คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Fourth Mission : เตรียมตัว Prepare (100 %)
เช้าวันจันทร์ 2 วันหลังการคัดเลือก เอรีอาน่ายังคงพักอยู่ในเมืองนี้กับพ่อของเธอในโรงแรงแห่ง
หนึ่งในเวสทรี เช้านี้ควรจะเป็นเช้าที่สดใส แต่ก็ไม่ เพราะ.....
"เอรีอาน่าตื่นได้แล้ว" ผู้เป็นพ่อเขย่าตัวลูกสาว นิ่งสนิท... เด็กสาวยังคงนอนหลับอย่างไม่รู้เรื่อง
"เอรีอาน่า !!" คนพ่อตะโกนกรอกหู แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเด็กสาวจะตื่อ มิหน่ำซ้ำยังหยิบเอาหมอนที่
หนุนอยู่มาปิดหอีก
"เอรีอาน่า !!!" คนปลุกตะโกนอย่างใกล้หมดความอดทด แต่ก็ยังทำให้คนขี้เซาตื่นไม่ได้ เอรีอาน่า
ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง เท่านั้นแหละ เส้นอารมณ์ของคนปลุกก็ขาดผึง
"เอรีอาน่า !!!!!" 'โครม !!' คนหมดความอดทนตะโกนสุดเสียงพร้อมกับประเคนบาทาไปให้คนขี้เซา
คนถูกถีบตกเตียงลุกขึ้นยืนตะโกนกลับไป
"อะไรนักหนาเนี่ยพ่อ ! จะตะโกนทำไมดังไปทั้งโรงแรมขนาดนั้น ! แล้วยังจะมาถีบอีก !" คนเพิ่ง
ตื่นโวยวาย
"ก็ฉันปลุกแกดี ๆ แล้วแกไม่ยอมตื่นเอง มันก็ต้องวิธีนี่สิ ได้ผลดี นี่ฉันกะว่าถ้าแกยังไม่ตื่น ฉันจะ
จับแกโยนออกไปนอกหน้าต่างโน่น" ผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงไม่รู้สึกผิดสักนิด แถมยังทำสีหน้าระรื่นอีก
"ชิ ! นี่ขนาดเป็นลูกนะ ถ้าเป็นคนอื่นนี่ไม่เอามีดมาปาดคอเลยรึไง" เอรีอาน่าประชด
"พูดมาก ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วเดี๋ยวจะได้ไปซื้อของ" ผู้เป็นพ่อพูดตัดบท
เอรีอาน่าหันหลังเดินกระทืบเท้าปึงปังเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผู้เป็นพ่อถอนหายใจอย่างเอือมระอา
"ถ้าเกิดประเทศนี้มีเจ้าหญิงแบบนี้คงล่มจม" เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเองแล้วเดินไปนั่งลงที่เตียง
เอรีอาน่าใช้เวลาในการอาบน้ำประเภทที่ว่าท่าจับเวลาแข่งขันคงได้ที่หนึ่ง เจ้าตัวเดินออกมาจาก
ห้องน้ำด้วยชุดสบาย ๆ เสื้อแขนสันกับกางเกงขายาวหลวม ๆ แล้วคาดเข็มขัดทับไว้หลวม ๆ อีกที
"โอเค พร้อมแล้ว ไปกันได้เลย" เอรีอาน่าบอกพร้อมกับเช็คดูความเรียบร้อยของตัวเอง
คนที่รออยู่แล้วเมื่อได้ฟังอย่างนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินออกไปจากห้องทันที ผู้เป็นลูกรีบสาวเท้า
ตามไปติด ๆ แล้วปิดประตูดังปัง
ตลาดในเมืองเวสทรีบัดนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ บรรดาพ่อค้าแม่ขายพากันตะโกน
เรียกลูกค้าแข่งกัน บางทีเดิน ๆ ไปได้สักพักก็จะมีพวกวิ่งเข้ามาขวางหน้าแล้วสาธยายสรรพคุณสินค้ากันยกใหญ่
เอรีอาน่าไม่ได้สนใจกับเรื่องพวกนี้สักนิด เธอแค่เดินตามพ่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ดูทางหรือพ่อเธอเลย เพราะ
อะไรน่ะรึ ก็เพราะว่า...
"เอรีอาน่า เอารายการของที่ต้องซื้อมาดูหน่อยสิ" ผู้เป็นพ่อบอกโดยไม่หันกลับไปมอง ...เงียบ
สนิทไม่มีเสียงตอบจากคนตามหลัง
"เอรีอาน่า เอารายการของที่ต้องซื้อมาดูเดี๋ยว..." คนพูดกำลังจะสั่งย้ำแต่ก็ต้องหยุดพูดเมื่อหันหลัง
กลับไปดู คนเดินตามหลังไม่เพียงเดินตามมาเงียบ ๆ เท่านั้น แต่แม่คุณเล่นหลับพร้อมกับขาที่ก้าวฉับ ๆ ตามพ่อ
คงง่วงจัดขนาดที่ขุดเอาความสามารถพิเศษระดับสุดยอดที่ไม่รู้แม่คุณไปฝึกมาจากไหน ก็มีคนบ้านไหนบ้างล่ะ
ที่สามมารถขนาดหลับไปด้วยเดินตามพ่อไปด้วยโดยไม่หลงแถมยังไม่ชนใครแม้แต่ปลายผม นับถือ ๆ ...
