ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเทียฟาล นครแห่งมนตรา

    ลำดับตอนที่ #4 : Third Mission : ปราสาท Castle (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 51


                     แสงสว่างวาบสาดไปทั่วห้องกว้าง ๆ  ห้องหนึ่ง  เกิดสิ่งหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายประตูปรากฏขึ้นตรงผนัง

    ห้อง  
    บุคคลจำนวนหนึ่งปรากฏออกมาจากบานประตู นำโดยเกรนเดลอาจารย์ใหญ่แห่งเวสเทียร่าตามด้วยว่าที่

    นักเรียนทั้งหลาย  ถายในห้องมีโต๊ะยาว 4  ตัววางเรียงอยู่  แต่ละโต๊ะจะมีคนนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะสามคนแต่งเครื่องแบบ

    นักเรียนของโรงเรียนเวสเทียร่า  ฝั่งขาวมือของจุดที่ประตูโผล่ออกมาเป็นโต๊ะอีก 4 ตัววางป็นแนวตั้งฉากกับโต๊ะที่มีคนนั่ง

                     "พวกเจ้าไปนั่งตรงนั้นก่อน" เกรนเดลผายมือไปทางโต๊ะว่าง ๆ 4 ตัว  ว่าที่นักเรียนทั้งหลายทำตาม

    อย่างว่าง่าย  เกรนเดลจึงว่าต่อ

                     "ต่อไปนี้จะเป็นการคัดเลือกปราสาทที่จะพวกเจ้าจะต้องอยู่ไปจนจบการศึกษา  ซึ่งจะคัดโดยอ่าง

    มนตรา  ปราสาทที่พวกเจ้าจะได้อยู่มีด้วยกันทั้งหมด 4 ปราสาท  คือปราสาทเสียงครวญแห่งวารี ปราสาทธรณี

    ร่ำไห้  ปราสาทนภาแห่งใจ และปราสาทไร้เงา  ปีนี้มีผู้ผ่านการทดสอบเพียง 48 คน ดังนั้นแต่ละปราสาทจะมีนักเรียน

    ปีหนึ่ง 12 คนเท่านั้น เอาล่ะนะ  ข้าจะขอเริ่มการคัดเลือก ณ บัดนี้"  สิ้นคำของเกรนเดล  แสงสีขาวสว่างจ้าสาด

    ออกมาจากจุดที่เกรนเดลยืนอยู่  ทุกคนที่อยู่ในห้องพร้อมใจกันยกมือขึ้นมาบังแสง  แสงสีขาวค่อย ๆ จางลง  

    ปรากฏเป็นแท่นหินสีดำที่มีอ่างศิลาสีขาวซึ่งใส่น้ำสีใสไว้จนเกือบเต็ม

                     "ข้าจะเรียกพวกเจ้าออกมารับการคัดเลือกที่ละคน  เฟรีย่า  เอมาธาน  รัขทายาทแห่งไพเรีย"
     
                     เฟรีย่าเดินออกไปยืนข้างหน้าด้วยท่าทางค่อนข้างประหม่า 

                     "เอามือล้วงลงไปในอ่างน้ำสิ"  เกรนเดลบอก

                     เฟรีย่าค่อย ๆ  จุ่มมือลงไปในน้ำ  เกิดประติกิริยาบางอย่างขึ้นกับน้ำ มันค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเทา

    และค่อย ๆ เข้มขึ้นจนกลายเป็นสีดำ

                     "ปราสาทไร้เงา !"  สิ้นเสียงประกาศเฟรีย่าดึงมือขึ้นมา  ที่ข้อมีของเธอมีกำไลสีดำสวมอยู่ 

    ทั้งที่ตอนแรกยังไม่มีมันอยู่แท้ ๆ

                      การคัดเลือกยังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ  แต่ละปราสาทจะมีสีประจำปราสาท ปราสาทธรณีร่ำไห้

    เป็นสีเหลือง  ปราสาทนภาแห่งใจ สีขาว  ปราสาทเสียงครวญแห่งวารี สีน้ำเงิน  ปราสาทไร้เงา สีดำ  และทุกครั้งที่

    ดึงมือขึ้นจากอ่าง จะมีกำไลสีประจำปราสาทติดมาด้วย   ตอนนี้เหลือที่นั่งของปราสาทธรณีร่ำไห้ 3  ปราสาทนภา

