ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Second Mission : เพื่อนใหม่ New Friends
ภาพที่ปรากฏแก่สายตาเมื่อก้าวพ้นประตูเข้ามาคือห้องกว้าง ๆ ห้องหนึ่ง คล้ายกับห้องนั่งเล่น มีเตาผิงอยู่ฝั่ง
ตรงข้ามกับประตู ผนังฝั่งขวามือทั้งแถบเป็นชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน มีโซฟาอยู่หน้าและวางหันหน้าเข้าหาเตาผิงตัว
หนึ่ง ส่วนตัวอื่นๆก็กระจายอยู่ทั่วห้อง มีทั้งโซฟารูปตัวแอลคู่กับโต๊ะตัวเตี้ย ๆ เหนือเตาผิงขึ้นไปมีป้ายไม้โอ๊คสลักตัวอักษร
ทาสีทองว่า 'ห้องรับรอง'
ภายในห้องเงียบกริบและว่างเปล่า ไม่มีใครที่ผ่านการทดสอบมาก่อนเอรีอาน่าเลยแม้แต่คนเดียว ขาเรียว
ยาวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ประตูที่เธอเดินผ่านมาก็หายไป เอารีอาน่าเดินไปที่ชั้นหนังสือ สายตาไล่ไปตามหนังสือที
ละเล่ม นิ้วเรียวไล้ไปตามสันหนังสือ เธอกำลังมองหาหนังสือที่เธออยากอ่านอยู่ เธอไปเห็นมันที่ร้านหนังสือในหมู่บ้าน
ชื่อของมันคือ '10 กลวิธีลอบสังหาร' กึ๋ย... สมเป็นมือสังหารจริง ๆ แม่คุณ เอรีอาน่าเดินหาไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็พบ
มันวางอยู่ในชั้นที่นับว่าค่อยข้างสูง แต่ก็ไม่สูงเกินกว่าที่ส่วนสูงของเธอจะเอื้ออำนวย เอรีอาน่าหยิบมันออกมาจากชั้น
มันเป็นหนังสือปกหนังสีดำสนิท ตัวอักษรตัวใหญ่ตรงหน้าปกเป็นสีแดงสดดั่งโลหิต เอรีอาน่าเดินถือหนังสือไปนั่งลงตรง
โซฟาหน้าเตาผิง นิ้วเรียวค่อย ๆ พลิงเปิดหน้ากระดาษไปทีละหน้า เอรีอาน่าตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้มาก มากขนาดที่ว่ามี
คนเข้ามาในห้องแต่เธอกลับไม่รู้
ผู้มาใหม่สาวเท้าไปที่ชั้นหนังสืออย่างไม่ได้สนใจว่าคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเป็นใคร ผู้มาใหม่เอื้อมมือไปหยิบ
หนังสือจากชั้นออกมาแล้วเดินไปนั่งลงตรงปลายสุดของโซฟาอีกฟากที่เอรีอาน่านั่งอยู่ เอรีอาน่าเงยหน้ามองผู้มาใหม่แล้วก็
ต้องชะงัก ปิดหนังสือในมือดัวฉับ
"เอลเรนาส" เอรีอาน่าพูดเสียงยานคาง เจ้าของชื่อจึงหันมามอง
"นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนที่ลอบทำร้ายคนอื่นนี่เอง" เอลเรนาสกัด
"นี่นาย พูดให้มันดี ๆ นะ ใครทำร้ายใคร" เอรีอาน่าเริ่มยัวะ
"ก็เธอทำร้ายฉันไง หรือไม่จริง" คนฟังตอบเสียงเย็น
"อย่ามามั่วนิ่มนะ ฉันไปทำอะไรให้นาย"
"ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วไอ้ก้อนหินนั่นมันบินมาโดนหัวฉันได้ไง"
"ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ นกมันอาจจะหมั่นไส้นายก็เลยเอาก้อนหินมาโยนใส่หัวนายก็ได้" แถไปนั่น