"เหอะ ๆ สงสัยจะฝึกวิชาสำเร็จขั้นสุดยอด งี้มันต้องสั่งสอนซะหน่อย" คนเดินนำพึมพำกับตัวเอง
แล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเดินตรงไปที่ตึกหลังหนึ่ง เมื่อคนนำเร่งฝีเท้าแน่นอนว่าไอ้คนที่หลับอยู่ก็ต้องเร่งฝีเท้าตาม
ไปเพื่อจะตามให้ทัน คนนำไม่ได้เดินตรงไปที่ประตู แต่เดินตรงเข้าหาผนัง เหลือระยะอีกไม่กี่นิ้วก็จะถึงผนัง
แต่คนนำก็ยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ จนเหลือระยะห่างเพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น คนขี้แกล้งก็หักหลบกำแพงแบบ
กะทันหัน คนเดิตามไม่คิด(เพราะหลับอยู่)ว่าคนนำจะหักหลบแบบนี้ จึงไม่ทันได้หลบตา และแน่นอนว่าผลที่
ออกมาคือ 'โครม !' "โอ๊ย !" เอรีอาน่าชนเข้ากับผนังเต็ม ๆ จนลงไปนั่งครางอยู่ที่พื้น
คนต้นเหตุยืนหัวเราะคิกคักดูลูกสาวนั่งลูบหัวป้อย ๆ โดยไม่ได้รุ้สึกผิดอีกตามเคย
"นี่พ่อเล่นอะไรเนี่ย อยุ่ดี ๆ มาหลอกให้เดินชนผนังทำไม" คนเพิ่งตื่นโวยวาย(อีกแล้ว)
"ใครใช้ให้แกหลับล่ะ" คนแกล้งย้อน
"ถึงจะหลับฉันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่"
"ฉันเนี่ยแหละที่เดือดร้อนเพราะแกหลับ ขอดูใบรายการไป แกดันเงียบสนิท หันกลับไปอีกทีแกก็
หลับอยู่ ฉันก็เลยปลุกแกไง ฮ่า ๆ" คนปลุกพูดท้ายเสียงหัวเราะอย่างสะใจ
"คอยดูเหอะ สักวันฉันจะเอาคืนพ่อให้สาสมเลย" เอรีอาน่าลุกขึ้นยืนพลางกล่าวคาดโทษ
"เออ ขอให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ เถอะ" คนขี้แกล้งทำหน้าท้าทาย
"พอละ ฉันไม่อยากเถียงกับคนอย่างพ่อ เอ้านี่ ใบรายการ จะไปซื้ออะไรก่อนก็ไป" เอรีอาน่ายื่น
ใบรายการให้อย่างเคือง ๆ พ่อรับใบรายการไปดูอย่างเพ่งพินิจ แล้วขมวดคิ้ว
"สงสัยจะใช้เงินเยอะเหมือนกันนะเนี่ย" คนขอดูใบรายการบ่นพึมพำกับตัวเอง
รายการสิ่งของที่จำเป็นสำหรับนักเรียนปี 1 ปราสาทไร้เงา โรงเรียนเวสเทียร่า
อาวุธประจำตัว (อะไรก็ได้) 1 ชิ้น
คทาประจำตัว 1 อัน
ชุดนักเรียนปราสาทไร้เงา 5 ชุด
สัตว์เลี้ยงหนึ่งชนิด (ประเภทไหนและชนิดไหนก็ได้) 1 ตัว
หนังสือประวัติศาสตร์ สงครามบนแผ่นดินเซเทียฟาล - ดาร์คคอน 1 เล่ม
หนังสือความเป็นมาของแผ่นดินเซเทียฟาล
หนังสือศาสตร์แห่งเวทมนตร์ เล่ม 1 1 เล่ม
หนังสือหลักมารยาท เล่ม 1 1 เล่ม
รายการสิ่งของต่าง ๆ ที่ต้องซื้อถูกเขียนไว้ในกระดาษสีน้ำตาลขนาดประมาณ A4 คนถือใบ
รายการพับมันเก็บใส่กระเป๋า แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเท้าเดดินออกไปจากตรงนั้นก็มีนกพิราบตัวค่อนข้างใหญ่
ตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ไหล่เขา ที่ขาของมันมีกระดาษผูกติดมาด้วย บุรุษผู้ได้รับสาสน์เอื้อมมือไปเกะกระดาษ
แผ่นนั้นออกมาจากขานก แล้วค่อย ๆ เปิดดู หัวกระดาษเขียนไว้ว่า 'ถึง มาคัส สตีฟาน' เจ้าของชื่อใช้เวลา
อ่านข้อความในจดหมายอยู่พักหนึ่ง ก็เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นลูกที่มองตอบกลับมา เอรีอาน่าเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า
มีอะไร คนมองกริยานี้ออกตอบคำถามทันที
"สงสัยเจ้าจะต้องไปหาซื้อของคนเดียวแล้วล่ะ ข้ามีธุระที่ต้องรีบไปทำ นี่เงิน เสร็จแล้วก็กลับไป
รอที่โรงแรมก่อนได้เลย" มาคัสตอบคำถามพร้อมสั่งการเสร็จสรรพแล้วยื่นเงินให้
"ธุระอะไร" น้ำเสียงคนถามแฝงความสงสัยมาเต็มที่
"ไม่ต้องรู้ซักเรื่องจะตายมั้ย" มาคัสตอบโดยไม่มองหน้าลูกสาว แล้วหันหลังเดินกลับไปทางเดิม
เอรีอาน่ามองตามหลังมาคัสไปโดนยังไม่ลดความอยากรู้ลงสักนิด ก่อนจะก้มมองเงินในมือตัวเอง
แล้วคะเนจำนวนเงินทั้งหมดจากสายตา
"พ่อไปเอาเงินขนาดนี้มาจากไหน" เอรีอาน่าพึมพำถามตัวเองเบา ๆ ก่อนที่คำตอบจะวิ่งเข้ามา
ในหัว เธอจึงเลิกสนใจมัน แต่หันกลับไปสงสัยกับปัญหาเดิมแทน เธอเดินไปในตลาดพลางพยายามคิดหาคำตอบ
ของเรื่องที่เธอยังคาใจ เธอเดินไปคิดไปเรื่อย ๆ จนนึกได้ว่าต้องทำอะไร เอรีอาน่าล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง
หาสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอกลับเจอเพียงอากาศเท่านั้น
"ให้ตายเถอะ ! ใบรายการอยุ่ที่พ่อนี่หว่า" คนเพิ่งนึกได้เดินเป็นวงกลมอย่างคนใช้ความคิด ห้านาที
สิบนาทีผ่านไปก็แล้ว เธอยังคิดไม่ออกว่าของที่ต้องซื้อมีอะไรบ้าง จนในที่สุดก็เหมือนมีโชค (ร้าย) ช่วย เอรีอาน่า
