ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Tsubasa Chronicle & Cardcaptor Sakura [Doll Summoner] จบ

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่6 ออกเดินทางสู่อาณาจักรโคลว์

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 55


    บทที่6 ออกเดินทางสู่อาณาจักรโคลว์

     

    ขอบคุณมากนะคะที่ดูแลข้ามาตลอด แล้วสักวันข้าจะตอบแทนพวกท่านแน่ๆ

    ถ้าอย่างนั้น...ถ้าเกิดว่าในอนาคตเธอได้เจอเชาหลางลูกของเรา ก็ขอให้ช่วยเหลือเขาด้วยก็แล้วกันนะ

     

    “พวกเจ้าน่ะ เลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาสู้กับข้าซิ” จู่ๆโยโกะก็เดินกลับเข้ามาในห้องแล้วพูดขึ้นเช่นนี้

    ทุกคนอึ้งเกินกว่าจะตอบสนองได้

    ฟายตัวน้อยหัวเราะคิกออกมา ทำให้ทุกคนรู้สึกตัวแล้วมองหน้ากันเลิกลัก

    “เลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมา แล้วมาสู้กับข้า...แน่นอนว่าไม่ได้สู้ด้วยเวทมนตร์หรอกนะ” เธอเอ่ยดักทางเมื่อฟายลุกขึ้นมา

    “ถ้าสู้ชนะข้า ข้าจะยอมช่วยพวกเจ้าก็ได้” เธอพยายามมองเมินใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของฟายตัวน้อย เขากลั้นหัวเราะบอกว่า “อย่าดูถูกคุณโยโกะนะครับ ถึงจะสู้คุณเซโตะไม่ได้ แต่คุณโยโกะก็มีฝีมือพอตัวเลยล่ะครับ”

    ฟายตัดไปได้เลย เชาหลางกับคุโรงาเนะมองหน้ากันด้วยความไม่แน่ใจ ด้านการต่อสู้นั้นคุโรงาเนะเก่งกว่าเชาหลางแน่ๆ แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ลงมือกับผู้หญิงเด็ดขาด แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็เป็นสิ่งที่จะชี้ขาดว่าเขาจะได้พบกับพ่อแม่หรือไม่ นี่ไม่ใช่เพื่อเขาคนเดียว แต่เพื่อเจ้าหญิงซากุระด้วย

    “ผมเอง” เชาหลางตัดสินใจยืนขึ้นในที่สุด ด้านเชาหลางอีกคนกับซากุระต่างก็ตกตะลึง ด้วยพวกเขาคิดว่าคุโรงาเนะผู้ดูเหมือนจะเป็นคนบ้าพลังที่สุดจะเป็นคนออกหน้าแทนมากกว่า

    “ตามมาสิ” โยโกะส่งยิ้มท้าทายให้เชาหลาง และเดินนำเขาออกไปยังสวนหน้าบ้าน

     

    “เข้ามาได้เลย” โยโกะตั้งท่า ดูก็รู้ว่าเธอเป็นวิชาการต่อสู้ ด้านเชาหลางเองก็ตั้งท่าเหมือนเชาหลางของโลกนี้เป๊ะๆ แต่แล้วเมื่อเด็กหนุ่มลงมือจริงๆ เขากลับใช้วิชาขาซึ่งร่างโคลนของเขาเคยใช้มาก่อนแทน

    โยโกะแอ่นตัวไปใช้แขนต่างขาหลบการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างทันท่วงที จากนั้นก็ใช้ขาที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศเหวี่ยงใส่หน้าเขาเต็มๆ

    โครม!

