ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic BTS] Law of The Jungle (kookmin, namjin)

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3 l เกมล่าเหยื่อ (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 27 ต.ค. 60





    CHAPTER 3

    การอดทนเป็นโล่ที่ดีที่สุดในการป้องกันคำสบประมาท

     

     

     


                ตุ้บ!

     

                เสียงของหล่นกระทบบางสิ่งบางอย่างเรียกให้เด็กนักเรียนในห้องพากันหันไปมอง สิ่งที่พวกเขาเห็นคือจีมินยืนไออยู่ตรงประตู บนตัวเต็มไปด้วยผงชอล์คจากแปรงลบกระดานที่ร่วงลงมาใส่ จีมินยกมือขึ้นมาปัดฝุ่นนั้นออก ในขณะที่คนในห้องพากันขำราวกับมันเป็นเรื่องตลกนักหนา จีมินทำเป็นไม่สนใจเสียงหัวเราะเหล่านั้น ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขารู้สึกแย่ แต่หากเขาสนใจมัน มันก็จะทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม

     

                จีมินเดินไปนั่งที่ของตัวเอง เขามองถ้อยคำหยาบคายที่ถูกขีดเขียนบนโต๊ะ ไม่อยากรู้เท่าไหร่นักว่าเป็นฝีมือใคร เพราะบางทีคนที่เขียนมันอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่เคยมาขอให้เขาติวหนังสือให้ก็ได้

                หนังสือเรียนถูกกางออกปกปิดตัวหนังสือบนโต๊ะ จีมินพยายามเพ่งสมาธิไปที่หน้ากระดาษ ไม่สนใจเสียงซุบซิบนินทารอบตัว

     

                หลังจากวันนั้นที่เขาได้กลายเป็นเหยื่อคนใหม่ของจองกุก เรื่องมันก็ผ่านมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว แต่ที่น่าแปลกก็คือจองกุกไม่มายุ่งกับเขาอีกเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องดี แต่ว่าชีวิตของจีมินกลับไม่เรียบง่ายเหมือนเคย ไม่รู้ว่าจองกุกไปพูดอะไรไว้กับคนอื่นบ้าง ทุกคนถึงหมายหัวเขาแบบนี้ คนที่เคยคุยด้วย คิดว่าเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้แม้แต่หน้าก็ยังไม่มอง จีมินคิดว่ามันตลกดี เรื่องนี้สอนให้เขารู้ว่าสังคมของคนใส่หน้ากากเป็นอย่างไร ยังดีที่วันนี้เขาโดนแค่แปรงลบกระดานตกใส่หัว รู้สึกซึ้งใจอยู่เหมือนกันที่ไม่โดนเล่นอะไรแรงๆ ใส่แบบวันนั้น เพราะเขาคงไม่มีปัญหาเสื้อมาเปลี่ยนใหม่ทุกวันแน่ๆ

     

                นอกจากคนที่แกล้งเขาแล้ว คนที่ไม่เข้ามาแกล้งก็มี แต่ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเหมือนกัน ถามถึงอาจารย์น่ะเหรอ ลืมไปได้เลย พวกอาจารย์ที่กลัวอำนาจเงินก็ทำได้แค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เท่านั้น สิ่งที่จีมินต้องทำมีเพียงแค่อดทน อดทน และอดทน เหลือเวลาอีกแค่ปีกว่าก็จะเรียนจบ ลาออกตอนนี้ก็มีแต่จะลำบาก มีไม่กี่โรงเรียนที่จะให้ทุนการศึกษาเต็มที่ขนาดนี้ แถมถ้าเขาออกไปกลางเทอมมันจะกลายเป็นประวัติไม่ดีซะด้วยซ้ำ

     

                เฮ้อพรูลมหายใจเพื่อบอกว่าเขารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน จีมินละสายตาจากหนังสือที่เปิดอ่านแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงเพื่อนร่วมชั้นพูดคุยกันดังเซ็งแซ่แต่ก็ไม่ได้เข้าหูเขาสักนิด บางทีเสียงใบไม้เสียดสีกันยังจะฟังดูเพราะกว่าเสียงพูดคุยที่ไร้ความจริงใจ

     

                แขนเล็กยกขึ้นมาวางบนโต๊ะ เอามือเท้าคาง สายตาไล่จากท้องฟ้าสีอึมครึมไปสู่กิ่งไม้ที่พัดลู่ลม วันนี้อากาศไม่ค่อยจะดีนัก ก่อนออกจากบ้านก็ได้ยินพยากรณ์อากาศว่าช่วงนี้จะมีพายุเข้า แน่นอนว่าเขาก็ไม่ลืมที่จะเอาร่มมาด้วย เพราะไม่รู้ว่าวันนี้ฝนจะตกลงมาเมื่อไหร่

     

                อาจารย์มาแล้ว!

