ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Prince's Monster <2JAE/YUGJAE>

    ลำดับตอนที่ #1 : ++ Prologue ++

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 326
      6
      16 เม.ย. 58

     

    Prologue

     

     

     

     

     

    “เฮ้ยย ตามหามันให้ทั่ว วันนี้ไม่เจอไม่ต้องกลับหอ!!” เสียงแหบๆอันเป็นเอกลักษณ์ของไอ้พี่แจ็ค หรือแจ็คสัน หวัง ลูกชายของเจ้าของโรงเรียนฝึกซ้อมการต่อสู้ชื่อดังแห่งหนึ่งในฮ่องกงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ... ก็แน่ล่ะ เขาได้ยินมันมาทั้งวัน

     

    พูดอยู่ได้... ไม่เมื่อยปากเหรอไงวะ วันๆพูดอยู่แค่สองประโยค คือ ตามหามันให้เจอ... ลากตัวมันมาให้ได้

     

    อยากรู้จริงจังละว่าที่บ้านเลี้ยงมายังไงให้เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำแบบนี้ ชเวล่ะเบื่อ

     

    “เฮ้!! ไอ้ตี๋แว่น มองหน้านี่มีปัญหาเหรอวะ!?” ดู แล้วก็ดูทำหน้า คิดว่าโหดเป็นคนเดียวเหรอไง

    “ปะ ป่าวฮะ ไม่มีฮะ” ผมก้มหัวปลกๆ แต่อย่าคิดว่ากลัวมันนะครับ แค่แกล้งทำให้มันสบายใจไปงั้นแหละ เดี๋ยวจะอกแตกตายไปซะก่อนที่มีคนกล้าหือ

    “...” มันมองผมอย่างเคลือบแคลงและสงสัย ผมเลยเสตาลงมองพื้นพลางทำตัวสั่นอย่างแนบเนียนมันก็เลยเดินผ่านไปโดยไม่คิดจะสนใจผมอีก

     

    ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ความจริงไอ้พี่แจ็คมันจะไม่น่ากลัวเลยซักติ๊ดถ้าไม่ติดแบ็กกราวเป็นไอ้พวกกล้ามโตที่ตามมันมาจากบ้านเกิดกว่ายี่สิบสามสิบคนนั่น เห็นสายตาพวกนั้นมั้ยล่ะครับ แค่โดนมันมองก็กลัวจนปัสสาวะแทบเล็ด

    ผมล่ะเอาใจช่วย แบมแบมคนน่ารักนั่นให้แผ้วพานคนใจโฉดจอมชั่วอย่างอิพี่แจ็คนี่ให้ปลอดภัยไปนานๆ เพราะไม่เคยมีใครอยู่รอดเกินยี่สิบชั่วโมงหลังจากมีเรื่องกับหัวหน้าแก๊งลูกท้ออย่างแจ็คสันสักคน และคนล่าสุดที่ได้สถิติ 20 ชั่วโมงนั่นก็นอนหยอดข้าวต้มกว่าสามเดือนเลยทีเดียว

     

    “ยองแจ นายมาทำไรตรงนี้อ่ะ ไม่กลับหอเหรอ”

    “เดี๋ยวกลับ เราว่าจะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดแปปนึงน่ะ เตรียมควิซพรุ่งนี้” ผมตอบพลางดันแว่นหนาๆขึ้นให้ไปอยู่บนดั้งอันน้อยนิด

    คิม ยูคยอม เพื่อนตัวยักษ์เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ แน่ล่ะ ผมไม่ได้ฉลาดที่ทำข้อสอบเข้าได้เต็มเหมือนมันหนิ อย่าให้หน้าตาที่เหมือนจะโง่ๆของมันนั้นหลอกเอาได้นะครับ ไอ้ยักษ์นี่ล่ะที่ปาดหน้าทุนอันดับ 1 จากผมไป

    “จะให้ไปติวด้วยป่าว...” มันส่งคำถามมา

    “...อยู่หอคนเดียวก็ไม่มีอะไรทำ ไหนๆพรุ่งนี้ก็มีสอบ เดี๋ยวไปนั่งอ่านด้วยคนละกัน” แต่เหมือนจะไม่ใช่คำถามอีกต่อไป เพราะมันกลายเป็นประโยคบอกเล่าไปแล้ว

