ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) ❝ 123 .. un deux trois ❞ { taohun . lukris }

    ลำดับตอนที่ #5 : - 4th . เรื่องวุ่นวายที่ยังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ ..ขอโทษน้า~ หวงจื่อเทา TT'

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ค. 56


     

    123 un deux trois ..

     

    โอเซฮุน.

     

                นั่งรอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้เมื่อเข้าบ้านมาได้ ผมรีบวางกระเป๋าแล้วพุ่งเข้าห้องครัวเพื่อจะไปเอาน้ำมาให้จื่อเทาด้วยความไวกว่าแสง

     

                เอ่อ แต่อันนี้ผมไม่ได้ทำเพราะอยากดูแลเขาหรอก เพราะการรีบวิ่งไปเอาน้ำแบบนี้คงไม่ได้ทำเขาประทับใจในตัวผมเท่าไหร่

     

                คือจริงๆแล้วเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ...

     

     

     

     

     

     

                ยี่สิบนาทีก่อนหน้านั้น...

     

     

    จะเลิกยิ้มได้หรือยัง-_-;”

                “^______________^”

                “ประสาท-_-;;;;”

                “^______________^”

     

                แล้วนี่ผมเป็นบ้าอะไรไปยิ้มให้เขาเนี่ย เขากำลังว่าผมอยู่นะ ..

                สาบานเลยว่าผมได้ยินที่จื่อเทาพูดทุกคำ เพียงแต่ผมไม่สามารถหยุดยิ้มได้จริงๆ

     

                แปลกหรือไง.. ก็คนที่ชอบขอมากินข้าวเย็นที่บ้าน ผมก็ต้องอารมณ์ดีเป็นธรรมดาสิ จริงไหม?

     

     

                ตามใจเหอะจื่อเทาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อย

                แล้วนี่เมื่อไหร่จะถึงบ้านนายเนี่ยไม่รู้สิ ~

     

                เอ๊ะๆ เดี๋ยวสิ ผมต้องกลับบ้านผมนี่ ลืมไปเลย

                เพราะว่าผมเอาแต่มองหน้าคนด้านข้างนี่แล้วก็ยิ้มจนลืมดูซอยบ้านตัวเอง และพอหันไปมองป้ายที่อยู่หน้าซอยตอนนี้ก็พบว่ามันคือซอย 20

     

     

                แต่บ้านผมมันอยู่ซอย 9 นะ ..

     

                เวรละ นี่ผมพาเขาเดินเตลิดซอยบ้านตัวเองมาใกล้ขนาดนี้เลยหรอเนี่ย =_=

               

     

                คือ...ฉันมีอะไรจะบอกผมค่อยๆเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงแผ่วเบา

                ว่า?

                “ฉันพานายเดินเตลิดซอยบ้านฉัน... ; -;”

     

                “ว่าละ-_-; ..แล้วนี่บ้านนายอยู่ซอยไหนจื่อเทาหลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะหันมาถามผม

                “เก้า...

     

                “ว่าไงนะ!!!คำนี้มันคุ้นๆนะ T oT

               

     

     

     

     

     

     

     

                ก็นั่นแหละครับ กว่าจะเดินกลับมาถึงบ้านได้ก็เหนื่อยได้ที่เลยล่ะ

               

                น้ำเปล่าเย็นๆถูกยื่นไปตรงหน้าจื่อเทา เมื่อผมปล่อยมือออกจากแก้วน้ำลายหมีแพนด้าได้ จื่อเทาก็ยื่นมือออกมาหยิบแก้วน้ำแล้วยกดื่มจนหมดในทีเดียว พอเห็นแบบนี้แล้วความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาในสมองผมทันที

     

                วันนี้ผมทำเขาซวยทั้งวันเลยจริงๆ .. ทั้งโดนไล่ออกมาอยู่นอกห้อง โดนทำโทษให้ไปทำเวรห้องสมุด พาเขาเดินเลยซอยบ้าน ทั้งๆที่เขาอุตส่าห์ใจดีจะเดินมาส่ง นั่นคงไม่ทำให้ผมรู้สึกขนาดนี้ถ้าวันนี้... ไม่ใช่วันเปิดเรียนวันแรก และเป็นวันแรกที่ผมกับเขาได้เจอกัน

     

                นี่... ขอโทษนะผมที่ยืนเกาะโซฟาอีกตัวเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

     

                ผมรู้สึกแย่มากจริงๆนะ ._.

