงสีแดงที่ยังคงสาดจ้าทำให้ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะขยับตัว ภายในปราสาทเงียบสงิท มีเพียงเสียงลมที่ยังคงดังคล้ายเสียงคนกรีดร้อง แล้วแสงสีแดงสดก็รวมเข้ากับสายลมที่พัดกระหน่ำ แล้วเปลี่ยนมาเป็นพายุหมุนสีแดงสด ที่หมุนวนอยู่รวบตัวผู้ถือลูกแก้ว
                          เพียงชั่วอึดใจต่อมา พายุทั้งหมดก็สงบลง เผยให้เป็นร่างเด็กหนุ่มคนเดิม ถือดาบสีแดงดั่งโลหิต ดาบนั้นเป็นสีแดงทั้งเล่ม ด้ามดาบสลักลายมังกรสีแดงวนรอบด้ามเลยไปจนถึงตัวดาบเล็กน้อย กันดาบมีสิ่งที่มีลักษณะคล้ายปีกค้างคาวสีแดงยื่นออกมาสองข้าง ตัวดาบและคมดาบสีแดงสดและเงาจนสะท้อนภาพได้ดั่งกระจก
                          ดาบเล่มงาม ดึงดูดให้สายตาทุกคู่ต้องมองมาที่มัน ทั้งความงามที่ไร้ที่ติ และพลังที่แผ่ออกมาพร้อมกับแสงสีแดง ช่างเป็นดาบที่ดูทรงพลังและอำนาจเหลือเกิน
                          เรียวเซยกดาบขึ้นมาพินิจพิเคราะห์ดูด้วยแววตาเฉยชา ต่างจากคนอื่น ๆ ในปราสาทที่ปากอ้าตาค้างมองดาบสีแดงสดโดยไม่กระพริบตา แม้แต่อาจารย์ใหญ่เองก็ยังมองทั้งผู้ถือดาบและดาบสลับกันด้วยแววตาที่ทั้งตื่นเต้น ตกใจ และทึ่ง ระคนกัน  แล้วดาบเล่มงามก็กลายเป็นสายลมสีแดงก่อนจะจางหายไป และปรากฏลูกแก้วจิตวิญญาณกับเข็มกลัดสีแดง ลายสลักดาบสองเล่มยังไขว็กันเปมือนเดิม แต่ดาบเล่มทางซ้ายนั้นกลายเป็นสีทอง ขึ้นมาแทน
                          "ห...หออัคคี!!!" เสียงประกาศจากคาโดรัสดึงเอาวิญญาณของใครหลาย ๆ ให้กลับเข้าร่าง
                          เรียวเซเดินกลับมานั่งที่โต๊ะซึ่งมีรุ่นพี่ชุดสีแดงนั่งอยู่ โดยที่ไม่สนใจสายตาที่มองตามเขาเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าตอนนี้เวลานี้ มีเขาอยู่ภายในปราสาทเพียงคนเดียวเท่านั้น
                          และการคัดเลือกดำเนินต่อไปได้อีกไม่นาน ก็สิ้นสุดลงที่รายชื่อสุดท้ายซึ่งเป็นคนที่ 140  และแบ่งได้หอละ 35 คน พอดี
    ___________________________________________________________                    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×