คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 Design of the year
“รางวัล Design of the year สาขาโฆษณา ประจำปีนี้ได้แก่...”
เสียงพิธีกรกล่าวในงานประกาศรางวัลนักออกแบบยอดเยี่ยมประจำปี แสงสปอตไลท์ส่องวนไปวนมาบริเวณผู้ร่วมงาน ประกอบกับเสียงดนตรีสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ร่วมงานเป็นอย่างมาก
“คุณยมุนา หวัง หรือคุณหวังเวยหลาน จากบริษัท PP Graphic Design & Media Studio คร๊าบ”
เสียงพิธีกรพูดจบ เสียงปรบมือดังลั่นทั่วห้องประชุม แสงสปอตไลท์สาดส่องไปที่ร่างผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวด้วยชุดเกาะอกราตรีสีฟ้าอ่อน ที่นั่งยิ้มอย่างหน้าบานกับชื่อที่ทางพิธีกรประกาศไป
“ขอเชิญคุณหวังเวยหลานขึ้นรับรางวัลบนเวทีด้วยครับ”
เสียงพิธีกรประกาศเชิญอีกครั้ง เธอก็ลุกขึ้นพร้อมกับยกแขนขึ้นบังหน้าเพราะแสงสปอตไลท์ส่องมากระทบตาของเธอ เธอเดินขึ้นบนเวทีด้วยรอยยิ้ม และหยิบโล่รางวัล Design of the year สาขาโฆษณาขึ้นมาแล้วเดินไปที่แท่นพูด
“รางวัลนี้เป็นสิ่งที่ภูมิใจอีกครั้งสำหรับมุคะ ขอบคุณท่านกรรมการที่ตัดสินและยังไว้ใจผลงานของมุเหมือนเดิม มุจะทำผลงานชิ้นต่อๆไปให้สมกับรางวัลที่ได้รับเป็นปีที่ 3 และมุก็ต้องขอขอบคุณป๊า ม้า และทุกๆคนในบริษัทที่เป็นกำลังใจให้ในการผลิตผลงาน ขอบคุณกรรมการอีกครั้ง และขอบคุณสื่อมวลชนด้วยคะ”
เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้ม แสงและเสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปส่งไปที่ตัวเธอ เวยหลานยกมือไหว้และลงจากเวทีไปนั่งที่เดิม พร้อมกับเสียงปรบมืออีกครั้ง
/// Design of the year สาขาโฆษณา ตกเป็นของหวัง เวยหลานอีกครั้ง เป็นปีที่ 3 เป็นเพราะผลงานดีจริง หรือว่าเล่นเส้น อ่านต่อหน้า 20 ///
“คุณมุคะ เห็นหนังสือพิมพ์แล้วยังคะ”
ใบตอง เลขาสาวเดินมาหาเวยหลานในห้องทำงานส่วนตัวที่กำลังนั่งออกแบบสินค้าตัวใหม่อยู่หน้าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
“เห็นแล้วจ้ะ อย่าไปสนใจเลย เราก็รู้กันอยู่ว่าผลงานเราเป็นยังไง เราไม่ได้อัดเงินใครด้วยจริงมั้ย”
เวยหลานพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับใบตอง เลขาที่ทำงานกับเธอมาตั้งแต่เปิดบริษัทออกแบบใหม่ๆ ใบตองมักจะเป็นห่วงเธอเสมอเวลาที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับเวยหลาน
หวังเวยหลาน หรือ ยมุนา สาวมาดมั่นลูกครึ่งไทยไต้หวันผู้ที่มีความสวย น่ารัก สดใส และความมั่นใจในตัวสูงพอๆกับพ่อของเธอที่เป็นนักธุรกิจส่งออกจากไต้หวัน ความสามารถของเวยหลานมีมากมายไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา เรื่องเรียน ศิลปะ สิ่งที่เธอถนัดที่สุดคือ การออกแบบ พ่อของเธอจึงจับส่งเรียนทางด้านนี้จนจบทั้งๆที่ใจจริงอยากให้เธอมาช่วยดูแลบริษัทส่งออกของตนมากกว่า แต่ในเมื่อลูกสาวตัวเองชอบก็ให้ไปทางนั้น กิจการยังไงก็ยังมีลูกชายคนโต หวังเทียนเหว่ยดูแลสานต่อ
“ตองจ้ะ เดี๋ยวช่วยจองเครื่องบิน 2 ที่ วันนี้ให้ด้วยนะ”
เวยหลานหยุดงานหน้าคอมพิวเตอร์มองไปที่ใบตองเลขาของเธอ
“ค่ะ ไปไต้หวันใช่รึเปล่าคะ ไฟท์เย็นๆ หรือว่าค่ำๆดี”
“ขอเป็นตอนค่ำดีกว่าจ้ะ มินิจะได้เตรียมตัวด้วยฉันยังไม่โทรบอกมินิเลย ตองช่วยจัดการให้ด้วยนะ”
เลขาพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป
กามินี ทวีวัฒนะ หรือ มินิ เพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เรียนชั้นมัธยม ปัจจุบันเธอเป็นดาราชื่อดังในเมืองไทย ที่มินิโด่งดังได้เป็นเพราะเวยหลานให้เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโฆษณารถยนต์ยี่ห้อหนึ่ง เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้มินิดังเป็นพลุแตก ส่วนเวยหลานเองก็ได้รับรางวัล Design of the year ไปเป็นปีแรก
~~~ ติ๊ด ตะลาลิด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
.~~~ (เสียงมือถือนะคะ)
“จ้ะ ว่ายังไงย่ะ มินิ” เวยหลานทักทายเพื่อนสนิทของเธอ
\\ นี่มุ เธอจะไปไต้หวันอีกแล้วหรอ เดือนนี้เธอไปเป็นรอบที่ 7 แล้วนะ พักผ่อนบ้างเถอะ งานที่นั้นก็มีคนดูแล เธอก็ไม่ต้องบินไปบินมานี่นา เออ แล้วเธอเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ยัง พวกนักข่าวนี้ก็บ้าเน้อะ ผลงานดีๆ ก็หาว่าเราเล่นเส้น นี่ถ้าไม่ได้ฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่กับหมิงจาง ไม่รู้ว่าจะได้รางวัลรึเปล่า\\
“นี่ๆๆ ทีละคำถามสิ ยัยมินิ เรื่องข่าวฉันเห็นแล้ว ฉันไปไต้หวันฉันจะไปเที่ยว ไปฉลองรางวัลที่คุณเธอกับแฟนฉันทำให้ฉันได้รางวัลไง พ่อกับแม่ฉัน รออยู่ที่ไต้หวันแล้ว”
\\ อ่ะจ้า... ที่แท้จะไปหาหมิงจางนายแบบแฟนเธอนี่เอง เราก็เป็นห่วงนึกว่าจะไปทำงาน อย่างเธอเป็นถึงผู้บริหารไม่ต้องทำงานแล้วก็ได้ \\
“ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยก็แค่ออกแบบไอเดียให้คนไปทำ เฉพาะงานชิ้นใหญ่ๆเท่านั้นละ เธอนี่พูดมากจริง เดี๋ยวฉันก็ไม่ให้ไปไต้หวันด้วยหรอก” เวยหลานรีบพูดตอกเพื่อนสนิทกลับไป
\\ อะไรแค่ล้อเล่นนิดหน่อย งอนซะแล้ว \\ มินิขอบ้าง
“ยังไงก็เตรียมตัวให้พร้อมละกัน 3 ทุ่มไปรับที่บ้าน ตอนนี้ขอเคลียร์งานก่อน” เวยหลานขอตัดสาย
\\ อ่ะจ้า ...ได้ๆๆ งั้นเจอกัน พักตาบ้าง วันๆอยู่แต่หน้าคอม อยู่มา12 ปีแล้ว พอๆได้แล้วนะ บายจ้ะ รักนะ จุ๊บๆๆ\\
เวยหลานกดวางสายพร้อมกับยิ้มให้กับความติ๊งต๊องของมินิ
