ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Brother คุณพี่ชายที่รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : สังคมใหม่ๆ

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 48


    “อื้อหือ  ห้องพี่ชายโสโครกสุดๆ”   เสียงเด็กสาวพูดอย่างแหยงๆเมื่อกลับมาถึงเชียงใหม่และได้เห็นหอของแสง

    “เอ่อ แหม...ก็ผู้ชายตัวคนเดียวนี่นา”  แสงลืมไปเลย  ห้องนอนของเขามีเตียงนอนเตียงเดียว  แถมยังไม่มีห้องเสริมด้วย  ตายละ  แล้วจะทำไงเนี่ย

    “เอ่อ หมอกนอนบนเตียงก็แล้วกันน่ะ  ส่วนพี่เอ่อ...คือ  นอนข้างประตูโน่นก็ได้”

    “จะนอนข้างล่างก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่  พี่น้องนี่นา”

    จริงสิเราอยู่ด้วยกัน...พี่น้องกันนี่นา  

    “เอ่อ  งั้นพี่ก็นอนข้างๆเตียงเธอก็แล้วกัน อุ๊บ” เธอโยนไม้กวาดใส่หน้าเขา

    “แต่ถ้าไม่ช่วยกันเก็บห้องฉันจะไม่นอนห้องพี่เด็ดขาดเลยรู้ไหม”

    “จะ...จ๊ะ”  แล้วทั้งคู่ก็เริ่มทำความสะอาดห้อง

    เมื่อทำความสะอาดเสร็จแสงก็พาหมอกไปเดินซื้อของที่กาดหลวง  ตลาดสดที่รู้จักกัน

    “ไงล่ะไม่ได้มาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว  จำได้หรือเปล่า”  

    “จำได้สิ  ความจำเค้าไม่ได้เสื่อมนะ  แค่ไปจากที่นานแล้วแค่นั้นเอง”

    บรรยากาศของกาดหลวงก็ยังคงไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก  ของยังขายกันเกลื่อน  บางอย่างเป็นของป่าที่เอามาขาย  หาซื้อไม่ได้ทั่วไปในกรุงเทพแน่นอน  แล้วแสงก็พาเธอไปซื้อชุดนักเรียน  

    “นี่พรุ่งนี้จะเข้าไปเรียนหนังสือแล้ว  จะเอาสมุดด้วยไหมล่ะ”  เขาคุยอยู่หน้าห้องแต่งตัว

    “ไหนๆก็แวะออกมาแล้วก็ไปซื้อเลยก็แล้วกัน  จะได้ไม่ต้องออกมาอีก  เป็นไงบ้างพี่ชาย”

    เธอรูดม่านออกมา  อืม....ให้ความรู้สึกว่าเป็นเด็ก ม.ปลายขึ้นมาแล้วแฮะ  ไหงก่อนหน้านี้ถึงมองดูเป็นเด็กมหาวิทยาลัยไปได้นะแสงนึกคิดนิดเมื่อเพ่งพินิจสาวน้อย

    “เอ่อ...ก็  เด็ก ม.ปลาย  เอกชน  ดู.....”

    “จะบอกว่าดูน่ารักใช่ไหมล่า”

    “เธอนี่พูดเองเอ่อเอง  บ้าหรือเปล่า”  เขาพูดโกหกคำโตเลยน่ะเนี่ย  เธอดูน่ารักกว่าเด็กม.ปลายคนอื่นจริงๆ

    “ว่าแต่ว่าโรงเรียนที่จะอยู่นี่  โรงเรียนสหของคริสที่นี่ใช่ไหม”

    “ใช่  เครือเดียวกับที่อยู่กรุงเทพนั่นแหละ”  แสงเริ่มกังวลกับเรื่องค่าเทอมซะแล้วซิ  เพราะโรงเรียนที่เธออยู่โรงเรียนนี้  ค่อนข้างจะมีชื่อมากเลยทีเดียวในเชียงใหม่  มีแต่ลูกคนรวยๆอยู่ทั้งนั้น  แต่เธอไม่มีรถ  หรือมือถือเหมือนคนอื่นเขา....จะเป็นอะไรหรือเปล่าน่า

    “นี่พี่ชาย  วันนี้เราจะกินอะไรดีล่ะ”

    “อ้อ....เอาเป็นว่าเดี๊ยวพี่ทำกับข้าวให้เธอกินดีกว่า  ฉลองการกลับมาไง”