"ประสาทรึไง นกที่ไหนจะเอาก้อนหินมาปล่อยใส่หัวคน"
"ก็นกที่นี่น่ะสิ" พาลกันไปถึงนกโน่น
"ตั้งแต่มาฉันยังไม่เห็นนกที่นี่สักตัว"
"นายไม่ได้สังเกตเองต่างหาก ฉันเห็นเป็นฝูงเลย"
"นี่เธอคิดจะ... "
และแล้วการทะเลาะกันอันแสนหนวกหูก็มีอันต้องหยุดไป เมื่อสวรรค์ส่งคนมาช่วยหยุด (ขัด) การทะเลาะกัน
ประตูแบบเดิมเปิดออก ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาได้ 2-3 ก้าว ก็ล้มหน้าคว่ำอยู่หน้าประตู ผู้ที่เพิ่งจะ
ทะเลาะกันไปหมาด ๆ ปรี่เข้ามาลากคนขัดจังหวะการทะเลาะไปนอนบนโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุด สภาพของเด็กหนุ่มคนนั้น
เหมือนกับไปวิ่งหนีอะไรมา เส้นผมสีม่วงยาวประบ่ายุ่งเหยิงพันกันอย่างกับรังนก เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ทั้งผม เสื้อผ้าและเนื้อตัว
เปียกเหงื่อจนชุ่มอย่างกับไปตกน้ำที่ไหนมา
เอลเรนาสรีบร่ายเวทรักษาทันที สักพักเด็กหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมา หันหน้ามองซ้ายมองขวาอย่างงง ๆ
"ที่นี่ที่ไหน ?" คนเพิ่งฟื้นถามเสียงแหบ ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนหน้าเขาแล้วพร้อมใจกันชี้มือไปที่ป้ายไม้เหนือ
เตาผิง แล้วก็หันมองหน้ากัน แล้วก็เชิดใส่กัน คนนั่งมอง มองทั้งคู่แล้วยิ้มแหย ๆ ก่อนเอ่ยปากด้วยเสียงแหบแห้ง
"เอ่อ...ขอน้ำหน่อยได้ไหมครับ" เมื่อถูกขอเอลเรนาสจึงเดินไปมุมหนึ่งของห้องก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับ
แก้วน้ำในมือ เขาส่งแก้วน้ำให้กับคนเพิ่งฟื้น เขารับแก้วน้ำไปดื่มอย่างกระหายก่อนเอ่ยปากขอบคุณ
"ขอบคุณมากครับ" เสียงคนพูดคราวนี้กลายเป็นทุ้มนุ้มต่างจากเดิม ตอนแรกคงคอแห้งมาก ๆ
"นายชื่ออะไร ฉันชื่อ เอรีอาน่า สตีฟาน ส่วนหมอนี่ เอลเรนาส เซโรนาดีฟ จาก เฟรเดีย" เอรีอาน่าแนะนำตัวเผื่อแผ่คนข้างๆ
"ฉัน เปออซ โรนีฟา รัชทายาทแห่ง โกเดน" เปออซยิ้มร่า
ประตูตรงผนังห้องเปิดออกอีกครั้งขัดการสนทนาของทั้งสาม ผู้มาใหม่คราวนี้เป็นอยู่หญิง ซึ่งเอรีอาน่าจำได้
ว่าเธอคนนี้คือ เฟรีย่า เอมาธาน เฟรีย่าโผล่ออกมาในสภาพคล้าย ๆ กับเปออซ ผู้มาก่อนทั้ง 3 คน วิ่งเข้าไปช่วยประคอง
เฟรีย่าให้มานั่งแทนที่เปออซ
โชคยังดีที่เฟรีย่ามาในสภาพที่ยังพอมีสติอยู่ เอลเรนาสเริ่มลงมือรักษาผู้ป่วยอีกครั้ง คราวนี้ใช้เวลาในการทำ
ให้เฟรีย่ากลับมามีสติสมบูรณ์เร็วกว่ารอบของเปออซ
เฟรีย่าค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีอเมทิสต์คู่งาม เด็กสาวยันกายลุกขึ้นนั่ง มองหน้าบุคคล
ทั้ง 3 ที่อยู่เบื้องหน้า