     

    ผมกับยูคยอมเดินกันมาถึงเขตห้องสมุด ก่อนจะเดินผ่านบอร์ดนักเรียนดีเด่นที่ติดรูปของรุ่นพี่ประธานนักเรียนหรา ไอ้ยักษ์ข้างตัวผมหยุดมองเงียบพักใหญ่ๆ ซึ่งอยากจะบอกมันตรงๆเลยว่าโคตรจะเสียเวลา

    “ดูนายสนใจรุ่นพี่แจบอมจัง นี่คิดอะไรกับพี่เขาหรือเปล่าน่ะ” ผมถามไปไม่ใช่เพราะอยากจะสอดรู้หรอกนะ แต่ผมอยากจะให้มันตอบว่า เปล่าๆ ฉันเปล่าคิดอะไรกับพี่เขานะ พร้อมกับทำท่าทางสาวน้อยแล้วรีบเดินออกไปจากตรงนี้มากกว่า

    “นายคิดว่ามันน่าคิดหรือเปล่าล่ะ” มันถามผมกลับ ซึ่งดูจากหน้าตาของมันแล้วผมก็ไม่คิดว่ามันกะจะเร่งให้ผมเดินจากไปจากตรงนี้เร็วๆเหมือนที่ผมคิดกับมันหรอก

    “เฉยๆนะ พี่เขานิสัยดี เรียนดี กีฬาเด่น อีกอย่างก็หน้าตาดีด้วย ไม่แปลกหรอก ถ้านายจะคิดน่ะ” ความจริงมันจะแปลกมาก รูปร่างหน้าตาอย่างนายมันไม่เข้าข่ายสาวน้อยคลั่งรักเลยนะยักษ์

    “นายรู้เหรอ เราคิดอะไรอยู่”

    “ไม่รู้อ่ะ” ใครจะไปรู้วะ

    “หึ... ไม่มีอะไร ก็แค่มองไปงั้นๆแหละ ไม่คิดว่าคนอย่างหมอนี่จะมีรูปติดอยู่บนบอร์ดนักเรียนดีเด่นก็แค่นั้น”

    “...” ผมนี่คันปากยิบๆ อยากจะถามจนใจจะขาดว่าทำไมนายถึงคิดแบบนั้น แต่ด้วยเพราะไม่อยากจะยุ่งเรื่องชาวบ้านเลยคิดว่าเงียบๆไว้ดีกว่า... วันหลังพามันมาเดินผ่านบอร์ดนี่บ่อยๆมันคงจะหลุดปากพูดออกมาเอง

     

    หลังจากติวไปได้ไม่นานนักไอ้ยักษ์ก็ขอตัวไปซื้อขนม ซึ่งนั่นเป็นนิสัยปกติที่มันจะชอบแว่บไปหาอะไรกินบ่อยๆ มันถึงได้ตัวเป็นยักษ์แบบนั้นนั่นไง... และเมื่อไม่มีคนติวด้วย ผมก็เลยคิดว่าจะพักผ่อนสมองสักแปป... คือไม่ได้จะขี้เกียจนะครับ แต่เพราะไม่อยากเอาเปรียบยูคยอม คือเกรงใจมัน กลัวมันจะตามไม่ทันน่ะ

     

    “ตรงนี้จะดีเหรอคะ” ผมสะดุ้งลืมตาขึ้นมาทันทีหลังคิดว่าได้ยินเสียงผู้หญิง ก่อนจะคิดว่าหูฝาดไป เพราะตรงนี้เป็นที่ประจำของผมที่จะมาอ่านหนังสือเงียบๆ ไม่ค่อยมีคนเข้ามาถึงตรงนี้หรอก...