    คนอื่นๆมองภาพเชาหลางปลิวไปชนกำแพงตาค้าง

    “นี่คือไม่เก่งการต่อสู้อย่างนั้นเหรอเนี่ย” ฟายเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ

    “เซโตะมีแรงมากกว่าข้าก็จริง แต่ข้ามีความคล่องตัวกว่าเขาเสียอีกนะ” โยโกะส่งเสียง ทำท่าทางคึกคักเต็มที่ “ถ้าไม่เร็วพอล่ะก็...ตายอย่างเขียดแน่ๆ”

    “ท่านพี่เขาบ้าพลังกว่าข้าอีกครับ” เซโตะยอมรับ “ท่านพี่ชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว”

    เชาหลางตั้งตัวได้แล้ว เขาไม่ประมาทเธออีกต่อไป และพุ่งเข้าไปเหวี่ยงทั้งหมัดทั้งลูกเตะใส่เธอแบบไม่มียั้ง โยโกะรับบ้างหลบบ้าง แรกๆนั้นไม่เท่าไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป เชาหลางก็พอจะปรับจังหวะได้และเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม คราวนี้โยโกะจึงโดนฟาดล้มบ้าง

    “ไม่เลว” เธอยกมือเช็ดเลือดที่กบปากอยู่ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปเป็นฝ่ายจู่โจมบ้าง

    เมื่อเวลาผ่านไป คนทั้งสองต่างก็มีสภาพเละเทะพอๆกันเลย

    เชาหลางเหวี่ยงหมัดออกไป แต่โยโกะก็หลบได้ ในชั่วขณะนั้นเขาก็ขัดขาให้เธอล้มลง แต่โยโกะยังคงมีแขนใช้แทนขาได้อยู่

    คราวนี้เชาหลางไม่หลงกลเธอแล้ว เขาหมอบหลบการโจมตีด้วยขาของเด็กสาว จากนั้นก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ กระชากมันทำให้เธอล้มโครมเข้าจริงๆและใช้มือที่ว่างอยู่คว้ามืออีกข้างมารวบไพล่หลังได้สำเร็จ

    “เจ้าชนะแล้ว” โยโกะพูดเรียบๆ ฉีกยิ้มสมใจออกมา “เก่งขึ้นเยอะเลยนี่”

    เด็กหนุ่มออกจะงุนงงกับคำนั้นไม่น้อย

    “คุณออมมือให้ผมมากกว่า” เขาบอก และนั่นก็ทำให้เซโตะถูกใจไม่น้อย

    “ข้าไม่ได้ออมมือให้เจ้าหรอกน่า นี่สุดฝีมือของข้าแล้ว” โยโกะบอกเขา

    “แต่คุณถนัดการโจมตีระยะไกลมากกว่า”

    “เจ้ารู้ด้วยเหรอเนี่ย?” เด็กสาวประหลาดใจ

    “ผมเห็นว่าถ้าคุณทิ้งระยะห่างไป ดูคุณจะจับจังหวะได้ดีกว่าตอนสู้ประชิดกันเท่านั้น” เด็กหนุ่มพูดไปตามประสบการณ์

    “ข้าถนัดใช้แส้มากกว่าน่ะ แต่ถ้าพูดถึงการต่อสู้ระยะประชิด นี่ก็สุดฝีมือของข้าจริงๆนั่นแหละ” เด็กสาวยอมรับ “เจ้านี่เก่งขึ้นมากเลยนะเนี่ย คุณเชาหลางสอนเจ้าดีมากเลย”

    “เอ๋?” คำพูดของโยโกะทำให้ทุกคนงุนงงเป็นอย่างมาก

    “ข้าขอโทษด้วยที่ข้าไม่ทันได้ฟังเจ้าจนจบแล้วก็ออกมาเสียก่อน” เธอสารภาพ “ถ้าเจ้าพูดมาแต่แรกว่าเจ้ามาจากโลกของแม่มดแห่งมิติ และมีพ่อแม่ชื่อเดียวกับเจ้าแล้วก็คิโนโมโตะ ข้าก็คงตกลงยอมช่วยเจ้าไปแล้ว”

    “หมายความว่ายังไงครับ?” เชาหลางยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