    เธอยิ้มนิดๆให้แสง

    ของที่ซื้อค่อนข้างเยอะ  ทำให้เจ้ารถมอเตอร์ไซด์ที่ค่อนข้างเก่าอืดไปเลย  การที่เธอกอดเอวเขามันเลยเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ  หรือเป็นเพราะเพิ่งจะมีผู้หญิงมานั่งซ้อนท้ายแบบนี้กันนะ

    “โอยเหนื่อย  ไม่นึกว่าจะซื้อของเยอะแบบนี้น่ะเนี่ย”   แล้วเธอก็ถอดเสื้อออก  นั่นทำให้แสงร้องเสียงฟังไม่ได้ศัพท์

    “นี่เธอจะบ้าเหรอไง  มาถอดเสื้อโต้งๆแบบนี้ได้ไง  อายชาวบ้านเค้าบ้างสิ”

    “ก็ในบ้านมีแต่พี่กับเค้านี่นา  จะอายไปทำไมละ”  ว่าแล้วเธอก็เดินดุ่มๆเข้าไป  สิ่งที่สังเกตเห็นคือ....รูปร่างและสัดส่วนที่ยืนยันว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง......บ้าจริงมองอะไรนี่ย  นั่นน้องสาวเราน่ะ  เขาพยายามสลัดความคิดแปลกๆออกจากหัว

    “พี่ทำกับข้าวก่อนซิ  เดี๊ยวฉันอาบน้ำเสร็จแล้วจะไปช่วย”

    .........นี่แม่คู้น........เธอไม่ได้อยู่แถวนี้คนเดียวน่ะ  ว่าแล้วแสงก็เข้าครัว



    “อื้อนี...จอผักกาดใช่ม้า”  (ต้มผักกาดใส่น้ำพริก)

    “อืมช่าย  ความจริงพี่กลัวเธอจะกินไม่ค่อยได้ก็เลยต้มเนื้อหมูเยอะหน่อยนะสิ”

    “กินได้สิ  ยังไงๆเค้าก็เคยอยู่ที่นี่น่ะ”  เธอลองทานไปหนึ่งคำ

    “อื้อ  อร่อยดีพี่ชาย  หัดทำตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนี่”

    “โธ่อย่าหาว่าคุย  พี่นะเซียนทำกับข้าวเลยนะ”

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก  เสียงเคาะประตูดังขึ้น

    “เดี๊ยวหมอกจะไปเปิดให้นะ”

    “อ๊ะ  เดี๊ยวก่อนหมอก”  

    “กรี๊ด”  แสงตกใจเสียงของหมอกจึงรีบลุกพรวดออกไป  ชายคนหนึ่งกอดหมอกอยู่

    “เฮ้ยเจ้าบ้าบอล  ปล่อยหมอกนะเฟ้ย”  แสงรีบคว้าตัวหมอกแล้วถีบแสกหน้าเจ้าบอลทันที  อ้อ เจ้าหมอนี่มันลูกน้องของแสงที่ทำงานนั่นเอง

    “อะ...โอ้ย...ขอโทษครับรุ่นพี่  ผมไม่นึกว่ารุ่นพี่จะพาสาวมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน”

    “แกจะบ้าเหรอไงนี่  น้องสาวชั้นโว้ย”  แสงรู้สึกว่าหน้าตัวเองจะร้อนๆยังไงไม่รู้

    “น้องสาว  เอ๋  หน้าจาไหงไม่เห็นเหมือนกันเลยนี่  น่ารักเป็นบ้า”

    “เอ่อ  ยังไงก็ทานข้าวด้วยกันสิค่ะ”

    บ้าจริง...อุตส่าห์จะได้ทานมื้อแรกกัน 2 คนอย่างเป็นสุข  กลับต้องมีมารผจญ

    “หมอกงั้นเหรอครับ  แหมลูกพี่นี่  มีน้องสาวสวยๆก็อุ๊บไว้ไม่บอกกันบ้าง”

    “ก็แกไม่ได้ถามนี่”  แสงรมบ่จอยขึ้นมาทันที  เพราะเจ้าบอลมัวแต่พะเน้าพะนอหมอกอยู่นั่นแหละ  

    “ว่าแต่น้องหมอกอยู่กรุงเทพคนเดียวไม่เหงาแย่เหรอ”

