คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : - 3rd . การทำโทษที่ไม่จบไม่สิ้น + ค่าตอบแทนที่จะไปส่งบ้าน
❝123 un deux trois .. ❞
ลู่หาน.
โอะโหย ทำไมมันง่วงแบบนี้วะเนี่ย พอไม่ได้เจอหน้าน้องคริสโลกก็ไม่สดใส ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรน่ามอง แม้แต่กระดานตรงหน้านี่ก็ด้วย ... หาววววว~
คิดถึงจังแฮะ .. เย็นนี้ชวนน้องคริสไปกินไอติมดีไหม? หรือจะชวนไปซื้อที่มาร์กหน้าตัวใหม่ดี? ไม่สิๆ ต้องหาอะไรที่ทำแล้วได้อยู่ด้วยกันนานๆหน่อยสิ แบบนั้นไปเดินแปปเดียวเดี๋ยวก็ได้กลับ ถึงแปปเดียวของน้องคริสจะนานถึงสามชั่วโมงก็เถอะ แต่นั่นก็ยังน้อยไปสำหรับผมอยู่ดี
อยากลักน้องไปนอนกอดที่บ้านจัง .. ตัวใหญ่ๆ แก้มตุ่ยๆ ตาโตๆ โอ้ยยยย น่ารัก นึกถึงหน้าแล้วอยากจะจับมาฟัดสักทีสองที
“เป็นเชี่ยไรไอ้ลู่ นั่งยิ้มอยู่คนเดียว” เสียงมารหูกางที่นั่งอยู่ข้างๆผมดังขึ้น เล่นเอาภาพที่ผมกำลังจะจับน้องคริสมาฟัดนี่หายวับไปกับตา
ไม่กับตาสิกูไม่เห็นนี่หว่า .. ไปกับสมอง...
เออ อันนี้ถูก
“เรื่องของกูป่ะ เสือกจริง” ผมว่าแล้วหันกลับมาเอามือเท้าคาง ในหัวก็คิดหากิจกรรมอะไรที่ทำแล้วจะได้อยู่กับน้องคริสนานๆ
นี่ก็สามปีแล้วที่ผมตามจีบน้องคริสมา แต่เด็กนั่นก็ไม่ยอมใจอ่อนให้ผมสักที ไม่รู้เหมือนกันว่าผมยังดีไม่พอหรือเพราะอะไร น้องคริสถึงไม่ยอมตกลงปลงใจเป็นแฟนกับผมเสียที แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ย่อท้อหรอก ผมจะตามจีบตามดูแลน้องคริสไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ มันต้องมีสักวันที่เป็นของผมแหละ! วันที่ผมจะชนะใจน้องเขาได้
ฮร้ายยย แค่คิดก็มีความสุขละ ~ 3 ~
“ทำหน้าฟินอีกละไอ้ห่านี่ เฮ้ยแบค ย้ายที่กับกูเอาป่ะ กูไม่อยากนั่งใกล้มัน” ชานยอลที่ขัดผมตั้งแต่เมื่อกี้หันไปพูดกับแบคฮยอน เพื่อนสนิทตัวเล็กร่างบางที่นั่งอยู่ข้างหลังมัน พอได้ยินแบบนั้นผมก็เลยเลิกเพ้อแล้วหันกลับมาจวกไอ้เวรนี่แทน
“อะไรของมึงห้ะ กูอินเลิฟอยู่.. ขัดอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวพ่อยันให้ตกเก้าอี้ซะหรอกหนิ” ว่าแล้วผมก็ยกขาขึ้นมาทำท่าจะยันมันจริงๆ ไอ้ชานยอลก็เลยต้องรีบก้มไปกอดขาผมเอาไว้แล้วส่งยิ้มกว้างให้ประมาณว่าขอโทษครับ
เดี๋ยวเหอะๆ เล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับพี่....
เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย
“ชานยอล ลู่หาน นั่งอยู่หน้าห้องแท้ๆทำไมไม่ตั้งใจเรียนห้ะ ถ้าอยากคุยก็ออกไปคุยข้างนอกเลยนะ” เสียงมาดามที่สอนภาษาฝรั่งเศสและพ่วงตำแหน่งเป็นอาจารย์ชั้นผมด้วยดังขึ้นทันที่เดินเข้าห้องมา หลังจากที่หายไปคุยโทรศัพท์นานเกือบครึ่งชั่วโมง
แหม่... มาถึงก็ด่าเชียว ทีออกไปโทรศัพท์ไม่สอนผม ผมยังไม่เคยว่าอาจารย์สักคำเลยนะเว้ย หยวนๆหน่อยดิโห้ว-_-
“เอาล่ะมาต่อกัน.. *verbs(แวบ)ตัวนี้นะคะ...” พออาจารย์เริ่มสอน ตาของผมที่จะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ก็ค่อยๆปิดลงไปจนสนิท
หลังจากนั้นโลกก็มือและผมก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย ...
กูหลับน่ะแหละครับ .. -_-zZZZ
❛123 un deux trois .. ❜
✄ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
โอเซฮุน.
ตอนนี้เป็นเวลาเก้านาฬิกาห้าสิบห้านาที
นี่ผมโดนไล่ออกมาอยู่นอกห้องนานเหมือนกันนะ-.- แต่ก็เอาเหอะ อยู่แบบนี้ก็มีข้อดีเหมือนกัน ..
ใช่แล้ว ผมได้อยู่กับจื่อเทาสองคนไง นั่นแหละข้อดี ^^
แต่ว่าตอนออกมาผมน่าจะหยิบขนมในกระเป๋าติดไม้ติดมือมาด้วยนะ อย่างน้อยๆก็จะได้กินฆ่าเวลาไป นี่หิวก็หิว แถมไม่มีอะให้ทำอีก ใจก็อยากจะชวนคนข้างๆนี่คุยนะ แต่ตั้งแต่ผมบอกว่าผมเขียนอะไรบนมือเขาไปหมอนี่ก็เอาแต่นิ่งใส่ผมอ่ะ อย่าบอกนะว่าหมอนี่จะทำตัวเหมือนคู่อื่นๆที่พอบอกชอบไปแล้วจะทำตัวห่างเหินน่ะ ผมไม่เอาแบบนั้นนะ T^T
เอ้ะ… ไม่สิ จริงๆหมอนี่ก็นิ่งอยู่แล้วนี่หว่า งั้นจริงๆเขาคงไม่ได้คิดมากกับคำที่ผมพึ่งบอกไปหรอก...มั้ง
“นายมีแฟนยัง?” ผมเอ่ยถามขึ้น
จริงๆก็ไม่น่าถามอ่านะ หน้าตาแบบนี้ไม่น่าพลาด สาวๆคงล้อมหน้าล้อมหลัง .. คิดแล้วก็เซ็ง เฮ้อ
“ยัง” นั่นไงว่า.. เอ๊ะ
เดี๋ยวนะ...
“เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ”
“ยัง” พระเจ้าเข้าข้างลูก! สวรรค์ช่างโปรดจริงๆ ; 3;
“ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้นด้วย” ใบหน้าคมของอีกคนหันมามองผมอย่างสงสัย จื่อเทาแค่นหัวเราะออกมาเล็กน้อย พอเห็นแบบนั้นผมก็เลยยิ้มกว้างกว่าเก่าเป็นเท่าตัว
ผมทำให้เขาหัวเราะได้ด้วยล่ะ ดูดิๆ ><
“หน้านายตอนนี้เหมือนอาแปะขายกาแฟยกล้อเลยรู้ป่ะ ฮ่ะๆๆ”
“ว่าไงนะ!!!”
“ก็... ฮ่าๆๆ อย่าทำหน้าบึ้งดิ หน้าแบบเมื่อกี้น่ารักดีออก”
“ว่าไงนะ...”
