ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซเทียฟาล นครแห่งมนตรา

    ลำดับตอนที่ #2 : First Mission : โรงเรียนเวสเทียร่า Westiara School

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 51


                       วันเวลา 5 วันของการเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเป็นเรื่องโกหก  เส้นทางที่เกวียนของสองพ่อลูกตระกูลนักฆ่าผ่านมานั้น ล้วนมีแต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ สวยงาม อลังการทั้งสิ้น  แต่หนึ่งคนในเกวียนนั้นหาได้สนใจสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่  เอาแต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในเกวียน จมอยู่กับห้วงความคิดของตนเอง
                  'นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้  แล้วทีนี้เราจะทำยังไงถึงจะทำงานได้สำเร็จล่ะเนี่ย  เป็นมือสังหารมา 10 ปี  ไม่เค้ยไม่เคยจะมีสักครั้งที่พ่อจะมอดหมายงานที่มีโอกาสพลาดสูงขนาดนี้มาให้  แล้วทำไมไม่ทำเองซะเลยล่ะเนี่ย พ่อนะพ่อ  คอยดูเหอะ  ว่าแต่...ไอ้ท่านรัชทายาทแห่งเฟรเดียนี่หน้าตาเป็นไงหว่า...  เฮ้อ.. แล้วถ้าเกิดมันเก่งมาก ๆ แล้วเราจะทำยังไง  เอาเหอะ  ยังไงก็ดูๆไปก่อนละกัน  แล้วค่อยว่ากันทีหลัง'  เอรีอาน่าเด็กสาวหน้าตาราวเทพธิดา แต่กำลังกลิ้งเกลือกไปมาอยูในเกวียนพลางคิดเรื่องเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น
                   "เอรีอาน่า  ถึงโรงเรียนแล้ว  รีบออกมาเร็วเข้า" เสียงทุ้มของคนเป็นพ่อตะโกนเรียกมาจากด้านนอก
                   เอรีอาน่าลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกเกวียน  สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาอยู่เบื้องหน้าคือ  ปราสาทขนาดใหญ่  สูงหลายเมตร  เบื้องหน้าปราสาทมีโต๊ะรับสมัครมากมายตั้งเรียงกันเป็นแถวผู้คนจากทั่วทุกสารทิศมารวมกันอยู่หน้าปราสาท  โต๊ะรับสมัครแต่ละโต๊ะเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อคิวยาว  บุรุษร่าวงสูงลากแขนผู้เป็นลูกให้เดินไปต่อแถวที่โต๊ะตัวที่มีคนต่อแถวน้อยที่สุด  
                   โรงเรียนเวสเทียร่าเป็นโรงเรียนที่รวมเอาบรรดาเจ้าหญิง เจ้าชาย รัชทายาท คนใหญ่คนโตและพวกคนมีตังค์ทั้งหลายมาไว้  การจะเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้จะต้องผ่านการทดสอบที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น  อันเนื่องมาจาก ในแต่ละปีนั้นมีคนมาสมัครเข้าโรงเรียนนี้มากมาย  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แน่นอนที่ทางโรงเรียนคงรับไว้ทั้งหมดไม่ได้  ฉะนั้นจึงได้มีการคัดเลือกเอาเฉพาะพวกฝีมือดีเข้าไป  บางปีก็มีนักเรียนที่ผ่านทดสอบเป็นร้อย  บางปีมีหลายสิบแต่บางปีก็มีไม่ถึงครึ่งร้อย  นักเรียนโรงเรียนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกฝีมือดีทั้งนั้น  แถมยังเป็นโรงเรียนที่นับว่าหรูมาก  ทำให้มีพวกที่อยากจะมาเข้าเรียนอยู่เยอะ และมาด้วยสาเหตุนานับประการ  แต่คงน้อยนักที่จะมาด้วยสาเหตุเช่นเดียวกับเอรีอาน่า...
