คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter 04 : นับหนึ่ง / ความทรงจำที่สร้างใหม่
chapter 04 : นับหนึ่ง / ความทรงจำที่สร้างใหม่
ท่ามกลางแดดจ้าของเวลาเที่ยงตรง ชายคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบพร้อมสะพายกระเป๋ากีต้าร์ใบใหญ่บนหลังไปตามเนินคดเคี้ยวอย่างงุ่มง่าม ทรงผมที่ดูเหมือนเพิ่งลุกออกมาจากเตียงนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ ที่เค้าไม่มีแม้แต่เวลาที่จะเช็ดมัน
“โธ่เว้ย สายจนได้!!!!” เค้าสบถกับตัวเอง
ทำไมต้องไปฝันถึงวันแรกที่เจอกันด้วยวะ!!! ทั้งๆที่อยากจะลืมทุกอย่างแท้ๆ
หนีมาอยู่คนเดียว แต่ก็ยังเจอกันในฝันซะได้!!!....
ช่างเถอะ!!
เค้าบอกตัวเอง.... หากจะเริ่มต้นใหม่ ก็อาจจะต้องทำตัวให้ชินกับการย้อนเวลาในหัวตัวเองแบบนั้นซะ
ไม่นานนักถนนคอนกรีตลาดชันก็พาเค้ามาสู่ร้านอาหารเล็กๆริมทะเลที่แลดูเงียบสงบ
“ขอโทษครับ!!! มีใครอยู่มั้ย??” นัทตะโกน
“ผมนัทครับ... ที่จะมาสมัครเล่นดนตรี”.....
เงียบ....
ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆออกมาจากร้านเล็กๆนั่น ยกเว้นเสียงกระดิ่งที่ดังกรุ๊งกริ๊งไปตามกระแสลม...
“ไม่มีคนงั้นบุกนะ!!” นัทพูดกับตัวเองพลางผลักประตูไม้เก่าๆเข้าไปข้างในร้าน
ถึงจะดูมืดๆ แต่บรรยากาศในร้านก็สวยน่าดู แบบนี้คงอยู่ได้นาน... เค้าคิด
“เห้ยยยย!! เข้ามาได้ไงวะ!!!”
เสียงๆหนึ่งดังขึ้นจนนัทสะดุ้งโหยง
“เอ่อ ก็ตะโกนแล้วแต่ไม่มีคนตอบ..” นัทตอบห้วนๆด้วยความเหนื่อย
“มีธุระอะไร?!! ไม่มีคนตอบแล้วบุกเข้ามาแบบนี้ มารยาทน่ะมีมั้ย!!!” เจ้าของเสียงดุดันง้างมือขึ้นสุดแขน
“พี่คะ!!!”
“อย่าใช้กำลังได้มั้ย คุยกับเค้าดีๆก่อน...” หญิงสาวคนหนึ่งพุ่งเข้ามา
“ก็ไอ้นี่มันบุกร้านพี่”
“เค้ายังไม่ได้บอกเลยว่าเค้าเข้ามาทำไม ถามเค้าก่อนสิ...” เธอห้ามปราม
“ชื่ออะไรน่ะ แล้วเข้ามาทำไม ไม่เห็นเหรอว่าร้านปิดอยู่?”
“นัทครับ... มาสมัครเล่นดนตรี จริงๆก็โทรมาแล้ว แต่ผมมาสายไปหน่อย...”
“อ่อ...” หญิงสาวพยักหน้า ก่อนหันไปพูดกับชายร่างสูงคนนั้น
“แขกของน้องเอง น้องเห็นนักดนตรีร้านเราลาออกไปหลายคน เลยประกาศรับสมัคร” เธอยิ้ม
“ไปนั่งตรงนั้นก่อน ชั้นชื่อต้าร์นะ.. เธอคือนัท นัทใช่มั้ย?...”