    “เอ่อ...ก็”  เธอหันมาสบตาผมนิดๆ

    “แหมแต่แย่หน่อยน่ะ  มีพี่ชายแบบลูกพี่เนี่ยขอบอก  ลามกสุดๆ”

    “แก!!!ถ้าพูดมากกว่านี้จะถีบส่งไปเดี๊ยวนี้แหละ”  หมอกหัวเราะ  กลายเป็นว่าเรื่องน่าอายเป็นเรื่องตลกไปซะ  แต่แบบนี้ก็ดีอยู่อย่าง  ขอแค่หมอกร่าเริงก็พอ  พอทานข้าวเสร็จสักพักเจ้าบอลก็กลับ

    “เพื่อนพี่นี่  ตลกดีน่ะ”

    “อย่าไปยุ่งกับมันมากก็แล้วกัน  เจ้านี่มันเสือผู้หญิง”

    “ห่วงเหรอ”

    “แน่ละสิ  ก็เธอเป็นน้องสาวพี่นี่”  ผมจัดการเก็บกวาด

    “งั้นพี่ก็เจ้าชู้ด้วยสิ”

    “หา....อะไรกัน”  สายตาเธอล้อเลียนเขา

    “ก็เขาว่าคนเจ้าชู้มักจะหวงน้องสาวนี่นา”  ผมละเชื่อเลย  ถึงจะหวงน้องแต่ผมก็ไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้น่ะ  ขอบอกไว้เลย  แสงได้แต่พึมพำในใจ



    เช้าวันใหม่สดใสสำหรับการไปเรียนวันแรกของหมอก แสงขับรถไปส่งหมอกที่โรงเรียน M ดูแล้วมีแต่ลูกคนรวยทั้งน้าน  ดูรถแต่ละคันสิ  ใหม่เอี่ยมแกะกล่องเลยด้วย  แสงเริ่มจะกลัวว่าหมอกจะโดนชาวบ้านเค้าดูถูก  กังวลว่าเธอจะเข้ากับคนอื่นๆได้หรือเปล่า

    “เอ้า  ตอนเย็นจะมารับ  แต่อาจจะช้าหน่อยน่ะ  เพราะว่าอู่พี่มันปิด 5 โมง  กว่าจะขับรถมาก็ซัก 30 นาทีได้มั้ง”  

    “อื้อ  จะรอที่ม้านั่งตรงโน้นนะ  บาย”



    หมอกเข้าไปหาอาจารย์ใหญ่ เป็นหญิงรูปร่างท้วมท่าทางใจดี

    “อ้อ  หนูศศิธรใช่ไหมค่ะ ครูจะพาหนูไปที่ห้องนะ”  เธอยิ้มให้หมอกและพาเดินไปบนอาคารเรียน  เสียงจอแจไม่ต่างจากที่โรงเรียนหมอกเลย เพราะเพิ่งโฮมรูมอยู่  หมอกมายืนอยู่หน้าห้องเรียน 5/5 เสียงเด็กผู้ชายหลายคนดังออกมา  และพูดคุยแซวอาจารย์  

    “จารย์ครับ  หวังว่าคงเป็นเด็กน่ารักๆ น่ะคร้าบ”

    “โฮ้  อย่าเป็นกระเทียมก็พอแล้วฟ่ะ”

    “เค้าฟังคำเมืองรู้เรื่องไหมค่ะ”

    เสียงวิจารณ์มีมากเหลือเกิน  จนอาจารย์ต้องสั่งให้เงียบ

    “เอาละ  ศศิธรเข้ามาเลยจ๊ะ”

    เสียงทุกคนในห้องเงียบกริบ  ผู้ชายอ้าปากค้างไปหลายคน  จากนั้นก็เริ่มมีเสียงซุบซิบกันดังขึ้น

    “ศศิธรค่ะ  เรียกชื่อเล่นหมอกก็ได้น่ะค่ะ  ฝากตัวด้วย”

    “ศศิธรไปนั่งข้างแพรก็ได้นะ”

    หมอกถือว่าเป็นเด็กสาวที่มองคนเป็นพอสมควร  สายตาของคนบางกลุ่มก็มองเธออย่างเหยียดๆ  แต่สำหรับแพรที่เธอนั่งข้างๆ  เป็นคนเงียบและท่าทางเรียบร้อย

    “ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะหมอก  มีอะไรถามเราได้น่ะ”