“นายพูดเป็นแต่คำนี้ใช่ไหม -_-” พอเห็นว่าผมเอาแค่พูดคำว่า ว่าไงนะจื่อเทาก็เริ่มกลับมาทำหน้านิ่งอีกครั้ง
ก็ครั้งแรกที่ผมพูดอะ ผมกำลังจะโกรธหมอนี่ที่มาว่าผมหน้าเหมือนอาแปะ แต่พอได้ยินจื่อเทาบอกว่าผมน่ารักความโกรธมันก็อันตธานหายไปในพริบตาเลยล่ะ ผมก็เลยเอ่ยคำว่าว่าไงนะขึ้นมาอีกครั้ง... เพราะอยากให้แน่ใจว่าตัวเองหูไม่ฝาดไป แล้วก็เพราะ... อยากได้ยินคำว่าน่ารักจากปากเขาอีกครั้งนึง
“นายชมฉันว่าน่ารักหรอ?”
“อือ” จื่อเทาพยักหน้าเล็กน้อย
อ่ากกกกกกกกกก ผมหุบยิ้มไม่ได้เลยอ่ะ ตอนนี้หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ ไม่ๆๆๆ มีดิ เหตุผลก็เพราะเขากำลังบอกว่าผมน่ารักน่ะแหละ
แล้วดูตอนพูดดิ ทำไมถึงได้ชมคนอื่นน่ารักได้หน้าตายแบบนี้ .. งื้ออ >///<
“เป็นอะไรหน้าแดง อย่าบอกนะว่าเขิน” ผมไม่ได้ตอบอะไรจื่อเทาไป เพราะตอนนี้ดีใจแล้วก็เขินจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาแล้ว
ไม่ได้สิ... ถ้าผมเอาแต่เงียบมันก็จะไม่มีอะไรคืบหน้า ตอนนี้เป็นโอกาสดีที่ผมจะต้องทำคะแนนกับจื่อเทา ว่าแล้วผมก็ย้ายที่นั่งจากที่อยู่ข้างๆเทามาอยู่ตรงหน้าเขาแทน
“เย็นนี้กลับบ้านยังไงอะ”
“รถโดยสาร” เออแปลกดี ได้เงินมาโรงเรียนตั้งเยอะแต่กลับรถเมลล์
เขาไม่ใช่พวกคุณหรูที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมารับมาส่งหรือมีใครคอยมารับงี้หรอกหรอ? ‘ ‘
“ฮุนนี่!!!!!!” จู่ๆเสียงตะโกนแหกปากของใครไม่รู้ก็ดังขึ้น แถมยังดังสนั่นอาคารเลยล่ะ - -;
และเมื่อเห็นไป ผมก็เจอกับผู้ชายร่างโปร่งหัวทองออกส้มๆที่มีใบหน้าเหมือนตุ๊กตาก็ไม่ปาน ... ไอ้พี่หาญหน้ากบ.... ของไอ้คริส
โอ้ะๆ อย่าเอาไปบอกมันนะว่าผมเรียกพี่ลู่หานว่าอย่างนั้น .. เดี๋ยวมันมาฆ่าผมเอา
ผมก็ไม่เข้าใจไอ้คริสเหมือนกันนะ ทั้งๆที่พี่ลู่หานก็เป็นคนน่ารัก นิสัยดี ถึงจะห่ามไปบ้างในบางทีก็เถอะ แต่ผมว่าพี่แกก็โอเคเลยนะ แถมยังมีดีกรีเป็นนักบอลของโรงเรียน หารเรียนก็ใช้ได้ เรื่องหน้าตานี่ยิ่งไม่ต้องห่วงเลยครับ ระดับเดือนโรงเรียน หรือไอ้คริสแม่งห่วงเรื่องความสูงอยู่? คือพี่แกก็ไม่ได้เตี้ยนะ แต่ว่าพี่ลู่หานน่ะตัวเล็กกว่ามัน .. เอ่อะ ไม่หรอก
แต่ความเป็นไปได้ก็เยอะนะ
เออ เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ สนใจเหตุการณ์ปัจจุบันก่อนดีกว่าว่าทำไมไอ้พี่บ้านี่ถึงได้ไม่ไปเรียน นี่อย่าบอกนะว่าโดดเรียนออกมาเฝ้าไอ้คริสน่ะ
“ไม่เรียนกันหรอเนี่ย” ผมถามพี่ลู่หานที่เดินมานั่งใกล้ๆกับผม ก่อนที่พี่ชานยอลที่พึ่งตามออกมาจะวิ่งเข้ามาแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างพี่ลู่หาน
“เรียน.. แต่แม่งไปเรียนในฝัน มันก็เลยโดนไล่ออกมางี้ไง” พี่ชานยอลเป็นคนตอบคำถามผม
“เรียนในฝัน?”
