ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเทียฟาล นครแห่งมนตรา

    ลำดับตอนที่ #3 : Second Mission : เพื่อนใหม่ New Friends

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 51


                             ภาพที่ปรากฏแก่สายตาเมื่อก้าวพ้นประตูเข้ามาคือห้องกว้าง ๆ ห้องหนึ่ง  คล้ายกับห้องนั่งเล่น  มีเตาผิงอยู่ฝั่ง

    ตรงข้ามกับประตู  ผนังฝั่งขวามือทั้งแถบเป็นชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน  มีโซฟาอยู่หน้าและวางหันหน้าเข้าหาเตาผิงตัว

    หนึ่ง ส่วนตัวอื่นๆก็กระจายอยู่ทั่วห้อง  มีทั้งโซฟารูปตัวแอลคู่กับโต๊ะตัวเตี้ย ๆ เหนือเตาผิงขึ้นไปมีป้ายไม้โอ๊คสลักตัวอักษร

    ทาสีทองว่า 'ห้องรับรอง'  


                       ภายในห้องเงียบกริบและว่างเปล่า  ไม่มีใครที่ผ่านการทดสอบมาก่อนเอรีอาน่าเลยแม้แต่คนเดียว  ขาเรียว

    ยาวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ประตูที่เธอเดินผ่านมาก็หายไป   เอารีอาน่าเดินไปที่ชั้นหนังสือ สายตาไล่ไปตามหนังสือที

    ละเล่ม  นิ้วเรียวไล้ไปตามสันหนังสือ  เธอกำลังมองหาหนังสือที่เธออยากอ่านอยู่ เธอไปเห็นมันที่ร้านหนังสือในหมู่บ้าน  

    ชื่อของมันคือ '10 กลวิธีลอบสังหาร' กึ๋ย... สมเป็นมือสังหารจริง ๆ แม่คุณ  เอรีอาน่าเดินหาไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็พบ

    มันวางอยู่ในชั้นที่นับว่าค่อยข้างสูง  แต่ก็ไม่สูงเกินกว่าที่ส่วนสูงของเธอจะเอื้ออำนวย  เอรีอาน่าหยิบมันออกมาจากชั้น

    มันเป็นหนังสือปกหนังสีดำสนิท  ตัวอักษรตัวใหญ่ตรงหน้าปกเป็นสีแดงสดดั่งโลหิต  เอรีอาน่าเดินถือหนังสือไปนั่งลงตรง

    โซฟาหน้าเตาผิง  นิ้วเรียวค่อย ๆ พลิงเปิดหน้ากระดาษไปทีละหน้า  เอรีอาน่าตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้มาก  มากขนาดที่ว่ามี

    คนเข้ามาในห้องแต่เธอกลับไม่รู้

                     ผู้มาใหม่สาวเท้าไปที่ชั้นหนังสืออย่างไม่ได้สนใจว่าคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเป็นใคร  ผู้มาใหม่เอื้อมมือไปหยิบ

    หนังสือจากชั้นออกมาแล้วเดินไปนั่งลงตรงปลายสุดของโซฟาอีกฟากที่เอรีอาน่านั่งอยู่  เอรีอาน่าเงยหน้ามองผู้มาใหม่แล้วก็

    ต้องชะงัก ปิดหนังสือในมือดัวฉับ
                      "เอลเรนาส" เอรีอาน่าพูดเสียงยานคาง  เจ้าของชื่อจึงหันมามอง
                      
                      "นึกว่าใคร  ที่แท้ก็คนที่ลอบทำร้ายคนอื่นนี่เอง" เอลเรนาสกัด
                      
                      "นี่นาย  พูดให้มันดี ๆ นะ  ใครทำร้ายใคร" เอรีอาน่าเริ่มยัวะ
                
                      "ก็เธอทำร้ายฉันไง  หรือไม่จริง" คนฟังตอบเสียงเย็น

                      "อย่ามามั่วนิ่มนะ  ฉันไปทำอะไรให้นาย"
                      
                      "ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วไอ้ก้อนหินนั่นมันบินมาโดนหัวฉันได้ไง"

                      "ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ  นกมันอาจจะหมั่นไส้นายก็เลยเอาก้อนหินมาโยนใส่หัวนายก็ได้" แถไปนั่น

