ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Law of The Jungle (kookmin, namjin)

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2 l เปลี่ยนสถานะ (รีไรท์)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.1K
      164
      15 ต.ค. 60

     




    CHAPTER 2

    'You save everyone, but who saves you?'




     

    ที่นี่ที่ไหน?


    จีมินถามกับตัวเองแล้วหันมองรอบตัว เขามองเห็นเพียงต้นไม้น้อยใหญ่ที่พากันชูกิ่งก้านขึ้นสู่ท้องฟ้า แข่งกันรับแสงแดดอย่างไม่มีใครยอมใคร ได้ยินเสียงนกและสัตว์ตัวเล็กอยู่รอบกาย นั่นทำให้เขารู้ได้ว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ในที่ที่เรียกว่าป่า


    ในระหว่างที่ขาเล็กก้าวเดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย จีมินได้ยินเสียงกึกก้องมาจากข้างหลัง เมื่อหันไปก็เห็นฝูงสัตว์ป่ากำลังพากันวิ่งหนีอะไรบางอย่างอย่างเอาเป็นเอาตาย จีมินมองพวกมันหน้าตาตื่น ขาเล็กก้าวถอยหลังหลบสัตว์เหล่านั้นจนจะสุดกิ่งไม้ล้มลงไปนั่งที่พื้น แต่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงคำรามจากสัตว์ที่อยู่ตรงหน้า


    สิงโตตัวใหญ่ดูท่าทางแข็งแรงค่อยๆ ก้าวเดินมาหาจีมินช้าๆ สายตาของมันสะกดให้เขานิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับไปไหนด้วยความกลัว ดวงตาของเจ้าป่าจ้องมองจีมินราวกับเจอมื้ออาหารมื้อใหญ่ ปากก็อ้ากว้างอวดเขี้ยวคม ส่งเสียงขู่คำรามดังก้องป่าให้เหยื่อได้หวาดกลัวมากกว่าเดิม และจังหวะที่จีมินกำลังขยับตัวถอยหนี มันก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้คนตัวเล็กต้องหลับตาปี๋


    จะโดนกินแล้ว!


                .

                .

                .

                .


    “ไม่นะ!” จีมินสะดุ้งตื่นจากฝันด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว หันไปมองนาฬิกาก็พบว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะสาย เขารีบลุกจากที่นอน แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าขืนยังช้าอยู่อีกล่ะก็ วันนี้เขาคงได้ไปโรงเรียนสาย และจะต้องถูกหักคะแนนแน่ๆ


    จากกิจวัตรยามเช้าที่ปกติไม่เร่งรีบ วันนี้กลับต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายในครึ่งชั่วโมง จีมินรีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปขึ้นรถเมล์ให้ทันรอบ 7.30 น. เพราะถ้าช้ากว่านี้ล่ะก็เขาคงจะตกรถ และรถเที่ยวต่อไปก็ต้องรอเวลาอีกกว่าจะมา และจีมินก็ต้องผิดหวัง เมื่อจังหวะที่เขาวิ่งมาถึงป้ายรถเมล์นั้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถเมล์ออกตัวพอดี สุดท้ายแล้วเช้านั้นจีมินวิ่งเข้าทันประตูโรงเรียนปิดอย่างฉิวเฉียด ช่างเป็นเช้าที่ทรหดสำหรับเขาจริงๆ


    ครืด ครืด


    เสียงโทรศัพท์สั่นทำเอาเด็กหนุ่มที่กำลังตั้งใจเรียนอยู่สะดุ้งโหยง มือเล็กแอบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาไม่ให้ถูกอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่หน้าห้องจับได้ เขาเปิดเข้ากล่องข้อความ สิ่งที่ได้เห็นทำเอาในท้องวูบโหวงไปหมด

     