     

                “ขอโทษ? เรื่องอะไร..จื่อเทาหันมามองผมงงๆ

     

                ก็เรื่องวันนี้อ่ะ... ทุกเรื่องเลย ..ทั้งๆที่นายพึ่งจะย้ายมาที่นี่วันแรกแต่ฉันกลับทำนายลำบากตั้งแต่วันแรก... ขอโทษจริงๆนะผมก้มหน้าพูด ไม่กล้ามองหน้าจื่อเทายังไงไม่รู้

                “…” ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ ผมจึงเงยหน้าขึ้นมองอีกคน และก็พบว่าตอนนี้หวงจื่อเทากำลังอมยิ้มบางๆเหมือนจะขำอยู่

     

                ...หนะ..นี่ไม่ใช่เวลามาทำให้คนอื่นเขินนะ .////.

                เอ่อ ไม่สิๆ เขาไม่ได้ทำให้ผมเขินเพียงแต่เขาแค่กำลังจะหัวเราะ และหน้าของเขาตอนอมยิ้มมันก็ดู... หล่อจนผมรู้สึกเขินขึ้นมาแบบนี้

     

               

                มานี่หน่อยดิระหว่างที่ผมกำลังเก็บอาการไม่ให้ตัวเองเผลอทำท่าทางแปลกๆใส่เขา จื่อเทาก็กวักมือเรียกผมให้เข้าไปหา ผมก็เลยรีบเดินเข้าไปนั่งข้างๆเขา

     

              เป๊าะ!

     

              โอ๊ย... เจ็บนะ ทำอะไรเนี่ยผมหลับตาปี๋แล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่ออีกคนยกมือขึ้นมาแล้วจัดการดีดหน้าผากผมเต็มแรง

     

                ความจริงมันก็ไม่ได้เต็มแรงหรอก เพียงแต่ผมสำออยไปงั้นแหละ .. แต่มันก็เจ็บอยู่นะ ; -;

     

                “จำไว้ว่าฉันไม่โกรธใครง่ายขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเรื่องวุ่นวายพวกนี้นี่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีอย่างหนึ่ง.. ไม่ต้องไปคิดมากหรอก

                “การเริ่มต้นที่ดี? ไอ้ที่โดนทำโทษแล้วก็ต้องมาเหนื่อยแบบนี้อะนะดี?ผมขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปม เพราะแปลกใจกับคำพูดของเขา

     

                ไอ้ที่ถูกไล่ออกมาอยู่นอกห้อง ต้องไปทำเวรห้องสมุดจนต้องกลับบ้านเย็น แถมพอจะอุตส่าห์มีน้ำใจเดินมาส่งเพื่อนใหม่อย่างผม ก็ยังโดนพาเดินเตลิดซอย เนี่ยนะการเริ่มต้นที่ดีของเขาน่ะ? ถ้าผมเป็นเขานะ ผมคงจะโคตรหงุดหงิดเลยล่ะตอนนี้...

     

                อือ .. ก็การที่เราได้ทำอะไรกับใครถึงมันจะดูเหนื่อยหรือมีอุปสรรคไปหน่อย แต่พอเวลาผ่านไป.. ไอ้สิ่งพวกนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำดีๆที่พอคิดถึงแล้วก็จะทำเรายิ้มออกมาได้ ..นึกว่านายจะคิดเหมือนกันซะอีกนะ ฮ่ะๆจื่อเทาพูดขึ้นแล้วยิ้มบางๆออกมาเหมือนกำลังคิดถึงอะไรอยู่ ก่อนที่ประโยคหลังเขาจะหันมาพูดกับผม

     

                ก็จริงของนายผมพยักหน้าเห็นด้วยแล้วยิ้มกว้างออกมา

     

                ว่าแต่ข้าวเย็นวันนี้...

     

              กริ๊งงงงงงง

     

              ขณะที่จื่อเทากำลังจะพูดถึงมื้อเย็น เสียงโทรศัพท์บ้านผมก็ดังขึ้นมาขัดก่อน ผมก็เลยต้องรีบลุกไปรับ และก็พบว่าคนที่โทรมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณแม่คนสวยของผมเอง

     

                อ้ะๆ ผมไม่ได้ยอแม่ผมนะ ... ก็ถ้าแม่ผมไม่สวยแล้วผมจะหล่อได้ใครล่ะจริงไหม -..-

     

                ว่าไงครับแม่

                ( เอ้อเซฮุน วันนี้แม่ต้องไปงานเลี้ยงกับเจ้านาย คงจะกลับดึกๆนะ เย็นนี้หนูคงต้องหาอะไรกินเองแล้วล่ะ )

                “ว่าไงนะครับ..!!”