“มันหลับไง ..แล้วแม่งก็โคตรเทพอ่ะ ขนาดหลับอาจารย์แกล้งถาม มันยังละเมอตอบได้ ที่สำคัญคือเสือกถูกด้วย พี่นั่งหาวอยู่ข้างๆหลับก็ไม่ได้หลับยังไม่ตอบไม่ได้เลย”
“แหม ช่างเป็นเด็กที่มีความานะจเรียนดีแท้ -_-” ผมแซะไอ้พี่ทั้งสอง
คนนึงหลับ คนนึงนั่งหาว .. นี่มันคาบเช้าอยู่แท้ๆ
“อย่าไปว่าแต่เขา นายก็คุยกับฉันจนโดนไล่ออกมานอกห้องเหมือนกันน่ะแหละ”
“แฮ่ ^^;” เพราะประโยคของจื่อเทาทำให้ผมต้องหันไปยิ้มแห้งๆไป้พี่ทั้งสอง
โห่ ไรว้า.. ก็ถ้าผมไม่โดนไล่ออกมานอกห้องก่อน ผมก็จะตั้งใจเรียนอยู่หรอก ปกติผมเป็นเด็กเรียบร้อยนะ เรียนติดอันดับต้นๆของห้องรองจากไอ้คริสเลยล่ะไม่อยากจะพูด
ครืดดดดดดด...
เสียงเปิดประตูทำให้ผมและคนอื่นๆต้องเงยหน้าหันไปมองบุคคลที่มาใหม่
“นี่พวกนายไม่เรียนกันหรือไง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้” เป็นอาจารย์หมีนั่นเอง
คิ้วสวยของอาจารย์ขมวดเข้าหากันเมื่อเปิดประตูมาแล้วไม่ได้เห็นแค่ผมกับจื่อเทา แต่ยังมีพี่ลู่หานและพี่ชานยอลนั่งอยู่ด้วย พี่ชายทั้งสองฉีกยิ้มกว้างแล้วส่ายหัวเป็นคำตอบให้อาจารย์
“โดนไล่ออกมาเหมือนสองคนนี้ก็บอกมาเถอะ ... เอาเถอะช่างมัน วันนี้ตอนเย็นพวกนายสองคนต้องอยู่ทำเวรห้องสมุดเพื่อเป็นการทำโทษที่แอบคุยในห้อง และยังแอบนินทาอาจารย์อีกด้วย เอาล่ะ.. ตอนนี้เข้าห้องได้แล้ว” อาจารย์ทิฟฟานี่บอกเสร็จก็เดินกลับเข้าห้องไป
“งั้นผมไปก่อนนะพี่ วันนี้ตอนเย็นฝากรดน้ำที่แปลงผักช่วยไอ้คริสด้วยนะ”
“ด้วยความยินดีครับผม ^^” แหม.. พอพูดถึงไอ้คริสหน่อยล่ะทำยิ้มกว้าง
หมั่นไส้จริงๆ -_-
“แปลงผักอะไรหรอ”
“แปลงเกษตรน่ะ อาจารย์เขาให้รับผิดชอบร่วมกับห้องพี่ลู่หาน เอ้อ นายยังไม่มีกลุ่มใช่ไหม มาอยู่กับพวกฉันเอาป่ะๆ” พอนึกได้ว่าจื่อเทายังไม่มีกลุ่ม ผมก็รีบเอ่ยชวนทันที
ยังไงจื่อเทาก็คงไม่ปฏิเสธผมหรอก เพราะดูเหมือนตั้งแต่เข้ามา เขาก็ไม่ได้คุยกับใคร จะมีก็แต่ไอ้พี่ลู่แล้วก็ไอ้คริสน่ะแหละที่พากันเข้าไปกวนเมื่อเช้านี้ แล้วก็มีผมที่ดูจะสนิทกับเขา #คิดเองเออเองทั้งนั้น
“อือ” โป๊ะเชะ!
