คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 งานเลี้ยงฉลอง
งานเลี้ยงฉลองรางวัลนักออกแบบของเวยหลาน ลูกสาวคนเดียวของตระกูลหวัง หวังเวยหลง ประธานบริษัทส่งออกชื่อดังของไต้หวันจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ให้กับลูกสาว มีผู้คนในวงการธุรกิจ และวงการบันเทิงมาร่วมงานอย่างมากมาย ทั้งเป็นแขกของประธานเวยหลงเอง และของเวยหลานด้วย
บนเวทีที่จัดตกแต่งอย่างหรูหรา เวยหลานในชุดราตรีเกาะอกสีชมพูอ่อน มีผ้าบางสีขาวคลุมไหล่ยืนข้างๆเวทีกำลังมองหาเพื่อนและคนรัก
“มินิ หมิง มาทางนี้หน่อย” เสียงเวยหลานเรียกกวักมือให้ทั้งสองคนเดินมาหาหลังจากที่หาจนทั่วงานเลี้ยง
“ว่าไงจ้ะ” มินิและหมิงจางเดินเข้ามาหาเธอ
“ฉันหาเธอสองคนตั้งนานไปไหนกันมา” เวยหลานพูด ทั้งสองคนมองหน้ากัน
“เดี๋ยวเธอต้องขึ้นเวทีนะ” เวยหลานพูดต่อ
“รู้แล้ว เราไปเตรียมตัวมานิดหน่อยเองมุ” มินิเพื่อนสนิทพูด เวยหลานพยักหน้า
เวยหลานขึ้นไปบนเวทีเมื่อพิธีกรพูดเชิญให้เธอขึ้นไปบนเวที เสียงปรบมือดังทั่วบริเวณงาน
“ขอบคุณคะ” เธฮรับไมค์มาพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม
“งานนี้จะมีขึ้นไม่ได้ถ้าขาดท่านประธานหวัง เวยหลง คุณพ่อของเวยหลานเองคะ” เวยหลานพูดพร้อมหันหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและกางแขนข้างหนึ่งไปทางท่านประธานหวังที่นั่งอยู่ที่โซฟาหรู เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งและเงียบไป
“อืม...รางวัลนี้ได้เพราะโฆษณาเปิดตัวบริษัท DDM ที่ทุกๆคนในบริษัททุ่มสุดตัวคิดค้นจนประสบความสำเร็จ และเวยหลานขอเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของโฆษณานี้อย่างเป็นทางการค่ะ เชิญคุณหลิวหมิงจาง และคุณกามินี ทวีวัฒนะ คา...” เวยหลานพูดจบเสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับเสียง แสง แฟลชจากกล้องถ่ายรูปดัง
หมิงจางเดินออกมาพร้อมกับดอกไม้ช่อโต ส่วนมินิเดินออกมาพร้อมกับร้องเพลงให้กับเวยหลาน มินิกล่าวให้แขกในงานร่วมร้องเพลงให้กับเวยหลาน ทำให้บรรยากาศในงานครึ้กครื้นมากขึ้น
หลังโซฟาหรูที่นั่งของท่านประธานเวยหลง เป็นที่นั่ง VIP ชายหนุ่มนักธุรกิจหน้าตาดีจากประเทศเกาหลี มองหญิงสาวชุดสีชมพูที่ยืนตระหง่าบนเวทีด้วยรอยยิ้ม เขามองด้วยความสนใจในตัวเธอมาก เขาลุกเดินไปนั่งข้างๆประธานเวยหลง
“ประทานโทษนะครับ ผม คิมมินยอง ผมขอคุยกับท่านหน่อยครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยท่าทางอ่อนน้อมต่อชายสูงวัยที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยชุดสูทหรู เวยหลงพยักหน้าให้นั่งลงข้างๆ
“คุณคิมมินยอง เชิญครับ” เวยหลงพูด
“คือผมเห็นลูกสาวของท่านทำงานดีมากเลยครับ” ชายหนุ่มเกริ่นนำ เวยหลงยิ้มอย่างภูมิใจ
“ผมกำลังจะขยายสาขาโรงแรมของผม ผมคิดว่าจะเปิดในไทเป แล้วกำลังหาคนออกแบบโรงแรม ผมอยากให้ท่านช่วยติดต่อลูกสาวของท่านรับงานออกแบบโรงแรมนี้หน่อยได้ไหมครับ” คิมมินยองมองหน้าท่านประธานเพื่อรอคำตอบ