     

                ทำไมรู้สึกว่าผมพูดคำนี้บ่อยจังวะ =_=

                แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น .. ประเด็นที่ควรพูดตอนนี้คือ

     

                แล้วผมจะหามื้อเย็นจากไหนให้หวงจื่อเทากินล่ะ ? ; w;

                ไอ้ตัวผมน่ะไม่เท่าไหร่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหอเดียวก็อยู่ท้องแล้ว แต่จื่อเทาล่ะ .. เขาเหนื่อยๆมาแบบนี้ต้องหิวมากแน่ๆ ถ้าให้กินบะหมี่เป็นมื้อเย็น ผมเกรงว่าคงต้องใช้สักสี่ห้าห่อเพื่อทดแทนแรงที่เขาเสียไปในวันนี้

                อีกอย่างนะ .. จื่อเทาคงไม่ได้มาบ้านผมเพื่อจะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแน่ๆ TT

     

                ( เซฮุนนี่ แค่นี้ก่อนนะจ้ะ แม่โดนเรียกแล้ว บ๊ายบาย )

     

                คุณแม่ที่รักของผมตัดสายไปแล้วครับ..

                และตอนนี้ผมก็เจอปัญหาใหญ่มากๆแล้ว เอาไงดีล่ะ จื่อเทายิ่งเหนื่อยๆอยู่นะ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย เขาควรจะได้กินมื้อเย็นแล้วนะ

     

                มีอะไรรึเปล่า เสียงดังเชียวจื่อเทาที่นั่งอยู่บนโซฟาหันมาถามผม

               

                ถ้าตอบไปว่ามื้อเย็นวันนี้พวกเราต้องหากินเอง... เขาจะโมโหไหมนะ?

     

                ไม่หรอกมั้ง.......

     

     

     

     

     

                ไม่เหลือแน่ๆอ่ะ งื้ออออออ ทำไมเวลาเขาอยู่กับผมถึงได้มีแต่ปัญหาแบบนี้ล่ะ T_T

     

                “ดูทำหน้าเข้า สรุปมีอะไรหรือเปล่าเนี่ยมี... มีแน่ๆ มีชัวร์ๆ แต่ไม่กล้าบอก ;_;

     

                “คือว่า... ถ้าบอกไปแล้ว.. สัญญาก่อนว่านายจะไม่โมโหฉันอ่ะผมรวบรวมความกล้าแล้วตัดสินใจพูดออกไป จื่อเทาก็เลยพยักหน้าตกลง

     

                คือวันนี้แม่ฉันมีธุระคงจะกลับบ้านดึก.. มื้อเย็นวันนี้ฉันก็เลยต้องทำเอง..

                “แล้ว? ..นายก็ไปทำสิ

     

     

                “แต่ว่าฉันทำกับข้าวไม่เป็นอ่ะ

     

                เป็นอีกครั้งที่ผมต้องกลั้นหายใจตอบเขาไป จื่อเทาถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผม ก่อนที่จะยกมือขึ้นผลักหัวผมเบาๆแล้วจูงแขนผมเข้าไปในครัว

     

                ขออนุญาตค้นครัวนายหน่อยนะเมื่อเข้ามาในครัวได้จื่อเทาก็ปล่อยมือผมแล้วเอ่ยประโยคเมื่อกี้ขึ้น ก่อนที่เขาจะหันไปเปิดตู้เย็นผมแล้วจัดการหยิบของมากมายขึ้นมาวางบนโต๊ะสำหรับทำกับข้าว

     

                เครื่องครัวเยอะใช้ได้นี่..

                “…” ผมมองตามจื่อเทาตาไม่กระพริบ และกำลังสงสัยว่าเขาจะทำอะไร

     

                อย่าบอกนะว่าเขาจะทำกับข้าวน่ะ?