    แห่งใจ  2  ปราสาทเสียงครวญแห่งวารี 4  และปราสาทไร้เงา  4   เปออซกับลูซิเฟอร์ได้อยู่ปราสาทไร้เงา  ตอนนี้

    เหลือลูเคีย เอลเรนาส  เอรีอาน่า  กับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการคัดเลือกอีก 10 คน

                      "ลูเคีย  เชพาร์ด   รัชทายาทแห่งชานเนเลีย"

                      ลูเคียก้าวออกไปข้างหน้าตามเสียงเรียกชื่อ ไปหยุดอยู่หน้าอ่าง  เธอค่อย ๆ จุ่มมือลงในน้ำ  

    น้ำในอ่างกลายเป็นสีเทาแล้วค่อย ๆ  เข้มขึ้นจนเป็นสีดำเฉกเช่นเดียวกับเฟรีย่า  เธอชักมือขึ้นจากน้ำจังหวะเดียวกับที่

    เกรนเดลประกาศ

                      "ปราสาทไร้เงา"

                      เสียงเฮต้อนรับดังมาจากทางโต๊ะของปราสาทไร้เงา  ลูเคียเดินไปนั่งลงข้างๆเฟรีย่า

                      การคัดเลือกยังดำเนินต่อไป จนกระทั่งเหลืออีกสามคนที่ยังไม่ได้คัดเลือก และเหลือที่นั่งของ

    ปราสาทไร้เงา 2 ที่  และปราสาทเสียงครวญวารีอีก 1 ที่

                      "เอลเรนาส   เซโรนาดีฟ  รัชทายาทแห่งเฟรเดีย"

                      เอลเรนาสก้าวเท้าออกไปข้างหน้าด้วยท่าทางแสนจะหยิ่งทะนง  แต่กลับเรียกสายตาจากบรรดาสาว ๆ 

    ให้มองไปที่เขาด้วยสายตาปลื้มสุด ๆ    ส่วนบรรดาบุรุษทั้งหลายก็มองไปด้วยสายตาอาฆาตแค้น   เอลเรนาสเดินไ

    ปหยุดลงตรงหน้าอ่างศิลาเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ  แล้วจุ่มมือลงไป   น้ำในอ่างสาดแสงสีดำสนิทไปทั่วห้อง   ส่งให้ห้อง

    ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิดชั่วครู่

                       "ปราสาทไร้เงา"  เสียงเกรนเดลประกาศก้อง

                      เอลเรนาสเดินไปที่โต๊ะของปราสาทไร้เงา พร้อมกับเสียงเฮลั่นต้อนรับที่ดังยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ  เมื่อเขา

    นั่งลงข้าง ๆ  เปออส ก็มีเสียงดังถามขึ้นมา

                     "แล้วเอรีอาน่าจะได้อยู่กับพวกเรามั้ยเนี่ย  มีโอกาส  50 / 50  เลยนะ"

                     "เอรีอาน่า  สตีฟาน  แห่งเฟรเดีย"  เสียงเรียกชื่อดังขึ้นแทนคำตอบ

                     เอรีอาน่าก้าวออกไปข้างหน้าด้วยท่าทีเฉยชา  สายตาของบรรดาบุรุษทั้งหลายต่างจับจ้องมาที่เธอ  

    แต่เธอหาได้ใส้ใจไม่  ยังคงก้าวเดินไปตรงหน้าอ่างศิลา  เอรีอาน่าเอื้อมมือไปเพื่อจะจุ่มลงในน้ำ  แต่แค่เพียงปลายนิ้ว

    ของเธอสัมผัสกับผิวน้ำเท่านั้น  น้ำใสก็เปล่งประกายสีเงินสว่างไสว่  แล้วกลายเป็นสีดำ  หากแต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น  

    น้ำในอ่างหมุนวนอยู่ภายในอ่างจนกลายเป็นน้ำวน  ก่อตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ  จนกลายเป็นพายุน้ำสีนิล
                     
                     ผู้คนทั้งห้องต่างอยู่ในอาการตกใจ  อึ้ง  ช็อค  แต่กลับมีคนหนึ่งที่ยังเพ่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