    “อ๊ะ อยะ อย่าน่า” เสียงเดิมที่ดูจะกำลังอ่อนระทวยกับอะไรบางอย่างที่ดังอย่างชัดเจนพร้อมกับเสียงฝีเท้าของคนสองคนที่กำลังเดินเข้ามาทางนี้ทำให้ผมรีบเก็บสมุดทุกอย่างบนโต๊ะใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็วและหลบไปข้างๆตู้หนังสือพร้อมกับก้มตัวลงอย่างมิดชิด พลางหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความไปหาไอ้ยักษ์ให้ไม่ต้องรีบมา

    “ใจเย็นสิคะ ยังไงวันนี้มินอาก็ไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว”

    “ชื่อมินอาหรอกเหรอ... หึ”

     

    ผมกัดปากแน่น เอาจริงๆผมไม่ได้อยากจะมาเจอสถานการณ์แบบนี้เลย เรื่องรักๆใคร่ๆ ของคนอื่นผมไม่ต้องการที่จะรับรู้ ก็ผมไม่เคยมีโมเม้นแบบนี้ไงครับ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ก็ 17 กว่าๆ ละ ยังโสดสนิทชนิดที่ปักตะไคร้แล้วฝนแล้งไปสิบปีเลยอ่ะ ถ้าจะมาทำอะไรกันต่อหน้าผมแบบนี้ก็ช่วงเกรงใจกันนิดนึงเซ่ะ -.,-

     

    ผมกำลังมองหาเส้นทางที่จะออกไปจากตรงนี้โดยไม่ไปจ๊ะเอ๋กับคู่รักนั่นอย่างเครียดยิ่งกว่าทำข้อสอบพันข้อโดยไม่ให้ผิดแม้แต่ข้อเดียวอีก ทำไมไม่ไปอิ๊อ๊ะกันที่ห้องหอของพวกคุณล่ะครับ ชเวล่ะหน่ายใจ

    ไลน์ ~

    ผมสะดุ้งเบาๆ ดีนะที่ตั้งเสียงเป็นเบาสุดอยู่แล้ว สองคนคู่รักนั่นคงจะไม่ได้ยิน แต่เพราะสัญชาตญาณผมเลยเผลอเงยหน้าขึ้นไปมองสองคนนั้นอัตโนมัติ และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่า ใครที่กำลังพลอดรักกัน

    ผมบีบโทรศัพท์ในมือแน่นอย่างชั่งใจ ประโยคของไอ้ยูคดังขึ้นมาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ และก็ดูเหมือนว่ามันจะรู้อะไรดีๆมากกว่าผม

    หึ... รู้แล้วว่าทำไมมันถึงพูดแบบนั้นออกมา

     

    ไม่รอช้า ผมละเลยข้อความที่ส่งมาเมื่อกี้และกดเข้าไปที่กล้องถ่ายรูปและเลือกที่จะถ่าย วีดีโอ ทันที

     

    เสร็จละ ไอ้รุ่นพี่ที่ตีสองหน้าได้เก่งที่สุด... อยากรู้นักว่าถ้ามีข่าวฉาวโฉ่ขึ้นมาบ้างจะเป็นยังไง ผมนึกถึง ‘Marker_MAN’ บล็อกเกอร์ชื่อดังของโรงเรียนที่มักจะเอาคลิปที่ตัวเองแอบถ่ายมา มาลงในบล็อกของตัวเองจนชื่อดังระเบิดระเบ้ออย่างตื่นเต้น

     

    ก่อนที่จะกดอัด คลิป ของรุ่นพี่ที่เขาเกือบจะเผลอเคารพไปแล้วอย่าง อิม แจบอม ขนที่คอก็ลุกวาบขึ้นมาอย่างตกใจเพราะสบตาเข้าอย่างจังกับผู้ชายที่เคยได้ชื่อว่าประพฤติตนได้เป็นตัวอย่างที่ดี แต่ก็ค่อยๆผ่อนหายใจลงช้าๆเมื่อรุ่นพี่ถอนสายตาออกไปอย่างไม่คิดจะสนใจ

     

    อาจจะไม่ทันได้เห็นกล้องมือถือเขา เพราะเขาตกใจลดมือลง... คงจะเป็นแบบนั้น รีบๆส่งเข้าเมล์แล้วลบคลิปนี่ออกจากมือถือดีกว่า ถ้าเกิดโดนอิพี่นี่จับได้ขึ้นมา... เรื่องมันคงจบไม่สวย คิดได้ดังนั้นเจ้าของร่างอวบก็กดเข้าอีเมล์และ sent ไปยังอีเมล์ของตนก่อนจะลบคลิปออกจากเครื่องทันที

     

