เสือ บรรยาย...
"ผัก"
"สะ..เสือ" ร่างบางสะดุ้งโหยง เมื่อผมแทรกตัวเดินมาซ้อนด้านหลัง มุมอับๆตรงข้างตู้เย็น ที่พอจะมีพื้นที่ ให้คนสองคนยืนอย่างง่ายดาย
"แล้วไปทำอะไรตรงซอกตู้ ไม่สบายอีกแล้วหรอ" ผมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อวิ่งมาถึง ก็เห็นผักยืนฟุบหน้าตรงมุมกำแพงแล้ว
"ฉะ..ฉันกำลังหาของ ไม่ได้เป็นอะไร นายออกไปเถอะ" ผักกาดอยู่ในท่ายืนหันหลัง เธอสำทับด้วยการส่ายหัว ก่อนจะแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลน อ้างข้างๆคูๆ ทำเป็นหาโน้นหานี่ ทั้งที่ความจริง ตรงซอกที่เธอยืนอยู่เนี่ย มันไม่มีห่าไรเลย นอกจากกำแพงสี่ด้าน ที่รายล้อมด้วยฝาผนังทึบทั้งหมด
"ว่าไงนะ ไม่ได้ยินเลย" ผมว่าตัวเองหูปกตินะ แต่ผักกาดนั่นแหล่ะ พูดเบาจนเหมือนเสียงมด เมื่อฟังไม่ชัด ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ แต่คนตัวเล็กก็ขยับหนีอีก ทั้งที่ตรงซอกแคบๆ มันแทบไม่มีพื้นที่จะให้เขยื้อนอยู่แล้ว
"นะ..นายออกไปเถอะ" แถมปฏิเสธความหวังดี ตั้งท่าจะไล่ผมลูกเดียว
"ฟังไม่รู้เรื่องเลย ช่วยหันมาพูดให้ได้ยินหน่อย เป็นไรไป"
ยิ่งไล่เหมือนยิ่งยุ ผมมันเป็นพวกหนังหนา หน้าด้านแถมตายยากด้วย พอพูดมากๆผมยิ่งดึงดัน ผักไล่ผมก็เบียดตัวเข้าไปอีก เอาจนทุกส่วนเรากลืนเป็นเนื้อเดียวกันนั่นแหล่ะ ถึงจะสาแก่ใจ
"ผักครับ" เมื่อตีมึนไม่ได้ผล ผมเลยเปลี่ยนวิธี ลองใช้คำพูดระรื่นหูบ้าง เผื่อผักจะเคลิ้ม
ปึก!
"อย่าเข้ามานะ อย่าเพิ่งเข้ามา" แต่คงคิดผิดมหันต์ ยัยนี่อาจไม่รู้ ว่าได้เหวี่ยงศอกใส่ท้องน้อยผมเต็มเปา เห็นตัวเล็กๆ แต่ศอกแรงยิ่งกว่านักมวย
แล้วไงหล่ะ ร้องสิครับ รออะไร!
"โอ๊ย!.." จุกสิ! ครวญครางยืนกุมท้องตัวงอ แต่คนใจแข็งก็ยังไม่ยอมหันมอง
ชิ! ไม่ได้ผลหว่ะ งั้นเอาใหม่
"ผัก แฮ่ก สะ..เสือเจ็บ มะ..ไม่ไหวแล้ว" ดูเว่อร์ไปนิด แต่ผมเจ็บจริงนะ เดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนก้มหน้าฟุบลงพื้น
"เสือ!!" มันได้ผลจริงด้วย ยัยนี่สติแตก เมื่อผมแน่นิ่งกับพื้น ผักกาดดูจะลืมตัว รีบดิ่งเข้ามาประคอง แต่เป็นผมที่รอจังหวะเหมาะ เพราะเมื่อร่างบางถลาเข้าหา ผมก็รีบเอื้อมมือไปคว้าเอาความนุ่มนิ่มนั่นไว้ ก่อนจะตะหวัดลำแขน โอบรัดเจ้าหล่อนเข้ามาแนบอก
หมับ
"จับได้แล้ว ฮ่าๆ" หลอกกี่ครั้งก็ยังซื่อบื้ออย่างเคย
"เอ๊ะ! นี่นายหลอกฉันหรอ ไอ้ทุเรศ" ผมหัวเราะ มือข้างที่ว่างโอบกอดเอวบาง ส่วนอีกข้างยกขึ้นป้องหัวตัวเอง ผักกาดจับได้ว่าผมหลอก ก่อนที่กำปั้นน้อยๆจะทุบไม่ยั้ง แถมทุบแบบไม่เกรงใจ นี่ผัวนะไม่ใช่กระสอบทราย เล่นทุบเยี่ยงทาส
"เจ็บจริง เปล่าหลอก" อยากอ้อนอ่ะ แค่กับผักนะ คนอื่นก็ไม่เอา
"เหอะ!" พอหนำใจ แม่คุณก็ทำท่าไปกลับไปสิงตรงซอกตู้ต่อ ดีที่ผมคว้าไว้ทัน
"แล้วไปยืนมุดตรงซอกตู้ทำไม หัวเลอะหยากไย่หมดแล้ว" ขำดิ นี่หรอวะ! ผู้หญิงจอมหยิ่งที่ผมเคยรู้จัก เห็นแค่ลูกหมาหน้ามอม ที่หัวมีแต่เศษขี้ฝุ่นติดเต็ม ครั้นจะใช้นิ้วเชยปลายคางเพื่อเช็ดคราบเปื้อนให้ ผักกาดก็เบี่ยงตัวหนี
"กรรม! ก้มหน้าใหญ่ โกรธฉันอีกแล้วหรอ"
"เปล่า" ปากบอกเปล่า แต่เล่นไม่ยอมสบตา แถมตั้งท่าผลักไสราวกับรังเกียจสัมผัส นี่ผักขุ่นเคืองเรื่องที่ผมหลอก รึว่าโกรธสิ่งที่ผมเพิ่งพูด
"เอาหน้าเด็กดื้อมาให้ดูหน่อย!!"