“ได้สิ แล้วผมจะคุยให้ ตระกูลของคุณคิมกับบริษัทผมก็รู้จักกันมานาน แค่นี้ผมจัดการให้ได้ ถึงเจ้ามุจะไม่ยอมออกแบบ ผมก็จะบังคับให้ออกแบบให้สุดฝีมือเลยละครับ” ประธานเวยหลงพูดแล้วหัวเราะ ทำเอาคิมมินยองยิ้มไปด้วย
“ขอบคุณมากเลยครับ ลูกสาวท่านน่ารัก และก็เก่งมาเลยนะครับ อายุแค่นี้ทำงานได้ตั้งมากมาย” คิมมินยองพูดต่อ
“ไม่หรอก เค้าก็เหมือนคุณน่ะละ อายุเท่านี้ทำงานบริหารโรงแรมตั้งหลายประเทศดังไปทั่วเอเชียเลยมั้ง แต่เจ้ามุแค่ประเทศไทยกับไต้หวันเอง รายนั้นแค่ไม่กี่ประเทศก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว” เวยหลงพูดแซวลูกสาวตัวเอง
“พ่อแซวอะไรมุคะ” เสียงผู้หญิงที่ถูกแซวที่เพิ่งเดินลงมาจากเวที เดินมานั่งข้างๆประธาน
“เปล่าสักหน่อย ^_^ เออมุ นี้คุณคิมมินยอง เพื่อนพ่อ เค้าเป็นผู้บริหารโรงแรมดังๆในแถบเอเชีย” เวยหลงแนะนำให้ทั้ง 2 คนรู้จักกัน เวยหลานมองชายหนุ่มที่นั่งข้างๆพ่อของตนเอง เธอมองเห็นหน้าไม่ชัดนักเพราะแสงไฟยังเปิดแบบสลัวๆอยู่
“เพื่อนพ่อหรอ น่าจะเป็นเพื่อนมุมากกว่านะ อายุพอๆกับมุ พ่อนะอายุมากแล้วนะ” มุแซวท่านประธาน ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งข้างๆหัวเราะออกมา
“น้อยๆหน่อยยัยมุ เราหาว่าพ่อแก่หรอ พ่อยังหนุ่มอยู่นะ” เวยหลงพูดชมตัวเอง
“จะพ่อ พ่อของมุหล่อ หนุ่มตลอดกาล” เธอพูดจบแล้วก็หัวเราะ
“ไม่ทราบว่าคุณมุจะเป็นเกียรติให้กับบริษัทของผมได้ไหมครับ คือผมกำลังจะมาเปิดโรงแรมในไทเป กำลังหาคนออกแบบโรงแรมอยู่ครับ ผมเห็นแววคุณมุคิดว่าคุณสามารถทำได้ครับ” คิมมินยองถือโอกาสพูดเรื่องงานของตัวเอง
“ออ ได้คะคุณคิม อืม ฉันไม่ได้เอานามบัตรมานะคะ ยังไงคุณช่วยทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้กับฉันได้ไหมคะ แล้วฉันจะติดต่อไปคะ”เวยหลานพูดแล้วยิ้มให้ เธอมองหากระดาษกับปากกาเพื่อให้คิมมินยองเขียนเบอร์ติดต่อกลับ
“นี่ครับ ผมมีนามบัตร แล้วหวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายหนุ่มยืนนามบัตรให้ แล้วจับมือเวยหลานขึ้นมาจูบ ในขณะนั้นไฟก็เปิดขึ้นทั่วงานอีกครั้ง
“ค่ะ ยินดีเช่นกัน” เวยหลานรับนามบัตรและเงยหน้ามองมินยองด้วยความตะลึง ชายหนุ่มที่จับมือเธอเมื่อสักครู่หน้าตาหล่อเหลาเอามากๆ สายตาที่จับจ้องเธอดูคมเข้ม ใบหน้าที่ใสเนียนอยากจะสัมผัส เวยหลานมองแล้วยิ้มกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้มินยองจับได้ว่ากำลังมองเขาอยู่ มินยองก็มองเวยหลานเช่นกัน และเขาก็ขอตัวกลับไปนั่งที่
“มุ ลูกสนใจคุณคิมรึเปล่า พ่อติดต่อให้ได้นะ” ท่านประธานมองดูลูกสาว
“บ้าเหรอพ่อ ลูกมีหมิงอยู่นะ ลูกก็แค่อยากเห็นหน้าเค้าชัดๆเท่านั้นเอง เลยมองหน้าไม่ได้หรอ” เธอตอบพ่อของตนเอง