“เห้อ....!!! เสร็จสักที กี่โมงแล้วละ” เวยหลานละสายตาจากคอมพิวเตอร์มองไปยังนาฬิกาเรือนสวยบนข้อมือ
“หา... สองทุ่มแล้วหรอ เครื่องออก 4 ทุ่ม จะทันมั้ยนะ” เวยหลานรีบปิดคอมพิวเตอร์ และเก็บเอกสารภาพสเกตสินค้าเข้าแฟ้มอย่างลวกๆ แล้วรีบหยิบกระเป๋าถือออกจากห้องไปทันที
“คุณมุคะ สักครู่คุณหมิงจางโทรมาค่ะ” ใบตองพูดระหว่างที่เธอกำลังจะเดินผ่านโต๊ะเลขาไป
“จะ ขอบใจมากแล้วฉันจะโทรหาเค้าเองจะ เธอก็กลับบ้านได้แล้วนะ” เวยหลานส่งยิ้มให้แล้วรีบเดินไปที่ลิฟท์ทันที
ลิฟท์มาถึงเธอรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็วแต่ไม่ทันระวัง เดินชนกับชายคนหนึ่งที่เดินสวนออกมา ทำให้เธอล้มลงนั่งอยู่บนพื้น
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าถือที่ตกอยู่ข้างๆตัวเวยหลานแล้วยื่นมือมาให้เธอจับ
“ไม่เป็นไรค่ะ คือฉันไม่ได้ดูเอง ฉันกำลังรีบ” เวยหลานจับมือเขาและลุกขึ้น หยิบกระเป๋าจากมือ เธอมองหน้าชายที่อยู่ต่อหน้า เธอมีความรู้สึกว่าคุ้นๆหน้าผู้ชายคนนี้เหลือเกิน เหมือนเคยเจอที่ไหน
“คือ ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ” ผู้ชายคนนั้นก้มหัวให้เธอหนึ่งครั้ง แต่เธอยกมือห้ามไม่ให้เขาทำเช่นนั้น และเธอก็เดินเข้าลิฟท์ไปทันที
“ใครนะ หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหน” เวยหลานพึมพำกับตัวเอง แล้วเดินไปที่รถที่มีคนขับมาจอดรอแล้วหน้าตึก
ขึ้นรถเวยหลานรีบหยิบโทรศัพท์หามินิ เพื่อนสนิทเธอทันที พร้อมกับคนขับรถก็ขับรถเคลื่อนออกไปสู่บ้านของเธอ
“ฮัลโหล มินิ เก็บของแล้วยัง” เวยหลานพูด กับอีกมือเปิดกระเป๋าหาโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องที่ใช้สำหรับโทรออกต่างประเทศ
(เสร็จแล้วละ มุจะมารับฉันกี่โมง) เสียงปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อีก 1 ชม. ฉันไปรับที่บ้าน ฉันยังไม่เก็บของเลย งั้นแค่นี้ก่อนนะ ฉันจะโทรหาหมิงก่อน” เวยหลานพูดจบกดวางสาย เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องพูดต่อทันที
“ห่าว!! หมิง มุลืมโทรหาหมิงเลย” เวยหลานพูดภาษาจีนด้วยรอยยิ้มที่สดใส และความเหนื่อยล้าจากงานที่เธอทำก็หายไป เมื่อได้ยินเสียงของหลิวหมิงจาง ชายหนุ่มที่รักของเธอปลายสาย
(ครับ เออ มุมาไต้หวันวันนี้ใช่มั้ยครับ)
“ค่ะ หมิงมารับมุที่สนามบินด้วยนะ มินิก็ไปด้วย มุรู้นะว่าคุณก็คิดถึงมินิ ไม่ได้เจอกันตั้ง 2 เดือนแล้ว” เธอหยอกล้อคนรักด้วยอารมณ์ดี
(ฮาๆๆ มุเนียะรู้ใจผมทุกเรื่องเลย แต่ถึงยังไงผมก็คิดถึงคุณมากกว่ามินินะ)
“จ้ะ หมิงอย่าลืมมารับมุด้วยนะ แค่นี้ก่อนนะคะหมิง ไจ้เจี้ยนค่ะ” เธอพูดจบ ก็วางสายจากคนรัก