     

                เสียงตะโกนจากหน้าห้องทำให้ทุกคนกระจายตัวกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง จีมินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เลิกที่จะสนใจวิวข้างนอกแล้วหันกลับมาหาอาจารย์ที่กำลังเดินเข้ามา แต่ในจังหวะที่กำลังจะหันไปทางหน้ากระดาน หางตาของเขาก็เห็นใครสักคนกำลังโบกมือมาให้จากชั้นล่าง

     

                ใบหน้าที่คุ้นเคย รอยยิ้มร้ายที่มักจะยกยิ้มมุมปากอยู่เสมอๆ

     

                จอนจองกุก

     

                กึง!

     

                เสียงโต๊ะชนกับผนังเสียงดัง จีมินรีบก้มหัวขอโทษผู้เป็นอาจารย์ ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องส่งเสียงด่ามาเป็นระยะว่าเซ่อซ่าไม่เข้าเรื่อง แต่เขาไม่สนใจมันอีกแล้ว คนข้างล่างนั่นพาเอาสติของเขากระเจิง ตอนนี้เขารู้สึกชาวาบไปทั้งตัว หัวใจแทบหล่นลงไปอยู่ที่เท้า จีมินรู้สึกว่าตัวสั่นเขาอย่างไม่มีสาเหตุ คิดในแง่ดีว่าตัวเองคงตาฝาด แต่เมื่อมองออกไปที่เดิมก็ยังเห็นจองกุกยืนส่งยิ้มให้เขาไม่ไปไหน

     

                ครืด~ ครืด~

     

                เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นเพราะข้อความเข้าทำเอาสะดุ้งโหยง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร จองกุกกำลังกดยุกยิกๆ ลงบนโทรศัพท์มือถือ เป็นเวลาเดียวกับที่ข้อความเข้าเด้งขึ้นมาไม่มีหยุด เมื่อจองกุกพอใจก็เงยหน้าส่งรอยยิ้มให้แล้วเดินจากไป

                มือเล็กสั่นไม่กล้าเปิดดูข้อความที่ส่งเข้ามา เงยหน้าไปเจออาจารย์ที่อยู่หน้าห้องกำลังส่งสายตาดุๆ มาให้ก็ตัดสินใจเก็บมือถือตัวเองเข้ากระเป๋า จีมินเปิดหนังสือเรียน บอกให้ตัวเองสนใจแต่การเรียนตรงหน้าเท่านั้นเรื่องข้อความอะไรนั่นไว้ตอนกลางวันค่อยเปิดอ่านก็คงจะไม่เป็นอะไร

     

     

     

     

    ------------------------------Law of The Jungle------------------------------

     

     

     

     

                ทำไมถึงยังไม่มาจองกุกบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด เมื่อชั่วโมงก่อนเขาส่งข้อความบอกให้จีมินมาหาที่ห้อง แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงก็ยังไม่โผล่มา คนตัวเล็กนั่นอยากจะลองดีกับเขารึยังไงกัน

     

                บ่นอะไรคนเดียวอยู่ได้โฮซอกถาม ขายาววางพาดโต๊ะ มือก็หยิบขนมกินอย่างสบายอารมณ์ แล้วไม่ไปเรียนรึไง

     

                แล้วมึงล่ะ มานอนเล่นอะไรที่นี่

     

                กำลังหาแรงบันดาลใจพูดพลางยัดขนมใส่ปาก ไม่ต้องเรียนแต่เกรดก็ยังออกมาสวยงาม ต้องขอบคุณอำนาจเงินจริงๆนั่นล่ะ

     

                เบื่อว่ะ

     

                เบื่อก็ออกไปข้างนอกสิ จะมาอุดอู้อยู่ที่นี่ทำไม เห็นไอ้แทฮยองมันบอกจะไปหาอะไรทำ ทำไมไม่ไปกับมันล่ะ

     

                ไม่ล่ะ กำลังรอเหยื่ออยู่

     

                อ๋อ! หมาน้อยจากห้อง 2-A น่ะนะตบมือเสียงดังฉาดใหญ่ โฮซอกจำได้ดี พัคจีมินจากห้อง 2-A ที่โดนจองกุกเล่นงานซะหนักไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เห็นไม่ได้พูดอะไรก็นึกว่าจะเลิกสนใจไปแล้วซะอีก