                      "ประสาทรึไง  นกที่ไหนจะเอาก้อนหินมาปล่อยใส่หัวคน"

                      "ก็นกที่นี่น่ะสิ" พาลกันไปถึงนกโน่น

                      "ตั้งแต่มาฉันยังไม่เห็นนกที่นี่สักตัว"

                      "นายไม่ได้สังเกตเองต่างหาก  ฉันเห็นเป็นฝูงเลย"

                      "นี่เธอคิดจะ... "
                   
                      และแล้วการทะเลาะกันอันแสนหนวกหูก็มีอันต้องหยุดไป  เมื่อสวรรค์ส่งคนมาช่วยหยุด (ขัด) การทะเลาะกัน

                      
                      ประตูแบบเดิมเปิดออก ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาได้ 2-3 ก้าว ก็ล้มหน้าคว่ำอยู่หน้าประตู  ผู้ที่เพิ่งจะ

    ทะเลาะกันไปหมาด ๆ ปรี่เข้ามาลากคนขัดจังหวะการทะเลาะไปนอนบนโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุด  สภาพของเด็กหนุ่มคนนั้น

    เหมือนกับไปวิ่งหนีอะไรมา เส้นผมสีม่วงยาวประบ่ายุ่งเหยิงพันกันอย่างกับรังนก  เสื้อผ้ายับยู่ยี่  ทั้งผม เสื้อผ้าและเนื้อตัว

    เปียกเหงื่อจนชุ่มอย่างกับไปตกน้ำที่ไหนมา

                      เอลเรนาสรีบร่ายเวทรักษาทันที  สักพักเด็กหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมา  หันหน้ามองซ้ายมองขวาอย่างงง ๆ

                      "ที่นี่ที่ไหน ?" คนเพิ่งฟื้นถามเสียงแหบ  ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนหน้าเขาแล้วพร้อมใจกันชี้มือไปที่ป้ายไม้เหนือ

    เตาผิง  แล้วก็หันมองหน้ากัน แล้วก็เชิดใส่กัน  คนนั่งมอง มองทั้งคู่แล้วยิ้มแหย ๆ ก่อนเอ่ยปากด้วยเสียงแหบแห้ง

                       "เอ่อ...ขอน้ำหน่อยได้ไหมครับ"  เมื่อถูกขอเอลเรนาสจึงเดินไปมุมหนึ่งของห้องก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับ

    แก้วน้ำในมือ  เขาส่งแก้วน้ำให้กับคนเพิ่งฟื้น  เขารับแก้วน้ำไปดื่มอย่างกระหายก่อนเอ่ยปากขอบคุณ

                       "ขอบคุณมากครับ" เสียงคนพูดคราวนี้กลายเป็นทุ้มนุ้มต่างจากเดิม  ตอนแรกคงคอแห้งมาก ๆ 

                       "นายชื่ออะไร ฉันชื่อ เอรีอาน่า  สตีฟาน  ส่วนหมอนี่ เอลเรนาส  เซโรนาดีฟ  จาก เฟรเดีย" เอรีอาน่าแนะนำตัวเผื่อแผ่คนข้างๆ

                       "ฉัน เปออซ โรนีฟา  รัชทายาทแห่ง โกเดน" เปออซยิ้มร่า

                       ประตูตรงผนังห้องเปิดออกอีกครั้งขัดการสนทนาของทั้งสาม  ผู้มาใหม่คราวนี้เป็นอยู่หญิง  ซึ่งเอรีอาน่าจำได้

    ว่าเธอคนนี้คือ เฟรีย่า  เอมาธาน  เฟรีย่าโผล่ออกมาในสภาพคล้าย ๆ กับเปออซ  ผู้มาก่อนทั้ง 3 คน  วิ่งเข้าไปช่วยประคอง

    เฟรีย่าให้มานั่งแทนที่เปออซ

                       โชคยังดีที่เฟรีย่ามาในสภาพที่ยังพอมีสติอยู่  เอลเรนาสเริ่มลงมือรักษาผู้ป่วยอีกครั้ง  คราวนี้ใช้เวลาในการทำ