“เล่นดนตรีอะไรเป็นบ้างล่ะ??” ชายร่างสูงเอ่ยถาม
“ผมเล่นกีต้าร์ครับ แล้วก็เปียโน.. ก็พอได้..” นัทตอบเสียงเรียบ“
ขอโทษด้วยที่โมโหเมื่อกี๊.... เราชื่อโย่ง เป็นเจ้าของร้าน” เค้าแนะนำตัว
“ตอนนี้ร้านเราขาดคนพอดี หวังว่าจะอยู่กับเรานานนะ ที่เนี่ย นั่งเรือเข้าๆออกมันก็ลำบาก
คนท้องถิ่นก็ไม่ค่อยมีนักดนตรี อยู่ไปอยู่มา ไม่กี่เดือนก็ลาออก...เอ้า คืนนี้ลองมาเล่นได้เลย”
ได้งานแล้ว.. นัทคิด
อย่างน้อยก็เป็นการประกันว่า เค้าจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกซักพัก
อย่างน้อยก็มีเวลาบางช่วง ที่เค้าจะไม่ต้องมานั่งฟุ้งซ่าน คิดถึงเรื่องที่ไม่ควรจะคิดถึงอีก...
.
.
.
.
.
.
ในคืนนั้นเอง... เสียงกีต้าร์เศร้าสร้อยจากกีต้าร์โปร่งรูปทรงแปลกก็ได้เริ่มบรรเลงคลอไปกับเสียงคลื่นที่กระทบฝั่งอย่างเป็นจังหวะ...
หลายครั้งหลายหน ที่บทเพลงจากมือของเค้า พาความรู้สึกต่างๆของเค้าที่หวังจะให้ลอยหายไปกับทะเลกลับมาเข้าฝั่ง... หลายทีที่เค้าต้องพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้
ร่างกายที่อ่อนล้าค่อยๆล้มลงบนเตียงนอนที่เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจาย
“สิ่งที่เราทำ มันถูกต้องแล้วจริงๆเหรอ?” นัทถามตัวเองอีกครั้ง
ก่อนจะค่อยๆหลับตาลง ให้ความมืดของท้องฟ้าพาเค้าไปสู่โลกที่อาจจะไม่ต้องคิดอะไร...
.
.
.
.
.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในห้องสีเทา นาฬิกาตีบอกเวลาตีสาม...
ไฟสีส้มยังเปิดสว่างอยู่ข้างหัวเตียง ดวงตาคู่หนึ่งยังคงจ้องมองไปที่แหวนสีเงินเล็กๆในมือ...
วันนี้วันที่เท่าไหร่.. เค้าไม่รู้
เค้ารู้แค่ว่า มีความทรงจำอะไรบางอย่างหายไปจากหัวสมองของเค้าในตอนนี้
และหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนโซฟาตรงหน้า ก็คงซ่อนความลับอะไรของเค้าเอาไว้มากมาย...
เธอคงนอนหลับสนิทไปแล้ว.. เค้าคิด
ร่างบางๆพยายามประคองตัวเองลงจากเตียงที่นอนอยู่ มุ่งตรงไปยังประตูบานใหญ่ตรงหน้า
ประตูที่แทบจะถูกล๊อคไว้ตลอดเวลา ราวกับจะขังเค้าไว้ในนั้น...
แต่ไม่หรอก เค้าเองมากกว่า ที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินออกไปไหนได้...
“วันนี้มันอาจจะไม่ได้ล๊อค”...
แต่ก็เหมือนเมื่อวาน วันนี้ประตูบานนั้นมันล๊อคอีกเช่นเคย
ไม่ว่าจะขยับลูกบิดเท่าไหร่ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออก
“บางทีมันอาจจะเป็นความคิดโง่ๆก็ได้ ที่คิดจะหนีออกไปจากที่นี่ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร...”
ซินพูดกับตัวเองเบาๆ
“และบ้ามากกว่านั้นที่คิดจะหนีไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน...พี่ซิน...”
เสียงหญิงสาวที่เอ่ยขึ้นทำเอาซินสะดุ้งสุดตัวจนเกือบล้มลง
“ถ้าถึงเวลา แล้วจะบอกเอง... เราสัญญา” เธอยิ้ม
“แต่นี่ก็หลายวันแล้ว แป้งก็ยังไม่บอกอะไรเรา”
“แป้งก็แค่เป็นห่วงพี่ซินเท่านั้น!!!... ที่ผ่านมาพี่ซินก็ทำให้เราเป็นห่วงมาตลอด ช่วยอยู่ที่นี่ให้เรารู้สึกสบายใจกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ!!?”