    เสียงจากเบื้องหลังนั่นเงียบไปแล้ว... หรือพวกนั้นพอเห็นเขาแล้วก็เลยเริ่มเกรงใจ กลับไปต่อกันที่อื่น... ช่างมันปะไร ไหนๆก็มีคลิปเด็ดแล้ว... แต่ผมคงจะไม่กล้าเอาลงบล็อกของตัวเองหรอก ส่งไปให้ Marker_MAN ดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ ว่าแล้วผมก็สอดส่องสายตาไปยังที่จุดเดิมที่ผมเห็นเหตุการณ์สุดสยิวกิ๋วเมื่อกี้ ก่อนจะเห็นว่ามันว่างเปล่าไร้ผู้คนแล้ว

    “ฟู่” ผมถอนหายใจ ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างผู้ร้ายในละครทีวี ทีนี้ล่ะรุ่นพี่แจบอม... พี่ได้ดังเป็นพลุแตกแน่ ยังไม่ทันที่จะหุบยิ้มดีจู่ๆร่างของผมก็ลอยวืดจนหลังไปกระแทกกับชั้นหนังสืออย่างแรง และนั่นก็ทำให้ผมเจ็บหลังจนตัวงอ

    “คิดจะแบล็กเมล์เหรอ” เสียงทุ้มเข้มที่มักจะได้ยินที่หน้าเสาธงทุกเช้าเรียกให้ผมลืมตาโพลง...

    “ระ รุ่นพี่แจบอม...”

    ซวยแล้วไง ผมเงยหน้ามองรุ่นพี่ผมดำที่เมื่อมองใกล้ๆจะเห็นว่าที่หูนั่นเจาะรูมากกว่าสี่ กำลังจ้องหน้าผมอย่างคาดคั้นในระยะประชิด

    “ปะ เปล่าครับ” พูดปดมดเท็จออกไปอย่างจริงใจ

    “น่าเชื่อถือเนาะ...ในมือนายนั่นน่ะ ฉันขอดูหน่อย” ยังไม่ทันที่ผมจะตั้งตัว ไอ้รุ่นพี่นี่ก็ฉกมือถือผมไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าผ่า

     

    ค้นให้ตายก็ไม่เจอหรอก... ฉลาดแท้ ดีนะ ที่ลบทัน J

     

    “เมล์นี่เวลาส่งเมื่อก่อนหน้านี้สามนาที...” ผมสัมผัสได้ถึงเหงื่อเย็นๆไหลลงไปตามคอ ความจริงลืมไปซะสนิทว่าพี่แกเองก็ฉลาด ค้นในแกลลอรี่ไม่เจอ ยังจะไปค้นในเมล์ต่อ

    “...ไม่มีไฟล์แนบ มีแต่หัวเรื่องที่ว่า ข่าวฉาวของนักเรียนดีเด่น”

     

    เวรละ ...โง่แท้ว่ะ ลืมส่งไฟล์แนบ ...ต้องการบอกผมงี้ใช่มั้ยวะครับรุ่นพี่ T_T

    “ต้องการจะส่งอะไรเหรอ... ข่าวฉาว...ของใคร?”

    “อะเอ่อ... ไม่มีหรอกครับ ผมแค่ทดลองระบบของจีเมล์เล่นๆ”

    “อืม... แต่ไม่มีไฟล์แนบแบบนี้จะทดลองได้ผลเหรอ”

    “ได้นะครับ ได้แน่นอน”

    “นักเรียนดีเด่น... นายว่าฉันนี่พอจะเป็นนักเรียนดีเด่นได้หรือเปล่า” ถามมาให้ตอบแบบไม่ต้องคิด จากพฤติกรรมเมื่อกี้นี้น่ะ ไม่ต้องบอกนายก็น่าจะรู้ตัวนะ ไอ้รุ่นพี่เฮงซวย

    “ปะ เป็นสิครับ รุ่นพี่แจบอมก็เป็นนักเรียนดีเด่นอยู่แล้ว” ผมปฏิเสธเสียงแห่งความถูกต้องในใจอย่างบ้าคลั่ง ขืนตอบออกไปอย่างจริงใจแล้วล่ะก็ ไอ้คนที่ดูน่ากลัวตรงหน้านี่คงขยี้ผมเป็นจุลแน่ๆ ดูสิครับ รังสีอำมหิตแผ่ออกมานี่โคตรน่ากลัวเลย น่ากลัวกว่าอิพี่แจ็คสันเมื่อตอนเลิกเรียนหลายเท่าตัวนัก