                    ผู้ที่มาสมัครคนก่อนหน้าเอรีอาน่าสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ตอนนี้ก็ถึงตาเอรีอาน่าบ้างล่ะ  เธอเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่เบื้องหลังโต๊ะ  ยื่นเอกสารการสมัครเข้าเรียนให้  เจ้าหน้าที่หนุ่มหลังโต๊ะพลิกดูหน้ากระดาษไปมา สลับกับเงยหน้ามองเอรีอาน่าเป็นบางครั้ง
                    "ชื่อ เอรีอาน่า  สตีฟาน จาก เฟรเดีย สินะครับ" ชายหนุ่มหลังโต๊ะเอ่ยถามสาวน้อยตรงหน้าเบาๆ  เอรีอาน่าพยักหน้าน้อยๆเป็นการตอบรับ
                    "เรียบร้อยแล้วครับ  เดี๋ยวไปอยู่แถว ๆ หน้าปราสาทรอรับการทดสอบนะครับ" ชายหนุ่มว่าผายมือไปทางปราสาท
                    บุรุษร่างสูงผู้เป็นพ่อทำท่าจะลากลูไปหน้าปราสาท  แต่เจ้าตัวกลับเดินนำลิ่วๆไปก่อนเสียแล้ว
                    บริเวณหน้าปราสาทคราคร่ำไปด้วยผู้คนและสียงพูดคุยดังจนฟังไม่ได้ศัพท์  เอรีอาน่าเดินไปหยุดอยู่ตรงจุดๆหนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีผู้คนมากมายนัก  เธอเหวี่ยงเท้าเตะก้อนหนึ่นก้อนหนึ่งระบายอารมณ์  ซึ่งมันก็แน่นอนว่าเธอไม่สนว่ามันจะไปโดนหัวใครหรือไม่  ก้อนหินห้อนน้อยลอยไปตกตรงจุด ๆ หนึ่งแล้วตามมาด้วยเสียง "โอ๊ย !" ของใครบางคนที่โดนเจ้าก้อนหินน้อยตกใส่ศีรษะพอดิบพอดี
                    เด็กหนุ่มคนหนึ่งหันขวับมายังที่มาของหิน  ส่วนตัวการน่ะรึ  ก็กำลังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนั้น  แน่นอนว่าคนถูกประทุษร้ายคนนี้ย่อมรู้ดีว่าใครเป็นคนทำ  เขาสาวเท้ายาว ๆ ตรงเข้าหาตัวการ
                    "นี่ !" เขาตามมาจนทันเด็กสาวแล้วจับไหล่เธอให้หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
                    เขาเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีมาก ๆ  เส้นผมสีเงินที่ลงมาปรกด้านข้างถูกซอยไล่ระดับจากที่ยาวเลยบ่าลงมาเล็กน้อยขึ้นไปจนอยู่เหนือไหล่นิดหน่อย  ส่วนด้านหลังก็ซอยไล่ระดับลงไปจนถึงเอว  นัยน์ตาสีแดงสดคมกริบจ้องมองเด็กสาวตรงหน้า  เอรีอาน่าก็จ้องตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
                    "ลอบทำร้ายคนอื่นนี่ไม่คิดจะขอโทษเลยรึไง" เด็กหนุ่มผู้โชคร้ายต่อว่าเสียงเรียบ
                    "แล้วเจ้ารู้ได้ไงว่าข้าเป็นคนทำ" เธอย้อน
                    ...เงียบสนิท  ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากอีกคน  ทั้งสองฝ่ายยังแข่งกันจ้องตาอย่างไม่ยอมลดละ  เกิดประกายสายฟ้าแล่นเปรี๊ยะ ขึ้นมาระหว่างคนทั้งคู่  บรรยากาศมาคุเริ่มเข้ามาปกคลุมบริเวณโดยรอบของทั้งสองคน  ผู้คนโดยรอบขยับออกห่างทั้งคู่โดยอัตโนมัต  ความเงียบดำเนินต่อไปสักพักจนมีคนหนึ่งรู้ตัวว่ามีคนมุงอยู่จึงได้เอ่ยตัดปัญหาขึ้น
