ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Tsubasa Chronicle & Cardcaptor Sakura [Doll Summoner] จบ

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 ผู้อัญเชิญตุ๊กตา

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 55


    บทที่4 ผู้อัญเชิญตุ๊กตา

     

    พี่คะ พี่ไปไหนมาคะ

    อ๋อ ผมพาเด็กหลงทางกลับไปส่งที่บ้านมาน่ะครับ

     

    “พี่คะ พี่รู้จักคุณฟายด้วยงั้นเหรอ?”

    “รู้สิ ก็พวกเราเคยเจอกันมาก่อนนี่” คำพูดของโทยะทำให้ทุกคนหัวใจพองโต

    “คุณหมายความว่ายังไงครับ” ฟายเข้าไปเขย่าตัวโทยะ ทำเอาทั้งเขาและยูกิโตะที่อยู่ข้างๆต้องรีบผลักเขาออกห่างให้ไปสงบสติอารมณ์เสียก่อน

    “หนูไม่เข้าใจเลย” ซากุระทำท่าสงสัย

    “เฮ้อ เธอลืมไปแล้วเหรอ? ตอนที่พวกเราเพิ่งย้ายมาที่เมืองนี้ใหม่ๆ เธอน่ะเดินหลงทางอยู่ในเมือง แล้วตอนนั้นก็มีเด็กสิบขวบคนหนึ่งพาเธอเดินมาส่งที่บ้านไง หมอนั่นบอกว่าตัวเองชื่อฟาย พักอยู่ที่เขตหกข้างๆนี่เอง”

    “หนูนึกออกแล้ว!” ซากุระโพล่งขึ้นมาทันที หันไปมองหน้าฟายแล้วก็ร้องออกมา “ฟายคุงน่ะเอง”

    “แล้วซากุระจังรู้หรือเปล่าล่ะคะว่าบ้างหลังนั้นคือหลังไหน?” โทโมโยะถามขึ้น

    “ก็บ้านของมุโต้คุงห้องหนึ่งไงล่ะ ถึงว่าล่ะ! ทำไมมุโต้คุงเขาถึงได้บอกว่า ไม่ใช่ยินดีที่ได้รู้จักสักหน่อย ตอนที่เราเจอกันเมื่อเทอมหนึ่ง” เด็กสาวทำท่านึกออกในที่สุด

    “ตายจริง โลกกลมจริงๆเลยนะคะเนี่ย” โทโมโยะแปลกใจเล็กน้อย

    “พวกคุณรู้จักฟายจริงๆหรือครับ?” ฟายถามให้แน่ใจ

    “อ่าค่ะ...แต่ว่าถ้าจะไปคงต้องรอพรุ่งนี้เช้าล่ะนะคะ จะให้ไปรบกวนตอนดึกๆก็คงจะไม่ดีเท่าไร” ซากุระบอก

    “งั้นคืนนี้เธอก็ต้องกลับบ้านไปกับพวกพี่” โทยะลากน้องสาวกลับบ้านแทบจะทันทีที่เรื่องราวทุกอย่างลงตัวแล้ว

    “อ๊า~ เชาหลางคุง โทโมโยะจัง แล้วก็ทุกๆคน แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ” ซากุระส่งเสียงดังมาจากที่ไกลๆ

    “แล้วเจอกันค่ะ ซากุระจัง” โทโมโยะโบกมือส่ง

    แล้วสองพี่น้องก็กลับบ้านไปพร้อมกับยูกิโตะเช่นนั้น โดยที่แต่ละคนมีความในใจที่ไม่ได้บอกออกมา

    เฮ้อ ว่าแต่เราจะบอกเขาดีไหมนะว่าช่วงหลังๆนี้พอแวะไปบ้านมุโต้คุงทีไรก็ไม่เคยเจอฟายคุงเลยสักที ไม่อย่างนั้นคงไม่ลืมหน้าฟายคุงง่ายๆหรอก ซากุระคิดอย่างกลัดกลุ้ม

