คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่3 ฟู่หมิง
บทที่3 ฟู่หมิง
‘พี่จะไปจริงๆหรือคะ โรงเรียนพ็อพเพอไม่ใช่โรงเรียนที่ดีสักหน่อย มีแต่ตุ๊กตาน่ากลัว อันตรายจะตาย’
‘ถ้าเกิดว่าที่นั่นเป็นสถานที่ที่ผมจะได้เจอกับยูอิจริงๆ...ผมก็จะไปครับ’
ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ทุกคนล้วนตกตะลึงจนพูดไม่ออก
เด็กสาวคนหนึ่งซึ่งหน้าตาเหมือนเจ้าหญิงซากุระทุกประการได้กระโดดกอดเชาหลาง และกำลังสะอึกสะอื้นทั้งๆที่ยังกอดเขาอยู่ ปากบอกว่าเชาหลางที่เธอรู้จักเหมือนจะหายตัวไป
“เชาหลางคุง?” เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ ซากุระก็เงยหน้าขึ้นมา และในตอนนั้นทุกคนก็ตะลึงอีกรอบเมื่อตุ๊กตายัดนุ่นที่ไม่น่าจะขยับได้ลุกขึ้นมาต่อว่าเขาเช่นกัน
“ใช่แล้ว เจ้าหนู กล้าจริงๆนะที่มาทำให้ซากุระต้องเป็นห่วงถึงขนาดนี้ รีบๆเล่ามาเลยดีกว่าว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“ตะ...ตุ๊กตาพูดได้?” เชาหลางเหงื่อตก ทำท่าเหมือนเจอของประหลาด
ซากุระกระพริบตาปริบๆ “เชาหลางคุงเป็นอะไรไป? นี่เคโระจังไงล่ะ เธอ...ลืมไปแล้วเหรอ?” ตบท้ายด้วยการเอียงคอเล็กน้อย ทำท่าทางสงสัย
“อะ...เอ่อ คือผมคิดว่า...” เด็กหนุ่มคิดที่จะอธิบาย แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน
“ซากุระจัง เกิดอะไรขึ้นหรือคะ ทำไมถึงได้วิ่งออกมาแบบนี้...ลีคุง?” เด็กสาวผมดำยาวหน้าตาน่ารักชะงักเมื่อเห็นเชาหลาง
ด้านเด็กหนุ่มก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขาไม่คิดว่าจะมีใครรู้จักชื่อสกุลจริงๆของเขาได้
“เจ้าหญิงโทโมโยะ!?” คุโรงาเนะหน้าเปลี่ยนสีไปเหมือนกัน ครั้นเด็กสาวได้ยินนามของตนก็หันกลับมาทางนินจาหนุ่ม แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “เอ่อ...คุณเป็นใครคะ?”
ซากุระเพิ่งจะสังเกตเห็นคนด้านหลังเชาหลางก็ตอนนี้ เธอผงะไปเล็กน้อยและเด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไป เขาจะต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เด็กสาวตรงหน้าเข้าใจก่อน
“คือ...ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วครับ” เขาบอก “ผมไม่ใช่เชาหลาง...ผมหมายถึง...ไม่ใช่เชาหลางที่คุณรู้จักหรอกครับ”
ซากุระขมวดคิ้ว “แต่เธอคือเชาหลางคุงชัดๆนี่นา...เอ๋?” เมื่อสัมผัสดีๆ ซากุระก็พบว่ามันแตกต่างกันนิดหน่อย เชาหลางคนนี้มีท่าทางที่สงบนิ่งกว่าคนที่เธอรู้จักเล็กน้อย ดูไม่ค่อยเหมือนเชาหลางที่เธอรู้จักเท่าไร “ไม่ใช่นี่นา”
หลังจากนั้นพวกเชาหลางก็เปิดการอธิบายครั้งใหญ่เกี่ยวกับโลกมากมายที่ทับซ้อนกันอยู่ และในแต่ละโลกก็จะมีตัวตนของพวกเขาอยู่ด้วยในสถานะที่แตกต่างกันออกไป และตัวเขาเองก็เป็นเชาหลางจากโลกอื่น ไม่ใช่คนที่เธอรู้จักเหมือนกัน
“หมายความว่า...ในโลกที่คุณอยู่ก็มีตัวฉันอยู่ด้วยหรือคะ?” ซากุระทำความเข้าใจได้เร็วกว่าคนทั่วไป ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเชาหลางประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“ครับ ซากุระที่ผมรู้จักเป็นเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรโคลว์...”
