คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter 02 : คำถามที่ยังไม่มีใครตอบ
“ไอ้แหวนนี่มันของใครกันนะ... และทำไมเราต้องรู้สึกแปลกๆทุกครั้งที่จ้องมองมันด้วย”
ซินตั้งคำถามขึ้นในใจตัวเอง พลางพลิกแหวนที่ดูคล้ายๆเลขแปดนั้นไปมา
นี่มันก็วันที่สามเข้าไปแล้วที่ซินนอนเฉยๆอยู่บนเตียงภายในห้องสีเทาสลัวๆ โดยมีหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองชื่อแป้งคอยเฝ้าดูแลอยู่ และวันนี้ก็เช่นกัน ตอนนี้เธอคงกำลังทำอาหารเช้าให้เค้าเหมือนกับสองสามวันที่ผ่านมา
“ควรจะลองถามเธอดีมั้ยนะ??” ซินตั้งคำถามขึ้นอีกครั้ง
แหวนวงนี้มีบางอย่างที่ทำให้เค้าอยากรู้ถึงที่มาของมัน แต่ทุกครั้งที่เค้าเอ่ยปากถาม ก็มักจะมีอะไรบางอย่างมาขัดบทสนทนาของเค้าและแป้งเสมอ รวมถึงชื่อของคนๆนึงที่แว้บเข้ามาในหัวของเค้าแทบใจทุกคืนด้วย...
“นัท....”
ชื่อที่ติดอยู่ในหัวของเค้า ชื่อที่เค้าไม่อยากจะให้มาอยู่ในหัวของเค้านัก
เพราะทุกครั้งที่มันปรากฏขึ้นมา ในใจเค้าก็จะมีความเจ็บปวดบางอย่างโผล่เข้ามาด้วย...
“พี่ซิน อาหารเช้าได้แล้ว...”
หญิงสาวเดินถือถาดอาหารเข้ามาในห้อง เธอวางมันลงบนโต๊ะข้างๆเตียง กลิ่นที่ผ่านจมูกไปนั้นไม่ค่อยจะสู้ดีนัก... เธอดูแลเค้าดีเหมือนกับเป็นพยาบาล แต่คงไม่เก่งเร่ื่องการเป็นแม่ครัวซักเท่าไหร่
“นี่อะไร ??” ซินถาม
“โจ๊กไง... ลืมชื่ออาหารด้วยเหรอ ??”
“เปล่า.. โจ๊กน่ะรู้จัก แต่มันต้องสีขาวนี่ แต่นี่มันสีน้ำตาล...” ซินขมวดคิ้ว
“อ่อ... สูตรพิเศษ คือ... สูตรซีอิ้วดำ” แป้งตอบหน้าเจื่อนๆ จริงๆเแล้วเธอไม่ได้ตั้งใจจะใส่ซีอิ้วดำลงไปหรอก แต่ขวดซีอิ้วในครัว มันมีเยอะเกินไปจนเธอแยกแยะไม่ค่อยจะออกก็แค่นั้น
“รสแปลกมากเลย” ซินเบ้ปาก
“กินเถอะน่า ขอโทษที... ก็ปกติไม่ค่อยได้ทำกับข้าว”
“อ่าว แล้วอยู่คนเดียว ไม่ได้ทำกับข้าว แล้วใครทำให้กิน ??” ซินถาม ใจนึงก็อยากรู้จริงๆว่าเธอมีชีวิตอยู่ได้ด้วยโจ๊กซีอิ้วดำนี่ได้อย่างไร แต่อีกใจนึง เค้าก็หวังว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆจากผู้หญิงชื่อแป้งคนนี้ จะพาความทรงจำอะไรกลับมาให้เค้าได้บ้าง
“ปกติ พี่ซินเป็นคนทำนะ...” เธอตอบ พร้อมรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
“พี่ซินทำอาหารอร่อยมาก เอาไว้หายดี แล้วช่วยกลับมาทำให้เราทานที”