     

                จองกุกมองคนที่เคี้ยวขนมแก้มตุ่ย คำที่อีกฝ่ายเรียกเหยื่อของเขาทำให้นึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ร่างเล็กที่เปียกน้ำนั่งตัวสั่นเหมือนลูกหมาตกน้ำเห็นแล้วมันยิ่งทำให้เขาอยากรังแกอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก

     

                หมาน้อย? หึ นั่นสินะ เป็นลูกหมาจริงๆ นั่นแหละ

     

                แต่คนที่คิดว่าเป็นลูกหมากลับทำตัวดื้อกว่าที่คิด เพราะนี่ก็ใกล้เที่ยงแล้วแต่คนที่จองกุกรอก็ยังไม่มาเสียที ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นกว่าเดิม คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม เป็นแค่เหยื่อทำไมถึงได้ดื้อด้านแบบนี้กันนะ

     

                อ๊อดด ~ อ๊อดด ~

     

                เสียงออดดังบ่งบอกว่าถึงพักกลางวัน จองกุกที่เริ่มทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง กดส่งข้อความไปหาลูกหมาจอมดื้อ ในเมื่อไม่ฟังคำสั่งเจ้าของก็คงต้องสั่งสอนกันสักหน่อย

     

                เมินฉัน? โอเค วันนี้เราคงต้องมาเจอกันหน่อยแล้วล่ะ รีบหนีให้ไว อย่าให้ฉันจับได้ เพราะการล่าได้เริ่มขึ้นแล้ว

                                                                                                                                        -จองกุก-

     

                ทำยังไงดี ทำยังไงดีจีมินพูดในขณะที่เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น ยกนิ้วขึ้นมากัดเล็บบ่งบอกถึงความเครียดที่เกาะกุม หลังจากที่เขากลั้นใจเปิดอ่านข้อความก็แทบจะทำโทรศัพท์มือถือร่วงลงพื้น

     

                ล่า? ล่าอะไรกัน เขาไม่ใช่สัตว์ที่จะต้องถูกล่าเสียหน่อย

     

                เกินกว่าที่สมองจะรับไหว เมื่อคิดอะไรไม่ออกก็ทิ้งตัวลงนั่งพิงต้นไม้ใหญ่ สถานที่หลบซ่อนตัวที่ประจำจากผู้คนที่แสนวุ่นวายในช่วงเวลาพักกลางวัน เปลือกตาคู่สวยปิดลง พยายามไม่คิดถึงเรื่องข้อความทั้งหลายแหล่ที่ดูเหมือนจะถูกส่งมาเพื่อกดดันเขา แต่ก็ดูจะไร้ความหมาย

     

                เสียงกริ่งบอกหมดเวลาพักทำให้ดวงตาเล็กลืมขึ้นเพราะคิดว่าได้เวลาที่จะต้องกลับเข้าห้องเรียน หากต้องตัวแข็งทื่อ ลมหายใจสะดุด เมื่อบุคคลที่ยืนแสยะยิ้มอยู่ห่างจากเขาไปเพียงไม่กี่เมตรคือคนเดียวกันกับที่ส่งข้อความมาให้เขาก่อนหน้านี้

     

                ไง ฉันจับนายได้แล้วนะ

     

                ฉะฉันจะกลับห้องแล้วกระวีกระวาดลุกขึ้นอย่างรีบเร่ง ในหัวคิดแต่ว่าต้องรีบออกจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด

     

                เดี๋ยวสิแค่เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้จีมินหยุดชะงัก นายลืมหนังสือน่ะ

     

                จีมินหันกลับไปมอง ในมือของจองกุกมีหนังสือเรียนของเขาอยู่ และเจ้าปีศาจนั่นกำลังมุ่งตรงมาหาเขา จองกุกยื่นหนังสือมาให้ ซึ่งคนตัวเล็กก็รับมันอย่างกล้าๆ กลัวๆ หากแต่จังหวะนั้นเอง มืออีกข้างที่กำลังว่างของจองกุกก็เอื้อมมากระชากผมของจีมินอย่างแรง จนหนังสือในของจีมินมือร่วงลงพื้น

     

                โอ๊ย!ร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อแรงจากมือแกร่งนั้นไม่ได้เบาลงเลย

     

                เจ็บสินะ โทษที ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ จองกุกมองจีมินด้วยใบหน้าสนุกสนาน ต่างจากคนตัวเล็กที่ส่งสายตาไม่ชอบใจไปให้อย่างปิดไม่มิด