    “เจ้าจำไม่ได้สินะ? ตอนที่ข้าอายุสิบขวบ ก่อนที่พี่ฟายจะไปอยู่ในอาณาจักรพ็อพเพอ ข้ากับเซโตะแล้วก็พี่ฟายไปที่โลกของเจ้ามาก่อน ตอนนั้นเหมือนเราจะไปตามกำจัดปีศาจที่หนีไปได้น่ะ แล้วข้าก็บาดเจ็บหนัก” เธอยิ้มน้อยๆ

    “พ่อแม่ของเจ้าช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ตอนนั้นข้ากับพี่ฟายพลัดหลงกับเซโตะพอดี ด้วยกำลังของพวกเราในตอนนั้นไม่เพียงพอที่จะจัดการปีศาจตนนั้นได้ ข้าเองก็เคยเห็นเจ้าตอนนั้นด้วย เป็นเด็กน้อยเพิ่งเริ่มฝึกวิชาการต่อสู้ที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลย แต่เจ้าโทษข้าไม่ได้นะที่ลืมไปน่ะ ก็มันผ่านมาตั้งเจ็ดปีแล้วนี่นา” เด็กสาวยักไหล่

    “ความจริง...ที่พวกเราสนิทกับคุณคิโนโมโตะกับลีคุงก็เป็นเพราะพวกเขาด้วยเหมือนกัน” เซโตะสารภาพ

    “เพราะอย่างนั้น ตามสัญญา ข้าจะไปช่วยพ่อแม่ของเจ้าให้”

    “เป็นวิธีที่ไม่ทำให้เสียหน้าสินะครับ” ฟายตัวน้อยทักขึ้น และทุกคนก็หัวเราะออกมา

     

    ในตอนนั้นเอง เสียงริงโทนก็ดังขึ้น

    “โอ๊ะ นั่นของข้า” โยโกะร้องบอก พร้อมกับกระดิกนิ้วเล็กน้อย ต้นไม้เลื้อยใกล้ประตูก็เลื้อยเข้าไปพันเอาโทรศัพท์มือถือออกมาส่งให้เธอถึงที่

    คนอื่นๆมองภาพนั้นตาค้าง พวกเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าโยโกะไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดา

    “ค่ะ ท่านแม่ โยโกะพูดอยู่ค่ะ” เด็กสาวกรอกเสียงลงโทรศัพท์ นิ่งไปครู่ใหญ่ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป

    “ข้าเกลียดทะเลทรายนี่นา!” โยโกะร้องออกมา ก่อนจะทำหน้าขัดใจ “ให้เซโตะไปไม่ได้หรือคะ?”

    ดูเหมือนเด็กสาวจะถูกท่านแม่คนดีขู่เข้าแล้ว เธอหน้าเจื่อน แต่ก็ยอมรับคำว่าจะไปเป็นธุระให้

    “มีคนข้ามมิติส่งเดชอีกแล้ว” โยโกะบอกคนอื่นๆ เธอเหลือบมองซากุระเล็กน้อย บอกเป็นเชิงว่าคราวนี้เธอคงต้องขอความช่วยเหลือจากจอมเวทสาวคนนี้เสียแล้ว

    “เจ้าหมอนี่ผลุบๆโผล่ๆ ท่านแม่จับไม่ได้ ไล่ไม่ทันสักที ดูเหมือนคราวก่อนก็มาที่นี่ ก่อเรื่องวุ่นวายซะมาก ตอนนี้ก็ข้ามมิติหนีไปอีกแล้ว ท่านแม่ปวดหัวมาก ท่านบอกว่าจะพยายามหาทางกักตัวไม่ให้เจ้านั่นข้ามมิติได้อีก”

    “ฉันช่วยอะไรได้ไหมคะ?” ซากุระเสนอตัว ในขณะที่คนอื่นๆซึ่งยังไม่รู้ว่าเธอมีพลังอะไรก็ทำท่าสงสัย

    “ไม่ใช่ช่วยอะไรได้ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเจ้าเต็มๆเลยล่ะ” โยโกะทำหน้าเมื่อย “ตาแก่โคลว์ทำเรื่องอีกแล้ว”