"ม่ายยย" ผมดื้อดึง ถ้าอยากเล่นไล่จับ ผมก็จะเล่นด้วย ผักปิดผมก็จะเปิด จะแงะจนกว่าเธอยินยอม เธอหลบไปทางไหนผมก็จะไปทางนั้น เอาจนกว่าจะได้เห็นสีหน้าที่แท้จริง และเมื่อถูกไล่บี้จนไม่มีทางให้ไปต่อ ผักกาดก็เลิกขัดขืน ยอมเปิดเผยใบหน้าที่เธอหลบเร้นภายใต้ฝ่ามือ
ใบหน้างามๆ ที่ผมเฝ้าฝันทุกคืนวัน
ใบหน้าน่ารัก ที่ตอนนี้กำลังอาบย้อมไปด้วยสีแดงปลั่ง ดุจดั่งมะเขือเทศสุก..
แม่ง อยากแกล้งหว่ะ..
"ฉิบหาย ไม่สบายจริงด้วย หน้าแดงเถือกเลย นี่เธอเป็นภูมิแพ้อากาศกำเริบหรอเนี่ย อาการหนักมากนะ เห็นทีจะไม่รอด" ผมเก๊กเสียงขรึม ทำหน้าซีเรียสให้สมจริง
"มะ..ไม่รอดเลยหรอ" ผักกาดก็เบ๊อะ เธอเป็นภูมิแพ้ตั้งแต่เมื่อไหร่ บทจะโง่ก็โง่เกินทน คนตัวเล็กเงอะงะ ตาโตดั่งลูกแมวแสดงความหวั่นวิตกจนตลก นั่นยิ่งทำให้ผมกลั้นขำเข้าไปอีก
"เออดิ หมอที่ไหนก็คงรักษาไม่หาย คงต้องให้หมอเสือรักษาซะแล้ว"
"หมอเสือไหน ละ..แล้วรักษายังไง" ผักยังถามอีก
"ยังไงดีหล่ะ หึหึ"
เสือ จบบรรยาย...
[ต่อ]
"ยังไงดีหล่ะ หึหึ" ชักกระหายน้ำ ลำคอดูแห้งผาก เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกดต่ำ
"นายช่วยฉันได้หรอ" จะถามไปทำไม ทั้งที่ตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจ เรื่องภูมิแพ้อะไรนั่น ฉันรู้มาตั้งนานแล้วว่าตัวเองไม่ได้เป็น แต่ที่ต่อปากต่อคำอยู่เนี่ย ก็เพราะถูกเสือหลอกล่อให้เคลิ้มตาม
จะว่าไงดีหล่ะ มันก็แค่ความคิดชั่ววูบที่อยากจะอยู่ใกล้ๆเขา ติดใจในกลิ่นหอมรัญจวนที่ได้สูดดม ครั้นจะถอนสายตา ก็ดันไปติดตรงปากกระจับสีแดงเรื่ออีก แล้วก็ได้แต่นึกคิด ว่าคนบุหรี่บ่อย เขาปากแดงสุขภาพดีกันแบบนี้ทุกคนเลยหรอ เห็นมีแต่คนปากคล้ำ แล้วทำไมปากของเสือถึงได้น่า...
นะ..น่าบดขยี้ชะมัด!
อ่า..เธอคิดบ้าไรอยู่เนี่ยผักกาด ดูน่าเกลียดจริงๆ!