“อือ....” ซินพยักหน้าตอบอย่างรับรู้ชะตากรรม
อย่างน้อยเธอคนนี้ก็เป็นคนรู้จักคนเดียวของเค้า
อย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ยังอุ่นใจได้ว่าคงไม่มีอะไร....
แต่อย่างน้อยเค้าควรจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเค้าให้มากกว่านี้...
“เดินไหวมั้ย เดี๊ยวแป้งพยุงไปที่เตียงเอง”
“ไม่เป็นไร เราเดินเองได้...”
เค้าควรถามมั้ยนะ ว่าแหวนวงนี้มีความหมายอะไร....
“แป้ง....”
“อะไรหรอ ?”
“แหวนวงนี้ แป้งเคยเห็นมันมั้ย?” ซินเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนัก..
“พี่ซินได้มันมาจากไหน.....”
มันต้องมีอะไรเกี่ยวกับแหวนวงนี้แน่ๆ หญิงสาวดูตกใจไม่น้อยที่เห็นสิ่งนี้ในมือเค้า...
“มันหล่นอยู่แถวๆหมอน...”
“มันไม่สำคัญอะไรหรอก ขอนะ....” เธอแบมือ
ตั้งแต่แรกๆที่เค้าลืมตามาเจอเธอคนนี้ เค้าก็รู้สึกได้แล้วว่าเธอโกหกไม่เก่ง และปิดบังความรู้สึกตัวเองไม่ค่อยมิดเท่าไหร่ มือที่แบออกมาขอแหวนจากมือเค้าในตอนนี้ นั้นดูสั่นเทา แววตาของเธอดูเหมือนหวาดกลัวอะไรบางอย่าง น้ำตาเหมือนใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที...
“คงให้ไม่ได้...” เค้าตอบ
“คงให้ไม่ได้จนกว่าจะรู้อะไรมากกว่านี้... เราง่วงแล้ว ขอนอนนะ” ซินตัดบทสนทนาก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหลับตาลงอย่างเสียไม่ได้
“อืม....” หญิงสาวหดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
“เดี๊ยวไปปิดไฟหัวเตียงให้” เธอยิ้ม
.
.
.
.
ทันทีที่แสงไปดับมืดลง...
ซินรู้สึกถึงริมฝีปากเล็กๆริมฝีปากหนึ่ง ที่กำลังถาโถมเข้ามาพรมจูบไปทั่วหน้าผาก และปากของเค้า เสียงลมหายใจเข้าออกดังชัดเจนอยู่ใกล้หู... มือทั้งสองข้างของเค้าถูกกดลงอย่างหนักหน่วงเกินกว่าที่เค้าจะสะบัดออกด้วยเรี่ยวแรงที่มีเหลืออยู่น้อยนิด
“แป้ง...ทำอะไร...?!” หน้าของเค้าร้อนชา
“แป้ง หยุดเดี๊ยวนี้!!!.....” ชายหนุ่มตะโกน
“พี่ซิน... จริงๆแล้วเราเป็นแฟนกัน.. เราจะดูแลกันแบบนี้ตลอดไป
ทิ้งแหวนนั่นไปซะเถอะ” .....
.
.
.
.
.
เสียงปิดประตูดังขึ้นมาในความมืด
หญิงสาวเดินออกจากห้องนั้นไปแล้ว และแหวนวงนั้น ตอนนี้ยังคงอยู่ในมือของเค้า...
ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่
จูบเมื่อกี๊นั้นเต็มไปด้วยคำถาม...
ทว่าคำตอบนั้นคืออะไร ??
และคำถามนั้นคืออะไร ??
----------------------------------------------------------------------------------
จากผู้เขียน - รู้สึกว่าจะดราม่ามันซะทุกตอนเลย จริงๆเขียนย้อนเรื่องไปมาแบบนี้มันยากพอดูเลยล่ะค่ะ หวังว่าจะสร้างความแปลกใหม่ในการอ่านให้หลายๆคนได้บ้าง อีกอย่างอย่าเพิ่งตกใจไปเรื่องการสลับคู่แบบนี้ (อย่าโกรธคนเขียนนะ) ทุกๆคนในเรื่องมีเหตุผลของการกระทำนั้นๆเสมอ
ชอบไม่ชอบยังไง ติชมตามสบายนะคะ - เดซี่
ความคิดเห็น