    “ขอบใจนะ เอ่อ แพร”

    เมื่อถึงเวลาพัก  เพื่อนผู้หญิงประมาณ 7-8 คน ก็เข้ามาคุยด้วย จนทำให้ผู้หญิงบางกลุ่มหมั่นไส้

    “ว้า  น่าเสียดายน่ะหมอก  อยู่กรุงเทพก็ดีแล้วนี่  ไม่เห็นต้องย้ายมาเลยนี่นา” เพื่อนชื่อแอมพูดขึ้น

    “อ้อ.....ฉันตามพี่มานะ”  หมอกตอบ  ตอนนี้เธอเหมือนจะค่อยๆปรับตัวได้แล้ว

    “แต่ครูบอกว่า  เธอเรียนได้เกรด 3.8 เลยไม่ใช่เหรอถ้าเป็เด็ก กทม.เนี่ย ถือว่าเก่งมากเลยนี่” เด็กสาวตัวเล็กกว่าชาวบ้านชื่อ ตาลพูดขึ้น

    “อะ...อ้อ  ไม่เท่าไหร่หรอกคนเก่งกว่าก็มีอยู่” หมอกดูจะเขิน  และรู้สึกดีที่เข้ากับเพื่อนใหม่ได้ดี

    “นั่นสิ  เกรดแค่นั้นไม่ต้องพูดมากก็ได้  ในห้องนี้ก็คะแนนราวๆนั้นกันหมด”   เสียงที่ทำให้เพื่อนบางคนทำท่าน่ารำคาญใส่

    “ยัยนั่นนะชื่อ เปรี้ยว อยู่ก๊ก โรดแคด”  แอมบอก

    “เอ๋”  หมอกทำท่างงๆ

    “ก็แรดโคดไง”  คนอื่นๆหัวเราะคิกคัก

    “ว่าไง  หมอก  มาจากโรงเรียนอะไรนะ”  ชายคนหนึ่งถามขึ้นมา

    “หมอกระวังนะ  นายเนี่ยเจ้าชู้มาก ชื่อแมน” ตาลบอกหมอก

    แมนดูสูง ขาวเป็นนักกีฬาบาส ทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆหลายคน  รวมทั้งเปรี้ยวด้วย  ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้เปรี้ยวเข้าไปใหญ่ที่แมนมาทักหมอก

    “วันนี้หมอกกลับบ้านยังไงเหรอ  มีคนไปส่งไหม  กลับกับผมก็ได้น่ะ”

    “ไม่เป็นไรค่ะฉันกลับเองได้”  หมอกตอบ

    “จริงสิหมอกมีที่เรียนพิเศษหรือยังมีอะไรปรึกษาแพรได้นะ”  แพรรีบตัดบทนายแมนไป

    แล้วออดเข้าเรียนก็มา



    ที่อู่รถในเมือง

    “เฮ้พี่แสง  สนใจให้ผมไปรับน้องหมอกไหมเอ่ย”

    “ไปไกลๆเลยไอ้บอล  เอ้าส่งเครื่งมือมาเร็วเข้า”  แสงรีบซ่อมรถจักรยานยนต์คันสุดท้ายให้เสร็จ  มีรถตำรวจคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าร้าน  

    “โอ้  ว่าไงแสง  กลับจากกทม.แล้วเรอะ”  เสียงจากชายคนหนึ่งที่ใส่เครื่องแบบตำรวจลงมา

    “อ้าวชาตรีไปไงมาไงเนี่ย”  แสงทักเพื่อนสนิทของเขา

    “ฮ่า ฮ่า เพิ่งได้เลื่อนยศเว้ย เป็นสารวัตรแล้วน่ะฟ่ะ”  ชาตรีเป็นเพื่อนสนิทของแสงสมัย ม. ปลาย

    “โทษทีว่ะ  วันนี้คงไปก๊งด้วยไม่ได้  ต้องไปรับน้อง”

    “อ้อ...น้องแก...คนที่แกเคยพูดถึงน่ะเหรอ”  ชาตรีทำท่านึกอยู่

    “เฮ้ย  แว้ก 5 โมงแล้วเหรอเนี่ย  ไปก่อนน่ะไอ้บอลฝากที่เหลือด้วย  ไปก่อนว่ะชาตรี  แล้วจะโทรไปหาน่ะว่ะ  วันนีข้าติดธุระจริงๆ”  ว่าแล้วแสงก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อและขี่รถออกไป