“ว้าว เป็นเจ้าหญิงด้วยล่ะค่ะ ซากุระจัง” โทโมโยะเริ่มทำท่าเพ้อฝัน คิดภาพซากุระในรูปแบบเจ้าหญิงต่างๆนานา
“ทะ...โทโมโยะจัง” เด็กสาวออกจะเอือมระอาเล็กน้อยกับนิสัยของเพื่อนคนนี้
“ถ้าอย่างนั้น...ก็หมายความว่าพวกนายเดินทางข้ามมิติมาที่นี่สินะ มาทำไมล่ะ?” ตุ๊กตายัดนุ่นถามขึ้น
“พวกเราตามคนมาจ้า!” โมโคน่ากระโดดขึ้นไปอยู่บนหัวของเชาหลาง ทำให้ซากุระทำตาโตร้องว่า “น่ารักจัง”
“อะไรกันเนี่ย? ไอ้ตุ๊กตาขนมมันจูตัวเนี้ย?” ตุ๊กตายัดนุ่นสีเหลืองชะงักบินถอยห่างไป
“เสียมารยาท โมโคน่าคือโมโคน่าต่างหากเล่า ไม่ใช่ขนมมันจูซะหน่อย ทีตัวเองล่ะ เป็นตุ๊กตายัดนุ่นแท้ๆยังมาว่าคนอื่นซะได้” โมโคน่าทำท่างอน
“ว่าใครเป็นตุ๊กตายัดนุ่นหา! ฉันน่ะนะ คือสัตว์ร้ายแห่งผนึก ผู้พิทักษ์ของซากุระ เคลเบอรอสเชียวนะ!” ตุ๊กตายัดนุ่นยืดอกทำท่าที่คิดว่าเท่ห์ที่สุดซึ่งจริงๆแล้วมันดูน่าทุเรศเสียมากกว่า “ก็เป็นแค่เคโระจังนั่นแหละ” ซากุระเสริม เล่นเอาตุ๊กตายัดนุ่นแทบล้มโครม
“ก็เคโระจังไม่ใช่หรือคะ?” โทโมโยะยิ่งทำให้ตุ๊กตายัดนุ่นซึมเซื่องยิ่งกว่าเดิม
“เอ่อ แต่ถ้าพวกคุณไม่ใช่เชาหลางคุง แล้วพวกคุณเป็นใครกันแน่คะ?” ซากุระที่คิดขึ้นได้เร่งถามออกมา ก่อนจะรีบแนะนำตัวก่อนเพราะกลัวเสียมารยาท “ชื่อของฉันคือคิโนโมโตะ ซากุระค่ะ นี่ไดโดจิ โทโมโยะจัง เป็นเพื่อนสนิท ส่วนนี่ก็เคโระจังค่ะ”
“ผะ...ผมชื่อ ลีเชาหลางครับ ด้านนี่ก็คือคุณฟาย” เขาแนะนำจอมเวทหนุ่ม
“ฉันชื่อคุโรงาเนะ” คุโรงาเนะเอ่ยเรียบๆ
“ส่วนโมโคน่าก็คือโมโคน่าจ้า” มันจูสีขาวยกมือขึ้นทำท่าน่ารัก
“ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ โมโคน่า”
“ซากุระเรียกโมโคน่าว่าโมโคจังก็ได้นะ เหมือนซากุระที่โมโคน่ารู้จักไง”
“เอ๋? ได้เหรอ!” ซากุระทำตาเป็นประกาย
“ว่าแต่ว่า...พวกคุณมาตามหาคนสินะคะ ไม่ทราบว่าพวกเราพอจะรู้จักหรือเปล่าคะ?” โทโมโยะลากทุกคนกลับเข้าเรื่องเดิม
“คุณรู้จักฟายหรือเปล่าครับ?” ฟายถามขึ้น เมื่อเห็นสายตาสงสัยมองมาก็รีบอธิบาย “ความจริงแล้วผมชื่อยูอิน่ะครับ พี่ชายฝาแฝดของผมชื่อฟาย เรามีเหตุให้ต้องพลัดพรากจากกัน แต่ก่อนที่เราจะมาถึงที่นี่ พวกเราได้พบฟายอีกครั้ง ตอนนี้พวกผมก็กำลังหาเขาอยู่น่ะครับ มีเหตุบางอย่างเขาจึงมีร่างเป็นเด็กตัวเล็กๆประมาณสักสิบขวบได้... พวกคุณพอจะเห็นเขาหรือเปล่าครับ?”