ชนเข้ากับร่างของใครบางคนอย่างจัง จนเธอล้ม เอรีอาน่าเงยหน้าขึ้นเตรียมจะด่าคนที่มาขวางทางเธอแต่ก็ต้อง
ชะงักทันทีเมื่อรู้ว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร
"นึกว่าใคร ที่แท้ก็ท่านประธานชั้นปีคนเก่งนี่เอง" เอรีอาน่าพูดอย่างประชด
"แล้วเธอนึกว่าใคร" เอลเรนาสถามอย่างกวน ๆ ทั้งที่ยังทำหน้าตายเหมือนเดิม
"ไอ้บ้า ฉันอุทานเฟ้ย เออจริงดิ ขอดูใบรายการของที่ต้องซื้อหน่อยได้มะ" เอรีอาน่านึกขึ้นได้จึง
ขอดูใบรายการจากท่านประธานหน้าตาย แม้จะรู้ว่าคงจะยาก
"ทำไมต้องฉันให้" เอลเรนาสย้อนถามเหมือนเป็นการยั่วอารมณ์ฝ่ายตรงข้าม
"เพราะฉันขอไง แค่ดูแค่นี่นายจะตายรึไง" เอรีอาน่าตอบอย่างเริ่มยัวะ
"ฉันต้องใช้"
"โธ่เอ๊ย ดูแค่แปปเดียวเอง"
"..." เอลเรนาสเงียบไปเหมือนใช้ความคิด
"จะคิดอะไรมากมายฟะ เอามาให้ดูก็จบ" เอรีอาน่าเร่ง
"ก็ได้ แต่เธอต้องไปกับฉัน" เอลเรนาสยื่นข้อเสนอ
"เออ ก็ได้ จะไปไหนก่อนก็ไป" เธอตอบตกลงอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
ได้ฟังคำตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจจากเด็กสาวตรงหน้าปุ๊บ พ่อเจ้าชายรู้หล่อก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง
ออกเดินนำหน้าทันที คนตกเป็นรองสบถออกมาเบา ๆ ยาวเหยียด ก่อนจะเดินตามหลังคนเหนือกว่าไป เดินไปได้
ถึง 5 นาที เอลเรนาสก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ๆ หนึ่ง ประตูถูกดึงเปิดเบา ๆ จากบุคคลที่อยู่ข้างในร้าน และผู้ที่
ก้าวออกมาเป็นคนที่เขาและเธอรู้จักเสียด้วย
"อ้าว ! คุณเอรีอาน่า คุณเอลเรนาส มาซื้อชุดเหมือนกันหรือคะ" เฟรีย่าทักขึ้นก่อนอย่างสุภาพ
"อือ เธอมาคนเดียวเหรอ" คนยืนอยู่ข้างหลังตอบพร้อมส่งกลับไป เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างหน้ายัง
เงียบ
"เปล่าคะ มากับคุณเปออซ คุณลูเคีย แล้วก็คุณลูซิเฟอร์ค่ะ เข้ามาข้างในก่อนสิคะ" เฟรีย่าตอบ
ยิ้ม ๆ
เอลเรนาสก้าวเข้าไปภายในร้านตามคำเชิญของเฟรีย่า ตามด้วยเอรีอาน่า ภายในร้านถูกประดับ
ตกแต่งอย่างสวยหรู มีผู้คนมากมายกำลังวัดตัว และสำรวจชุดที่ตัวเองลองใส่อยู่ พนักงานทั้งหมดของร้านนี้เป็น
ผู้หญิง บรรดาพนักงานสาว ๆ พากันหยุดมือจากงานที่ทำอยู่หันมามองลูกค้าที่เข้ามาใหม่เป็นตาเดียว แล้วก็ทิ้ง
ลูกค้าที่กำลังจัดการวัดตัวและอื่น ๆ อยู่ ปรี่เข้ามาแย่งกันต้อนรับเอลเรนาสเป็นการใหญ่
"คนหล่อก็งี้แหละ ว่าแต่เธอเป็นไงบ้าง ยังสบายดีอยู่มั้ย" คนพูดมากที่สุดพูดขึ้นก่อน
"ยังอยู่ดีครบทุกประการ" เอรีอาน่าตอบโดยยังไม่ละสายตาไปจากบรรดาพนักงานสาวที่รุมแทะ
ลูกค้ารูปหล่อของพวกเธออยุ่
"มองไรอะ กลัวมันจะขาดอากาศหายใจตายเหรอ" คนพูดมากยังคงพูดมากเหมือนเดิม
"ตายไปได้ก็ดี แค่สงสัยว่าวันนี้จะได้วัดตัวตัดชุดกันมั้ยก็เท่านั้นแหละ"
"นี่พวกเธอน่ะ จะไม่ทำงานทำการกันแล้วใช่มั้ย" หญิงสาวรูปร่างท้วมเดินออกมาจากหลังร้าน แล้ว
เริ่มต่อว่าพนักงานด้วยท่าทางเหมือนคุณหญิงคุณนาย ดูท่าจะเป็นเจ้าของร้าน
พนักงานสาวสลายตัวไปจัดการงานที่ทำค้างไว้ต่อ ส่วนคนที่เพิ่งรอดจากการถูกรุมแทะก็ถอน
หายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก เจ้าของร้านเดินมาขอโทษขอโพยพวกเขาและเธอเป็นการใหญ่
"ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้เดือดร้อน ว่าแต่จะมาตัดชุดอะไรคะ" หญิงวัยกลางคนหันมาถาม
เอรีอาน่ากับเอลเรนาส เพราะคนอื่น ๆ จัดการกันไปเรียบร้อยแล้ว
"ชุดนักเรียนปราสาทไร้เงาคนละ 5 ชุด" คนที่เงียบมาตลอดตั้งแต่เดินมาเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นก่อน
สร้างความแปลกใจให้บรรดาเพื่อน ๆ ของเขา เป็นอย่างมาก
หญิงเจ้าของร้านจัดการวัดตัวให้เขาและเธอด้วยตัวเอง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการแบบเมื่อกี้อีก
เมื่อวัดตัวเสร็จเรียบร้อยเจ้าของร้านก็เดินไปหญิบเอาชุดตัวอย่างมาให้ลองใส่ดู เอรีอาน่ากับเอลเรนาสเดินเข้าไป
ทางหลังร้านเพื่อลองชุด ด้านหลังร้านมีห้องลองชุดเรียงติดกันอยู่หลายห้อง เอรีอาน่าเลือกเอาห้องที่ว่างและอยู่
ใกล้ที่สุดเป็นที่ลองชุดของเธอ เอรีอาน่าจัดแจงเปลี่ยนชุดโดยไม่ได้รู้เลยว่าบุคคลที่รอเธออยู่หน้าร้านกำลังเม้าท์
เรื่องเธออยู่
"พวกเธอว่าเอรีอาน่าจะเป็นยังไง" คนพูดมากที่สุดเอ่ยเปิดประเด็น
"คงสวยน่าดูเลยนะคะ คุณเอรีอาน่าน่ะ" เฟรีย่าออกความเห็นเป็นคนแรก