หลิว หมิงจาง แฟนหนุ่มของเวยหลาน เป็นคนไต้หวัน หน้าตาดี รู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย เวยหลานให้หมิงจางมาถ่ายแบบลงนิตยสารของเธอ ทำให้หมิงจางดังมากๆในไต้หวันและเมืองไทย พอๆกับมินิ ที่เวยหลานเป็นคนปั้นมาด้วยเช่นกัน เวยหลานให้ทั้ง 2 คนถ่ายแบบด้วยกันจนทำให้เธอได้รับรางวัล Design of the year ปีนี้อีกครั้ง
~~~ ติ๊ด ตะลาลิด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
.~~~
“ว่าไงตอง” เวยหลานหยิบมือถือขึ้นมาพูดอีกครั้ง
(คือ คุณศไนส์ มาติดต่อขอพบคุณคะ แต่ตองบอกเขาแล้วคะว่าคุณมุออกไปแล้ว จะกลับมาก็ประมาณ 2 อาทิตย์ ค่ะ) เสียงเลขาสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกังวล
// ศไนส์ไหนนะ คุ้นๆ นึกไม่ออกสักที // หญิงขมวดคิ้วพลางคิดถึงชื่อที่เธอคุ้นนัก
“มีอะไรก็ฝากโน้ตไว้ละกัน หรือไม่ก็ให้เค้าตามฉันไปที่ไต้หวันก็ได้หากมันสำคัญนัก ตอนนี้ 2 ทุ่มแล้ว ฉันอยากพักผ่อน” เธอพูดอย่างอารมณ์เสียเมื่อนึกได้ว่า มันเลยเวลางานมามากแล้ว ใครกันนะมาพบเธอดึกๆป่านี้
(ได้ค่ะ แล้วตองจะบอกให้นะคะ) เลขาสาวพูดพร้อมกับวางสายไป พอๆกับรถจอดตรงลานหน้าบ้านเธอพอดี
“คุณหนูมุ ดื่มน้ำก่อนคะ” หัวหน้าแม่ป้า ดูมีอายุหน่อยเดินมาพร้อมถือกระเป๋าถือให้เวยหลานพร้อมกับทำท่าเชื้อเชิญให้เวยหลานเดินไปที่ห้องนั่งเล่น
“ไม่เป็นไรคะป้านวล คือมุรีบมากเลย เดี๋ยวจะตกเครื่อง” เธอส่งรอยยิ้มให้กับแม่บ้าน
ป้านวลเดินตามเวยหลานขึ้นไปข้างบนเพื่อไปช่วยเก็บของ ซึ่งจริงๆแล้วแทบจะไม่มีอะไรให้เก็บเลย นอกจากชุดที่เวยหลานจะเปลี่ยนหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะเสื้อผ้าของเธอก็มีอยู่ที่ไต้หวันอยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะป้า มุไปก่อนนะคะ” เวยหลานเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มแม่บ้านผู้มีอายุมากพอสมควร เธอรักป้านวลเหมือนเป็นคนในครอบครัวของเธอเอง ป้านวลก็อวยพรให้เธอเดินทางดีๆ
- - - สนามบินไทเป- - -
“เฮ้!! หมิง คิดถึงหมิงจังเลย” เวยหลานวิ่งเข้าไปกอดคนรักของเธอที่รอรับเธอตรงทางออกของผู้โดยสารในสนามบิน
หมิงจางกอดร่างของเธอด้วยความถนุถนอม แล้วเลื่อนใบหน้ามาประกบจูบ หมิงจางมอบความรักและความคิดถึงให้กับเวยหลานแฟนของเขาที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเพียงไม่กี่อาทิตย์
“อะแฮ่ม..!! เกรงใจหน่อยจ้ะ ฉันยืนอยู่ทั้งคนนะหมิงจาง” มินิเดินลากกระเป๋าออกมา 2 ใบ เพราะมีกระเป๋าทั้งของเธอและของเวยหลาน
เวยหลานหันมาหัวเราะให้กับมินิที่ทำหน้าบึ้งตึง หมิงจางเดินไปช่วยมินิลากกระเป๋า และทั้ง 3 ก็นั่งรถออกจากสนามบินไปบ้านของเวยหลาน
ความคิดเห็น