ซากุระกับโทโมโยะมองหน้ากัน แล้วก็หันมาส่ายหน้าตอบ ฟายดูหงอยลงไปทันที
“แล้วทางคุณล่ะครับ คุณซากุระ คุณบอกว่าตัวผมได้โลกนี้หายตัวไปอย่างนั้นหรือครับ” เชาหลางถามกลับ ส่งผลให้ซากุระหน้าหมองลงไปอีกคน
โทโมโยะมองทุกคนแล้วก็ถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า “ถ้าจะคุยกันยาวนะคะ ทุกคนไปที่บ้านฉันแล้วค่อยๆคุยกันดีกว่าไหมคะ?”
“...ก็อย่างที่ว่ามานั่นแหละค่ะ วันนี้หนูจะนอนค้างบ้านโทโมโยะจังนะคะ ฮึ่ม! ไม่ต้องเลยค่ะ แค่นี้แหละ!” ซากุระกดตัดสายโทรศัพท์ด้วยอารมณ์หงุดหงิด ถ้าเดาไม่ผิดคงถูกพี่ชายกวนประสาทมาอีกแล้วแน่ๆ
“จะดีหรือครับ? ให้พวกเรามาพักที่นี่เนี่ย” เชาหลางเอ่ยด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแม่ของฉันไปประชุมที่ต่างประเทศน่ะ อีกอย่างฉันเองก็เคยให้ลีคุงกับเหม่ยหลินจังมาพักที่นี่ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นคงไม่เป็นไรหรอกค่ะ” โทโมโยะในคราบคุณหนูยิ้มตอบ
“นี่ๆ ซากุระ มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?” โมโคน่ากระโดดขึ้นมาบนตักของซากุระแล้วร้องถาม
“คือว่า...เมื่อสองวันก่อนน่ะ มีโทรศัพท์มาจากเหม่ยหลินจังที่ฮ่องกงน่ะค่ะ บอกว่าในวันที่เชาหลางคุงเข้าพิธีแต่งตั้งเป็นผู้นำตระกูล...จู่ๆก็มีผู้ชายแปลกๆมาล่มงานแล้วก็จับตัวเชาหลางคุงไป เขากำลังตามหาคุณโคลว์...”
“โคลว์...? โคลว์ รีด อย่างนั้นน่ะหรือครับ!?” เชาหลางตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าชื่อนี้จะกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่
“พวกนายก็รู้จักด้วยหรือเนี่ย? ฉันนึกว่าโคลว์จะดังไปทั่วโลกเท่านั้นนะ ไม่นึกเลยว่าจะดังข้ามโลกด้วย” เคโระเอ่ยขึ้นอย่างนึกทึ่ง
“ค่ะ แล้วจากนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีแต่เจ้านี่...” ซากุระหยิบลูกตุ้มซึ่งเปรียบเสมือนอาวุธของเชาหลางออกมา “คุณแม่ของเชาหลางคุงส่งมันมาไว้ในตู้ไปรษณีย์ที่หน้าบ้านฉันน่ะค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร... แต่มีโน้ตแนบมาด้วยบอกว่า ‘ระวังตัวด้วย’ น่ะค่ะ”
“แปลกจริงๆนั่นแหละนะ” ฟายเอ่ย พิจารณาลูกตุ้มของเชาหลางด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ถ้ายังไงพวกเราก็ยังต้องอยู่ที่นี่ ตามหาคนเหมือนกัน เดี๋ยวพวกเราจะช่วยคุณด้วย ดีไหมครับ?” เชาหลางออกปาก
“ขอบคุณมากค่ะ”
และเมื่อถึงวันรุ่งขึ้น คนทั้งหมดก็ออกตามหาบุคคลหายสาบสูญทั้งสองด้วยวิธีการของตัวเอง
แน่นอน...มันไม่เจอหรอก
ก็แต่ละคนหายไปแบบธรรมดาเสียที่ไหนล่ะ? ถูก ‘อะไรสักอย่างที่ไม่น่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดา’ ลักพาตัวไปทั้งนั้นแหละ!