"ฉันว่าเอลเรนาสคงทำให้ผู้หญิงทั้งร้านตะลึง" ลูซิเฟอร์ที่นั่งเงียบมานานออกความเห็น
"ฉันว่าถ้าสองคนนั้นยืนข้างกันคงดูดีไม่ใช่เล่น" ลูเคียออกความเห็นบ้าง
และแล้วประตูหลังร้านก็เปิดออก ร่างของคนสองคนที่พวกเขาและเธอกำลังพูดถึงปรากฏแก่สายตา
และมันก็เป็นไปตามที่พวกเขาคาดการไว้ เอรีอาน่ากับเอลเรนาสในชุดนักเรียนของปราสาทไร้เงาดูดีไร้ที่ติ จนทำ
ให้คนทั้งร้านหันมามองตาค้าง ยิ่งมายืนคู่กันด้วยแล้วยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ รัศมีความเจิดจ้าของแต่ละคนสาดออกมา
อย่างไม่มีใครยอมใคร
ชุดนักเรียนหญิงของปราสาทไรเงาเป็นเสื้อแขนกุดสีดำขลิบทอง กางเกงสีดรัดรูปเพื่อให้เคื่อนไหว
สะดวกในวิชาที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ และทับด้วยเสื้อคลุมแขนยาวสีดำขิลบทองอีกเช่นกัน ชายเสื้อยาว
เกือบถึงพื้นผ่าด้านข้างและด้วนหลัง มีเข็มขัดดำเป็นมันหัวเข้มขัดสีทองคาดทับอีกที
ส่วนชุดนักเรียนชายเป็นเสื้อคอตั้งแขนสั้น กางเกงขายาวแล้วก็เสื้อคลุมแบบเดียวกัน สีเดียวกันทั้ง
หมด เรียกได้ว่าชุดภายนอกเหมือนกันทุกอย่าง ต่างกันก็แค่ชุดที่ใส่ข้างในเท่านั้น
เมื่อคนทั้งสองรับรู้ถึงสายตาคนทั้งร้านที่มองมาก็ตอบกลับโดยการส่งสายตายปานจะฆ่าคนตายด้วย
สายตาไปให้ ทำให้คนทั้งร้านหลบตาหันไปทางอื่นทันที เมื่อสองหนุ่มสาวเลิกทำสายตาอาฆาตแล้ว เจ้าของร้าน
ก็เดินเข้ามาหาทันที
"เหมาะมาก ๆ เลยคะ ใส่แล้วดูดีจริง ๆ ตกลงเอาขนาดนี้คนละ 5 ชุดนะคะ" เจ้าของร้านออกปากชม
ท้ายประโยคถามย้ำกับลูกค้าของเธอให้แน่ใจ ลูกค้าทั้งสองก็ให้ความร่วมมือเหลือเกิน เพียงแค่พยักหน้าให้คนละ
ทีสองทีเท่านั้นไม่ปริปากพูดอะไรอีก แล้วเดินกลับไปเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดเดิม เมื่อทั้งสิงเปลี่ยนชุดเสร็จก็จัดการ
นัดแนะเรื่องวันมารับชุด เมื่อเสร็จธุระในร้านเสื้อผ้าแห่งนี้แล้วพวกเธอจึงยกทัพออกไปนอกร้านเพื่อไปซื้อของอย่าง
อื่นกัน
พวกเขาและเธอหกคนเดินไปส่วนไหนของตลาดก็กลายเป็นจุดเด่นไปตลอด เรื่องที่มีแต่หนุ่มหล่อสาว
สวยนั่นไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้พวกเธอเป็นจุดเด่นก็คือบรรดาองค์หญิงองค์ชาย 4 คนที่ไม่เคยมาเดินตลาดเหลียว
ซ้ายทีขวาทีมาตลอด บางทีก็อดใจไม่ไหววิ่งไปดูร้านนั้นบ้านร้านนี้บ้างส่งเสียงเรื่องเอะอะโวยวายซะดังลั่น ส่วน
องค์ชายหน้าตายกับคนที่หมายหัวเขาเอาไว้ก็เดินกันไปอย่างเงียบ ๆ เอลเรนาสก็รักการอ่านเหลือเกินหยิบหนังสือ
ที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนขึ้นมาเดินไปอ่านไป ส่วนนักฆ่าสาวข้างตัวก็ใช้วิชาเดิมคือหลับไปเดินไป
เพียงไม่นานเหล่าองค์หญิงองค์ชาย ทั่งห้ากับนักฆ่าอีกหนึ่งที่ตกลงกันไว้ว่าจะไปร้านหนังสือก็มาถึงที่
หมาย ภายในร้านมีชั้นหนังสือสูงจรดเพดานวางเรียงอยู่ทั่วร้าน แต่ละชั้นมีหนังสือทั้งเก่าและใหม่วางปนกันมั่วไป
หมด นอกจากนั้นยังมีกองหนังสือที่วางกองไว้เป็นตั้ง ๆ สูงเกือบถึงเพดานเป็นสิบ ๆ กอง ภายในร้านอบอวลไป
ด้วยกลิ่นกะดาษและกลิ่นหมึก หนังสือหลายเล่มมีฝุ่นจับหนาจนมองไม่เห็นชื่อเรื่อง มีโต๊ะไม้เก่า ๆ เพียงตัวเดียว
ตั้งอยู่ในจุดที่มออกเห็นจากหน้าร้าน ชายชราหัวล้านยืนค้นหนังสืออยู่หลังโต๊ะอย่างขะมักเขม้น จึงไม่ได้รู้สึกตัว
เลยว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน
"ลุง ๆ หาอะไรอยู่น่ะ" คนพูดมากถามทันทีที่เข้ามาในร้าน
"หาบันทึกเก่า ๆ เล่มนึง ว่าแต่พวกเธอจะเอาอะไรล่ะ" ชายชราตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากของที่
กำลังหาอยู่
"หนังสือประวัติศาสตร์ สงครามบนแผ่นดินเซเทียฟาล - ดาร์คคอน ความเป็นมาของแผ่นดินเซ-
เทียฟาล ศาสตร์แห่งเวทมนตร์ เล่ม 1 แล้วก็หลักมารยาทเล่ม 1 อย่างละหกเล่มนะลุง" คนสั่งของยังเป็นคนพูดมากที่สุด
"นักเรียนเวสเทียร่าปี 1 เหรอ หยิบเองได้รึเปล่า ที่วางเป็นตั้งสูง ๆ นั้นจัดไว้เป็ดชุด ๆ แล้ว"
ชายชรายังคงค้นหาบันทึกของเขาต่อไป
"ได้สิลุง แต่มันสูงนะ จะเอาลงมาได้ไงล่ะ" เปออซเงยหน้ามองกองหนังสือจนคอแทบเคล็ด
ชายชราเจ้าของร้านให้คำตอบโดยการชื่อมีไปทางบันไดไม้เก่า ๆ สภาพจะพังแหล่มิพังแหล่
เปออซมองตามแล้วทำหน้าเหยเกทันทีที่เห็นมัน
"มันคงไม่ทำให้ตกลงมาตายหรอกนะลุง" เปออซว่า ทำสีหน้าหวั่น ๆ