     

                ทำไมถึงทำแบบนี้

     

                นายขัดคำสั่งฉันเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น กระซิบเสียงเบาที่ข้างหู ฉันบอกแล้วไงว่าให้หนีให้ไว อย่าให้ฉันจับได้ เพราะบทลงโทษของนายกำลังรออยู่

     

                ใบหน้าเล็กถอดสีเมื่อได้ยินถ้อยคำประสงค์ร้าย จีมินพยายามจับเข้าที่มือของจองกุกเพื่อดันออก ตอนนี้เขารู้สึกเจ็บไปทั้งศีรษะ ปากเล็กเอ่ยอ้อนวอน ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเพิ่งเปิดอ่านมันเมื่อกี้นี้ ฉัน…”

     

                แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อจองกุกเห็นว่ามันเป็นเพียงข้อแก้ตัวของคนขี้ขลาด เขาคลายมือที่จับผมนิ่มออก พูดเสียงเบา ไปสิ

     

                จีมินมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ คนตัวสูงกำลังยืนเอามือล่วงกระเป๋าส่งยิ้มมาให้เขา นั่นทำให้เขาเดาใจไม่ออกว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ จีมินรีบก้มลงหยิบหนังสือที่หล่นอยู่บนพื้น เป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่เล่มสุดท้ายนั้นมันดันตกอยู่ใกล้ๆ กับเท้าของจองกุกพอดี

                มือเล็กเอื้อมมือไปหวังว่าจะหยิบมัน แต่กลับต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อโดนเท้าของจองกุกเหยียบเข้าที่มือเต็มแรง

     

                โอ๊ะ โทษที พอดีฉันไม่เห็นแสร้งทำเสียงเศร้าแล้วยกเท้าขึ้น ก่อนจะหันหลังเดินกลับไป แต่ก็ไปได้ไม่ไกลนัก เพราะจองกุกทำท่าเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก เขาหันกลับมาพูดกับคนตัวเล็กพร้อมรอยยิ้ม

     

                อ้อ วันนี้หลังเลิกเรียนมาหาฉันที่ห้องประธานนักเรียนด้วยนะ

     

                จีมินมองตามแผ่นหลังของคนที่เดินจากไป เขากุมมือที่ขึ้นสีจากการถูกเหยียบไว้แน่น พอคิดว่าเย็นนี้จะต้องพบกับคนใจร้ายอีกก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่สิ่งรู้คือคงไม่พ้นจะได้เจ็บตัวอีก

     

     

     

     

    ------------------------------Law of The Jungle------------------------------

     

     

     

     

                ปัง!

     

                เสียงปิดประตูทำให้จองกุกหันไปมอง ใบหน้าน่ารักเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ยืนอยู่ตรงนั้น เขามองลูกหมาตัวน้อยที่เดินมาหาเขาอย่างหวาดระแวง เป็นท่าทางที่ตลกจนแทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่

     

                นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว

     

                มีอะไรก็พูดมา ฉันจะรีบกลับบ้าน

     

                มาเล่นเกมกัน ไม่ได้สนใจคำถามนั้น จองกุกเอ่ยชวนจีมินเล่นเกม แต่ด้วยสัญชาตญาณที่มี ทำให้จีมินรู้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

     

                จีมินมองคนตรงหน้าด้วยความไม่ไว้ใจ เขาเห็นจองกุกหยิบสำรับไพ่ขึ้นมา จองกุกหยิบไพ่ใบแรกบนสำรับมาชูไว้ตรงหน้าเขา มันคือไพ่คิงและโจ๊กเกอร์ ซึ่งคนตัวเล็กก็ได้แต่ทำคิ้วขมวดมุ่น ไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ

     

                เกมตามหาพระราชา

     

                ถึงแม้จะได้คำตอบแล้ว แต่ปมคิ้วที่ก็ยังไม่คลาย จองกุกส่ายหน้าเบาๆ ราวกับเอือมระอาความซื่อบื้อของคนตรงหน้า

     

                โง่จริงๆ วันนี้เราจะมาเล่นเกมกัน ผู้เล่นมีแค่สองคนคือฉันกับนาย กติกาคือต้องตามหาไพ่คิงให้เจอภายหนึ่งชั่วโมง ถ้านายชนะฉันจะเลิกยุ่งกับนาย และจะไม่บอกเรื่องที่นายโกงข้อสอบ แต่ถ้านายแพ้…” หยุดไปชั่วครู่เพื่อสร้างความกดดันให้อีกฝ่าย จองกุกมองจีมินที่ยืนหน้าตึงแล้วรู้สึกสะใจจนต้องหลุดยิ้มออกมา นายจะต้องมาเป็นขี้ข้าฉัน