“เราทำอาหารเก่งงั้นเหรอ??... แต่ตอนนี้จำอะไรไม่ได้เลย แล้วจะทำให้กินยังไงล่ะ” ก็ตามนั้น แม้แต่ชื่อตัวเองยังต้องให้คนอื่นมาบอก เอาอะไรกับสูตรอาหารกันเล่า
“งั้นเราจะสอนพี่ซินเอง!!!” แป้งตอบด้วยน้ำเสียงคึกคัก
“ถ้าอย่างงั้น เราลองทำไปแบบมั่วๆน่าจะดีกว่า” ซินหัวเราะ พลางตัดโจ๊กสีน้ำตาลเข้มเข้าปากไปอีกช้อน
“ขอโทษนะ... ถือซะว่า ฝืนกินไปเพื่อให้อยู่รอดแล้วกัน” แป้งเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆแต่ติดตลก
“ไม่เป็นไร ทำให้เราก็ขอบคุณ...ว่าแต่เรารู้จักกันได้ยังไง??” ซินเอ่ยถาม
จริงๆนี่คงเป็นรอบที่ร้อยแล้วที่เค้าเอ่ยถามคำถามนี้กับแป้งตลอดเวลาสองสามวันที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งก็จะได้คำตอบว่า เธอเป็นช่างภาพ และเค้าเป็นคนรู้จักที่จ้างเธอมาถ่ายรูปให้ก็เลยรู้จักกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
มันจะเป็นไปได้มั้ย ที่จะทำให้เธอยอมเปิดปากพูดให้ได้มากกว่านั้น??
“เมื่อไหร่แป้งจะเล่ารายละเอียดให้เราฟัง” ซินถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็เคยเล่าให้ฟังแล้วไง ว่าแป้งเป็นช่างภาพ พี่ซินเป็น......” ยังไม่ทันที่แป้งจะพูดจบ ซินก็ยกมือขึ้นมาเหมือนจะบอกับเธอว่า ไม่ต้องพูดแล้ว
“ไม่ใช่แบบนั้น หมายถึง เราเจอกันที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง ถ่ายรูปอะไร แล้วแป้งเป็นช่างภาพอะไร”
เค้าร่ายยาว
หญิงสาวยังเงียบเฉย เธอถอนหายใจ และก้มหน้านิ่ง เหมือนพยายามกุมความลับอะไรบางอย่างอยู่
“มีอะไรที่บอกไม่ได้งั้นเหรอ?”เค้าถาม
“เปล่า.... มันก็ไม่มีอะไรหรอก... แค่เรื่องมันยาวเลยขี้เกียจเล่าเท่านั้นเอง” เธอตอบหน้าเจื่อน
“บอกมา!!” ซินเริ่มเสียงแข็ง
มันได้ผล เธอดูตกใจกับเสียงที่ขึงขังของเค้าพอสมควร
“พี่ซินก็มีสิทธที่จะรู้นี่เนอะ....”
“เราเจอกันเมื่อสองปีก่อน... ตอนนั้นพี่ซินมีวงดนตรีเป็นของตัวเอง เลยจะถ่ายรูปวงเอาไว้....”
“แล้วเราทำอะไรในวงนั้น เพื่อนร่วมวงล่ะ....” เค้าถามต่อ
“ร้องเพลง แล้วก็แต่งเพลง.... อีกคนก็เล่นกีต้าร์.....” เสียงของเธอเบาลง
“ก็เล่นกีต้าร์ แบบรับจ้างมาน่ะ ไม่มีอะไรพิเศษเลยแล้วก็...” แววตาของเธอดูลุกลี้ลุกลนจนผิดสังเกต
“คนเล่นกีต้าร์ ที่จ้างมา?? แล้วไงต่อ...”