"ง่า...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย" เสียงหวานไพเราะเอ่ยถาม นิ้วชี้ของบุคคลทั้ง 3 พร้อมใจชี้ไปตรงป้ายเหนือเตาผิง
เฟรีย่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ข้าชื่อเฟรีย่า เอมาธาน รัชทายาทแห่งไพเรีย ส่วนท่านคงเป็นองค์ชายเอลเรนาส เซโรนาดีฟ กับ
องค์ชาย เปออซ โรนีฟา สินะคะ แล้วเธอล่ะ" เฟรีย่ามองหน้าเอลเรนาสด้วยสีหน้าท่าทางสุดจะปลื้ม แล้วหันมาถาม
เอรีอาน่า
"ฉันเหรอ เอรีอาน่า สตีฟาน จากเฟรเดีย" เอรีอาน่าตอบเบา ๆ
การสนทนาของทั้งสี่เงียบไปสักพักก่อนจะมีประตูอีก 2 บานโผล่ขึ้นมาพร้อมกัน 2 ผู้มาใหม่เป็นชาย 1
หญิง 1 ทุกคนมาในสภาพเดียวกันกับเฟรีย่าและเปออซ เดือดร้อนให้ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนแล้วต้องไปลากมานั่งโซฟาตัว
ใกล้ ๆ แล้วให้เอลเรนาสผู้ซึ่งกลายเป็นหมอจำเป็นไปแล้วเป็นคนรักษา พอ 2 คนนี่ฟื้นขึ้นมา คำถามยอดฮิตก็ถูกถามอีก
แล้ว 'ที่นี่ที่ไหนเหรอ' และคำตอบก็คือ ทุกคนที่มาถึงก่อนแล้วพร้อมใจกันชี้ไปที่ป้ายเหนือเตาผิง
สองคนนี้เป็นพวกคนใหญ่คนโตทั้งนั่น คนแรก ลูซิเฟอร์ ซินเดอเรีย รัชทายาทแห่งเทอเรน มีผมสีแดง
ซอยสั้นระต้นคอ กับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาจัดว่าหล่ออยู่เหมือนกัน ส่วนอีก 1 สาว คือ ลูเคีย เชพาร์ด
เจ้าหญิงคนรองแห่ง ชานเนเลีย เป็นสาวสวยคนหนึ่ง มีเรือนผมสีฟ้ากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล ดูแล้วค่อยข้างเป็นสาวห้าว
หลังจากที่รักษาทั้งสองคนเสร็จแล้ว คุณหมอจำเป็นก็ยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เมื่อประตูอีกหลายบาน
ปรากฏขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ส่วนผู้ที่กลับมามีสติและสภาพสมบูรณ์พร้อมหมดแล้ว ก็กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย
ผู้ป่วยจากหน้าประตูไปนอนบนโซฟา คำถามยอดฮิตยังคงถูกถามจากผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้ว และคำตอบสุดฮอตก็ยัง
คงตอบด้วยวิธีเดิม
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณหมอจำเป็นก็ได้หยดพักเสียที เมื่อไม่มีประตูบานไหนโผล่ขึ้นมา
อีก ผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้ามาทั้งหมดเริ่มจับกลุ่มคุยกันเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนพวกเอรีอาน่านั้นมีแค่ 6 คนแรกที่ผ่าน
การทดสอบเข้าเพราะคนอื่น ๆ หลังจาก 6 คนนี้แล้วก็ได้แต่ช่วยรักษาอย่างเดียวไม่มีเวลาได้พูดคุยถามไถ่อะไรกันสักนิด
พวกเอรีอาน่าเลือกที่นั่งตรงโซฟารูปตัวแอลที่มีโต๊ะตัวเตี้ย ๆ อยู่ข้างหน้า