     

                ฉันไม่เล่น!หันหลังกลับเพื่อที่จะเดินออกนอกห้อง หากแต่ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่เมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากจองกุก

     

                ไม่เล่นก็ได้ แต่ถ้าพ่อรู้ว่านายโกงข้อสอบมันจะเป็นยังไงนะ โบกไพ่ในมือไปมา ทำหน้าเศร้าราวกับรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เพียงครู่เดียวก็กลับมาส่งยิ้มร้ายให้จีมินเหมือนเดิม

     

                นายกำลังบังคับฉันใช่มั้ย

     

                เปล่า ถามความสมัครใจล้วนๆตอบหน้าตายแล้วกวักมือเรียกโฮซอกที่นั่งเงียบอยู่ที่มุมห้องอยู่นานมารับไพ่จากมือเขาไป ทั้งสองคนพยักหน้าให้กันอย่างรู้งาน ที่ทำแบบนั้นก็เพราะว่าจองกุกมั่นใจ ไม่ว่าจะยังไงจีมินก็ต้องเล่นเกมนี้กับเขา

     

                และก็เป็นอย่างที่จองกุกคิด จีมินตอบตกลงถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ กับเกมนี้ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพอมีความหวังได้บ้างว่าหากเขาเป็นคนเจอไพ่ก่อน เขาจะได้กลับไปมีชีวิตที่สงบเรียบง่ายเหมือนเดิม ในเมื่อแม้แต่ขัดคำสั่งยังทำไม่ได้ก็คงมีแต่ต้องเล่นไปตามเกมเท่านั้น

     

                เอาล่ะ ตอนนี้เวลาสี่โมง นายจะต้องกลับมาที่ห้องนี้ตอนห้าโมงเย็น เริ่มเกมได้

     

               

     

     

     

                เสียงฟ้าร้องเป็นสัญญาณว่าเมฆที่ตั้งเค้าอยู่นานทำท่าว่าจะกลั่นตัวเป็นเม็ดฝนตกลงมา จีมินมองไปที่ท้องฟ้าด้านนอกอาคารเรียนแล้วก็ได้แต่นึกกลัวในใจ ท้องฟ้ามืดครึ้มแบบนั้นฝนคงจะตกหนักแน่ๆ แต่ตอนนี้ปัญหาที่เขาควรกังวลมันไม่ใช่เรื่องนั้น

                ตอนนี้เวลาผ่านไป 40 นาทีแล้ว และจีมินไม่รู้ว่าควรจะวิ่งไปที่ไหน เขาพยายามหาในที่ๆ เป็นไปได้จนทั่วแต่ก็ไม่เจอ อีกแค่ 20 นาทีเท่านั้นเวลาก็จะหมดลง เขาไม่รู้ว่าจองกุกได้ไพ่ไปแล้วหรือยัง แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ส่งข้อความมาบอกว่าเจอแล้วนั่นก็เท่ากับว่าเขายังคงมีความหวังอยู่

     

                แฮ่กแฮ่กเสียงหอบหายใจดังไปทั่วทางเดินที่เงียบเชียบ จีมินนั่งพักอยู่ขั้นบนสุดของบันไดชั้นสอง ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับห้องของประธานนักเรียน

     

                อ้าว ยังหาอยู่อีกหรอ

     

                เสียงทักจากด้านหลังทำเอาสะดุ้งโหยง พอหันไปมองก็เห็นแทฮยองยืนส่งยิ้มมาให้ จีมินทำหน้างงกับคำถามของแทฮยองจนอีกฝ่ายหัวเราะออกมา

     

                ฮ่าๆๆ นายนี่มันโง่เหมือนที่จองกุกบอกจริงๆ ด้วย

     

                หมายความว่ายังไง?”