และด้วยเหตุนี้ เชาหลางจึงได้มานั่งหอบแฮกอยู่กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แน่นอนว่ารอบข้างไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว
วูบ!
เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นทันที มองไปรอบข้างด้วยความหวาดระแวง
ไม่ผิดแน่ เมื่อครู่นี้...
“คุณเชาหลาง!” ซากุระกับตุ๊กตายัดนุ่นวิ่งมาสมทบกับเขา เชาหลางประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าขนาดเจ้าหญิงซากุระยังมีพลังทำนายความฝันและสื่อสารกับสิ่งที่ไม่มีชีวิตได้ ซากุระคนนี้ก็น่าจะมีพลังที่เขาไม่รู้อยู่เช่นกัน
“สัมผัสนี้...ไม่ผิดแน่ หรือว่าจะ!” เคโระร้องขึ้น มองไปเหนือหัวของตน
ร่างของชายในชุดจีนปรากฏตัวขึ้น ลอยค้างอยู่กลางอากาศ จ้องเขม็งมายังร่างของเชาหลาง
“ฟู่หมิง!” เคโระหน้าซีด มองชายคนนั้นแน่วแน่
“ใครน่ะ เคโระจัง” ซากุระถามด้วยความกระวนกระวาย
“เป็นเพื่อนคนหนึ่งของโคลว์น่ะสิ เขาเองก็เป็นจอมเวทเหมือนกัน ในช่วงหลังๆ เขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเวทชุบชีวิต แล้วหลังจากนั้นก็หายตัวไป นึกไม่ถึงว่าจะ...”
“เวทชุบชีวิตเหรอ? มันมีอยู่ด้วยงั้นเหรอ?” ซากุระหน้าซีด
“ของแบบนั้นน่ะไม่มีหรอก ขนาดโคลว์เองก็ยัง...” เคโระนิ่งไป เหมือนจะนึกไปถึงวันที่โคลว์จากไป แต่แล้วก็รีบดึงตัวเองกลับมาสู่ปัจจุบัน
“ข้าจับเจ้าไว้แล้วแท้ๆ ทำไมถึงกลับออกมาได้” ฟู่หมิงมองเชาหลางด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เด็กหนุ่มหลับตา วาดมือไปในอากาศ แล้วดาบของเขาก็มาอยู่ในมือ ซากุระกับเคโระมองภาพนั้นด้วยความอึ้งสุดขีด
“แกเป็นใคร? แล้วต้องการอะไรกันแน่!” เชาหลางคิดคำนวณดูแล้ว เขาจึงได้สวมรอยเป็นเชาหลางของโลกนี้ไปก่อน เผื่อจะหาทางพาตัวเชาหลางของโลกนี้กลับมาได้
“ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าต้องการตามหาโคลว์ น่าเสียดายที่เขาจากไปแล้ว ดังนั้นข้าจึงได้มาตามหาผู้สืบทอดของโคลว์” ชายหนุ่มในชุดจีนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบที่เสียดแทงเข้าไปถึงใจของซากุระ
น่าเสียดายที่เชาหลางคนนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้สืบทอดของโคลว์ยืนอยู่ข้างเขาแล้ว เขาขมวดคิ้ว เร่งพูดว่า
“ผู้สืบทอดของโคลว์ไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก! แล้วฉันก็ไม่มีทางยอมให้แกไปถึงตัวผู้สืบทอดด้วย” เขาฉีกยิ้มเครียดออกมา “แกยังจับตัวฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ยังคิดว่าจะหาผู้สืบทอดของโคลว์ได้อีกเหรอ?”