    “พี่แสงนี่  ดูสีท่าจะห่วงน้องสาวมากเลยน่ะพี่”

    “อืม............” ชาตรียิ้มนิดๆ



    หมอกมานั่งรอแสงที่ม้านั่งคนเดียว  เหลือนักเรียนไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังไม่กลับบ้าน บางคนเล่นกีฬาอยู่หลังโรงเรียน  หมอกมองดูนาฬิกา

    “เอ่อ  หมอก  เรานั่งด้วยได้ไหม”  เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

    “อ้อ...ได้สิ  เธอ....”

    “เรา เอกน่ะ  คงจำเรายังไม่ได้ละสิ  ก็เล่นคุยกับเพื่อนผู้หญิงทั้งวันเลยนี่”

    เอกเป็นเด็กผู้ชายท่าทางอัธยาสัยดี  และหน้าตาค่อนข้างใช้ได้  ไม่แปลกถ้าผู้หญิงบางคนจะแอบชำเลืองมอง

    “ว่าแต่รอใครเหรอ”

    “อ้อ...รอพี่ตัวดีมารับนะ”

    “พี่สาวหมอกต้องน่ารักแน่เลย”  เอกยิ้มๆ

    “ทำไมละ”  หมอกทำหน้าสงสัย

    “ก็....หมอกน่ารักขนาดนี้นี่”  คำพูดนั่นทำให้หมอกเขินนิดๆ  หรือเขาก็ตั้งใจมาจีบหมอกอีกคน

    “ปากหวานน่ะ  เอกเนี่ย  มีแฟนมากี่คนแล้วละ”  หมอกแซว  ทำให้เอกค่อนข้างหน้าเสีย  เพราะหมอกพูดจี้ใจดำเขา  เอกเริ่มแปลกใจ  เพราะผู้หญิงส่วนมากต้องเออออไปตามเขา  แต่หมอกไม่เหมือนกับคนอื่น  

    “อืม...ฉันไปซื้ออะไรทานก่อนนะ”  หมอกลุกขึ้นไปซื้อขนม  ทิ้งให้นายเอกนั่งบื้ออยู่คนเดียว  แต่เอกไม่ยอมแพ้  ลุกตามไป  แต่แมนเข้ามาขวางไว้  

    “เฮ้ยเอก  ข้าตามจีบหมอกก่อนแกน่ะ”  แมนที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะเล่นบาสมา  มองหน้าเอกอย่างเอาเรื่อง

    “ของแบบนี้แล้วแต่คารมเว้ย”  เอกตอกกลับไป

    หมอกเห็นไกลๆแล้วว่า 2 คนนี้ เริ่มทะเลาะกัน  แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเข้าไปห้าม  เดินไปรอแสงที่หน้าประตู  แสงมาพอดี

    “หวาๆ  โทษทีหมอก  พี่...รีบมาแล้ว รถมันติดในเมืองนะ”

    “....ไม่ยกโทษให้”  หมอกแกล้งพูดกับแสง

    “เอ่อ.....”  แสงนึกว่าหมอกพูดจริงเลยทำท่าเลิกลั่ก

    “ต้องเลี้ยงไอติมให้หมอกแล้วรอหมอกทานให้เสร็จก่อน”

    “จ้า....” แสงทำหน้าแหยงๆแต่ก็ตามใจน้องสาว  เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าเจ้าหนุ่มทั้ง 2 คน ทำหน้าเหวอเมื่อรู้ตัวอีกที่ว่า มคปด. เรียบร้อย

    แสงพาหมอกมาเที่ยวห้างพาเดินดูโน่นดูนี่  และพาไปทานไอสครีม  แสงจ้องมองดูเด็กสาวที่มีท่าทางเพลิดเพลินไปกับการทาน  จนเขารู้สึกแวบเข้ามาในหัวว่าถ้าเกิดเธอคนนี้ไม่ใช่น้องสาวก็คงจะมีแต่คนอิจฉาที่เขาพาเด็กสาวสุดจะน่ารักเกินบรรยายคนนี้มานั่งทานไอสครีม  แต่เขาก็สลัดความคิดที่น่ากลัวนี้ทิ้งไปทันทีที่หมอกสบตาเขา