    โยโกะบอกว่า คนร้ายที่ข้ามมิติผิดๆจนก่อเรื่องวุ่นวายไปทั่วนั้นป่าวประกาศว่าจะตามหาโคลว์ โดยต่อมาเขาพบว่าโคลว์ตายไปแล้ว จึงได้ตามหาผู้สืบทอดของโคลว์แทน ดูเหมือนคราวนี้คิดจะไปก่อเรื่องที่อาณาจักรโคลว์ เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เขาไปที่นั่นจะเป็นเพราะชื่ออาณาจักรเหมือนชื่อคนที่เขาตามหาหรือเปล่า

    คราวนี้ไม่ใช่แค่พวกซากุระแล้วที่ตกตะลึง แม้แต่พวกเชาหลางเองก็อึ้งไม่แพ้กัน ก็อาณาจักรโคลว์น่ะ เป็นสถานที่ซึ่งเจ้าหญิงซากุระอาศัยอยู่นี่นา!

    โยโกะได้รับข้อมูลมากมายจากพวกเชาหลาง เมื่อเธอเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็บอกให้ซากุระไปบอกพี่ชายไว้เลยว่าจะออกไปทำอะไร เพราะถึงอย่างไรเธอก็สมควรจะบอกเขาไปตามตรง ไม่อย่างนั้นพี่ชายเธอย่อมต้องหาทางรู้ได้แน่ๆว่าเธอไปทำอะไรยังไง ซึ่งซากุระก็เห็นด้วย เพราะต่อให้พี่ชายสูญเสียพลังไปแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจจะปกปิดพี่ได้เสียทีว่าเธอแอบไปก่อเรื่องอะไรที่ไหนอีก

    ด้านโยโกะนั้น เธอบอกว่าจะเตรียมการเดินทางไว้ก่อน เมื่อพวกซากุระกลับมาสมทบแล้วจะได้ออกเดินทางไปทันที

     

    “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพายูกิไปด้วย” โทยะยื่นคำขาดเมื่อรู้ว่าห้ามน้องสาวจอมยุ่งของเขาไม่ได้แล้ว

    “แต่!” ซากุระทำท่าจะเถียง เธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไรถ้าพี่ชายจะอยู่คนเดียวโดยไม่มีการป้องกันอะไร ถ้าเกิดว่าคุณยูกิโตะอยู่ด้วย ก็น่าจะช่วยทำให้เธอเบาใจขึ้นได้บ้าง

    “ซากุระ ฉันว่าคราวนี้คุณพี่ชายพูดถูกนะ” เคโระที่รู้ว่าตัวเองไม่ต้องปกปิดตัวตนแล้วพูดขึ้นมาบ้าง

    “ฟู่หมิงเป็นจอมเวทที่ด้อยกว่าโคลว์ก็จริง แต่ก็ไม่สมควรจะดูถูกเขาได้เลย อย่างน้อยๆเขาก็อยู่มานานกว่าเธออีกนะ”

    “แต่ว่า...” ซากุระยังไม่ใคร่สบายใจ

    “ซากุระจัง ตัวฉันอีกคนน่ะเป็นผู้พิทักษ์ของซากุระจังนะ” ยูกิโตะช่วยพูดบ้าง “หรือซากุระจังรังเกียจที่จะให้ฉันหรือตัวฉันอีกคนปกป้อง?”