"พวกเธอไปทำอะไรกันมาเนี่ย ถึงโผล่มาในสภาพแบบนี้" เสียงหวานใสของเอรีอาน่าเอ่ยถาม
"ฉันวิ่งหนีงูยักษ์มา วิ่งแบบไม่รู้ทิศรู้ทางแล้วก็มาเจอประตู ทีแรกไม่รู้หรอกว่าหลังประตูเป็นที่ไหน แต่เพื่อ
ความอยู่รอดเลยต้องหนีเข้าไป" เปออซเล่าพลางทำสีหน้าระรื่น
"ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่เจอเสือฝูงหนึ่ง เหตุการณ์ที่เหลือเหมือนคุณเปออซค่ะ" เฟรีย่ายิ้มอย่าง
ร่าเริง
"ฉันเดินไปเจอทะเลสาบใหญ่มาก ๆ แห่งหนึ่ง พอเดินเข้าไปใกล้ก็มีปลาตัวใหญ่ยักษ์กระโดดขึ้นมาเอาหาง
ฟาดฉันตกน้ำ พอว่ายน้ำหนีมันก็ตาม จนมาขึ้นฝั่งได้ก็เจอประตูพอดี" ลูซิเฟอร์เล่าหน้าตาย
"เจอสัตว์ประหลาด ทีแรกเห็นมาตัวเดียวก็กะจะสู้นะ แต่ที่ไหนได้ ยกกันมาเป็นฝูงไม่ต่ำกว่าร้อยตัวเลยวิ่งหนี
มา วิ่งแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วก็มาเจอประตู" ลูเคียว่าทำหน้าเมือนเล่าเรื่องตลก
พวกเขาและเธอ 6 คนใช้เวลาไม่นานในการสร้างความสนิทสนมกัน แต่กลับมีคนหนึ่งที่ไม่ยอมพูดเลย
เสียงพูดคุยยังคงดังมาจากกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ มีกระทั่งการวิ่งไล่ฆ่ากันคนบางคู่ ไปจนถึงการเล่นโน่นเล่นนี่ทั้งไพ่ หมากรุก
และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่แล้วการกระทำทุกอย่างก็ต้องหยุดลง เมื่อเตาผิงเรืองแสงสีเหลืองอ่อน ก่อนค่อย ๆ ปรากฏเป็นรูปร่างของ
ชายชราหนวดยาวคนหนึ่ง เกรนเดล เซเดิร์น อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวสเทียร่าแห่งนี้ ปรากฏตัวต่อหน้าว่าที่นักเรียน
ทั้งหมด ว่าที่นักเรียนทั้งหลายเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่ไปที่ชายชราเบื้องหน้า เกรนเดลเริ่มพูดทันทีเมื่อเห็นว่าทุกคน
สนใจและสงสัยกับการปรากฏตัวของตน
"สวัสดีอีกครั้งว่าที่นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลาย พวกเจ้าที่อยู่นะที่นี่ เวลานี้ ถือว่าผ่านการทดสอบของโรงเรียน
แล้ว ต่อไปข้าจะพาพวกเจ้าไปทดสอบคัดเลือกปราสาท เมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วก็ตามข้ามา" สิ้นคำ เกรนเดลวาดมือไป
ทางเตาผิง เกิดเป็นช่องว่างขนาดพอให้คนผ่านได้ ลักษณคล้ายประตูมิติ ชายชราเดินเข้าไปอย่างไม่คิดจะรอใคร ว่าที่
นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลายต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เอลเรนาสเดินตามอาจารย์ใหญ่เข้าไปอย่างไม่สนใจใคร ตามด้วย
เอรีอาน่า และคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันตามเข้าไป เมื่อภายในห้องรับรองเหลือเพียงเครื่องเรือนต่าง ๆ และความว่างเปล่า