     

                ก็ไม่รู้สินะ ฉันไปก่อนละ ดูท่าทางว่าฝนจะตกแล้ว นายเองก็รีบๆ หาให้เจอแล้วกลับบ้านไวๆ นะ บ๊ายบาย~”

     

                จีมินมองตามแทฮยองที่เดินลงบันไดไปด้วยความไม่เข้าใจ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา เมื่อเห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่มากจึงลุกขึ้นยืนและออกค้นหาไพ่อีกครั้ง

                เสียงเดินดังไปทั่วอาคารเรียน จีมินเดินเข้าห้องเรียนตัวเอง เดินขึ้นชั้นบน ลงชั้นล่างเป็นว่าเล่นแต่ก็ยังไม่เจอ สุดท้ายจึงตัดสินใจวกกลับมาที่ห้องประธานนักเรียน ที่ๆ เขาและจองกุกเริ่มออกตัว

     

                เวลาเหลืออีก 5 นาที

     

                ครืด~ ปัง

     

                ณ เวลานี้ห้องประธานนักเรียนว่างเปล่าไร้ซึ่งคนอยู่ คนตัวเล็กสอดส่ายสายตามองหาเจ้ากระดาษสี่เหลี่ยมเจ้าปัญหา ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นมันเสียบอยู่ที่หนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นหนังสือ สองขารีบก้าวไปเพื่อหวังที่จะหยิบมัน หากแต่ก็ต้องย่นปากอย่างไม่พอใจเมื่อเจ้าตัวปัญหาดันอยู่สูงเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึง จีมินเขย่งขาตัวเองเต็มที่ ยืดมือไปสุดแขนเพื่อที่จะหยิบมันออกมา โดยไม่ทันได้คิดว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่ห้องนี้

     

                อีกเพียงนิดปลายนิ้วก็จะแตะกับตัวไพ่ หากแต่ว่า

     

                เสียใจด้วยนะ เกมนี้นายแพ้เสียงที่ดังอยู่ข้างหูเหมือนกับเสียงของปีศาจ ไพ่ถูกหยิบออกไปแล้วแต่จีมินยังคงยืนค้างอยู่ท่านั้นไม่ขยับไปไหน

     

                จองกุกหัวเราะกับท่าทีที่ได้เห็น เขาเดาว่าอีกฝ่ายคงจะช็อคไปแล้ว จองกุกพลิกตัวจีมินให้หันมาหาตน มือหนาจับไหล่คนตัวเล็กแล้วบีบแน่นจนคนตัวเล็กนิ่วหน้า

     

                เกมโอเว่อร์เว้นวรรคไปเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ ไม่คิดเลยว่านายจะโง่ขนาดนี้ นี่น่ะหรอนักเรียนทุนที่พ่อภูมิใจนักหนา

     

                หมายความว่ายังไง?!” ตาเล็กเบิกกว้าง มองคนที่ถอยหลังออกไปกุมท้องหัวเราะจนตัวงอ

     

                มันหลอกนายน่ะสิ โง่จัง ตอนที่นายวิ่งโร่หาไพ่มันก็นั่งมองนายจากจอคอมอยู่นานสองนาน ไพ่น่ะมันยังไม่ได้ออกไปจากห้องนี้แม้แต่สักนิดเดียวโฮซอกที่เดินเข้ามาเอากระเป๋านักเรียนเอ่ยขึ้น

     

                นายโกง! ตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ

     

                แล้วฉันบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าเราจะเล่นกันแบบไม่ตุกติกน่ะ อีกอย่างได้มองนายวิ่งไปทั่วแบบนั้นก็สนุกดี

     

                เหมือนกับมีอะไรมาทุบหัวเข้าอย่างจัง จีมินหน้าชากับคำตอบที่ได้รับ ที่เขาวิ่งไปมาจนเหงื่อแตกพลั่กก็เพื่อเป็นตัวตลกให้จองกุกได้ดูเล่นงั้นหรอ?!

     

                หลบไป!มือเล็กผลักอกจองกุกอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซ หากแต่จองกุกก็ดึงตัวจีมินเอาไว้แล้วผลักจนหลังจีมินกระแทกเข้ากับชั้นหนังสือไม่เบานัก

     

                เฮ้ย! จองกุก กูไปก่อนนะ ฝนจะตกแล้วว่ะ เจอกันพรุ่งนี้

     

                จองกุกไม่ได้สนใจคำบอกลาของเพื่อนสนิท เขาจ้องมองคนตรงหน้า แววตาโกรธเคืองแบบนั้นมันทำให้เขารู้สึกดีเป็นบ้า เหยื่อที่นอนนิ่งๆ ให้กัดมันจะไปสนุกอะไร การที่ได้เห็นว่ามีคนต่อต้านเขาบ้างมันทำให้เขารู้สึกว่าการล่าสนุกมากยิ่งขึ้น

     

                ปล่อย! นายโกงฉัน นายมันแย่! แย่ที่สุด!