    ‘มาหาฉันที่ห้องประธานนักเรียนภายใน 5 นาที’ -จอนจองกุก-


    เมื่ออ่านข้อความจบ ใบหน้าหวานเงยหน้ามองอาจารย์ที่กำลังเขียนสูตรคณิตศาสตร์ลงบนกระดานแล้วก้มลงมองมือถือตัวเองอีกครั้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่มีข้อความเข้ามาอีกรอบ นิ้วเล็กจึงเลื่อนเปิดดู พอเห็นว่าเป็นอะไรก็ถึงกับหน้าซีด


    ‘อย่าช้า รู้ใช่มั้ยว่าจะโดนอะไร พ่อนักเรียนทุน’ -จอนจองกุก-


    “อะ…อาจารย์ครับ” กลั่นใจยกมือขึ้น เอ่ยเรียกอาจารย์ที่อยู่หน้าห้อง “ผมรู้สึกไม่สบาย เอ่อ…ขออนุญาตไปห้องพยาบาลนะครับ”


    ครืด… ปัง!


    “สายไป 2 นาที” คนตัวสูงว่า มองคนที่ยืนหอบอยู่หน้าประตู ใบหน้าเล็กซีดเซียว พยายามหาข้อแก้ตัว


    “แฮ่ก...แฮ่ก… นี่ก็รีบที่สุดแล้ว แฮ่ก…ฉันกำลังเรียนอยู่”


    “ฉันไม่สนใจ นายผิดเองที่มาช้า ฉันควรจะลงโทษนายยังไงดีล่ะ”


    “ฉันขอโทษ!” ก้มหน้าก้มตามองพื้นห้อง ฝ่ามือชื้นเหงื่อกอบกุมเข้าหากันแน่นด้วยความกลัว


    “ฉันไม่ชอบคนชักช้า” จองกุกลุกขึ้นจากโต๊ะที่ตนนั่งแล้วเดินเข้าหาจีมิน ในขณะที่คนตัวเล็กก็ก้าวถอยหลังจนกระทั่งแผ่นหลังแนบชิดกับกำแพงจนแทบจะฝังตัวลงไปหากทำได้ “เรามาทำข้อตกลงกันเถอะ” จองกุกเสนอ


    จีมินลอบมองคนที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็ทำได้เพียงครู่ก่อนจะหลุบตาลง มองพื้นแทน “อะ—อะไร”


    “ฉันจะไม่บอกใครว่านายจดโพยเข้าห้องสอบ แต่…” ช่วงจังหวะเว้นวรรคพร้อมด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์ทำเอาจีมินต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดหวั่น “นายจะต้องมาเป็นเบ๊ให้ฉัน ระยะเวลาไม่มีกำหนด ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของฉันเท่านั้น”


    “บ้าไปแล้วรึไง?!”


    “ขึ้นเสียงใส่ใครอยู่รู้ตัวรึเปล่า”


    “โอ๊ย! ฉันเจ็บ” จีมินร้องลั่น ยกมือขึ้นพยายามจะดันมือของจองกุกที่บีบแก้มเขาอยู่ออก


    “รู้สถานะของตัวเองซะบ้าง หรือฉันควรเอาเรื่องที่นายจดโพยไปประจานดี คนอื่นเขาจะได้รู้กันให้หมด รวมถึงพ่อฉันด้วย แล้วนายก็จะหมดสิทธิ์ในการเป็นนักเรียนทุนอีกต่อไป”


    “ฉันขอโทษ” คนตัวเล็กเอ่ยเสียงเบา จองกุกมองคนตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เขาปล่อยจีมินให้เป็นอิสระ ก่อนจะทำเป็นเดินดูนั่นดูนี่ไปรอบห้อง สร้างความกดดันให้คนที่ยืนมองพื้นไม่ไปไหน


    “ฉันเบื่อ”


    แล้วไง?


    จีมินอยากจะตอบกลับไปเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้า ทำเพียงยืนก้มหน้ามองพื้นพรมอยู่อย่างนั้น


    “หึ” เสียงหัวเราะของจองกุกทำให้คนที่ก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย “ช่วงบ่ายแบบนี้มันน่าง่วงนอนซะจริงเนอะ นายว่ามั้ย”


    จีมินไม่ตอบ เขาตัดสินใจจะเดินออกจากห้อง ตั้งใจว่าจะกลับไปเรียนต่อเพราะเขาออกมานานมากแล้ว กลัวว่าจะตามบทเรียนไม่ทัน แต่เสียงของจองกุกก็รั้งเขาเอาไว้


    “อย่าเพิ่งไปสิ เรามาทำอะไรแก้ง่วงกันดีกว่า” จองกุกยกยิ้มร้ายกาจออกมา เขาเอ่ยคำที่ทำให้อีกคนต้องหันมามองด้วยสีหน้าตกใจ “มาเล่นวิ่งไล่จับกันเถอะ”


     


     

    ------------------------------Law of The Jungle------------------------------


     


     


     

    “แฮ่ก แฮ่ก”


    เสียงหอบหายใจดังทั่วห้องกว้าง เสื้อนักเรียนเปียกชุ่มด้วยเหงื่อจากการวิ่งติดๆ กันมาครึ่งชั่วโมง คนตัวเล็กพยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ให้มีเสียงดังมากเกินไป เขาขดตัวเข้าไปในที่ซ่อนให้ลึกยิ่งขึ้นหวังให้ความมืดช่วยอำพรางตน ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ร่างกายสั่นเทาเพราะความกลัวจากการเล่นเกมที่เขาไม่เคยเต็มใจจะเล่นมัน…


    เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนจองกุกบอกว่าจะเล่นซ่อนแอบกับจีมิน จากนั้นคนตัวสูงก็โทรศัพท์ไปหาใครสักคน ไม่นานก็มีเสียงประกาศดังไปทั่วโรงเรียน ประกาศว่าให้ตามจับตัวพัคจีมิน ปี 2 ห้อง A หากใครก็ตามที่จับได้จะเป็นผู้มีสิทธิ์ในตัวเหยื่อ สามารถทำอะไรกับเหยื่อก็ได้ตามใจชอบ ทันทีที่เสียงประกาศสิ้นสุดลงเกมวิ่งไล่จับก็เริ่มขึ้น


    “ฮึก…” คนตัวเล็กสะอื้น หยิบมือถือมาดูก็พบว่านี่เป็นเวลา 4 โมงเย็นแล้ว แต่เกมบ้าๆ นั่นยังไม่จบไปเสียที เขาเหนื่อยกับการที่ต้องวิ่งวน หลบซ่อนไม่รู้จบแบบนี้


    โรงเรียนนี้มันไม่ปกติ ก่อนหน้านี้เขาทำเป็นมองข้ามมันมาตลอด แต่เมื่อได้มาเจอกับตัวเองแล้วมันยิ่งกว่าที่เขาเคยพบเห็น เขาไม่น่ายอมรับทุนแล้วเข้ามาเรียนที่นี่เลย ถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งมันจะเป็นความผิดของเขาเองที่ทำให้มาเจอเรื่องแบบนี้ก็ตาม


    หลังจากถูกจับได้ว่าเอาโพยเข้าห้องสอบ จีมินคิดว่าจองกุกคงจะเอาเรื่องของเขาไปบอกอาจารย์ และเขาก็คงจะโดนถอดออกจากการเป็นนักเรียนทุนแน่ๆ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นทำให้เขาโล่งใจได้ไม่น้อย แต่ใครจะไปรู้ว่าเหตุการณ์ดูนิ่งสงบเหมือนกับภูเขาไฟที่รอวันปะทุนั้นกลับปรากฏผลให้เห็นในวันนี้


    ไม่เคยคิดเลยว่าจากการเป็นผู้เฝ้ามองเหตุการณ์ จะต้องกลับกลายมาเป็นเหยื่อซะเอง


    ครืดดดด… ปัง!


    เสียงเปิดและปิดประตูทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้ง เขาขดตัวเข้าหากันมากยิ่งขึ้นภายใต้โต๊ะที่ใช้เป็นเกราะกำบัง ยิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าเข้าใกล้มากเท่าไหร่หัวใจก็ยิ่งเต้นแรงมากเท่านั้น ฝ่ามือเล็กยกขึ้นปิดปากตัวเองป้องกันไม่ให้มีเสียงเล็ดรอดออกไป ถึงจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่บุคคลปริศนาอยู่ในห้องแต่สำหรับจีมินมันช่างยาวนาน 


    ฟู่….

    เขาเผลอถอนหายใจเมื่อได้ยินเสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง และห้องกลับมาเงียบเหมือนเดิม แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับมองเห็นจองกุกที่ส่งรอยยิ้มร้ายกาจอยู่ตรงหน้า วินาทีนั้น เขาก็ได้รู้ว่า ปีศาจนั้นหน้าตาเป็นแบบไหน


    “เกมโอเวอร์”






    “ฮัลโหลๆ ประกาศนะครับ เรามีเกมสนุกๆ มาให้ทุกคนได้ร่วมเล่นกันอีกแล้ว วันนี้ห้าโมงเย็นที่สนามกีฬา ใครอยากปลดปล่อยความเครียดจากการเรียนอันน่าเบื่อก็อย่าลืมมาร่วมสนุกกับพวกเรานะครับ ย้ำ ห้าโมงเย็นที่สนามกีฬา มีเหยื่อตัวน้อยๆ กำลังคอยทุกคนอยู่ แล้วเจอกันครับ”


    หลังเสียงประกาศจบลง บางคนส่งเสียงโห่ร้องดีใจ บางคนก็ได้แต่พูดพึมพำว่าน่าสงสารอยู่เบาๆ บ้างก็เมินเฉยไม่สนใจ แม้กระทั่งอาจารย์ที่ได้ยินก็ยังทำเป็นหลับหูหลับตาไม่ได้ยินอะไร


    ที่กลางสนามกีฬาตอนนี้ มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ตรงกลางของพวกเขาคือจีมินซึ่งกำลังนั่งกอดเข่าแน่น ไม่กล้าขยับไปไหน เรียกความสนใจจากเด็กนักเรียนหลายๆคนที่พบเห็น


    “เฮ้ย แกน่ะ ไปเอาไข่ที่ห้องคหกรรมมา” จองกุกชี้เด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ยืนอยู่บริเวณนั้น


    “คะ…ครับ!”


    จองกุกมองตามเด็กนักเรียนที่วิ่งออกไป ก่อนจะหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นั่งตัวสั่นเทา เหงื่อแตกพลั่ก อาจจะเพราะอากาศร้อน หรือเพราะกลัวจองกุกเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เขากำลังสนุก การได้มองเห็นคนอ่อนแอกว่าหมดหนทางสู้มันทำให้เขารู้สึกดี ก็แน่ล่ะ เพราะว่าเขาคือผู้ล่านี่นา…


    “เลิกทำบ้าๆ แบบนี้สักที” คนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น


    จองกุกยิ้มให้จีมิน “อืม…ยากจัง ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ ว่าแต่สายตานายนี่ให้ความรู้สึกดีจริงๆ นะ ต่างจากเหยื่อคนอื่นที่ผ่านมาเยอะเลย” เอ่ยชมเมื่อเห็นจีมินส่งสายตาแข็งกร้าวมาให้ตน


    ติ๊งต่อง!

    “เวลาสนุกมาถึงแล้ว! ใครอยากจะมาร่วมสนุกขอเชิญได้ที่สนามกีฬาเลยครับ!”