ช่องว่างคล้ายประตูมิติก็ลดขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หายไป
___________________________________________________________________
เม้นท์ๆๆๆๆๆๆๆ ให้คะแนนด้วยน้า~
ตรงข้ามกับประตู ผนังฝั่งขวามือทั้งแถบเป็นชั้นหนังสือสูงจรดเพดาน มีโซฟาอยู่หน้าและวางหันหน้าเข้าหาเตาผิงตัว
หนึ่ง ส่วนตัวอื่นๆก็กระจายอยู่ทั่วห้อง มีทั้งโซฟารูปตัวแอลคู่กับโต๊ะตัวเตี้ย ๆ เหนือเตาผิงขึ้นไปมีป้ายไม้โอ๊คสลักตัวอักษร
ทาสีทองว่า 'ห้องรับรอง'
ภายในห้องเงียบกริบและว่างเปล่า ไม่มีใครที่ผ่านการทดสอบมาก่อนเอรีอาน่าเลยแม้แต่คนเดียว ขาเรียว
ยาวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ประตูที่เธอเดินผ่านมาก็หายไป เอารีอาน่าเดินไปที่ชั้นหนังสือ สายตาไล่ไปตามหนังสือที
ละเล่ม นิ้วเรียวไล้ไปตามสันหนังสือ เธอกำลังมองหาหนังสือที่เธออยากอ่านอยู่ เธอไปเห็นมันที่ร้านหนังสือในหมู่บ้าน
ชื่อของมันคือ '10 กลวิธีลอบสังหาร' กึ๋ย... สมเป็นมือสังหารจริง ๆ แม่คุณ เอรีอาน่าเดินหาไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็พบ
มันวางอยู่ในชั้นที่นับว่าค่อยข้างสูง แต่ก็ไม่สูงเกินกว่าที่ส่วนสูงของเธอจะเอื้ออำนวย เอรีอาน่าหยิบมันออกมาจากชั้น
มันเป็นหนังสือปกหนังสีดำสนิท ตัวอักษรตัวใหญ่ตรงหน้าปกเป็นสีแดงสดดั่งโลหิต เอรีอาน่าเดินถือหนังสือไปนั่งลงตรง
โซฟาหน้าเตาผิง นิ้วเรียวค่อย ๆ พลิงเปิดหน้ากระดาษไปทีละหน้า เอรีอาน่าตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนี้มาก มากขนาดที่ว่ามี
คนเข้ามาในห้องแต่เธอกลับไม่รู้
ผู้มาใหม่สาวเท้าไปที่ชั้นหนังสืออย่างไม่ได้สนใจว่าคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วเป็นใคร ผู้มาใหม่เอื้อมมือไปหยิบ
หนังสือจากชั้นออกมาแล้วเดินไปนั่งลงตรงปลายสุดของโซฟาอีกฟากที่เอรีอาน่านั่งอยู่ เอรีอาน่าเงยหน้ามองผู้มาใหม่แล้วก็
ต้องชะงัก ปิดหนังสือในมือดัวฉับ
"เอลเรนาส" เอรีอาน่าพูดเสียงยานคาง เจ้าของชื่อจึงหันมามอง
"นึกว่าใคร ที่แท้ก็คนที่ลอบทำร้ายคนอื่นนี่เอง" เอลเรนาสกัด
"นี่นาย พูดให้มันดี ๆ นะ ใครทำร้ายใคร" เอรีอาน่าเริ่มยัวะ
"ก็เธอทำร้ายฉันไง หรือไม่จริง" คนฟังตอบเสียงเย็น
"อย่ามามั่วนิ่มนะ ฉันไปทำอะไรให้นาย"
"ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วไอ้ก้อนหินนั่นมันบินมาโดนหัวฉันได้ไง"
"ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ นกมันอาจจะหมั่นไส้นายก็เลยเอาก้อนหินมาโยนใส่หัวนายก็ได้" แถไปนั่น
"ประสาทรึไง นกที่ไหนจะเอาก้อนหินมาปล่อยใส่หัวคน"