    ให้เฟรีย่ากลับมามีสติสมบูรณ์เร็วกว่ารอบของเปออซ

                       เฟรีย่าค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้น  เผยให้เห็นดวงตาสีอเมทิสต์คู่งาม  เด็กสาวยันกายลุกขึ้นนั่ง มองหน้าบุคคล

    ทั้ง 3 ที่อยู่เบื้องหน้า

                       "ง่า...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย"  เสียงหวานไพเราะเอ่ยถาม   นิ้วชี้ของบุคคลทั้ง 3 พร้อมใจชี้ไปตรงป้ายเหนือเตาผิง

    เฟรีย่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ

                       "ข้าชื่อเฟรีย่า  เอมาธาน  รัชทายาทแห่งไพเรีย  ส่วนท่านคงเป็นองค์ชายเอลเรนาส  เซโรนาดีฟ  กับ  

    องค์ชาย เปออซ  โรนีฟา  สินะคะ  แล้วเธอล่ะ"  เฟรีย่ามองหน้าเอลเรนาสด้วยสีหน้าท่าทางสุดจะปลื้ม  แล้วหันมาถาม

    เอรีอาน่า

                      "ฉันเหรอ  เอรีอาน่า  สตีฟาน  จากเฟรเดีย" เอรีอาน่าตอบเบา ๆ

                      การสนทนาของทั้งสี่เงียบไปสักพักก่อนจะมีประตูอีก 2 บานโผล่ขึ้นมาพร้อมกัน  2 ผู้มาใหม่เป็นชาย 1   

    หญิง 1  ทุกคนมาในสภาพเดียวกันกับเฟรีย่าและเปออซ  เดือดร้อนให้ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนแล้วต้องไปลากมานั่งโซฟาตัว

    ใกล้ ๆ  แล้วให้เอลเรนาสผู้ซึ่งกลายเป็นหมอจำเป็นไปแล้วเป็นคนรักษา  พอ 2 คนนี่ฟื้นขึ้นมา  คำถามยอดฮิตก็ถูกถามอีก

    แล้ว 'ที่นี่ที่ไหนเหรอ'  และคำตอบก็คือ ทุกคนที่มาถึงก่อนแล้วพร้อมใจกันชี้ไปที่ป้ายเหนือเตาผิง

                     สองคนนี้เป็นพวกคนใหญ่คนโตทั้งนั่น  คนแรก  ลูซิเฟอร์  ซินเดอเรีย  รัชทายาทแห่งเทอเรน  มีผมสีแดง

    ซอยสั้นระต้นคอ  กับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน  หน้าตาจัดว่าหล่ออยู่เหมือนกัน  ส่วนอีก 1 สาว คือ  ลูเคีย  เชพาร์ด 

    เจ้าหญิงคนรองแห่ง ชานเนเลีย  เป็นสาวสวยคนหนึ่ง  มีเรือนผมสีฟ้ากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล  ดูแล้วค่อยข้างเป็นสาวห้าว

                   หลังจากที่รักษาทั้งสองคนเสร็จแล้ว  คุณหมอจำเป็นก็ยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เมื่อประตูอีกหลายบาน

    ปรากฏขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน  ส่วนผู้ที่กลับมามีสติและสภาพสมบูรณ์พร้อมหมดแล้ว ก็กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย

    ผู้ป่วยจากหน้าประตูไปนอนบนโซฟา  คำถามยอดฮิตยังคงถูกถามจากผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้ว  และคำตอบสุดฮอตก็ยัง

    คงตอบด้วยวิธีเดิม

                    หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง  คุณหมอจำเป็นก็ได้หยดพักเสียที เมื่อไม่มีประตูบานไหนโผล่ขึ้นมา

    อีก   ผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้ามาทั้งหมดเริ่มจับกลุ่มคุยกันเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ  ส่วนพวกเอรีอาน่านั้นมีแค่ 6 คนแรกที่ผ่าน

    การทดสอบเข้าเพราะคนอื่น ๆ หลังจาก 6 คนนี้แล้วก็ได้แต่ช่วยรักษาอย่างเดียวไม่มีเวลาได้พูดคุยถามไถ่อะไรกันสักนิด