    จีมินกำชายเสื้อตัวเองแน่นเมื่อได้ยินเสียงประกาศ เด็กนักเรียนเริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ จากไม่กี่คนเป็น สิบ หลายสิบคน คนที่ไม่เข้ามาก็ทำเพียงยืนมองอยู่ห่างๆ จีมินไม่รู้หรอกว่าคนพวกนั้นมองเขาด้วยสายตาแบบไหน เพราะเขาเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น มันอาจจะเป็นสายตาสมเพช สงสาร หรือมองด้วยความสนุกสนาน สะใจที่ได้รังแกคนอ่อนแอกว่า


    “ทุกคน ฟังทางนี้!” เสียงของโฮซอกที่ตะโกนขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคนให้หันไปมอง “เดินมารับไข่ที่ฉันไปคนละฟอง! แล้วเรามาเล่นสนุกกัน กติกาคือใช้ไข่ที่มือตัวเองให้เป็นประโยชน์ รู้ใช่มั้ยว่าฉันหมายความว่ายังไง”


    สิ้นคำพูดของโฮซอก ทุกคนก็พากันเดินไปรับไข่ทีละคนแล้วกลับมายืนล้อมจีมินไว้ เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจดังไปทั่ว และเมื่อจองกุกยกมือขึ้นเป็นสัญญาณทุกคนก็พร้อมใจกันปาไข่ใส่คนตัวเล็กทันที เสียงหัวเราะสะใจดังขึ้นไปทั่วทุกทิศ จากตอนแรกที่ตัวเต็มไปด้วยเหงื่อตอนนี้กลับเป็นไข่ดิบ ไม่ว่าจะผมหรือร่างกาย กลิ่นคาวไข่คละคลุ้งจนน่าอาเจียน จีมินทำได้เพียงนั่งเฉยๆ รับชะตากรรมของตัวเองเท่านั้น


    “สกปรกจัง เดี๋ยวฉันช่วยล้างออกให้นะ”


    ซ่า!!


    มือหนายกถังน้ำสาดใส่จนจีมินต้องหลับตาปี๋ แรงสาดน้ำไม่เบาที่ปะทะมาทำเอาหน้าชา และใช่ว่าน้ำที่จองกุกใช้จะเป็นน้ำสะอาดเสียเมื่อไหร่ มันเป็นน้ำจากการซักไม้ถูกพื้นที่ใช้ทำความสะอาดห้องหลังเลิกเรียน ดังนั้นสภาพตอนจีมินในตอนนี้จึงไม่ต่างอะไรไปจากลูกหมาตกน้ำ ทั้งเสื้อผ้าและหน้าผมสกปรกมอมแมมจนดูไม่ได้


    ผู้คนรอบๆ ตัวที่พากันหัวเราะทำเอาจีมินกำหมัดกับพื้นหญ้าแน่น เงยหน้ามองเห็นเพื่อนๆ ที่เคยมาขอให้เขาติวให้ยืนอยู่ไม่ไกล บ้างก็เข้าร่วมวงด้วยทำให้รู้สึกเจ็บใจไม่ใช่น้อย จีมินคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องตลกร้ายเหลือเกิน พอต้องการความช่วยเหลือก็วิ่งเข้ามาหา แต่ในเวลาที่เขาลำบากแบบนี้กลับไม่มีใครช่วยสักคน นี่สินะมิตรภาพจอมปลอม


    ‘เพื่อน’ ในห้องเรียน ใช่ว่าจะเป็น ‘เพื่อน’ ที่แท้จริง เขาเพิ่งรับรู้ถึงความจริงของคำพูดนั้นก็วันนี้นี่เอง


    “วันนี้พอแค่นี้” จองกุกไล่เด็กนักเรียนคนอื่นๆ รอบตัวออกไป ไม่นานนักรอบข้างก็ไร้ผู้คน แต่จีมินยังคงนั่งนิ่งไม่ไปไหน เขาเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยสายตาแข็งกร้าว ความรู้สึกมันผสมปนเปไปหมด