คราวนี้ฟู่หมิงทำท่าไม่แน่ใจขึ้นมาจริงๆแล้ว เขานิ่งไปครู่หนึ่งก็จะสะบัดเสื้อคลุมตัวยาวออก ไม้กางเขนโผล่ขึ้นมากลางอากาศ และซากุระก็โพล่งออกไปอย่างตกตะลึง
“เชาหลางคุง!” เชาหลางถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขนในชุดพิธีการที่ฉีกขาด ตามร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ ท่าทางอ่อนแรงไม่น้อย
เชาหลางของโลกนี้ได้ยินเสียงซากุระก็พยายามลืมตาขึ้นมาดู เมื่อเห็นซากุระ เขาก็กระพริบตาถี่ๆ มองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“ข้ายังจับเจ้าอยู่นี่! แล้วทำไมถึงได้...” ฟู่หมิงมองเชาหลางทั้งสองสลับกันด้วยความมึนงง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเชาหลางผู้เป็นอิสระ เขาก็รู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก และเริ่มวาดมือออก กำลังจะพรางร่างของเชาหลางผู้ถูกพันธนาการอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน!” ซากุระร้องห้าม
“ไม่! อย่านะ ซากุระ!” เชาหลางผู้ถูกพันธนาการรีบร้อง
“ฉันเองค่ะ ฉันเองคือผู้สืบทอดของคุณโคลว์ ดังนั้น...ได้โปรด! ปล่อยตัวเชาหลางคุงเถอะนะคะ!”
และพร้อมกันนั้น เชาหลางผู้เป็นอิสระก็หันกลับมามองเธออย่างไม่อยากเชื่อ
“ผู้สืบทอดของโคลว์? เด็กอย่างเจ้าน่ะหรือ?” ฟู่หมิงนิ่งไปเล็กน้อย เขาสัมผัสพลังมหาศาลจากร่างของเด็กสาวตรงหน้า “พลังไม่เลวเลย แต่เจ้าก็ยังไม่ได้แสดงหลักฐานให้ข้าเห็นอยู่ดี”
ซากุระเร่งหยิบกุญแจรูปดาวออกมาจากในคอเสื้อแล้วท่องคาถา
“กุญแจผู้กำพลังแห่งดวงดาว จนเผยร่างที่แท้จริงของเจ้าออกมาต่อหน้าข้า ซากุระผู้เป็นนายของเจ้าของบัญชา รีรีส!” กุญแจพลันขยายขึ้นออกมาเป็นคทาดวงดาว ซากุระยื่นคทาออกไป หวังให้อีกฝ่ายเห็นชัดๆ
“นี่คือหลักฐาน ในเมื่อคุณพบตัวฉันแล้วก็ได้โปรดปล่อยเชาหลางคุงไปเถอะค่ะ!”
“งั้นเจ้าก็ต้องตอบคำถามของข้ามาก่อน ผู้สืบทอดของโคลว์ เจ้า...สืบทอดพลังทั้งหมดของโคลว์มาถูกหรือไม่?”
“ถะ...ถ้าหมายถึงพวกการ์ดล่ะก็ใช่ค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้น...จงบอกความลับของการชุบชีวิตมา” ฟู่หมิงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“จะบ้าเหรอ! ของแบบนั้นน่ะมันมีซะที่ไหนกันเล่า!” เคโระร้องออกมาทันที
“หุบปาก!” ฟู่หมิงเพียงสะบัดมือครั้งหนึ่ง ร่างของตุ๊กตายัดนุ่นก็ปลิวไปเหมือนถูกตบ
“เคโระจัง!” ซากุระร้องอย่างขวัญเสีย เธอรีบหันไปอธิบายกับชายหนุ่ม “ฉันไม่รู้จักเวทมนตร์ที่ใช้ชุบชีวิตได้หรอกค่ะ แล้วมันก็ไม่มีทางชุบชีวิตใครได้ด้วย!”
“โกหก!” ฟู่หมิงตะคอก “ข้าเห็นกับตาว่าโคลว์ชุบชีวิตนังนั่นขึ้นมา โคลว์ชุบชีวิตแม่มดนั่นขึ้นมาชัดๆ ยังจะว่าไม่มีทางชุบชีวิตได้ยังไงกัน!”