    เอลเรนาสหรี่ตามองไปที่ต้นเหตุ  เอรีอาน่ายังไม่ชักมือออก  แถมยังเอื้อมเข้าไปเพื่อจะหยิบบางสิ่ง  ปลายนิ้วเรียว

    สัมผัสกับสิ่งที่อยู่ก้นอ่าง  แล้วค่อย ๆ กำมันไว้แล้วกระชากมันออกมา

                      พายุน้ำวนสีดำสงบลงและกลับไปอยู่ในอ่างศิลาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  มันกลับเป็นสีใสบริสุทธ์ดังเดิม   

    เอลเรนาสเพ่งพินิจมองสิ่งที่เอรีอาน่าดึงออกมาจากก้นอ่าง  มันเป็นกำไลสีดำปลอดมีพลอยสีแดงประดุจโลหิตฝั่งอยู่ที่

    กำไลเม็ดหนึ่ง  เอรีอาน่าเอามันใส่เข้าไปที่ข้อมืออย่างไม่ได้สนใจอะไร  และยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

                      "ป...ปราสาทไร้เงา !"  เกรนเดลประกาศด้วยน้ำเสียงที่ยังตื่นตระหนกอยู่

                      เอรีอาน่าที่ยืนรอเสียงประกาศเดินไปที่โต๊ะของปราสาทไร้เงา  ไม่มีเสียงเฮต้อนรับเหมือนทุกครั้งเพราะ

    ทุกคนยังช็อคไม่หาย  ยกเว้นคนบางคน  เอรีอาน่านั่งลงข้าง ๆ  ลูเคีย พร้อมกับเสียงของเกรนเดลที่หายจากอาการ

    ตื่นตระหนกแล้ว

                      "ซาเรน่า  ซิลเรีย  รัชทายาทแห่งโกเกน   ปราสาทเสียงครวญแห่งวารี"

                      เด็กสาวเจ้าของชื่อที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่โต๊ะของปราสาทเสียงครวญวารี  น้ำในอ่าง

    จำนวนหนึ่งรวมตัวกันเป็นลูกบอลน้ำพุ่งไปหาซาเรน่า  แล้วเปลี่ยนรูปร่างไปคล้าย ๆ  งู  เข้าพันรอบข้อมือซาเรน่า

    แล้วจับตัวกับเปลี่ยนเป็นกำไลสีน้ำเงิน

                      "การคัดเลือกเสร็จสิ้นลงเท่านี้  ต่อไปนี้พวกเจ้าก็เป็นนักเรียนปี 1  ของเวสเทียร่าแห่งนี้แล้ว  

    เดี๋ยวพวกรุ่นพี่ของพวกเจ้าจะพาเจ้าไปที่ปราสาทของพวกเจ้า  เอาล่ะ แยกย้ายได้"  เกรนเดลประกาศจบก็เกิดแสงสีเหลือง

    นวลขึ้นรอบกายเกรนเดล  อึดใจต่อมามันจึงอันตรธานหายไปพร้อมกับร่างของอาจารณ์ใหญ่

                      รุ่นพี่สามคนที่หัวโต๊ะลุกขึ้นยืนพร้อมกัน  ก่อนออกเดินนำไปที่ประตูที่อยู่ตรงกับโต๊ะของพวกเขา

    โดยไม่พูดไม่จา  แล้วเปิดประตูเข้าไป ปีหนึ่งปราสาทไร้เงาทุกคนลุกขึ้นยืนพร้อมกันแล้วเดินเรียงแถวตามไป


                      สถานที่เบื้องหลังประตูเป็นห้องกว้าง ๆ  เหมือนห้องนั่งเล่น  มีโซฟาและเก้าอี้หลายตัวงางอยู่ทั่วห้อง

    เตาผิงศิลาสีนิลขนาดใหญ่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับประตูพอดี  มีบันไดทางขึ้นอยู่ตรงมุมผนังฝั่งเตาผิง  บรรดานักเรียน

    ปราสาทไร้เงาทั้งหลายเดินเข้าไปภายในห้อง  ประตูบานไม่ใหญ่นักที่พวกเขาผ่านมาหายไปทันทีที่นักเรียนคน

    สุดท้ายก้าวพ้นประตู

                      "เชิญเลือกที่นั่งได้ตามสบาย"  เสียงรุ่นพี่ชายหนึ่งในสามคนบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