"ฉันเอาให้ก็ได้" ประธานชั้นปีผู้แสนดีรับอาสาเป็นคนปีนขึ้นไปเอาให้ เอลเรนาสเดินไปหยิบ
บันไดมาพาดกับชั้นหนังสือข้าง ๆ กองหนังสือแล้วเริ่มปีนขึ้นไปอย่างคล่องแคล่ว เอลเรนาสหยิบหนังสือทิ้งลงมา
ให้คนข้างล่างรับทีละสามเล่มจนครบหกชุด องค์ชายหน้าตายคนนี้ก็แสนจะขี้เกียจ แทนที่จะปีนบันไดลงมาดี ๆ
กลับกระโดดจากบันได้ขั้นที่ยืนอยู่ ซึ่งมันก็ไม่สูงนักแค่เกือบถึงเพดาน ลงมาแบบทีเดียวถึงพื้น ปล่อยให้อีกสี่
องค์หญิงองค์ชายยืนมองตาค้าง ส่วนนักฆ่าสาวเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเธอเองก็ทำอยู่เป็นประจำ
เปออซเดินถือหนังสือทั้งหมดไปจ่ายเงินที่เจ้าของร้าน พวกเธอได้สิทธิ์พิเศษ ชายชราลดค่า
หนังสือทั้งหมดให้ครึ่งราคา เพราะพวกเธอเป็นลูกค้ากลุ่มแรกของวันนี้ที่ยอมหยิบหนังสือเอง ชายชราจัดแจงเอา
หนังสือแบ่งใส่ถุงผ้าถุงละสามเล่มส่งให้พวกเขาและเธอคนละถุง เมื่อได้ของครบแล้วทั้งหกก็เดินออกจากร้านเพื่อ
ไปซื้อของที่ยังไม่ได้ซื้อ ชายชรายืนมองส่งพวกเขาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ บนใบหน้า
"ลูกใครกันนะ เด็กพวกนี้" ชายชราพึมพำกับตัวเองแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างหลังโต๊ะ เขาหาบันทึกนั่น
เจอตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เขาแค่ต้องการทดสอบความมีน้ำใจของลูกค้าเท่านั้น นักเรียนของเวสเทียร่าส่วนใหญ่เป็น
พวกคนใหญ่คนโตหรือไม่ก็ลูกคนมีตังค์ทั้งนั้น เพราะอย่างนั้นเลยไม่มีใครยอมทำตามที่ชายชราขอให้หยิบหนังสือ
เองสักคนพวกเอรีอาน่าเป็นกลุ่มแรกที่หยิบหนังสือด้วยตัวเองตามคำขอของเขา ทั้ง ๆ ที่แต่ละคนก็ดูเป็นพวกดูดีมี
ชาตฺตระกูลทั้งนั้น
พอออกจากร้านหนังสือมาเฟรีย่าก็ถามเอรีอาน่าว่ายังขาดอะไรอีกเพราะพวกเธอมีคนจัดเตรียมของ
มาให้หมดแล้ว เอลเรนาสบอกให้ไปร้านขายสัตว์วิเศษก่อนและไม่มีใครกล้าขัดบัญชาองค์ชายหน้าตายผู้นี้ ทุกคน
จึงแห่ไปที่ร้านขายสัตว์วิเศษทันที พอไปถึงพวกเธอก็ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของร้านเป็นอย่าดี ภายในร้านมีกรง
สัตว์มากมายมีตั้งแต่ม้าธรรมดาไปจนกระทั่งมังกร เอรีอาน่าคิดว่ามังกรก็เท่ห์ดีแต่เธอยังไม่คิดจะเอามันไปวิ่งเล่น
ในเวสเทียร่าแน่นอน
เจ้าของร้านพาเธอเดินดูสัตว์เกือบทั่งทั้งร้านบรรยายสรรพคุณอย่างละเอียดยิบขนาดที่ว่าตัวสัตว์เอง
ยังไม่รู้ขนาดนี้เลย เอรีอาน่าเดินมาได้ก็เกือบจะทั่วร้านแล้วแต่ยังไม่มีตัวไหนถูกใจสักตัว ตอนนี้เธอกับเพื่อนเดิน
มาจนถึงโซนสุดท้ายแล้ว และเธอก็คิดว่าน่าจะมีตัวที่เธอถูกใจอยู่บ้าง โซนนี้มีค้างคาว นกฮูกและนกพิราบอยู่ฝั่ง
ขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายมือนั้นมีกรงเพียงห้ากรง และทั้งห้ากรงก็มีหมาป่าขนสีน้ำตาลท่าทางดุร้ายอยู่ข้างในทันทีที่เธอ
ก้าวผ่านเข้าไปในโซนนั้นแสงสีเงินสว่างจ้าก็พวยพุ่งออกมาจากกรงของหมาป่าตัวที่สี สักพักหนึ่งแสงที่ว่าก็ถูก
กลบด้วยความมืดมิด
แสงสว่างค่อย ๆ กลับมาอีกครั้ง ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทำให้พวกเธอทั้งหกและเจ้าของร้านถึง
กับผงะ หมาป่าขนสีน้ำตาลตัวที่สี่กลับกลายเป็นหมาป่าที่มีขนสีเงินและตัวใหญ่ขึ้นขนาดที่คนสามารถขี่ได้
หน้าผากของมันมีรอยสีเงินรูปร่างเหมือนดอกไม้สี่กลีบ ดวงตาสีเงินใสคมกริบ หางยาวสะบัดไปมาดูท่าทางน่ารัก
และคงมีคนรักมันถ้ามันเป็นสุนัขธรรมดา ส่วนกรงที่ห้าข้าง ๆ กัน ก็กลายเป็นหมาป่าขนสีดำขลับ ดวงตาสีแดงคม
ดั่งมีด หางของมันมีถึงสามหาง ตรงข้อเท้ามีของลักษณะคล้ายปลอกแขนสีเงินสวมอยู่ ใต้ตาสองข้างมีรอยสีแดง
ลักษณะคล้ายจันทร์เสี้ยวพาดตามแนวขวาง หมาป่าทั้งสองมีท่าทางคล้ายโกรธจัด แล้วกระโจนออกมาจากกรง
จนซี่กรงหักไม่เหลือชิ้นดี ตัวสีเงินกระโดดใส่เอรีอาน่า ส่วนอีกตัวพุ่งเข้าหาเอลเรนาส ไม่มีใครตั้งหลักและหลบ
ทันสักคน หมาป่าทั้งสองกระโดดทับบุคคลทั้งสองที่ถูกแรงชนของเจ้าหมาชนจนลงไปนอนเล่นอยู่ที่พื้น
เปออซที่ตั้งสติได้เป็นคนแรกวิ่งเข้าไปฉุดหมาป่าผิดขนาดตัวสีเงินออก แต่มีหรือแรงคนจะสู้แรงหมา
ยักษ์ได้ หมาป่าตัวสีเงินสะบัดหางใหญ่ ๆ ของมันฟาดเข้าท้องเปออซอย่างหงุดหงิด ส่งเจ้าตัวลงไปนอนจุกอยู่ที่พื้น
หมาป่าผิดขนาดทั้งสองก้มหน้าลงต่ำจนจมูกแทบจะชนกับคนที่ถูกมันทับอยู่
ในนาทีที่ทุกคนกำลังตกใจหมาป่ายักษ์อ้าปากน้อย ๆ และ...