    ทั้งโกรธ ทั้งโมโห นี่เขาทำเรื่องที่ร้ายแรงจนถึงขั้นต้องมาโดนอะไรแบบนี้หรือไงกัน


    “พอใจแล้วใช่มั้ย”


    “ก็ไม่เท่าไหร่” 


    “นายสนุกมากรึไงที่ทำแบบนี้”


    “สนุกดี” 


    คำตอบที่ได้รับทำให้หมัดที่อยู่บนพื้นยิ่งกำแน่น จีมินอยากจะลุกขึ้นไปต่อยคนตรงหน้าให้หายแค้น แต่เขารู้ดีว่าทำไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลง “ถ้าสนุกพอแล้วฉันขอตัว” 


    ซ่า!...


    เสียงน้ำจากฝักบัวตกกระทบพื้นดังขึ้นภายในห้องอาบน้ำของชมรม จีมินมาอาศัยอาบน้ำที่นี่ก็เพราะไม่อยากกลับบ้านไปด้วยสภาพแบบนี้ให้คุณยายต้องเป็นห่วง เขาเดินออกมาใส่เสื้อพละข้างนอกเมื่ออาบเสร็จ มองเห็นเสื้อตัวเองที่ถูกกองทิ้งไว้เนื่องจากมันเปียกทั้งน้ำสกปรกและไข่ดิบแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เอาน้ำสะอาดฉีดล้างจนคราบสกปรกพอจะหลุดออกไปบ้าง บิดจนหมาดก่อนจะนำใส่ในถุงที่เตรียมไว้


    เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจีมินก็ถือกระเป๋าพร้อมจะกลับบ้าน แต่พอเดินออกมาจากห้องพักนักกีฬาก็ต้องชะงัก ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ไม่คิดว่าจะเจอยืนอยู่


    “จองกุก…”


    คนที่ยืนพิงอยู่ตรงกรอบประตูทำให้ใจสั่น ขาเล็กเผลอก้าวถอยหลังอัตโนมัติ


    “น—นายมาทำไม”


    “ทำไมถึงจะมาไม่ได้ล่ะ โรงเรียนนี้มันเงินของพ่อฉัน ฉันจะไปที่ไหนก็ได้”


    “หลบไป” จีมินพยายามเดินแทรกอีกฝ่ายเพื่อจะออกไปด้านนอก เขาไม่อยากเจอหน้าจองกุกอีกแล้ว


    ตุ้บ!


    ไม่รู้ว่าเจอหน้าจองกุกแล้วมือไม้มันอ่อนแรงหรืออย่างไร จีมินเผลอทำกระเป๋านักเรียนตกลงพื้นเนื่องจากเขาตั้งใจจะสะบัดแขนที่ถูกจองกุกตามมาจับเอาไว้ คนตัวเล็กก้มลงจะเก็บกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาแต่ก็พบว่าสายของมันถูกจองกุกเหยียบอยู่ ดวงตาคมจ้องมองมาที่จีมินอย่างเอาเรื่อง


    “อย่าเดินหนีฉัน”


    “ฉ—ฉัน…” รู้สึกเหมือนกลับมาเป็นตัวเองที่อ่อนแออีกรอบ ที่เคยทำสายตาไม่พอใจใส่จองกุกนั่นเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น สุดท้ายจีมินก็เป็นแค่สัตว์กินพืชอ่อนแอที่ทำเป็นเก่ง มีหรือจะสู้สัตว์กินเนื้อที่แท้จริงอย่างจองกุกได้


    “เมื่อกี้ยังอวดดีอยู่เลยนี่ ทำไมตอนนี้ถึงได้เหงื่อแตกแบบนั้นล่ะ” จองกุกสาวเท้าไปหาคนตัวเล็กเรื่อยๆ ในขณะที่จีมินก็ถอยหลังไปเรื่อยๆ เช่นกัน


    “อย่าเข้ามา…”


    “กลัวอะไรล่ะ”


    “ฉันจะ...กลับบ้าน” 


    “ดูนายท่าทางจะร้อนนะ ให้ฉันช่วยมั้ย”


    ตู้ม!!