เห็นป่ะ บอกแล้วว่ายังจื่อเทาก็ต้องตอบตกลง ฮี่ๆ >..<
“แล้วฉันต้องช่วยอะไรมั่ง”
“ก็.. พวกเราปลูกกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ที่เหลือก็มีแต่ต้องไปรดน้ำต้นไม้ทุกวัน แล้วก็รอเก็บไปขายน่ะ”
“อืมๆ” จื่อเทาพยักหน้าเข้าใจ
เราสองคนนั่งลงที่เดิม คราวนี้ผมไม่ได้ชวนคนข้างๆคุยเหมือนเดิมเพราะกลัวว่าคราวนี้โดนไล่อีกแล้วจื่อเทาจะโมโหผมเอา
ตอนเย็น
หลังจากเลิกเรียนเสร็จ ผมก็มุ่งหน้าตรงมาที่ห้องสมุดด้วยความรีบร้อนทันที ตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่โมงสี่สิบแล้ว ตามจริงผมเลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงแล้วล่ะ แต่ที่ช้าก็เพราะมีนักเรียนหญิงจากไหนไม่รู้มายืนมุงอยู่หน้าห้องผมจนออกมาแทบไม่ได้ พอถามไปว่ามาทำอะไรก็ได้ความกับมาว่า
มาชวนจื่อเทาไปอยู่ชมรม..
นี่ผมลืมไปเลยนะว่าจื่อเทายังไม่มีชมรมอยู่ .. ยังดีนะที่ตอนสุดท้ายพี่ลู่หานโผล่มารับไอ้คริสกลับบ้าน พวกสาวๆเกือบครึ่งก็เลยหันไปกรี๊ดพี่ลู่หานแทน ผมก็เลยใช้จังหวะนั้นวิ่งหนีมา แต่กว่าจะออกมาได้ก็ใช้เวลาเกือบสมควร เวลาก็เลยล่วงมาจนเกือบห้าโมง โชคดีนะที่จื่อเทาไม่โกรธผมน่ะ
เพราะตอนนี้ก็เริ่มเย็นมากแล้ว นักเรียนที่มาใช้ห้องสมุดก็เลยมีไม่กี่คน ส่วนมากก็มาเพราะต้องมาหาข้อมูลไปทำงานทั้งนั้นแหละ เพราะส่วนมากที่เข้ามาอ่านหนังสือกันจริงๆน่ะมีไม่กี่คนหรอก ตอนมอต้นผมเคยมาช่วยงานห้องสมุด พอถามรุ่นพี่ที่เข้ามาใช้ห้องสมุดว่าที่เข้ามานี่มาทำอะไรกัน ส่วนมากก็ตอบว่ามานอนบ้าง ต้องมาหาหนังสือเฉพาะบ้าง ไม่ก็บอกว่ามาตากแอร์เล่น เพราะงั้นผมเลยมั่นใจว่าคนที่เหลืออยู่ในห้องสมุดไม่ถึงสิบคนนี่ไม่ใช่คนที่มาอ่านหนังสือแน่นอน
“ฉันจะไปจัดหนังสือตรงมุม a นะ ส่วนนายจะไปไหนก็แล้วแต่” จื่อเทามองรอบๆห้องสมุดเสร็จก็หันมาพูดกับผม
แต่เอ่อ... ใช้คำรุนแรงไปป่ะ นายจะไปไหนก็แล้วแต่ เหมือนไล่ๆกันยังไงไม่รู้อะ ; -;