'แผลบ ๆ ๆ'
มันแลบลิ้นเลียหน้าคนที่มันทับอยู่อย่างสนุกสนานและอารมณ์ดี ทำเอาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง
อึ้ง งง แล้วก็ช็อกเป็นรอบที่สอง หมาป่าผิดขนาดยังแลยเล่นต่ออีกสักพักจนมันพอใจ ถึงยอมขยับร่างหนัก ๆ
ของมันลงจากคนที่เกือบจะตายเพราะรับน้ำหนักมันไม่ไหว
เอรีอาน่ากับเอลเรนาสรีบลุกยืนขึ้นทันที สาเหตุที่รีบก็มาจากเจ้าสองตัวนั่นแหละ ใครจะไปอยากถูก
ทับอีกเป็นครั้งที่สองล่ะ แต่ถ้าหมาป่าผิดขนาดทั้งสองนี้คิดจะทับขึ้นมาจริง ๆ ใครก็คงขัดมันไม่ได้
เอรีอาน่ากับเอลเรนาสหันไปส่งสายตาเป็นเชิงถามว่า 'มันหมายความว่าอะไร' แกมขู่ไปนิด ๆ แบบ
ว่าถ้าไม่ตอบตาย
"อะ..เอ่อ คือ พวกนี้เป็นคลอฟวูฟน่ะ พวกนี้อาศัยอยู่ในป่าหลงลืม มันเป็นสัตว์เวทที่หายากชนิด
หนึ่ง แต่ก็ยังมีให้เห็นอยู่ในป่าหลงลืม มันจะเลือกเจ้านายด้วยตัวของมันเอง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนที่พวกมัน
ยอมรับให้เป็นนายหรอก มันจะไม่ยอมเป็นสัตว์เลี้ยงให้กับคนที่มันไม่ได้เลือกเด็ดขาด ปกติถ้าอยู่ในป่ามันเป็นสัตว์
ดุร้าย ถ้าพวกมันไม่พอใจอะไรขึ้นมาก็อาจจะอาละวาดได้ มันสามารถใช้เวทมนตร์ได้ด้วยตัวของมันเอง เป็นสัตว์
ที่วิเศษมากจริง ๆ แล้วก็ดูเหมือนมันจะถูกใจพวกท่านเข้าแล้วล่ะ" เจ้าของร้านอธิบายยาวยืดจนคนฟังแทบหลับ
"เจ๋งดีแฮะ แล้วมันทำอะไรได้อีก" เอรีอาน่าถามขณะที่เอามือลูบหัวคลอฟวูฟที่สูงกว่าเอวเธอเสียอีก
"มันจะมอบอาวุธทีเหมาะสมให้กับนายของมัน นอกจากนั้นมันยังแปลงเป็นมนุษย์ได้ด้วย ลองขอมัน
ดูสิ"
เอรีอาน่าหันไปสบตากับคลอฟวูฟสีเงินของเธอ ไม่ต้องเอ่ยปากอะไรเจ้าคลอฟวูฟก็รู้ดีว่านายของ
มันต้องการอะไร มันอ้าปากกว้าง ๆ ของมัน แสงสีเงินอ่อนเรืองออกมาจากปากแล้วค่อย ๆ ลอยลงไปอยู่ที่พื้น
แสงเงินดับวูบ สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือดาบไม้ธรรมดา
"บ้าเหรอ ! ดาบไม้กิ๊กก๊อกนี่อะนะ จะเอาไว้ตีหัวหมารึไง" เอรีอาน่าหันไปถลึงตาจ้องเจ้าของร้าน
"ใช้เลือดทดสอบก่อนสิครับ" เจ้าของร้านพยายามหลบตา
"เลือดเหรอ" เอรีอาน่าเรียกมืดสั้นด้ามหนึ่งออกมาถือ ก่อนบรรจงกรีดเบา ๆ ลงบนข้อมือ เลือดสีสด
หยดหนึ่งไหลหยดลงบนดาบไม้ ปรปะกายสีเงินกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ จางหายไป
ดาบไม้เปลี่ยนเป็นดาบสีเงินทอประกายงดงาม ด้ามดาบเป็นสีเงินสลักลวดลายมังกร ที่กันดาบและคม
ดาบเป็นสีเดียวกัน ตัวดาบสลักลายลงไปอย่างวิจิตร ที่กันดาบฝั่งอัญมณีสีขาวเอาไว้ ตัวดาบยาวเมตรครึ่ง ความ
งดงามของดาบพาให้ผู้พบเห็นต้องการได้มันมาครอบครอง
เอรีอาน่าหยิบดาบขึ้นมาถือแล้วตวัดไปมาทดสอบดาบ
"อืม ๆ ขนาดเหมาะมือเลย เจ๋งแฮะ" เธอว่าพลางเอาสันดาบเคาะหัวคลอฟวูฟสีเงินของเธอเล่น
"นายก็ลองดูสีเอลเรนาส" เอรีอาน่าหันไปพูดกับเอลเรนาส
เอลเรนาสทำตามเอรีอาน่า ทันทีที่หยดเลือดสีแดงสดหยดลงบนดาบไม้ แสงสีดำเรืองออกมาและค่อย ๆ
หายไป
ดาบไม้ธรรมดากลากเป็นดาบที่มีด้ามจับสีดำสนิท ที่กันดาบฝั่งพลอยสีแดงสดดั่งดวงตาของผู้เนเจ้าของ
ตัวดาบสีรัตติกาลสลักลวดลายไว้อย่างวิจิตร คมดาบสีเงินแวววาวทอกระดายแสงอ่อน ๆ ตัวดาบยาวเมตรครึ่งเช่น
เดียวกับดาบของเอรีอาน่า
เอลเรนาสหยิบมันขึ้นมาตวัดทดสอบดู ดาบสีรัตติกาลดูทรงพลังและมืดมนในคราวเดียวกัน แต่เมื่ออยู่
กับเอลเรนาสมันกลับเสริมให้เขาดูมีอำนาจและน่าสะพรึงกลัว
"คลอฟวูฟนี่เจ้าจะขายไหม" คนพูดน้อยหันไปถามเจ้าของร้านที่ยังยืนตะลึงกับดาบทั้งสองเล่ม
"ไม่ครับ" คำตอบหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำของเจ้าของร้านทำให้เอรีอาน่าและเอลเรนาสต้องหันไปมอง