"ก็นกที่นี่น่ะสิ" พาลกันไปถึงนกโน่น
"ตั้งแต่มาฉันยังไม่เห็นนกที่นี่สักตัว"
"นายไม่ได้สังเกตเองต่างหาก ฉันเห็นเป็นฝูงเลย"
"นี่เธอคิดจะ... "
และแล้วการทะเลาะกันอันแสนหนวกหูก็มีอันต้องหยุดไป เมื่อสวรรค์ส่งคนมาช่วยหยุด (ขัด) การทะเลาะกัน
ประตูแบบเดิมเปิดออก ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาได้ 2-3 ก้าว ก็ล้มหน้าคว่ำอยู่หน้าประตู ผู้ที่เพิ่งจะ
ทะเลาะกันไปหมาด ๆ ปรี่เข้ามาลากคนขัดจังหวะการทะเลาะไปนอนบนโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุด สภาพของเด็กหนุ่มคนนั้น
เหมือนกับไปวิ่งหนีอะไรมา เส้นผมสีม่วงยาวประบ่ายุ่งเหยิงพันกันอย่างกับรังนก เสื้อผ้ายับยู่ยี่ ทั้งผม เสื้อผ้าและเนื้อตัว
เปียกเหงื่อจนชุ่มอย่างกับไปตกน้ำที่ไหนมา
เอลเรนาสรีบร่ายเวทรักษาทันที สักพักเด็กหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมา หันหน้ามองซ้ายมองขวาอย่างงง ๆ
"ที่นี่ที่ไหน ?" คนเพิ่งฟื้นถามเสียงแหบ ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนหน้าเขาแล้วพร้อมใจกันชี้มือไปที่ป้ายไม้เหนือ
เตาผิง แล้วก็หันมองหน้ากัน แล้วก็เชิดใส่กัน คนนั่งมอง มองทั้งคู่แล้วยิ้มแหย ๆ ก่อนเอ่ยปากด้วยเสียงแหบแห้ง
"เอ่อ...ขอน้ำหน่อยได้ไหมครับ" เมื่อถูกขอเอลเรนาสจึงเดินไปมุมหนึ่งของห้องก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับ
แก้วน้ำในมือ เขาส่งแก้วน้ำให้กับคนเพิ่งฟื้น เขารับแก้วน้ำไปดื่มอย่างกระหายก่อนเอ่ยปากขอบคุณ
"ขอบคุณมากครับ" เสียงคนพูดคราวนี้กลายเป็นทุ้มนุ้มต่างจากเดิม ตอนแรกคงคอแห้งมาก ๆ
"นายชื่ออะไร ฉันชื่อ เอรีอาน่า สตีฟาน ส่วนหมอนี่ เอลเรนาส เซโรนาดีฟ จาก เฟรเดีย" เอรีอาน่าแนะนำตัวเผื่อแผ่คนข้างๆ
"ฉัน เปออซ โรนีฟา รัชทายาทแห่ง โกเดน" เปออซยิ้มร่า
ประตูตรงผนังห้องเปิดออกอีกครั้งขัดการสนทนาของทั้งสาม ผู้มาใหม่คราวนี้เป็นอยู่หญิง ซึ่งเอรีอาน่าจำได้
ว่าเธอคนนี้คือ เฟรีย่า เอมาธาน เฟรีย่าโผล่ออกมาในสภาพคล้าย ๆ กับเปออซ ผู้มาก่อนทั้ง 3 คน วิ่งเข้าไปช่วยประคอง
เฟรีย่าให้มานั่งแทนที่เปออซ
โชคยังดีที่เฟรีย่ามาในสภาพที่ยังพอมีสติอยู่ เอลเรนาสเริ่มลงมือรักษาผู้ป่วยอีกครั้ง คราวนี้ใช้เวลาในการทำ
ให้เฟรีย่ากลับมามีสติสมบูรณ์เร็วกว่ารอบของเปออซ
เฟรีย่าค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีอเมทิสต์คู่งาม เด็กสาวยันกายลุกขึ้นนั่ง มองหน้าบุคคล
ทั้ง 3 ที่อยู่เบื้องหน้า
"ง่า...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย" เสียงหวานไพเราะเอ่ยถาม นิ้วชี้ของบุคคลทั้ง 3 พร้อมใจชี้ไปตรงป้ายเหนือเตาผิง