    ซากุระรีบส่ายหน้าทันที จากนั้นก็ยอมแพ้ในที่สุด “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณยูกิโตะ”

     

    ด้านเชาหลางเองก็ใช่ว่าจะว่างเสียทีเดียว เพราะครอบครัวของเขาเดินทางมาจากฮ่องกงแบบสดๆร้อนๆ ทั้งท่านแม่ พวกพี่สาว และเหม่ยหลินก็เช่นกัน ทุกคนต่างยินดีที่เขาปลอดภัย

    เมื่อทักทายกันเสร็จแล้ว แม่ของเชาหลางจึงพูดขึ้นว่าจะจัดพิธีส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลลีคนต่อไปขึ้นที่นี่ ทำให้เด็กหนุ่มเหวอไปเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นเมื่อทุกคนในครอบครัวต่างก็เห็นดีด้วย เขาจึงไม่อาจทำอะไรได้นัก นอกจากเข้าพิธีเรียบๆ และรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลต่อจากแม่ของเขาเท่านั้นเอง

    หลังจากนั้นเด็กหนุ่มจึงได้บอกลาครอบครัว และเดินทางกลับมาสมทบกับซากุระที่บ้านของโยโกะอีกครั้ง

     

    “น่าเสียดายจังนะคะที่ฉันไปด้วยไม่ได้” โทโมโยะผู้มาส่งพูดขึ้น แล้วก็รีบบอกซากุระต่อ “ชุดที่ฉันทำขึ้นน่ะจะป้องกันทรายได้เป็นอย่างดี แล้วก็เคลื่อนไหวได้ไม่ลำบากด้วยนะคะ ซากุระจังไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะ”

    “อื้ม ขอบคุณนะ โทโมโยะจัง” ซากุระในชุดคลุมแบบมีฮู้ดกันทรายยิ้มตอบเพื่อนรัก

    “ลีคุงเองก็เหมือนกัน ฉันขอฝากซากุระจังด้วยนะคะ” เชาหลางในชุดคล้ายๆกันพยักหน้า

    “ถ้าอย่างนั้น...ก่อนจะไป ขอฉันถ่ายวีดีโอรูปคู่ของซากุระจังกับลีคุงก่อนดีกว่านะคะ!” โทโมโยะยกกล้องขึ้นมาอย่างฉับพลัน

    “ทะ...โทโมโยะจัง...”

    “หมดเวลาเล่นแล้วล่ะนะ พวกเราคงต้องเดินทางกันเสียที” โยโกะบอก แล้วก็หันหน้าไปหาน้องชายผู้เป็นคนเฝ้าบ้าน “ข้าไปก่อนนะ เซโตะ”

    “ระวังตัวด้วยนะครับ ท่านพี่ ทุกคนด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มโบกมือส่ง

    ร่ำลากันเสร็จแล้ว โยโกะก็หยิบลูกแก้วสีดำประกายเงินออกมา ลูกแก้วนั้นไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ขนาดพอๆกับไข่มุกเท่านั้นเอง

    “นี่เป็นลูกแก้วข้ามมิติ ท่านแม่แวะเอามาให้ข้าเมื่อครู่ มันจะทำให้พวกเราข้ามมิติได้อย่างถูกกฎหมาย”

    “ข้ามมิติต้องถูกกฎหมายด้วยหรือครับ?” เชาหลางถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น

    “ก็เหมือนการตรวจคนเข้าเมืองนั่นแหละ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ข้ามมิติเสียก่อน อย่างพวกเจ้าก็ได้รับอนุญาตจากแม่มดแห่งมิติ ส่วนข้าก็ได้รับอนุญาตจากท่านแม่ไง” โยโกะอธิบาย เธอหันไปทางโมโคน่า “ข้าเคยข้ามมิติไปทีละสามคนเท่านั้น ไม่เคยข้ามกับคนมากขนาดนี้มาก่อนเลย ดังนั้นเจ้าช่วยพาคนอื่นๆตามข้ามาได้ไหม ข้ากำหนดจุดหมายปลายทางได้แล้ว”

    “เข้าใจแล้ว โมโคน่าจะพยายาม!” โมโคน่าร้อง จากนั้นมันก็กางปีกออกมา สร้างวงเวทประจำตัวแม่มดยูโกะ ในขณะเดียวกัน โยโกะเองก็ปล่อยลูกแก้วนั้นลงสู่พื้น ปรากฏวงเวทรูปร่างคล้ายนาฬิกาทรายและมีตัวเลขต่างๆ ทั้งเลขอาราบิคและตัวเลขโรมันหมุนอยู่ในวงกลมรอบนอก

    “ออกเดินทางสู่อาณาจักรโคลว์!