                    "เออ ๆ ฉันผิดก็ได้  ทีนี้จะไปไหนก็ไปซะ" เอรีอาน่าส่งสายตายราวจะกินเลือดกินเนื้อไปให้พวกที่มุงดูพวกเธออยู่  ทำให้บรรดาคนชอบมุ่งทั้งหลายต่างรีบหันหน้าหนีไปทางอื่น
                    ผู้รับเคราะห์ไม่ตอบแต่ก็ยอมหันหลังเดินจากไป
                    "เฮ้อ...สงสัยจะมีศัตรูตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าเรียน" เอรีอาน่าถอนหายใจแล้วพึมพำกับตนเองเบา ๆ
                    เวลาผ่านไปได้สักพัก จนในที่สุดเวลาที่เหล่าผู้สมัครเข้าเรียนรอคอยก็มาถึง  ชายชราผู้มีเส้นผมและเครายาวสีขาวเดินออกมาจากปราศาทใหญ่เบื้องหน้าผู้สมัคร
                    "สวัสดีเหล่าผู้สมัครเข้าเรียนทุกท่าน  ข้า เกรนเดล  เซเดิร์น  อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเวสเทียร่าแห่งนี้  การทดสอบเพื่อเลือกผู้ที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้นั้น  กำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้"เสียงประกาศดังกังวานเป็นดั่งสัญญาณบอกให้เตรียมพร้อมและให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องถอยออกไปจากบริเวณลานกว้างหน้าปราสาทส่วนนี้

                    "การทดสอบของเราก้ไม่ได้มีอะไรมากนัก  เพียงแค่พวกเจ้าหาทางออกจากป่าวังวนได้ก็จะถือว่าพวกเจ้าผ่านการทดสอบ" สิ้นเสียงประกาศ เกิดเสียงฮือฮาขั้นในหมู่ผู้สมัครทั้งหลาย  ก่อนที่จะพร้อมใจกันเงียบลงเมื่อมีเสียงกระแอมอย่างจงใจของท่านอาจารย์ใหญ่ดังขัด
                    "ถ้าข้าเรียกชื่อใครก็ขอให้ออกมาแล้วเข้าไปในประตูบานนี้"  เกรนเดลวาดมือออกไปด้านข้าง ปรากฏเป็นบานประตูไม้แกะสลักเป็นลายคล้ายป่าที่ไม่เถาวัลย์พันเกี่ยวต้นไม้เต็มไปหมด
                    เกรนเดลหยิบกระดาษสีน้ำตาลซีด ๆ  ขึ้นมาดูแล้วเอ่ยรายชื่อผู้สมัครคนแรก
                    "เฟรีย่า  เอมาธาน  รัชทายาทแห่งไพเรีย !" เจ้าของชื่อเดินออกมาข้างหน้า ค่อย ๆ ก้าวไปที่ประตู  เธอเป็นเด็กสาวที่จัดว่าหน้าตาดีมากทีเดียว  ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวตรงลงมาถึงเอว  ดวงตาสีม่วงอะเมทิสต์กลมโตน่ารัก  เธอค่อย ๆ เปิดประตูไม้ออกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แล้วเดินเข้า  พอประตูไม้บานใหญ่ปิดลง เสียงขานชื่อคนต่อไปก็ดังขึ้น

                     เสียงขานชื่อยังคงดังต่อไปเรื่อย ๆ จนคนที่ 98 หายเข้าไปในประตู  แล้วชื่อคนที่ 99 ก็ถูกขานออกมา 
                     "เอลเรนาส  เซโรนาดีฟ  รัชทายาทแห่งเฟรเดีย"  เมื่อบุรุษเจ้าของชื่อเดินออกไปข้างหน้า เขาก็ทำให้เอรีอาน่าต้องชะงัก  เขาก็คือคนที่เพิ่งจะแข่งจ้องตากับเธอด้วยสาเหตุที่เธอเตะก้อนหินไปโดนหัวเขา...  และเขาก็คือเป้าหมายของเธอสำหรับงานนี้  เดินหายเข้าไปหลังบานประตู โดยไม่คิดที่จะหันมามองเอรีอาน่า แม้จะรู้ว่าถูกเธอมองอยู่ก็ตาม