                      บรรดานักเรียนใหม่ทั้งหลายพากันไปเลือกหาที่นั่งด้วยอารมณ์ตึงเครียด   เอรีอาน่านั่งข้างเอลเรนาส

    และเพื่อน ๆ อีก 4 คน  ส่วนคนอื่น ๆ  ก็นั่งกระจายกันไปตามใจชอบ

                     "สวัสดีน้อง ๆ  ทุกคน  ข้าน้อยมีนามว่า อาเรส  ชาร์ล  รัชทายาทแห่งโซลีเวีย  อยู่ปี 5  เป็นประธาน

    ปราสาทไร้เงาแห่งนี้  ข้าไม่รู้หรอกว่าได้มาเป็นประธานได้ไง  คงจะเพราะความเก่งกาจของข้า"  รุ่นพี่อาเรสแนะนำ

    ตัวและคุยมองด้วยท่าทางขี้เล่นต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ  รุ่นพี่อาเรสดูท่างทางเป็นคนขี้เล่น  นัยน์ตาสีมรกตฉายแววของ

    ความอารมณ์ดีออกมาให้เห็น  ผมสีดำสนิทซอยสั้นระต้นคอ  รูปร่างสูงโปร่ง  กำลังทำท่าทางสาธยายคุณสมบัติของ

    ตัวเองด้วยท่าทางที่ทำให้รุ่นน้องทั้งหลายพอกันอึ้ง งง  ขำ  และเอือมระอา

                    "ส่วนฉันชื่อชาร์ฟ  ซีริคนะ  เป็นเสนาธิการฝ่ายซ้ายอยู่ปี 5  เหมือนกัน"  รุ่นพี่ชายหน้าตาดีอีกคนนึงพูด

    ขึ้น  แล้วเอื้อมมือไปตบหัวไอ้คนที่กำลังโม้อยู่

                    "เฮ้ย ! ไอ้ชาร์ฟ  แกมาตบหัวชั้นได้ไงฟะ  ชั้นเป็นประธานนะเฟ้ย"  คนโดนตบหัวโวยวาย

                    "ประธานอย่างนายมันก็ควรจะโดนซะบ้างแหละ"  ชาร์ฟตอบหน้าตาเฉย

                    "หมายความว่าไง  ประธานอย่างชั้นมันไม่ดีตรงไหน  ออกจะหล่อและเก่งขนาดนี้" อาเรสเถียง

                    'ผัวะ !'  "โอ๊ย !"  อาเรสกับชาร์ฟร้องประสานเสียงกันเมื่อมีหนังสือ 2 เล่มฟาดลงที่หัวของพวกเขาอย่าง

    พร้อมเพรียง

                   "โถ่เอ้ย !  พวกนายนี่มันแย่จริง ๆ  แทนที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้รุ่นน้อง  ดันมาทะเลาะกันซะเอง"  รุ่นพี่

    สาวสวย  เจ้าของหนังสือบ่น  เธอมีเรือนผมสีชมพูอ่อนยาวถึงเอว  นัยน์ตาสีอำพันเรียวสวยเพิ่มเสน่ห์ให้เธอ 

                   "สวัสดีจ๊ะ  ฉันชื่อรีน่า  เมดิฟาน  รัชทายาทลำดับ 3 แห่งอาร์ล  เสนาธิการฝ่ายขวาอยู่ปี 5  เหมือนกันจ๊ะ"

    รุ่นพี่รีน่าหันมาพูดกับรุ่นน้องที่กำลังนั่งอึ้งมองเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปอยู่

                   "วันนี้ก็ไม่มีอะไรมาก  ก่อนอื่นต้องขออธิบายกฏของปราสาทนี้ก่อนนะ" ว่าแล้วพี่ท่านก็เรียกกระดาน

    คริสตัลสีฟ้าใส ที่สลักตัวอักษรเอาไว้

                   "กฏของที่นี่มีทั้งหมดสิบข้อ  ข้อแรกการทะเลาะวิวาทกันในปราสาทจะไม่มีความผิดหากไม่ทำให้ข้าวของ

    ของโรงเรียนเสียหาย  และไม่มีใครตาย  แต่ถ้าเป็นที่อื่นไม่รุ้ด้วย ข้อสองต้องตรงเวลาไม่ว่าจะทำสิ่งได้ หากสายแม้แต่