“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ถามเฉยๆว่า เราสนใจงานที่คุณคิมเสนอรึเปล่า” เวยหลงรีบเปลี่ยนประเด็นทันทีพร้อมกับรอยยิ้ม
“พ่ออะ มุไม่คุยด้วยแล้ว” เวยหลานงอนบิดาของตนแล้วเบนหน้าหนีไปอีกทาง
“เอ๊ะ!! พ่อลูกคู่นี้เป็นอะไรไปอีกละ” คณิตา แม่ของเวยหลานและภรรยาของเวยหลงเดินมานั่งที่ที่คิมมินยองเคยนั่ง
“เปล่า ผมแค่แซวลูกเราเล่นๆนะ ยัยมุงอนไปซะแล้ว ผมว่าเรากลับบ้านกันดีกว่านะ ยัยมุ เราก็อย่ากลับดึกละ” เวยหลงลุกขึ้นพร้อมกับคณิตาเพื่อเดินไปที่ประตูทางออก
“ค่ะพ่อ ไม่กลับดึกหรอก เอาสักตี 2 ตี 3 ไปเลยนะ” เวยหลานขอย้อนบิดาของตนบ้างที่ไม่ได้อยู่ง้อตนต่อ ทำเอาคณิตาผู้เป็นแม่ส่ายหน้าระอาในความขี้งอนของลูกสาว แล้วเดินออกไป หญิงสาวมองพ่อและแม่ของตัวเองจนประตูปิด ก็กวาดสายตาหามินิกับหมิงจาง ซึ่งทั้ง 2 หายไปหลังจากลงจากเวที
หายไปไหน ลงจากเวทีไม่ถึง 10 นาทีเองนะ
เวยหลานพึมพำกับตัวเอง แล้วเดินหาเพื่อนและคนรักของตัวเองในงาน
“อุ๊ย!!” เวยหลานเดินสะดุดในขณะที่กำลังก้าวออกไป เธอล้มลงไปแต่เหมือนมีใครบางคนมารับเธอไว้
“ขอบคุณค่ะ” เธอเงยหน้ามองผู้ที่ช่วยเธอไว้
O_O // คุณคิมมินยอง //
“คุณคิม ฉันนี่ซุ่มซ่ามจริงๆเลยนะคะ” เธอพยุงตัวขึ้นยืน
“ หึ หึ ครับ” มินยองตอบเห็นด้วย ทำเอาเวยหลานมองหน้าอย่างเสียไม่ได้
“ล้อเล่นนะครับ อืมถ้ายังไงเป็นเกียรติดื่มไวน์กับผมได้ไหมครับ” มินยองเชิญชวน
“ก็ได้คะ” เธอเดินควงแขนมินยองไปหาที่นั่ง ทำเอาแขกในงานต่างมองมาที่ทั้งคู่ มินยองเดินไปหยิบไวน์มา 2 แก้ว สำหรับเขาและเวยหลาน
“นี่ครับ ของคุณ” มินยองยื่นแก้วให้เวยหลาน แล้วนั่งลงข้างๆ
“ไม่ทราบว่าคุณจะรีบไปไหนรึเปล่าเห็นรีบเดิน” มินยองถามเวยหลาน
“ก็หามินิ กับหมิงจางนะค่ะ ไม่รู้หายไปไหน ช่างเถอะคะ เดี๋ยวก็คงมาเอง” เวยหลานพูดอย่างไม่สนใจกับเรื่องนี้ เธอสนใจชายที่อยู่ต่อหน้าเธอมากกว่า ว่าเหตุใดเขาจึงชวนเธอคุยด้วย
มินยองชวนเวยหลานคุยเรื่องทั่วไป ทำให้เขาสนใจในตัวเวยหลานอย่างมากขึ้น ส่วนเวยหลานก็ดื่มแต่ไวน์จนเริ่มเมา เพราะเริ่มไม่พอใจที่หมิงจางกับมินิหายไปนานมากไม่มาหาเธอสักที
“มี..น ยอ..ง คา.. มุ ขอ..อ ปายข้าวห้องน้ามนาคา” เวยหลานให้ชื่อแทนตัวเองหลังจากที่คุยกันสนิทสนมมากแล้ว เวยหลานลุกขึ้นอย่างโซเซ มินยองลุกขึ้นพยุง
“ม่าย..เป็นรายคา มิ...น ยอ....ง ฉานเดิ...น เองด้าย” เวยหลานปฏิเสธที่จะให้มินยองช่วย แล้วเธอก็เดินไป เธอเดินได้สองสามก้าวก็ล้มลง มินยองรีบเข้าไปพยุงเธออีกครั้ง แล้วพาเธอไปห้องน้ำ
มินยองเลี่ยงที่จะพาเวยหลานเข้าห้องน้ำในห้องงานเลี้ยง เพราะเกรงว่าแขกในงานจะเห็นเจ้าของงานเมาไม่เป็นท่า จึงพาไปห้องน้ำข้างนอกของงานเลี้ยงซึ่งไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
มินยองพาเวยหลานเดินเลี้ยวเข้าไปทางเข้าห้องน้ำ แต่มินยองได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายคุยกัน เวยหลานพูดว่าเสียงคุ้นๆ มินยองจึงหยุดดูและฟัง
ความคิดเห็น