"ทำได้สิ" ความปั่นป่วนนี้ ต้องใช้วิธีไหนหยุดยั้ง ฉันต้องข่มใจเอง หรือต้องหาคนมาช่วยรักษา
"ยังไง" เริ่มเบลอๆแล้วสิ แต่ปากยังคงถามต่อ เขาบอกทำได้ แล้วฉันก็อยากรู้อยากลองไปซะหมด
เหมือนกับเด็กถูกผู้ใหญ่เอาขนมมาล่อ สำหรับเสือเขาคงแค่อยากแกล้ง แต่ฉันหน่ะรู้สึกจริงๆไปแล้ว คำบอกรักก่อนหน้านี้ ดูไม่มีอธิพลเท่ากับความอุ่นวาบตรงต้นขา มันยิ่งต่างชั้นกันลิบลับ เมื่อได้ยินเสียงแหบพร่ากระซิบข้างใบหู
"เล่นป่วยหนักแบบนี้...คงต้องให้หมอเสือฉีดยา"
"อ๊ะ!" ฉันหลุดอุทาน รีบยกมือขึ้นคล้องคอ เมื่อร่างกายที่นั่งติดพื้น ถูกเสือช้อนไปวางบนเค้าเตอร์บาร์ครัว หูได้ยินเสียงข้าวของหล่น เนื่องจากคนขี้หงุดหงิด ใช้นิ้วเรียวปัดของเหล่านั้นให้พ้นทางเกะกะ
"ฉีดแล้วจะหายหรอ" พอจัดองศาที่พอเหมาะ เสือก็รีบแทรกตัวเข้ามาคั่นกลาง ราวกับกลัวว่าฉันหลุดหาย ดิ้นไปทางไหนก็ไม่ได้ ไร้ซึ่งหนทางจะให้ขยับหนี
“หายสิ” เสือก็เหลือเกิน ดูพรีเซ้นต์ แถมเสนอตัวชอบกล
“แล้วต้องฉีดกี่เข็ม” ไปว่าเขา แล้วฉันมัวทำบ้าอะไรอยู่ มานั่งเล่นเกมส์ต่อปากต่อคำกับเสืออยู่ได้
“หลายเข็มยิ่งดี” เขาเป็นยิ่งกว่าวัตถุไวไฟ อันตรายต่อหัวใจจนน่าตี เพียงแค่อยู่ใกล้ ฉันก็ไม่อาจต้านทานต่อแรงอารมณ์ได้เลย
คงต้องหยุดฝืนได้แล้วมั้ง หลอกใจตัวเองมันสนุกตรงไหน
เอาเข้าจริงๆ กลับกลายเป็นฉันที่นั่งอ่อนระทวย คำว่ายางอาย ดูจะใช้ไม่ได้ผล เคยบอกแล้วไง แค่ได้เห็นหน้าเสือ ฉันก็ควบคุมสติเอาไว้ไม่ไหว สมองคอยแต่จินตนาการณ์กับฉากวาบหวิว ยิ่งได้เห็นสายตาแรงกล้าที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ฉันก็ยิ่งใจกล้าหน้าด้าน
แล้วถ้าเกิดคนๆนั้นเป็นเสือขึ้นมาหล่ะ มันจะผิดอะไรมั้ย…
“งั้นฉีดยาให้หน่อย” คำอนุญาตของฉัน มีผลมากพอที่จะทำให้เสือเบิกตาค้าง ถ้าช้ากว่านี้อีกแค่วิเดียว ฉันอาจคิดเปลี่ยนใจขึ้นมา แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะรอคอยเวลานี้มาเนิ่นนาน พูดไม่ทันขาดคำ ร่างหนาก็รีบปลดซิบกางเกงซะแล้ว
ก่อนที่เขาจะ...
"หยุดดด!!"
ในตอนที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม กลับมีเสียงนึงร้องห้ามขึ้น ฉันกับเสือต่างชะงักค้างในท่าล่อแหลม ยังดีที่เขามีสติได้ก่อน รีบตะครุบตัวฉันไว้ให้พ้นจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของบุคคลที่สาม ที่สี่และที่ห้า ที่ต่างโผล่หัวสลอน ทำหน้ากรุ่มกริ่มออเต็มประตู
"มึงจะฉีดที่ไหนก็ได้ แต่มึงฉีดห้องครัวไม่ด๊ายย"
[อัพครบ 100%]
ฮาได้อีกกกกกกกกกกกก
อิพี่น้องนรกแตก...
อิผักสายอ่อย อิเสือสายหื่นนนนก้อพี่พี่ตัวหล่อสี่ก้าหกกกกกกกกกดดดด
ในครัวน่ะ
ให้อภัยเหอะคะ งานนี้จะนกไม่นก ถามใจผู้เขียนดู