    พวกเอรีอาน่าเลือกที่นั่งตรงโซฟารูปตัวแอลที่มีโต๊ะตัวเตี้ย ๆ อยู่ข้างหน้า

                     "พวกเธอไปทำอะไรกันมาเนี่ย ถึงโผล่มาในสภาพแบบนี้"  เสียงหวานใสของเอรีอาน่าเอ่ยถาม

                     "ฉันวิ่งหนีงูยักษ์มา  วิ่งแบบไม่รู้ทิศรู้ทางแล้วก็มาเจอประตู  ทีแรกไม่รู้หรอกว่าหลังประตูเป็นที่ไหน  แต่เพื่อ

    ความอยู่รอดเลยต้องหนีเข้าไป" เปออซเล่าพลางทำสีหน้าระรื่น

                     "ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่เจอเสือฝูงหนึ่ง เหตุการณ์ที่เหลือเหมือนคุณเปออซค่ะ"  เฟรีย่ายิ้มอย่าง

    ร่าเริง

                     "ฉันเดินไปเจอทะเลสาบใหญ่มาก ๆ  แห่งหนึ่ง พอเดินเข้าไปใกล้ก็มีปลาตัวใหญ่ยักษ์กระโดดขึ้นมาเอาหาง

    ฟาดฉันตกน้ำ  พอว่ายน้ำหนีมันก็ตาม จนมาขึ้นฝั่งได้ก็เจอประตูพอดี" ลูซิเฟอร์เล่าหน้าตาย

                     "เจอสัตว์ประหลาด ทีแรกเห็นมาตัวเดียวก็กะจะสู้นะ  แต่ที่ไหนได้ ยกกันมาเป็นฝูงไม่ต่ำกว่าร้อยตัวเลยวิ่งหนี

    มา  วิ่งแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วก็มาเจอประตู"  ลูเคียว่าทำหน้าเมือนเล่าเรื่องตลก

                     พวกเขาและเธอ 6 คนใช้เวลาไม่นานในการสร้างความสนิทสนมกัน  แต่กลับมีคนหนึ่งที่ไม่ยอมพูดเลย  

    เสียงพูดคุยยังคงดังมาจากกลุ่มโน้นกลุ่มนี้  มีกระทั่งการวิ่งไล่ฆ่ากันคนบางคู่  ไปจนถึงการเล่นโน่นเล่นนี่ทั้งไพ่ หมากรุก  

    และอื่น ๆ อีกมากมาย

                     แต่แล้วการกระทำทุกอย่างก็ต้องหยุดลง  เมื่อเตาผิงเรืองแสงสีเหลืองอ่อน  ก่อนค่อย ๆ  ปรากฏเป็นรูปร่างของ

    ชายชราหนวดยาวคนหนึ่ง  เกรนเดล  เซเดิร์น อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวสเทียร่าแห่งนี้ ปรากฏตัวต่อหน้าว่าที่นักเรียน

    ทั้งหมด  ว่าที่นักเรียนทั้งหลายเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่ไปที่ชายชราเบื้องหน้า  เกรนเดลเริ่มพูดทันทีเมื่อเห็นว่าทุกคน

    สนใจและสงสัยกับการปรากฏตัวของตน

                    "สวัสดีอีกครั้งว่าที่นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลาย  พวกเจ้าที่อยู่นะที่นี่ เวลานี้  ถือว่าผ่านการทดสอบของโรงเรียน

    แล้ว  ต่อไปข้าจะพาพวกเจ้าไปทดสอบคัดเลือกปราสาท  เมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วก็ตามข้ามา"  สิ้นคำ  เกรนเดลวาดมือไป

    ทางเตาผิง  เกิดเป็นช่องว่างขนาดพอให้คนผ่านได้  ลักษณคล้ายประตูมิติ  ชายชราเดินเข้าไปอย่างไม่คิดจะรอใคร  ว่าที่

    นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลายต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก  เอลเรนาสเดินตามอาจารย์ใหญ่เข้าไปอย่างไม่สนใจใคร  ตามด้วย

    เอรีอาน่า  และคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันตามเข้าไป  เมื่อภายในห้องรับรองเหลือเพียงเครื่องเรือนต่าง ๆ และความว่างเปล่า

    ช่องว่างคล้ายประตูมิติก็ลดขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หายไป

    ___________________________________________________________________
     
    เม้นท์ๆๆๆๆๆๆๆ  ให้คะแนนด้วยน้า~
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×