    “อืม... งั้น เดี๋ยวฉันจะช่วยนายทดลองระบบด้วยละกัน เอาเครื่องนายนี่แหละเนาะ สะดวกดี...หึ”

    “อ่า... อย่าเลยครับ ผมว่าจีเมล์เขาก็ทำงานดีแล้ว อยะ อย่าไปสร้างภาระให้เขาเพิ่มเลย แหะๆ” ผมส่งยิ้มแห้งๆ แต่ได้รับใบหน้าที่เรียบเฉยกลับมาอย่างเย็นชา

     

    เสียมรรยาทว่ะ ไหนว่าเป็นนักเรียนดีเด่น ยิ้มให้แล้วทำไมไม่ยิ้มตอบ T.T

     

    “แต่เห็นทีว่าแว่นหนาๆของน้องมันจะเป็นอุปสรรคนะ ถอดไปซะเถอะ...เกะกะ” จบคำพูดแบบผมยังไม่ทันที่จะงง แว่นตาสุดเลิ้บของผมก็ลอยละลิ่วเข้าไปอยู่ในมือของมัน และใบหน้าที่พร่ามัวก็วูบเข้ามาใกล้แบบที่ผมถอยหลังไปไม่ทัน

     

    แต่ถึงทันก็ติดชั้นหนังสืออยู่ดี

     

    ขนทั่วร่างกายสแตนอัพขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันเมื่อลมหายใจของไอ้รุ่นพี่ดีแตกเป่ารดมาที่ใบหน้าของผม กลิ่นบุหรี่จางๆจากตัวของไอ้นี่ทำให้ผมคิดภาพนักเรียนดีเด่นของมันเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ออกเลย

    “ขอบคุณที่หวังดีคิดอยากให้ฉันดังนะ... แต่เกรงใจว่ะ เพราะถ้าฉันจะดังด้วยข่าวฉาว... ก็อยากให้มีคนดังไปพร้อมๆกันกับฉันด้วย”  มันจะให้ใครดังไปกับมันด้วยวะ? ทันทีที่มันพูดจบใบหน้าคมที่ผมเห็นไม่ชัดเจนแม้ว่ามันจะใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจก็ใกล้เข้ามาจนปากของผมกระทบเข้ากับบางอย่างที่...นิ่มๆ...

     

    ก่อนที่สติสัมปชัญญะของผมจะรู้แจ้งได้ว่ากำลังโดนคุกคามทางเพศจากไอ้คนตรงหน้าได้ก็ผ่านไปนานกว่าสิบวินาที ผมสะดุ้งโหยงอย่างตกใจก่อนจะสะบัดตัวอย่างบ้าคลัง

     

    “ฮ่ะๆ” มันหัวเราะสองทีพร้อมกับกดอะไรบางอย่างในมือถือของผม และนั่นก็ทำให้ความแอ๊บของผมขาดสะบั้นลงตวาดออกไปอย่างลืมมาดเด็กเนิร์ดของตัวเอง

    “ทำอะไรน่ะ!!” ผมเบิกตากว้างออกไปแม้จะยังคงมองอะไรไม่ชัดเจนแต่ก็คิดว่าคงจะดูน่ากลัวได้บ้าง ซึ่งตรงกันข้ามเลย ผมเชื่อว่าไอ้พี่แจบอมมันคิดว่าน่าหัวเราะซะมากกว่า

    “ทำอย่างที่นายอยากให้เป็นไง... ตามหัวข้อคลิปที่นายตั้งเด๊ะ”

    “ไอ้บ้า ไอ้รุ่นพี่ดีแตก ฉันจะเอาเรื่องที่นายทำทั้งหมดไปตั้งกระทู้ในบอร์ดของมาร์คเกอร์แมน  เชื่อเลยว่าพรุ่งนี้รูปนายได้โดนปลดจากบอร์ดนักเรียนดีเด่นแน่!