ช่างมันเถอะ ผมจะถือซะว่ามันเป็นคำพูดปกติของเขาละกัน ตอนนี้ผมควรรีบไปจัดการกับหนังสือที่ไม่ค่อยจะเป็นระเบียบนั่นก่อนดีกว่า-.-
ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง ...ตอนนี้ก็ปาไปห้าโมงสิบแล้ว นี่จื่อเทาต้องไปรอรถอีก กว่ารถจะมา กว่าเขาจะถึงบ้าน กว่าจื่อเทาจะเดินเข้าบ้าน คงเกือบหกโมงเย็นแน่ๆ .. นี่ถ้าผมไม่ชวนเขาคุย เราคงไม่ต้องมาเสียเวลาจัดหนังสือที่นี่หรอก แล้วเขาก็คงไม่ต้องกลับบ้านค่ำตั้งแต่มาเรียนวันแรก
แล้วนี่ถ้าพ่อแม่จื่อเทาว่าที่กลับบ้านค่ำล่ะ? ไม่เอานะ..
ถ้าเป็นแบบนั้นเขาอาจจะอารมณ์เสียก็ได้ แล้วก็อาจจะพาลหงุดหงิดแล้วคิดว่าคบกับผมไปก็คงไม่ได้อะไร อย่างงี้อย่าหวังว่าจะได้เป็นแฟนเลย แค่เพื่อนก็ยังยาก .. อ้ากกกกกกกกกกกกกก ไม่เอานะ มันจะต้องไม่เป็นแบบนั้น!!!
แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ? นี่ถ้าผมอยู่กับไอ้คริสมันต้องกำลังด่าผมอยู่แน่ๆที่คิดมากไม่เข้าเรื่อง แต่ก็ต้องเข้าใจผมหน่อยดิ เวลาไปแอบชอบใครเงี้ย เราก็ไม่อยากให้เขาโกรธหรือรู้สึกไม่ดีกับเราใช่ป่ะ ผมก็เหมือนกัน ... แล้วนี่ผมควรจะทำยังไงดี
ปั่ก
“โอ๊ย!” ผมเผลอร้องออกมาเมื่อหนังสือที่อยู่ในมือมันตกลงมาใส่หัวในตอนที่ผมกำลังจะจับมันยัดใส่ชั้นหนังสือชั้นบนสุด
“ว่าละ..” หนังสือที่พึ่งตกลงพื้นไปถูกจื่อเทาหยิบขึ้นมาถือไว้ ก่อนที่คนตัวสูงกว่าผมจะจับมันยัดใส่ในที่ที่มันควรอยู่
แต่เอ่อ...
“เหม่ออะไรอยู่.. แล้วนั่นเป็นอะไรหน้าแดง” จื่อเทายกมือขึ้นมาเขี่ยแก้มผมเบาๆ เสร็จแล้วเขาก็แย่งหนังสือในมือผมขึ้นไปจัดแทน
เมื่อกี้มัน..............................
อ่ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จังหวะที่จื่อเทาเอาหนังสือขึ้นไปเก็บที่เดิมนั้น ผมยังคงไม่ได้ขยับออกไปไหน และเพราะชั้นหนังสือมันอยู่ตรงหัวผมและค่อนข้างสูง เขาก็ต้องเดินเข้ามาใกล้ชั้นหนังสือเพื่อที่จะยัดมันเข้าไปที่เดิมได้ นั่นก็หมายความว่า ระยะห่างระหว่างผมกับเขาเมื่อกี้นั้นน้อยมาก อร้างงงงงงงงงงงงง โอเซฮุนอยากจะกรีดร้อง(?)