เชาหลางมีความทรงจำของพ่ออยู่ในร่าง เขาจำได้แม่นถึงคำพูดของแม่มดแห่งมิติที่พูดกับพ่อซึ่งในขณะนั้นยังเป็นแค่ร่างโคลนของเขา
‘ในชั่ววินาทีหนึ่ง โคลว์คิดว่า ‘ฉันอยากจะให้ผู้หญิงคนนี้ลืมตาขึ้นมาอีกสักครั้ง’ และพลังของเขาก็มากเกินไป มากพอที่เพียงแค่ความคิดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกนั้นทำให้ฉันฟื้นขึ้นมาจากความตาย’
เด็กหนุ่มพบว่าการลักพาตัวเชาหลางของโลกนี้เหมือนจะไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องของโลกนี้เสียแล้ว พวกเขาซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโคลว์และแม่มดแห่งมิติเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน
“เรื่องนั้นไม่จริงหรอก โคลว์อาจปลุกให้ผู้หญิงคนนั้นฟื้นขึ้นจากความตายก็จริง แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของโคลว์และผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน” เชาหลางอธิบาย ทำให้ซากุระหันกลับมามองเขาด้วยความแปลกใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะรู้ว่า ‘ผู้หญิงคนนั้น’ ที่ฟู่หมิงพูดถึงนั้นหมายถึงใครกันแน่ และก็ไม่คิดด้วยว่าเขาจะรู้จักโคลว์
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็รู้ใช่หรือไม่ ว่าทำอย่างไรจึงจะชุบชีวิตคนได้”
“ฉันไม่รู้หรอกนะ” เด็กหนุ่มปฏิเสธ แต่แล้วเขาก็นึกถึงโลกที่แล้วขึ้นมาได้ ฟายในโลกนั้น...ไม่สิ ฟายซึ่งเป็นพี่ชายของคุณฟายได้บอกเอาไว้ว่า มีคนที่นำวิญญาณไร้ร่างไปสิงอยู่ในตุ๊กตา ทำให้เขาเหมือนจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
“ฉันรู้จักแต่การนำวิญญาณไปสิงในตุ๊กตาเท่านั้น”
“เจ้าคิดว่าข้าไม่เคยลองรึ?” คำตอบของฟู่หมิงทำให้เด็กหนุ่มสาวรู้สึกตกใจมาก “ข้าสร้างมันขึ้นมา แต่แล้วก็ไม่ใช่การฟื้นคืนที่แท้จริง หลังจากปรับเปลี่ยนความทรงจำอยู่หลายครั้งก็ปล่อยให้มันหาวิธีฟื้นคืนชีพแทนข้า แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร ไม่เพียงเกือบทำให้มิติทั้งหลายล่มสลายไป ยังแตกสลายไปเสียเองอีกด้วย”
“คุณ...หมายถึงเฟย์ วอง รีด งั้นเหรอ?” เชาหลางตกตะลึงมากจริงๆ
“รู้จักมันด้วยหรือ?” ฟู่หมิงทำท่าแปลกใจ แล้วก็คิดได้อย่างรวดเร็ว เฟย์ วอง รีด ไม่ใช่ชื่อที่คนทั่วไปจะรู้ได้โดยง่าย และหากรู้จักผู้หญิงคนนั้น แสดงว่าเจ้าเด็กนี่เองก็ไม่ใช่คนในโลกนี้เหมือนกัน คนที่ทำให้เฟย์ วอง รีด แตกสลายไป ดูไปสถานที่ที่เขาสมควรไปนั้นคงจะเป็น...
“คุณเชาหลาง” ซากุระร้องเรียก “คุณใช้เวทมนตร์ที่เป็นการอัญเชิญธาตุใช่ไหมคะ?”
“คะ...ครับ ทำไม...”
“ฉันจะเข้าไปช่วยเชาหลางคุง รบกวนคุณช่วยรับหน้าให้หน่อยได้ไหมคะ?” ซากุระกระชับคทาแน่น
เชาหลางไม่รู้ว่าซากุระคิดจะทำอะไร แต่เขาก็พยักหน้า และทำการอัญเชิญอัคคีออกมาทันที
พร้อมกันนั้น ซากุระก็ใช้การ์ด JUMP และ การ์ด SWORD กระโดดเข้าไปหาเชาหลางและตัดโซ่ทิ้งอย่างรวดเร็ว
เชาหลางไม่ได้ดูการใช้เวทมนตร์ของซากุระมากนัก เขาหลบหลีกการตอบโต้ของฟู่หมิงไปพลาง เรียกใช้ธาตุต่างๆทั้งสายฟ้า ไฟ และลมเพื่อต่อกรกับอีกฝ่าย และเมื่อโซ่ตรวนของเชาหลางถูกปลดออกไป ฟู่หมิงก็รู้สึกตัว
“พวกเจ้าบังอาจ!” เขาหันกลับไปหาซากุระที่กำลังประคองเชาหลาง
“เชาหลางคุง นี่จ้ะ” ซากุระยื่นลูกตุ้มคืนให้เขา เชาหลางรับมา และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นดาบอย่างรวดเร็ว
“พร้อมกันนะ” ทั้งสองให้สัญญาณ จากนั้น...