    แสงสว่างกลืนกินทุกคนไปหมดสิ้น และเมื่อแสงนั้นหายไป ทุกคนที่ยืนอยู่บนวงเวทก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงา

     

    ทะเลทรายเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตาคือสิ่งแรกที่พวกซากุระได้เห็น ตามมาด้วยสิ่งปลูกสร้างรูปปีกคู่ที่เต็มไปด้วยพลังเวทมหาศาล หลังจากนั้นจึงเป็นเมืองทะเลทรายที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

    ทุกคนเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง โดยพวกซากุระถูกบอกให้เอาผ้าคลุมมาปิดหน้าไว้ เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงซากุระจะอยู่ในเมืองหรือเปล่า พวกเขาไม่อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงมีเจ้าหญิงอยู่สองคน ดังนั้นก็ควรจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับซะก่อนจะดีกว่า

    ทุกคนเดินทางเข้าสู่ตัวพระราชวัง โดยเมื่อเหล่าทหารเห็นเชาหลางและคณะ พวกเขาก็ปล่อยให้พวกเขาผ่านไปทันทีโดยไม่สงสัยกลุ่มคนปิดหน้าทั้งสามซึ่งก็คือซากุระ เชาหลาง และยูกิโตะ

    ที่ท้องพระโรง ราชาฟูจิทากะนั่งอยู่บนบัลลังค์โดยมีเจ้าชายโทยะนั่งอยู่บนบัลลังค์ที่ต่ำกว่ากันเล็กน้อย ที่ด้านข้างเจ้าชายโทยะ มียูกิโตะผู้เป็นนักบวชยืนอยู่เคียงข้างเหมือนกับที่กับข้างบัลลังค์ราชาที่มีราชินียืนอยู่เช่นกัน

    “องค์ราชา” เชาหลางนำทุกคนคุกเข่าลงทำความเคารพองค์ราชา คงเหลือเพียงคนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่

    “ซากุระจัง” ยูกิโตะรีบกระซิบ แม้เขาจะตกใจเช่นกันที่เห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตารวมถึงตัวเขาเองอยู่ที่นี่ด้วย แต่เขาก็ยังมีสติดีอยู่ด้วยได้รับการเตือนมาก่อนแล้ว แต่กับซากุระนั้นมันผิดกัน

    “คุณแม่คะ!” เด็กสาวออกวิ่งไปโดยที่ไม่มีใครทันได้ทัดทาน และกระโดดเข้ากอดนาเดชิโกะอย่างแรง หมวกที่คลุมหน้าหลุดออกมา ทำให้คนในท้องพระโรงต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง

    “ซากุระ? ออกไปนอกวังอีกแล้วงั้นเหรอเนี่ย?” เจ้าชายโทยะร้องออกมา

    แต่นาเดชิโกะเป็นนักบวชที่มีพลังเวทสูง เธอจึงรู้ว่าเด็กสาวตรงหน้าไม่เชิงใช่ลูกสาวของเธอเสียทีเดียว

    “ท่านพี่? เรียกฉันหรือคะ?” เจ้าหญิงซากุระวิ่งเข้ามาที่ท้องพระโรง และก็ชะงักไปเช่นเดียวกับทุกคนที่เห็นซากุระมีสองคน

    โยโกะยกมือขึ้นปิดหน้า “ว่าแล้วว่ามันต้องเป็นเรื่อง” 
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ประโยคจบนี้ไวท์ชอบสุดๆเลยค่ะ ^^ 
    ...ไม่มีอะไรจะพูดอ่ะ ไม่มีใครเม้นเลย รู้สึกเหมือนพูดอยู่คนเดียว ToT

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×