กลิ่นตัวเขาหอมมากเลยนะ ...นี่ผมไม่ได้โรคจิตที่ไปดมตัวเขานะ แต่มันเพราะเราอยู่ใกล้กันมากผมเลยได้กลิ่นเองต่างหาก
“จะยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม ..ฉันจะกลับบ้านแล้ว” น้ำเสียงนิ่งๆของจื่อเทาปลุกให้ผมตื่นขึ้นจากห้วงความคิดของตัวเอง
“กลับๆ ไปแล้วๆ” ผมรีบวิ่งตามจื่อเทาที่กำลังจะเดินไปหยิบกระเป๋านักเรียน
ดีนะที่อาจารย์ห้องสมุนง่วนกับการทำงานอยู่ ถ้าอาจารย์เห็นว่าผมวิ่งในห้องสมุดนี่มีซวยรอบสองอ่ะ -.-
“จะมองหน้าฉันอีกนานไหม”
“…” หื้ม... ~3~
“นี่..”
“…” ล้าลา~
“โอเซฮุน-_-”
อุ้ย! นี่ผมเผลอไปจ้องเขาหรอเนี่ย
จื่อเทาจะโกรธผมไหมเนี่ย ดูเขาทำหน้าดิ.. T_T
“ข.. ขอโทษๆ ไม่จ้องแล้วๆ อย่าโกรธนะ” ผมบอกแล้วทำหน้าจะร้องไห้ไปด้วย
นี่ผมไม่ได้ตั้งใจจะไปจ้องเขาจริงๆนะ .. แต่หวงจื่อเทาตอนนี้ดูดีจนหยุดมองไม่ได้เลยอ่า
แสงอาทิตย์สีส้มตอนเย็นที่ส่องมากระทบใบหน้าหล่อคมคายนั่น มันยิ่งทำให้เขาดูดีขึ้นมากกว่าเดิมเป็นสิบเท่า ....................จื่อเทาทำให้ผมจะละลายอีกแล้วสิ งื้ออ TT/////w/////TT
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร.. แค่จะถามว่าบ้านนายอยู่ทางไหน” อ่ะ อ้าวหรอ-.- ก็ตกใจนึกว่าจะโกรธที่ไปยืนจ้องหน้าแบบนั้น
“ฝั่งนู้นอ่ะ” ผมชี้มือไปทางบ้านของตัวเอง คนข้างๆก็เลยพยักหน้ารับรู้
“จะให้ไปส่งไหม?”
“ว่าไงนะ!?”
“-_-; ..ฉันถามว่าจะให้ไปส่งไหม มันเย็นแล้ว”
“ได้หรอ*0*”
“-_-;; ..ได้ มันอันตราย นายยิ่งดูสู้คนไม่ได้อยู่...”
มันอันตรายงั้นหรอ? เขาพูดเหมือนห่วงผมเลยอ่า อ่ากกกกกกกกกกกกกก จื่อเทากำลังเป็นห่วงผมใช่ป่ะ แอร้ ><
เอ้อ .. แต่ถ้าเขาไปส่งผมเขาก็ต้องกลับบ้านดึกสิ
“แล้วพ่อแม่นายจะไม่ว่าหรอที่กลับบ้านค่ำ?” ผมทิ้งความดีใจของตัวเองไปแล้วหันหน้ามาถามอีกคน
“บ้านฉันไม่มีใครอยู่หรอกตอนนี้ พ่อฉันอยู่จีนส่วนแม่ก็คงวุ่นวายอยู่กับงาน กว่าจะกลับก็คงดึกแหละ”
“อ๋อ”
“ถ้าไม่เป็นการรบกวน...”
“…”
“ขอกินข้าวเย็นบ้านนาย...เป็นค่าตอบแทนที่จะไปส่งที่บ้านได้ไหม?”
G Minor!
ความคิดเห็น