“อัญเชิญอัสนีบาต!/ THUNDER!”
สายฟ้าพลันผ่าเปรี้ยงใส่ร่างของฟู่หมิง เมื่อแสงสว่างหายไป ร่างของเขาก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
“สำเร็จหรือเปล่า?” ซากุระร้องขึ้น
“ไม่หรอก หนีไปแล้วล่ะ” เคโรบินโซเซกลับมาหาซากุระ
“เคโระจัง! เป็นอะไรมากหรือเปล่า?” เด็กสาวถามขึ้นทันที
“ไม่เป็นไรมากหรอก แค่ปลิวไปไกลเกินไปหน่อย กว่าจะกลับมาได้ก็แทบแย่ โอ๊ะ! เจ้าหนูนี่นา!” เคโระมองสภาพเละเทะของเชาหลางอย่างประหลาดใจ “สภาพดูไม่ได้เอาซะเลยนะ”
“หนวกหูน่า!” เชาหลางในโลกนี้ตอบกลับ ขณะพยายามลุกขึ้นยืนทั้งที่เรียกได้ว่าฝืนเต็มทน
“ให้ผมช่วยไหม?” เชาหลางผู้มีสภาพดีพร้อมเดินเข้ามาหา
“นาย?” เด็กหนุ่มมองเห็นคนหน้าเหมือนตัวเองก็หันไปมองซากุระ ท่าทางสงสัยเหมือนจะถามว่าเธอใช้การ์ด MIRROR หรือเปล่า
“นี่คือคุณเชาหลาง เขามาจากโลกอื่นน่ะ” ซากุระรีบอธิบายเรื่องคร่าวๆให้คนรักฟัง จากนั้นทุกคนก็พากันกลับไปรวมตัวอยู่ที่บ้านของโทโมโยะอย่างทุลักทุเล
แต่พวกเขากลับพบคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นั่น
“พี่โทยะ? คุณยูกิโตะ?” ซากุระร้องขึ้นเมื่อเห็นคนทั้งสองนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านโทโมโยะ คนหนึ่งหน้าบูด อีกคนหน้ายิ้ม
“แอบไปซ่าที่ไหนมาอีกหา? ยัยสัตว์ประหลาด”
เส้นเลือดปูดโปนปรากฏขึ้นบนหัวซากุระทันที “ซากุระไม่ใช่สัตว์ประหลาดซะหน่อย พี่บ้า!”
“สัตว์ประหลาดก็คือสัตว์ประหลาดนั่นล่ะ หือ? ดูไม่ได้เลยนี่นา ไอ้หนู” โทยะกับยูกิโตะได้ฟังเรื่องคร่าวๆจากโทโมโยะมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่ค่อยแปลกใจเท่าไรที่เห็นเชาหลางสองคน คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงส่งเสียงเย้ยหยันคนที่เขาเหม็นหน้ามาตั้งแต่แรกพบแทน
เชาหลางหน้าตึง แต่แล้วก็ต้องร้องโอ๊ยเมื่อซากุระลงมือทำแผลให้เขา
คนอื่นๆเริ่มทยอยกลับมาในเวลาต่อมา และเมื่อพบว่าเชาหลางของโลกนี้ปลอดภัยแล้ว พวกเขาต่างก็พากันแสดงความยินดี
แต่แล้วเมื่อฟายเดินเข้ามาในห้อง โทยะก็ลุกขึ้นมาทันที
“นาย...ฟายงั้นหรือ?” ทุกคนชะงักทันที โดยเฉพาะซากุระ เธอรีบร้องถามว่า
“พี่คะ พี่รู้จักคุณฟายด้วยงั้นเหรอ?”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รู้สึกเหมือนโทยะกลายเป็นตัวแปรของเรื่องนี้เข้าไปทุกทีแล้วสิ...
แต่ถ้าจะพูดถึงตัวแปรจริงๆมันก็ต้องเป็นตัวละครออริของไวท์อยู่แล้ววว 555+
(20/12/12) แก้ไขคำผิดแล้วค่า
ความคิดเห็น