    ยัยบ้าเอ๊ย ชอบออกไปเพ่นพ่านอยู่เรื่อย ถ้าไม่ได้ยูเอะช่วยบอกก็ไม่มีทางรู้ได้เลย ให้ตายสิ ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยจริงๆ โทยะบ่นในใจด้วยความระอา

    แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปอยู่นั่นเอง

     

    “ที่นี่แหละค่ะ” ซากุระพาทุกคนเดินมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งทาสีขาวไปทั้งหลัง เว้นแต่หลังคาที่เป็นสีดำ หน้าบ้านมีป้ายเขียนไว้ว่า มุโต้

    “มาแล้วครับ” เสียงหนึ่งตอบรับเสียงกริ่งที่ซากุระกดไปสองครั้ง และเมื่อประตูเปิดออกก็พบว่าเป็นเด็กหนุ่มวัยประมาณสิบหกปี (เท่าๆกับซากุระ) เจ้าของเรือนผมสีดำและนัยน์ตาสีม่วงสุกใส เขามีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า ดูแล้วไม่แตกต่างจากฟายในยามปกติเท่าไร

    “อ้าว สวัสดีครับ คุณคิโนโมโตะ แล้วก็ลีคุงด้วย มีธุระอะไรกันหรือครับ ยกพวกกันมาหมดแบบนี้?”

    “มุโต้คุงไม่ตกใจเลยเหรอ?” ซากุระแอบแปลกใจไม่ได้ ดูๆไปมุโต้คุงเหมือนเอเรียลคุงไม่มีผิดเลย

    “คือ...บ้านหลังนี้แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่มีมนุษย์ปกติธรรมดาอยู่สักคน ข้าคิดว่าแค่ยกคนมาบุกบ้านข้าแค่นี้คงไม่ทำให้ข้าตกใจได้หรอกครับ” เขายกมือเกาหัว ท่าทางเขินๆ ดูไปแล้วก็น่ารักไม่หยอก

    “โอ๊ะ หรือว่าท่านก็คือคุณยูอิ?” เด็กหนุ่มมองฟายแล้วก็ร้องออกมา เมื่อจอมเวทหนุ่มพยักหน้า เขาก็ส่งยิ้มกระชากใจออกมา

    “ข้าได้ยินเรื่องของท่านมามากเลยล่ะครับ ดีใจจังที่ได้เจอตัวจริงเสียที ข้าคือมุโต้ เซโตะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ทุกคน” เซโตะแนะนำตัวเอง

    “มุโต้คุง คือว่า...ฟายคุงอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?” ซากุระถาม

    “จะว่าอยู่ก็อยู่หรอกครับ แต่...” เซโตะทำท่าลำบากใจ แต่ก็อธิบายไม่ถูก ได้แต่เชิญทุกคนเข้าไปในบ้านแทน แต่ระหว่างทางที่จะเข้าไปยังห้องนั่งเล่นนั้น ฟายสังเกตเห็นเงาขาวๆที่ทางเดินชั้นสองซึ่งมองเห็นจากทางบันไดพอดี เขาเบิกตากว้าง แล้วพุ่งขึ้นไปหาทันที

    “นาย...เป็นคนที่พาฟายไปใช่ไหม” สีหน้าเขาดูเครียดมาก ท่าทางแสดงความเป็นอริเต็มที่

    ร่างสีขาวนั้นแท้จริงแล้วเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ ผมที่ยาวถึงกลางหลังล้วนแต่เป็นสีเงินสลวย ดวงตาของเขาเป็นสีทองคมปลาบ ทั้งเนื้อทั้งตัวแต่งกายด้วยขนสัตว์สีขาว นิ้วมือมีเล็บยาวคม เขานั่งขวางบันไดไว้ด้วยท่าทางก้าวร้าว และเพียงเหลือบตามองฟายแค่หางตาเท่านั้น

    “ถึงใช่ก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าว

    “ว่าไงนะ!” ฟายได้ยินดังนั้นก็โกรธ เรื่องที่จะทำให้เขาหวั่นไหวนั้น มีเพียงเรื่องฝาแฝดและคำสาปที่ติดตัวเขามาเท่านั้น