     

                มันผิดที่นายโง่เองไม่ใช่รึไงจากแววตาขี้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา ถึงมันจะสนุกแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ชอบใจนักหรอกที่ให้คนระดับชั้นต่ำกว่ามาด่าว่าอยู่แบบนี้

     

                นายจะเอาอะไรกับฉันอีก ฮะ!

     

                ลืมกติกาไปแล้วหรือไง ว่าถ้านายแพ้จะต้องเป็นขี้ข้าฉันจีมินกัดปากตัวเองแน่นเมื่อได้ยินที่จองกุกพูด นี่เคยมีใครบอกหรือเปล่าว่าปากนายสวย

     

                อยู่ๆ จองกุกก็เปลี่ยนอารมณ์จนจีมินแปลกใจ นิ้วของจองกุกแตะแผ่วเบาลงบนริมฝีปากอิ่ม จีมินหันหน้าหนี เขารู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ที่อยู่รอบตัว มือเล็กดันอกอีกฝ่ายออกแต่มันก็ไม่เป็นผล เขารีบหลับตาลงเมื่อเห็นว่าใบหน้าของจองกุกเขยิบเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

     

                ดูท่าทางว่าฝนจะตกแรงนะ

     

                เสียงพูดของจองกุกเรียกให้คนที่หลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมอง จีมินเห็นจองกุกเดินออกไปตรงหน้าต่าง ทั้งๆ ที่เมื่อครู่นี้อีกฝ่ายทำท่าเหมือนกำลังจะจูบ

                คนตัวเล็กสะบัดหัวไปมาเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรแปลกๆ จองกุกจะมาจูบเขาทำไมกัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่อีกฝ่ายจะทำแบบนั้น

     

                ฝนตกแรงขนาดนี้แล้วนายคงกลับลำบาก มาสิ ฉันจะไปส่งคำพูดที่ดูมีน้ำใจทำให้จีมินสับสน คนอย่างจองกุกน่ะเหรอจะมาทำอะไรที่ดูเห็นใจเพื่อนมนุษย์แบบนี้

     

                ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้

     

                คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ นายนี่ใจร้ายจริงๆ มานี่!กระชากแขนอีกฝ่ายให้เดินตาม ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะขัดขืนแต่ก็ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ ขายาวก้าวฉับๆ ไม่สนใจว่าคนตัวเล็กจะเดินตามทันหรือไม่ มืออีกข้างก็กดโทรศัพท์เรียกให้คนขับรถมารอรับที่หน้าประตู

     

                เมื่อรถมาถึง จองกุกผลักให้จีมินเข้าไปในรถอย่างรุนแรงจนศรีษะของจีมินกระแทกขอบประตูเข้าอย่างจัง ส่วนคนตัวเล็กที่ยังมึนๆ พอรู้ตัวอีกทีรถก็เคลื่อนตัวแล้ว หากแต่ทางที่กำลังไปมันไม่ใช่ทางกลับบ้านของเขา มันเป็นทางไปหลังโรงเรียน ซึ่งมืดและไม่ค่อยมีรถผ่านไปมา

     

                นี่เรากำลังจะไปไหน!

     

                ไปส่งนายไง

     

                แต่นี่มันทางไปหลังโรงเรียนนะ!

     

                ถึงแม้ว่าฝนที่ตกกระหน่ำจะบดบังทัศนียภาพไปจนหมด แต่จีมินก็จำเส้นทางนี้ได้เพราะเคยมาเมื่อครั้งที่อาจารย์ใช้ให้มาหาตัวอย่างไปทดลองในคาบวิทยาศาสตร์

     

                ใช่ นึกว่าจะโง่จนจำทางไม่ได้แล้วซะอีก

     

                แต่ฉันจะกลับบ้าน!” ตะโกนใส่อย่างเหลืออด อยากจะเปิดประตูแล้วกระโดดออกไปแต่ก็ใจไม่กล้าพอ จึงทำได้เพียงนั่งกระสับกระส่าย รอเวลาที่รถหยุดวิ่ง

     

                ฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา รถยุโรปคันหรูที่เหมือนกำลังวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายอยู่ๆ ก็หยุดลง จีมินหันไปมองคนข้างตัวอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก บรรยากาศภายในรถมันน่าอึดอัดเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมา แล้วจองกุกก็เผยรอยยิ้มร้าย เขาเอื้อมมือไปเปิดประตูฝั่งที่จีมินนั่ง เขาผลักคนตัวเล็กลงไปอย่างไม่ใยดี

     

                โอ๊ย!!ร้องออกมาไม่เบานักเมื่อก้นกระแทกพื้น อีกทั้งมือยังครูดกับพื้นหินจนรู้สึกชา

     

                บทลงโทษที่นายเมินฉันวันนี้

     

                ตุ้บ!