     

                นายชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าร่างสูงตรงหน้าที่กำลังง่วนอยู่กับผักและเนื้อมากมายหันมาถามผมที่กำลังยืนมองด้วยความแปลกใจอยู่

                ไง.. อยากกินอะไรหรือเปล่า

                นายทำกับข้าวเป็นด้วยหรอ?แทนที่ผมจะตอบคำถามเขา แต่ผมกลับถามคำถามที่ตัวเองกำลังสงสัยอยู่ออกไปแทน และพอได้ยินแบบนั้นจื่อเทาก็เลยหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะหยิบเขียงและมีดขึ้นมา

                แม่ฉันงานยุ่งน่ะ ตอนเด็กๆฉันเลยต้องหาอะไรกินเองบ่อยๆ บางทีอาหารที่อยากกินมันก็ยากไปหน่อย ฉันก็เสิร์ชดูสูตรจากเน็ต มีครั้งนึงฉันเปิดดูสูตรอาหารที่แม่ชอบแล้วลองทำไปให้แม่กิน แม่ฉันก็ชมใหญ่เลยว่าอร่อยมาก แล้วพอเห็นว่าฉันเริ่มทำอาหารเป็น แม่ก็เลยชอบซื้อพวกตำราอาหารมาให้ เวลาแม่ไม่ว่างทำอาหารที่ฉันอยากกินฉันจะได้ทำเองได้ มันก็เลยกลายเป็นว่าฉันทำอาหารเป็นโดยปริยาย...

                “…”

                “โอเซฮุน... ฟังอยู่หรือเปล่าน่ะ

               

              ป๊อก!

     

                “โอ๊ย!” ผมร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆตะหลิวขนาดพอดีมือก็ฟาดลงหัวผมอย่างจัง

     

                นี่เขาทำร้ายร่างกายผมอีกแล้ว T.T

     

                “อุตส่าห์เล่าให้ฟัง ได้ฟังมั่งหรือเปล่าน่ะ เอาแต่ยิ้มเป็นอาแปะอยู่นั่นแหละจื่อเทาที่กำลังหั่นแครอทอยู่ทำท่าจิ๊ปากขัดใจกับท่าทางผมเล็กๆ เสร็จแล้วเขาก็หันหลังไปทำอะไรบางอย่าง ผมก็เลยเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ

                ฟังดิ.. เพราะฟังไงก็เลยยิ้มออกมา^^ ..ว่าแต่นายจะทำอะไรกินอะ?

     

                ข้าวเทนชินฮัง จะเรียกให้เข้าใจง่ายๆก็ข้าวไข่เจียวปูราดซอสน่ะแหละ ..เออนี่ถามอะไรหน่อยดิ

                ถามอะไร ว่ามาเลยๆ

                เมื่อตอนกลางวันที่นายเขียนมือฉันน่ะ... พูดจริงหรอ?จื่อเทาหยุดหั่นผักแล้วเงยหน้ามามองผม พอเจอสายตาของเขาที่ดูกรุ้มกริ่มแปลกๆในตอนนี้จ้องมา มันก็เลยทำให้ผมทำตัวไม่ถูกยังไงไม่รู้

                อื้อผมยกมือขึ้นลูบท้ายทอยเพื่อลดความประหม่าของตัวเอง ก่อนจะพยักหน้าตอบเขาไปด้วยท่าทางเอ่อ.. ติดจะอายอยู่เล็กๆ พอตอบเสร็จผมก็เสหน้าหันไปมองทางอื่นทันที

     

                เห็นผมแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะเว้ย มาถามอะไรแบบนี้..

     

                แล้วดูสายตาที่เขามองมาดิ ทำไมมองเหมือนมีเลศนัยแบบนั้นล่ะ นี่ให้เขาทำหน้าหงุดหงิดเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกยังรู้สึกดีกว่าอีกนะเนี่ย TT

     

               

                ขอเหตุผลหน่อยได้ป่ะ ว่าทำไมถึงชอบฉัน?

     

                “ม่ะ.. ไม่รู้เหมือนกันดิ แต่เห็นหน้าแล้วมันก็รู้สึก.. ชอบ...เลยผมตอบตะกุกตะกักไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่

               

                และพอได้ยินคำตอบผม จื่อเทาก็ระบายยิ้มออกมาบางๆ

     

                ถามทำไมอะนั่นสิถามทำไม แล้วดูยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง?

                “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่อยากรู้เหตุผลน่ะ ..ว่าทำไมนายถึงได้รักคนแปลกหน้าตั้งแต่วันแรกที่เห็นได้ แถมยังกล้าบอกชอบเขาอีก..

                ”.///.”

     

     

     

     

     

     

     

                “ไม่กล้วโดนว่าใจง่ายหรือไง...




     
















    * ข้าวที่จื่อทำเราเสิร์ชมานะส่วนตัวไม่เคยกินแต่ที่เลือกมาเพราะเครื่องปรุงน่าจะหาได้ง่ายจากในบ้าน

    Minor!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×