    นาทีเดียวก็ต้องถูกลงโทษหากไม่มีเหตุผลที่เพียงพอ   ข้อสามตอนกลางคืนจะออกไปไหนก็ได้หากคิดว่ายังกลับมาเรียน

    ในคาบเช้าทัน   ข้อสี่ห้ามรุ่นน้องรุมสกรัมรุ่นพี่   ข้อห้าคำสั่งอาจารย์และรุ่นพี่คือประกาศิตห้ามขัดเด็ดขาด  ข้อหกห้าม

    เล่นพนันกันในปราสาท  ปราสาทเราไม่ส่งเสริมให้เล่นพนัน  ข้อเจ็ดห้ามทำลายและลักขโมยข้าวของในปราสาทเด็ดขาด  

    ข้อแปดจะทำอะไรก็ได้ตราบเท่าที่ไม่ผิดกฏทั้งหมดนี้   ข้อเก้านักเรียนทุกคนต้องปฏิบัติตามก็อย่างเคร่งครัด   ข้อสิบ... 

    ข้ายังไม่ได้คิด"  รุ่นพี่อาเรสร่ายกฏพิศดารทั้งสิบข้อออกมาพลางตีสีหน้าเคร่องขรึม

                    รุ่นน้องปีหนึ่งทั้งหลายพากันอ้าปากค้างหลังจากฟังกฏพิศดารทั้งสิบข้อเสร็จ  โดยเฉพาะข้อสุดท้าย

    ทำเอาแต่ละคนอยากลุกขึ้นมาถีบท่านประธานนักเรียนตรงหน้าเสียเหลือเกิน  หากไม่ติดว่ามีกฏข้อสี่อยู่    หากแต่

    ก็มีใครบางคนช่วยสงเคราะห์ให้แทน

                    'โป๊ก !' "โอ๊ย !"  คทาสีขาวด้ามยาวฟาดลงตรงศีรษะท่านประธาน   เจ้าของคทายืนเท้าเอวจ้องหน้า

    (อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ)  ไอ้ท่านประธานขี้โม้

                    "เธอมาตีหัวฉันอีกทำไมเล่า"  อาเรสโวยใส่เพื่อนสาว

                    "ก็มีอย่างที่ไหนล่ะเป็นประธานนักเรียนมา 3 ปี ออกจะมีฝีมือ (ในการโม้) ดันคิดกฏข้อสิบไม่ออกสักที"

                    "ก็มันคิดไม่ออกจริง ๆ  นี่  แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง"  อาเรสเถียงกลับ

                    "อย่ามาเถียงฉันนะ  ถึงนายจะเป็นประธานนักเรียนฉันก็ไม่เกรงใจหรอกนะยะ"  รีน่าตีหน้ายักษ์

    พลางเงื้อคทาขึ้น

                    "โอเค ๆ  ยอมแล้วจ้า ! ยอมแล้ว"  อาเรสยกมือบัง ปากบอกยอมแพ้อย่างไม่เหลือมาดท่านประธาน

    นักเรียนคน (โม้) เก่ง

                    รุ่นน้องปี 1 รวมไปถึงชาร์ฟ  นั่งมองประธานนักเรียนกับเสนาธิการตีกันอย่างนึกสนุกปนเอือมระอา

    เอลเรนาสพูดแทรกขึ้นมาหลังจากทนดูอยู่นาน

                     "แล้ววันนี้จะได้รู้เรื่องอะไรมั้ย"  เอลเรนาสพูดเสียงติดจะขุ่น ๆ  แต่ยังคงทำหน้าตายเหมือนเดิม

    เพียงเท่านั้นแหละ  รุ่นพี่ผู้มีตำแหน่งสูงทั้งสองคนก็หันมายิ้มเจื่อน ๆ  ส่งให้  ก็มันจะมีที่ไหนอีกที่รุ่นพี่ประธาน

    นักเรียนกับเสนาธิการมาโดนรุ่นน้อง (หน้าตาย) ว่าเนี่ย

                      "โอเค ๆ  วันนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมากอยู่แล้วล่ะ  ว่าแต่จะให้ใครเป็นประธานชั้นปี  เสนาธิการฝ่ายซ้าย