"ผมให้ไปเลย" เจ้าของร้านยิ้มน้อย ๆ หวังจะทำให้คนตรงหน้าอารมณ์ดีขึ้น
"เพราะอะไร" เอรีอาน่าถาม
"เพราะว่ามันเลือกนายด้วยตัวมันเองไงครับ มันจะจงรักพักดีต่อนายของมันเยงคนเดียว และตลอด
ชีวิตมันจะมีนายเพียงคนเดียว ถึงจะเก็บไว้ยังไงมันก็ไม่เลือกคนอื่นอยู่ดี" เจ้าของร้านทำสีหน้าสนอกสนใจเจ้า
คลอฟวูฟสองตัวนี่ไม่น้อย
"ก็ดี งั้นไปกันเหอะ" เอรีอาน่าหันหลังเตรียมจะเดินออกจากร้าน แต่ทันทีที่ก้าวเท้าไปได้เพียงก้าว
เดียว ก้มีเสียงดังขัดเสียก่อน
"เดี๋ยว" คำพูดคำเดียวหยุดขาของเอรีอาน่าได้ชะงัด
"อะไร" เอรีอาน่าถามเสียงห้วน
"จะไปสภาพนั้นเหรอ"
เอรีอาน่าก้มมองคลอฟวูฟของตัวเอง ขืนเอาหมาป่าผิดขนาดนี่ไปเดินในตลาดคนได้แตกตื่นกันแน่
"แกแปลงเป็นมนุษย์ได้ไม่ใช่เหรอ" เอรีอาน่าหันไปถามคลอฟวูฟ
มันไม่ตอบแต่มีแสงสีเงินออกมาแทน จากสัตว์สีขากลายเป็นยืนสองขาเยี่ยงมนุษย์ ร่างหมาป่า
เปลี่ยนรูปร่างไปจนเหมือนมนุษย์ธรรมดา แสงเงินจางลงเหลือไว้เพียงร่างของบุรุษสูงเกือบ 190 เส้นผมสีเงินยาว
ถึงกลางหลัง ผิวขาวราวกับอิสตรี ใบหน้าคมคายดูดีรับกับนัยน์ตาเรียวสีเงินใส เอรีอาน่ามองร่างมนุษย์ของเจ้า
คลอฟวูฟตั้งแต่หัวจรดเท้า
"มองไร ไม่เคยเห็นคนหล่อหรือไง" เสียงยียวนกวนประสาทดังมาจากริมฝีปากสวยได้รูปของคลอฟ-
วูฟในร่างมนุษย์
เอรีอาน่าประเคนลูกถีบให้เจ้าหมาปากอยู่ไม่สุข แล้วหันไปส่งสายตาให้เอลเรนาสเป็นคำถามว่า'แล้วแก
ล่ะ'
คลอฟวูฟของเอลเรนาสกลายเป็นบุรุษร่างสูงโปร่ง สูงพอ ๆ กับคลอฟวูฟสีเงินของเอรีอาน่า นัยน์ตาสี
โลหิตคมกริบ ใบหน้าราวรูปสลักยังคงสัญลักษณ์รูบจันทร์เสี้ยวในแนวขวางใต้ตาไว้เหมือนเดิม
"คงต้องตั้งชื่อกันหน่อยล่ะ ไม่งั้นเรียกยาก" เอรีอาน่าพูดกับตัวเองแต่ก็ถูกสอดโดยเจ้าหมาข้าง ๆ
"เอาเท่ห์ ๆ นะ"
"คิลละกัน เห็นหน้าแกแล้วอยากฆ่าให้ตาย" เอรีอาน่าหันไปประชดใส่
"ก็ดีนะ เอาชื่อนี้แหละ คิล ฮ่า ๆ"
ผู้เป็นนายฟังแล้วก็อยากจับมันโยนลงเหวเสียเหลือเกิน 'ไอ้หมาปัญญาอ่อนเอ้ย' เอรีอาน่านึกด่าในใจ
"รู้นะว่าคิดอะไรอยู่" คิลหันมามองอย่างรู้ทัน
"ไปกันเถอะฮาเดส เดี๋ยวติดเชื้อบ้า" เอลเรนาสเรียกคลอฟวูฟของตัวเองแล้วเดินผ่านเอรีอาน่าไปโดย
แกล้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น ส่วนไอ้หมาฮาเดสก็ว่าง่ายเดินตามเจ้านายไปเงียบ ๆ จนเอรีอาน่าอดแยกเขี้ยวใส่ด้วย
ความหมั่นไส้ไม่ได้
"อยากมาเป็นพวกเดียวกันเหรอเจ้านาย" น้ำเสียงกวนประสาทของคิลเรียกให้เอรีอาน่าหันไปตบรางวัล
ให้หนึ่งที ผ่ามีอรหันต์ฟาดผัวะเข้าเต็ม ๆ หัวของเจ้าหมาปากมาก แล้วผู้เป็นนายก็จัดการกระชากคอเสื้อของสัตว์
เลี้ยงเธอ ลากเดินออกนอกร้านไป
"สงสัยนายจะมีคู่หูพูดมากมาเป็นเพื่อนว่ะ" ลูเคียหันไปพูดกับเปออซที่ยังนั่งแหมะอยู่ที่พื้น
"เหอะ ๆ" เปออซหัวเราะเซ็ง ๆ แล้วยันกายลุกขึ้นเดินตามออกไปอีกคน
เมื่อทั้งหกขนขบวนออกไปแล้ว เจ้าของร้านหันไปมองกรงที่ถูกพังโดยเจ้าคลอฟวูฟทั้งสอง แล้ว
พึมพำกับตัวเอง
"เด็กพวกนี้เป็นใครกันนะ ถึงขนาดทำให้คลอฟวูฟที่ลือกันว่าเก่งกาจที่สุดยอมรับได้" ชายเจ้าของร้าน
ทิ้งคำถามให้กับตัวเองแล้วเดินออกไปจากจุดนั้น
หกคนกับอีกสองตัวเดินออกจากร้านขายสัตว์วิเศษอย่างสบายอารมณ์ ก็จะไม่ให้สบายได้ไงล่ะ ได้
สัตว์เลี้ยงมาฟรี ๆ แถมยังเป็นสัตว์ที่วิเศษมาก ๆ เสียด้วย พวกเอรีอาน่าตกลงกันว่าจะไปที่ร้านขายคทาต่อ
ตลอดทางเอรีอาน่าเอาแต่ทะเลาะกับเจ้าหมาคิลของเธอ เอลเรนาสกับฮาเดสก็เอาแต่เงียบกับเงียบ ด้วยความ