    “อ๋อเหรอ เอาสิ ฉันก็เบื่อแล้วเหมือนกัน สนับสนุนนะ นี่พูดเลย”

    “อย่าคิดว่าไม่กล้านะ”

    “อ๋อ ไม่คิดอยู่แล้ว ดูท่าทางนายก็น่าจะกล้าหาญดี ดีแล้วที่นายช่างกล้า คลิปนี่...เห็นหน้านายชัดดีนะ ชัดกว่าฉันอีก” พูดจบ มือหนาๆนั่นก็เตรียมตัวที่จะกดอะไรในมือถือของผม ทำให้ผมรีบพุ่งตัวเข้าไปเอามันคืนมาจากมือคนชั่ว

    “ไม่ทันละ” ทันทีที่ผมเอาคืนมาได้ มันก็พูดขึ้น ทำให้ผมแทบจะกรีดร้องออกมา

     

    “แต่ยังดีที่ฉันยังปรานี...” ผมเงยหน้าขึ้นมองมันอย่างโกรธแค้น ปรานีอะไรของมัน  มันไม่ใช่พ่อพระอีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องแกล้งทำเป็นคนดีแล้ว!!

     

    “ฉันยังไม่ได้ส่งไปให้ใคร นอกจากเมล์ของฉัน... พอดีอยากทดลองระบบจีเมล์เล่นเป็นเพื่อนนาย”

    “...” ผมรู้ว่ามันยังพูดไม่จบ เลยจะให้โอกาสมันพูดให้จบ ก่อนที่จะทำการสังหารมันโทษฐานดีแตก และขโมยจูบแรกของผม จูบแรกที่ควรจะเป็นของพี่จินยอง...

     

    “ถ้าฉันได้ยินข่าวไม่ดีของฉันเมื่อไหร่... นั่นก็แสดงว่าเวลานั้นนายอยากจะดัง ไปพร้อมๆกันกับฉัน”

    “...”

    “ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่... คลิปจูบสุดเร่าร้อนของนักเรียนดีเด่น จะถูกส่งตรงถึงมือของมาร์คเกอร์แมนทันที”

    “เฮ้!! แล้วถ้าพฤติกรรมของนายไม่ได้มีฉันคนเดียวที่รับรู้ล่ะ” ผมหวนคิดไปถึงยูคยอม ไม่แน่ว่าบางทีมันอาจจะเคยโดนเหมือนผม =[]=!

    “แล้วยังไง”

    “ถ้าเรื่องที่นายนิสัยไม่ดีถูกประจานออกไปแต่ไม่ใช่ฝีมือฉันล่ะ!” ในเมื่อชั่วร้ายขนาดนี้ เห็นทีคงไม่ได้มีแค่ผมที่รู้เรื่องนี้แน่

    “ก็ตามที่บอกไป เมื่อไหร่ที่ข่าวคาวของฉันเล็ดลอดออกไป... เมื่อนั้นก็ถึงเวลาที่เราทั้งคู่จะดังไปด้วยกัน”

     

    “ไม่ยุติธรรม!

     

    “คำว่ายุติธรรมน่ะ มันไม่เคยอยู่ในสมองของฉันอยู่แล้วล่ะ... หึ”

     

    ผมทำได้แต่กระทืบเท้ามองแผ่นหลังของไอ้รุ่นพี่ อิม แจบอม ที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่ามันเป็นคนดีอย่างโกรธแค้น มันเดินจากไปอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ในขณะที่ผมกำลังร้อนใจจนแทบอกจะระเบิด...

     

     

     

    จากนี้ไป แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ชีวิตของนายชเว ยองแจก็เปิดฉากเข้าสู่มหกรรมซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยสุดๆ แล้วล่ะ...

     

     

    Prince’s Monster

     

     

    ขอฝากฟิคเรื่องนี้กับแม่ยก ทูแจ ยูคแจ เนียร์มาร์ค แบมแจ๊ค ทุกคนไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

    เรื่องนี้เป็นฟิคเด็กกัซเรื่องแรกที่แต่ง หากมีตรงไหนผิดพลาดก็แนะนำ ติติงได้เลยเน้อ

    เอาบทนำมาลงก่อน เดี๋ยวบทที่ 1 จะตามมาค่า >.<

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×