    “ถ้าเจ้าคิดจะส่งเสียงเอะอะ หาเรื่องข้าให้ได้ล่ะก็...ข้าคงจะยอมไม่ได้หรอกนะ เลือกเอาซะ จะกลับลงไปนั่งดีๆ หรือจะให้ข้าช่วย?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงข่มขู่

    “เฮ้ย! ไอ้เจ้าบ้า” คุโรงาเนะเห็นท่าไม่ดีก็รีบเอ่ยรั้งจอมเวทไว้เสียก่อน เขาสัมผัสได้ว่าชายผมเงินนั้นไม่ใช่ธรรมดา อย่างน้อยๆหากเขาเป็นคนเดียวกับคนที่ลักพาตัวแฝดของหมอนั่นไปจริงๆล่ะก็...แค่ความเร็วเขาก็สู้ไม่ได้แล้ว

    แต่ฟายเหมือนจะขาดสติไปแล้ว เขายังจำได้ดี ภาพของแฝดที่ถูกพาไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่อีกฝ่ายอยู่ในอ้อมแขนเขาแท้ๆ

    “ถ้าไม่ตอบล่ะก็...แปลว่าเจ้าอยากให้ข้าช่วยสินะ” ฟายได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเหวี่ยงหมัดออกไป

    หมับ!

    “กรุณาหยุดเท่านี้เถอะครับ” เซโตะไม่รู้ว่ามายืนอยู่ระหว่างชายผมเงินกับฟายตั้งแต่เมื่อไร เขาใช้มือเปล่าๆหยุดหมัดของฟายเอาไว้ได้ อีกทั้งยังกำมันแน่นจนฟายรู้สึกเจ็บ อีกทางหนึ่งก็หันไปจับข้อมือของชายผมเงินเอาไว้ ฟายเพิ่งรู้สึกตัวก็เห็นว่ามือของคู่กรณีมีกรงเล็บงอกออกมาชัดเจน เจอข่วนเข้าไปสักแผลคงบาดเจ็บสาหัสแน่ๆ

    “ไลแคนท์ ถ้าท่านไม่หยุดน่ะข้าจะบอกท่านพี่นะครับ” เด็กหนุ่มหันไปหาชายผมเงิน เขาสะบัดข้อมือ เซโตะก็ปล่อยมือออก จากนั้นเขาก็หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง เส้นผมที่โบกสะบัดเผยให้เห็นหูที่แหลมเรียวไม่เหมือนมนุษย์ ทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ครั้นถูกมองมากๆ ชายผมเงิน...หรือจะให้บอกอีกอย่างก็คืออมนุษย์ (ที่เหมือนจะเป็นหมาป่า) ก็หันมาตะคอกถามอย่างเคืองๆ

    “มองหน้ามีปัญหาหรือไง พวกเจ้าน่ะ!

    ปัง!

    “ไล – แคนท์!” เมื่อถูกเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงเน้นๆหนักๆ ชายนามไลแคนท์ก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ดูเหมือนจะ...หวาดๆเหรอ?

    เซโตะถอนหายใจ ยกมือขึ้นปิดหน้า ทำท่าบอกว่าเขาคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

    เด็กสาววัยเดียวกับซากุระยืนอยู่ด้านหลังไลแคนท์ เธอมีผมสีดำยาวและนัยน์ตาสีม่วงเช่นเดียวกับเซโตะ ทั้งเนื้อทั้งตัวสวมเพียงเสื้อยืดลายโน้ตดนตรีกับกางเกงขาสั้นเท่านั้น และในตอนนี้ก็กำลังยืนทำตาเขียวใส่ไลแคนท์ รวมถึงเผื่อแผ่มายังแขกทั้งหลายที่พากันยืนอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลยด้วย

    “ข้าว่าข้าบอกชัดแล้วนะว่าห้ามใครมายุ่ง ห้ามส่งเสียงดัง แล้วก็ห้ามมีเรื่องกันในบ้านน่ะ! บ้านข้าไม่ใช่สนามรบนะยะ!