     

                นี่กระเป๋านาย กลับบ้านดีๆ นะ ไอ้โง่

     

                บรื้น~

     

                รถหรูเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง ทิ้งจีมินให้อยู่เพียงลำพังกับฝนที่ตกกระหน่ำ คนตัวเล็กนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่าความเจ็บที่มือมันเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว พอยกมือมาดูก็ได้แต่อ้าปากค้าง เพราะเมื่อกี้แทนที่มันจะเป็นพื้นหินธรรมดา แต่กลับมีก้อนหินแหลมอยู่แถวนั้นด้วยพอดี จีมินที่ล้มทับมันจึงโดนบาดเลือดอาบอย่างไม่ต้องสงสัย

     

                จอนจองกุก ไอ้บ้า! โอ๊ย!กุมข้อเท้าตัวเองที่เจ็บไว้แน่น สงสัยว่ามันคงจะแพลงตอนที่หล่นลงจากรถเมื่อครู่นี้ คนตัวเล็กสบถออกมาอย่างหัวเสีย กับอาการที่เจ็บไปทั่วร่างกาย

                ให้ตายสิ จะเจ็บไปให้หมดทุกส่วนของร่างกายเลยมั้ยพัคจีมิน!

     

                เขาควานหาร่มของตัวเองแต่ก็ต้องสบถออกมาอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันถูกวางไว้ที่ห้องเรียน จีมินถอนหายใจ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พยุงร่างกายเดินกะเผลกๆ เพื่อออกไปยังทางด้านหน้าโรงเรียน ในใจท่องคำว่าอดทน อดทน และอดทน ซ้ำไปมา

                เขาต้องอดทน อีกแค่ปีกว่าเท่านั้นเขาก็จะหลุดจากเรื่องบ้าๆ พวกนี้แล้ว หรือถ้าโชคดีกว่านั้น เมื่อไหร่ที่จองกุกเจอเหยื่อคนใหม่ก็คงจะเลิกสนใจเขา ซึ่งจีมินก็ได้แต่ภาวนาให้วันนั้นมาถึงไวๆ

     

                คืนวันนั้นพอถึงบ้าน จีมินก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไม่ให้คุณยายสงสัย แต่ก็ไม่วายถูกจับได้เรื่องแผลอยู่ดี จีมินโกหกว่าเขาหกล้มที่โรงเรียนเพื่อไม่ให้คุณยายต้องเป็นห่วง ก่อนจะขอตัวเข้านอน แต่พอล้มตัวลงนอนแล้วกลับข่มตาไม่หลับ ทั้งอาการเหมือนไข้รุมเร้า ทั้งอาการปวดที่ก้นกบไปจนถึงข้อเท้า อีกทั้งยังคิดมากเรื่องที่พรุ่งนี้ต้องไปเจอจองกุกที่โรงเรียน หลายๆ สิ่งมันโถมเข้ามาพร้อมกันเหมือนกับพายุลูกใหญ่ พลันหูได้ยินเสียงโทรทัศน์ที่คุณยายเปิดไว้แว่วๆ มาว่าพายุจะเข้าอีกหลายวันแล้วก็ต้องหัวเราะกับตัวเอง

     

                ถ้าจะเปรียบกันแล้ว ตอนนี้จองกุกก็คงเป็นพายุสำหรับเขา ทั้งรุนแรง และร้ายกาจ อยู่ใกล้ก็มีแต่จะพัง โดนดูดเข้าไปในวงของพายุทั้งที่ไม่ต้องการ และทำได้เพียงรอให้พายุลูกนั้นพัดจากไปเอง

     

     





                                        -----------------------------------------------------------------------------------------------------

    KATAEBUM TALK

    บอกละว่ากลับมาเร็วๆนี้ เร็วป้ะล่า 55555555555555555

    แต่งเรื่องนี้ก็เครียด เครียดเพราะหาวิธีมารังแกจีมินนี่ล่ะ

    นี่เตรียมทายาให้จีมินทุกวัน กว่าจะจบเรื่องร่างระบมแน่ๆ ฮือ

    เจอกันตอนหน้านะฮับ

    ไม่สะดวกเม้นต์ก็ติดแท็กได้นะก๊ะ พร้อมอ่านเสมอ จุ๊บๆ

    #ฟิคป่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×