    เสนาธิการฝ่ายขวาล่ะ  มีใครจะอาสาหรือเสนอใครมั้ย"  รุ่นพี่อาเรสว่าพาเอาทั้งห้องเงียบกริบ  แต่ละคนหันมองซ้าย

    มองขวาอย่างขอความเห็น กับอีก 2 คนที่นั่งนิ่งอย่างไม่สนใจใคร  เอลเรนาสนั่งทำหน้าตายส่วนไอ้คนที่อยู่ข้าง ๆ

    เขาก็นั่งเงียบมาตั้งแต่ที่ 1 หนุ่ม 1 สาวนั่นตีกันแล้ว  เพราะอะไรน่ะรึ  ก็เพราะว่าเธอกำลัง.... หลับสนิทเลยน่ะสิ

                      "ผมขอเสนอเอรีอาน่าครับ"  เปออซยกมือเสนอชื่อเป็นคนแรก

                      "มีใครจะเสนออีกมั้ย" อาเรสถาม

                      "คุณเอลเรนาสคะ"  เฟรีย่าเสนอด้วยน้ำเสียงและประกายตาปลื้มสุด ๆ 

                      "มีใครจะเสนออีกไหม  ถ้าไม่มีพวกเธอก็เลือกเอาว่าจะให้ใครเป็นประธานชั้นปี"  

                      "ให้ไอ้หมอนี่เป็นไปเลย"  คนเพิ่งตื่นลุกขึ้นยืนชี้หน้าคนที่อยู่ข้าง ๆ พลางทำหน้าไม่สบอารมณ์

                      "งั้นก็ตกลง  ทีนี้ห็มาเลือกเสนาธิการฝ่ายซ้ายกัน"  เอรีอาน่าฟังแล้วยิ้มอย่างสะใจที่ผลักภาระให้

    คู่กัดของเธอได้

                      "ว่าไงท่านประธานชั้นปี  จะเลือกใครดีล่ะ"  อาเรสหันไปถามเอลเรนาส

                      ไอ้ท่านประธานหน้าตายไม่พูดพร่ำทำเพลงชี้นิ้วไปที่คนผลักภาระมาให้เขาโดยไม่ต้องคิด

                      "โอเค เอรีอาน่าเป็นเสนาธิการฝ่ายซ้ายนะ"

                      เอรีอาน่าหุบยิ้มทันทีแล้วหันไปค้านกับอาเรส

                      "จะบ้าเรอะ  ฉันยังไม่ได้ยอมรับเลย"

                      "เสียใจสาวน้อย  คนของปราสาทไร้เงาถ้าถูกเลือกแล้วไม่มีสิทธิ์ค้าน"

                      "หมายความว่าไง  อยากตายใช่มั้ย !"  เอรีอาน่าหันไปขู่ทำเอาอาเรสถึงกับผวา

                      "ถ้าไม่อยากเป็นนักฉันเลือกคนอื่นแทนก็ได้" คนที่เงียบอยู่นานอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก

                      "เป็น" คำตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ ทำให้แต่ละคนพากันงงไปตาม ๆ กัน  ก็ถ้าจะเป็นแล้วค้านทำไมล่ะ

    แม่คู้นน

                     "ตกลงตามนี้นะ  แล้วเสนาธิการฝ่ายขวาล่ะ เธอจะเลือกใคร"  อาเรสหันไปถามเอรีอาน่าด้วย

    น้ำเสียงเกรง ๆ

                     "ลูซิเฟอร์" เจ้าของชื่อที่ถูกเลือกหันมามองหน้าเธอเหมือนไม่ค่อยพอใจ  แต่แล้วก็พยักหน้า

                     "ครบละ  ค่อยยังชั่วหน่อยที่ฉันก็ยังอยู่ครบ 32  ประการ  เฮ้อ~"  อาเรสพูด ท้ายเสียงถอนหายใจ

    ยาวอย่างโล่งอก   เขาหันหลังเดินไปหยิบเอกสารปึกหนึ่งแล้วเดินกลับมาแจกให้รุ่นน้อง

                     "นี่คือรายการของที่ต้องซื้อทั้งหมด  จัดหาให้เรียบร้อยก่อนเปิดเรียน  อีก 2  อาทิตย์เจอกัน

    ขอให้โชคดี เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ"  รุ่นพี่อาเรสกล่าวอำลาแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน
    ________________________________________________________________
    เม้นท์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×