เฟรีย่าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ข้าชื่อเฟรีย่า เอมาธาน รัชทายาทแห่งไพเรีย ส่วนท่านคงเป็นองค์ชายเอลเรนาส เซโรนาดีฟ กับ
องค์ชาย เปออซ โรนีฟา สินะคะ แล้วเธอล่ะ" เฟรีย่ามองหน้าเอลเรนาสด้วยสีหน้าท่าทางสุดจะปลื้ม แล้วหันมาถาม
เอรีอาน่า
"ฉันเหรอ เอรีอาน่า สตีฟาน จากเฟรเดีย" เอรีอาน่าตอบเบา ๆ
การสนทนาของทั้งสี่เงียบไปสักพักก่อนจะมีประตูอีก 2 บานโผล่ขึ้นมาพร้อมกัน 2 ผู้มาใหม่เป็นชาย 1
หญิง 1 ทุกคนมาในสภาพเดียวกันกับเฟรีย่าและเปออซ เดือดร้อนให้ผู้ที่อยู่ในห้องก่อนแล้วต้องไปลากมานั่งโซฟาตัว
ใกล้ ๆ แล้วให้เอลเรนาสผู้ซึ่งกลายเป็นหมอจำเป็นไปแล้วเป็นคนรักษา พอ 2 คนนี่ฟื้นขึ้นมา คำถามยอดฮิตก็ถูกถามอีก
แล้ว 'ที่นี่ที่ไหนเหรอ' และคำตอบก็คือ ทุกคนที่มาถึงก่อนแล้วพร้อมใจกันชี้ไปที่ป้ายเหนือเตาผิง
สองคนนี้เป็นพวกคนใหญ่คนโตทั้งนั่น คนแรก ลูซิเฟอร์ ซินเดอเรีย รัชทายาทแห่งเทอเรน มีผมสีแดง
ซอยสั้นระต้นคอ กับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าตาจัดว่าหล่ออยู่เหมือนกัน ส่วนอีก 1 สาว คือ ลูเคีย เชพาร์ด
เจ้าหญิงคนรองแห่ง ชานเนเลีย เป็นสาวสวยคนหนึ่ง มีเรือนผมสีฟ้ากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล ดูแล้วค่อยข้างเป็นสาวห้าว
หลังจากที่รักษาทั้งสองคนเสร็จแล้ว คุณหมอจำเป็นก็ยุ่งจนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย เมื่อประตูอีกหลายบาน
ปรากฏขึ้นมาในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน ส่วนผู้ที่กลับมามีสติและสภาพสมบูรณ์พร้อมหมดแล้ว ก็กลายมาเป็นเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย
ผู้ป่วยจากหน้าประตูไปนอนบนโซฟา คำถามยอดฮิตยังคงถูกถามจากผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้ว และคำตอบสุดฮอตก็ยัง
คงตอบด้วยวิธีเดิม
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง คุณหมอจำเป็นก็ได้หยดพักเสียที เมื่อไม่มีประตูบานไหนโผล่ขึ้นมา
อีก ผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้ามาทั้งหมดเริ่มจับกลุ่มคุยกันเล่นกันเป็นกลุ่ม ๆ ส่วนพวกเอรีอาน่านั้นมีแค่ 6 คนแรกที่ผ่าน
การทดสอบเข้าเพราะคนอื่น ๆ หลังจาก 6 คนนี้แล้วก็ได้แต่ช่วยรักษาอย่างเดียวไม่มีเวลาได้พูดคุยถามไถ่อะไรกันสักนิด
พวกเอรีอาน่าเลือกที่นั่งตรงโซฟารูปตัวแอลที่มีโต๊ะตัวเตี้ย ๆ อยู่ข้างหน้า
"พวกเธอไปทำอะไรกันมาเนี่ย ถึงโผล่มาในสภาพแบบนี้" เสียงหวานใสของเอรีอาน่าเอ่ยถาม
"ฉันวิ่งหนีงูยักษ์มา วิ่งแบบไม่รู้ทิศรู้ทางแล้วก็มาเจอประตู ทีแรกไม่รู้หรอกว่าหลังประตูเป็นที่ไหน แต่เพื่อ