                     "เอรีอาน่า  สตีฟาน แห่งเฟรเดีย" เสียงเรียกชื่อทำใหเธอสะดุ้งน้อย ๆ  ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่ทุกไม่ร้อน  
    สายตาหลายคู่จัดจ้องมาที่เธอ เอรีอาน่าทำเป็นไม่สนใจสายตาที่มองมานั่น  เธอไม่รู้หรอกว่าถูกมองพราะอะไร  แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจเสียแล้วสาวเท้าไว ๆ  ไปเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป
                     ความมืดมิดเบื้องหลังบานประตูแปรเปลี่ยนเป็นป่ารกชัฏ ที่มีต้นไม้ขึ้นสูงแผ่กิ่งก้านสายขาออกไปซ้อนทับกัน  จนแสงอาทิตย์ไม่อาจส่องลงมาถึงได้  ทำให้ภายในป่านั้นมืดสนิทดั่งยามราตรี  เถาวัลย์มากมายพันเกี่ยวกันไปมาข้ามต้นโน้นต้นนี้ดั่งรูปสลักตรงบานประตู  เอรีอาน่าก้าวเท้าเดินไปตามทางถายในป่ากิ่งไม้แล้วรากไม้รุงรังทำให้การเดินของเธอลำบากนัก
                     ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในป่านี้และเดินไปเดินมานี่ก็ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นทางออกเลยสักนิด  ซ้ำร้ายกว่านั้นเธอยังเดินวนมาผ่านจุดเดิมแล้วถึง 3 ครั้ง
                     "นี่มันอะไรกันเนี่ย  แล้วอย่างนี้จะหาทางออกเจอได้ยังไงกัน" เอรีอาน่าบ่นพึมพำกับตัวเอง พลางเดินต่อไปเรื่อย ๆ
                     'ป่านี่มันอะไร ทำไมมีแต่ภาพลวงตาทั้งนั้น' เอรีอาน่าคิดในใจเมื่อเธอจับได้ว่าสิ่งที่ทำให้เธอหลงวนอยู่ในนี้คือภาพลวงตา   'เอาวะ  เป็นไงเป็นกัน ลองเสี่ยงดูสักตั้ง' 
                     สิ้นความคิดเอารีอาน่าขยับเปลือกตาลงมาให้มันปิดสนิท  ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่  เธอเดินเป็นเส้นตรงต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สนใจที่จะลืมตาขึ้นมามองรอบตัว  เท้าของเอรีอาน่ายังก้าวเดินมาได้สัก 15  นาทีแล้วแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พบทางออกจากป่า  จนในที่สุดก็... 'โป๊ก ! โอ๊ย !'  หน้าผากของเธอกระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้เธอต้องลืมตามอง  มันเป็นประตูเก่า ๆ ผุ ๆ พัง ๆ บานใหญ่ ติดอยู่ตรงบางสิ่งคล้ายผนังถ้ำ ที่มารากยาวพะรุงพะรังของต้อนไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างบนถ้ำบกคลุมอยู่คล้ายจะปกป้อง
                     ร่างบางนึกดีใจแม้จะยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังประตูจะใช่ที่ ๆ เธอต้องการจะไปหรือเปล่า  มือเรียวผลักประตูเบา ๆ เพราะกลัวมันจะพังลงมาเสียก่อน  แล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไป
    ______________________________________________________________________
    เม้นท์ๆๆๆๆ เม้นท์ให้ด้วยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×