“ก็นั่นแหละ ตอนนั้นแป้งกลับมาจากเมืองนอก ก็หางานทำอยู่แล้วพี่สาวของเราก็แนะนำให้รู้จักกับพี่ซิน เลยได้มาถ่ายรูปให้” เธอเริ่มร่ายยาว
“พี่สาว?? แป้งมีพี่สาวด้วยเหรอ เค้ารู้จักเรา แล้วเค้าอยู่แถวนี้รึเปล่า??” ซินถามต่อ
“ญาติห่างๆน่ะ ตอนนี้เค้าอยู่เมืองนอก ไม่ได้คุยกันมานานแล้วล่ะ....”
“หลังจากนั้นเราก็ย้ายมาอยู่ข้างๆบ้านพี่ซิน ก็เลยสนิทกัน... เอางี้!!!” แป้งลุกพรวด เหมือนเธอจะคิดอะไรออก
“เดี๊ยวเราไปหาหนังที่เราสองคนชอบเปิดดูมาดูกันมั้ย เผื่อจะนึกอะไรออก แล้วพี่ซินก็จะได้ไม่เบื่อที่จะต้องนอนอยู่เฉยๆ”
“ก็ดีนะ....” ซินตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้
“โอเค งั้นเดี๊ยวออกไปหยิบมาเลย!!!” แป้งพูดจบพร้อมวิ่งไปที่ตู้ใบหนึ่งที่อยู่สุดมุมห้องอย่างรวดเร็ว คงเป็นตู้เก็บหนังสินะ... จะว่าไปสองสามวันนี่เค้าก็ยังไม่ได้ลุดไปสำรวจส่วนไหนในห้องเลย นอกจากเดินไปห้องน้ำ
ท่าทางมันจะไม่่ง่ายเลย ที่จำทำให้หญิงสาวคนนี้คายอะไรออกมาให้มากกว่านี้ เธอมีเหตุผลหรืออะไรๆมาตัดบทเสมอ อย่างเช่นการชวนเค้าดูหนังเมื่อกี๊ หรือบางทีก็แกล้งทำเป็นสะดุดล้ม แต่ต้องมีซักวันที่เค้าจะต้องเค้นอะไรๆออกมาจากปากเธอให้ได้
แต่อย่างน้อยตอนนี้ซินมั่นใจแล้วว่า หญิงสาวชื่อแป้งนี่โกหกไม่เนียนเท่าไหร่นัก จากอาการลุกลี้ลุกลนของเธอที่แสดงออกมาในบางคำพูดที่เธอไม่อยากจะพูดถึงหรือเวลาที่เธอพยายามจะเบี่ยงประเด็น
อย่างตอนที่เธอพูดถึง.... มือกีต้าร์...
ทำไมนะ....
ทำไมต้องเป็นตอนที่พูดถึงมือกีต้าร์??
อาการปวดหัวถาโถมเข้ามาใส่เค้าอีกครั้ง
มันปวดจนเค้าร้องไม่ออก...
“นัท...”
ชื่อนั้นวกเข้ามาในสมองเค้าอีกครั้ง นัทคือใครกันหรือ
นัท... กีต้าร์....
นัท....
ตุบบ!!!!!
เสียงดังเหมือนวัตถุขนาดใหญ่หล่นลงมาบนพื้น
แป้งที่กำลังขมักแขม้นอยู่กับการเลือก dvd หนังถึงกับสะดุ้งตกใจ
สิ่งที่เธอเห็นคือร่างของผู้ชายผมยาว นอนกองอยู่ที่พื้นข้างๆเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“พี่ซิน!!!!....”
หญิงสาววิ่งเข้าไปประคองร่างบางๆขึ้นมา
อาการปวดหัวคงทำให้เค้าหมดสติไปอีกครั้ง เหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา
แต่ครั้งนี้...ข้างๆเปลือกตาที่ปิดสนิทของผู้ชายผมยาว
เธอสังเกตเห็นคราบน้ำตา ที่ไหลลงมาจนอาบแก้มทั้งสองข้างของเค้า...
ความคิดเห็น