    “ข้าไม่ได้เริ่มก่อนซะหน่อย เจ้าหมอนี่ต่างหาก” ไลแคนท์โบ้ยมาให้ฟายหน้าตาเฉย เด็กสาวเหลือบตามามองฟายเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้ว

    “เจ้าเป็นน้องชายของพี่ฟาย...ที่ชื่อยูอิอะไรนั่นงั้นเหรอ?” เธอมองเขาขึ้นๆลงๆ ดูเหมือนแม่ยายที่กำลังมองหาลูกเขยที่เหมาะสมให้ลูกสาววัยออกเรือน

    “ชะ...ใช่แล้ว ฉันคือยูอิ” ฟายบอก มองเด็กสาวอย่างสงสัยใคร่รู้

    “ข้าชื่อมุโต้ โยโกะ ยินดีที่ได้รู้จัก” สีหน้าท่าทางเธอไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับคำพูดเลยแม้สักนิด

    “ระ...รุ่นพี่โยโกะ สวัสดีค่ะ” ซากุระร้องทัก

    “สวัสดี คิโนโมโตะ สวัสดี ลี” เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเชาหลางสองคน แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

    “ข้าจะไปซ่อมพี่ฟายต่อล่ะ” เธอบอก ไม่สนใจท่าทางตาโตของใครหลายๆคน “อย่าลืมนะว่าห้ามรบกวน ห้ามส่งเสียงดัง แล้วก็...” ตรงนี้เธอหันมามองไลแคนท์โดยเฉพาะ “ห้ามท้าสู้กับใครในบ้านด้วย!

    “เดี๋ยวก่อน! ที่เธอบอกว่าซ่อมฟาย...หมายความว่ายังไงน่ะ?” ฟายร้องถาม โยโกะหันกลับมา

    “ซ่อมก็คือซ่อมสิ พี่ฟายพังตั้งหลายจุดแน่ะ ใจดีเกินไปก็งี้แหละ ลำบากข้าอีกจนได้” เธอบ่นไปตามเรื่อง แต่เมื่อเห็นท่าทางของฟายแล้วก็ต้องถอนหายใจ

    “จะเข้าไปดูก็ได้ แต่ห้ามส่งเสียง ห้ามรบกวน เข้าใจ?” ฟายรีบพยักหน้า จากนั้นเขาก็ตามเธอเข้าไปในห้องๆหนึ่งที่ชั้นสอง ส่วนคนอื่นๆตามเซโตะเข้าไปนั่งรอในห้องนั่งเล่น

     

    ภายในห้องนั้นมีร่างของฟายตัวน้อยนอนอยู่ เขาดูไม่มีอะไรเปลี่ยนไปนอกจากเมื่อตกอยู่ในสภาพไร้เสื้อผ้าท่อนบนแล้วก็เผยให้เห็นร่องรอยคล้ายบาดแผลถูกยิงและถูกบาดหลายแห่ง แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา กลับมีอะไรบางอย่างเป็นประกายสีม่วงอมชมพูแผ่ออกมาแทน จอมเวทอย่างฟายมองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นพลังเวท

    โยโกะเดินไปอยู่ห่างจากฟายตัวน้อยหนึ่งเมตร จากนั้นก็ยกมือขึ้นมา บนพื้นปรากฏวงเวทรูปดาวหกแฉกขึ้นมาทันที วงเวทนั้นเรืองแสงสีม่วงอมชมพู และพร้อมกันนั้นพลังเวทมนตร์มหาศาลก็แผ่ออกมาจากร่างของเด็กสาว ตรงเข้าสู่ร่างของฟายตัวน้อย เมื่อเวลาผ่านไป ฟายก็พบว่าบาดแผลของฝาแฝดเริ่มหายไปทีละน้อยๆจริงๆ และพลังเวทของโยโกะก็ยังถูกปล่อยออกมาไม่มีหยุด ทำให้เขาอดตกตะลึงกับพลังเวทอันมหาศาลของเด็กสาวไม่ได้