ความอยู่รอดเลยต้องหนีเข้าไป" เปออซเล่าพลางทำสีหน้าระรื่น
"ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่เจอเสือฝูงหนึ่ง เหตุการณ์ที่เหลือเหมือนคุณเปออซค่ะ" เฟรีย่ายิ้มอย่าง
ร่าเริง
"ฉันเดินไปเจอทะเลสาบใหญ่มาก ๆ แห่งหนึ่ง พอเดินเข้าไปใกล้ก็มีปลาตัวใหญ่ยักษ์กระโดดขึ้นมาเอาหาง
ฟาดฉันตกน้ำ พอว่ายน้ำหนีมันก็ตาม จนมาขึ้นฝั่งได้ก็เจอประตูพอดี" ลูซิเฟอร์เล่าหน้าตาย
"เจอสัตว์ประหลาด ทีแรกเห็นมาตัวเดียวก็กะจะสู้นะ แต่ที่ไหนได้ ยกกันมาเป็นฝูงไม่ต่ำกว่าร้อยตัวเลยวิ่งหนี
มา วิ่งแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้แล้วก็มาเจอประตู" ลูเคียว่าทำหน้าเมือนเล่าเรื่องตลก
พวกเขาและเธอ 6 คนใช้เวลาไม่นานในการสร้างความสนิทสนมกัน แต่กลับมีคนหนึ่งที่ไม่ยอมพูดเลย
เสียงพูดคุยยังคงดังมาจากกลุ่มโน้นกลุ่มนี้ มีกระทั่งการวิ่งไล่ฆ่ากันคนบางคู่ ไปจนถึงการเล่นโน่นเล่นนี่ทั้งไพ่ หมากรุก
และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่แล้วการกระทำทุกอย่างก็ต้องหยุดลง เมื่อเตาผิงเรืองแสงสีเหลืองอ่อน ก่อนค่อย ๆ ปรากฏเป็นรูปร่างของ
ชายชราหนวดยาวคนหนึ่ง เกรนเดล เซเดิร์น อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวสเทียร่าแห่งนี้ ปรากฏตัวต่อหน้าว่าที่นักเรียน
ทั้งหมด ว่าที่นักเรียนทั้งหลายเบนความสนใจจากสิ่งที่ทำอยู่ไปที่ชายชราเบื้องหน้า เกรนเดลเริ่มพูดทันทีเมื่อเห็นว่าทุกคน
สนใจและสงสัยกับการปรากฏตัวของตน
"สวัสดีอีกครั้งว่าที่นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลาย พวกเจ้าที่อยู่นะที่นี่ เวลานี้ ถือว่าผ่านการทดสอบของโรงเรียน
แล้ว ต่อไปข้าจะพาพวกเจ้าไปทดสอบคัดเลือกปราสาท เมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วก็ตามข้ามา" สิ้นคำ เกรนเดลวาดมือไป
ทางเตาผิง เกิดเป็นช่องว่างขนาดพอให้คนผ่านได้ ลักษณคล้ายประตูมิติ ชายชราเดินเข้าไปอย่างไม่คิดจะรอใคร ว่าที่
นักเรียนเวสเทียร่าทั้งหลายต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เอลเรนาสเดินตามอาจารย์ใหญ่เข้าไปอย่างไม่สนใจใคร ตามด้วย
เอรีอาน่า และคนอื่น ๆ ก็ทยอยกันตามเข้าไป เมื่อภายในห้องรับรองเหลือเพียงเครื่องเรือนต่าง ๆ และความว่างเปล่า
ช่องว่างคล้ายประตูมิติก็ลดขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็หายไป
___________________________________________________________________
เม้นท์ๆๆๆๆๆๆๆ ให้คะแนนด้วยน้า~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น