เกรงใจความเงียบยกกำลังสอง สี่องค์หญิงองค์ชายที่เหลือจึงไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูด ปล่อยให้มีเพียงเสียง
ทะเลาะกันของเจ้านายกับสัตว์เลี้ยงคอยสร้างบรรยากาศให้ทั้งกลุ่มไม่เหมือนป่าช้า
เพียงอึดใจขบวนทัพของทั้งแปดก็มาถึงร้านขายคทา แม้ว่ามันจะนานสำหรับสี่คนในกลุ่ม เอลเรนาส
เดินนำเข้าไปในร้าน ตามด้วยขบวนทัพที่ทยอยกันเข้าไป ภายในร้านถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีคทาเรียงอยู่ในตู้
กระจกสุดหรู และบนชั้นวางธรรมดา
เอรีอาน่าเดินเลือกดูคทาบนชั้น ส่วนใหญ่เป็นคทาธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังอะไรมากนัก คิลเดินดูไปทั่ว
ร้าน ส่งเสียงดังจนคนในร้านหันไปมองมัน เอรีอาน่าเลือกดูคทาจากบนชั้นหยิบมาลองถือดูอยู่หลายชิ้นแต่ก็ไม่มี
อันไหนที่ถูกใจ
ไอ้เจ้าหมาคิลเดินมาลากเจ้านายมันไปดูคทาที่วางเรียงอยู่ในตู้กระจก เพียงแค่เธอเฉียดเข้าไปใกล้ตู้
เท่านั้น แสงสีเงินก็สว่างพรึบจากคทาแทบทุกอันที่วางอยู่ในตู้ เล่นเอาคนทั้งร้านตกอกตกใจ ชายวัยกลางคน
หัวล้านคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เธอแล้วเอ่ยปากถาม
"เจ้าอยากได้อันไหน"คำถามไม่มีปี่มีขลุยพาให้คนถูกถามงง
"ทำไมล่ะลุง ลุงจะให้ฟรีหรือไง" เอรีอาน่าย้นถาม
"อยากได้มั้ยล่ะ" ชายท่าทางเหมือนเจ้าของร้านถามอีก
"เอาสิลุง ถ้าลุงกล้าให้ฉันก็กล้ารับ" เอรีอาน่าก้มลงมองร่างที่เตี้ยกว่าเธออย่างท้าทาย
"เจ้าอยากได้อันไหนก็ว่ามาเลย เห็นแก่ความสามารถเจ้าที่ทำให้คทาพวกนี้ยอมรับได้" ชายเจ้าของ
ร้านส่งยิ้มให้
เอรีอาน่าชี้มือไปที่คทาอันที่เรืองแสงสว่างจ้ามากที่สุด มันเป็นคทาด้ามยาวลักษณะคล้ายไม้เท้า หัว
คทาเป็นรูปตัว C ข้างในตัวซีมีอัญมณีสีขาวใสลอยอยู่ ณ จุดศูนย์กลางพอดี อัญมณีสีขาวส่องแสงสว่างออกมาเป็น
รูปปีกนกสีขาวบริสุทธิ์ แต่มันเป็นปีกโปร่งใสซึ่งหากไม่สังเกตดี ๆ จะไม่มีทางเห็นมัน ด้ามคทาสลักลวดลายสวย
งามอย่างวิจิตรบรรจง
"คทาหิมะตะวัน โอเค ถ้าเจ้าต้องการข้าก็จะให้" เจ้าของร้านค่อย ๆ เปิดตู้กระจก แล้วหยิบคทาอันที่
เอรีอาน่าชี้ออกมาอย่างเบามี แล้วส่งให้เอรีอาน่า เธอรับมาถือแล้วควงมันเบา ๆ ทดสอบความถนัด
"ขอบใจมากนะลุง ว่าแต่มันชื่ออะไรนะ" เอรีอาน่าว่าพลางร่ายเวทเก็บคทาของเธอไป
"คทาหิมะตะวัน ทำจากแร่หายากหลายชนิด" ลุงเจ้าของร้านตอบ
"งั้นพวกฉันไปแล้วนะลุง ขอบใจมาก ๆ อันนี้ฉันให้"
เอรีอาน่าโยนไข่มุกสีขาวเม็ดหนึ่งให้ ลุงเจ้าของร้านรับไว้อย่างแม่นยำ แล้วเพ่งพิศดูมันอย่างละเอียด
ก่อนเก็บใส่กระเป๋า เมื่อเห็นว่าชายเจ้าของร้านไม่มีอะไรจะพูดกับเธอแล้ว เอรีอาน่าก็หันหลังเดินออกจากร้านไป
โดยไม่ลืมที่จะลากเจ้าหมาตัวแสบของเธอออกไปด้วย
ขบวนทัพทั้งหกคนกับอีกสองตัวกล่าอำลากันตรงหน้าร้านที่เพิ่งเดินออกมา แล้วก็ต้องสลายทัพแยกกัน
กลับไปทางใครทางมัน เอรีอาน่าเดินกลับไปทิศทางที่โรงแรมตั้งอยู่แต่ยังไม่วายหันกลับมาแขวะใส่คู่กัดของเธอ
"ไอ้ท่านประธานหน้าตายโว้ย ! เอาอ้หมาติดเชื้อเงียบไปอยู่ด้วยระวังพระราชวังแกจะกลายเป็นป่าช้า
นะโว้ย !" เธอตะโกนไล่หลังรัชทายาทแห่งเฟรเดียที่ไม่คิดจะหยุดเดินาสนใจเธอ
เมื่อเห็นว่าคู่กัดยังคงเดินจ้ำอ้าวต่อไปอย่างไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเธอเอรีอาน่าจึงหันหลังกลับแล้วเดิน
จากไป โดยหารู้ไม่ว่าคนฟังนั้นแทบอยากจะหันมาประเคนบาทาให้เธอสักทีนึง
_________________________________________________________________
เม้นท์ๆๆๆๆ โวทๆๆๆๆๆ เดี๋ยวไม่เขียนต่อนะถ้าไม่ให้คะแนนอะ งอนละ =o=
ความคิดเห็น