    เพียงเสี้ยววินาที แขนยาวผลักอกคนตัวเล็กอย่างแรง ไม่ทันได้ตั้งตัว จีมินตกลงไปในสระว่ายน้ำจนน้ำกระจายออกเป็นวงกว้าง จองกุกมองภาพคนที่กำลังตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำอย่างสะใจ


    ในผืนน้ำเย็นเฉียบ จีมินไขว่คว้าอากาศเบื้องบนอย่างทรมาน สองขาตีน้ำอย่างคนว่ายน้ำไม่เป็น ความเย็นของน้ำทำเอาเขารู้สึกชา เหมือนกำลังมีมือที่มองไม่เห็นฉุดขาเอาไว้


    “ชะ ช่วย.. แค่ก ช่วย ด้วย.. แค่ก!” คนที่อยู่ในน้ำร้องหาความช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร หากแต่คนที่อยู่บนบกทำเพียงยืนมองเฉยๆ เท่านั้น


    “ฉันว่าย แค่ก! น้ำ.. ไม่เป็น.. แค่ก..”


    “ฉันจะช่วย…” จองกุกเว้นวรรคไปสักพัก “ถ้านายยอมฉันทุกอย่าง”


    “…แค่ก!”


    “อยากจมน้ำตายก็เอานะ”


    “ช่วย… ด้วย… ”


    ฟองอากาศที่ถูกปล่อยออกมาเริ่มหมดลง จีมินรู้สึกหมดแรง เขาปล่อยให้ตัวเองจมน้ำลงไปเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมของน้ำและมองเห็นลางๆ ว่ามีใครกำลังใกล้เข้ามา ริมฝีปากเล็กถูกฉวยจูบเพื่อส่งอากาศเข้าปอด สติที่เลือนลางรับรู้ได้ว่าถูกกระชากขึ้นจากน้ำอย่างแรง และทันทีที่ขึ้นมาบนพื้นสระจีมินก็สำลักน้ำออกมาทันที


    “แค่ก! แค่ก!”


    “อย่าลืมล่ะว่าข้อตกลงของเราคืออะไร”


    “นายมันบ้า”


    “ขอบคุณที่ชม” จองกุกยิ้มรับ จีมินมองมันแล้วก็รู้สึกอยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอคนตรงหน้าเหลือเกิน ถ้าเมื่อกี้เขาขึ้นมาไม่ทันก็คงจมน้ำตายไปแล้ว และถ้าเขาตาย เขาสาบานเลยว่าจะต้องมาหลอกจองกุกเป็นคนแรก


    “วันนี้สนุกจัง ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ” พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้จีมินนั่งอยู่แบบนั้น


    จีมินไอออกมาอีกรอบ มองคนที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งเกลียด ทั้งกลัว เพราะเขาอ่อนแอใช่ไหม ถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ แค่นึกว่าวันต่อไปจะต้องเจออะไรที่มันแย่กว่านี้ก็รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่คลอหน่วย เขาเองก็อยากจะแข้มแข็งได้บ้างเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนใจร้ายอย่างจองกุก





    --------------------------------------------------------------------------------------------

    KATAEBUM TALK

    กลับมาแหล่ว ผลตอบรับเกินคาด ฮืออออออ ขอบคุณค่ะ

    สัญญาว่าตอนต่อไปจะมาเร็วกว่านี้นะ T^T

    ส่วนเรื่องคู่ในเรื่องนี้นี่หนักใจอยู่เหมือนกันค่ะ

    นอกจากคู่หลักของเราแล้ว ขอให้เนื้อเรื่องเป็นคนดำเนินไปแล้วกันเนอะ

    เจอกันใหม่ตอนหน้าเน้อ

    #ฟิคป่า


     

      

    ✄THE ORA



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×