    เวลาผ่านไปได้สักชั่วโมงหนึ่ง บาดแผลทั้งหมดก็หายโดยสมบูรณ์ แต่โยโกะยังไม่หยุดพลังเวทของตน ยังคงส่งพลังเวทไปให้ฟายตัวน้อยไม่หยุด และพลังเวทก็ถูกดูดไปเรื่อยๆเหมือนฟองน้ำดูดซับน้ำเอาไว้ไม่มีผิด จนกระทั่งถึงเวลาหนึ่ง โยโกะก็วาดมือไปด้านข้าง ร่างที่นอนลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อยของฟายตัวน้อยเปลี่ยนท่ามาเป็นยืน

    “จงลืมตาขึ้น” สิ้นคำนั้น ดวงตาสีฟ้าก็เบิกขึ้นทันที แล้ววงเวทดาวหกแฉกก็หายไป ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมตามที่ห้องนอนธรรมดาห้องหนึ่งควรจะเป็น

     “ยูอิ!” เมื่อฟายตัวน้อยปรับจุดรวมภาพของสายตาได้ เขาก็มองเห็นฟายและร้องออกมาทันที

    “อ๋อ~~” โยโกะลากเสียง ท่าทางหมั่นไส้ “พอเจอน้องชายแท้ๆแล้วก็ลืมน้องสาวคนนี้ไปเลยนะคะ พี่ฟาย” เธอทำท่างอนๆ

    “คะ...คุณโยโกะ ผมขอโทษครับ” ฟายตัวน้อยเพิ่งรู้สึกตัวก็ชะงักไปแล้วทำท่าสำนึกผิด

    “ร่างกายเป็นยังไงบ้าง?” เด็กสาวสอบถาม เด็กชายขยับร่างกาย เหวี่ยงแขน สะบัดขา จากนั้นก็พยักหน้า “สมบูรณ์ 100% ครับ”

    “งั้นก็ดีแล้ว” โยโกะพยักหน้า ฟายที่เห็นสภาพนั้นก็อดถามออกไปไม่ได้

    “เธอเป็นใครกันแน่?” ฟายตัวน้อยชะงัก มองหน้าเด็กสาวที่สูงกว่าเขาหนึ่งช่วงหัวแต่กลับเรียกเขาเป็นพี่ด้วยความไม่แน่ใจ

    “ข้าเหรอ?” โยโกะชี้นิ้วมาที่ตัวเอง “ข้าก็เป็นผู้อัญเชิญตุ๊กตายังไงล่ะ”

     

    ฟายพาพี่ชายกับเด็กสาวผู้อัญเชิญตุ๊กตาลงมาสมทบกับทุกคน ในตอนนั้นเอง ไลแคนท์ซึ่งนั่งนิ่งมานานก็หันมาถามโยโกะ

    “ข้าไปได้หรือยัง?” เด็กสาวที่ได้ยินทำหน้าเหม็นเบื่อทันที “อยากอาละวาดเต็มที่เลยล่ะสิ?”

    “เฮอะ เจ้าน่ะใช้งานข้าไม่ได้เรื่อง!” หมาป่าหนุ่มได้ทีรีบว่าใหญ่ “ข้าเป็นถึงจอมอสูรผู้ยิ่งใหญ่ แต่ดูสิว่าเจ้าใช้ข้าทำอะไร? ลักพาตัวเจ้าตุ๊กตาพังๆ กับเป็นยามเฝ้าหน้าประตูเนี่ยนะ?”

    “ถ้าไม่พอใจจะให้ข้าปลดปล่อยเจ้าเลยดีไหมหืม?” คำพูดของโยโกะทำให้ไลแคนท์ชะงักไปอีกรอบ

    “ไม่” เขาตอบ

    “แล้วทำเป็นบ่น” โยโกะจิ้มหน้าผากชายหนุ่มอย่างไม่กลัวถูกเขาข่วนหน้า “ข้าอุตส่าห์ลำบากลำบนสร้างเจ้ามา อย่ามาบ่นให้มาก คิดว่าใครเป็นเจ้านายของเจ้ากันนอกจากท่านโยโกะคนนี้น่ะ?” เด็กสาวทำยืดตัวสูงกว่าอีกฝ่าย ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเมื่อชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่บนพื้น แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนขึ้นมา เด็กสาวก็จำต้องเป็นฝ่ายเงยหน้ามองอีกฝ่ายแทน

    “สรุปแล้วเจ้าก็หมดปัญหาแล้วนี่ เจ้าตุ๊กตานั่นก็ซ่อมแล้ว ข้าไปได้หรือยัง?”