    “พี่ไม่ทานเหรอไงละ  ปล่อยหนูกินคนเดียวอยู่ได้”  

    “เอาน่าเธอกินไปเถอะ”  จริงแล้วเขาสั่งมาให้หมอกแค่ถ้วยเดียวเพราะไอสครีมที่สุดแสนแพงทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ  แต่หมอกก็ยังดึงดันจะป้อนให้  เขาจำเป็นต้องกิน  สายตาคนภายนอกดูเหมือนจะมองดูคนทั้งคู่เป็นคู่รักหวานแหว๋ว  สายตาของชายกลุ่มหนึ่งมองมาอย่างหมั่นไส้(ถ้าคนเชียงใหม่จะเรียกคนกลุ่มนี้ว่าแซ้บ)  หมอกขอตัวไปล้างมือ  เมื่อเธอเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็พบว่ามีชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งขวางทางไว้หมอกขี้เกียจที่จะฟังว่าพวกนี้พล่ามอะไรกัน  เธอเดินไปแต่ก็มิวายโดนหาเรื่องจนได้  แสงเห็นว่าหมอกช้าเลยเดินมาดูพบว่าหมอกกำลังโดนลวนลามโดยพวกแซ้บ  แสงรีบไปขวางไว้แต่พวกนั้นดึงคอเสื้อแสงไว้และท้าให้เขาไปที่หลังห้าง  แสงดูแล้วถึงไม่ตกลงก็ต้องโดนรุมอยู่ดีจึงบอกให้หมอกรอข้างนอกแล้วเขาเข้าไปคนเดียว

    “พี่แต่ว่า”  หมอกเป็นห่วง  แสงกระซิบบอก

    “เธอไปอยู่ใกล้ยามตรงบันไดไว้นะ  เดี๊ยวพี่ก็มาแล้ว”  แสงยิ้มให้ทำให้เธอคลายกังวลได้นิดหน่อย  แต่ดูแล้วเจ้าพวกนี้คงมีพวกสัก5-10 คน  หมอกยืนรอแสงด้วยความเป็นห่วงเธออยากบอกยามแต่แสงสั่งห้ามไว้  เธอทำไมถึงเป็นห่วงเขาขนาดนี้หนอ  อยากจะผิดสัญญาเขาแล้วตามไปดูที่หลังห้างเสียจริง  แต่เธอก็เชื่อว่าแสงจะต้องกลับมา  เธอยืนอยู่ข้างๆยามตามที่เขาบอก  แต่ก็มีพวกของแก๊งนี้เฝ้าอยู่คนสองคน  ผ่านไปเกือบชั่วโมงเธอเห็นแสงเดินขโยกเขยกมา  หมอกดีใจจนน้ำแทบซึมออกมา  เธอเข้าไปกอดแต่ก็ได้ยินเสียงร้องเบาๆ

    “อะ...อูย...เจ็บๆๆๆ อย่ากอดแรงนะ”  ปากเขาแตกและขาขวาเจ็บ  หน้าด้านซ้ายบวมนิดหน่อย

    “พี่เป็นอะไรไหม”  เธอวิตกกังวลมาก  มัวแต่ห่วงแสงเลยไม่ทันดูว่าพวกวัยรุ่นที่เหลือวิ่งหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่  หมอกไม่สนใจคนอื่นเธอพยายามขอร้องให้แสงไปหาหมอแต่เขาไม่ตกลง  แต่ก็มิวายโดนลากไปคลินิก  หมอกเห็นคลินิกใกล้จึงพยายามลากเขามาแต่เมื่อแสงเห็นคลินิกก็ตกใจและพยายามจะหนีออกมา  หมอกไม่ยอมและต่อว่าแต่แสงดึงดันว่ายังไงก็ไม่หาหมอเด็ดขาดโดยเฉพาะคลินิกที่นี่  ขณะที่กำลังเอะอะกันอยู่  ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น

    “จะมาคลินิกหรือเปล่าคะ”  เสียงดังมาจากคนทั้ง 2 หมอกเหลียวมาดูก็พบหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาใจดีและสวยมากแม้แต่หมอกยังตะลึงในท่าทางและกิริยา  จึงเดาออกว่าคงเป็นหมอเจ้าของคลินิกแหงๆ  เธอเองก็ดูตกใจๆเมื่อมองแสงอยู่นาน

    “แสง  เธอเองเหรอ”  เธอเอ่ยออกมา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×