    “พูดอย่างกับเจ้าไม่ใช่ตุ๊กตาที่ข้าสร้าง” โยโกะบ่นอุบ มองอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะโบกมือไล่ “จะไปก็ไปไป๊ ไอ้ทาสไม่รักดี”

    แน่นอน ได้รับคำอนุญาตแล้วมีหรือไลแคนท์จะสนคำด่าจากเจ้านายมากไปกว่าการได้ออกไปอาละวาดต่อ วงเวทดาวหกแฉกปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขา และหลังจากนั้นร่างของหมาป่าหนุ่มก็หายไปทันที

    “เกิดอะไรขึ้นน่ะ? เมื่อกี้นี้เป็นเวทข้ามมิติเหรอครับ?” เชาหลางจากต่างแดนถามขึ้น

    “ไม่เชิงหรอก ข้าเป็นผู้อัญเชิญตุ๊กตา ไม่ว่าตุ๊กตาตัวใดที่ข้าสร้างขึ้น ข้าจะเรียกพวกเขามาจากต่างมิติเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น เมื่อหมดหน้าที่แล้วตุ๊กตาก็จะกลับไปยังที่ที่เขาจากมาก็ได้ ไม่เชิงจะเป็นเวทข้ามมิติสักเท่าไรหรอก เพราะข้าไม่ได้ข้ามไปเองสักหน่อยนี่นา”

    “นี่ๆ โมโคน่าสงสัยมาตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้วล่ะ ว่าเซโตะกับโยโกะเนี่ย...พูดจาแปลกๆเนอะ เหมือนคุโรงาเนะเลย!” โมโคน่าร้องขึ้นมา

    “นั่นมันเรื่องของข้าน่า!” คุโรงาเนะร้องขึ้นมาทันที

    “เอ่อ...พวกเราติดมาจากท่านแม่น่ะครับ อย่าไปใส่ใจให้มันมากนักเลย” เซโตะทำท่าเขินๆอีกแล้ว

    “ว่าแต่...ฟายก็คือพี่ชายของฟายจริงๆน่ะเหรอ?” โมโคน่าหันมาหาฟายตัวน้อย เขางงไปเล็กน้อยกับคำเรียก ซึ่งฟายก็รีบอธิบายให้พี่ชายได้ฟังเรื่องราวของเขาคร่าวๆ และเมื่อเข้าใจแล้ว ฟายตัวน้อยก็เอ่ยกับทุกคนว่า

    “ครับ ผมชื่อฟาย เป็นแฝดพี่ของยูอิ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ ทุกคน”

    “แต่...คุณฟายตายไปแล้วไม่ใช่ครับ?” เชาหลางยังจำได้ดีถึงภาพที่ฉายขึ้นที่อาณาจักรเซเลส ภาพความทรงจำของคุณฟาย

    “อื้ม ผมตายไปแล้วล่ะครับ” ฟายบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ทุกคนกลับผงะไป โดยเฉพาะซากุระที่กลัวผีขึ้นสมอง

    “ฟะ...ฟายคุงเป็น...ผะ...ผะ...ผีเหรอ?” เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ กระเถิบไปชิดเชาหลางของโลกนี้จนเขาหน้าแดงแปร๊ด

    “ผมกลายเป็นตุ๊กตาไปแล้วต่างหากครับ คุณซากุระ” ฟายอธิบาย

    “หมายความว่ายังไงน่ะ?” คุโรงาเนะขมวดคิ้ว

    “ถ้าจะให้เล่า...มันก็ต้องย้อนไปในวันนั้น... วันที่ผมตาย และชายคนหนึ่งก็เดินทางผ่านมารับยูอิไปกับเขา” 
    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ทำไมไม่มีใครเข้ามาอ่านเลยอ่ะ T^T แอบเศร้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×